Chapter 712 อำนาจวิเศษของหยิง.
[เทาเที่ย 饕餮 เป็นสัตว์ในตำนานจีนที่มีมาแต่โบราณอยู่ ความหมายของชื่อคือ "ความตะกละตะกลาม" เป็นอสูรกายที่แทนความตะกละ ละโมบ ไม่รู้จักเพียงพอ มีรูปร่างเป็นมังกรผสมกับหมาป่า]
"ในเมื่อเข้ามาภายในโลกเขตแดนของข้าแล้ว ก็เหมือนกับลูกไก่ในกับมือ ยังต้องการจะจากไปอยู่อย่างงั้นรึ?"
กับคำพูดของซือหม่าเขอ เป็นการเตรียมการเอาไว้แล้วว่า ตราบที่เขาสังหารราชาที่ไม่ยอมจำนนต่อเขา วาสนาราชวงศ์ทั้งหมดก็จะแตกแยก ในเวลานั้นทหารของกู่เจิ้งอี้ก็จะกระจายออกไปทุกทิศทาง สามารถรวมแผ่นดินเป็นหนึ่งได้เหมือนกัน.
เป็นแผนการตั้งแต่แรกแล้ว ขอแค่มีราชาสักคนเห็นด้วยกับเขา ที่เหลือไม่จำเป็นให้เขาต้องใส่ใจเลยแม้แต่น้อย.
เซียนสวรรค์ และสิบเซียนปฐพี แล้วยังมีโลกเขตแดนของเซียนสวรรค์ ในความคิดของซือหม่าเขอนั้น แทบจะมั่นใจว่าไม่มีใครสามารถต้านได้.
หยิงไม่ได้รู้สึกโกรธเกรี้ยวกับคำพูดของซือหม่าเขอแต่อย่างใด ทว่าจดจ้องมองไปยังซือหม่าเขออย่างใจเย็น "นอกเหนือจากโลกใบเล็กแห่งนี้ ก็ยังมีโลกใบเล็กแห่งอื่นด้วยอย่างงั้นรึ? ศาลเทพไท่ชูเวลานี้คาดไม่ถึงเลยว่าจะยื่นมือมาถึงที่นี่ หากแต่ส่งเพียงเจ้าคนเดียวมากำราบโลกใบนี้รึ?"
ได้ยินคำพูดของหยิง ซือหม่าเขอที่ขมวดคิ้วไปมา สายตาเที่เต็มไปด้วยความเย็นชา สิบเซียนปฐพีที่เขานำมา ไม่กล่าวถึง ราวกับว่ามองไม่เห็นพวกเขารึอย่างไร?
"ข้าคนเดียวไม่พอรึไง?"ซือหม่าเขอที่แค่นเสียงเย็นชา.
ท้ายที่สุดซือหม่าเขอก็รู้แล้วทำไมสถานการณ์ดูไม่ราบรื่นก่อนหน้านี้นั้น เดิมทีคนเหล่านี้ไม่คิดที่จะให้ความร่วมมือตั้งแต่แรกแล้ว เป็นเช่นนี้เองรึ? คนกลุ่มนี้บ้าคลั่งขนาดนี้เลยรึ? จงซาน ที่มีระดับราชันย์แท้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะหาญกล้ายโสโอหัง ต่อหน้าเขาที่เป็นเซียนสวรรค์ มีพลังเทียบเท่าระดับสวรรค์แท้ขั้นที่ 12 กลับไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยรึ? โลกใบเล็กแห่งนี้มันเต็มไปด้วยคนป่าเถื่อนรึอย่างไร?
หยิงที่จ้องมองไปยังซือหม่าเขอ พลางส่ายหน้าไปมา ช่างไร้สาระนัก.
"ลู่ปู่เหว่ย กลับขบวน!"หยิงกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส.
"รับด้วยเกล้า!"ลู่ปู้เหว่ยที่โค้งคำนับรับ.
"กลับอย่างงั้นรึ? น่าขัน น่าขันสิ้นดี เจ้าจะออกไป? ในโลกเขตแดนของข้า ไม่มีใครออกไปได้หากข้าไม่อนุญาต ไม่มีใครทะลวงโลกเขตแดนของข้าได้"ซือหม่าเขอที่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง.
ลู่ปู้เหว่ยที่จ้องมองซือหม่าเขอ ด้วยสายตาที่แปลกประหลาด.
"โลกเขตแดนอย่างงั้นรึ? โลกเขตแดนของเจ้าต้องใช้สนนิรันดร์ในการสนับสนุนไม่ใช่รึ?"ลู่ปู้เหว่ยสอบถามออกไป.
"แล้วอย่างไร?"ซือหม่าเขอที่แค่นเสียงเย็นชา.
"รากเทวะที่ข้าเคยเห็นนั้น เป็นป่าสนม่วงนิรันดร์ แต่ของเจ้านี้มันน่าเศร้าจริง ๆ !"ลู่ปู้เหว่ยที่ส่ายหน้าไปมาพลางทอดถอนใจ.
"ช่างน่าเศร้าอย่างงั้นรึ?"ซือหม่าเขอกล่าวเหยียดหยัน.
"เป็นรากเทวะที่น่าเศร้า เพราะว่าเพลิงและทองนั้น กำราบธาตุไม้ได้ เป็นหายนะของเจ้าแล้ว."ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"หายนะอย่างงั้นรึ? ฮ่าฮ่าฮ่า กลับปุถุชนกระจอก ๆ กลับคิดว่าจะทำลายสนนิรันดร์ของข้าได้รึ? น่าขัน น่าขันเกินไปแล้ว!"ซือหม่าเขอที่หัวเราะเหยียดหยัน.
"ก็ลองดู?"ลู่ปู้เหว่ยกล่าเยาะเย้ย.
ดวงตาของซือหม่าเขอที่เต็มไปด้วยความเย็นชาจดจ้องมองลู่ปู้เหว่ย.
ก่อนจะเห็นลู่ปู้เหว่ยที่ชี้นิ้วออกมา ปรากฏเพลิงสีทองลุกไม้ขึ้นในทันที เปลวเพลิงดังกล่าวนี้ ทำให้ซือหม่าเขอต้องดวงตาหดเกร็ง ไม่เพียงแค่ทรงพลัง อุณหภูมิของมันยังสูงมาก นี่เพลิงอะไรกัน? เพลิงที่มีพลังธาตุทองอย่างงั้นรึ?
"ขอคำชี้แนะด้วย!"ลู่ปู้เหว่ยที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม.
ลู่ปู้เหว่ยที่ปล่อยเพลิงพุ่งตรงไปยังสนนิรันดร์ที่มีขนาดหนึ่งล้านจั้งในทันที.
"ขอให้เป๋าเป่ยอออกไป!"
"วีด ตูมมมมมมมมมมม!"
ทันทีที่เต๋าจวินเซิ่งหยาร้องออกมาเสียงดัง ทันใดนั้นก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ทุกคนสัมผัสได้แค่เห็นริ้วแสงเจ็ดสีพุ่งออกไป อากาศที่บิดเบี้ยวขาดเป็นทางยาว ที่ด้านหน้าปรากฏรูขนาดใหญ่ขึ้น ทะลวงโลกเขตแดนกลายเป็นช่องขนาดใหญ่ออกไปด้านนอก.
กงเหล่ยเทียนและเต๋าจวินเซิ่งหยาที่ก้าวออกไปด้านนอก.
รูขนาดใหญ่ที่ค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมา ทว่าซือหม่าจื่อที่ปากค้าง ดวงตากลมโต เผยท่าทางไม่อยากเชื่ออย่างที่สุด.
"นี่มัน นี่มัน นี่มันนนนนนน!"ซือหม่าเขอที่เศร้าขึ้นมาในทันที.
เขาที่บอกก่อนหน้านี้ว่าไม่มีใครทะลวงผ่านโลกเขตแดนของเขาได้ ทันใดนั้นคนสองคนก็ออกไปในทันที กลายเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงอย่างหนัก.
โลกเขตแดนที่ค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมา รูที่มีดบินสังหารเซียนได้กลับมาเป็นปรกติแล้ว ซือหม่าเขอที่เปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวอย่างที่สุด.
"พวกเจ้า ไปนำตัวพวกมันกลับคืนมา!"ซือหม่าเขอที่สั่งการเซียนปฐพีสองคนในทันที.
"รับทราบ!"เซียนปฐพีสองคนที่รับคำและหายไปในทันที.
ส่วนในเวลานี้ เพลิงสีทองของลูปู้เหว่ยพุ่งไปยังสนนิรันดรเรียบร้อยแล้ว.
ก่อนหน้านี้ ซือหม่าเขอระมัดระวัง หากแต่เพราะว่าโกรธเกรี้ยว ทำให้เขาไม่คิดที่จะหลบ ทันใดนั้นสนนิรันดร์ก็ลุกไหม้กลายเป็นเพลิงสีน้ำเงินที่ไหม้ไปทั่วลามกระจายไปยังเขตแดนโลกของเขาพร้อมเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น.
เพลิงสีทองและสนนิรันดร์ทันทีที่สัมผัสกันนั้นเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวติด ๆ กัน.
"ตูมมมมมมมมมมม!"
ราวกับว่าเปลวเพลิงที่พบเชื้อเพลิง เกิดระเบิดพร้อมกับลุกไหม้จนไปถึงรากของสนนิรันดร์ เปลวเพลิงที่ขยายขนาดอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ปกคลุมสนนิรันดรล้านจั้งแล้ว เปลวเพลิงที่โถมกระหน่ำลุกโชนสว่างจ้า.
"ไม่!!!!"
ทันใดนั้นซือหม่าเขอที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีด ไม่เพียงแค่เศร้าใจแล้ว แต่เป็นความตกใจ ใบหน้าเดี๋ยวขาวเดี๋ยวแดง รากเทวะของเขาที่ระเบิดดังสนั่นได้รับความเสียหายอย่างหนัก แน่นอนว่ามันส่งผลต่อซือหม่าเขออย่างหนักเช่นกัน.
"ครืนนนนน!"
โลกเขตแดนพังทลายลงในทันที เหลือแค่เพียงสนนิรันดร์ที่เปลวเพลิงลุกไหม้.
ซือหม่าเขอที่ร้องเสียงหลง นี่มันเรื่องอะไร มันเกิดอะไรขึ้น.
สนนิรันดร์ที่ถูกดึงกลับเข้ามาในร่างทันที ร่างกายของเขาที่ขาวซีดเปลี่ยนเป็นแดงซ่าน กำลังต่อต้านเพลิงที่รุนแรงนั่นอยู่.
สนนิรันดร์ตอนนี้ยังมีเปลวเพลิงติดอยู่ ทำให้ซือหม่าเขอต้องกำราบมันก่อน.
ซือหม่าเข่อที่นั่งสมาธิลง ใบหน้าเดี๋ยวขาวเดี๋ยวแดง.
"ต้าเหริน!"เหล่าเซียนปฐพีที่ตื่นตกใจ แม้แต่เทาเทียเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น.
ซือหม่าเขอที่กำลังพบกับโศกนาฏกรรม เขาที่ดึงสนนิรันดร์กลับคืน พร้อมกับนั่งสมาธิเพื่อต้านทานเพลิงที่ลุกไหม้รากเทวะของเขา.
จงซาน ตี้เสวียนชา หยิงและลู่ปู้เหว่ยที่จ้องมองไปยังซือหม่าเขอ จากนั้นก็บินจากไป.
เซียนปฐพีทั้งแปดที่จดจ้องมองพวกเขาอย่างช่วยไม่ได้ ไม่มีทางเลือก การรักษาความปลอดภัยของต้าเหรินนั้นสำคัญที่สุด.
เทาเที่ยที่คำรามหลายครั้งใส่จงซาน เห็นได้ชัดเจนก่อนหน้านี้ มันรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับจงซานเป็นอย่างมาก ทว่าตอนนี้มันที่รู้สึกถึงความปลอดภัยของเจ้านายมัน จึงไม่กล้าไล่ตามไปเช่นกัน.
เวลานี้เหลือเพียงแค่กู่เจิ้งอี้และเฉินฉีเทียนเท่านั้น.
จงซานที่ไม่กล่าวอะไรต่อ พร้อมจากไป ซือหม่าเขอเป็นคนของศาลเทพไท่ชู มาเพื่อกำราบทุกคนอย่างงั้นรึ?
หยิงที่กลับไปยังขบวนราชรถเก้ามังกร ซึ่งมีทัพของต้าฉินนำขบวนเสด็จ.
"ออกเดินทาง!"
ขันทีชราที่ตะโกนเสียงดัง ขบวนเสด็จของหยิงก็จากไปต่อหน้าของเซียนปฐพีที่ได้แต่จับจ้อง.
หลังจากที่พวกเขาจากไปแล้วครึ่งชั่วยาม ซือหม่าเขอก็ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ แม้นว่าจะยังไม่ฟื้นฟูกลับคืนปกติได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถหยุดการลุกลามของเปลวเพลิงได้ชั่วคราว ตอนนี้เขาต้องหยุด เพื่อออกมาจัดการเรื่องต่าง ๆ .
สายตาของเขาที่กวาดตามองไปยังพื้นที่รอบ ๆ .
"พวกมัน?"ซือหม่าเขอที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.
"ต้าเหริน พวกมันไปหมดแล้ว!"เซียนปฐพีคนหนึ่งกล่าวตอบ.
"สารเลว เจ้าพวกโง่นั่น ยังไม่ตามไปอีก!"ซือหม่าเขอที่ตะโกนเสียงดัง.
"แต่ว่า ต้าเหรินท่านล่ะ?"เซียนปฐพีที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"เจ้าสามคนตามต้าฉินไป ฆ่ามันให้หมด เจ้าตามจงซานและตี้เสวียนชาไป ฆ่ามัน."ซือหม่าเขอสั่งการ.
"โฮกกก!"
เทาเที่ยที่คำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
"เจ้าต้องการกินจงซานอย่างงั้นรึ?"ซือหม่าเขอที่จ้องมองไปยังเทาเที่ย.
"โฮก!"
เทาเที่ยพยักหน้ารับ.
"เจ้านำเทาเที่ยไปด้วย สังหารจงซาน ดูแลความปลอดภัยให้กับเทาเที่ยด้วย!"ซือหม่าเขอที่กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
"ขอรับ!"
ในเวลาเดียวกัน เซียนปฐพีเจ็ดคนก็ออกไป ซึ่งเหลือดูแลความปลอดภัยของซือหม่าเขอสามคน.
กู่เจิ้งอี้ที่ยืนอยู่อีกฟาก จ้องมองไปยังซือหม่าเขอ ใบหน้าที่แสดงท่าทางแปลกประหลาดเล็กน้อย ซือหม่าเขอต้องการใช้ประโยชน์กับกู่เจิ้งอี้ในการแยกสวรรค์ ส่วนกู่เจิ้งอี้เองก็ต้องการใช้ประโยชน์ซือหม่าเขอ? เซียนสวรรค์ ใช่ว่าจะหาได้ง่าย ๆ เช่นกัน.
ที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ขบวนของหยิงที่กำลังกลับไปยังเมืองเซียนหยาง ซึ่งเดินทางผ่านมาหลายล้านลี้แล้ว.
ทันใดนั้น ก็ปรากฏร่างสองร่างมาขวางขบวนเสด็จของเขา เป็นเซียนปฐพีที่ไล่ตามมาทีหลังครึ่งชั่วยามนั่นเอง ท้ายที่สุดก็ไล่ทัน.
ขบวนของหยิงที่หยุดลง.
"ตั้งแถวประจัญบาน!"เสียงของขุนพลคนหนึ่งที่กล่าวออกมาเสียงดัง.
"วูซซซซ!"
ทหารของต้าฉินที่ชี้หอกยาวไปด้านหน้า จิตสังหารที่โถมกระหน่ำไปยังเซียนปฐพีทั้งสอง.
เซียนปฐพีที่เต็มไปด้วยความเย็นชา พร้อมกับนำกระบี่ยาวชี้ไปด้านหน้า เตรียมสังหารทั้งหมด.
ขณะที่เซียนปฐพีทั้งสองเตรียมลงมือ ม่านรถเลื่อนมังกรของหยิงก็เปิดออก หยิงที่ก้าวออกมา ลู่ปู้เหว่ยไม่ได้อยู่ที่นี่ หยิงรู้ดีถึงความแข็งแกร่งของเซียนปฐพีทั้งสอง ไม่ต้องการให้คนของเขาเป็นอะไรไป.
ทหารของเขาตอนนี้ ยังไม่มีพลังพอที่จะจัดการเซียนปฐพีทั้งสองได้.
"เจ้าต้องการจะสังหารข้าอย่างงั้นรึ?"หยิงกล่าวออกไปอย่างไม่แยแส.
"ต้าเหรินมีคำสั่ง สังหารทุกคน!"เซียนปฐพีกล่าว.
"สังหารข้าอย่างงั้นรึ?"หยิงเผยยิ้มอย่างเย็นชา.
ทันใดนั้น หยิงที่ยื่นมือขวาแบมือออกไป.
กระบี่ของเซียนปฐพีทั้งสองหยุดลงในทันที พวกเขาที่รู้สึกหวาดผวาตื่นตกใจอย่างที่สุด.
ฝ่ามือของหยิงนั้น ปรากฏแสงขนาดเล็กเป็นจุด ๆ มากมายปรากฏออกมา จุดแสงสว่างที่หมุนวนอยู่บนฝ่ามือของหยิงช้า ๆ .
นี่ไม่ใช่จุดแสง เซียนปฐพีเห็นได้อย่างชัดเจนว่า แสงสว่างก้อนเล็ก ๆ ที่โคจรรอบ ๆ นั้น คือดวงดารานับไม่ถ้วน ได้ปราฏขึ้นบนฝ่ามือของหยิง ราวกับว่าอยู่ในจักรวาลแห่งหนึ่ง มีดาวเคราะห์และดวงดารากำลังหมุนโคจรไปมาบนฝ่ามือของเขา บนฝ่ามือของเขา มีจักรวาลปรากฏขึ้นอย่างงั้นรึ?
"ทักษะเทวะ? ฝ่ามือจักรวาล!"เซียนปฐพีที่อุทานออกมาด้วยความตื่นตกใจ.
เซียนปฐพีทั้งสองที่ราวกับตระหนักได้ในทันที จ้องมองหยิงด้วยความหวาดกลัว ไร้ซึ่งลังเล พวกเขาที่หนีในทันที ทว่า หยิงได้ลงมือเรียบร้อยแล้ว มีรึที่พวกเขาจะหนีได้.
แทบจะในทันที รอบ ๆ ร่างของเซียนปฐพีทั้งสองกลายเป็นหลุมสีดำปกคลุม พวกเขาที่ถูกดึงไปยังมิติแห่งหนึ่ง เป็นมิติที่มีดวงดารามากมายที่กำลังโคจรไปรอบ ๆ เป็นจักรวาลแห่งหนึ่งในโลกใบใหญ่.
เซียนปฐพีทั้งสองรู้ดี พวกเขาไม่ได้อยู่ในท้องฟ้าแต่อย่างใด ทว่าอยู่ในฝ่ามือของหยิง ราวกับว่าพลังที่มากมายมหาศาลกำลังบดขยี้เซียนปฐพีทั้งสองไม่หยุด
เซียนปฐพีทั้งสองไม่มีแรงที่จะต่อต้านแม้แต่น้อย ได้แต่หวาดผวาตัวสั่นขยับตัวไม่ได้ พลังอำนาจแห่งดวงดาราที่กำลังกดทับพวกเขาอย่างหนักหน่วง ท้ายที่สุดก็แตกสลายกลายเป็นผุยผงไปในทันที.
จักรวาลบนฝ่ามือ ดวงดารามากมายที่โคจรรอบ ๆ ทันใดนั้นก็หายไป หยิงที่ชักฝ่ามือกลับพร้อมกับก้าวกลับเข้าไปในรถเลื่อนมังกร.
"ออกเดินทางต่อ!"