Chapter 576 ฟู่อี้จงซาน.
"เจ้าไม่ได้เข้าใจผิดหรอก บางทีข้าอาจจะหลุดการควบคุม หากว่าข้าต้องพบกับเขา!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่เคร่งขรึม
"หืม? มีคนที่จะทำให้ท่านหลุดการควบคุมด้วยรึ?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ข้าเพียงแค่บอกว่าบางที เขาก็คือไท่จื่อเหล่ยเทียน!"จงซานที่สูดหายใจลึก ดวงตาที่มีเส้นเลือดฝอยขึ้นมาด้วยความโกรธเกลียด.
"ไท่จื่อเหล่ยเทียนรึ?"
จากนั้นจงซานก็เล่าเรื่องย่อ ๆ ของกุ่ยเอ๋อให้กับจ้าวโส่วเซี่ยงฟัง.
"ที่จริงหวงโห่ว(ฮองเฮา)ตกตายด้วยน้ำมือของเขา! ทว่าฝ่าบาท ตอนนี้ท่านยังต้องการเจอเขาอีกรึ?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เรื่องนี้มันเป็นปมที่ผูกรัดใจข้า เหมือนกับขุนเขาที่กดทับ ข้าจึงต้องการพบหน้าเขา ซึ่งไม่ช้าหรือเร็วก็จะต้องประจันหน้ากัน หากเมื่อถึงวันนั้นมันจะทำให้ข้าเสียเปรียบ ข้าสัมผัสได้ ว่าความเกลียดชังของข้านั้นมันมากมายขนาดใหน หลายปีที่เก็บมันเอาไว้ ไม่กล้าพบเจอ กลัวว่าข้าจะระเบิดความเกลียดชังนี้ออกมา คราวนี้ข้าต้องการเจอเขา เพื่อรับรู้ ว่าข้าสามารถยับยั้งความเกลียดชังเอาไว้ได้หรือไม่?"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"หากว่าท่านไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เรื่องนี้ไม่ยิ่งทำให้ท่านย่ำแย่หรอกรึ!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ดังนั้นจำเป็นต้องให้เจ้าเตือนข้า เพื่อให้ข้าได้สติ!"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ทว่า หากว่าท่านไม่ได้สติล่ะ?"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เจ้าตะโกนชื่อหวงโห่วของข้า ข้าคิดว่า ข้าจะต้องได้สติ!"จงซานที่กล่าวออกมา.
"แต่ว่า....."จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วไปมาขณะพูด.
"ไม่มี แต่!"จงซานกล่าวอย่างมั่นใจ.
"โปรดวางใจ ข้ามั่นใจว่าข้าจะปลอดภัยอย่างแน่นอน หากว่าเวลานั้นข้าสูญเสียความควบคุม เจ้านำกองทัพทวนเหล็กอพยพไปในทันที ไม่จำเป็นต้องห่วงข้า แน่นอนว่าข้ามีวิธีจัดการปัญหาของตัวเอง!"จงซานกล่าว.
"อืม!"จ้าวโส่วเซี่ยงพยักหน้ารับ.
และในเวลาเดียวกันอีกสิบวันจงซานที่นำทัพมาถึงเมืองเหยี่ยนหงอย่างเป็นทางการ.
เมืองเหยียนหง เมืองหลวงของราชวงศ์จักรพรรดิเหยี่ยนหง.
ก่อนหน้านี้ทูตชราที่เดินทางไปยังราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนได้กลับมากระจายข่าว ทำให้ขวัญกำลังใจของทหารที่กลับมาดีขึ้นอีกครั้ง ความรู้สึกของทุกคนที่มั่นคง และข่าวของกองกำลังเสริมได้กระจายไปทุกทิศทุกทาง ทำให้พวกเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน.
ทว่าในท้องพระโรง แน่นอนว่าชายชราย่อมบอกความจริงกับบุคคลสำคัญ.
พวกเขาที่รับรู้ว่ากองกำลังเสริมนั้นมีเพียงแค่ห้าพันเท่านั้น ทุกคนที่หวาดกลัวตื่นตระหนก จากนั้นต่างก็ว่ากล่าวสาปแช่งหลานเทียนยวีไปต่าง ๆ นานา .
ทว่าเมื่อได้ยินคนที่มานั้นคือจงซาน ก็ทำให้ทุกคนเผยสีหน้าแววตาที่ดีขึ้น.
ใครคือจงซาน?ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ผู้บำเพ็ญชื่อเสียง เหล่าราชวงศ์วาสนา คงไม่มีใครที่จะไม่รู้จักจงซาน?
กับตัวตนที่ยิ่งใหญ่นี้ มาช่วยพวกเขาอย่างงั้นรึ?
แรงกดดันหลายวันก่อนที่จะต้องพบกับไท่จื่อเหล่ยเทียน ท้ายที่สุดก็ผ่อนคลายลง.
"กงเหว่ย เจ้าพูดจริงอย่างงั้นรึ? คนที่มานั้นคือจงซานจริง ๆ รึ?"
"จริงแท้แน่นอน!"
จงซานเดินทางมายังเมืองเหยี่ยนหง แน่นอนเหล่าข้าราชบริพารต่างก็ช่วยสนับสนุนเขาเต็มที่ ไม่มีใครที่ต่อต้านแม้แต่น้อย.
เพราะว่ามันไม่จำเป็นเลย จงซานนั้นสร้างรากฐานขึ้นที่ทวีปศักดิ์สิทธิ์ภาคตะวันออก สถานที่แห่งนี้คือทวีปศักดิ์สิทธิ์ทวีปตะวันตก เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสนใจราชวงศ์พวกเขา อีกอย่างตอนนี้ราชวงศ์ของพวกเขากำลังประสบภัยอันตราย พวกเขาทำได้แค่เชื่อใจจงซานเท่านั้น.
จงซานที่ได้ศึกษาเส้นทาง สถานที่ต่าง ๆ ก่อนที่จะสั่งการเคลื่อนทัพทั้งหมดอย่างรวดเร็ว พร้อมกับถอนกำลังหลายแห่งในเขตรอบนอกเข้ามา.
จงซานนั้นที่ลอบโจมตีแบบกองโจรและรวมกำลังเอาไว้ที่เมืองเหยียนหงเป็นหลัก รอคอยให้ทัพของต้าสุ่ยบุกเข้ามาโจมตี.
เพราะจงซานนั้นไม่สามารถหยุดการรุกเมืองหน้าด่านของทัพราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยได้ จึงได้เตรียมการเอาไว้ที่เมืองหลวงเป็นหลัก แน่นอนว่าเป้าหมายของพวกเขาย่อมเป็นเมืองหลวง เมืองเหยี่ยนหงแห่งนี้นั่นเอง.
เวลานี้ทัพของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยที่ประจำอยู่เมืองหน้าด่าน เมืองเจี้ยนหง!
เมืองเจี้ยนหง คฤหาสน์เจ้าเมือง!
ภายในห้องโถง บนโต๊ะบัญชาการ ชายในชุดสีทองที่นั่งอยู่ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอหังการ คิ้วที่เรียวตรง ที่หน้าผากของเขานั้นซ่อนดวงตาที่สามเอาไว้.
บนโต๊ะบัญชาการนั้น เขาทีได้ข้อมูลบางอย่างมา สายตาของชายในชุดสีทอง ที่ไม่ขยับ ไม่สามารถบอกได้ถึงท่าทางดีใจหรือเสียใจได้.
นี่คือศัตรูที่คั่งแค้นและเต็มไปด้วยความเกลียดชังของจงซาน ไท่จื่อเหล่ยเทียน ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย.
ไท่จื่อเหล่ยเทียนจับจ้องมองไปยังข้อมูลทั้งหมด ซึ่งที่ด้านหน้านั้นมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่.
หลายคนที่รู้จักจงซาน.
คนแรก ไท่จื่อฉงเทียน ก่อนหน้านี้ถูกกลุ่มของจงซานหักหน้าที่งานชุมนุมหมื่นเม็ดยา!
คนที่สอง นักบวชเซอคง กองกำลังอาชาทมิฬปิศาจมายา ซึ่งเป็นคนที่สามารถเปิดอักขระเหยาบนร่างได้.
คนที่สาม หวังเฉิน ซึ่งครั้งหนึ่งเขาคือลูกบุญธรรมของจงซาน นามจงซือจิว ทว่าตอนนี้เขาได้ลืมอดีตไปแล้ว พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น หวังเฉิน.
หากแต่ไม่มีใครสามารถเข้าใจจงซานได้.
"พี่สาม เขา? เขาคือจงซานรึ? ก่อนหน้านี้เขาได้หักหน้าข้าที่งานหมื่นเม็ดยาบรรพกาล!"ไท่จื่อฉงเทียนที่กล่าวรายงาน.
"จงซาน?"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่หรี่มอง จดจ้องมองไปยังภาพฉายของจงซาน.
"พี่สาม ให้ข้าสังหารเขา ข้าจะฉีกเขาออกเป็นชิ้น ๆ !"ไท่จื่อฉงเทียนกล่าว.
"จงซานผู้นี้มีความสามารถ มาถึงเพียงไม่กี่วัน กลับสามารถคุมทัพหยุดการรุกของพวกเราได้!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนกล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"จูเหริน จงซานผู้นี้แปลกประหลาดมาก คนของพวกเขาไม่น้อย ที่ถูกเขาจัดการไป! พวกเราควรจะจัดการเขาให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นจะต้องสร้างปัญหาให้กับพวกเราในอนาคตแน่!"นักบวชเซอคงที่เอ่ยออกมาทันที.
"หืม? เจ้าต้องการจะไปอย่างงั้นรึ?"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่จ้องมองไปยังนักบวชเซอคง.
ร่างของเซอคงที่สั่นเทิ้ม เร่งรีบส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวว่า "จูเหริน ข้าไม่กล้า ข้าไม่มีความสามารถพอ!"
กับท่าทางขลาดเขลาของนักบวชเซอคง ทุกคนเห็นแล้วเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งไท่จื่อฉงเทียน เขาที่ดูถูกดูแคลนนักบวชเซอคงที่สุด ไม่รู้ว่าทำไมพี่สามของเขาถึงยังเลี้ยงคนผู้นี้เอาไว้.
"จูเหริน ข้ายินดีที่จะไป สังหารจงซานเอง!"ขุนพลผู้หนึ่งเอ่ยออกมา.
"จูเหริน ให้ข้าไป....."ผู้ใต้บังคับบัญชาอีกหลายคนที่เอ่ยแย่งกัน.
"หวังเฉิน เจ้าล่ะ?"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่จ้องมองไปยังหวังเฉินทันที สายตาที่หรี่เล็กจ้องมองไปยังเขา.
เห็นท่าทางของไท่จื่อเหล่ยเทียนแล้ว หวังเฉินที่สูดหายใจลึก "จู่เหริน ที่จริงแล้ว จงซานนั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นฟู่อี้(บิดาบุญธรรม)ของข้า!"
"หืม?"แทบจะทุกคนต่างก็อ้าปากค้างงงงวยไปตาม ๆ กัน.
ไม่ชัดเจน ไม่อยากเชื่อ เป็นฟู่อี้ของหวังเฉินอย่างงั้นรึ? เป็นเรื่องจริงหรือเท็จกัน?
หวังเฉินผู้นี้ นับว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาระดับแนวหน้า ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ ความสามารถล้วนแล้วแต่มีฝีมือ.
เขาเป็นบุตรบุญธรรมของจงซานอย่างงั้นรึ?
แทบจะทุกคนที่งงงวย มีเพียงแค่นักบวชเซอคง ที่เป็นโรคหวาดกลัวจงซาน หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหวังเฉินแล้ว ร่างกายของเขาที่อดสั่นไม่ได้เช่นกัน.
ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่ชำเลืองมองไปยังหวังเฉิน แววตาไม่ได้แสดงท่าทางประหลาดใจแต่อย่างไร ราวกับว่าเขารับรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว.
"หืม? เช่นนั้นจงซานเป็นคนเช่นไร? เจ้าควรที่จะเข้าใจเขาได้มากที่สุด!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่เอ่ยปากสอบถามออกมาทันที.
"ควรจะเป็นเช่นนั้น หากแต่ไม่เลย กลับกลายเป็นว่าข้าควรจะเป็นคนที่ไม่เข้าใจเขามากที่สุด?"หวังเฉินที่กล่าวอย่างคลุมเครือ.
"ไม่เข้าใจเขามากที่สุดอย่างงั้นรึ? ในเมื่อเจ้าเป็นบุตรบุญธรรมของเขา เจ้าจะไม่เข้าใจเขาได้อย่างไร?"ไท่จื่อฉงเทียนที่กล่าวแย้งออกมา.
หวังเฉินที่หันหน้าไปมองไท่จื่อฉงเทียนในทันที แววตาที่ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย ทว่ายังคงสุขุมเหมือนดั่งผู้บัญชาการ "ไท่จื่อฉี(เจ็ด) ข้าบอกท่านอีกครั้งแล้วกัน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็นบุตรบุญธรรมของจงซาน ตอนนี้ข้าเป็นเพียงผู้ใต้บังคับบัญชาของจู่เหริน!"
"เจ้า!"ไท่จื่อฉงเทียนคาดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่ระดับหลอมกายธาตุจะกล้าโต้เถียงเขาอย่างคาดไม่ถึง.
"เหล่าฉี ให้เขาพูด!"ไท่จื่อหล่ยเทียนเอ่ย.
ไท่จื่อฉงเทียนที่ทำได้แค่กลืนคำพูดลงอย่างขม ๆ .
"ข้ารู้จักจงซาน หากแต่ไม่เข้าใจจงซาน จงซานครั้งหนึ่งนั้นได้รับบุตรบุญธรรมมากกว่าหนึ่งร้อยกว่าคน บอกได้เลยว่าไม่เคยมีใครเข้าใจเขา เขาที่เป็นตัวปริศนามาโดยตลอด นับตั้งแต่เขาเป็นปุถุชน สิ่งที่ข้ารู้นั้น เขาคือสิ่งที่ยากจะเข้าใจได้ ทำให้ข้าประทับใจเขาในเวลานั้น นอกเหนือจากความแข็งแกร่งของเขา ก็ไม่มีสิ่งใดสามารถขวางเขาได้! พรสวรรค์ทางร่างกายของเขานั้นไม่ดีนัก ชั่วชีวิตของเขาจะต้องเป็นปุถุชนตลอดไป ทำไมไม่รู้ ร้อยปีที่ผ่านมานี้ เขาถึงได้เปลี่ยนไปมาก นับตั้งแต่เขาก้าวมาถึงระดับเซียนเทียน ก็พบแต่ชัยชนะและความสำเร็จจวบจนมาถึงวันนี้!"หวังเฉินกล่าว.
"โอ้ว? แล้วทำไมเจ้าไม่ต้องการรู้จักเขาแล้วรึ?"ไท่จื่อเหล่ยเทียนยังคงสอบถามเขาต่อ.
"เฮ้เฮ้ รู้จักเขารึ?ทำไมข้าต้องรู้จักเขาด้วยล่ะ? ทำไมข้าต้องเป็นบุตรบุญธรรมของเขาต่อไปล่ะ? ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างปรารถนาไม่ใช่รึ? เขาที่ต้องการนำพวกเราเข้าสำนักเซียนนั้นก็เพื่อต้องการเม็ดยาโพวจวิน เพื่อยืดอายุให้กับตัวเอง มันเป็นความฝันของเขา เหล่าปุถุชนมากมายที่ต้องการเป็นผู้ฝึกตน ในการชุมนุมมังกรของโลกปุถุชน พวกเราคือบุตรบุญธรรมที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมแข่งขัน เข้ามาต่อสู้ ฆ่ากันและกันเหมือนสัตว์ เขาที่ใช้พวกเราเพื่อผลประโยชน์ทำไมข้ายังต้องรู้จักเขากัน?"หวังเฉินที่แค่นเสียงเย็นชา.
สายตาของทุกคนที่จับจ้องมองหวังเฉินด้วยสายตาที่แปลกประหลาด.
"จริง ๆ รึ?” ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่กล่าวสอบถามออกมาเล็กน้อย.
"จู่เหินโปรดวางใจ ในเมื่อหวังเฉินภัคดีต่อจู่เหริน แน่นอนว่าไม่มีทางคิดเป็นอื่น ๆ จู่เหรินเป็นผู้มอบพลังและสถานะให้ นี่จึงเป็นความภัคดีที่แท้จริง หวังเฉินไม่มีทางคิดอะไรอื่นแม้แต่น้อย จู่เหรินสามารถพิสูจน์ความภัคดีของหวังเฉินได้!"หวังเฉินกล่าวออกมาในทันที.
สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังหวังเฉิน ด้วยสายตาเย็น.
ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่ยกชาขึ้นจิบ ก่อนที่จะวางลงด้วยท่าทางไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด.
กับคำพูดของหวังเฉินนั้น เขาไม่ได้กล่าวอะไรเพิ่มอีก รอคอยไท่จื่อเหล่ยเทียนเอ่ยออกมา.
"ความซื่อสัตย์ของเจ้านั้น แน่นอนว่าข้าย่อมรู้ดี นอกจากนี้ยังมีตราผนึกเทวะที่ข้าปลูกเอาไว้อีก ไม่มีทางที่เจ้าจะกล้าทรยศ!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
"ครับ!"หวังเฉินที่ตอบรับในทันที.
"ถ้าเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้มอบให้เป็นหน้าที่ไห้น้องเจ็ด ไปจัดการจงซานก็แล้วกัน!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนกล่าวออกมาเล็กน้อย.
"ครับ พี่สามโปรดวางใจ ข้าจะเด็ดหัวจงซานมาได้อย่างแน่นอน."ไท่จื่อฉงเทียนที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"จู่เหรินโปรดวางใจหวังเฉินนั้นไม่ได้มีความรู้สึกผูกพันใด ๆ กับจงซานอีกต่อไปแล้ว หวังเฉินเวลานี้ภัคดีต่อจู่เหรินเท่านั้น!"หวังเฉินที่กล่าวออกมาอีก.
"อืม เจ้านำกองกำลังของเจ้าไปก่อน อีกไม่กี่วันข้าจะตามไปสมทบ."ไท่จื่อเหล่ยเทียนกล่าวออกมาเล็กน้อย.
"พี่สาม? พวกเราไม่เข้าโจมตีเมืองหลวงเหยี่ยนหงเลยรึ?"ไท่จื่อฉงเทียนที่แสดงท่าทางตื่นตกใจเล็กน้อย.
"เรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้วพวกเราก็ต้องยึดเมืองเหยี่ยนหงอยู่ดี ข้าให้เจ้าเป็นคนนำทัพไปก่อน เวลานั้นขึ้นอยู่กับเจ้าในการบัญชาการ."ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ตกลง พี่สามโปรดวางใจเพียงแค่ราชวงศ์จักรพรรดิข้าจะจัดการเอง เรื่องนี้หาได้ใช่เรื่องใหญ่บางทีหลังจากนี้ราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนเอง พี่สามอาจจะไม่ต้องลงมือเลยก็ได้!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่เผยยิ้มออกมาทันที.
"ฮึ ฮึ!"ไท่จื่อเหล่ยเทียนที่เผยยิ้มบาง ๆ .
****************************************************
老 (เหล่า) แปลว่าอะไรได้มั่งในภาษาจีนนะ?
1. ใช้แสดงความเคารพยกย่อง
เมื่อวาง老 ไว้หน้าอาชีพค่ะ เช่น
老师 [lǎoshī] = อาจารย์
老教授 [lǎo jiàoshòu] = ศาสตราจารย์
老中医 [lǎo zhōngyī] = คุณหมอแผนจีน
บางครั้งก็ใช้เพื่อแสดงเคารพเทิดทูนก็ได้อีก จัดอยู่ในหมวดนี้เหมือนกันนะ เช่น 老天爷 [lǎotiānyé] = เทพยดา (จะหนุ่มจะแก่ก็ได้ค่ะ ณ จุดนี้ อิ อิ)
2. ใช้เพื่อแสดงความใกล้ชิดสนิทสนม
เรากับเพื่อนที่สนิทกัน สามารถแสดงความใกล้ชิดในการเรียกหาได้ โดยการทำให้เค้าดูแก่กว่าเรา เห้ยย!! ไม่ช่ายค่ะ โดยการเติม 老[lǎo] ข้างหน้าแซ่ค่ะ เช่น
老张 [lǎo Zhāng] 老王[lǎo Wáng] 老李[lǎo Lǐ] 老赵 [lǎo Zhào] หรือ 老吴 [lǎo Wú]
การใช้ 老 ตรงนี้ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่อายุว่าแก่กว่าเราหรืออะไรนะคะ แต่ 老 ตรงนี้หมายถึงเพื่อนเกลอ เพื่อนเก่า เพื่อนสนิทแบบนี้มากกว่าจ๊ะ
นอกจากนี้ ภรรยาจะเรียกสามีว่า 老公 [lǎogōng] สามีจะเรียกภรรยาว่า 老婆 [lǎopo] และเราก็เรียกคู่สามีภรรยาที่อยู่ด้วยกันมานานว่า 老伴 [lǎobàn] (伴 = เพื่อนสนิท คู่คิด ภาษาฝรั่งแปลว่า partner ครัช) ก็ได้ค่ะ เช่นเดียวกัน คำเรียกที่มี 老 พวกนี้คือการแสดงความใกล้ชิด รู้จักกันมานาน อยู่ด้วยกันมานานค่ะ
หรือจะใช้ร่วมกับคำอื่น ๆ ก็ได้อีกนะ (ครอบจักรวาลจิงจิ๊ง) เช่น 老同学[lǎo tóngxué] = เพื่อนนักเรียนเก่า 老朋友 [lǎo péngyou] = เพื่อนเก่า
ปอลิง หากรู้จากกันมาน๊านนาน เพื่อนเก่าก็อาจจะเป็นเพื่อนแก่จริง ๆ ก็ได้นะ (และเราก็แก่ลงไปพร้อมกันด้วยอ่ะดิ TT)
3. ใช้เพื่อแสดงดีกรีที่มาก ๆ สุด ๆ
ในความหมายเหมือน 很 เลยค่ะ เป็นการบอกดีกรีที่มากขึัน โดยการเติม 老 เข้าไปข้างหน้า เช่น
老早 [lǎo zǎo] = เช้ามาก ๆ
老远 [lǎo yuǎn] = ไกลมาก ๆ
老好了[lǎo hǎo le] = ดีฝุด ๆ
4. ใช้เพื่อใช้บอกลำดับในครอบครัว
หากว่าพี่น้องในครอบครัวมีเยอะ (แบบคนจีนครอบครัวใหญ่สมัยก่อน) จะนิยมใช้ลำดับการเกิดมาเรียกหากันค่ะ เช่นพี่ใหญ่ พี่รอง น้องสี่ น้องเล็ก เรียกต่อ ๆ กันไปจนครบค่ะ (เหมือนละครจีนไง คุณชายสี่ คุณชายรอง คุณชายใหญ่ ฯลฯ)
ส่วนน้อง ๆ ก็จะเรียกพี่ ๆ ด้วย 老 ตามด้วยลำดับการเกิด ง่ายม่ะ เช่น 老大 [lǎo dà] = พี่ใหญ่ 老二 [lǎo èr] = พี่รอง 老三 [lǎo sān] = พี่สาม ประมาณนี้
5. ใช้เพื่อแปลว่าประจำหรือบ่อย ๆ
สุดท้าย 老 ยังใช้แสดงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ อเป็นประจำได้อีกด้วยนะคะ แต่ความหมายมักจะใช้แบบออกแนวบ่น ๆ หน่อยนึง
โครงสร้างนี้
老是 + กริยา (V) หรือ คำคุณศัพท์ (Adj)
เช่น
他老是迟到 。[tā lǎo shì chídào] = เซ็ง! เขาอ่ะมาสายประจำ
你老是加班。[nǐ lǎo shì jiābān] = เธอทำโอทีบ่อยจัง (ความหมายประมาณว่าทำไมทำบ่อยจัง จะนัดทีไรก็ไม่ว่างซ้ากกที)
https://chinesexpert.blogspot.com/2015/12/blog-post_11.html