Chapter 595 เปิดประตูหยินหยางอีกครั้ง.
จงซานและตี้เสวียนชา ที่เดินทางออกจากเมืองหลานเหยี่ยน ซึ่งมีจ้าวโส่วเซี่ยงอยู่นอกเมือง.
ด้วยการมีตี้เสวียนชาเดินทางไปด้วย แน่นอนว่าจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน เนื่องจากตี้เสวียนชาคือระดับสวรรค์แท้ที่แข็งแกร่งน่าเกรงขามนั่นเอง ระหว่างทางตี้เสวียนชาที่จับจ้องมองทัพทั้งห้าพันของจ้าวโส่วเซี่ยง ใช้เวลาสองเดือนในการเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์ทางตะวันออก.
จ้าวโส่วเซี่ยง!
แม้ว่าจ้าวโส่วเซี่ยงจะมีระดับหลอมกายธาตุ ทว่าตี้เสวียนชารับรู้ว่าจ้าวโส่วเซี่ยงคือแม่ทัพกองกำลังที่แปดของต้าเจิ้ง เป็นคนสงบเสงี่ยมมีมารยาทไม่น้อย.
ตี้เสวียนชาสามารถมองเห็นได้ ถึงแม้ว่าจะไม่เอาไปเทียบกับจงซาน ทว่ากับคนที่จงซานคัดเลือกมานั้นทุกคนล้วนแล้ว แต่มากด้วยฝีมือด้วยกันทั้งนั้น.
ความสำเร็จของจงซาน ในอนาคตข้างหน้าจะยิ่งไร้ซึ่งขีดจำกัด ด้วยสัมผัสของเขา ทำให้ตี้เสวียนชารู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก.
ท้ายที่สุดเขาก็มองเห็นอนาคตที่สดใสของเผ่าหมาป่าแล้ว!
จ้าวโส่วเซี่ยงผู้นี้ จงซานให้ความสำคัญ ในอนาคตย่อมต้องเป็นคนที่มีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัดเช่นกัน.
แม้ว่าอิทธิพลของจงซานยังเล็กอยู่ ความแข็งแกร่งก็ยังไม่มาก ทว่ารากฐานของเขากับดูเป็นรูปเป็นร่างที่ใหญ่โต! อีกไม่นาน ต้าเจิ้งจะรุ่งเรืองและยิ่งใหญ่ขึ้นมาในไม่ช้า.
....
ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย ตำหนักของไท่จื่อเหล่ยเทียน.
ไท่จื่อเหล่ยเทียนนั่งอยู่บนโต๊ะบัญชาการ และมีข้อมูลสำคัญมากมายอยู่ด้านหน้า และมีข้าราชบริพารที่ยืนสองแถวพูดคุยด้วยเสียงแผ่ว ๆ .
เซอคงที่สูดหายใจลึก รับฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เมืองหลานเหยี่ยน.
นักบวชเซอคงในเวลานั้นเขาได้ออกอุบายท้องเสียและหนีมา จากนั้นก็มีเหล่าคนที่แข็งแกร่งปรากฏขึ้นมา จงซานยากที่จัดการได้ง่าย ๆ เขาที่หนีออกมาแอบซ่อนเฝ้ามอง เนี่ยฟ่านเฉินที่ติดหนี้บุญคุณจงซานและจงซานยังสามารถนำแท่นปรุงยาเทวะ หมื่นเม็ดยาบรรพกาลกลับไปได้ด้วย.
จงซานเป็นคนที่แปลกประหลาด เป็นอสุรกายความสามารถ และยังมีโชคที่ยอดเยี่ยมน่าหวั่นเกรง นักบวชเซอคงได้แต่ทอดถอนใจ.
และยังมีหวังเฉิน คนผู้นี้ไม่ได้เดินทางไปยังเมืองหลานเหยี่ยน ราวกับว่ารับรู้เรื่องราวที่จะเกิดขึ้น เป็นคนที่แปลกประหลาดเช่นกัน หลังจากนี่การยุ่งเกี่ยวกับคนผู้นี้ควรทำให้น้อยที่สุดจะดีกว่า.
แม้ว่านักบวชเซอคงจะมีความแข็งแกร่งไม่สูงนัก ทว่าสัมผัสของเซอคงนั้นยากที่จะมีใครเทียบได้ ทำให้เขาตระหนักได้ถึงสิ่งต่าง ๆ จวบจนเขาสามารถหลบเลี่ยงภัยอันตรายอยู่รอดปลอดภัยมาจนถึงตอนนี้.
หลังจากที่ไท่จื่อเหล่ยเทียนจ้องมองข้อมูลต่าง ๆ ทั้งหมดแล้ว ก็สูดหายใจยาว.
"พายุตั้งเค้า! ยุคแห่งความวุ่นวายใกล้เข้ามาแล้ว!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่สูดหายใจลึก.
"ซ่างจู่ แล้วพวกเราจะทำอย่างไรกันดี?"มีคนผู้หนึ่งสอบถามออกมา.
上主Shàng zhǔ นายเหนือหัว.
"ในเมื่อยุคสมัยแห่งความวุ่นวายมาถึง แน่นอนว่าจะต้องวางมือกันก่อน จากนี้จะต้องวางมือจากโลกใบนี้ชั่วคราว หลังจากที่เนี่ยฟ่านเฉินกลับไป แน่นอนว่าหลังจากนี้ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยย่อมต้องจับตามองไปทั่วทวีปศักดิ์สิทธิ์ แผนการของพวกเราควรจะต้องก้าวไปช้า ๆ และมั่นคง."ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"
"ทัพของข้าได้ มุ่งหน้าไปยังทิศทางของราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนแล้ว คงไม่สามารถเลื่อนสงครามได้ เซอคง เจ้านำทัพไปจัดการ!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนกล่าว.
"ครับ!"นักบวชเซอคงที่พยักหน้ารับในทันที.
"ข้าจะไม่อยู่ชั่วคราว ทัพบุกเบิกให้เซอคงเป็นผู้ดูแล ส่วนเรื่องราวกิจการภายในให้หวังเฉินจัดการ!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนสั่งการในทันที.
"รับทราบ!"ทุกคนที่ตอบรับในทันที.
"ซ่างจู่ ท่านจะออกไปข้างนอกรึ?"หวังเฉินที่ขมวดคิ้วไปมา.
[上主Shàng zhǔ นายเหนือหัว.]
"ใช่ ข้าจะไปพบกับเต๋าจวินเซิ่งหยา ต้องการไปพูดคุยกับเขา!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อยขณะพูด.
"เต๋าจวินเซิ่งหยาพบอะไรอย่างงั้นรึ?"หวังเฉินที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"ข้าเองก็ไม่แน่ใจ เต๋าจวินเซิ่งหยานั้นเป็นคนที่ลึกล้ำ ข้าจึงจำเป็นต้องไปพบด้วยตัวเอง."ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"ขอรับ!"ทุกคนที่รับคำก่อนที่จะแยกย้ายกันออกไป.
..............
ราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่! เนี่ยฟ่านเฉินในห้องอักษร.
ภายในห้องอักษรนี้ มีเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไว้ใจ และเหล่าคนที่มีความแข็งแกร่งของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่ รวมทั้งเส้าเฟยโห่วด้วย.
เส้าเฟยโห่วที่ยืนอยู่ตรงข้าง เนี่ยฟ่านเฉินที่กล่าวเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองหลานเหยี่ยนให้ทุกคนได้ฟัง.
ความแข็งแกร่งของเส้าเฟยโห่วที่อ่อนด้อยกว่าเนี่ยฟ่านเฉินมาก โชคดีที่เขากลับมาก่อน ไม่เช่นนั้นไม่รู้ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นที่งานชุมนุมหมื่นเม็ดยา
เกี่ยวกับเรื่องราวลึกล้ำอิทธิพลของจงซานที่เส้าเฟยโห่วได้รายงาน ได้บอกกล่าวว่าจงซานได้ขยายอิทธิพลมาจนถึงเมืองหลานเหยี่ยนแล้ว เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่รอบ ๆ ถึงกับเผยสีหน้าแววตาตื่นตระหนก.
"เยี่ยม!"เนี่ยฟ่านเฉินที่สายหน้าไปมา.
กับคำพูดของเนี่ยฟ่านเฉินทำให้คนอื่น ๆ ถึงกับเปลี่ยนเป็นนิ่งงัน.
"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง หลังจากนี้จะกลายเป็นพันธมิตรของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่แล้ว ยกเว้นเรื่องที่มีภัยมาถึงราชวงศ์ของพวกเรา เรื่องอื่น ๆ ไม่จำเป็นต้องนำมาใส่ใจ ไม่จำเป็นต้องสืบสวนด้วย!"เนี่ยฟ่านเฉินที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"รับทราบ!"ทุกคนที่พยักหน้ารับด้วยความประหลาดใจ.
"วันนี้ข้าเรียกพวกเจ้ามา เพื่อปรึกษาหารือเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์ภายใต้สวรรค์แห่งนี้!"เนี่ยฟ่านเฉินที่เอ่ยปากออกครั้ง.
เหตุการณ์ภายใต้สวรรค์แห่งนี้?
"ยุคสมัยแห่งความวุ่นวายใกล้เข้ามาแล้ว!"เนี่ยฟ่านเฉินที่สูดหายใจลึก.
ยุคแห่งความวุ่นวายใกล้เข้ามาแล้วรึ? ทุกคนที่หายใจแฮก ๆ ยุคแห่งความโกลาหล? อะไรคือยุคแห่งความวุ่นวาย? ภายในแววตาของเนี่ยฟ่านเฉิน กำลังจะขยายดินแดนบุกราชวงศ์ราชันย์อย่างงั้นรึ?หากไม่เพราะยุคแห่งความวุ่นวาย เนี่ยฟ่านเฉินคงไม่คิดถึงเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าทั่วทั้งทวีปศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้ จะไม่ใช่แค่ราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่แล้ว.
ยุคสมัยแห่งความวุ่นวายใกล้เข้ามาแล้ว? หลายคนที่มีความเฉลียวฉลาดที่สูดหายใจลึกจดจ้องมองไปยังเนี่ยฟ่านเฉิน จ้องมองเนี่ยฟ่านเฉินนั้นมีแผนการอะไรบ้าง.
"ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย.....!"เนี่ยฟ่านเฉินที่เริ่มเล่าเรื่องต่าง ๆ ที่สำคัญที่เกิดขึ้นใต้สวรรค์แห่งนี้.
หลาย ๆ คนที่สามารถเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีผลกระทบอะไรบ้าง จากนั้นก็เริ่มวิเคราะห์อย่างรวดเร็ว เพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น จะจัดการกับยุคสมัยแห่งความวุ่นวายได้อย่างไร ถึงจะได้รับประโยชน์และชัยชนะ.
.....
จงซานเวลานี้ได้เดินทางมาถึงเกาะหมาป่าสวรรค์แล้ว!
บนเกาะหมาป่าสวรรค์ ทุกคนต่างก็ได้รับเรื่องที่สำคัญที่จะเกิดขึ้นใต้สวรรค์แห่งนี้แล้วเช่นกัน.
ข้อมูลยุคสมัยแห่งความวุ่นวาย บางเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันนัก ทว่าก็มีเรื่องหลายเรื่องที่จงซานนั้นได้จับตาเฝ้ามองอย่างละเอียดเช่นกัน.
เรื่องแรกคำสั่งสวรรค์แดนเทพอเวจี!
"เจี้ยนอ้าวที่ตัดสินจะกำจัดเผ่าวานรแล้วอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่สูดหายใจลึกด้วยความประหลาดใจ.
"ใช่ ด้วยนิสัยใจคอของเจี้ยนอ้าว ย่อมต้องทำ ภายใต้สวรรค์แห่งนี้กำลังเข้าสู่ยุควุ่นวาย ดูเหมือนว่าคราวนี้จะไม่ใช่แค่ราชวงศ์สวรรค์เท่านั้นที่ต้องการบุกเบิกดินแดน แดนเทวะเองต้องเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอย่างแน่นอน!"จงซานพยักหน้าครุ่นคิดเรื่องที่เกิดขึ้น.
"ไม่ใช่ว่านี่เป็นโอกาสของพวกเราแล้วรึ?"กู่เฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
เรื่องที่สอง สี่ไท่จื่อของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวในอดีต กู่เจิ้งอี้ กู่เสวียน กู่ไท่จง กู่จ้านเทียน.
ทั้งสี่ที่สร้างราชวงศ์จักรพรรดิขึ้นมา เป็นราชวงศ์จักรพรรดิต้าหยง ราชวงศ์จักรพรรดิยงเล่อ ราชวงศ์จักรพรรดิต้าถังและราชวงศ์จักรพรรดิชุนชิว.
ราชวงศ์จักรพรรดิทั้งสี่ แม้ว่าจะก่อตั้งได้ไม่นาน ทว่าก็มีรากฐานมาจากราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ดูเหมือนว่าเวลานี้จะก้าวไปถึงราชวงศ์ราชันย์แล้ว.
ราชวงศ์ราชันย์ต้าหยง ราชวงศ์ราชันย์ยงเล่อ ราชวงศ์ราชันย์ต้าถังและราชวงศ์ราชันย์ชุนชิว.
เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้มานั้น กู่เฉียนโหยวไม่มีอะไรจะกล่าว ด้วยราชวงศ์ราชันย์ทั้งสี่นั้นมีสายโลหิตข้องเกี่ยวกับนาง แม้ว่าจะมีความรู้สึกที่ไม่ดีต่อกัน แต่ก็ถือว่าเป็นคนในครอบครัว เหตุผลที่ซับซ้อนนั้นเนื่องจากในอดีตที่ถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรม หากไม่เพราะว่าจงซาน นางคงจะไม่มีโอกาสได้มายืนอยู่ตรงนี้.
เกี่ยวกับราชวงศ์ราชันย์ทั้งสี่นั้น ภายในใจของกู่เฉียนโหยวรู้สึกซับซ้อนเป็นอย่างมาก! ไม่รู้ว่าควรจะเชิญหน้าเช่นไรเหมือนกัน.
เรื่องที่สามไม่ใช่ข้อมูลจากหน่วยสังเกตการณ์ ทว่าเป็นสารจากอี้เหยี่ยน สุ่ยจิงและสุ่ยอู๋เหิน.
ข้อมูลเกี่ยวกับรัฐชิง สามแม่ทัพที่ได้ส่งสารกลับมา.
นี่เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลของพวกเขา ทั่วสารทิศของรัฐชิงในเวลานี้ มีราชวงศ์ราชันย์รุกเข้ามา และสร้างปัญหา ข้อมูลดังกล่าวได้ได้แจ้งมาให้จงซานเตรียมการรับมือ.
"รุกรานรัฐชิงอย่างงั้นรึ? คงจะเป็นกู่เสวียน?"กู่เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"แม้ว่าอี้เหยี่ยนจะไม่ได้เอ่ยออกมาตรง ๆ ทว่าควรจะเป็นเช่นนั้น!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
"อย่าได้เป็นห่วงความรู้สึกของข้า ข้ารู้ว่าควรทำอย่างไร ข้าเองก็ไม่ได้ติดหนี้พวกเขา กงจูต้าโหลวนั้นเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ข้าคือหวงโห่วต้าเจิ้ง แม้ว่าหากเจ้าต้องการจัดการพวกเขา คนทั่วเหล้าเองก็ไม่กล่าวโทษเจ้าแต่อย่างใด."กู่เฉียนโหยวที่เม้มปากเล็กน้อย.
"แต่ว่า...."จงซานขมวดคิ้วไปมา.
"อย่าให้ข้าเป็นภาระ ไม่ช้าก็เร็วเรื่องนี้ก็ต้องเกิดขึ้น!"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวพลางทอดถอนใจ.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
"ข้าจะให้เจ้าและเจิ้งเอ๋อไปภพหยินกับข้า อย่างน้อยก็น่าจะเป็นการดีกว่า!"จงซานกล่าว.
"อืม!"กู่เฉียนโหยวพยักหน้า.
......
ภพหยิน.
ร่างแยกเงาจงซาน ได้นำคนที่สำคัญของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง กลับมายังตำหนักหยินหยางอีกครั้ง.
เหยี่ยนฉงจื่อที่จ้องมอง ตำหนักหยินหยาง ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย และทันใดนั้นชายในชุดคลุมสีดำก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าปราสาท.
"คารวะฝ่าบาท!"ราชาโครงกระดูก หวังคูที่กล่าวทำความเคารพจงซาน.
หวังคูที่ปรากฏขึ้นมาทันทีทันใด ทำให้หัวใจของเหยี่ยนฉงจื่อถึงกับบีบรัด คนผู้นี้ปรากฏขึ้นมาจากที่ใหนกัน?
"หวังกู เจ้านำยอดฝีมือช่างภูตสามตน เดินทางเข้าไปยังตำหนักหยินหยาง เดินทางไปยังโลกอีกฝั่งพร้อมกับหนี่ปู่ซา!"จงซานกล่าว.
"รับด้วยเกล้า!"จากนั้นคนห้าคนที่รับคำในทันที.
จากนั้น หนี่ปู่ซาก็นำคนทั้งหมดเดินทางเข้าไปยังในปราสาทหยินหยาง!
ทุกคนที่รอคอยอยู่ด้านนอกปราสาท.
เหยี่ยนฉงจื่อที่ขมวดคิ้วไปมา ฝ่าบาทกล่าวจริงรึ? เดินทางไปยังภพหยางได้อย่างงั้นรึ?
หลังจากผ่านไปราว ๆ หนึ่งก้านธูป.
"ครืนนนนน"
ตำหนักหยินหยางที่เปิดขึ้นเสียงดังสนั่น.
ในเวลาเดียวกัน ก็ปรากฏคนกลุ่มใหม่ที่ก้าวออกมาจากด้านใน.
หญิงสาวผู้งามงดหนึ่งคน พร้อมกับอีกสามคนเป็นชายที่สวมชุดที่ดูหรูหรามีสง่า.
พริบตาเดียวที่ประตูเปิด คนทั้งสี่ที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย จากนั้นก็ค่อย ๆ ปรับตัวก่อนที่จะก้าวออกมา.
"บุตรคารวะฟู่หวง!"ชายคนแรกในชุดสีขาวกล่าวต่อจงซาน!
"คารวะฝ่าบาท!"ชายอีกสองคนที่แสดงความเคารพเช่นกัน.
"ไม่ได้เจอกันนานทีเดียว ไม่จำเป็นต้องมากพิธี!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
ฟู่หวง? ชายคนนี้เรียกจงซานว่าฟู่หวง?
"คารวะหวงโห่ว!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพเช่นกัน.
หวงโห่ว(ฮองเฮา)? สตรีผู้นี้คือหวงโห่ว?
"คารวะหวงโห่วทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่น ๆ ปี คารวะไท่จื่อ!"ทุกคนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
เส้นทางหยินหยางประตูภพหยินหยางได้เปิดขึ้นอีกครั้งแล้ว โดยมีคนเก้วคนที่เข้าไปด้านใน โดยมีหนี่ปู่ซา หวังกู่ และสามผู้เชี่ยวชาญงานผีมือของเผ่าภูตสามตนเดินทางไปยังภพหยาง และกู่เฉียนโหยว จงเจิ้งและสมาชิกของหอการค้าต้าหรงอีกสองคนที่เดินทางมายังภพหยิน.
"หอการค้าต้าหรงในภพหยางนั้นถึงจุดอิ่มตัวแล้ว ตอนนี้หอการค้าต้าหรงของพวกเราถึงเวลาที่จะบุกเบิกภพหยินแล้ว!"จงซานกล่าว.
"ครับ ฟู่หวง!"จงเจิ้งที่รับคำในทันที.
"เซียนเซิงซือ ทิ้งเจียงซือสวรรค์แท้สองตนอยู่คอยช่วยเหลืออ๋องซาโพว เพื่อปกป้องตำหนักหยินหยางแห่งนี้เอาไว้."จงซานที่ออกคำสั่งอีกครั้ง.
"ครับ!"เซียนเซิงซือที่รับคำสั่งในทันที.
"ส่วนคนอื่น ๆ กลับตำหนักพร้อมกับข้า!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"
............
ภพหยาง.
หลังจากที่หนี่ปู่ซาและคนทั้งสี่ออกมา คนทั้งสี่เวลานี้จับจ้องมองพื้นที่รอบ ๆ ด้วยความประหลาดใจ.
โดยเฉพาะอย่างยิ่งราชาโครงกระดูก ที่ราวกับเต็มไปด้วยความสงสัย ขณะที่เขาออกมาจากห้องโถง เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า สามารถมองเห็นดวงตะวันสีทอง ไม่ได้ทำให้เขาหวั่นเกรงแต่อย่างใด ส่วนภูตอีกสามตนที่มีฝีมือในงานฝีมือ พวกเขาที่สวมชุดสีดำล้วนที่ปกป้องแสงแดงจากดวงตะวันที่มีพลังหยางเอาไว้.
ในเวลาเดียวกัน สี่ภูตทั้งสี่ที่จับจ้องมองไปยังจงซานในทันที.
ที่แห่งนี้ยังมีฝ่าบาทอีกคนอย่างงั้นรึ?
"ฝ่าบาท นี่คืออสูรซือเนา!"หนี่ปู่ซาที่นำขวดผนึกมอบให้กับจงซาน.
จงซานที่สะบัดมือรับอย่างนุ่มนวล พร้อมกับพยักหน้าให้.
"อู๋ซ่าง!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.
"เฉินอยู่นี่แล้ว!"ผู้บัญชาการจินอี้เหว่ย(ตำรวจวังหลวง) หลิวอู๋ซ่างที่ตอบรับคำในทันที.
"พาทุกคนไปพักก่อน แล้วข้าจะเรียกตัวอีกครั้ง!"จงซานกล่าว.
"รับด้วยเกล้า!"ทุกคนที่รับคำในทันที.
จากนั้น จงซานที่ได้ขวดผนึกอสูรซือเนา จากนั้นก็บินขึ้นมุ่งตรงไปยังตำหนักของตี้เสวียนชาด้วยความเร็ว.