Chapter 707 ต้นสนนิรันดร์
เมืองต้าหลิวนั้น อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลิวเหอมากนัก จะบอกว่าใกล้กันก็ว่าได้ ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณทั่วไป สามารถเดินทางโดยใช้เวลาหนึ่งเดือนได้.
ต้องไม่ลืมว่าราชวงศ์จักรพรรดิต้าหลิวนั้นมีสองเมืองใหญ่ที่เป็นเมืองของผู้ฝึกตน ส่วนที่อื่นเป็นเพียงเมืองเล็กของปุถุชนเท่านั้น สองเมืองนี้นับเป็นเมืองเก่า ในยุคโบราณเคยเป็นราชวงศ์ราชันย์หรือราชวงศ์สวรรค์เลยทีเดียว.
ระดับก่อตั้งวิญญาณจะรู้สึกว่ามันไกลอยู่เล็กน้อย ทว่าจงซานนั้นใช้เวลาไม่ถึงชั่วยามเท่านั้น.
จวนจะถึงนั้น ทั้งคู่ก็หยุดลง พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาจดจ้องมองพื้นที่รอบ ๆ .
เมืองต้าหลิวเดิมนั้นได้หายไปแล้ว ไม่มีร่องรอยเหลืออยู่แม้แต่น้อย.
ท้องฟ้าที่กลายเป็นสีเขียว ยืดยาวไร้ที่สิ้นสุด ราวกับว่าเป็นอีกโลกหนึ่ง เมฆสีน้ำเงินมากมาย หมอกสีเขียวที่ล่องลอยอยู่บนอากาศ บนพื้นดิน เมืองหายไปแล้ว กลายเป็นทุ่งหญ้าที่เขียวสุดลูกหูลูกตา.
ทุ่งหญ้ากว้างที่กว้างขวางไร้ที่สิ้นสุด.
ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นโลกใบหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา เป็นโลกสีเขียวที่กว้างใหญ่ไพศาล.
มีหมอกสีเขียวเต็มไปหมด ที่ไกลออกไปนั้นมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง เป็นต้นไม้ใหญ่สีเขียวที่มีความสูงล้านจั้งตั้งอยู่.
เป็นต้นสนต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มาก หมอกสีเขียวจาง ๆ ที่ปกคลุมทั่วบริเวณ ทำให้ต้นสนนั้นใหญ่โตไร้ที่สิ้นสุด น่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก!
"นี่มัน?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"สนนิรันดร์?"ตี้เสวียนชาที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"สนนิรันดร์? มันคืออะไร?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"นี่คือรากเทวะ รากเทวะของเซียนสวรรค์ รากเทวะของเขา เป็นต้นสนนิรันดร์! เขาหลอมขึ้นจากพืชชนิดหนึ่งของโลกใบใหญ่."ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"รากเทวะอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
นี่นับเป็นครั้งแรก ที่จงซานเห็นรากเทวะเช่นนี้เป็นครั้งแรก ต้นสนนิรันดร์ ขนาดหนึ่งล้านจั้ง!รากเทวะของเซียนสวรรค์อย่างงั้นรึ? รากเทวะของซือหม่าเขอ?
"ต้นสนนิรันดร์เป็นของวิเศษอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"รากเทวะล้วนแล้วแต่ทำมาจากของวิเศษที่ไม่ธรรมดา สนนิรันดร์แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ามันใช้ทำอะไร ทว่าเวลานี้มันกำลังสนับสนุนพลังของทักษะ’โลกเขตแดน’อยู่!"ตี้เสวียนชากล่าว.
"โลกเขตแดนอย่างงั้นรึ? พื้นที่สีเขียวกว้างใหญ่ไพศาลนี้ คือโลกเขตแดนของซือหม่าเขอ งั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
โลกเขตแดนที่พัฒนาการมาจากทักษะเทียน มีเพียงแค่เซียนเท่านั้นที่มีโลกเขตแดนของตัวเอง.
"กับการเปิดโลกเขตแดนเช่นนี้ขึ้น แน่นอนว่าซือหม่าเขอจงใจ รอให้พวกเราเข้าไปด้านใน!"ตี้เสวียนชากล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"สนนิรันดร์อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ครุ่นคิดขมวดคิ้วจดจ้องมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้น.
แล้วรากเทวะสนนิรันดร์? เทียบกับแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ จะเป็นอย่างไรกัน?
"ซือหม่าเขอ จัดประชุมสภาสวรรค์ โดยสร้างโลกเขตแดนโลกขึ้นมา เจตนาของเขาแสดงให้เห็นว่าไม่ดีนัก!"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เป็นมิตรรึ? เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นมิตร!"จงซานที่กล่าวยืนยันหนักแน่น.
"อืม."ตี้เสวียนชาพยักหน้ารับ.
"ว่าแต่ทักษะโลกเขตแดนเป็นอย่างไร? มีพลังอะไรบ้าง?"จงซานที่สอบถาม.
"เหมือนกับโลกจิตสำนึกของราชันย์แท้ หากแต่เปลี่ยนมันให้กลายเป็นรูปเป็นร่างแท้จริงเท่านั้น เจ้าเองก็ควรที่จะสามารถทำได้!"ตี้เสวียนชาเอ่ยปากออกมา.
"อืม ดูเหมือนว่ามันมีความเกี่ยวข้องกันอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่แล้ว เหมือนกับทักษะสวรรค์ผันแปรของเจ้าที่สามารถสัมผัสได้ถึงทักษะเทียนได้ไม่ใช่รึ?"ตี้เสวียนชากล่าว.
"ทักษะเทียน และโลกจิตสำนึกอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกไป.
"ใช่ ทักษะเทียน ที่จริงก็คือโลกจิตสำนึกที่กลายเป็นความจริง ช่างน่าเศร้าว่า ทักษะเทียนนั้น เป็นเพียงแค่ระยะก่อเกิดของมันเท่านั้น ยังไม่สามารถทำให้โลกจิตสำนึกกลายเป็นความจริงได้ "ตี้เสวียนชาที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
จงซานที่ครุ่นคิดไปมา คาดเดาเรื่องต่าง ๆ จากคำพูดของตี้เสวียนชา.
"เช่นนั้นทักษะโลกเขตแดนที่เซียนมีนั้น ก็คือการเปลี่ยนโลกจิตสำนึกให้กลายเป็นความจริงสินะ ทักษะโลกเขตแดน ก็คือการเปลี่ยนแปลงพลังฟ้าดินให้กลายเป็นโลกอีกใบ? สร้างมันขึ้นมาจากเจตจำนงอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ใช่ แต่เจ้ากล่าวถูกแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น!"ตี้เสวียนชาตอบ.
"หืม?"
"การเปลี่ยนพลังฟ้าดินให้กลายเป็นโลกของตัวเองอย่างงั้นรึ? ใช่ การทำเช่นนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ การเปลี่ยนโลกจิตสำนึกให้กลายเป็นโลกจริงนั้น เป็นเรื่องที่ยากมาก ไม่ต้องบอกเลยว่ามันยากขนาดใหน? มีเพียงแค่ปราชญ์เทพเท่านั้นที่ทำได้ กล่าวตามจริงล่ะก็ เซียนแต่ละคนสร้างโลกเขตแดนขึ้นมาได้นั้น ยังไม่ใช่โลกที่สมบูรณ์แบบ"ตี้เสวียนชากล่าว.
จงซานที่สูดหายใจลึก พร้อมกับพยักหน้ารับ.
"พวกเราจะเข้าไปข้างในหรือไม่?"ตี้เสวียนชาสอบถาม.
ขณะที่จงซานจ้องมองต้นสนนิรันดร์ พร้อมกับเงียบไปชั่วครู่ ขณะที่จะกล่าวออกมานั้น ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วแน่นจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป จงซานที่จ้องมองตาม.
ที่ไกลออกไปนั้น ปรากฏร่างสองร่าง เต๋าจวินเซิ่งหยา และกงเหล่ยเทียน.
คนทั้งสองที่จ้องมองไปยังต้นสนนิรันดร์ กงเหล่ยเทียนที่แค่นเสียง จากนั้นก็หันหน้ามาจ้องมองจงซานและตี้เสวียนชา.
เต๋าจวินเซิ่งหยาจ้องมองอย่างเย็นชาไปยัง ต้นสนนิรันดร์ ก่อนที่จะหันหน้าอย่างไร้อารมณ์จดจ้องตี้เสวียนชา จากนั้นก็หันหน้าจ้องมองจงซาน ขณะที่มองจงซาน ดวงตาที่สั่นไปมาอย่างคาดไม่ถึง.
ความเกลียดชังที่รุนแรงไม่สามารถเก็บซ่อนเอาไว้ได้ ก่อนหน้านี้เต๋าจวินเซิ่งหยาได้นำคนหลายคนเข้าล้อมสวนสวรรค์ลอยฟ้า ท้ายที่สุดกลับได้รับความเสียหายอย่างมากกลับไป เผ่าหงส์เพลิงก่อนหน้านี้ขณะที่กงเหล่ยเทียนต้องการนำมาใช้งาน ท้ายที่สุดก็ตกไปอยู่ในมือของจงซาน.
สายตาของทั้งคู่ที่จ้องมองด้วยสายตาที่เย็นชาจดจ้องมองกันและกัน.
ท้ายที่สุด กงเหล่ยเทียนก็กล่าวออกมาด้วยเสียงเย็นชา "คาดไม่ถึงเลยว่าราชวงศ์ราชันย์เล็ก ๆ จะมีคุณสมบัติเข้าร่วม ประชุมสภาสวรรค์?"
จงซานที่มีความแค้นส่วนตัว เมื่อได้ยินคำพูดของกงเหล่ยเทียนก็ทำให้ความแค้นถูกจุดขึ้นเหมือนกัน ก่อนที่จะกล่าวเหน็บออกไปว่า "คิดว่าข้ามาเอง!"
กงเหล่ยเทียน"......!"
ใบหน้าที่กระตุก แววตาของตี้เสวียนชาที่แสดงท่าทางแปลกประหลาดใจและพอใจ.
"แน่นอน ว่าหากถามถึงบัตรเชิญ ข้าได้มาอันหนึ่ง."จงซานเผยยิ้มออกมาอย่างใจเย็น.
กับคำพูดของจงซาน คนทั้งสองที่ระงับอารมณ์เอาไว้ รับรู้ว่ากำลังถูกกล่าวล้อ.
แววตาของเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรงแผ่ออกมา กงเหล่ยเทียนที่ใบหน้ามืดครึ้มจดจ้องมองไปยังจงซาน.
กับใบหน้าที่มืดมนของกงเหล่ยเทียน อากาศรอบ ๆ ที่เย็นลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่ไอน้ำยังกลายเป็นผลึก ทว่าจงซานนั้นไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย ตี้เสวียนชาที่อยู่ข้าง ๆ จงซานเองก็มั่นใจว่ามีความสามารถที่จะป้องกันตัวเอง จงซานที่จ้องมองไปยังศัตรู แน่นอนว่าเป็นศัตรูคู่แค้นที่ไม่มีอะไรให้ใส่ใจ ทำไมเขาจะต้องไว้หน้าคนเหล่านี้ด้วย?
ใบหน้าที่เย็นชามืดมิดของกงเหล่ยเทียน อารมณ์ที่สั่งสมมากมายก่อนที่จะหัวเราะออกมาเสียงดัง พร้อมกับความโกรธเกรี้ยวที่ปนอยู่ในเสียงหัวเราะนั่นด้วย.
"ฮ่าอ่าฮ่าฮ่าฮ่า.........!"
จงซานจ้องมองอย่างไม่แยแส.
หลังจากหัวเราะเสร็จ กงเหล่ยเทียนที่กล่าวเหยียดหยัน."ใต้สวรรค์แห่งนี้มีสี่ยักษ์ใหญ่ ราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้งควบคุมภาคใต้ เป็นราชวงศ์ราชันย์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างงั้นรึ? ใต้สวรรค์แห่งนี้ ข้าไม่เข้าใจแม้แต่น้อย ต้าเจิ้งมีความสามารถพอ ที่จะเป็นหนึ่งในสี่ของโลกใบนี้รึอย่างไร?"
"เพราะเจ้าไม่เข้าใจ ว่าต้าเจิ้งเป็นหนึ่งในสี่ของโลกใบนี้ได้สินะ!"จงซานกล่าวล้อ.
"ข้าอยากจะลองดูว่า ต้าสุ่ยของข้า กับต้าเจิ้งของเจ้าอะไรจะแข็งกว่ากัน!"กงเหล่ยเทียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ก่อนที่กงเหล่ยเทียนจะนำตราลัญจกร เป็นตราหยกที่มีหลากสี ส่องประกายแสงประกายวับว่า นี่คือตราหยกราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยนั่นเอง.
เห็นตราหยก ดวงตาของตี้เสวียนชาที่ดวงตาหดเกร็ง ส่วนเต๋าจวินเซิ่งหยาที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ส่วนจงซานที่จดจ้องมองไปยังตราหยกด้วยสายตาเย็นชา.
ตราลัญจกรหยก เป็นของวิเศษของอาณาจักร เก็บเกี่ยววาสนาของราชวงศ์ วาสนาทั่วหล้าจะถูกดูดซับมาเก็บเอาไว้ด้านใน ตราลัญจกรนี้จึงเหมือนกับสัญลักษณ์ของอำนาจ เป็นของวิเศษของประมุขราชวงศ์วาสนา.
ผู้เป็นเจ้าของราชวงศ์วาสนานั้น ไม่เพียงแต่เอาชนะกันด้วยการต่อสู้แล้ว บางครั้งก็มีการประชันกันระหว่างตราหยกอำนาจของราชวงศ์ด้วยเช่นกัน อำนาจวิเศษของราชวงศ์ สามารถเทียบได้กับบารมีของราชวงศ์ทั้งสองว่าอ่อนแอหรือแข็งแกร่งยิ่งกว่ากัน.
ต้องไม่ลืมว่า ประมุขของราชวงศ์วาสนานั้นก็เหมือนกับสวรรค์ในแผ่นดินนั้น ๆ ไม่มีใครที่จะมีอำนาจมากกว่าแล้ว การประชันกันด้วยอำนาจของราชวงศ์ ก็เป็นหนึ่งในการข่มกันของราชวงศ์วาสนาด้วยเช่นกัน.
อย่างไรก็ตาม กงเหล่ยเทียนนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าต้องการสร้างความอับอายให้กับจงซาน ประชันกันด้วยตราราชวงศ์อย่างงั้นรึ? จงซานที่มีเพียงตราราชวงศ์ราชันย์ ส่วนกงเหล่ยเทียนนั้นเป็นตราราชวงศ์สวรรค์ หากจะให้กล่าวแล้วล่ะก็ ของทั้งสองย่อมมีระดับที่แตกต่างกัน โดยปรกติแล้วตราราชวงศ์ราชันย์ไม่มีทางเทียบกับตราราชวงศ์สวรรค์ได้อย่างแน่นอน.
"ก็ลองดู!"จงซานที่กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
ศักดิ์ศรีของราชา ย่อมไม่มีทางยอมได้ง่าย ในเวลานี้จงซานที่ถูยั่วยุอย่างงั้นรึ? เห็นได้ชัดเจนว่า จงซานไม่ได้หวาดกลัวกับการประชันกันของตราราชวงศ์ ไพ่ในมือที่ทรงพลังที่สุดของจงซานไม่ใช่แปดหางสวรรค์ ไม่ใช่เคล็ดวิชาหงหลวนเทียน ทว่ามันคือตราราชวงศ์ครรลองสวรรค์ของเขานั่นเอง.
ได้ยินคำพูดของจงซาน ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วไปมา รู้สึกกังวลเล็กน้อย ส่วนเต๋าจวินเซิ่งหยาที่รู้สึกแปลกประหลาด จงซานต้องการหาความอับอายให้กับตัวเองอย่างงั้นรึ?
กงเหล่ยเทียนที่คาดไม่ถึงเช่นกัน ว่าจงซานจะรับคำ ในเมื่อตี้เสวียนชาไม่ลงมือ นี่ก็เป็นโอกาส เขาจะปล่อยไปได้อย่างไร?
กงเหล่ยเทียนที่ปล่อยตราหยกหลายสีลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมกับขยายใหญ่ขึ้นเป็นหลายหมื่นจั้งในทันที ราวกับภูเขาใหญ่ยักษ์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า.
ตราราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย ที่มีอำนาจบารมีของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย ราวกับจะปิดท้องฟ้า ก่อนที่จะพุ่งตรงไปยังร่างของจงซาน.
ตราราชวงศ์หลากสี ที่ทำให้อากาศรอบ ๆ บิดเบี้ยว มิติอากาศที่กระจายเป็นระลอกคลื่นด้วยอำนาจวิเศษพลานุภาพที่น่าเกรงขาม.
เป็นอำนาจพลังกดดันที่รุนแรงกำลังกดทับลงมายังร่างของจงซาน พลังกดดันที่ราวกับว่ากำลังผนึกจงซานเอาไว้ไม่ให้หนีไปใหน.
ตี้เสวียนไม่ได้ลงมือ เพราะว่าจงซานยังสุขุมไม่ได้รู้สึกร้อนใจแต่อย่างใด.
จงซานที่สะบัดมือนำตราราชวงศ์ออกมาเช่นกัน พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ มุกสีแดงบนตราลัญจกรครรลองสวรรค์ที่แผ่แสงสีแดงออกมาทันที.
ตราครรลองสวรรค์ที่ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เข้าปะทะกับตราลัญจกรเจ็ดสีในทันที ตราราชวงศ์สวรรค์ที่เข้าปะทะกันเสียงดังสนั่น.
ตราราชวงศ์ครรลองสวรรค์ที่ขยายขนาดขึ้นในทันที พริบตาเดียวก็มีขนาดพันจั้ง อย่างไรก็ตามก็ยังมีขนาดเพียงหนึ่งในสิบของตราหลากสีของต้าสุ่ย ทว่ากลับมีพลังอำนาจไม่ได้ด้อยกว่าตราหลากสีแม้แต่น้อย อากาศรอบ ๆ ที่บิดเบี้ยวด้วยพลานุภาพที่ยิ่งใหญ่.
กงเหล่ยเทียนที่รู้สึกไม่ดีนัก ก่อนที่จะแผ่จิตสังหารออกมาในทันที.
"สะกด!"
กงเหล่ยเทียนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.
"ตูมมมมมมมมมมมมม!"
เกิดการปะทะเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ตราหยกราชวงศ์ทั้งสองที่เข้าปะทะกัน ทำให้อากาศฉีกขาดบิดเบี้ยวเป็นทางยาว เกิดเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ จากรอยฉีกขาดของมิติอย่างคาดไม่ถึง ตราราชวงศ์ทั้งสอง ที่เปล่งแสงเจิดจ้า ประกายแสงสีทองที่เปล่งประกายสว่างจ้า.
ก่อนที่ตราราชวงศ์ทั้งสองจะลอยกลับมา การปะทะกันระหว่างบารมีอำนาจของสองราชวงศ์ได้จบแล้ว มันได้หดเล็กลงก่อนที่จะกลับมาอยู่ในมือของจงซานและกงเหล่ยเทียน.
ใบหน้าของจงซานที่แดงซ่าน เห็นได้ชัดเจนว่าการปะทะกันของตราราชวงศ์ใช้พลังอำนาจไม่น้อย ส่วนกงเหล่ยเทียนที่ไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อยจดจ้องมองจงซานตาโต.
เขาที่จ้องมองไปยังตราราชวงศ์ในมือ ตราหลากสีของเขา ที่มุมหนึ่งปรากฏรอยร้าวขึ้นอย่างแปลกประหลาด?
รอยร้าวอย่างงั้นรึ? ตราราชวงศ์สวรรค์และตราราชวงศ์ราชันย์ที่เข้าปะทะกัน กลับกลายเป็นตราราชวงศ์สวรรค์ได้รับความเสียหายอย่างงั้นรึ?