Chapter 577 สงครามของบิดาและอดีตบุตรบุญธรรม.
จงซานที่เป็นผู้ปกครองเมืองเหยี่ยนหงชั่วคราว!
แม้ว่าจงซานจะเป็นคนนอก ทว่าเหล่าเสนาธิการต่างก็รับรู้ความสามารถของจงซานดี เขาที่บริหารทั้งการเมืองและการทหาร โดยเฉพาะการทหารที่สั่งการอย่างรวดเร็ว.
ทัพต่าง ๆ ที่ถูกจงซานส่งออกไปรอบ ๆ .
จงซานไม่ต้องการให้สงสัยว่าเขาต้องการอำนาจของอาณาจักร ดังนั้นเขาจึงได้มาอาศัยอยู่ในเมืองทางทิศตะวันออก ไม่ได้เข้าไปในวังหลวง.
ภายในตำหนักตะวันออกนั้น จงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะบัญชาการ ที่ด้านหน้านั้นมีกลุ่มของของจักรพรรดิเหยี่ยนหง.
"จักรพรรดิจง ราวกับเทพสงคราม ด้วยการวางแผนของท่าน ทำให้ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยหยุดชะงัก แม้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะชนะหรือแพ้ หากว่าพวกเขาหยุดลง ท้ายที่สุดราชวงศ์ของพวกเราจะต้องโต้กลับได้อย่างแน่นอน!"แม่ทัพใหญ่ที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ใช่ นี่นับเป็นครั้งแรกที่หยุดการเคลื่อนทัพของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยลงได้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยคาดคิดเลย แม้แต่มีโอกาสมีชัย ขวัญกำลังใจทหารที่เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน."ชายชรากงเหว่ยที่เอ่ย
"ไม่ นี่เป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย อีกไม่นานก็จะมีสงครามที่แท้จริง!"จงซานกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?"
"ทหารสังเกตการณ์ได้รายงานมาแล้วว่าทัพหลังของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยนั้นได้เข้ามาใกล้เมืองเหยี่ยนหงแล้ว อีกห้าวัน จะต้องมาถึงที่นี่แน่!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
จงซานกล่าวทำให้ทุกคนกลายเป็นเงียบงัน.
"เรื่องนี้ ด้วยการมีจักรพรรดิจงบัญชาการ ไม่น่าจะมีปัญหา!"กงเหว่ยกล่าว.
"ที่ข้าต้องบอกเช่นนั้นมันขึ้นอยู่กับพวกเจ้าจะรวมใจเป็นหนึ่งได้หรือไม่!"จงซานที่จ้องมองไปยังคนทุกคน.
"แน่นอนว่าพวกเราย่อมมีจิตใจเป็นหนึ่ง หากประเทศล่ม ครอบครัวก็ต้องสิ้น พวกเราจะไม่เป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร?"กงเหว่ยที่เอ่ยปากออกมาทันที.
"อืม งั้นเจ้าจงไปเปลี่ยนยามเฝ้าประตูทั้งสี่ เปลี่ยนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่เจ้าวางใจที่สุด คนที่เจ้าสนิทสนมคุ้นเคยก็ได้!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"หืม?ทั้งสี่ประตูอย่างงั้นรึ?"กงเหว่ยที่กลายเป็นงงงวย.
จงซานที่ยื่นจดหมายหลายฉบับ ออกไปด้านหน้า กงเหว่ยที่คว้ามาในทันที กวาดตามองด้วยความสงสัย จ้องมองเกี่ยวข้อมูลดังกล่าว ใบหน้าของกงเหว่ยที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง ก่อนที่จะกลายเป็นโกรธเกรี้ยว.
"บ้าที่สุด แย่ที่สุดเลย! คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ายอมจำนนศัตรู!"กงเหว่ยที่กล่าวอกมาด้วยความโกรธ.
"กงเหว่ย มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ชายที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวสอบถามออกมา.
กงเหว่ยที่ต้องการกล่าวอะไรบางอย่าง จงซานที่กล่าวขัดในทันที "พวกเจ้าออกไปจัดการให้เรียบร้อย เรื่องนี้พวกเจ้าจัดการน่าจะเหมาะกว่า!"
"ครับ ขอบคุณจักรพรรดิจง พวกเราจะออกไปจัดการเดี๋ยวนี้!"กงเหว่ยที่โค้งคำนับ จากนั้นก็พาคนของเขาออกจากห้องโถงอย่างรวดเร็ว.
"ฝ่าบาท เรื่องนี้...."จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เหล่าจ้าว เจ้าจงให้กองกำลังทวนเหล็กของเจ้าพักผ่อน อีกไม่กี่วันนี้จะมีการต่อสู้ใหญ่ขึ้น ก่อนหน้านี้ทั้งศิลาวิญญาณและเม็ดยาที่ข้ามอบให้ อย่าได้เสียดายใช้มันให้หมด เมื่อกลับไปยังราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งแล้ว จะมีให้มากกว่านี้อีก!"จงซานกล่าว.
ห้าวันหลังจากนั้น ไท่จื่อฉงเทียนที่นำกองกำลัง 1.5 ล้านคนเดินทางมาถึงเมืองเหยียนหงทางตะวันออก ที่ไกลออกไปนั้นสามารถมองเห็นวาสนาแผ่นดินของเมืองได้.
"รายงาน!"ทหารสังเกตการณ์คนหนึ่งที่เอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว.
"กล่าว!"ไท่จื่อฉงเทียนที่นั่งอยู่บนอาชาทมิฬปิศาจมายา.
"กองกำลังปีกซ้ายขวาเจ็ดกอง ถูกลอบโจมตีทั้งหมด เหลือเพียงแค่สองกองที่หนีกลับมาได้ ตอนนี้ได้เข้ารวมกับทัพใหญ่แล้ว!"ทหารสังเกตการณ์กล่าวรายงาน.
"เจ้าพวกสารเลว!"ไท่จื่อฉงเทียนที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.
ทหารสังเกตการณ์ณ์ที่ได้แต่เงียบไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมา.
หวังเฉินที่อยู่ข้าง ๆ อาชาทมิฬ ซึ่งได้เดินทางมาด้วย.
"หวังเฉิน เจ้ามีฟู่อี้ที่ยอดเยี่ยม หลายวันมานี้ สามารถจัดการกองกำลังปีกซ้ายขวาของพวกเราเสียหายย่อยยับ แผนการที่ร้ายกาจนี้ เจ้าลองบอกซิว่ามีแผนการใดที่จะจัดการกับเขา?"ไท่จื่อฉงเทียนที่กล่าวออกด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน.
"ไท่จื่อฉีโปรดระวังคำพูด หวังเฉินได้บอกกล่าวแจ้งให้ฟังแล้ว ข้าและจงซานนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว อย่าได้ตำหนิข้าเพราะว่ากำลังโกรธ!"หวังเฉินที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ชิ!"ไท่จื่อฉงเทียนที่กำลังหัวร้อนเป็นอย่างมาก.
ที่ไกลออกไปนั้น สามารถมองเห็นป้อมปราการบนกำแพงเมืองได้.
ปรากฏเป็นชายผู้หนึ่งที่ยืนอยู่บนป้อมปราการ ดวงตาของไท่จื่อฉงเทียนที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา เป็นจงซานนั่นเอง.
"ดี ในเมื่อเจ้าไม่มีความรู้สึกอะไรกับจงซานอีกต่อไปแล้ว? เช่นนั้น เจ้าจงไปนำหัวของจงซานมาให้ข้าในตอนนี้!"ไท่จื่อฉงเทียนที่แค่นเสียงเย็นชา.
หวังเฉินที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน.
"ไม่กล้าอย่างงั้นรึ? ฮ่าฮ่าอ่าอ่า!"ไท่จื่อฉงเทียนที่หัวเราะเสียงดัง.
"เป็นคำสั่งทางทหารอย่างงั้นรึ?
"ใช่แล้ว นี่คือคำสั่งทางทหาร หวังเฉิน ตอนนี้เจ้าเป็นรองแม่ทัพจงออกคำสั่งบุกทะลวง นำทัพเข้าโจมตีเมืองเหยี่ยนหงซะ จับตัวจงซานนำหัวของเขากลับมา!"ไท่จื่อฉงเทียนที่ออกคำสั่ง แววตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาจับจ้องมองไปยังหวังเฉิน.
"น้อมรับคำสั่ง!"หวังเฉินที่รับคำในทันที.
จากนั้น หวังเฉินที่กระชับอาชา นำกองกำลังอาชาทมิฬปิศาจมายาพุ่งตรงไปยังด้านหน้า ในเวลานี้ มีกองกำลังทหาร 5000 นายที่สวมชุดสีแดง!
นี่คือกองกำลังส่วนตัวของหวังเฉิน เป้าหมายคือการเปิดทาง เพื่อยึดครองเมืองเหยียนหง พร้อมกับตัดหัวจงซานกลับมา.
ในท้ายที่สุดก็ต้องเผชิญหน้ากัน ก่อนหน้านี้หวังเฉินที่หลบเลี่ยงโดยตลอด ตอนนี้เขาได้นำทัพพุ่งตรงไปยังแนวหน้า.
บนป้อมปราการที่สูงขึ้นไป จงซานที่จับจ้องมองลงมาด้านล่าง จับจ้องมองทัพที่อยู่ไกลออกไป ก่อนหน้านี้จงซานรับรู้มานานแล้ว รับรู้ข่าวต่าง ๆ จากทหารสังเกตการณ์ณ์ที่นำมา.
ไท่จื่อฉงเทียน?หวังเฉิน?
ไม่ไกลออกไป จงซานสามารถมองเห็นหวังเฉินได้ และเขาจดจำหวังเฉินได้ในทันที.
จงซีจิว? ก่อนหน้านี้เขาคือบุตรบุญธรรมที่เขาเอ็นดูที่สุด? และเป็นบุตรที่อกตัญญูที่สุดด้วยนั่นเอง?
ที่ด้านหน้าหวังเฉินที่นำทัพบุกเข้ามา ตรงออกมายังแนวหน้า ภายในใจของจงซานที่กำลังหนักขึ้น พร้อมปะทุขึ้นในทันที.
บิดาและบุตรบุญธรรม คาดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาห้ำหั่นกัน เกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนมากมาย! เวลานี้เกิดเป็นความปฏิปักษ์ให้กับจงซานมากยิ่งขึ้น.
จงซานที่ยังคงเงียบงัน ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา.
ที่ไกลออกไปนั้น หวังเฉินที่นำทัพออกมา จดจ้องมองขึ้นไปบนป้อมปราการ สายตาของเขาที่จ้องมองจงซาน หาได้มีความรู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย เต็มไปด้วยความเฉยเมย.
ไท่จื่อฉงเทียน จ้องมองเย็นชา เขาที่รู้สึกไม่ดีกับหวังเฉินเท่าใดนัก ไม่นานมานี้เขาที่พบว่าคนผู้นี้เคยเป็นบุตรบุญธรรมของจงซาน เรื่องนี้ช่างเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก.
"จักรพรรดิจง จักรพรรดิจง...."เสนาธิการที่อยู่ด้านข้างเอ่ยต่อจงซาน.
จงซานที่เป็นเหมือนเทพสงครามที่เป็นที่พึ่งของพวกเขา.
"อืม!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
"ในเวลานี้ ต้องทำอย่างไร?"กงเหว่ยที่กล่าวด้วยความเป็นกังวล.
จงซานที่ไม่ตอบ ทว่าสูดหายใจลึก จดจ้องมองหวังเฉินที่อยู่ไกลออกไป ภายในใจของจงซานที่ยับคงซับซ้อน คาดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาพบเจอกับบุตรอกตัญญูผู้นี้ มันยิ่งกระตุ้นให้เขาพลุ้งพล่าน เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองอย่างที่สุด ด้วยบุตรอกตัญญูที่ทิ้งเขาไป ภายในใจของเขาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึก ขึ้น ๆ ลงเช่นกัน.
"จ้าวโส่วเซี่ยง!"จงซานที่เอ่ยออกมาทันที.
"เฉินอยู่นี่แล้ว!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่รับคำในทันที.
"เจ้าคิดว่าอย่างไร?"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้มาได้ หวังเฉิน นับว่าเป็นคนที่มีความสามารถที่หายาก มีพลังฝึกตนที่พัฒนารวดเร็ว เพียงไม่นานก็ก้าวไปถึงระดับหลอมกายธาตุแล้ว ข้าเองก็มีระดับหลอมกายธาตุเช่นกัน ขอให้ฝ่าบาทอนุญาต เฉินจะเข้าร่วมสงคราม และจับเป็นเขากลับมา!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
"เฮ้เฮ้ จับเป็นรึ? มันไม่ใช่เรื่องง่าย!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"เฉินจะไม่ทำให้ฝ่าบาทต้องผิดหวัง!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ยังคงกล่าวอย่างมุ่งมั่น.
"ไม่ ข้าไม่ได้ไม่เชื่อฝีมือของเจ้า ด้วยความสามารถของเจ้านั้น แม้แต่ระดับจักรพรรดิพรรดิแท้ยังยากที่จะต่อกรกับเจ้าได้ ทว่าข้าต้องการเตือนเจ้าอย่างหนึ่ง!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.
"หืม?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ตกใจเล็กน้อย.
ทว่าทุกคนที่อยู่ข้าง ๆ รู้สึกประหลาดใจ จ้าวโส่วเซี่ยงที่มีระดับหลอมกายธาตุ?สามารถจัดการระดับจักรพรรดิแท้ได้รึ? เป็นเรื่องน่าขันนัก เป็นไปได้อย่างงั้นรึ?
"หวังเฉินนั้น นามเดิมคือจงซือจิว ครั้งหนึ่งเคยเป็นบุตรบุญธรรมของข้า!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"หืม?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่แสดงท่าทางงงงวย.
"หืม!"เหล่าข้าราชบริพารที่อยู่รอบ ๆ รู้สึก ราวกับว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ?
บุตรบุญธรรมของจงซานรึ?
"แน่นอน ร้อยปีก่อน เขาได้เลือกที่จะปฏิเสธฟู่อี้คนนี้!"จงซานที่เผยรอยยิ้มที่ขมขื่น.
"เป็นบุตรอกตัญญูที่ชั่วช้านัก!"แววตาของจ้าวโส่วเซี่ยงที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว.
"เฮ้เฮ้ ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ต้องการย้ำเตือนเจ้า ความแข็งแกร่งของหวังเฉินนั้นไม่สามารถประมาทได้แน่นอน ข้าจงซานนั้นมีบุตรบุญธรรมกว่าร้อยคน หวังเฉินนับเป็นคนที่มีความสามารถที่สุด นอกจากนี้เชาว์ปัญญาของเขานั้น ไม่ธรรมดาเลย อาจจะดูคล้ายกับข้าเป็นอย่างมาก!"จงซานที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
ความสามารถของหวังเฉิน เป็นอันดับหนึ่งอย่างงั้นรึ? แล้วเชาว์ปัญญาของหวังเฉินอีก? นับว่าเป็นคนที่มากความสามารถเลยไม่ใช่รึ?
ความสามารถที่ปรากฏของหวังเฉินนับว่าไม่ธรรมดา เขาที่มีตำแหน่งเป็นผู้บังคับบัญชา ตำแหน่งของหวังเฉินที่เพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว การที่เขานำทัพออกมา แน่นอนว่าจะต้องไม่ธรรมดาแน่ ความสามารถของเขา ไม่สามารถที่จะประมาทได้เลย.
ยิ่งคำเตือนของจงซานที่กล่าวออกมาว่า เขาดูเหมือนกับจงซานมาก.
ความสามารถของจงซานนั้นเป็นที่ประจักษ์ต่อพวกเขาแน่นอน นั่นก็แสดงว่าหวังเฉินนั้นมีความสามารถที่ไม่ธรรมดาแน่.
เหมือนจงซาน? นั่นหมายความว่าหวังเฉินนั้นมีเชาว์ปัญญาที่ร้ายกาจอย่างแน่นอน.
แล้วพลังความแข็งแกร่งเอง ก็ดูเหมือนจงซานด้วยอีกรึ?
"รับทราบ!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่สูดหายใจลึก ไม่กล้าที่จะประมาทเช่นกัน.
"เจ้านำกองกำลังทวนเหล็กของเจ้าออกไปจัดการเขา หากแต่ต้องมองความปลอดภัยของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ครับ!"จ้าวโส่วเซี่ยงพยักหน้ารับ.
จากนั้น จ้าวโส่วเซี่ยงที่ก้าวออกไปจากกลุ่ม ก้าวลงบันไดป้อมปราการไปยังทัพของเขา.
จงซานที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป ยังคงจดจ้องมองไปยังหวังเฉินที่ด้านหน้าเช่นกัน.
ในสายตาของจงซานที่ดูจริงจัง ไม่รู้เช่นกันว่าความรู้สึกระหว่างคนทั้งสองเป็นเช่นไร ทว่ากับความสำเร็จและล้มเหลวของสงคราม ไม่สามารถนำมันมาใส่ใจได้.
"ลั่นกลองรบ ข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม!"ไท่จื่อฉงเทียนที่อยู่ไกลออกไปด้วยรอยยิ้ม.
เสียงกลองรบ ดังนั่นราวกับฝ่าผ่าดังก้องกังวานไปทั่วทุกสารทิศ.
"ตรึม ตรึม ตรึม......."
เสียงกลองรบที่ดังก้องกังวาน กระจายไปทั่วสนามรบ แรงกดดันความตึงเครียดที่กระจายไปทั่วเมืองเหยี่ยนหง เหล่าทหารของเมืองเหยี่ยนหง ถึงกับสั่นสะท้านเลยทีเดียว.
"รับคำสั่ง ยึดเมืองเหยี่ยนหง กุดหัวจงซานมาให้ได้!"หวังเฉินที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
"โฮกกกกกกก"
เสียงของกองกำลังขนาดใหญ่ที่คำรามดังสนั่น เต็มไปด้วยความฮึกเหิมตามกลองสวรรค์ จิตสังหารที่อบอวลไปทั่วสนามรบ.
จงซานที่หันหน้ากลับไป จดจ้องเหล่าทหารที่แข็งขาอ่อนกันแล้ว ดวงตาที่หดเกร็ง "แม้ว่าขลาดเขลาก็หาได้มีประโยชน์อะไร จงมีมุ่งมั่นปรารถนาที่จะรักษาเมืองเอาไว้ จดจำเพียงแค่นี้ก็พอ ลั่นกลองรบ เตรียมเข้าปะทะศัตรู!"
"รับทราบ!"เหล่าทหารที่สลัดความหวาดกลัวออกไปในทันที พร้อมกับจดจ้องมองด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า!"
"ตรึม ตรึม ตรึม......"
บนป้อมปราการเสียงของกลองรบที่ดังสนั่นไปทั่วเมืองเช่นกัน จ้าวโส่วเซี่ยงที่สวมชุดสีขาว ถือหอกสีเงิน พร้อมกับนำกองทัพทวนเหล็ก ออกไปพบกับศัตรู.