Chapter 591 จงซานหนึ่งตัวแปรที่ผันเปลี่ยน.
เหล่าผู้ฝึกตนของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยที่พุ่งมาหาจงซาน ทันทีที่ชายในชุดสีขาวปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของจงซาน กลิ่นอายที่ทรงพลังก็ปะทุขึ้นมาในทันที.
กลิ่นอายดังกล่าวนี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก เพียงแค่ปลดปล่อยกลิ่นอายออกมาก็ทำให้ผู้ฝึกตนเหล่านั้นลอยโด่ง พ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
คนของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย เพียงแค่คน ๆ เดียวเท่านั้นที่ปรากฏขึ้นมา พวกเขายังไม่เริ่มก็ถูกกระแทกไปด้วยกลิ่นอายที่น่าหวาดกลัว.
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
เหล่าผู้ฝึกตนของต้าสุ่ยที่ลอยโด่งล่วงหล่นลง พ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง แววตาที่เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อ.
ในเวลานี้ชายในชุดสีขาวได้ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าจงซาน สายต้าที่ดูเกียจคร้าน จับจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า.
เหล่าผู้ฝึกตนมากมายที่หล่นกองอยู่บนพื้น แววตาที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจไม่แน่ใจ ไม่กล้าที่จะรุกเข้าไปอีกครั้ง.
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว! มาจากใหนกัน มีพลังที่ร้ายกาจน่าเกรงขามนัก! เพียงอึดใจเดียวก็ล้มพวกเขาทั้งหมดได้เลยรึ? ทุกคนที่จ้องมองชายในชุดสีขาวด้วยสีหน้าหวาดผวา หัวใจของพวกเขาที่เต้นไปมาสั่นไหวไปเอง แทบมาอยากเชื่อ.
คนที่มานี้ไม่ใช่ใครที่ใหน หากแต่เป็นจื่อจุ้นเผ่าหมาป่า ตี้เสวียนชานั่นเอง!
ตี้เสวียนชามา แม้ว่าจะดูเหมือนว่ามาสายไป ทว่าก็พอดี อย่างน้อยจงซานก็ไม่ต้องเผยความลับของตัวเองออกมา ดังนั้นถือว่าทันเวลาอย่างฉิวเฉียด.
การปรากฏตัวของตี้เสวียนชาในเวลานี้ ทำให้ทุกคนตื่นตกใจไม่น้อย.
บนท้องฟ้า แม้แต่จงซานเวลานี้ก็ไม่สามารถมองเห็นภาพได้ เห็นเพียงอากาศที่บิดเบี้ยวไปมา คลื่นพลังที่โบกสะบัดออกมาอย่างรุนแรง ครั้งแล้วครั้งเล่า มองเห็นเพียงพายุขนาดใหญ่ที่พัดโหมกระหน่ำจนไม่สามารถมองลึกลงไปด้านในได้.
แม้ว่าทุกคนไม่สามารถมองเห็นภายในได้ ทว่าคนทั้งสามนั้น สวีฝู่ อู๋เหินและตี้เสวียนชา เหล่ายอดฝีมือย่อมมองเห็นได้.
กับการปรากฏตัวของตี้เสวียนชาในครั้งนี้ ทำให้ทุกคนรู้สึกระมัดระวัง และตื่นตะหนกขึ้นมาในทันที.
อู๋หวนที่จ้องมองตี้เสวียนชาด้วยท่าทางประหลาดใจ ไม่ชัดเจนนัก ไม่ใช่ว่าตี้เสวียนชาอยู่บนทวีปศักดิ์สิทธิ์ภาคตะวันออกเฉียงใต้หรอกรึ? นี่เขามาได้อย่างไร? เขาไม่ได้อยู่เกาะหมาป่าสวรรค์รึ?
การที่มีตี้เสวียนชาเพิ่มมาเพียงคนเดียว ก็เป็นเหตุให้แผนการที่สมบูรณ์แบบของราชวงสวรรค์ต้าสุ่ย เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง กลายเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนมากยิ่งกว่าเดิม.
สถานการณ์เวลานี้ไม่ค่อยดีนัก!
"นับเป็นงานชุมนุมใหญ่จริง ๆ !"สวีฝู่ที่เผยรอยยิ้มที่ประหลาดใจเล็กน้อย.
การการต่อสู้ที่หนักหน่วงบนท้องฟ้า เพราะว่าการมาถึงของตี้เสวียนชา ทันใดนั้นการต่อสู้ก็ค่อย ๆ สงบลง.
สามผู้เยี่ยมยุทธ์ ที่ยืนอยู่คนละมุมเป็นรูปสามเหลี่ยม.
บนร่างของเนี่ยฟ่านเฉินชุดราชวงศ์ที่เป็นรูขาดหลายแห่ง ทว่าอีกสองคนก็ไม่ต่างกัน ทว่าก็ไม่ได้หนักหนานัก เนี่ยฟ่านเฉินที่ขยับร่างกายสั่นไหวไปมา ชุดที่ขาดก็กลับมาฟื้นฟู ส่วนเต๋าจวินเซิงหยาและลู่จิวเทียนเองก็เช่นกัน.
คนทั้งสามที่จ้องมองมายังตี้เสวียนชา.
มีผู้ฝึกตนสวรรค์แท้มาเพิ่มอีกแล้วอย่างงั้นรึ? นี่มันวันอะไรกัน ไม่ใช่ว่าผู้ฝึกตนสวรรค์แท้หายากไม่ใช่หรอกรึ?
ตี้เสวียนชา จื่อจุ้นเผ่าหมาป่า หลังจากที่กลายเป็นระดับสวรรค์แท้ ก็ยากที่จะเห็นเขาลงมือ ทว่าพวกเขารับรู้เพียงแค่ครั้งเดียว คือการต่อสู้กับจื่อจุ้นเผ่ามังกรครั้งแรกและครั้งเดียว.
จื่อจุ้นเผ่ามังกร ทรงพลังไร้เทียมทาน ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนสวรรค์แท้ด้วยกัน เขาก็นับว่าเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุด มีความแข็งแกร่งที่สุด สังหารสะสมวาสนาจากเผ่าอสูรอีกหลายเผ่า จื่อจุ้นเผ่ามังกรขึ้นชื่อในความดุร้ายอย่างแน่นอน หลายพันปีก่อน ขณะที่ตี้เสวียนชาทะลวงระดับมาถึงระดับสวรรค์แท้ไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ แต่กลับเป็นตี้เสวียนชาที่ผลักดันจื่อจุ้นเผ่ามังกรให้ออกจากโลกใบเล็กจากไป.
นับตั้งแต่นั้นมา ตี้เสวียนชาก็กลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ไร้คู่เปรียบแทน.
ไม่มีใครกล้าดูแคลนตี้เสวียนชา ทว่าตี้เสวียนชานั้นใช้ชีวิตสมถะ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับเผ่าอื่นนัก ทำให้ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายใจอยู่เช่นกัน.
ตี้เสวียนชาย่อมไม่เคลื่อนไหวหากไม่มีเหตุผล การที่เขามาที่นี่ทันทีทันใดนั้นเนื่องจากอะไร? เขามาทำอะไร? มีอะไรที่ทำให้เขามาที่นี่?
หากว่ามาเพื่อราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย เนี่ยฟ่านเฉินคงถึงจุดจบ! ทว่าหากมาเพื่อเนี่ยฟ่านเฉินล่ะ?
สามยอดฝีมือที่หยุดลงในทันที ต้องไม่ลืมด้วยว่า ระหว่างต่อสู้ หากพวกเขาพลาดพลั้งเผยจุดอ่อนแล้วถูกลอบโจมตีล่ะ? นอกจากนี้ตี้เสวียนชายังเป็นจื่อจุ้นที่น่าเกรงขาม การต่อสู้ของคนทั้งสาม หากตี้เสวียนชาลอบโจมตีฝั่งใดฝั่งหนึ่งจะต้องพังทลายพ่ายแพ้อย่างแน่นอน.
ทว่าในเวลาเดียวกันนี้ เทียนหลิงเอ๋อที่อัญเชิญหงสาเพลิงออกมา.
หงสาเพลิงตอนนี้ท่าทางค่อนข้างอ่อนแรง ทว่าในทันใดนั้น ก็เกิดสถานการณ์แปลก ๆ มันที่จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่เนี่ยฟ่านเฉินลอยอยู่ สายตาของหงสาเพลงที่แสดงท่าทางประหลาดใจ ก่อนที่ดวงตาของมันจะมีสีแดงระเรื่อปนอยู่.
ที่มุมปากของเนี่ยฟ่านเฉินเวลานี้เผยยิ้มออกมาด้วยท่าทางดีใจ.
หงสาเพลิงออกมาแล้ว อู๋จิวเทียนย่อมรับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่.
ความสัมพันธ์ของหงสาเพลิงและอู๋จิวเทียนนั้น มีเพียงแค่เนี่ยฟ่านเฉินคนเดียวเท่านั้นที่รู้ ทว่าก่อนหน้านี้ ราวกับว่าเต๋าจวินเซิ่งหยาจะรับรู้เรื่องนี้ด้วยอีกคน เป็นเรื่องที่ทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวหาได้สำคัญแล้วไม่ ตราบเท่าที่หงสาเพลิงเห็นตัวเขา เรื่องทุกอย่างก็จะไปถึงอู๋จิวเทียน เพราะว่าอู๋จิวเทียนและหงสาเพลิงนั้น มีร่างที่เชื่อมต่อ เป็นร่างกายที่แปลกประหลาดนัก.
"เจ้าจะขวางข้าได้นานเท่าไหร่กัน?"เนี่ยฟ่านเฉินที่จ้องมองไปยังลู่กุยเทียนด้วยเสียงที่เคร่งขรึม.
"ชิ!"ลู่จิวเทียนแค่นเสียงเย็นชา.
"ตี้เสวียนชา เจ้ามาที่นี่ทำอะไรอย่างงั้นรึ?"เต๋าจวินเซิ่งหยากล่าวออกมาด้วยเสียงที่เย็นชา.
เต๋าจวินเซิ่งหยาไม่ได้แสดงท่าทางอหังการออกมาแต่อย่างใด เพราะว่าต่อหน้าตี้เสวียนชานั้น เขามีความแข็งแกร่งที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก เต๋าจวินเซิ่งหยาสามารถสังหารผู้ฝึกตนสวรรค์แท้ได้ ทว่าต้องเป็นระดับสวรรค์แท้ทั่วไปเท่านั้น เหมือนดั่งเช่นขันทีชราก่อนหน้านี้ แม้ว่าขันทีชราจะมีระดับสวรรค์แท้ ทว่าแน่นอนว่าไม่มีทางสามารถนำมาเทียบกับตี้เสวียนชาได้ ตี้เสวียนชาก่อนหน้านี้หลายพันปียังทรงพลังแม้แต่ทำให้จื่อจุ้นเผ่ามังกรที่ดุร้ายพ่ายแพ้จวบจนต้องถูกผลักออกไปจากโลกใบเล็กไป.
"ข้ามาแค่พบใครบางคน เชิญทุกต่อได้เลยไม่ต้องสนใจข้า!"ตี้เสวียนชากล่าว.
ต่ออย่างงั้นรึ? ในเวลานี้ ใครจะมีกระใจทำอะไรต่อไปล่ะ จะทำอะไรโดยที่ตี้เสวียนชาอยู่ด้านหลังนะรึ? พวกยังไม่รู้ว่าตี้เสวียนชามีจุดประสงค์อะไร ยืนอยู่ฝั่งใหน หากว่าถูกตี้เสวียนชาลอบโจมตีล่ะ?
ทั้งสามบนท้องฟ้าที่ยังคงประหลาดใจลังเลใจ หากว่าถูกลอบโจมตี สถานการณ์จะยิ่งกลายเป็นซับซ้อนยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้การปรากฏขึ้นของสวีฝู่ ทำให้สถานการณ์แย่ลงไปแล้ว ทำให้อู๋หวนไม่สามารถเข้าร่วมการต่อสู้ได้ ตอนนี้มีตี้เสวียนชาอีก บางที อู๋จิวเทียนก็อาจจะมาถึงเร็ว ๆ นี้ ไม่ ๆ แม้นว่าอู๋จิวเทียนจะรับรู้ หากแต่สถานที่แห่งนี้ก็ไม่ใกล้นัก อย่างน้อย ก็ต้องใช้เวลา 7-8 วันในการเดินทางมา.
หากแต่ การจัดการกับเนี่ยฟ่านเฉินก็ยังไม่สามารถรับประกันได้อย่างแน่นอน.
"ใครที่เจ้ามาพบ?"ลู่กุยเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา.
ลู่กุยเทียนต้องจัดแจงสถานะของตี้เสวียนชาให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะดำเนินการขั้นต่อไป.
ตี้เสวียนชาจ้องมองไปยังจงซานและกล่าวว่า"แน่นอนว่าต้องเป็นจักรพรรดิต้าเจิ้ง!"
จงซาน? สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังจงซานในทันที ตอนนี้กับทิศทางของการต่อสู้ที่เกิดขึ้น ได้ไปอยู่ที่จงซานแล้ว.
ระดับสวรรค์แท้ไม่มีใครกล้ากระทำอะไรอย่างเร่งรีบ เพราะว่าจงซาน! ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเพียงแค่แขกคนหนึ่งในงานแข่งขันหมื่นเม็ดยาเท่านั้น.
"งั้นเจ้าก็พาจักรพรรดิต้าเจิ้งและคนของเขา ไปให้เร็ว!"ลู่กุยเทียนที่อดรนทนไม่ไหวเอ่ยออกมา.
ตี้เสวียนชาที่จ้องมองไปยังจงซาน สายตาของเขาที่เป็นเชิงสอบถาม.
สายตาของทุกคนเวลานี้ ไม่อยากเชื่อ ตี้เสวียนชาจ้องมองจงซานเพื่อสอบถามอย่างงั้นรึ? เขาไม่ได้ตัดสินใจเองรึ? ตี้เสวียนชาที่เป็นคนที่มีชื่อเสียงว่าเป็นสุดยอดยุทธ์ไร้คู่เปรียบเมื่อหลายพันปีก่อน นอกจากนี้นามของเขานั้นยังน่าหวาดหวั่นเป็นอย่างมาก ตอนนี้กับรอฟังความเห็นจากจักรพรรดิเผ่ามนุษย์อย่างงั้นรึ?
เต๋าจวินเซิ่งหยาหรี่ตาจ้องมองจงซาน ลู่กุยเทียนเองก็ขมวดคิ้วจ้องมองจงซาน เนี่ยฟ่านเฉินก็จ้องมองมายังจงซาน ดวงตาที่เปล่งประกายเล็กน้อย อู๋หวนที่แสดงท่าทางจริงจัง สวีฝู่เองก็แสดงท่าทางสนใจเช่นกัน.
ส่วนตี้เสวียนชานั้น เขาไม่ได้รับคำสั่งจงซานแต่อย่างใด หากแต่สถานการณ์เวลานี้ มันซับซ้อนไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดเจนว่ามันมีผลต่อทั่วทั้งทวีปศักดิ์สิทธิ์ ไม่สามารถที่จะตัดสินใจลวก ๆ ได้ ในอนาคตนั้นมันจะส่งผลที่ย่ำแย่ต่อเผ่าหมาป่าด้วยก็ได้ เผ่าหมาป่าและจงซานนั้นมีความเกี่ยวพันกัน เกี่ยวกับการตัดสินใจของจงซานก็เหมือนกับการตัดสินใจของพวกเขา นอกจากนี้ แม้ว่าตี้เสวียนชาจะมีพลังฝึกตนที่ยากจะมีใครในโลกใบนี้เทียบได้ ทว่าภายใต้สวรรค์แผนการกการกลยุทธ์การวางแผนที่เหมือนกับการเล่นหมากรุกนี้ กับการมองสถานการณ์โดยรวมเขายังด้อยกว่าจงซาน ต่อหน้าจงซานเขาย่อมเชื่อในการตัดสินใจวิสัยทัศน์ของจงซานด้วยนั่นเอง.
ในเวลานี้ ยุคสมัยของเผ่าหมาป่าที่จะรุ่งเรืองได้หรือไม่นั้น ตี้เสวียนชาได้ฝากเอาไว้กับจงซานแล้ว.
"ตอนนี้ไม่สามารถจากไปได้!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"เหล่าผู้ฝึกตนสวรรค์แท้รู้สึกตกใจเล็กน้อย จงซานต่อหน้ากลุ่มของระดับสวรรค์แท้ เขาไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงเลยอย่างงั้นรึ?
อย่างไรก็ตามทุกคนย่อมสามารถเข้าใจได้กับการมีตี้เสวียนชาคอยคุ้มกัน จงซานย่อมมีสถานะที่มั่นคง.
"หืม?"ตี้เสวียนชาจ้องมองไปยังจงซาน รอคอยจงซานกล่าวต่อ.
ตี้เสวียนชารับรู้ว่าจงซานเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมดดี เขาคืออสุรกายพรสวรรค์ การกระทำของเขานั้นน้ำไม่รั่วสักหยด ถึงแม้ว่าหากต้องล่วงเกินใคร แน่นอนว่าย่อมต้องมีเหตุผลเพื่อรองรับ.
"ในคราวนี้พวกเราเดินทางมาเข้าร่วมงานชุมนุมหมื่นเม็ดยา เพื่อแย่งชิงแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล ตอนนี้การแข่งขันยังไม่สามารถบอกได้ถึงผู้ชนะและพ่ายแพ้ พวกเราไม่สามารถนำแท่นปรุงยากลับไปได้ จะให้พวกเรายอมถอดใจจากไปอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาในทันที.
เป็นความจริงเหตุผลของจงซานนั้นไร้ซึ่งข้อบกพร่อง ที่ทำให้คนอื่น ๆ ไม่สามารถโต้แย้งออกมาได้เลย กับเหตุผลของเขาในเวลานี้ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับข้อขัดแย้งของพวกเขาแม้แต่น้อย นับว่าเป็นเชาว์ปัญญาที่ยอดเยี่ยมของจงซาน.
จงซานได้คำนวณอย่างดี แท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะถือครอง ต้องไม่ลืมว่าฝั่งของจงซานที่หลอมเม็ดยาเซียนขึ้นมาได้ เป็นความจริงที่คนอื่น ๆ ไม่สามารถโต้เถียงได้.
อีกอย่างหนึ่ง มันยังมีความเกี่ยวข้องกับสวีฝู่ต้าฉิน ซึ่งฉีฝูเองก็หลอมเม็ดยาเซียนได้เช่นกัน แน่นอนว่าการตัดสินของคนทั้งสองยังไม่ยุติ จะเป็นไปได้อย่างไรที่สวีฝู่จะยอมวางมืออย่างงั้นรึ?
ทว่ายังไม่จบเท่านั้น คนทั้งสองที่หลอมเม็ดยาเซียนได้ ยังมีเนี่ยฟ่านเฉินที่นำของวิเศษทั้งสามชิ้นของสำนักหว่านกู่ออกมาเพื่ออ้างสิทธิ์รับแท่นปรุงยานี้ไป เนี่ยฟ่านเฉินก็มีโอกาสได้ครองเช่นกัน.
เรื่องนี้มีการขัดแย้งอยู่ไม่น้อย พัวพันหลายชั้น ที่จริงแผนการนี้น่าจะเป็นลู่กุยเทียนที่วางแผนมอบของวิเศษทั้งสามให้กับเนี่ยฟ่านเฉินถือครอง แม้ว่าลู่กุยเทียนจะไม่ได้สนใจแท่นเวทีหมื่นเม็ดยาบรรพกาล ทว่าแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการที่เขาล่อเนี่ยฟ่านเฉินออกมา.
ฝ่ายแรก จงซานและตี้เสวียนชา!
ฝ่ายสอง ต้าฉิน สวีฝู่!
ฝ่ายสาม เนี่ยฟ่านเฉิน.
ฝ่ายสี่ ลู่กุยเทียน อู๋หวนและเต๋าจวินเซิ่งหยา.
อย่างไรก็ตามทุกคนรับรู้ว่าความต้องการของจงซานนั้นเรียบง่ายนัก ทว่าก็ดึงให้ทุกคนต้องครุ่นคิดอย่างหนักทีเดียว ลู่กุยเทียนต้องการปล่อยเวทีปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลรึ? เนี่ยฟ่านเฉินล่ะ สวีฝู่ล่ะ แล้วยังมีจงซานอีก.
กล่าวได้ว่าความสัมพันธ์ของสี่ฝ่ายนั้น เป็นเพราะแท่นปรุงเม็ดยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลนี้ ทำให้สถานการณ์ดังกล่าวนี้เต็มไปด้วยความซับซ้อน.
ใช่แล้ว แท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล? หลาย ๆ คนเวลานี้เริ่มครุ่นคิดว่าจะจัดการอย่างไรดี.
"งั้นเจ้าก็นำมันไปด้วยซะ!"ลู่กุยเทียนทีกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ไม่ได้ ไม่ได้!"สวีฝู่ที่ส่ายหน้าไม่ยินยอมในทันที.