Chapter 557 แม่ทัพทะลวงฟัน.
ชายในชุดสีขาวถือหอกเงิน ก็คือจ้าวโส่วเซี่ยงนั่นเอง.
นี่คือสำนักทวนเหล็กเกาะหมาป่าสวรรค์ เป็นสหายในอดีตของจงซาน เจ้าโส่วเซี่ยนเป็นคนที่หยิ่งทระนงในศักดิ์ศรี ขณะที่สำนักทวนเหล็กกำลังจะถูกกำจัดทั้งหมด จงซานที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ และเขาก็ได้รับสืบทอดหัวใจหอกมา ก่อนที่จะนำเหล่าอาจารย์อา จากเกาะหมาป่าสวรรค์ไป เดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์.
"จ้าวโส่วเซี่ยง!"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
หลิงเอ๋อเองก็รู้จักกับจ้าวโส่วเซี่ยง ซึ่งเป็นการเดินทางท่องโลกกว้างครั้งแรกของนาง และพบกับเขา หลังจากนั้นพวกเขายังกลับมาช่วยกันต่อต้านศัตรูด้วยกัน แม้ว่าจะไม่ได้สนิทสนม ทว่าก็มีความประทับใจเช่นกัน.
"คนผู้นี้มีระดับก่อตั้งวิญญาณอย่างงั้นรึ? นี่เขาคนเดียวจะรับมือวานรนับหมื่นอย่างงั้นรึ?"กู่เฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสงสัย.
ระดับก่อตั้งวิญญาณ? ที่ด้านหน้าอสูรวานรนับหมื่นนี้ มีวานรก่อตั้งวิญญาณร้อยตน และระดับหลอมกายธาตุอีกหกตน จ้าวโส่วเซี่ยงจะรับมือคนเดียวอย่างงั้นรึ?
ขณะที่กู่เฉียนโหยวและคนอื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยความสงสัย จ้าวโส่วเซี่ยงที่คำรามเสียงดัง ตวัดหอกในมือพุ่งเป็นริ้วแสงมายังกลุ่มวานรทั้งหมื่นตน.
เหล่าวานรนับหมื่นที่เข้าล้อมกรอบ เหล่าวานรมากมายที่เข้ารุมล้อม แต่ละตนต่างก็ถือไม้เท้าพุ่งเข้าหาจ้าวโส่วเซี่ยง ร่างกายที่ใหญ่โตของพวกมันดูร้ายกาจเป็นอย่างมาก.
แทบจะในทันที ขณะที่พวกมันเข้าใกล้จ้าวโส่วเซี่ยง เรื่องที่น่าตื่นตระหนกก็เกิดขึ้น.
ลำแสงที่ถูกยิงออกมาเป็นสายยาว ทะลวงร่างของวานรตนหนึ่ง ด้วยร่างกายที่ใหญ่โตไม่สามารถที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีจ้าวโส่วเซี่ยงได้เลย.
วานรตนดังกล่าวระเบิดเสียงดังสนั่น คลื่นจากหอกนั้นเต็มไปด้วยพลัง จากนั้นเหล่าวานรอีกหลายตัวที่ล่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า สายโลหิตที่หลั่งไหลราวกับสายฝน หอกยาวของจ้าวโส่วเซี่ยงที่ยิงลำแสงออกมา เป็นพลังที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก!
อย่างไรก็ตามที่ด้านหน้าจ้าวโส่วเซี่ยงนั้นเหล่าวานรมีมากมายนับไม่ถ้วน จ้าวโส่วเซี่ยงที่โจมตีไม่หยุด ลำแสงปราณหอกที่พุ่งออกไปร้อยสาย ต่อสู้พัวพันกับทัพวานรขนาดใหญ่.
เป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงมาก ลำแสงปราณหอกของจ้าวโส่วเซี่ยงที่ร่ายรำไปบนอากาศ ราวกับเครื่องจักรสังหารในสนามรบ เหล่าวานรที่ล่วงหล่นลงบนฟ้าตัวแล้วตัวเล่า..
วานรระดับแกนทองที่ตกตายทันทีที่สัมผัสปราณหอก ส่วนระดับก่อนตั้งวิญญาณก็ถูกกระแทกลอยออกไปได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ทุก ๆ ครั้งที่ปลายหอกของจ้าวโส่วเซี่ยงกวาดผ่าน โลหิตที่สาดกระจาย ๆ ชะโลมท้องฟ้าราวกับสายฝน.
"น่าอัศจรรย์จริง ๆ ตอนนี้เขาสังหารวานรไปกว่า 500 แล้ว เสื้อผ้าของเขาอาบไปด้วยโลหิตแล้ว."อาต้าที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"การเคลื่อนไหวของเขาน้อยมากเพื่อลดการใช้พลังวิญญาณอย่างงั้นรึ? ไม่ธรรมดาเลย!"จื่อเห่าที่หรี่ตาจ้องมอง.
ขณะที่ทุกคนเต็มไปด้วยความอัศจรรย์อยู่นั้น ท้ายที่สุดวานรยักษ์ที่มีระดับหลอมกายธาตุก็ไม่สามารถนิ่งเฉยอยู่ด้าน ในเวลานี้วานรระดับก่อตั้งวิญญาณถูกจ้าวโส่วเซี่ยงสังหารไปแล้วมากมาย ลำแสงปราณหอกนั้นทรงพลังแทบจะสังหารพวกมันได้ในทันทีที่สัมผัสโดน.
วานรยักษ์ที่กระโดดเหินบินขึ้นไป พร้อมกับฟาดกระบองยักษ์ลงมาอย่างรุนแรง พุ่งตรงไปยังร่างของจ้าวโส่วเซี่ยง.
ไม้กระบองขนาดใหญ่ที่ปิดเส้นทางหนีของจ้าวโส่วเซี่ยงไปหมด ไม่มีทางที่จะให้เขาหลบหนี ทำได้แค่รับการฟาดลงมาของไม้ตระบอง.
ระดับหลอมกายธาตุนับว่าทรงพลังจริง ๆ ไม้เท้าที่ล่วงหล่นลงมาพร้อมกับแรงกดอากาศที่หนักหน่วง เหล่าวานรตนอื่น ๆ ที่ถอนหลบหนีออกไป.
ดวงตาของจ้าวโส่วเซี่ยงที่แน่วแน่น ร่างกายที่ย่อลง ชี้หอกไปยังไม้เท้าขนาดใหญ่.
"ฟิ้ว!"
คลื่นอากาศความเร็วสูงถูกยิงออกไป ที่หน้าผากของเขานั้นเต็มไปด้วยเส้นโลหิตที่ปูนออกมา พลังของปราณหอกที่เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่า.
ลำแสงปราณหอกที่กระแทกไปยังไม้เท้ายักษ์.
ระดับก่อตั้งวิญญาณขั้นปลาย ปะทะระดับหลอมกายธาตุ.
"ตูมมมมมมมมมมมมมม"
ปราณหอกที่กระแทกไม้เท้ายักษ์ พลังที่ยิ่งใหญ่สองสายกระแทกกัน สายลมที่รุนแรงที่ดีดกลับ ปัดเป่าพื้นที่รอบ ๆ ออกไปอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้เหล่าวานรกลุ่มใหญ่ต้องถอยออกไปอีกครั้ง ส่วนจ้าวโส่วเซี่ยงที่ถอยหลังออกไป ขณะยั้งเท้าเอาไว้ พื้นดินที่แตกระแหง เศษฝุ่นดินที่คละคลุ้งไปหมด.
เมื่อหมอกควันที่ค่อย ๆ จางหายไป ดวงตาของจ้าวโส่วเซี่ยงยังส่องประกาย จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ยังลุกโชติช่วง ไม้เท้ายักษ์ที่ถูกแยกออกเป็นสองส่วนไปแล้ว
ขณะที่วานรยักษ์แสดงท่าทางไม่อยากเชื่ออยู่นั้น ร่างของจ้าวโส่วเซี่ยงก็พุ่งขึ้นไปอย่างรวดเร็ว หอกที่กวัดแกว่งไปมา พร้อมกับปล่อยลำแสงหอกออกไปยังวานรยักษ์ในทันที.
ขณะที่จ้าวโส่วเซี่ยงตวัดของเขาอยู่นั้น ร่างของเขาที่เผยออกมาให้เป็นกล้ามเนื้อมากมาย เสื้อผ้าสีขาวของเขาที่ฉีกออกไปหมดแล้ว.
วานรยักษ์ที่เห็นแค่เพียง กลิ่นอายปราณหอกที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว มันเร่งรีบป้องกันอย่างรวดเร็ว.
"ซี่!!!"
เสียงแตกหักทุ้มก็ดังขึ้นมา.
เหล่าวานรที่เหลือต่างก็จ้องมองด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ ปลายหอกที่ทะลวงหัวใจเป็นรู ตรงเข้าไปยังตำแหน่งเรือนหยาง.
ราวกับเวลาหยุดนิ่งไปในทันที วานรทุกตัวที่จ้องมองจ้าวโส่วเซี่ยงด้วยแววตาไม่อยากเชื่อการเคลื่อนไหวของเขานั้น เพียงแค่ลอบสังหารผู้นำของพวกมันอย่างงั้นรึ?
หัวใจของวานรยักษ์ผู้นำของพวกมันถูกทะลวงอย่างคาดไม่ถึง หลังจากนั้นจ้าวโส่วเซี่ยงที่ไม่ลังเล ดึงหอกกลับ ทันทีที่หอกถูกดึงออกมา เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ร่างของจ้าวโส่วเซี่ยงที่ล่วงหล่นลงจากอากาศ พื้นที่รอบ ๆ ที่กลายเป็นฝุ่นคลุ้งไปหมด ส่วนศพของวานรยักษ์เองก็ล่วงหล่นลงจากบนฟ้าเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเช่นกัน เหล่าวานรนับหมื่นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขึ้นมา.
จ้าวโส่วเซี่ยงที่ลุกขึ้น เขาไม่สนว่าเหล่าวานรจะรู้สึกอย่างไร หอกยาวของเขาที่ชี้ออกไป พร้อมกับปล่อยปราณหอกออกไปขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง.
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสิบที่อยู่ด้านล่าง ต่างก็เผยสีหน้าชื่นชมจ้าวโส่วเซี่ยงเข้าปะทะกลุ่มวานร.
ที่ไกลออกไปบนอากาศเช่นกัน ทุกคนภายในใจเต็มไปด้วยความประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจื่อเห่าและคนอื่น ๆ .
"ระดับก่อตั้งวิญญาณต่อสู้กับระดับหลอมกายธาตุรึ? ไร้ซึ่งความหวาดกลัว แล้วยังสร้างความได้เปรียบอีกด้วย ชนะรึ?"ใบหน้าของจื่อเห่าที่เผยสีหน้าแววตาไม่อยากเชื่อ ดูเหมือนว่ามันได้ทำลายความคิดเดิม ๆ ของเขาไปอย่างสิ้นเชิง การต่อสู้นี้ เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงกระบวนท่าเดียว ที่ทรงพลัง ก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้ น่าอัศจรรย์ใจจริง ๆ !
"เป็นแม่ทัพทะลวงฟันที่ยอดเยี่ยม!"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวพลางทอดถอนใจ.
"แม่ทัพทะลวงฟัน?"เทียนหลิงเอ๋อที่ไม่เข้าใจนัก.
"อืม แม่ทัพทะลวงฟันนั้นจะแตกต่างจากแม่ทัพเจ้ากลยุทธ์ พวกเขามีสติปัญญาที่ด้อยกว่าเหล่าแม่ทัพเจ้ากลยุทธ์ ทว่าด้วยความร้ายกาจและพลังใจที่เกินพิกัดเหนือกว่าแม่ทัพกลยุทธ์ ความดุร้ายน่าเกรงขามนี้มักพลิกสถานการณ์อย่างคาดไม่ถึงได้เสมอ เป็นกลิ่นอายที่เหล่าแม่ทัพเจ้ากลยุทธ์ ล้วนแต่ต้องการมาไว้ในทัพ การมีแม่ทัพทะลวงฟันเป็นทัพหน้า จะทำให้กลายเป็นทัพยากที่จะพ่ายแพ้ แม่ทัพทะลวงฟันนั้นไม่เพียงแค่มีความสามารถที่ร้ายกาจ พวกเขายังมีพลังที่ทำให้ขวัญกำลังใจทหารลุกโชน ตราบเท่าที่มีแม่ทัพทะลวงฟันในทัพหน้า การต่อสู้รบจะได้เปรียบเป็นอย่างมาก พวกเขาที่ไม่หวาดกลัวต่อความตาย สู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเหล่าทหาร กัดไม่ปล่อย ไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว ความน่าเกรงขามของพวกเขาจะทำให้สะกดข่มขวัญฝ่ายตรงข้าม ทำให้ขวัญกำลังของศัตรูลดน้อยถอยลง ในอดีตของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว มีแม่ทัพเช่นนี้อยู่ด้วยกันมากมาย เป็นแม่ทัพที่ร้ายกาจโดดเด่นเพียงผู้เดียว นั่นก็คือราชครูหวนถูหลง! ทว่า ทว่าหากหานถูหลงมีพลังฝึกตนเท่าจ้าวโส่วเซี่ยง เขาก็คงไม่ได้ร้ายกาจขนาดนั้น!"กู่เฉียนโหยวกล่าว.
"หวนถูหลงคือแม่ทัพทะลวงฟันอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
"อืม ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นแม่ทัพพิทักษ์ดินแดน ควงดาบใหญ่ ไล่ฆ่าฟันข้าศึก พร้อมกับเหล่าทหาร ทัพของพวกเขานั้นทรงพลังแข็งแกร่ง ไร้พ่าย ยากที่จะมีใครหยุดได้!"กู่เฉียนโหยวพยักหน้ากล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
"เหล่าเย่ จะช่วยหรือไม่?"เป่าเอ๋อสอบถาม.
"ไม่จำเป็น ข้ารู้นิสัยของเขาดี การต่อสู้ที่รุนแรงนี้ คือสิ่งที่เขาถนัด ไม่จำเป็นให้ใครเข้าไปช่วย ดูที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา ที่ยังไม่ออกมาจัดการไม่ใช่รึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"เป่าเอ๋อพยักหน้า.
ปราณหอกที่โจมตีเหล่าวานรนับหมื่นเพียงคนเดียวอย่างไม่หวาดกลัว จ้าวโส่วเซี่ยงร้ายกาจมาก แน่นอนว่าความร้ายกาจของจ้าวโส่วเซี่ยงนั้น จงซานรับรู้ดี จงซานเองก็เช่นกัน ก่อนหน้านี้เมื่อพบกับกองกำลังอาชาทมิฬปิศาจมายา จงซานที่เต็มไปด้วยความโกรธและเศร้าใจ ได้ไล่ล่าฆ่าฟันศัตรูอย่างไม่กลัวเกรง ราวกับมองเห็นจ้าวโส่วเซี่ยงที่ดูเหมือนกับเจี้ยนอ้าว ที่ไม่ได้หวาดกลัวต่อการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย.
จ้าวโส่วเซี่ยงยังมีนิสัยที่ไม่ยอมใคร เมื่อครั้งยังเป็นปุถุชน เขาที่เป็นแม่ทัพที่ร้ายกาจ แม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนแล้ว ก็ยังคงกลับมารับผิดชอบดูแลทหาร เป็นคนที่ถือบุญคุณความแค้นเอาไว้อย่างหนักแน่น.
ฆ่า ฆ่าและก็ฆ่า!
จ้าวโส่วเซี่ยงในเวลานี้ ราวกับเทพสงคราม ไล่ล่าสังหารเหล่าอสูรวานร เมื่อไร้ซึ่งผู้นำ ก็ทำให้พวกมันไม่เป็นระเบียบ ปล่อยให้จ้าวโส่วเซี่ยงไล่ฆ่าอย่างดุร้าย ไม่รู้ว่าเขาไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยหรืออย่างไร ถึงได้ไล่ล่าสังหารอย่างบ้าคลั่งไม่หยุดเช่นนี้ได้.
หนึ่งวันหนึ่งคืน ทั่วพื้นมีศพของวานรใหม่ ๆ มีจำนวนถึง 8000 ศพแล้ว.
นับเป็นความสำเร็จที่น่าหวาดกลัว ตอนนี้เหลือวานรไม่ถึง 1 พันตนแล้ว เป็นภาพฉากที่น่าหวาดกลัว มีเหล่าวานรที่หลบหนีด้วยความหวาดกลัว ทว่าจ้าวโส่วเซี่ยงจะยอมให้พวกมันหนีอย่างงั้นรึ? จ้าวโส่วเซี่ยงราวกับว่าได้เข้าสู่อาณาจักรที่ผิดปรกติไปแล้ว เขาที่สังหารพวกมันอย่างบ้าคลั่ง.
เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสิบแน่นอนย่อมรับรู้สภาพของจ้าวโส่วเซี่ยงได้ พวกเขาที่เคลื่อนที่ออกไปรอบ ๆ จัดการเหล่าวานรที่หลบหนี.
"ครืนนนนนน"
ตูมมมม จ้าวโส่วเซี่ยงที่ปักหอกลงบนพื้น จนเกิดรอยแยก ทั่วร่างของเขาที่ปลดปล่อยพลังวิญญาณที่รุนแรงปะทุขึ้นมา.
ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ไม่สนใจเหล่าวานรที่เหลืออีกต่อไป ก่อนที่จะมาล้อมรอบร่างของจ้าวโส่วเซี่ยง.
เหล่าวานรที่ยังรอดตายตอนนี้ยังมีจิตใจที่จะต่อสู้อย่างงั้นรึ? หัวใจของพวกมันที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวหวาดผวา หนีตายกันอย่างบ้าคลั่ง พวกมันที่หวาดกลัวจ้าวโส่วเซี่ยงที่เต็มไปด้วยความดุร้าย.
จ้าวโส่วเซี่ยงที่ปักหอกยาวลงบนพื้น ยืนอยู่ หลับตาแน่น ขณะที่กลิ่นอายที่แข็งแกร่งปะทุออกมาตลอดเวลา.
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม จ้าวโส่วเซี่ยงก็ลืมตา แววตาที่ยังมีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกโชน.
"ยินดีกับแม่ทัพด้วย!"ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสิบที่กล่าวแสดงความยินดีออกมา.
คนทั้งสิบรับรู้ว่าจ้าวโส่วเซี่ยงที่อยู่ระดับก่อตั้งวิญญาณขั้นปลาย เหลือเพียงอีกนิดเดียวก็จะทะลวงผ่านแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่าหนึ่งวันหนึ่งคืนที่เขาเข้าต่อสู้ที่หนักหน่วง ด้วยพลังที่ใช้ออกไปทั้งหมด กลับทำให้เขาได้ทะลวงผ่านพลังฝึกตน.
จ้าวโส่วเซี่ยงที่ได้ทะลวงไปยังระดับหลอมกายธาตุสำเร็จ ก่อนที่เขาจะหันหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า.
"สหายบนท้องฟ้า มองพอรึยัง?"ดวงตาของจ้าวโส่วเซี่ยงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
ขณะที่จ้าวโส่วเซี่ยงกล่าวอยู่นั้น ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสิบของเขาที่ตื่นตกใจ ยกหอกขึ้นมาเฝ้าระวังในทันที.
จงซานที่โบกมือ ให้จื่อเห่าถอนค่ายกลลวงตาออกไปในทันที.
เห็นคนกลุ่มหนึ่ง คนทั้งสิบที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นเย็นชา.
"จ้าวโส่วเซี่ยง!"จงซานที่กล่าวออกไปเสียงดัง.
พริบตาเดียวที่ค่ายกลคลาย จ้าวโส่วเซี่ยงที่จ้องมองไปยังจงซาน ซึ่งเป็นคนที่เขารู้จัก.
"จงซาน! เป็นเจ้าเอง!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่แสดงท่าทางประหลาดใจ ใบหน้าที่เผยท่าทางดีใจและประหลาดใจขึ้นมาทันที.
แม่ทัพรู้จักคนเหล่านี้อย่างงั้นรึ?ผู้ใต้บังคับบัญชาของพวกเขาตกใจเล็กน้อย.
"ฮ่าฮ่าฮ่าอ่า เป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม! ปราณหอกของเจ้า ไม่ได้เปลี่ยนไปจากในอดีตเลย!"จงซานที่หัวเราะ พร้อมกับนำคนทั้งสิบบนเมฆลอยลงมา.
"น่าหัวเราะซะมากกว่า ข้าคิดว่าระดับของการต่อสู้นั้น ไม่ได้อยู่ในสายตาของเจ้า!"จ้าวโส่วเซี่ยงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
ได้ยินคำพูดของจ้าวโส่วเซี่ยงที่กล่าวออกไปก็ทำให้พวกเขาตกใจเล็กน้อย แม่ทัพที่ไม่เคยยิ้มเลย เป็นคนเคร่งขรึมเต็มไปด้วยความอหังการ ในเวลานี้หมายความว่าอย่างไร?ยิ้มออกมาด้วยความดีใจรึ? แล้วยังถ่อมตนอีกด้วย? คนผู้นี้เป็นใครกัน?