ตอนที่แล้วChapter 707 ต้นสนนิรันดร์
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 709 โลกแห่งความแปลกประหลาด.

Chapter 708 รวมกลุ่ม.


กงเหล่ยเทียนที่หวาดผวา จ้องมองอย่างงงงวยกับตราหลากสีของเขา.

เกิดรอยร้าวอย่างงั้นรึ? แววตาของกงเหล่ยเทียนที่ไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย จะเป็นไปได้อย่างไร ตัวเขาที่มีตราราชวงศ์สวรรค์ นี่คือตราราชวงศ์สวรรค์!

สายตาที่ดุร้ายของกงเหล่ยเทียนที่จ้องมองมายังจงซาน.

จงซานที่เก็บตราลัญจกรครรลองสวรรค์ ใบหน้าที่แดงซ่าน ก็ค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมา.

สายตาของกงเหล่ยเทียนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ และไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น "เจ้านับว่าร้ายกาจ วัตถุดิบที่สร้างขึ้นมาเช่นเดียวกันกับตราราชวงศ์สวรรค์อย่างงั้นรึ?"

เห็นจงซานที่ส่ายหน้าไปมา ทำให้กงเหล่ยเทียนโกรธเกรี้ยวแทบบ้าคลั่ง.

"รวม........!"กงเหล่ยเทียนขณะที่กำลังจะตะโกนออกไป.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ดึงกงเหล่ยเทียนเอาไว้.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ดึงร่างของกงเหล่ยเทียนเอาไว้ จากนั้นก็จ้องมองจงซานด้วยท่าทางหวาดหวั่น หมายความว่าอย่างไรกัน? อารมณ์ของเขาถูกจงซานควบคุมอย่างงั้นรึ?

คิดถึงอารมณ์ของตัวเขาถูกควบคุม หัวใจของเขาที่เปลี่ยนเป็นเย็นเยือบ จ้องมองเต๋าจวินเซิ่งหยาด้วยความขอบคุณ ก่อนที่จะหันหน้าไปมองจงซานด้วยสายตาไม่แยแส และมีความเย็นชาแฝงเอาไว้ด้วย.

จงซานที่แสดงท่าทางเคร่งขรึม "ควบคุมตัวเองได้!"

จากนั้น จงซานที่ไม่สนใจกงเหล่ยเทียนต่อไป ราวกับว่ากับว่ากำลังดูแคลนเขาอยู่.

กงเหล่ยเทียนเวลานี้ที่กำลังโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก อารมณ์ที่ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง ทว่ากงเหล่ยเทียนก็ยังยับยั้งมันเอาไว้ได้ ระงับความโกรธด้วยเกรงว่าจะเป็นความสะเพล่าประมาทไป.

เต๋าจวินเซิ่งหยาที่จ้องมองด้วยสายตาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาที่จ้องมองจงซาน ภายในใจของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่กำลังเต้นไปมาเป็นเสียงกลอง.

กล่าวตามตรงล่ะก็ แดนเทวะของเขานับว่ามีประวัติความเป็นมายาวนาน ส่วนราชวงศ์สวรรค์ แม้นว่าจะด้อยกว่าแดนเทวะด้านประวัติความเป็นมาก แต่ก็ถือได้ว่าราชวงศ์สวรรค์ก็มีศักดิ์เทียบเท่าแดนเทวะ คนที่มีความสามารถที่จะก่อตั้งราชวงศ์สวรรค์ นับว่ามีอำนาจวิถีราชาที่แท้จริง ทว่าในเวลานี้จงซานที่ก่อตั้งราชวงศ์ราชันย์ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นมีวิถีราชาแท้แล้ว.

เมื่อเขายกระดับราชวงศ์สวรรค์ จะไม่ทรงพลังยิ่งกว่านี้รึ?

เมื่อคิดเช่นนี้ ภายในใจของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เต้นไปมาแรงขึ้นและก็แรงขึ้น.

คนทั้งสองกลุ่มที่เปลี่ยนเป็นเงียบในทันที ไม่มีใครยั่วยุคนอื่นต่อไปอีก.

ในเวลาเดียวกัน ที่ไกลออกไปนั้นก็ปรากฏคนสองคนเดินทางมาด้วยเช่นกัน.

เห็นคนทั้งสอง จงซาน ตี้เสวียนชา กงเหล่ยเทียนและเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาในทันที.

คนที่กำลังมาจงซานรู้จักดี ราชวงศ์สวรรค์ต้าหยง กู่เจิ้งอี้ อีกหนึ่งคน จือจุ้นเผ่าวานร เฉินฉีเทียน.

แดนเทพอเวจีที่ไล่ล่าสังหารเหล่าวานรทั่วหล้า ศิษย์ของพวกเขาได้กระจายไปทั่วทิศ หลังจากนั้นนับสิบปี เหล่าวานรทั่วหล้าลดลงเป็นอย่างมาก เกือบที่จะถูกกำจัดไปจนสิ้น ทว่าเฉินฉีเทียนกลับยังรอดอยู่ แต่ที่คาดไม่ถึงนั้น เฉินฉีเทียนกับมารวมตัวกับกู่เจิ้งอี้.

"เฉินฉีเทียน?"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่หรี่ตาจ้องมอง.

"เฉินฉีเทียน?"ตี้เสวียนชาที่จดจ้องมองเฉินฉีเทียนด้วยความสงสัยเช่นกัน.

เฉินฉีเทียนที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย จดจ้องมองทุกคน.

"คิดว่าข้าเป็นใครกัน?"เฉินฉีเทียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

ในเวลานี้ เฉินฉีเทียนที่ไม่ได้กระวนกระวายแต่อย่างใด ทว่ากลับดูสงบเป็นอย่างมาก.

จงซานย่อมไม่เข้าใจชีวิตก่อนของเฉินฉีเทียน กับการสังหารเจี้ยนหงก่อนหน้านี้ ได้ไปกระตุ้นวิญญาณอสูร ของชาติที่แล้วให้ตื่นขึ้นมา ในเวลานั้นทั้งพลังฝึกตนและความทรงจำของเขาก็ได้ฟื้นคืนกลับมาหมดแล้วอย่างงั้นรึ?

"ตี้เสวียนชา? ไม่ได้เจอกันนานทีเดียว!"เฉินฉีเทียนกล่าว.

ตี้เสวียนชาพยักหน้า เห็นชัดเจนว่าชาติก่อนของเฉินฉีเทียนพวกเขารู้จักกัน.

เฉินฉีเทียนที่จ้องมองไปยังเต๋าจวินเซิ่งหยา "เต๋าจวินเซิ่งหยา? เจ้ายังมีความคิดต้องการวิชาบำเพ็ญของข้าอยู่อย่างงั้นรึ?"

"ในเมื่อเจ้าฟื้นคืนกลับมาเป็นเช่นอดีต แน่นอนว่าข้าย่อมไม่มีความคิดนั้นอีกแล้ว!"เต๋าจวินเซิ่งหยาที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งคู่เป็นศัตรูคู่แค้นกัน.

"เซิ่งซ่างต้าสุ่ย?กงเหล่ยเทียน?"เฉินฉีเทียนเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย รอยยิ้มที่แปลกประหลาดแฝงอยู่ด้านใน.

กงเหล่ยเทียนพยักหน้ารับ หากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.

ท้ายที่สุด เฉินฉีเทียนก็จ้องมองมายังจงซาน สายตาที่เย็นชาและกล่าวออกมาว่า "จงซาน?"

กับควาทรงจำของเฉินฉีเทียนที่ฟื้นคืนมา ความทรงจำเกี่ยวกับจงซานนับเป็นศัตรูตัวฉกาจ การพบกับจงซานแต่ละครั้งทำให้เขาโชคร้ายตลอด ขณะที่ความทรงจำชาติที่แล้วฟื้นคืน ไม้เท้าทองม่วงลายมังกร ถูกอสุรกายของจงซานกินไปครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงครึ่งเดียว เรื่องนี้ทำให้เขาขุ่นเคืองเป็นอย่างมาก.

แน่นอนว่า ความรู้สึกเคืองแค้นนี้ของเฉินฉีเทียน ไม่ต่างจากเต๋าจวินเซิ่งหยาสักเท่าไหร่ ด้วยมีดบีนสังหารเซียนของเขาเองก็ถูกอสุรกายตนนั้นกินไปอย่างคาดไม่ถึง เรื่องนี้ทำให้เต๋าจวินเซิ่งหยาแค้นแทบกระอักโลหิตเช่นกัน.

เกี่ยวกับเฉินฉีเทียน จงซานเพียงพยักหน้ารับเท่านั้น ไม่ต้องการจะพูดคุยอะไรกับเขา ไม่มีอะไรให้เขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว.

"จงซาน เฉียนโหยวสบายดีอย่างงั้นรึ?"กู่เจิ้งอี้สอบถามออกมาในทันที.

"กู่เฉียนโหยวเป็นภรรยาข้า จะดีหรือไม่ดีนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าต้องเป็นกังวล!"จงซานที่กล่าวปัดกู่เจิ้งอี้ไปในทันที.

กู่เจิ้งอี้จับจ้องมองจงซาน เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"ช่างน่าเศร้า น่าเสียดายจริง ๆ !"

ไม่มีใครรู้ว่ากู่เจิ้งอี้เสียดายอะไร ทุกคนตอนนี้ไม่พูดอะไรกันอีกแล้ว ทว่าต่างก็จดจ้องมองไปยัง"โลกเขตแดน"ที่อยู่ด้านหน้า.

เข้าไป หรือไม่เข้าไป?

"ไป!"กู่เจิ้งอี้ที่กล่าวต่อเฉินฉีเทียน.

กู่เจิ้งอี้ที่ก้าวเข้าไปด้วยความมั่นใจ.

จงซานที่จับจ้องมองกู่เจิ้งอี้ที่ก้าวเข้าไปด้านใน ดวงตาหรี่เล็ก กับความนึกคิดของกู่เจิ้งอี้ ได้ซ่อนอะไรที่ลึกล้ำเอาไว้จริง ๆ !

"ไป!"จงซานที่กล่าวต่อตี้เสวียนชา.

อีกฝั่งหนึ่ง เต๋าจวินเซิ่งหยาและกงเหล่ยเทียนที่จดจ้องมองกันและกันอยู่ครู่หนึ่ง.

กงเจิ้งอี้ที่ก้าวเข้าไปด้านใน กงเหล่ยเทียนและจงซานเองก็เช่นกัน ชุดราชวงศ์ของพวกเขาที่มีพลังลึกล้ำปรากฏคลุมร่างกายเอาไว้.

กู่เจิ้งอี้ ที่มีชุดเก้ามังกรสีม่วง บนศีรษะมงกุฎสีม่วงก็ปรากฏพลังแผ่ออกมาเช่นกัน เฉินฉีเทียนที่ก้าวตามไป.

กงเหล่ยเทียนทีมีชุดเก้ามังกรทอง ที่บนศีรษะมีประกายแสงสีทองปกคลุมทั่วร่าง เต๋าจวินเซิ่งหยาที่ก้าวตามไป.

จงซาน ชุดเก้ามังกรสีขาว ที่บนศีรษะมงกุฎหยกที่มีแสงสีขาวอาบไปทั่วร่าง ตี้เสวียนชาก้าวตาม.

นี่เป็นการประชุมสภาสวรรค์ แน่นอนว่าย่อมต้องมีการต้อนรับเป็นธรรมดา.

พวกเขาที่ก้าวเข้าไปด้านใน.

“...” “.....”

ทันทีที่เข้ามาก็ได้ยินเสียงเคี้ยวเสียงดังกรุบ ๆ  สายตาของทุกคนที่จับจ้องมองออกไปยังต้นสนนิรันดร ซึ่งพื้นที่รอบ ๆ มีหมอกสีเขียวปกคลุม มีกองศิลาวิญญาณที่ใหญ่โต พร้อมกับอสุรกายที่น่าเกลียด กำลังกินศิลาวิญญาณอยู่.

"เทาเทีย!"ตี้เสวียนชาที่ส่งข้อความไปยังจงซาน จงซานที่พยักหน้ารับ.

ใต้ต้นสนนิรันดร์นั้น มีชายในชุดสีแดงชาด นั่งสมาธิอยู่ ดวงตาปิดแน่น ที่ด้านข้างมีผู้ใต้บังคับบัญชาสิบคน กำลังยืนอยู่อย่างเงียบ ๆ ไม่ส่งเสียงอะไรออกมา.

จงซานที่จับจ้องมองไปยังชายชุดสีแดงชาด ไม่ยากที่จะคาดเดา ชายคนนี้ก็คือ ซือหม่าเขอ และอีกสิบคนก็คือเซียนปฐพีนั่นเอง.

จงซานและคนอื่น ๆ ที่เดินทางมาถึงแล้ว ซือหม่าเขอก็ยังไม่ขยับ ราวกับว่ารอให้ทุกคนมาพร้อมกันแล้ว ถึงยินดีที่จะลืมตาขึ้น.

กับความอหังการของซือหม่าเขอ สายตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.

"แขกคนสุดท้าย ดูเหมือนจะมาแล้ว!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.

จงซานที่เงยหน้าขึ้นมาอง แม้นว่าโลกเขตแดนจะเต็มไปด้วยหมอกสีเขียว ด้านในด้านนอกที่ตัดขาดออกจากกัน หากแต่ภายในนั้นสามารถมองเห็นภาพด้านนอกได้.

ที่ไกลออกไปนั้น เห็นขบวนเสด็จขนาดใหญ่ เป็นขบวนเสด็จของต้าฉิน มังกรทมิฬพันจั้งเก้าตนที่ลากราชรถ มังกรทมิฬแต่ละตนนี้มีระฆังขนาดใหญ่ห้อยคออยู่ ทุก ๆ ครั้งที่เคลื่อนที่จะได้ยินเสียงระฆัง ด้านข้างราชรถมีเหล่าสาวใช้และขันทีเป็นจำนวนมาก และยังมีลู่ปู้เหว่ยที่ยืนอยู่ไม่ไกลออกไป.

ต้าฉินมาถึงแล้วอย่างงั้นรึ?

เห็นภาพที่เกิดขึ้น จงซาน กงเหล่ยเทียนและกู่เจิ้งอี้ที่ขมวดคิ้วไปมา หยิงต้องการทำอะไร?

พวกเขาที่มากัน เพียงกลุ่มล่ะ 2 คน เพื่อที่จะได้ง่ายในการถอนกำลัง หากว่าไม่เป็นตามที่พวกเขาคิดก็จะถอยกลับไปโดยง่าย หากแต่หยิงกลับนำคนมากมาย? ดูไม่ต่างกับการโอ้อวดหรือไม่?

"หยุดขบวน!"

ขันทีที่ตะโกนเสียงดัง ขบวนของต้าฉินที่หยุดลง มังกรเก้าตนที่หยุดลง ระฆังที่ห้อยคอมังกรที่หยุดสั่น ลู่ปู้เหว่ยที่ยืนอยู่ด้านข้าง.

สาวใช้สองคนที่เข้าไปเปิดม่านราชรถมังกร หยิงในชุดราชวงศ์สีดำ ก้าวออกมาจากรถเลื่อนมังกรช้า ๆ .

"ฝ่าบาท มาถึงแล้ว!"ลู่ปู้เหว่ยที่โคงคำนับ.

"อืม!"หยิงพยักหน้า.

หยิงที่ก้าวออกมา ลู่ปู้เหว่ยที่ก้าวตาม.

"ประจำการอยู่ที่นี่!"ลู่ปู้เหว่ยที่เอ่ยปากออกมา.

"รับทราบ!"เหล่าทหารทั้งหมดที่กล่าวรับคำเสียงดัง.

หยิงและลู่ปู้เหว่ย ที่สั่งการขบวนเสด็จอยู่ด้านนอก.

เห็นภาพดังกล่าวแล้ว ไม่เพียงแค่จงซานและคนอื่น ๆ ที่รู้สึกแปลกประหลาด สิบเซียนปฐพีเองก็คิดว่าแปลกประหลาดเช่นกัน.

ทุก ๆ คนที่เห็นหยิงก้าวเข้ามาช้า ๆ .

ทุกคนที่พยักหน้าให้หยิง และหยิงก็พยักหน้าให้กับทุกคนเช่นกัน.

ทุกคนต่างก็มาพร้อมกันแล้ว ต่างก็จดจ้องมองไปยังซื่อหม่าเข่อที่นั่งอยู่ใต้ต้นสนนิรันดร์.

"การประชุมสภาสวรรค์อย่างงั้นรึ? นี่รึที่เรียกการประชุมสภาสวรรค์?"หยิงที่กล่าวอย่างไม่แยแส.

กับคำกล่าวของหยิง ทำให้ซือหม่าเขอลืมตาขึ้นช้า ๆ  จดจ้องมองไปยังหยิง สายตาที่ประสานกัน ซือหม่าเขอที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็จดจ้องมองไปยังคนที่เหลือ.

สายตาของเขาที่กวาดมองทุกคน ก่อนที่จะไปหยุดที่เฉินฉีเทียน ก่อนที่ใบหน้าจะเปลี่ยนไปในทันที.

"เจ้า เจ้า ซุน.......!"ซือหม่าเขอที่ร้องเสียงหลง.

ทุกคนที่จดจ้องมองด้วยความแปลกประหลาดจ้องมองไปยังซือหม่าเขอ.

ซือหม่าเขอที่จับจ้องมองเฉินฉีเทียนที่ดูงงงวย ก่อนที่จะสูดหายใจลึกแล้วกล่าวออกไปว่า"เสียมารยาทแล้ว ดูเหมือนว่าเจ้าจะเหมือนกับคนที่ข้าเคยเห็นคนหนึ่ง!"

ทุกคนที่แสดงท่าทางสนใจ ทว่าก็ไม่มีใครสอบถาม.

ซือหม่าเขอยืนขึ้นช้า ๆ  ก่อนที่จะโบกมือเบา ๆ .

"วูซซซ!"

จงซานที่รู้สึกราวกับว่าพื้นที่รอบ ๆ สั่นสะเทือนไปมาเล็กน้อย.

"เขาผนึก โลกเขตแดนแล้ว!"ตี้เสวียนชาที่ส่งเสียงผ่านพลังวิญญาณแจ้งจงซาน.

"อืม!"จงซานพยักหน้ารับ.

"ทุกคน เชิญ!"

ขณะที่ซือหม่าเขอโบกมือ ทันใดนั้นก็ปรากฏบัลลังก์ขนาดใหญ่สามแห่งและม้านั่งหินอีกอันขึ้นมา.

บัลลังก์ทั้งสามสำหรับเซิ่งซ่างสามคน ส่วนม้านั่งหินนั่นสำหรับจงซาน.

ประมุขสำหรับราชวงศ์สวรรค์ประมุขสำหรับราชวงศ์ราชันย์ แบ่งแยกตามฐานันดรอย่างงั้นรึ?

พริบตาเดียวนั้น สายตาของทุกคนที่จดจ้องมองไปยังจงซาน หยิง กู่เจิ้งอี้ กงเหล่ยเทียน บัลลังก์ขนาดใหญ่สำหรับพวกเขา ทว่าจงซาน เป็นเพียงแค่ม้านั่งหินอย่างงั้นรึ?

หมายความว่าอย่างไร? จงซานที่เป็นเพียงแค่ม้านั่งหิน?

ตี้เสวียนชาที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ส่วนกงเหล่ยเทียนที่รู้สึกดีใจกับความโชคร้ายของคนอื่น นี่เป็นการสร้างความอับอายให้กับจงซาน ฉีกหน้าต่อคนอื่น ๆ .

ซือหม่าเขอที่ต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นและตัดสินสถานะของแต่ละคนไปเรียบร้อยแล้ว.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด