Chapter 559 การต่อสู้ที่น่าหวาดกลัว.
กระบี่ในมือของเจี้ยนหง ที่ปลดปล่อยจิตสังหารที่รุนแรงออกมา ปราณกระบี่ที่ไร้ขีดจำกัด ส่องประกายระยิบระยับร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าราวกับห่าฝน สังหารเหล่าวานรในพื้นที่รอบ ๆ เทือกเขา นี่เป็นพลังทำลายที่น่าหวาดกลัว เห็นได้อย่างชัดเจนว่าน่าหวาดกลัวอย่างชัดเจน.
เจี้ยนหง มีระดับจักรพรรดิแท้ขั้นปลายอย่างงั้นรึ? แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
ในเวลานี้เหลืออสูรขนาดร้อยเมตรสองตน ตนหนึ่งมีสีขาวซีด อีกตนมีสีดำสนิท ทั้งสองถือไม้เท้า ชี้ขึ้นไปบนฟ้า ซึ่งทั้งสองต่างก็คืออ๋องวานรนั่นเอง.
ทั้งสองตนคืออสูรวานรระดับราชันย์แท้ เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของเผ่าวานรที่รอดอยู่ตอนนี้.
อสูรสองตนขนาดใหญ่ ที่ใช้ไม้เท้ากวัดแก่งไปมา เพื่อป้องกันปราณกระบี่ของเจี้ยนหงที่ล่วงหล่นลงมา.
เจี้ยนหงนับว่าโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพลงกระบี่ของนางนั้น ทุกครั้งที่กวัดแกว่งอออกไปสามารถที่จะฉีกท้องฟ้าให้เป็นรอยได้ แม้ว่ากระบี่ของนางจะไม่สามารถปะทะไม้เท้าตรง ๆ ได้ ทว่าเพลงกระบี่ของนางกลับงดงามประณีต เหมือนหนามที่แหลมคมทิ่มแทงไปยังจุดอ่อนของไม้เท้ายักษ์ได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งกระบี่สีดำในมือของนางนั้นนับว่าไม่ธรรมดาแม้แต่น้อย.
กระสีดำของนางที่สร้างความเย็นยะเยือกที่หนาแน่นแผ่ออกมา ทำให้การโจมตีของอ๋องวานรไม่เป็นผล อีกทั้งพวกมันที่มีระดับราชันย์แท้ ด้วยพลังของกระบี่สีดำนั่นทำให้ไม่สามารถสร้างโลกจิตสำนึกขึ้นมาได้.
กระบี่ที่ปิดท้องฟ้า ปราณกระบี่ที่ไร้ที่สิ้นสุด อ๋องวานรทั้งสองที่ถูกพลังมากมายล่วงหล่นใส่ ทั่วทั้งสนามรบเต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง เหล่าวานรทั่วไปที่หนีกันจ้าระหวั่น ทว่าตราบเท่าที่มีปราณกระบี่สักอันถูกร่างของมันล่ะก็ พลังดังกล่าวก็จะเชือดเฉือนร่างกายของพวกมันให้ตกตายไปในทันที.
น่าเกรงขาม นี่คือการต่อสู้ของยอดยุทธ์ เพียงแค่มองก็ทำให้เลือดในกายร้อนรุ่มขึ้นมาแล้ว.
เจี้ยนหงปะทะสองสัตว์อสูรขนาดใหญ่ ที่ไกลออกไป บนยอดเขา มีกลุ่มของวานรอยู่ด้วย ชายในชุดสีขาวที่มีเหล่าวานรอารักขา.
คนผู้นี้ก็คือจื่อจุ้นกลับชาติมาเกิด เฉินฉีเทียนนั่นเอง ในอดีตเขาคือฉีเทียนโห่วของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว.
ในเวลานี้ ใบหน้าของเฉินฉีเทียนที่เต็มไปด้วยความเย็นชามืดครึ้มจ้องมองสนามรบ มองไปยังเจี้ยนหง เป็นสตรีที่บ้าคลั่งเสียสติ ไล่ตามเขาราวกับวิญญาณหลอน หลายสิบปีมานี้ นับตั้งแต่อยู่ในราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวแล้ว นางไม่เคยหยุดพักเลยแม้แต่น้อย.
เสี่ยวหวัง ในเวลานี้เขาเริ่มเสียใจแล้วที่ได้ฆ่าคนผู้นี้ไป คราวแรกเขาไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเสียวหวังผู้นี้เลย เขาที่พบเจอกับเสียวหวังโดยบังเอิญ จึงได้ใช้กองกำลังวานรที่แข็งแกร่งกว่าเข้าล้อมกรอบ สามารถบอกได้ว่ามันเป็นเจตจำนงสวรรค์ให้เขาสังหารเสี่ยวหวังเพื่อตัวเขาเอง อุปราชราชวงศ์ราชันย์ การสังหารเขา นับว่าได้รับความดีความชอบไม่น้อยเลย.
เขาที่คิดถึงความดีความชอบ แต่กลับเป็นการสร้างปัญหาใหญ่มาก เจี้ยนหงผู้นี้ร้ายกายมาก นี่เสี่ยวหวังมีอะไรกับสตรีสติฟั่นเฟือนผู้นี้อย่างงั้นรึ? สตรีผู้นี้บ้าคลั่งผิดปรกติ ระดับจักรพรรดิแท้ขั้นปลาย ราวกับเครื่องจักรสังหารที่เข้าต่อกรกับระดับราชันย์ได้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะผิดปรกติถึงเพียงนี้เลยรึ?
เฉินฉีเทียนไม่หนีอีกต่อไป ไม่สามารถหนีได้แล้ว ตัวเขาที่หนีมาตลอดหากครั้งนี้หนี ครั้งหน้าก็ต้องหนี จะให้เขาหนีไปตลอดเลยอย่างงั้นรึ?
ตอนนี้ เขามีอ๋องวานรสองตน หากว่าครั้งนี้ สามารถสังหารเจี้ยนหงได้ หลังจากนี้ชีวิตของเขาจะต้องสงบสุข เขาจะต้องลบเจี้ยนหงออกไปให้ได้ก่อน.
จะต้องสังหารเจี้ยนหง ต้องทำให้ได้! ดวงตาของเฉินฉีเทียนที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร.
นอกจากเฉินฉีเทียนที่กำลังจ้องมองลงไปในสนามรบ ที่ไกลออกไปบนยอดเขาแห่งหนึ่ง ก็มีชายในชุดสีขาวอีกคนเช่นกัน.
ชายคนดังกล่าวมีม่านพลังสีแดงปกคลุมอยู่ เหล่าวานรมากมายที่เข้าไปล้อมกรอบโจมตี ทว่าก็ไม่สามารถทะลวงม่านพลังป้องกันได้ และสุดท้ายพวกมันก็ค่อย ๆ ยอมแพ้ที่จะโจมตี และเมื่อห่าฝนปราณกระบี่ล่วงหล่นลงมาจากฟากฟ้า เพียงแค่สัมผัส เหล่าวานรทั่วไปก็ตกตายไปอย่างสมบูรณ์.
ชายผู้นี้ ใบหน้าเป็นกังวล เมื่อเห็นสัตว์อสูรสองตัวขนาดใหญ่มีพลังความแกร่งไม่ธรรมดา แสดงท่าทางเป็นห่วงเจี้ยนหง แววตาที่จับจ้องมองไปยังเจี้ยนหง กลัวว่านางจะได้รับอุบัติเหตุ.
จงซานเองก็อยู่อีกซีกหนึ่งจ้องมองลงไปยังสนามรบด้วยเช่นกัน ภาพฉากในเวลานี้ น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก เจี้ยนหงร้ายกาจจริง ๆ .
จ้าวโส่วเซี่ยงในเวลานี้ ก็จ้องมองเช่นกัน สตรีผู้นี้ แข็งแกร่งทรงพลังมาก.
จงซานและคนอื่น ๆ ไม่ได้ก้าวตรงไปข้างหน้าอีก เพียงแค่เฝ้ามองจากพื้นที่ไกลออกไป แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมสงคราม นอกจากนี้การต่อสู้นี้ จงซานไม่ต้องการเข้าไปยุ่งอีกด้วย.
ที่ไกลออกไปนั้น เสื้อผ้าของเจี้ยนหงได้ฉีกขาดหลายแห่ง ทว่าฝ่ายอ๋องวานร มีบาดแผลมากมาย.
ทั้งคู่ดูเหมือนว่าจะหมดเรี่ยวแรงแล้ว.
จากนั้น ทุกคนที่ต่างก็จ้องมองเหตุการณ์ทั้งหมด ที่ไกลออกไปนั้นเฉินฉีเทียนพบจงซานและคนอื่น ๆ แล้ว แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ทว่าก็ไม่ได้ใส่ใจ เรื่องด่วนก็คือเจี้ยนหงนั่นเอง ขณะที่มองกู่เฉียนโหยว แววตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน.
ท้ายที่สุด ขณะที่เจี้ยนหงเผยช่องว่าง ดูเหมือนว่าเฉินฉีเทียนจะฉวยโอกาสดังกล่าวในทันทีเช่นกัน.
ไม้เท้าของเขาที่ย่อจนมีขนาดเล็ก ก่อนที่จะควบคุมพุ่งขึ้นไปบนอากาศ ไม่มีใครสามารถมองเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ แทบจะทุกคนที่จ้องมองไปยังตรงกลางสนามรบ.
หลังจากนั้นห้าลมหายใจ ทันใดนั้น จากบนท้องฟ้า เห็นเป็นแค่จุดแสง ไม้เท่าขนาดยักษ์ที่ล่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า ทิ้งดิ่งตรงไปยังเจี้ยนหง
"ท่านแม่ ระวัง!"
ชายในชุดสีขาวในม่านพลังสีแดงที่ตะโกนออกมาด้วยท่าทางตื่นตะหนก.
พลังกดดันวิญญาณที่แผ่ออกมาจากบนก้อนเมฆ เห็นเป็นจุดทิ้งดิ่งลงมากบนฟ้าตรงลงมาตรงศีรษะของเจี้ยนหงด้วยความเร็วสูง.
เจี้ยนหงที่ต้องพัวพันกับอสูรยักษ์สองตน เป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนี ทำได้แค่เพียงรับการโจมตีของไม้เท้าดังกล่าว.
กระบี่สีดำของนางที่สะบัดดึงหลบอสูรทั้งสอง ก่อนที่จะทะลวงมันขึ้นบนท้องฟ้า.
"ตูมมมมมมมมมมม"
พลังที่หนักหน่วงที่ล่วงหล่นลงมาก ปะทะกับสนามพลังกระบี่เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น เหล่าศพของวานรที่อยู่รอบ ๆ ถูกพัดเป่าลอยเคว้งบนท้องฟ้า กระบี่ของเจี้ยนหงน่าเกรงขามนัก แม้แต่สามารถรับการลอบโจมตีของเฉินฉีเทียนได้.
อย่างไรก็ตาม อสูรระดับราชันย์แท้มีเหรอจะปล่อยโอกาสทิ้งไป ในเวลาเดียวกันนั้นไม้เท้าขนาดยักษ์ของอ๋องวานรตนหนึ่งก็พุ่งตรงมายังร่างของเจี้ยนหง เจี้ยนที่รับการโจมตีของมัน หากแต่อีกตนก็ลงมือเช่นกันหลังจากนั้น.
"ตูมมมมมมมมมมมมมม"
การโจมตีทั้งสองข้าง ทำให้เจี้ยนหงใช้มือซ้ายออกมารับการโจมตีด้านหนึ่งทำให้แขนซ้ายของนางบาดเจ็บสาหัส กระดูกที่หักแตก จนแม้แต่มองเห็นกระดูก.
ท้ายที่สุดเจี้ยนหงก็ได้รับบาดเจ็บหนัก!
เฉินฉีเทียนและอ๋องวานรทั้งสอง เผยสีหน้าแห่งความยินดีเป็นอย่างมาก.
"อ๊ากกกกก"
เจี้ยนหงที่คำรามร้องลั่นออกมาทันที ดวงตาที่กลายเป็นสีแดง ระหว่างที่ร้องออกมาเสียงดังนั้น นางที่เต็มไปด้วยความโกรธเกลียด เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง จิตสังหารที่ระเบิดออกมา.
ทันใดนั้น ทั่วทั้งท้องฟ้า ปราณกระบี่ก็เปลี่ยนสีในทันที เวลานี้มันกลายเป็นสีแดงโลหิต ทั่วร่างของเจี้ยนหงที่มีหมอกโลหิตปกคลุมทั่วร่าง.
อ๋องวานรทั้งสอง เวลานี้จ้องมองไปยังเจี้ยนหง สัมผัสได้ถึงปราณกระบี่สีแดงชาด รู้สึกถึงกลิ่นอายที่ทรงพลังปลดปล่อยออกมาจากร่างของนาง.
"จือจุ้น หนีเร็วเข้า พวกเราจะต้องหนีตอนนี้เลย เจี้ยนหงทะลวงระดับ นางกำลังจะมีระดับราชันย์แท้!"เสียของวานรตนหนึ่งเอ่ยออกมา.
ระดับราชันย์แท้? เจี้ยนหงที่มีระดับจักรพรรดิแท้อยู่ การจะสังหารนางก็ยังมีโอกาส ทว่าแม้ว่านางจะมีระดับจักรพรรดิแท้ก็ตาม สองระดับราชันย์แท้ก็ยังไม่สามารถจัดการนางได้ง่าย ๆ ตอนนี้นางกำลังทะลวงไปยังระดับราชันย์แท้อย่างงั้นรึ?
กับเรื่องราวที่น่าขนลุกนี้ได้เกิดขึ้นแล้ว หากว่านางก้าวไปถึงระดับราชันย์แท้แล้วล่ะก็ อ๋องวานรทั้งสอง ไม่ต้องบอกเลยว่าจะต่อกรกับนางได้หรือไม่?ในเวลาอ๋องวานรทั้งสองที่รู้สีกตื่นตระหนกขึ้นมาในทันที.
ต้องหนีให้เร็ว จะต้องพาจือจุ้นหนีไปในเวลานี้.
เฉินฉีเทียนที่ไม่ต้องการหนี หากแต่ได้ยินเสียงคำรามของวานร ภายในใจของเขาที่เต้นไปมาเต็มไปด้วยความหดหู่ เจี้ยนหงนับว่าเป็นอสุรกายพรสวรรค์อย่างงั้นรึ? พวกเขากำลังจะชนะอยู่แล้ว ใกล้จะกำจัดนางได้แล้ว ทันใดนั้นก็ทะลวงผ่านระดับอย่างงั้นรึ?
เรื่องนี้มัน! ใบหน้าของเฉินฉีเทียนที่ดูไม่ดี เจียนหงร้ายกาจมาก หนีรึ? ไม่สามารถหนีได้อย่างแน่นอน หากเจี้ยนหงไม่ตาย เผ่าวานรจะต้องมีคนตายอีกมากมาย หลังจากนี้มันก็จะไม่จบไม่สิ้นซักที.
ไม่สามารถหนีได้!
เจี้ยนหงที่ทะลวงผ่านพลังฝึกตน ทั่วร่างเต็มไปด้วยพลังที่หมุนวน ปราณกระบี่สีแดงชาดมากมาย ที่ปะทุออกมา ดวงตาเบิกกว้าง จดจ้องมองไปยังเหล่าวานร แรงกดดันวิญญาณที่หนักหน่วงที่ระเบิดหมุนวนออกไป พื้นที่รอบ ๆ เกิดสนามพลังวายุขึ้นอีกครั้ง.
ระดับราชันย์แท้ เจี้ยนหงที่ได้รับบาดเจ็บ ชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย คาดไม่ถึงว่าจะทะลวงผ่านพลังฝึกตนอย่างงั้นรึ?
บนยอดเขาที่อยู่ไกลออกไป บุตรชายของเจี้ยนหงที่เผยสีหน้าแววตาดีใจขึ้นมาทันที.
ส่วนใบหน้าของเจี้ยนหงนั้นไม่เปลี่ยนไป กระบี่ของนางที่ชี้ไปยังอ๋องวานรทั้งสอง.
ในเวลานี้ เจี้ยนหงที่สามารถเคลื่อนย้ายพลังฟ้าดิน ทรงพลังกว่าเมื่อก่อนมาก ถึงแม้ว่าจะอยู่ห่างออกมา จงซานยังสัมผัสได้พึงพลังวิญญาณที่หนักหน่วง ปราณกระบี่ที่มากมาย จวบจนทุกคนต้องถอยห่างออกมาอีกอย่างรวดเร็ว.
เจี้ยนหงที่ร่ายรำกระบี่ไปมา.
ความแข็งแกร่งของเจี้ยนหงเพิ่มขึ้น ทำให้กระบี่สีดำในมือของนางปล่อยปราณความเย็นมากมายกระจายออกมายิ่งกว่าเดิม.
เจี้ยนหงที่ฟันกระบี่ฟาดฟันออกไปยังอ๋องวานร ไม้เท่าของอ๋องวานรที่เคลื่อนที่มาป้องกันอย่างรวดเร็ว ทว่าด้วยพลังของเจี้ยนหงเพิ่มข้น แข็งแกร่งมากกว่าเนิน อ๋องวานรจะต้านได้อย่างงั้นรึ?
"ตูมมมมมมมมมม"
กระบี่ของเจี้ยนหองที่ตัดไม้เท้ายาว อ๋องวานรที่ลอยโด่งออกไป.
"พรึด!!!"
อ๋องวานรที่โลหิตสายกระจาย แววตาที่หวาดผวา เป็นไปไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ พลังเพิ่มมากมายขนาดนี้เลยรึ? ไม่มีทาง!
ทว่าความจริงก็คือความจริง พลังความแข็งแกร่งของเจี้ยนหงนั้น ตอนนี้ทุกคนตระหนักได้ แข็งแกร่งมากกว่าเดิมมาก อ๋องวานรในเวลานี้ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจี้ยนหงแล้ว.
กระบี่ของเจี้ยนหงที่ตวัดออกไปยังอ๋องวานรอีกตน ซึ่งมันได้เห็นอ๋องวานรตนก่อนหน้านี้แล้ว ทันใดนั้นมันก็หลบในทันที.
"ตูมมมมมมมมมมมมมมมม"
เป็นพลังทำลายที่ร้ายกาจ กระบี่ของนางที่ฟันลงบนพื้น หากแต่กับสามารถแยกผืนปฐพี เป็นรอยกว้างลึกลงไปด้านล่าง.
ปราณกระบี่สีแดงชาดนั้นร้ายกาจมาก ปราณกระบี่ของนางส่องประกายแสงระยิบระยับร่ายรำบนอากาศ กระจายไปทุกที่ เหล่าวานรมากมายที่ตกตายไปในทันที.
ในเวลานี้ เหล่าวานรกำลังพบกับภัยพิบัติครั้งใหญ่เข้าแล้ว.
เฉินฉีเทียนที่จ้องมองเจี้ยนหงดวงตานิ่งงัน ไม่จำเป็นต้องบอกเลย เขาที่เห็นเจี้ยนหงก้าวไปถึงระดับราชันย์แท้ ตอนนี้นางแทบจะไร้เทียมทานแล้ว.
ใบหน้าที่เดี๋ยวขาวเดี๋ยวดำของเฉินฉีเทียน มีประกายความซับซ้อนแฝงอยู่ เวลานี้มีความห่อเหี่ยวหดหู่เป็นอย่างมาก ที่หน้าผากของเขาในเวลานี้มีบางอย่างปรากฏขึ้น.
เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหล่าวานรที่เข้ามาล้อมกรอบปกป้องเฉินฉีเทียนในทันที ส่วนอ๋องวานรทั้งสองที่รับการเข้าโจมตีอย่างบ้าคลั่ง.
"เฉินฉีเทียนกำลังจะปลดผนึกวิญญาณอสูร? จงซาน พวกเรารีบหนีกันเถอะ!"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"อะไรคือผนึกวิญญาณอสูรรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังกู่เฉียนโหยว.
"เฉินฉีเทียนนั้นในชาติที่แล้วคือจือจุ้นเผ่าวานร ปรกติเผ่าอสูรนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดราชวงศ์วาสนาขึ้นมาได้ หลังจากนั้นไม่รู้ว่าเขาใช้วิธีที่ลึกล้ำอย่างไร ทำให้ตัวเองกลับชาติมาเกิดได้ แน่นอน เขาที่ควรจะเกิดมาเป็นเผ่าอสูรเหมือนเช่นดังเดิม ทว่าทำไมไม่รู้ คาดไม่ถึงว่าเขาจะกลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์ ฝ่าบาทเคยสอบถาม เฉินฉีเทียนได้ผนึกความทรงจำชาติที่แล้วของตัวเองอย่างลึกลับด้วยการ ผนึกวิญญาณอสูร และเมื่อเขาเปิดผนึกวิญญาณอสูร เขาก็จะกลับมาเป็นเผ่าอสูรอีกครั้ง หากแต่เมื่อเขาปลดผนึกวิญญาณอสูร เขาก็จะไม่สามารถเปิดราชวงศ์วาสนาได้ อย่างไรก็ตาม ความทรงจำในชาติที่แล้วของเขาก็จะกลับคืนมา นอกจากนี้ประสบการณ์ความสามารถของเขาในชาติที่แล้วก็จะกลับมาด้วย ในชาติที่แล้วของเฉินฉีเทียนนั้น เขามีระดับสวรรค์แท้!"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวอกมาด้วยความกังวล.