Chapter 568 งานชุมนุมหมื่นเม็ดยา.
"โหวเย่ ที่พักทั้งหมดทั่วเมือง ปฏิเสธไม่ให้พวกเราเช่าเลย!"ในเวลาเดียวกันนั้น คนที่เขาส่งไปก็กลับมา พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยเสียงที่หวาดหวั่น.
เหล่าชาวมุงรอบ ๆ ยังไม่แยกย้ายหายไปใหน ขณะนั้นก็มีคนที่วิ่งเข้ามา พวกเขาที่จ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน เป็นคนที่ออกไปเช่าที่พักก่อนหน้านี้นั่นเอง พวกเขาที่ร้องออกมาเสียงดัง.
"เป็นไปได้อย่างไร?"
"ไม่มีร้านใหนให้เช่าเลยรึ? นี่จงซานเป็นหุ้นส่วนกับเจ้าของทั้งหมดนี้เลยรึ?
"เสี่ยวเหยาโห่วพ่ายแพ้หมดรูปแล้ว!"
"ใครให้เขายโสโอหังเองเล่า นี่เรียกว่ากรรมตามสนอง!"
ใบหน้าของเสี่ยวเหยาโห่วที่เปลี่ยนเป็นแดงซ่าน ถึงแม้ว่าเขาจะหน้าหนาเหมือนกับกำแพงเมือง ทว่าในเวลานี้กับการถูกดูแคลนจากฝูงชนมากมายก็ทำให้เขารู้สึกอับอายเช่นกัน ไม่ให้เช่าอย่างงั้นรึ?
"เป็นไปไม่ได้ เจ้าพูดใหม่สิ!"เสี่ยวเหยาโห่วที่อุทานออกมา.
"โห่วเย่ เป็นความจริง ไม่เพียงแต่ลานพักที่งดงามเท่านั้น แม้แต่ถ้ำที่พัก ยังไม่ให้พวกเราพักเลย ราวกับว่าพวกเราเป็นแขกที่น่ารังเกียจอย่างชัดเจน เป็นเรื่องแปลกที่พวกเขาไม่ให้เฉพาะพวกเราเท่านั้น แปลก เป็นเรื่องแปลกจริง ๆ !"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวออกมาด้วยความตื่นตกใจ.
"มันจะเป็นไปได้อย่างไร?"เสี่ยวเหยาโห่วอุทานเสียงดัง.
"โห่วเย่ เป็นความจริง พวกเราไปหลายร้อยโรงเตี้ยมแล้ว ทั้งสูงและต่ำ ไปทั่วจนหมดทั่วทั้งเมืองแล้ว หากแต่ไม่มีใครให้พวกเราเช่า!"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กล่าวออกมาด้วยความตกใจหวาดผวา.
"พวกเราเช่าได้ในอีกหลายวันหลังจากนี้!"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กล่าวเสียงแผ่ว ๆ .
หลังจากที่ได้ยินทำได้ทุกคนเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ จากนั้นก็เริ่มหัวเราะกับความพ่ายแพ้ของพวกเขาในครั้งนี้!
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าอ่า............"
เสียงหัวเราะเยาะเสี่ยวเหยาโห่วที่พบกรรมตามสนองแล้ว ทว่าก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่จ้องมองจงซานด้วยสายตาที่จริงจัง.
โดยเฉพาะเส้าเฟยโห่วที่ชำเลืองมองจงซาน ดวงตาเหลือกไปมา ใบหน้าแม้ว่าจะสุขุม ทว่าก็เผยท่าทางตื่นตระหนกด้วยเช่นกัน.
เรื่องนี้ จะเป็นไปได้อย่างไร?
เส้าเฟยโห่วนั้นไม่คิดว่าเพราะนิสัยเกเรของเสี่ยวเหยาโห่วจะเป็นปัญหา หากแต่คิดเกี่ยวกับจงซาน การที่จงซานกล้าเดิมพัน เรื่องนี้เป็นการเดิมพันที่น่าหัวร่อนัก ไม่มีใครคิดว่าจงซานจะชนะ แต่ท้ายที่สุด จงซานกลับชนะจริง ๆ รึ?
เป็นไปได้อย่างไร? จะเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? จากข่าวที่ได้รับมาจากผู้ใต้บังคับบัญชา จงซานเพิ่งมาถึงเมืองหลานเหยี่ยนเพียงไม่กี่วัน ยังแทบจะไม่ได้ติดต่อกับคนอื่นด้วยซ้ำ เขากลับมีอำนาจเกี่ยวกับธุรกิจที่พักได้อย่างงั้นรึ?เป็นไปไม่ไม่ได้ เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน.
ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้ล่ะ?
สหายของจงซานอย่างงั้นรึ? ไม่มีทางที่จะมีความสามารถพอที่จะขวางทางของเสี่ยวเหยาโห่วได้
เป็นไปไม่ได้ ก่อนหน้านี้มีคนของคฤหาสน์เรือสำราญได้นำตรามาให้กับเขา เห็นได้ชัดว่าจงซานเกี่ยวข้องเล็กน้อยกับคฤหาสน์ที่พักอันดับหนึ่งอย่างชัดเจน.
เล็กน้อยรึ? คฤหาสน์ดังกล่าวนั้นแม้แต่พวกเขายังไม่ได้เช่า นอกจากนี้จงซานที่ออกมาเดิมพันเช่นนั้น เผยให้เห็นว่าคฤหาสน์ที่พักนั่นอยู่ภายใต้การควบคุมของจงซาน.
จงซานที่เข้ามาเพียงแค่ไม่ถึงสองชั่วยาม ธุรกิจที่พักของเมืองหลานเหยี่ยนก็เชื่อฟังจงซานอย่างงั้นรึ?
เจ้าเล่ห์ จงซานผู้นี้หลักแหลมยิ่งนัก ภายในเมืองหลานเหยี่ยนเวลานี้บางทีแม้แต่ราชันย์ของเมืองนี้ก็ยังไม่สามารถเช่าที่พักได้ เป็นไปได้ว่าที่พักทั้งหมด เจ้าของทั้งหมดคือจงซาน.
น่าเกรงขามนัก จงซานผู้นี้ น่ากลัวเกินไปแล้ว.
พวกเขาที่อยู่ในภาคตะวันออกของทวีปศักดิ์สิทธิ์ ทว่ากลับเตรียมการสร้างอิทธิพลที่ภาคตะวันตกแล้ว คนผู้นี้? น่าหวากลัว เขาใช้เวลาวางแผนมากี่ปีกันแล้ว?
เห็นความร้ายกาจของจงซานเส้าเฟยโห่วที่แสดงท่าทางระมัดระวังขึ้นมาในทันที ในเวลาเดียวกันชายในชุดสีขาวที่แฝงตัวในฝูงชน.
ชายชุดขาวผู้นี้ก็คือคนที่เล่นกู่เจิ้งก่อนหน้านี้ เขาที่เฝ้ามองเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้ตื่นตกใจ หลั่งเหงื่อออกมาทีเดียว เขาผู้นี้ก็คือเสนาบดีของราชวงศ์จักรพรรดิยงเล่อ ผู้ใต้บังคับบัญชาของกู่เสวียนนั่นเอง
ฟ่านอี้พินที่ได้ข่าวว่าจงซานมา เขาจึงเร่งรีบเดินทางมา และยังได้พบกับเรื่องที่สั่นสะเทือนสวรรค์เช่นกัน.
"กลับ!"ฟ่านอี้พินที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
ผู้ใต้บังคับบัญชาตกใจเล็กน้อย ทว่าก็เดินตามฟ่านอี้พินไป.
"ท่านเสนาบดี!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวถามด้วยความสงสัย.
“หุบปาก!”ดวงตาของฟ่านอี้พินที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไม่กล้าเอ่ยอะไรอีกต่อไป.
จากนั้นไม่นาน ฟ่านอี้พินก็พาผู้ใต้บังคับบัญชากลับมายังที่พัก.
"ท่านเสนาบดี!"ผู้ใต้บังคับบัญชาอีกคนกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เก็บของ เตรียมเดินทางกลับในทันที!"ฟ่านอี้พินกล่าว.
"ท่านเสนาบดี พวกเราได้ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมแล้ว สามารถเข้าร่วมงานแข่ง งานหมื่นเม็ดยาได้แล้ว ตอนนี้ให้กลับเลยอย่างงั้นรึ? แล้วถ้าให้กลับตอนนี้เหล่านักปรุงยาของพวกเราล่ะจะทำอย่างไร?"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่กล่าวออกมาด้วยความเป็นกังวล.
"แน่นอนว่าต้องกลับพร้อมพวกเรา ถึงแม้ว่าข้าจะประเมินจงซานเอาไว้สูง ทว่าสุดท้ายมันก็ยังไม่พออยู่ดี จงซานผู้นี้ช่างมีความทะเยอทะยานสูงนัก คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีอิทธิพลมาถึงที่นี่ เร็ว เก็บข้าวของให้เรียบร้อย พวกเราจะต้องรีบกลับ แจ้งไปยังทุกคนด้วย ไป!"ฟ่านอี้พินที่สั่งการอย่างรวดเร็ว.
"รับทราบ!"ผู้ใต้บังคับบัญชาที่รับคำ ด้วยท่าทางหวั่นเกรง
ฟ่านอี้พินที่สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด ความผิดปรกติและแผนการขนาดใหญ่ กับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้เขาร้อนใจ ออกคำสั่งให้เดินทางกลับทันที เพื่อที่จะนำข่าวนี้กลับไป สถานการณ์ตอนนี้จะล่าช้าไม่ได้ จะต้องให้ฝ่าบาทเร่งรีบดำเนินการ.
ทว่าที่ลานที่เดิมนั้น.
เสี่ยวเหยาโห่วที่รับรู้ว่าคนของเขาทั้งหมดไม่สามารถเช่าที่พักได้ ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นแดงกล่ำ.
"ใช่แล้ว เสี่ยวเหยาโห่วเป็นพวกไม่เอาถ่าน ไร้น้ำยา!"
"ข้ารู้ก่อนแล้วว่าแสดงท่าทางยโสโอหังออกมา ท้ายที่สุดผลกรรมก็ตอบสนองแล้ว!"
เหล่าชาวมุงในเวลานี้ต่างก็ดูแคลนเสี่ยวเหยาโห่ว ว่ากล่าวไปต่าง ๆ นานา ยิ่งทำให้เสี่ยวเหยาโห่วโกรธเกรี้ยว เดี๋ยวหน้าดำเดี่ยวหน้าแดงในเวลานี้.
"โห่วเย่ ใบหน้าท่าทางหมองคำมีจุดสีดำด้วย! พิษยังถอนไม่หมดหรือไม่?"ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งที่ตื่นตกใจที่เห็นท่าทางของเสี่ยวเหยาโห่วในเวลานี้.
"ต่านหวัง ท่านมาดูเสี่ยวเหยาโห่วเร็วเขา!"ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้หนึ่งที่กล่าวเรียกต่านหวังต้าหลี่.
"ไปให้พ้น!"เสี่ยวเหยาโห่วที่หดหู่ใจถึงจนถึงขีดสุด เตะผู้ใต้บังคับบัญชา.
ตะคอกและหนีออกไปจากฝูงชนในทันที.
ส่วนเหล่าผู้บังคับบัญชาที่ยิ้มเฝื่อนก่อนที่จะตามไป.
หลังจากนั้น เหล่าชาวมุงก็ค่อย ๆ กระจายหายไป เมื่อไม่มีเรื่องอะไรที่น่าสนใจแล้ว กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เสี่ยวเหยาโห่วได้ทิ้งชื่อคนไม่เอาถ่านกระจายไปทั่วเมืองหลานเหยี่ยนอย่างคาดไม่ถึง.
ในเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่รับผิดชอบลงทะเบียนก็นำตราเข้าร่วมงานมาให้กับเป่าเอ๋อ.
"เจ้าสำนักไท่ต่าน สามเดือนหลังจากนี้ ท่านสามารถใช้ตราสัญลักษณ์นี้เข้าร่วมงานในวังหลวงได้ และสามารถนำคนเข้าไปได้ด้วย ทว่าไม่สามารถเกินสิบคนได้!"เจ้าหน้าที่ที่มองเหรียญตรากล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"ขอบคุณ!"เป่าเอ๋อรับเหรียญตรามาพร้อมเผยยิ้มเล็กน้อย.
จากนั้น จงซานก็พาทุกคนไปยังที่พักด้วยก่อน ทว่าเรื่องก่อนหน้านี้ ทุกคนที่เลือกจะเงียบ ไม่เอ่ยอะไรอีกต่อไป.
ในวันเดียวกันนั้น เสี่ยวเหยาโห่วที่นำผู้ใต้บังคับบัญชาออกจากเมืองหลานเหยี่ยนไปในวันนั้น เขาไม่มีหน้าอยู่ที่นี่แล้ว.
ส่วนเส้าเฟยโห่ว หลังจากเข้าร่วมงานเลี้ยงของจงซาน วันถัดมาก็กล่าวลาเนี่ยชิงชิง พร้อมกับนำเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาออกจากเมืองหลานเหยี่ยนไปในทันทีเช่นกัน เขาที่มุ่งหน้าตรงไปยังเมืองหลี่เห่าเซิ่งราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่.
เพราะว่าเส้าเฟยโห่วนั้นก็เหมือนกันฟ่านอี้พิน ที่เห็นเรื่องราวลึกล้ำน่าหวาดกลัว จะต้องนำเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไปรายงานเนี่ยฟ่านเฉิน.
ตลอดระยะเวลาสามเดือนนี้ แน่นอนว่าเนี่ยชิงชิงอยู่เป็นเพื่อนหลิงเอ๋อ พูดคุยเรื่องจงซานด้วยความสุข.
ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นที่ลานลงทะเบียน แน่นอนว่าได้กลายเป็นเรื่องขบขันครั้งใหญ่ของเมืองหลานเหยี่ยนทันที ผ่านไปเป็นเวลานานผู้คนก็ยังไม่ลืม ทั้งปรากฏคนที่มีความสามารถโดดเด่นและเรื่องตลกขบขันที่ยิ่งใหญ่จะมีคนลืมได้อย่างไร.
อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของเจ้าสำนักไท่ต่านนั้น ได้สร้างความประทับใจต่อผู้คนมากมาย.
ยาพิษ ที่จะต้องใช้เม็ดยาถอนพิษระดับเจ็ดร้อยเม็ด นี่นับว่าเป็นนักปรุงยาที่น่าเกรงขามนัก.
.....
สามเดือน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว.
เวลานี้ได้มาถึงงานชุมนุมหมื่นเม็ดยาแล้ว.
คนสิบคน แน่นอนว่าเป็นคนที่เดินทางมาพร้อมกับจงซาน ส่วนจ้าวโส่วเซี่ยงนั้นได้กลับกองทัพของเขา จึงไม่ได้เดินทางไปพร้อมกับจงซาน.
จงซานที่นำคณะเข้าไปยังวังหลวงซึ่งมีเนี่ยชิงชิงตามมาด้วย.
จงซานที่เข้ามายังวังหลวง จดจ้องมองไปยังคนมากมายที่เดินทางเข้ามาด้านใน จงซานที่เผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาด.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เนี่ยชิงชิงที่สอบถามออกมา.
"ราชันย์หลานเหยี่ยน หากไม่ทระนงตัวสูงก็คงสมองเต้าหู้ คาดไม่ถึงเลยว่าการแข่งขันหมื่นเม็ดยาจะจัดขึ้นในพระราชวัง? นับว่าเป็นอะไรที่แปลกแหวกแนวกว่าผู้อื่นจริง ๆ "กู่เฉียนโหยวที่เผยยิ้มที่แปลกประหลาด.
"วังหลวง เป็นสถานที่ของราชวงศ์อาศัยอยู่ ไม่เหมาะนักที่จะให้ผู้คนทั่วไปหรือกลุ่มราชวงศ์อื่น ๆ ได้พบเห็น หลานเทียนยวีคงจะคิดน้อยไปหน่อย!"เนี่ยชิงชิงที่พยักหน้ารับ.
อย่างไรก็ตาม จงซานก็ก้าวตามกลุ่มอื่น ๆ เข้าไป.
หลังจากที่แสดงเหรียญตรารับเชิญ ก็จะมีขันทีคอยนำทาง ก้าวเข้าไปข้างในลานตำหนักราชวงศ์ พื้นที่รอบ ๆ นั่น มีเหล่านักปรุงยาและสหายมากมายนั่งอยู่.
ที่ด้านเหนือของตำหนักนั้น มีตำหนักขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ที่นั่งของเหล่าคนสำคัญของราชวงศ์หลานเหยี่ยน ที่ด้านหน้ามีคนสองคน สวมชุดราชวงศ์หลานเหยี่ยน เป็นชายวัยกลางคนที่สวมมงกุฏหยก เขาก็คือราชันย์หลานเหยี่ยน หลานเทียนยวีนั่นเอง.
ส่วนอีกคนเป็นชายชราหนวดขาวสวมชุดสีคราม ซึ่งเป็นคนที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ต่านเซิ่งหลงหู่! หลานหลิงหู่นั่นเอง!
ส่วนผู้เชี่ยวชาญนักปรุงยาที่ได้รับสิทธิ์ก็จะมีขันทีคอยนำทางไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ส่วนคนที่ไม่ได้รับเชิญก็จะประจำอยู่ฝั่งทิศใต้.
เนี่ยชิงชิงนั้นเพราะว่าเป็นคนของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่ แน่นอนว่านางต้องอยู่ทางทิศเหนือ ซึ่งอยู่ใกล้กับราชันย์หลานเหยี่ยนนั่นเอง.
ทว่าเจ้าสำนักไท่ตานนั้น ไม่รู้ทำไมคาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกจัดให้มาอยู่ทิศเหนือ ฝั่งเดียวกับเหล่าราชวงศ์หลานเหยี่ยนด้วย.
ขณะที่ขันทีนำกลุ่มของจงซานเข้ามา ขันทีผู้หนึ่งที่ได้กล่าวอะไรบางอย่างกับเซิ่งต่านหลงหู่ด้วยเสียงเบา ๆ ก่อนที่เซิ่งต่านหลงหู่จะจ้องมองไปยังทิศทางของจงซาน จ้องมองไปยังเชวียนเป่าเอ๋อในฝูงชน.
ในเวลานั้นแววตาของเขาที่แสดงท่าทางประหลาดใจ จากนั้นก็จ้องมองด้วยสายตาที่เป็นมิตรต่อเชวียนเป๋าเอ๋อที่พยักหน้าให้เล็กน้อย.
เป่าเอ๋อที่ตกใจเล็กน้อย ทว่าก็พยักหน้ารับ.
ในบรรดาคนที่ถูกนำมายังทิศเหนือ สถานที่นั่งของสำนักไท่ตาน คาดไม่ถึงเลยว่าจะอยู่สูงกว่าเนี่ยชิงชิงสะอีก.
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ แสดงท่าทางสงสัย ทว่าก็ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดออกมา ทุกคนที่เข้าประจำที่กันเรื่อย ๆ เหล่าปรมาจารย์ปรุงยาที่กำลังถูกนำเข้าสู่ลานแข่งขัน.
ลานแห่งนี้นับว่าใหญ่มาก มีที่นั่งที่จัดเตรียมไว้กว่าหนึ่งหมื่นที่ ส่วนปรมาจารย์ปรุงยาที่ได้รับสิทธิ์นั้น มีจำนวนหนึ่งพันกว่าคน.
ไม่ต้องเอ่ยว่าใต้สวรรค์แห่งนี้มีปรมาจารย์ปรุงยาระดับสูงต่างก็มารวมตัวกันที่นี่ อย่างน้อยก็เกือบทั้งหมดที่มีในโลกใบนี้เลยก็ว่าได้.
งานชุมนุมหมื่นเม็ดยานั้น เป็นการรวมตัวของเหล่าปรมาจารย์ปรุงยาโดยเฉพาะ.
เหล่านักปรุงยา ที่บ้าคลั่งในวิถีการปรุงยา ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าเป็นพิธีอย่างหนึ่งของงานชุมนุมเม็ดยา แม้แต่ราชันย์หลานเหยี่ยนนั้นไม่ใช่คนที่มีสถานะสูงที่สุดด้วยซ้ำ ทว่าเป็นเซิ่งต่านหลงหู่นั่นเอง.
เหล่าปรมาจารย์ปรุงยานั้นแน่นอนว่าย่อมมีศักดิ์ศรีที่ไม่ธรรมดา ไม่มีใครยอมก้มหัวให้กับราชันย์หลายเหยี่ยน ในเวลานี้เหล่านักปรุงยาทั่วสถานะทิศประจำอยู่ในตำแหน่งของตัวเอง รอการเปิดงานอย่างเป็นทางการ.