Chapter 569 อนาคตมืดมน.
เหล่านักปรุงยาที่นำเหล่าญาติมิตรและสหายหรือศิษย์ เข้ามาในการแข่งขันในครั้งนี้ด้วย.
จงซานที่เป็นหนึ่งผู้เข้าร่วมงานในกลุ่มของเครือญาติ! สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่แข่งขันกันของเหล่านักปรุงยา เขาได้แต่เฝ้ามองเท่านั้น.
หลังจากจงซานและคนอื่น ๆ ได้ที่นั่งแล้ว จากนั้นไม่นาน ขันทีก็นำคนสองคนเข้ามา.
นี่คือคนที่จงซานพบเมื่อสามเดือนที่แล้วสวีฝู่ ซึ่งมีไป๋เย่เดินตามหลังมา.
สวีฝู่ที่สวมชุดคลุมสีม่วง ใบหน้าที่เฉยชา ขณะที่เข้ามาใกล้ เป่าเอ๋อที่พยักหน้าให้เล็กน้อย ต่านเซิ่งหลงหู่เองก็เช่นกัน ส่วนคนอื่น ๆ ไม่ได้สนใจตัวเขานัก.
สวีฝู่และไป๋เย่ถูกนำมายังที่นั่งไม่ไกลจากราชันย์หลานเหยี่ยน พร้อมกับนั่งนิ่งไม่ขยับ รอคอยให้การแข่งขันหมื่นเม็ดยาเริ่มขึ้น.
เวลาผ่านไปช้า ๆ ผู้คนเดินทางเข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ลานแห่งนี้เริ่มหนาแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ชายฝั่งด้านเหนือ จงซานและคนอื่น ๆ ซึ่งนับเป็นแขกที่ทรงเกียรติ ซึ่งมีเหล่าคนสำคัญของทวีปศักดิ์สิทธิ์ที่เดินทางมารวมกัน.
สถานที่แห่งนี้คือเหล่านักปรุงยาที่มีชื่อเสียงและมีความสามารถของทวีปศักดิ์สิทธิ์ หากว่าถูกลอบโจมตีแล้วล่ะก็ อาจจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมขนาดใหญ่เลยก็ว่าได้.
อย่างไรก็ตาม เหล่ากลุ่มอิทธิพลทั่วไปย่อมไม่กล้าสร้างปัญหาในการชุมนุมหมื่นเม็ดยา เพราะว่าการชุมนุมในครั้งนี้มีราชวงศ์สวรรค์และแดนเทวะเป็นเป็นผู้รับรอง แน่นอนว่าย่อมไม่มีใครหาญกล้าขนาดนั้น.
ผู้เข้าร่วมการแข่งขันหมื่นเม็ดยาในเวลานี้ ได้มารวมกันเรียบร้อยแล้ว มีอยู่ราว ๆ หมื่นคน นับว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก.
ทว่ากับงานที่อลังการนี้ มีที่นั่งที่วางอยู่กลุ่มหนึ่ง คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีใครเข้ามานั่ง กล่าวอีกอย่างหนึ่ง พวกเขาเองก็น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ทรงเกียรติ แต่แปลกที่หนีหายไปอย่างงั้นรึ?
ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย!
เป็นราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยที่หายไปอย่างงั้นรึ? จงซานที่ครุ่นคิดวิเคราะห์ไปมาในทันที เป็นสำนักต้าซิงหรือว่าเป็นสำนักต่านกู่ ของราชวงศ์สวรรค์และแดนเทวะ.
ทั้งที่ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยนั่นอยู่ใกล้กับราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน แม้ว่าจะไม่สนใจ ทว่าอย่างน้อยก็ไม่ควรจะปล่อยผ่าน จวบจนทุกคนเข้ามาหมดแล้ว หากแต่คนของราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยยังไม่เห็น ! นี่พวกเขาไม่เข้าร่วมจริง ๆ รึ?
"ปิดประตู!"เซิ่งต่านหลงหู่ที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
ปิดประตุ ก็หมายความว่าคนที่มาหลังจากนี้ ไม่อนุญาตให้เข้าร่วมงานชุมนุมหมื่นเม็ดยาในครั้งนี้!
เซิ่งต่านหลงหู่ กล่าวได้ว่าเขาคือตัวตนที่สูงที่สุดสำหรับนักปรุงยา การที่เขาเริ่มกล่าวออกมา ทุกคนที่เปลี่ยนเป็นนิ่งงัน ไม่มีใครกล้าขัดเซิ่งต่านหลงหู่.
"กวี๊ก ๆ ๆ ๆ "
เสียงของอีกาที่ทรงพลัง ดังก้องกังวานไปทั่วทั้งงานชุมนุมหมื่นเม็ดยา เสียงของอีกาที่ดังก้องกังวาน หวีดหวิว ทุกคนที่ได้ยินถึงกับสั่นสะท้าน.
ราวกับเสียงสายฟ้าฟาดที่ดังขึ้นในหู ราวกับว่าจะสั่นคลอนวิญญาณ ส่งเสียงปกคลุมล้อเลียนคำพูดของเซิ่งต่านหลงหู่ ราวกับว่ากำลังยั่วยุหาเรื่องเกี่ยวกับพิธีการของเซิ่งต่านหลงหู่.
หัวใจของทุกคนที่รัดแน่น ทั่วทั้งลานการแข่งขันที่รู้สึกร้อนขึ้น คลื่นความร้อนที่อาบไปทั่วลาน บนท้องฟ้า ที่มีแรงกดดันวิญญาณมหาศาลล่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า.
ไม่แตกต่างกัน ทุกคนที่อยู่ในลานการแข่งขันที่ถูกโถมกระหน่ำด้วยแรงดันวิญญาณที่ยิ่งใหญ่.
แรงกดดันพลานุภาพที่น่าเกรงขามโถมทับลงมาบนลาน พื้นดินที่บิดเบี้ยวเกิดเป็นสนามพลังที่พัดปลิวทุกอย่างกวาดออกไปทั่วสารทิศ.
ทุกคนที่จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความอัศจรรย์ใจ.
แสงสีทองที่ส่องสว่างจ้าปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ เหล่าคนที่มีพลังฝึกตนต่ำ จำเป็นต้องก้มหรือหลับตาลง ไม่กล้าจ้องมองออกไปตรง ๆ .
เหล่าผู้ฝึกตนที่มีพลังฝึกตนสูงสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ราวกับดวงอาทิตย์สีทอง นอกจากนี้ยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เป็นอีกายักษ์ ไม่ อีกาสีทอง ราวกับดวงตะวันที่เคลื่อนที่มาด้วยความเร็วสูง เปลวเพลิงที่ร้อนแรง ราวกับดวงตะวันที่กำลังเคลื่อนลงสู่พื้นปฐพี.
"ครืนนนน"
ปีกสีทองที่สะบัด เกิดเสียงดังระงม ก้องกังวานราวกับระฆังทองสะท้านไปถึงดวงวิญญาณ.
แววตาของเซิ่งต่านหลงหู่ที่เผยความโกรธออกมา ราชันย์หลานเหยี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ ที่ต้องขมวดคิ้วไปมา.
ไท่จื่อราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยได้ส่ง จินอู๋ซาน(อีกาทองสามขา)มาก่อกวนรึ!
ไท่จื่อราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยที่ไม่ทำตามพิธีการ กับส่งจินอู๋ซานมา เพื่อแสดงอำนาจวาสนา สร้างความตื่นตกใจให้กับทุกคนที่อยู่ในงานชุมนุมหมื่นเม็ดยา.
ทำไมต้องทำเช่นนี้? หาเรื่อง?สร้างความสนใจ? หรือไม่มีสมองกัน? เป้าหมายคืออะไร?
เปลวเพลิงขนาดสิบจั้งที่ลุกโชนทั่วร่างจินอู๋ซาน(อีกาทองสามขา) ปีกของเขาที่โบกสะบัด ยิ่งทำให้เพลิงโหมกระหน่ำ จักรพรรดิอีกา นี่คืออีกาที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก เปลวเพลิงทีร้อนแรงนี้ราวกับดวงตะวัน! สามารถที่จะเผาไหม้คนที่อยู่ใกล้ ๆ ให้กลายเป็นจุลได้ในทันที.
แน่นอนว่าทุกคนได้ยินความสามารถของจินอู๋ซานดี ที่น่าหวาดกลัวนั้นก็คือเพลิงตะวันของเขานั่นเอง.
มีข่าวลือกล่าวมาว่าเพลิงตะวันนั้น เป็นเพลิงอันดับหนึ่งของทวีปศักดิ์สิทธิ์.
จักรพรรดิแห่งเปลวเพลิง เปลวตะวันแท้ เปลวเพลิงที่ลุกโชนหมื่นจั้ง.
จินอู๋ซานที่ได้ปรากฏขึ้นที่ลานการแข่งขันอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองเซิ่งต่านหลงหู่ ราวกับว่ากำลังหาเรื่องท้าทายอำนาจของเซิ่งต่านหลงหู่อยู่.
เซิ่งต่านหลงหู่ ระดับราชันย์แท้ ซึ่งเป็นคนที่ทำให้ราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนยังคงมั่นคงเป็นปึกแผ่นอยู่ได้ในเวลานี้.
เหมือนว่า จินอู๋ซานเองก็มีระดับราชันย์แท้ พลังกดดันที่หนักหน่วงที่กดลงไปยังฝั่งทิศเหนือ.
พื้นที่ทางด้านเหนือที่ถูกแรงดันวิญญาณมหาศาลกดทับลงมา ดวงตาของต่านเซิงหลงหู่ที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา ดูเหมือนว่าจินอู๋ซานต้องการหาเรื่องโดนการกดดันราชันย์ของหลานเหยี่ยน แน่นอนว่าราชันย์ของราชวงศ์หลานเหยี่ยนนั้น ได้สืบราชสมบัติจากบิดา เวลานี้จึงมีพลังฝึกตนเพียงระดับจักรพรรดิแท้ ใบหน้าของเขาที่ขาวซีด! จดจ้องมองออกไปด้วยแววตาตื่นตระหนก.
"จิบ ๆ จิบ ๆ ๆ "
ที่พื้นที่โซนทิศเหนือเสียงที่สดใสก้องกังวานก็ดังขึ้น ดังสะท้านไปทั่วทุกทิศทาง.
จากเทียนหลิงเอ๋อ บนแขนของเทียนหลิงเอ๋อนั่นเอง.
หลังจากเสี่ยวหงขับขานส่งเสียงดังก้องกังวาน ที่บนแขนขวาของเทียนหลิงเอ๋อ ทันใดนั้นกลุ่มแสงสีเขียวก็พุ่งทลายขึ้นมา.
"จิบ จิบ"
เสียงคำรามด้วยความโกรธ ดังก้องขู่จินอู๋ซาน(อีกาทองสามขา) เปลวเพลิงสีแดงชาดขนาดเท่ากับฝ่ามือที่ลุกพรึบขึ้นทันที.
วิหคที่แปลกประหลาด ร่างกายที่ถูกคลุมด้วยสีแดง ทว่าเปลวเพลิงที่ส่งออกมานอกร่างกายของมันกับเป็นสีน้ำเงินเข้ม.
เปลวเพลิงสีน้ำเงินที่ลุกโชนขึ้นมาในทันที อากาศรอบ ๆ ที่บิดเบี้ยวสั่นไหว.
วิหคที่แปลกประหลาดกำลังคำรามด้วยความโกรธต่อหน้าจินอู๋ซาน(อีกาทองสามขา).
"จิบ ๆ จิบ ๆ "
เปลวเพลิงสีน้ำเงินขนาดใหญ่ที่ลุกโชนอย่างรุนแรง ทันใดนั้นเปลวเพลิงของจินอู๋ซานที่สั่นไหวไปมาทันที.
"ครืนนนนน"
"จิบ ๆ ๆ ๆ "
วิหคที่ไม่มีใครรู้จัก โผล่ออกมาในทันทีทันใด ไม่มีใครคาดคิดอย่างแน่นอน.
วิหคสีแดงเพลิงที่ซ่อนอยู่ ก็คือหงสาเพลิงที่อยู่ในร่างของเทียนหลิงเอ๋อนั่นเอง ทว่าหลังจากที่มันได้จำศีลมาเป็นเวลานาน ทันใดนั้นเพลิงเทวะมากมายของมันก็ปรากฏขึ้นมา กลุ่มก้อนเพลิงสีน้ำเงินที่หมุนวนล้อมรอบร่างกายของมัน.
หงสาเพลิงที่กำลังยั่วยุจินอู๋ซาน ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจน.
แม้ว่าจินอู๋ซานจะไม่ได้หาเรื่องหงสาเพลิงก็ตาม ทว่าความร้อนและแรงกดดันวิญญาณนั้นได้ยั่วยุหงสาเพลิงอย่างชัดเจน.
เพลิงตะวันที่ส่องประกายแสงวับวาว โถมกระหน่ำเข้าหาหงสาเพลิงในทันที.
"เสี่ยวหง"เทียนหลิงเอ๋อที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
"จิบ ๆ "
เสียงคำรามของหงสาเพลิง ปลดปล่อยเพลิงสีน้ำเงินพุ่งตรงไปยังจินอู๋ซานเช่นกัน.
"ตูมมมมมมมมมมมม"
เพลิงสองชนิดที่เข้าปะทะกัน ทันใดนั้นพื้นที่รอบ ๆ ก็ถูกเผาไปในทันที ประกายแสงที่สว่างจ้าปลดปล่อยออกไปรอบ ๆ แรงปะทะที่รุนแรงสะบัดออกไปพื้นที่รอบ ๆ .
"นี่มันเปลวเพลิงอะไรกัน? คาดไม่ถึงเลยว่าจะขวางเพลิงตะวันของจินอู๋ซานได้เลยรึ? ทำไมข้ารู้สึกวิงเวียน?"
"เป็นไปได้อย่างไร? จะมีเปลวเพลิงที่สามารถขวางเพลิงตะวันได้อย่างงั้นรึ?"
"ไม่ใช่ว่าเพลิงตะวันแข็งแกร่งที่สุดหรอกรึ?"
เหล่าคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างส่งเสียงที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ ต้องรู้ด้วยว่านี่จะเป็นเรื่องที่ต้องบันทึกขึ้นมาใหม่ในทวีปศักดิ์สิทธิ์เลยก็ว่าได้ เปลวเพลิงที่หาญกล้าท้าทายเพลิงตะวัน ในโลกใบนี้เพลิงตะวันคือเพลิงอันดับหนึ่ง ซึ่งทำให้เผ่าอีกาสามขานั่นมีสถานะที่สูงส่ง ทว่าในเวลานี้? คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถป้องกันเพลิงตะวันได้? นี่คือเพลิงอะไรกัน?
"หงสาเพลิง? นี่มันเพลิงหนานหมิงอย่างงั้นรึ?"สวีฟู่ที่ไม่ไกลออกไปอุทานออกมา
"ครืนนนน"
จินอู๋ซาน(อีกาทองสามขา) ที่เห็นเพลิงตะวันของมันถูกขวางเอาไว้ ก็เผยสีหน้าแววตาโกรธเกรี้ยว ขณะที่กำลังจะเผยทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดออกมา.
"เฉินฉี พอแล้ว!"
บนท้องฟ้า ที่มีเสียงดังก้องกังวานไปทั่วอากาศ ดังไปทั่วทุกทิศทุกทาง.
ทันใดนั้นจินอู๋ซานที่ได้ยินเสียง ไม่ลังเลแม้แต่น้อยเร่งรีบถอยออกไป เคลื่อนออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะลดขนาดลงเท่าฝ่ามือ.
หงสาเพลิงที่เห็นจินอู๋ซาน(อีกาทองสามขา)ถอยออกไปแววตาของมันที่แสดงท่าทางพึงพอใจ.
"จิบ จิบ จิบ ๆ "เสียงของหงเพลิงที่ร่ายรำไปรอบ ๆ บนอากาศ ส่งเสียงเจื้อยแจ้วไพเราะ ก่อนที่จะลดขนาดบินร่อนลงมาที่ฝ่ามือของเทียนหลิงเอ๋อ.
"เสี่ยวหง เจ้าตื่นแล้ว ข้ากลัวว่าเจ้าจะตายไปแล้ว!"เทียนหลิงเอ๋อที่ลูบไปมาที่หัวของมัน
หงสาเพลิงที่ครางงึม ๆ แสดงท่าทางดีใจตีปีกไปมา ราวกับว่ากำลังหิว ก่อนที่เทียนหลิงเอ๋อจะนำเม็ดข้าวจิตวิญญาณเพลิงออกมาให้มันกิน.
ในเวลานั้น ที่บนอากาศ มีใครบางคนที่ร่อนลงมาช้า ๆ จินอู๋ซานที่ลดขนาดได้บินไปหาคนผู้นั้น และไปเกาะที่ไหล่ของเขา.
ชายในชุดสีทอง รูปร่างกำยำสูง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความยโสโอหัง ที่หน้าผากมีเส้นสีแดงขีดอยู่ ดวงตาที่เผยท่าทางไม่แยแสต่อสิ่งใด และยังมีคนเก้าคนที่มาพร้อมกับเข้าด้วย สวมชุดแตกต่างกันไป.
ทันทีที่ชายในชุดสีทองปรากฏตัว กลุ่มของจงซานที่จดจ้อง นี่คือไท่จื่อลำดับเจ็ดของราชวงศ์ต้าสุ่ย ไท่จื่อฉงเทียน! ลู่ฉงเทียน!
จงซานที่กำหมัดแน่น ลู่ฉงเทียนนั้น เป็นพี่น้องกับไท่จื่อเหล่ยเทียนนั่นเอง.
เป่าเอ๋อและเฉียนโหยวที่เห็นจงซานกำหมัดแน่นก็เข้าไปพร้อมจับมือของเขาในทันที.
ด้วยมือทั้งสองข้างที่กุมมือของจงซาน ทำให้เขาสูดหายใจลึก จ้องมองไปยังสตรีทั้งสองและพยักหน้าให้.
ไท่จื่อจงเทียนที่นำกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งร่อนลงมาบนพื้นช้า ๆ จ้องมองไปยังหงสาเพลิงในมือของเทียนหลิงเอ๋อ ดวงตาที่จดจ้องมอง ราวกับซ่อนอะไรบางอย่างเอาไว้อยู่ ก่อนที่จะหันหน้าไปยังเซิ่งต่านหลงหู่.
"จะรีบไปใหน เซิ่งต่านหลิงหู่ ไม่เห็นเจ้ามานานแล้ว!"ไท่จื่อฉงเทียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"รีบรึ? งานประลองหมื่นเม็ดยาไม่ต้อนรับเจ้าแล้ว!"เซิ่งต่านหลงหู่ที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
"ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยที่เต็มไปด้วยความเคารพที่ส่งให้ข้าเดินทางมายังที่นี่ เซิ่งซ่างได้มีราชโองการ หลังจากที่งานแข่งขันจบลง เซิ่งซ่างหลงหู่เจ้าจะต้องเดินทางไปราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยกับข้า เพื่อรับตำแหน่งปรมาจารย์ปรุงยาให้กับราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยซึ่งพวกเราได้เตรียมเอาไว้ให้แล้ว!"ไท่จื่อฉงเทียนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
กับคำพูดของไท่จื่อฉงเทียนถึงกับทำให้คนที่อยู่ในสนามส่งเสียงร้องระงม หมายความว่าอย่างไรกัน? ไท่จื่อฉงจื่อมาที่นี่ เพื่อมาข่มขู่อย่างงั้นรึ? มาบังคับให้ต่านเซิ่งเข้าร่วมราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยอย่างงั้นรึ?
จินอู๋ซาน(อีกาสามขา)ก่อนหน้านี้ เป็นการแสดงอำนาจเพื่อข่มขู่เซิ่งต่านหลงหู่อย่างงั้นรึ?
เห็นที่อนาคตจะมืดมนซะแล้ว!