Chapter 564 สวีฝู่ ต้าฉิน
จ้าวโส่วเซี่ยงที่อาสานำทาง แน่นอนว่าจงซานย่อมไม่มีความเห็นใด.
ระหว่างเดินทาง จงซานและจ้าวโส่วเซี่ยงที่พูดคุยกันสนุกถูกคอ กล่าวเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งหัวเราะปรบมือเสียงดัง กับการพูดคุยของคนทั้งสอง แน่นอนว่าย่อมมีคนจ้องมองตาขุ่นเขียว เต็มไปด้วยความอิจฉา.
โดยเฉพาะเทียนหลิงเอ๋อปากเล็ก ๆ ที่เบ้ไปมาด้วยท่าทางอยุติธรรม พวกนางเองก็ต้องการเวลาพูดคุยกับจงซานด้วยเช่นกัน ทว่ากลับเป็นจ้าวโส่วเซี่ยงเอาไปหมด ภายในใจรู้สึกไม่ดีนัก ที่ราวกับว่าคนที่รักถูกแย่งไป กับการพูดคุยกันอย่างออกรส ไม่มีจังหวะให้พวกนางได้สอดแทรกเขาไปเลยแม้แต่น้อย.
เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก เป่าเอ๋อและเฉียนโหยวที่คอยปลอบ ทว่าเป่าเอ๋อนั้นรับรู้ว่าจงซานนั้นมีแผนการอยู่ จึงไม่ได้คิดจะขวาง ส่วนกู่เฉียนโหยวที่มีเชาว์ปัญญาที่ลึกล้ำ ย่อมเข้าใจแผนการของจงซานที่ต้องการเอาชนะใจจ้าวโส่วเซี่ยง นางจึงเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น.
จ้าวโส่วเซี่ยงที่ได้เดินทางไปยังทางเหนือก่อน เพื่อไปรวมกับทัพกองกำลังเหล็กกล้าของพวกเขา พร้อมกับส่งจดหมายไปยังกองกำลังอื่น ๆ แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นที่เทือกเขาสุ่ยเหลียน.
จากนั้น ก็พาจงซานมาไปยังทิศตะวันตกเข้าสู่เมืองหลวง.
ราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน เมืองหลานเหยี่ยน!
กลุ่มของจงซานใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนก็มาถึงเมืองที่มีชื่อว่าหลานเหยี่ยน นับว่าไกลโข สามารถมองเห็นวาสนาสีทองมากมาย มังกรทองวาสนาขนาดใหญ่ที่ค่อย ๆ หมุนวนล้อมรอบท้องฟ้า มังกรที่มีเขาตั้งตรงชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
นี่คือราชวงศ์ราชันย์ที่ยิ่งใหญ่ สิ่งก่อสร้างที่ดูโอ่อ่ายิ่งใหญ่ไม่น้อย.
รวบรวมเหล่าคนที่มีความสามารถ ตั้งรากฐานให้มั่นคงบนทวีปศักดิ์สิทธิ์! นี่นับว่าเป็นรากฐานในการสร้างราชวงศ์วาสนาอย่างแท้จริง.
ก่อนหน้านี้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีนับว่าเป็นอีกแห่งที่ทรงพลังด้วยการรวบรวมเหล่ายอดฝีมือเช่นกัน บางทีงานชุมนุมหมื่นเม็ดยานี้ อาจมีเป้าหมายในการรวบรวมเหล่าผู้ฝึกตนที่มีฝีมือเข้าสู่ราชวงศ์แห่งนี้ด้วยก็ได้.
มีคนมากมายที่บินไปมา กำแพงเมืองที่มีความสูงกว่าสองพันเมตร ทำด้วยหยกสีขาว และยังมีค่ายกลที่ยอดเยี่ยมมองไม่เห็นแต่มันถูกกางเอาไว้รอบ ๆ กำแพงแล้ว.
"เข้าเมืองกันเถอะ!"จ้าวโส่วเซี่ยงกล่าว.
"อืม!"ทุกคนที่ก้าวตามจ้าวโส่วเซี่ยงเข้าไปในประตู.
ที่ประตูเมือง มีทหารตั้งแถวสองแถว หากแต่ไม่มีการตรวจค้น ปล่อยให้คนมากมายผ่านเข้าไปด้านใน.
"ไม่มีการตรวจค้นอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ตกใจเล็กน้อย.
"คราวแรกก็มีการตรวจคน ทว่าครึ่งปีก่อนหน้านี้ เหล่านักปรุงยาเดินทางมายังเมืองหลานเหยี่ยนมากขึ้นและก็มากขึ้น เข้า ๆ ออก ๆ ยากที่จะตรวจตรา พวกเราจะต้องทำงานทั้งวันทั้งคืน หลาย ๆ คนที่เหนื่อยล้าแสนสาหัส ทั้งคนเข้าและคนตรวจ ดังนั้นฝ่าบาทจึงออกคำสั่งว่าไม่ต้องตรวจค้น ไว้ให้สิ้นงานชุมนุมหมื่นเม็ดยา ค่อยกลับมาตรวจตราเหมือนเดิม!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย.
กู่เฉียนโหยวและจงซานที่เป็นเหมือน ๆ กัน อ้าปากหวอ ตื่นตกใจเล็กน้อย.
ที่นี่คือเมืองหลวง ของราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน คาดไม่ถึงเลยว่าราชันย์จะบริหารราวกับเล่นขายของ? ไม่มีการตรวจค้นเพียงพอรึ? มีคนมากมายเกินไปรึ? ด้วยหวั่นเกรง การต่อว่าของคนเดินทางอย่างงั้นรึ?
นี่เรียกว่าราชวงศ์ราชันย์ขนาดใหญ่ได้รึอย่างไร? ไม่ห่วงความปลอดภัยของตัวเองเลยรึ? ที่นี่เมืองหลวง! แต่กลับไม่คิดถึงความปลอดภัยของอาณาจักรเป็นหลัก?
คิดถึงราชันย์ที่ได้รับสืบทอด จงซานและกู่เฉียนโหยวต่างก็จ้องมองหน้ากันและกัน ทั้งสองที่เข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง ราชันย์ผู้นี้สมองขี้เลื่อย และยังเป็นคนที่อหังการอย่างที่สุด.
นี่อาจจะเรียกว่ามองแค่จุดเดียวแต่ไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด กับการบริหารเช่นนี้ จงซานพอจะคาดเดาบทสรุปชะตากรรมของราชวงศ์ราชันย์แห่งนี้ได้เลย หวังว่าจะไม่เกิดเหตุอะไร จนทำให้ราชวงศ์ราชันย์แห่งนี้ย่อยยับลงด้วยน้ำมือของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม จงซานก็ไม่ได้มีความปรารถนาดีที่จะกล่าวตักเตือนราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนแต่อย่างใด.
จ้าวโส่วเซี่ยงที่พาพวกเขาเข้ามาในประตูทิศตะวันออก ซึ่งมีเสียงดังอึกทึกจอแจเต็มไปหมด ดูคึกครื้นเป็นอย่างมาก ดูเหมือนว่าเมืองหลวงแห่งนี้จะรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก บางทีรุ่นก่อนน่าจะสร้างความเจริญไว้ไม่น้อย.
"เอาล่ะ พวกเราไปยังที่พักตระกูลจ้าวกันเถอะ!"จงซานเอ่ย.
"หืม ขออภัย ตระกูลจ้าวนั้นไม่ได้อยู่ในเมือง!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่กล่าวออกมาอย่างท่าทางเขินอายเล็กน้อย.
"หืม?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"เพราะว่าตำแหน่งของข้านั้นค่อนข้างต่ำ ไม่มีสิทธิ์เข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง ดังนั้นข้าจึงได้สร้างที่พักของข้าอยู่ในค่ายทหารทางตะวันตก.
ได้ยินจ้าวโส่วเซี่ยงอธิบายแล้ว จงซานไม่ได้ว่ากล่าวแต่อย่างใด หนำซ้ำดวงตายังเป็นประกาย จ้าวโส่วเซี่ยงที่เป็นเหมือนกับของล้ำค่า คาดไม่ถึงเลยว่า ราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนจะไม่สนใจเลยรึ? สวรรค์ได้ช่วยเหลือต้าเจิ้งของข้าแล้ว.
"ไม่มีปัญหา เช่นนั้นให้คนช่วยหาโรงเตี้ยมที่งดงามให้ด้วย ส่วนเจ้าพาพวกเราไปยังที่ชุมนุมหมื่นเม็ดยาก็แล้วกัน."จงซานกล่าว
"ให้ข้าหาโรงเตี้ยมที่งดงามอย่างงั้นรึ? เจ้าน่าจะรู้ด้วยว่าหนึ่งปีก่อนหน้านี้ โรงเตี้ยมที่งดงามต่างก็ถูกจับจองไปหมดแล้ว."จ้าวโส่วเซี่ยงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"งั้นย้ายจากโรงเตี้ยม เป็นคฤหาสน์อันดับ 1 เป็นอย่างไร!"จงซานที่กล่าวยืนยัน.
"ย้ายจากโรงเตี้ยม?ไปเป็นคฤหาสน์อันดับหนึ่งอย่างงั้นรึ? สถานที่ดังกล่าวนับว่าไม่ธรรมดา ในเมืองหลานเหยี่ยน นับว่ามีชื่อเสียง ไม่มีใครกล้าเช่า เจ้าจะจองจริง ๆ รึ?"ดวงตาของจ้าวโส่วเซี่ยงที่แสดงท่าทางไม่อยากเชื่อ.
"ใช่ ข้าต้องการพักที่นั่น!"จงซานที่พยักหน้ากล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
ธุรกิจที่พัก นับว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่รุ่งเรือง การที่จะจองที่พักเป็นคฤหาสน์ขนาดใหญ่ในเมืองหลวง นอกจากคนของต้าเจิ้งแล้ว คงไม่มีใครกล้าเช่าอย่างแน่นอน.
"เอาล่ะ พาพวกเราไปสถานที่ลงทะเบียนได้แล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"แม้ว่าจ้าวโส่วเซี่ยงที่ค่อนข้างตะลึงงัน ทว่าก็ไม่กล่าวอะไรเซ้าซี้อีก.
จงซานที่ถูกพาลึกเข้าไปในเมือง ไปยังพื้นที่จัดเตรียมที่ดูโอ่อ่ายิ่งใหญ่ ที่กำลังจัดงานที่เหมือนกับนิเทศกาลบางอย่าง.
หลังจากที่จงซานผ่านเข้ามาในเมือง สายตาของคนกลุ่มหนึ่งที่จดจ้อง จากนั้นก็หนีหายกลมกลืนไปกับฝูงชน.
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วยาม.
ภายในสวนหย่อมขนาดเล็ก เรือนที่พักที่มีสระขนาดเล็ก หญิงสาวในชุดสีดำที่กำลังให้อาหารปลาพลางนั่งจดจ้องมองปลาอยู่ในสระ.
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ด้านนอกสาวรับใช้ก็วิ่งเข้ามาในทันที.
"กงจู!"สาวรับใช้ที่แสดงความเคารพต่อหญิงสาวชุดดำ.
"โอ้ว มีบุคคลสำคัญใดกันที่มาในคราวนี้?"หญิงสาวที่กล่าวอย่างไม่แยแส.
"ข้าได้เก็บภาพเหล่าคนที่เดินทางมา วันนี้มีคนกลุ่มหนึ่งที่สำคัญ เขาคือจงซาน!"สาวรับใช้ที่กล่าวรายงาน.
ขณะที่สตรีชุดดำให้อาหารปลาอยู่ได้ยินคำว่าจงซาน มือของนางที่สั่นสะท้าน อาหารปลาทั้งหมดที่ล่วงหล่นลงบนสระทั้งหมด.
"จงซาน? เจ้าบอกว่าจงซานอย่างงั้นรึ?"สตรีชุดดำที่จ้องมองไปยังสาวรับใช้.
"ค่ะ ผู้น้อยเห็นกงจูหลิงเอ๋อด้วย และยังมีชิงหง อยู่รวมในกลุ่มพวกเขามีอยู่ด้วยกัน 11 คน."สาวรับใช้รายงาน.
"หลิงเอ๋อมาด้วยรึ? จงซานมาอย่างงั้นรึ? แล้วพวกเขาไปที่ใหนกัน?"หญิงสาวในชุดสีดำที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
สตรีในชุดสีดำก็คือกงจูของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่ เนี่ยชิงชิง.
ในอดีตจงซานที่เดินทางมายังราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่และได้พาหลิงเอ๋อกลับไป ซึ่งได้ใช้ความพยายาม เป็นอย่างมากเลยทีเดียว.
"พวกเขาไปยังสถานที่ลงทะเบียน!"สาวใช้ที่กล่าวรายงาน.
"เจ้าแจ้งไปยังเส้าเฟยโห่ว ต้องไม่ลืมว่าทุกคนจะต้องรู้ ส่วนเสี่ยวเหยาโห่วไม่จำเป็นต้องบอกเขา!"เนี่ยชิงชิงครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"เจ้าคะ!"ผู้ใต้บังคับบัญชารับคำและจากไปในทันที.
หลังจากที่เนี่ยชิงชิงและเส้าเฟยโห่วจากไปแล้ว ใบหน้าถมึงทึงของเสี่ยวเหยาโห่วก็โผล่ออกมาดักหน้าสาวรับใช้คนก่อนหน้า.
"ก่อนหน้านี้เจ้าบอกอะไรกับเนี่ยชิงชิงและเส้าเฟยโห่ว? ทำไมไม่มาบอกกับข้า!"เสี่ยวเหยาโห่วที่แค่นเสียงเย็นชา.
"ผู้น้อย ผู้น้อย..."สาวรับใช้ที่แสดงท่าทางหวาดกลัว.
"พูด!!!"เสี่ยวเหยาโห่วที่ตะคอกเสียงดัง.
"ค่ะ ผู้น้อยเห็นจงซาน กงจูหลิงเอ๋อ...."สาวใช้รายงานยังไม่จบด้วยซ้ำ ร่างก็ลอยออกมา.
"ปังงง!!"เป็นเท้าของเสี่ยวเหยาโห่วที่ถีบออกไปทันที.
"พรึด!"สาวรับใช้พ่นโลหิตคำโต แต่ไม่กล้ากล่าวสิ่งใด.
"ชิ!"เสี่ยวเหยาโห่วแค่นเสียง ไม่สนใจผู้ใต้บังคับบัญชาคนดังกล่าวแม้แต่น้อย ก่อนที่จะเดินก้าวออกไป.
......
ภายในเมือง ในหุบเขาแห่งหนึ่ง.
ชายในชุดสีขาว ที่กำลังนั่งอยู่กลางหุบเขากำลังบรรเลงกู่ฉิน ด้วยอารมณ์ที่ลึกล้ำแช่อยู่ในความหลงไหล.
ผู้ใต้บังคับบัญชาในชุดสีดำที่เข้ามาข้าง ๆ แต่ไม่กล้ารบกวน ทว่าเข้ามาใกล้ ๆ พลางยืนโค้งคารวะ.
จวบจนการบรรเลงเพลงจบลง ชายในชุดสีขาวที่ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น จดจ้องมองไปด้านหน้า.
ที่ด้านข้าง สาวใช้ที่นำผ้าเช็ดหน้าบิดน้ำร้อนเข้ามาเช็ดมือให้กับเขา.
"มีปัญหาอะไร พบอะไรอย่างงั้นรึ?"ชายในชุดสีขาวสอบถามออกไป.
"เรียนเสนาบดี พวกเราได้พบกับจงซาน!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าว.
"หืม?จงซานรึ? คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมา?"ชายในชุดสีขาวที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"ที่ข้างกายจงซานมี ฮวงโห่วสามพระองค์ และคนอื่น ๆ อีกรวม 11 คน!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าว.
"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง? จงซานไม่มีอะไรทำรึอย่างไร คาดไม่ถึงเลยว่าจะเตร็ดเตร่มาจนถึงที่นี่!"ชายในชุดสีขาวที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"ท่านเสนาบดี ส่งข่าวไปยังราชวงศ์จักรพรรดิยงเล่อหรือไม่?"ผู้ใต้ยังคับบัญชากล่าวสอบถาม.
"ไม่จำเป็น ราชวงศ์จักรพรรดิยงเล่อกำลังเตรียมยกระดับเป็นราชวงราชันย์ ฝ่าบาทเวลานี้หาได้สนใจราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งแต่อย่างใด ไม่มีอะไรต้องสนใจแม้แต่น้อย."ชายในชุดสีขาวกล่าว.
"ขอรับ!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าว.
ชายในชุดสีขาวผู้นี้ก็คือ ผู้ใต้บังคับบัญชาของกู่เสวียน! ซึ่งเดินทางมาช่วยปรมาจารย์ปรุงยาในงานชุมนุมหมื่นเม็ดยา! ด้วยเชาว์ปัญญาของเขาแล้ว ไม่ว่าเรื่องอะไร ข้อมูลอะไรล้วนแล้วแต่สำคัญ.
"ตอนนี้จงซานอยู่ที่ใด?"ฟ่านอี้พินกล่าว.
"กำลังเดินทางไปยังพื้นที่ลงทะเบียน!"ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวรายงาน.
"นำทาง!"ฟ่านอี้พินกล่าว.
"ครับ!"
จงซานที่มีจ้าวโส่วเซี่ยงนำทางเข้าไปด้านใน ซึ่งพบคนที่สวมชุดพรตเต๋ามากมาย ซึ่งจงซานไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย ทว่าได้เดินทางไปยังลานขนาดใหญ่ทันที.
ที่ลานนั้นมีเตาปรุงยาขนาดใหญ่โตมโหฬาร และยังมีเปลวเพลิงที่แตกต่างกันไป ซึ่งมีจุดให้ลงทะเบียนปรุงยาอยู่ด้วย.
จงซานที่พาทุกคนก้าวเข้าไป ทันใดนั้นจงซานก็พบกับคนคุ้นเคย.
ชายในชุดสีม่วงที่สะพายดาบยักษ์สีดำทมิฬ ไป๋เย่! ซึ่งในอดีตเขาเคยเป็นจักรพรรดิของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่นั่นเอง ซึ่งหลังจากที่ถูกหยิงกัด ตอนนี้ได้กลายเป็นเจียงซือของต้าฉินไปแล้ว และภัคดีต่อราชวงศ์สวรรค์ต้าฉินโดยปริยาย.
ในเวลาเดียวกันนั้นไป๋เย่ ได้ก้าวเข้ามาพร้อมกับชายผู้หนึ่ง.
ชายในชุดคลุมสีม่วง ผมยาวรวมพาดไปด้านหลัง มือของเขาที่ถือแส้หางม้าอันหนึ่ง ดูผ่อนคลายไร้ซึ่งความกังวล.
คนทั้งสองดูเหมือนว่าจะมาลงทะเบียนเช่นกัน พวกเขาที่นำตราสัญลักษณ์มอบให้เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่ง.
อยู่ไม่ไกลแล้ว คนทั้งสอง ไป๋เย่และชายในชุดคลุมสีม่วงที่พูดคุยกันบางอย่าง ก่อนที่ชายในชุดสีม่วงจะพยักหน้า.
"กงอู๋อาน พบกันอีกแล้ว!"จงซานที่เข้าไปทักทาย.
"ต้าเจิ้ง จักรพรรดิจงซาน? เจ้าเองก็เข้าร่วมงานแข่งขันหมื่นเม็ดยาด้วยรึ?"ไป๋เย่ที่พยักหน้ารับและสอบถามออกไป.
"ใช่แล้ว เป็นหวงโห่วของข้า เพิ่งได้รับคำเชิญเช่นกัน ว่าแต่ท่านผู้นี้คือ?"จงซานที่จ้องมองไปยังชายในชุดสีม่วงด้านข้าง.
"พรตมือใหม่ของราชวงศ์สวรรค์ต้าฉิน สวีฝู่ "ชายในชุดสีม่วงที่กล่าวตอบ.