Chapter 597 บังคับแต่งงาน.
ตี้เสวียนชาที่จ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความอัศจรรย์ใจ แววตาที่เต็มไปด้วยแววตาที่แปลกประหลาด.
ก่อนหน้านี้มันคืออสุกายอะไรกัน? ใช่ก่อนหน้านี้ที่เกาะหมาป่าสวรรค์เมื่อครั้งชีพจรแผ่นดินพังทลายในเวลานั้น จงซานได้ปล่อยร่างเงาออกมา หากแต่เวลานี้กลับมีรูปร่างจริง ๆ อย่างงั้นรึ?
พลังนั่น เพียงแค่การโบกสะบัดของหางก็สามารถทำให้มิติบิดเบี้ยวทำลายล้างพื้นที่รอบ ๆ ได้เลยรึ? พื้นที่รัศมี 300,000 ลี้ สิ่งมีชีวิตตกตายไปทั้งหมด นี่มันความสามารถอะไรกัน?
แม้ว่าตี้เสวียนชาเองก็สามารถทำได้ ทว่าจงซานตอนนี้มีพลังฝึกตนระดับใด? เขา? สามารถมีพลังเทียบเท่าระดับสวรรค์แท้อย่างงั้นรึ?
อสุรกายตนดังกล่าวได้เข้าไปในร่างกายของจงซานแล้วรึ?
พลังฝึกตนของจงซาน จักรพรรดิแท้ ขั้นที่สิบรึ?
ยกระดับขึ้นห้าขั้นเลยรึ?
ใบหน้าของตี้เสวียนชาที่กระตุก ตบะพลังฝึกตน? ความเร็วนี้ เทียบเท่ากับคนที่มีมรรคาระดับสูง และมีพรสวรรค์ทางร่างกายดีเยี่ยม หากแต่นี่คือระดับพรสวรรค์ทางร่างกายที่ดีเยี่ยมอย่างงั้นรึ?
แม้ว่าจะสงสัยก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยิ่งจงซานแข็งแกร่งขึ้น อนาคตของเผ่าหมาป่าก็จะยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ .
จงซานที่ลอยอยู่บนอากาศ หลังจากที่เก็บแปดหางสวรรค์ ก็จับจ้องมองไปยังพื้นที่ด้านล่างที่แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบทำลายไป.
จงซานยังไม่ได้มองไปที่ตี้เสวียนชา ทว่าจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป บัวหงหลวนบนหน้าผากของเขา เวลานี้ส่องประกายสีเขียวแดงพร้อมกับถูกส่งอาบไปทั่วดวงตาของเขา.
ทันใดนั้น ดวงตาของจงซานที่เกิดการเปลี่ยนแปลง พลังที่มากมายกำลังจดจ้อง กฎเกณฑ์ของฟ้าดินที่ปรากฎขึ้นทุกทิศทุกทางอยู่รอบ ๆ .
กฎเกณฑ์ฟ้าดินที่มีร่องรอยสีเทาและสีขาว.
ในเวลาเดียวกันนั้น ดวงตาของจงซานที่เปล่งประกาย มองเห็นร่องรอยที่พิเศษยิ่งขึ้น.
สีแดง ร่องรอยสีแดง?
จงซานจ้องมองไปยังร่องรอยกฎเกณฑ์สีแดง ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงเจตจำนงของเปลวเพลิงที่พุ่งเข้ามาในจิตสำนึก ทำให้จิตใจสั่นไหว นี่เป็นกฎเกณฑ์ที่ทรงพลังมาก ร่องรอยสีแดงที่พิเศษ.
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้นร่องรอยสีแดงที่ปรากฎขึ้นมานั้น ก็หายไปในทันที.
จงซานที่ตื่นตกใจเป็นอย่างมาก เกิดอะไรขึ้น?
ร่างรอยสีเทาเข้ม ทว่าสิ่งที่เขาเห็นไม่มีผลต่อจิตสำนึก ร่างรอยสีแดงมากมาย ที่จริงเวลานี้กำลังเต้นไปมาในจิตสำนึกของเขาก่อนหน้านี้มันคืออะไรกัน.
หมายความว่าอย่างไรกัน?
กฎ!
นี่ไม่ใช่ร่องรอยของกฎเกณฑ์ทั่วไป แต่มันคือร่องรอยของกฎ!
นี่คือกฎของฟ้าดิน นี่คือต้นกำเนิดของพลังที่แท้จริง!
นี่คือกฎของพลังอย่างงั้นรึ?
ภายในใจของจงซานเต็มไปด้วยความดีใจมากมายอย่างที่สุด กฎแห่งพลัง ต้องรู้ด้วยว่า ในโลกใบเล็กนั้น มีเพียงแค่ผู้ฝึกตนระดับสวรรค์แท้เท่านั้น จึงจะสามารถสัมผัสกฎแห่งพลังได้ การเข้าใจกฎของพลังได้ ก็เหมือนกับการสร้างทักษะ"เทียน"เป็นของตัวเองนั่นเอง.
ระดับราชันย์แท้ สามารถสัมผัสได้ถึงกฎ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจกฎของพลัง ทว่าต่อหน้าจงซาน เขาที่สามารถรับรู้ได้ถึงร่องรอยของกฎ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าร่องรอยของกฎนั้นระดับราชันย์แท้ไม่สามารถมองเห็น หากแต่จงซานไม่เพียงแค่มองเห็นยังพบกฎของพลังได้อีกด้วย.
ก่อนหน้านี้เป็นต้นกำเนิดแห่งพลัง กฎของพลัง จงซานสามารถมองเห็นกฎคุณสมบัติของเปลวเพลิงนั่นเอง.
"ฟู่ ๆ !!!!!!"
ไม่ไกลออกไป ร่องรอยสีน้ำเงินก็ปรากฎขึ้นในทันที พริบตาเดียวนั้นร่างของจงซานก็เคลื่อนที่ไปอยู่พื้นที่ไกลออกไป พลังของสายน้ำที่เคลื่อนที่เข้าหาจงซานอย่างบ้าคลั่ง.
จงซานที่ควบคุมพลังแห่งกฎ กฎเกณฑ์ของธาตุวารีรึ?
หัวใจของจงซานที่เต้นไปมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ ที่สามารถค้นพบคุณสมบัติพลังแห่งกฎเกณฑ์ระดับสูงได้.
ต้องรู้ด้วยว่ามีเพียงผู้ฝึกตนสวรรค์แท้เท่านั้นที่รับรู้ ทว่าการจะเข้าใจพลังแห่งกฎเช่นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทว่าจงซานนั้นกลับสามารถมองเห็นด้วยตา เป็นเรื่องราวที่ไร้ขีดจำกัดเป็นอย่างมาก.
ดวงตาของจงซานที่หลับตาลง.
จงซานที่สูดหายใจลึก ทำสมาธิเงียบ ๆ .
เคล็ดวิชาหงหลวนเทียน ขั้นที่เจ็ด! เทพสังหรณ์!
น่าเกรงขามนัก สามารถมองเห็นพลังที่ต่อต้านสวรรค์ พลังแห่งกฎ คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถมองเห็นกฎเกณฑ์ของพลังได้อย่างง่ายดาย
"เป็นอย่างไร?"ตี้เสวียนชาที่บินเข้าไปใกล้.
จงซานที่สงบนิ่ง ก่อนที่จะค่อย ๆ ลืมตาดวงตาที่กลับคืนสู่สภาพปกติ ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"จะอย่างไร พวกเรารีบกลับเกาะหมาป่าสวรรค์กันก่อนเถอะ!"
ภายในใจของตี้เสวียนชานั้นมีคำถามมากมายเป็นร้อยพันต้องการสอบถาม ทว่าเมื่อเห็นท่าทางจงซานแล้ว ก็สูดหายใจลึกเก็บความสงสัยเหล่านั้นเอาไว้.
แม้นไม่เข้าใจนัก ทว่าเขาก็เป็นหนึ่งในผู้เห็นความแข็งแกร่งของจงซานด้วยตาของตัวเอง!
..................
หลังจากนั้นผ่านมาหนึ่งปีครึ่ง รัฐชิง ตำหนักของอี้เหยี่ยน.
รอบ ๆ อี้เหยี่ยนนั้นมีกลุ่มของกุนซือจำนวนหนึ่ง คนเหล่านี้คือเหล่าคนที่มีพรสวรรค์ที่ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งได้ทำการจัดการทดสอบเคอจีตลอดหลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับถูกส่งไปยังทิศต่าง ๆ ซึ่งมีคนกลุ่มหนึ่ง อยู่ภายใต้การดูแลของอี้เหยี่ยนนั่นเอง.
อี้เหยี่ยนนั้นเป็นคนที่มีเชาว์ปัญญาสูงล้ำ แน่นอนว่าย่อมไม่ให้ค่าเหล่าผู้เยาว์ใหม่นัก คนที่มีคุณธรรมและเชาว์ปัญญาถึงจะได้รับการยอมรับ การจะได้รับผิดชอบงานชิ้นใหญ่จากอี้เหยี่ยนนั้นเป็นเรื่องที่ยากเข็ญไม่น้อย.
เถี่ยเสวี๋ยที่ยืนอยู่หน้าของกลุ่มกุนซือ จ้องมองไปยังอี้เหยี่ยน รอคอยให้อี้เหยี่ยนเป็นคนกล่าวออกมาก่อน.
อี้เหยี่ยนที่รับจดหมาย พร้อมกับจ้องมองอ่านเนื้อความและเผยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข.
"เซียนเซิง ฝ่าบาทได้แจ้งข่าวดีมาอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่สอบถามออกมา.
เถี่ยเสวี๋ยที่นับถืออี้เหยี่ยนที่มีความสามารถทั้งด้านการเมืองและการรบ แน่นอนว่าจึงเรียกอี้เหยี่ยนว่าเซียนเซิงมาตลอด.
"ข่าวดีสองเรื่อง เรื่องแรก ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งนั้นมีแม่ทัพพิทักษ์ดินแดนเพิ่มอีกสองคน กองกำลังที่เจ็ด เหยี่ยนฉงจื่อ! กองกำลังที่แปด จ้าวโส่วเซี่ยง!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"สองคน? ฝ่าบาทไปหาคนสองคนมาจากใหนอย่างงั้นรึ? สามารถเทียบได้กับเซียนเซิงหรือไม่?"เถี่ยเสวี๋ยที่เอ่ยออกมา ไม่ยินดีที่จะยอมรับนัก.
"ด้วยวิสัยทัศน์ของฝ่าบาทแล้ว แน่นอนว่าไม่มีผิด เถี่ยเสวียอย่าได้กล่าวอะไรไร้สาระอีก!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวตำหนิ.
"ครับ!"เถี่ยเสวี๋ยที่รับคำแม้ว่าจะไม่อยากยอมรับอยู่ก็ตาม.
เห็นท่าทางของเถี่ยเสวี๋ยแล้ว อี้เหยี่ยนได้แต่ส่ายหน้าไปมา.
"จอมพล แล้วข่าวดีเรื่องที่สองล่ะ?"อีกคนที่เอ่ยสอบถามออกมา.
"ข่าวดีเรื่องที่สอง ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งเตรียมการยกระดับเป็นราชวงศ์ราชันย์!"อี้เหยี่ยนกล่าวออกมาในทันที.
เป็นความจริง หลังจากที่ได้ยินข่าวนี้แล้ว แทบจะทุกคนที่เต็มไปด้วยความยินดี ไม่เพียงแต่ความแข็งแกร่งของราชวงศ์ต้าเจิ้งจะเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญสถานะของพวกเขาก็จะเพิ่มขึ้นอีกครั้งด้วย.
แม้ว่าตำแหน่งทางการจะไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทว่าตำแหน่งวาสนาแผ่นดินจะเปลี่ยนไป วาสนาของราชวงศ์ราชันย์ต้าเจิ้ง จะต้องเพิ่มขึ้นมากมายเป็นอย่างมาก.
"จอมพล พวกเราจะต้องทำอะไรบ้าง?"ทุกคนที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจ.
"การเตรียมการ เพื่อยกระดับเป็นราชวงศ์ราชันย์นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นนั้นในเวลานี้ พวกเจ้าต้องทำตามคำแนะนำของข้าอย่างเคร่งครัด และจดจ้องตรวจสอบเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจะเกิดขึ้น ข้าจะทำบันทึกภารกิจต่าง ๆ ให้กับทุกคนที่ต้องจัดการ."อี้เหยี่ยนกล่าว.
"รับทราบ!"ใบหน้าของทุกคนที่เผยแววตาตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก.
"ข้าจะมอบหมายหน้าที่ให้กับทุกคนให้ปฏิบัติ พวกเจ้าจะต้องทำให้สำเร็จตามเวลา ใครก็ตามที่ไม่ใส่ใจ ทำให้แผนการครั้งนี้ผิดพลาด ข้าอี้เหยี่ยนจะไม่ให้อภัยโดยเด็ดขาด!"อี้เหยี่ยนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง.
กับใบหน้าท่าทางจริงจังของอี้เหยี่ยน ทำให้ทุกคนต้องตื่นตกใจเช่นกัน คราวแรกที่ตื่นเต้นดีใจเวลานี้กลายเป็นจริงจัง แน่นอน ในเวลานี้ ทุกคนไม่สามารถที่จะสงบใจเอาไว้ได้ เรื่องนี้จะต้องกระทำอย่างระมัดระวัง การยกระดับราชวงศ์นั้นพวกเขาจะทำให้เกิดความผิดพลาดไม่ได้โดยเด็ดขาด.
ไม่เพียงแต่ตำหนักของอี้เหยี่ยนเท่านั้น.
ตำหนักของสุ่ยอู๋เหิน! ตำหนักของสุ่ยจิง! หลังจากที่ได้รับจดหมายจงซาน ภายในรัฐชิงเวลานี้ ก็วุ่นวายจัดการเตรียมการยกระดับเป็นราชวงศ์ราชันย์กันในทันที.
เกาะหมาป่าสวรรค์!
หลังจากประชุมราชกิจเสร็จแล้ว จงซานก็มาพบกับตี้เสวียนชาที่ตำหนักซ่างเฉินอีกครั้ง.
"ครั้งนี้ต้องรบกวนท่านแล้ว!"จงซานกล่าวต่อตี้เสวี่ยนชาอย่างเคร่งขรึม.
"โปรดวางใจ การยกระดับของต้าเจิ้งนั้น ก็เพื่อเผ่าหมาป่าของข้าด้วย ข้าย่อมต้องทำเรื่องนี้ให้สำเร็จแน่.
"รบกวนแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่จริงจังอีกครั้ง.
ต้องรู้ด้วยว่า แม้ว่าตี้เสวียนชาจะกล่าวว่าเพื่อเผ่าหมาป่า ทว่าตี้เสวียนชาที่มีพลังฝึกตนที่น่าเกรงขาม ในทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้นมีสถานะที่สูงส่ง และเผ่าหมาป่ายังไม่เคยจำนนต่อใครในประวัติศาสตร์ กล่าวตามจริง การที่จงซานได้รับความร่วมมือจากตี้เสวียนชา เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก เป็นเรื่องปรกติที่จงซานต้องแสดงท่าทางสุภาพเป็นธรรมดา.
ตี้เสวียนชาที่พยักหน้า จากนั้นก็จ้องมองไปยังห้องโถง.
"เจ้าเองก็คงกำลังยุ่งอยู่ ข้าคงต้องขอตัวก่อน!"ตี้เสวียนชากล่าว จากนั้นตี้เสวียนชาก็หายไปในทันที
จงซานพยักหน้า จากนั้นก็จ้องมองด้วยความสงสัยเข้าไปในห้องโถง.
ที่ด้านนอกห้องโถงนั้น เป่าเอ๋อที่ก้าวเข้ามา.
เป่าเอ๋อพร้อมกับที่ด้านหลังมีบุรุษในชุดขาว เป่าเอ๋อที่ก้าวเข้ามาด้วยใบหน้าเฉยเมย ซ่อนความขมขื่นเอาไว้ ก้าวเข้ามาในตำหนักเงียบ ๆ .
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเป่าเอ๋อ.
"ดูเองสิ!"เป่าเอ๋อที่เม้มริมฝีปากเชิดหน้าเล็กน้อย.
"แดนเทพอมตะ เป่ยชิงเหยี่ยนคารวะจักรพรรดิจง!"ชายในชุดสีขาวที่กล่าวแสดงความเคารพต่อจงซาน.
แดนเทพอมตะ?เป่ยชิงเหยี่ยน? สกุลเป่ยอย่างงั้นรึ?
"หืม เจ้าเป็นใครรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเป่ยชิงเหยี่ยน แววตาที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"เป่ยชิงซือเป็นญาติห่าง ๆ ของข้าเอง ในอดีตนั้นบิดาของเป่ยชิงซือได้ออกจากแดนเทพอมตะ พร้อมกับเข้าร่วมราชวงศ์วาสนา ตระกูลเป่ยของพวกเรารู้สึกเสียใจมากจึงได้ตัดขาดกับพวกเขา และหวนสัมพันธ์กลับคืนมาอีกครั้งเมื่อเป่ยชิงซือกลับแดนเทพอมตะ!"เป่ยชิงเหยี่ยนกล่าว.
"ตระกูลเป่ย?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"ถูกต้องแล้ว!"เป่ยชิงเหยี่ยนกล่าว
"เจ้ามาหาข้ามีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถามออกไปด้วยความสงสัย.
"ลูกพี่ลูกน้องเป่ยชิงซือ ได้ให้ข้าส่งจดหมายมาให้ท่าน และจะต้องมอบให้กับท่าน!"เป่ยชิงเหยี่ยนกล่าว.
"หืม?"จงซานที่ตกใจเล็กน้อย.
เป่ยชิงเหยี่ยนที่ส่งจดหมายมาให้!
จงซานที่เปิดจดหมายอ่านอย่างรวดเร็ว ซึ่งได้พบเข้ากับข้อความด้านใน ซึ่งเป็นรหัสลับที่จงซานและเป่ยชิงซือเคยตกลงกันไว้.
นี่เป็นจดหมายของเป่ยชิงซือแน่นอน จงซานรับรู้ได้ในทันที!
ตัวอักษรไม่กี่ตัว เขียนเอาไว้!
"ช่วยข้าอีกครั้ง!"
ช่วยข้าอีกครั้ง? ทันทีที่เห็นอักษรดังกล่าว จิตใจของจงซานถึงกับสั่นไหว แม้ว่าเป่ยชิงซือจะเป็นคนอ่อนโยน ทว่าจงซานรับรู้ดีว่านางนั้นเป็นคนอหังการ เชื่อมั่นในตัวเองสูง ไม่เคยก้มหัวให้ใคร เป็นคนที่ดื้อรั้นหัวแข็งอย่างที่สุด.
ทว่ากับสตรีเช่นนาง ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ก็ไม่เคยก้มหัวให้ใคร ไม่ยินดีขอความช่วยเหลือจากคนอื่น นางที่จะยอมทนกับความลำบากด้วยตัวเองอย่างเงียบ ๆ .
ในเวลานี้? นางขอให้ไปช่วยนางอย่างงั้นรึ?
กับคำพูดดังกล่าวนี้ดูเหมือนว่านางจะต้องประสบกับเรื่องที่หนักหนาจนไม่สามารถที่จะแบกรับได้ด้วยตัวเองแล้ว.
"ชิงซือเป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานที่กล่าวสอบถามออกมาในทันที.
"ลูกพี่ลูกน้องนั้นถูกบังคับให้แต่งงาน!"เป่ยชิงเหยี่ยนที่กล่าวออกมาในทันที ดูเหมือนว่าเขาจะคิดว่าจงซานจะต้องไปช่วยนาง.
"บังคับให้แต่งงาน? กับใคร?"แววตาของจงซานที่เผยสีหน้าแววตาเย็นเยือบ.
"เจิ้นจวิน(ราชันย์แท้) ปิงเสวียน!"เป่ยชิงเหยี่ยนกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
ปิงเสวียน? ในอดีตนั้นจงซานยังจดจำได้ เกี่ยวกับปิงเสวียน ชายที่สวมชุดสีน้ำเงิน ใบหน้าหล่อเหลา ในคราวนั้นเขาได้เดินทางไปยังราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่ พบเป่ยชิงซือระหว่างทาง ซี่งชายคนดังกล่าวนี้ เป่ยชิงซือเรียกเขาว่าอาจารย์อา และยังเป็นคนที่ไล่ตามเกี้ยวพานเป่ยชิงซือด้วยนั่นเอง.
"เป็นเขารึ? เป็นไปไม่ได้ เขาไม่คู่ควรกับชิงซือ!"หัวใจของจงซานที่หดเกร็ง.