Chapter 709 โลกแห่งความแปลกประหลาด.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังจงซาน เพียงแค่ม้านั่งหินอย่างงั้นรึ?.
กับการดูแคลนของซือหม่าเขอที่มองจงซาน ระดับราชันย์แท้ เพียงแค่ม้านั่งหินก็นับว่าให้เกียรติแล้ว กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทุกคนเองก็เช่นกัน ตราบเท่าที่ทุกคนนั่งลง ก็หมายถึงพวกเขายอมรับสถานะของตัวเองด้วยเช่นกัน ดูเหมือนเรื่องนี้เป็นการยอมรับว่าตัวเองยินดีที่จะก้าวตามอีกฝ่ายด้วย.
กงเหล่ยเทียน กู่เจิ้งอี้และหยิง สามเซิ่งซ่างที่จ้องมองจงซาน พวกเขาไม่ได้นั่งลง พวกเขาทุกคนย่อมรับรู้เจตนาของซือหม่าเขอได้ และพวกเขาทั้งสามก็ต้องการรู้ด้วยว่ากับการดูแคลนจงซานในครานี้ จงซานจะกระทำการอย่างไร.
จงซานที่จ้องมองไปยังม้านั่งหิน ที่มุมปากเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ราวกับว่าเซียนกำลังดูแคลนเขาอย่างหนักเลยไม่ใช่รึ?
ม้านั่งหินอย่างงั้นรึ? เพื่อให้จงซานนั่งรึ? แม้นว่าบุรุษที่แท้จริงจะสามารถปรับตัวได้ตามสถานะการ ทว่าเขาก็ไม่จำเป็นต้องยอมรับการตัดสินจากคนอื่น ไม่จำเป็นต้องโค้งให้กับคนอื่นแน่นอน.
เซียนรึ? เซียนแล้วอย่างไร? ในภพหยินนั้น แม้แต่เซียนยังเป็นข้าราชบริพารของข้า.
สายตาของจงซานที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
"เชิญ!"
ซือหม่าเขอที่เอ่ยออกมาอีกครั้งต่อจงซาน ครานี้เขาได้ใช้อำนาจพลังกดดัน กดทับโถมกระหน่ำไปยังร่างของจงซานในทันที.
แรงกดดันวิญญาณมหาศาลที่โถมกระหน่ำเข้ามา ไม่เพียงแค่ดูแคลนทางจิตใจ เขายังปล่อยแรงกดดันวิญญาณที่แข็งแกร่งกดข่มจงซาน ราวกับว่าต้องการให้จงซานคุกเข่าให้กับเขา.
ในเวลาเดียวกันนั้น เป็นตี้เสวียนชาที่ปัดเป่าแรงกดดันเหล่านั้นให้หายไปในทันที พลังกดดันที่หายไป จงซานที่ราวกับว่าไม่สนใจที่จะมองม้านั่งหินเลยแม้แต่น้อย.
ซือหม่าเขอที่ขมวดคิ้วไปมา.
จดจ้องมองตี้เสวียนชาด้วยท่าทางจริงจัง.
ในเวลาเดียวกันนั้น ทุกคนที่เห็นจงซานที่ก้าวออกไปก่อนที่จะยกเท้าพร้อมกับเตะไปยังม้านั่งหินอย่างแรง.
"ตูมมมมมมม!"ม้านั่งศิลาที่ลอยออกไปอย่างคาดไม่ถึง.
ทุกคนที่จับจ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน แววตาที่แสดงท่าทางงงงวย ซือหม่าเขอที่ไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย ระดับราชันย์กระจอก ๆ กล้าเข้ามาในเขตแดนของเขา แล้วแสดงท่าทางหยาบคายในโลกเขตแดนของเขาอย่างงั้นรึ?
สามเซิ่งซ่างที่ขมวดคิ้วไปมา แสดงท่าทางประหลาดใจต่อจงซานเป็นอย่างมาก ถึงแม้นว่าจะไม่นั่ง ก็ไม่ควรที่จะเตะมันแต่อย่างใด.
สิบเซียนปฐพีที่จับจ้องสายตาแผ่จิตสังหารออกมาในทันที.
จงซานที่เตะม้านั่งศิลาออกไป จากนั้นก็สะบัดมือ นำบัลลังก์เก้ามังกรของเขาออกมาวางบนพื้น เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.
"ตูมมมมมมมม!"
บัลลังก์เก้ามังกรที่หนักหน่วงหล่นลงบนพื้นราวกับสายฟ้าฟาด นี่คือบัลลังก์ของราชา จงซานที่สะบัดชุดราชวงศ์เสียงดังพรึบ ก่อนที่จะก้าวลงไปนั่ง.
ซือหม่าเขอที่ตื่นตกใจ สิ่งนี้คืออะไรกัน? สามารถนำบัลลังก์ของตัวเองออกมาในโลกของเขาได้ด้วยรึ?
"ฮ่าฮ่าอ่าฮ่า............!"
หยิงที่หัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะยกเท้า เตะไปยังบัลลังก์ด้านหน้าเช่นกัน.
ก่อนที่จะสะบัดมือออกไป นำบัลลังก์เซิ่งซ่าง บัลลังก์มังกรขนาดใหญ่ออกมา.
"ตูมมมมมม!"
บัลลังก์มังกรที่ร่วงหล่นลงพื้น หยิงที่สะบัดชุดราชวงศ์ ก้าวขึ้นไปนั่งเช่นกัน.
อีกคนแล้วรึ? ดวงตาของซือหม่าเขอที่ส่ายไปมา.
ไม่ใช่แค่สองคน เซิ่งซ่างที่เหลือ กู่เจิ้งอี้และกงเหล่ยเทียนเช่นกัน ทุก ๆ คนที่นำบัลลังก์มังกรออกมา พร้อมกับก้าวขึ้นไปนั่ง.
โลกใบเล็ก คาดไม่ถึงเลยว่าจะแสดงท่าทางอหังการเช่นนี้ออกมา ในอนาคตข้างหน้าเมื่อก้าวไปโลกใบใหญ่ พวกเขาย่อมไม่มีทางที่จะทำเช่นนี้ออกมาได้แน่.
เมื่อราชาทั้งสี่ได้นั่งแล้ว ทุกคนต่างก็จดจ้องมองมายังซือหม่าเขอ.
ซือหม่าเขอที่จำเป็นต้องก้าวไปตามแผนการแรก.
สายตาของซือหมาจื่อที่ขุ่นเคืองอย่างหนัก แววตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังต่อจงซาน.
และความเกลียดชังนี้ ราวกับว่ามันส่งผลไปถึงเทาเทียที่กำลังกินอาหารอยู่ด้วยเช่นกัน.
เทาเทียที่กำลังกินอาหารอย่างตะกละตะกลามทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงความโกรธของเจ้านาย มันที่ตอบสนองในทันที.
สายตาของซือหม่าเขอที่จ้องมองจงซาน สายตาของมันที่จ้องมองไปยังจงซาน ดวงตาทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที ร่างกายที่สั่นสะท้านกระโจนออกมาทันที.
"โฮกกกกก!"
เทาเทียที่คำรามเสียงดัง พุ่งกระโจนเข้าหาจงซานในทันที ปากของมันที่อ้ากว้างราวกับว่าต้องการจะกลืนจงซานไปทั้งตัว แรงกดดันที่หนักหน่วงรุนแรง ยากที่จะต้านทาน.
ซือหม่าเขอที่มองเห็นเช่นกัน หากแต่ไม่คิดที่จะหยุดปล่อยให้เทาเทียพุ่งเข้าหาจงซาน ปากของมันที่อ้ากว้างราวกับจะกลืนกินทุกอย่าง.
ขณะที่ตี้เสวี่ยนชากำลังจะลงมือ จงซานที่ยกมือขึ้นห้ามตี้เสวียนชาเอาไว้ ตี้เสวียนชาที่พยักหน้ารับ.
ปากใหญ่ ๆ ของมันที่อ้ากว้าง พุ่งเข้าหาจงซาน ที่ด้านหน้าอีกนิดเดียวก็จะกลืนจงซานไปทั้งบัลลังก์มังกรแล้ว.
"ฟริบ ๆ !"
ที่บัลลังก์มังกร เสียงของแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบที่ดังขึ้นนั้นทันที เสียงของมันที่ชัดแจ้ง และเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอยู่ด้วย.
หลังจากเสียงของมันที่ดังขึ้น ทำไมไม่รู้เทาเทียที่หยุดกึก ร่างกายของมันที่สั่นสะท้าน ปากของมันที่ปิดลงพร้อมกับถอยกรูดห่างออกไปอย่างรวดเร็ว.
เห็นท่าทางตื่นตะหนกตกใจของเทาเทีย อย่างคาดไม่ถึง ความตื่นตกใจกับเสียงที่แปลกประหลาดน่าหวั่นเกรงได้ปรากฏขึ้น.
ร่างของมันที่สั่นสะท้านถอยครืน ๆ ๆ ร่างสีเขียวที่สั่นไม่หยุด ทำให้ใบหน้าของซือหม่าเขอเปลี่ยนไป รู้สึกไม่ดีขึ้นมาเช่นกัน.
เมื่อกี้นี้เกิดอะไรขึ้นกัน? อะไรที่ทำให้เทาเทียหวาดกลัวได้กัน?
ซือหม่าเขอที่ไม่เข้าใจแม้แต่น้อย เหล่าเซียนปฐพีก็เช่นกัน ส่วนเฉินฉีเทียนและเต๋าจวินเซิ่งหยานั้นเข้าใจดี เสียงนี้ อสุรกายตนนั้นอย่างงั้นรึ? อสุรกายที่กินไม้เท้าทองม่วงลายมังกรของเขา? และยังกินมีดบินสังหารเซียน? ไม่ผิดแน่ เสียงนี้.
แต่ว่า อสุรกายตนนี้มันซ่อนอยู่ที่ใหนกัน?
เทาเทียที่ก่อนหน้านี้รู้สึกหวาดกลัวอย่างไม่มีเหตุผล มันที่ถอยห่างออกมา ความหวาดกลัวของมัน ไม่ได้เกิดจากการพบกับอสูรร้ายในความทรงจำ หากแต่เป็นความหวาดกลัวที่ฝังอยู่ในดวงวิญญาณ ราวกับว่าได้พบกับเทพอสูรที่มีระดับเหนือกว่า เป็นความกลัวตามสัญชาติญาณ?
"โฮกกกกก!"
เทาเทียที่คำรามใส่จงซานอีกครั้ง.
"ซือหม่าเขอ นี่คือการต้อนรับของเจ้าอย่างงั้นรึ?"หยิงที่เอ่ยปากอย่างไม่แยแส.
ใบหน้าของซือหม่าเขอที่เปลี่ยนเป็นน่าเกลียด จ้องมองไปยังหยิง และจ้องมองไปยังจงซาน.
"ไปกินศิลาวิญญาณตรงนั้นก่อน ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาของเจ้า!"ซือหม่าเขอที่กล่าวปลอบเทาเทีย.
เทาเทียที่จ้องมองจงซานด้วยสายตาดุร้าย ไม่ต้องการกลับไปยังที่เดิมนัก.
กับเรื่องราวที่คาดไม่ถึงนี้ ทำให้แผนการของซือหม่าเขอผิดแผนไปอย่างคาดไม่ถึง นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าโลกใบเล็กนี้แปลกประหลาดอย่างคาดไม่ถึง เขาที่เก็บสะกดใจเอาไว้ ความคับข้องใจนี้ยังไม่สามารถเผยออกมาได้.
"เซียนซือหม่า?"เฉินฉีเทียนที่เอ่ยออกมาในทันที.
ซือหม่าเขอที่หันหน้าจับจ้องมองไปยังเฉินฉีเทียน แววตาที่ซับซ้อนเต็มไปด้วยความสงสัย เกี่ยวกับเฉินฉีเทียนนั้น ซือหม่าเขอยังดูงงงัน เพราะว่าเขามีหน้าตาคล้ายกับคนผู้หนึ่ง.
"หืม?"ซือหม่าเขอที่แสดงท่าทางสงสัย.
"จากท่าทางก่อนหน้านี้ของท่าน ข้าได้ยินมาว่าข้าเหมือนกับคนในโลกใบใหญ่ ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครอย่างงั้นรึ?"เฉินฉีเทียนที่ขมวดคิ้วสอบถามออกไป.
ใครอย่างงั้นรึ? ซือหม่าเขอที่ขมวดคิ้วไปมา เขาที่จ้องมองไปยังเฉินฉีเทียน ไม่ได้ตั้งใจจะปิดบัง.
"ครั้งหนึ่ง เผ่าวานรมีซุนต้าเซิ่ง ช่างน่าเสียดายที่เขาร่วงหล่นจากสวรรค์ เขาได้ทิ้งผู้เยาว์เผ่าวานรไว้ 18 คน ทุกคนที่เปลี่ยนสกุลเป็นซุน หนึ่งใน 18 คนมีซุนเฉิน คนผู้นี้เป็นวานรอสูร ช่างน่าเสียดายเช่นกันเขาถูกเซียนกลุ่มหนึ่งสังหารไปที่โลกใบใหญ่ ที่หุบเขาหลิวจั้ง ในเวลานั้นข้าก็ได้เห็นเขาเช่นกัน ทำให้นึกถึงเหตการณ์นั้นขึ้นมา ใบหน้าของเขานั้นเหมือนกับเจ้าเป็นอย่างมาก!"ซือหม่าเขอที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ซุนเฉิน?"เฉินฉีเทียนที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"เอาล่ะ เริ่มกับประชุมสภาสวรรค์นี้ซักที!"หยิงที่กล่าวอย่างไม่แยแส.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังซือหม่าเขอ.
ซือหม่าเขอที่จ้องมองหยิง ทำไมไม่รู้ ซือหม่าเขอไม่สามารถเข้าใจหยิงได้เลย แม้แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็ไม่สามารถประเมินได้เช่นกัน.
ฝั่งกงเหล่ยเทียนเช่นกัน ซือหม่าเขอที่ไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ราวกับว่ามีอะไรที่มืดครึ้มปกคลุมอยู่ ส่วนเต๋าจวินเซิ่งหยา เขาไม่สามารถมองเห็นพลังฝึกตนได้เลยสักนิด.
ซือหม่าเขอที่รู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก โลกใบเล็กแห่งนี้ ลึกล้ำขนาดนี้เลยรึ? คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีอะไรซ่อนอยู่ แม้แต่เซียนสวรรค์เช่นเขาจะมองไม่ออกเลยรึ?
ส่วนจงซาน ซือหม่าเขอบอกได้ว่า เขามีระดับราชันย์แท้ขั้นที่เจ็ด ส่วนตี้เสวียนชาที่อยู่ข้าง ๆ เขา ไม่สามารถมองเห็นพลังฝึกตนได้อย่างคาดไม่ถึง โลกใบเล็กแห่งนี้จะแปลกเกินไปแล้ว? แปลกขนาดนี้เลยรึ?
ส่วนฝั่งกู่เจิ้งอี้เช่นกัน ใบหน้าของซือหม่าเขอที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน ยิ่งใบหน้าท่าทางของเฉินฉีเทียนเหมือนกับคนที่เขาเคยเห็น ยิ่งทำให้ความรู้สึกของเขาซับซ้อนอิรุงตุงนังขึ้นมา.
โลกใบเล็กที่แปลกประหลาด โลกใบเล็กที่แปลกเกินไปแล้ว!
"เอาล่ะ พวกเราเริ่มได้!"ซือหม่าเขอที่สูดหายใจลึก.
สายตาของทุกคนที่จดจ้องมองไปยังซือหม่าเขอ.
"ประชุมสภาสวรรค์นั้น ที่เรียกพวกเจ้ามา แน่นอนจะพูดคุยเกี่ยวกับความเป็นไปของโลกใบนี้ พูดคุยว่าโลกใบเล็กนี้เป็นของใคร."ซือหม่าเขอที่กล่าวออกมา.
"เป็นของใครอย่างงั้นรึ? เจ้าต้องการแบ่งโลกใบนี้กับพวกเราอย่างงั้นรึ?"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวหยัน.
"ไม่ ไม่มีทางแบ่ง!"ซือหม่าเขอที่เผยยิ้มที่ชั่วร้ายออกมา.
ไม่แบ่ง? แล้วคิดจะทำอะไร? สายตาของทุกคนที่จ้องมองซือหม่าเขออย่างเฉยเมย.
"เมื่อร้อยปีก่อนหน้านี้ ในโลกใบใหญ่ ศาลเทพไท่ชูของข้าอยู่ไม่ไกลนัก อากาศรอบ ๆ ที่สั่นไหวไปมา ราวกับว่าโลกใบเล็กกำลังล่มสลาย ทุกคนน่าจะรู้ว่ามันหมายความว่าอย่างไร? ในเวลานั้น ข้าได้ทำการรวบรวมวัตถุดิบทั่วหล้าตลอดปี ทุกคนควรจะเข้าใจอย่างชัดแจ้ง ในทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ครั้งหนึ่งกู่เฉิงตงได้ทำการแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี ช่างน่าเศร้าที่มันไม่สำเร็จ ถูกต้องใช่ใหม่?"ซือหม่าเขอที่กล่าวสอบถามออกมาเล็กน้อย.
"เจ้าจะบอกว่าขณะที่กู่เฉิงตงแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีนั้น ส่งผลต่อโลกใบใหญ่ด้วยอย่างงั้นรึ?"หยิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ฟ้าดินแบ่งแยก รุ้งหมื่นสายปรากฏ เสียงของสวรรค์คร่ำครวญ อากาศบิดเบี้ยว เจ้าคิดว่ามันไม่ส่งผลต่อโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ?"ซือหม่าเขอที่กล่าวบอก.
หยิงพยักหน้า เคาะไปมาที่พนักมังกร ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
"เจ้าต้องการอะไร?"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวสอบถามออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"การจะปรากฏขึ้นของศาลเทพนั้น จะต้องเป็นไปตามเจตจำนงของสวรรค์ด้วย กู่เฉิงตงทำล้มเหลว ศาลเทพที่เขาต้องการนั้นไม่สมบูรณ์ หากแต่โลกใบเล็กแห่งนี้ก็มีโอกาสที่จะทำสำเร็จได้ หากว่ามีใครบางคนแยกสวรรค์อีกครั้ง ก็จะได้ยกระดับเป็นศาลเทพได้ กลายเป็นเซิ่งหวังราชวงศ์ศาลเทพได้."ซือหม่าเขอที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"หืม? เจ้าคิดที่จะ......?"กงเหล่ยเทียนที่จ้องมองอย่างเฉยเมยไปยังซือหม่าเขอได้.
ทุกคนพอจะคาดเดาความหมายของซือหม่าเขอได้ ราชาทั้งสี่ที่จ้องมองไปยังซือหม่าเขอพร้อม ๆ กัน.
"ทำการแยกสวรรค์อีกครั้ง!"ซือหม่าเขอที่กล่าวออกมาอย่างหนักแน่น.