Chapter 556 งานชุมนุมหมื่นเม็ดยา.
ในวันหนึ่งภพหยาง ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง เมืองเสวียน ภายในฮาเร็ม.
เชวียนเป่าเอ๋อที่ถือเทียบหลงหู่ ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
เชวียนเป๋าเอ๋อที่ส่งเทียบเชิญในมือของนางให้กับจงซาน.
จงซานที่จ้องมองพลางแสดงท่าทางสงสัย.
"งานชุมนุมหมื่นเม็ดยารึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อืม นี่เป็นสถานที่รวบรวมเหล่านักปรุงยาทั่วหล้า ในทุก ๆ พันปีจะมีงานชุมนุมการปรุงยาขึ้น งานชุมนุมในครั้งนี้ ต่างก็รวบรวมสำนักต่าง ๆ ทั่วหล้า เพื่อเข้าร่วมงานหลอมยา ซึ่งคนที่ได้รับชัยชนะจะได้รับฉายา "ต่านเซิ่ง."เป๋าเอ๋อกล่าว.
"ต่านเซิ่งรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.
"นี่คือเทียบเชิญหลงหู่(พยัคฆ์มังกร)ของต่านเซิ่งหลงหู่ ได้เชิญข้าในนามประมุขสำนักไท่ต่านไปยังราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน เป็นการแข่งขันวิถีแห่งเม็ดยาเพื่อที่จะเป็นจ้าวแห่งเม็ดยา!"เป่าเอ๋อกล่าว.
"ราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนอย่างงั้นรึ? แล้วต่านเซิงหลงหู่ ผู้นี้มีอะไรเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ดังกล่าวนี้รึ?"จงซานขมวดคิ้ว.
"ต่านเซิ่งหลงหู่นั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นราชันย์ของราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน เขาที่ครองตำแหน่งต่านเซิ่งสามสมัย และยังเป็นผู้ถือครองแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล."เป่าเอ๋อกล่าว.
"แท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลรึ?"
"อืม นี่คือตำราการหลอมยาที่ล้ำค่าที่สุด ไม่สามารถที่จะมอบให้ใครได้ง่าย ๆ วิถีการปรุงยาในโลกใบนี้มีประเพณีมาก่อน ใครที่เป็นต่านเซิ่งเท่านั้นถึงจะสามารถเป็นผู้ถือ แท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล ถึงแม้ว่าจะเป็นราชวงศ์สวรรค์และแดนอมตะก็ไม่สามารถทำลายประเพณีนี้ได้ หากต้องการแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล จะต้องแสดงฝีมือการปรุงยาให้เป็นที่ประจักษ์ หากต้องการใช้กำลังเพื่อฝืนยึดครองแล้วล่ะก็ จะถูกราชวงศ์สวรรค์และแดนเทวะร่วมมือกันทำลาย!"เป่าเอ๋อตอบ.
"แท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?"จงซานสอบถาม.
"สามารถที่จะรวบรวมปราณบริสุทธิ์ของปราณฟ้าดินได้ ด้วยแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล และทำให้สามารถหลอมยามีโอกาสสำเร็จมากขึ้น อีกทั้งมีคุณภาพสูง แม้แต่มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ระดับของการปรุงยาก็จะเพิ่มขึ้น แม้แต่พลังฝึกตนอีกด้วย นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ทว่าข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดนัก รู้เพียงว่าแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลนี้เป็นเครื่องหมายของต่านเซิ่ง."เป่าเอ๋อกล่าว.
เม็ดยา?จงซานรับรู้ดีว่าราชวงศ์วาสนานั้นต้องการเม็ดยาขนาดใหน กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งเลยว่าสำหรับราชวงศ์วาสนาจำเป็นต้องมีกระทรวงเม็ดยาด้วยซ้ำ ไม่เพียงแต่จำเป็นต่อเหล่าผู้ฝึกตนทะลวงระดับได้ ทว่ากองทัพก็ยังต้องการเม็ดยาในการรักษาอีกด้วย.
ไม่เช่นนั้นแล้ว กองทัพของเขาเองก็จะบาดเจ็บล้มตายไปในสงครามเป็นจำนวนมาก.
สำหรับผู้ฝึกตนบำเพ็ญชื่อเสียงของราชวงศ์วาสนานั้น ไม่จำเป็นต้องหลอมของวิเศษได้ ไม่จำเป็นต้องต้องหลอมเม็ดยาเป็น แค่มีความแข็งแกร่งก็พอ รับคำสั่งตามกฎทหาร ขอให้มีความสามารถในการต่อสู้ก็เป็นพอ ทั้งนี้ยังมีเงินเดือน มีวาสนามรรคา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเซียน ทว่าก็ทำให้พลังฝึกตนเพิ่มขึ้น และอายุขัยเพิ่มขึ้นอีกด้วย.
ส่วนเม็ดยารวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ราชวงศ์วาสนาเป็นผู้สนับสนุน การเดินบนสายของการบำเพ็ญวาสนานั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายกว่าการบำเพ็ญสายอื่น จงซานที่ได้ยินเป่าเอ๋อกล่าว ก็รู้สึกสนใจแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลเช่นกัน.
"เหล่าเย่ ข้าไปได้หรือไม่?"เป่าเอ๋อกล่าวต่อจงซาน.
"เจ้าต้องการไปอย่างงั้นรึ?"
"อืม ข้าต้องการจะไป!"เป่าเอ๋อที่กล่าวอยากหนักแน่น.
"ไป พวกเราจะไปด้วยกัน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เหล่าเย่ ท่านก็จะไปอย่างงั้นรึ?"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
ต้องไม่ลืมว่าเมืองเสวียนยังต้องการจงซานบัญชาการอยู่ จงซานจากไปแล้ว เมืองเสวียนจะทำเช่นไร?
"ไม่มีปัญหา เมืองเสวียนอยู่ในเกาะหมาป่าสวรรค์?ยังมีใครกล้าหาเรื่องอย่างงั้นรึ?ไม่เพียงแค่ข้า หลิงเอ๋อและเฉียนโหยวก็จะไปด้วย นานแล้วไม่มีอะไรเช่นนี้ พวกเราควรจะออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"เป่าเอ๋อพยักหน้า.
ในเมือเรื่องนี้จงซานตัดสินใจแล้ว เป่าเอ๋อก็ไม่ได้เอ่ยห้ามแต่อย่างใด.
หลังจากที่หลิงเอ๋อรู้เรื่องนี้ ก็ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะออกไปเตรียมสัมภาระในทันที.
การเดินทางในครั้งนี้มีด้วยกันสิบคน จงซาน เป่าเอ๋อ หลิงเอ๋อ เฉียนโหยว อาต้า อาเอ้อ จื่อเห่า ชิงหงและหลางเจียงอีกสองคน.
ยกเว้นเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อ คนอื่นล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับจักรพรรดิแท้ แม้ว่าจะมีจำนวนน้อย ทว่าก็เป็นกองกำลังที่ทรงพลังน่าเกรงขามไม่น้อย.
ในกลุ่มของราชวงศ์จักรพรรดิ บางทีคงมีเพียงแค่ต้าเจิ้งที่ทรงพลังเพียงนี้.
สิบคนที่จะเดินทาง พวกเขาได้เริ่มเริ่มออกเดินทางแล้ว.
ราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนนั้น อยู่ทางทิศตะวันตกของทวีปศักดิ์สิทธิ์อยู่ติดกับราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย อยู่ห่างจากเกาะหมาป่าสวรรค์เป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องเดินทางแต่เนิ่น ๆ ซึ่งงานชุมนุมหมื่นเม็ดยานั้นจะเริ่มหลังจากนี้สามปี.
การเดินทางของคนทั้งสิบที่เป็นไปโดยที่ ไม่ได้เร่งรีบมากนัก.
ขณะเดินทาง จงซานได้ปล่อยให้เหล่าสาว ๆ ได้ท่องเที่ยวชื่นชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้แสดงท่าทางออกมาแต่อย่างใด ทว่ากู่เฉียนโหยวรับรู้ว่าจริง ๆ แล้วจงซานกำลังมีความกังวลเช่นกัน.
หลังจากที่ผ่านไปสองปีครึ่ง ไม่ไกลออกไปจากราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน ในวันนี้พวกเขาได้แวะพักยังหุบเขาแห่งหนึ่ง นำตำหนัก โต๊ะเก้าอี้ออกมา เพื่อเตรียมหยุดพัก.
ระหว่างทางที่พวกเขาจับวิหคหายากและสัตว์อสูรมา จงซานที่ได้มอบให้เป่าเอ๋อทำอาหาร ส่วนหลิงเอ๋อนั้นค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นทีเดียว กับฝีมือทำอาหารของเป่าเอ๋อ นางที่กำลังศึกษาการทำอาหาร.
ส่วนคนอื่น ๆ นั้น ได้คอยเฝ้าพื้นที่รอบ ๆ ไม่ให้ใครเข้ามารบกวน.
จงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะศิลา จ้องมองสองสาวที่กำลังยุ่งอยู่ บนใบหน้าที่เผยยิ้มออกมา.
เฉียนโหยวที่รินน้ำชาให้กับจงซาน พร้อมกับยื่นให้เขา.
"คิดอะไรอยู่รึ?"เฉียนโหยวที่ส่งกล่าวออกมาด้วยเสียงที่อ่อนโยน.
จงซานที่ส่ายหน้าเผยยิ้มออกมา รับน้ำชา หากแต่ไม่ได้กล่าวอะไร.
"คิดถึงเจี่ยเจี่ยกุยเอ๋อรึ?"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวสอบถาม.
ได้ยินคำพูดของกู่เฉียนโหยวมือของจงซานสั่นไหวเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ทว่าก็ไม่สามารถหลุดรอดสายตาของเฉียนโหยวได้ นอกจากนี้ถ้วยน้ำชา มีคลื่นขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน.
"อืม!"จงซานไม่ได้ปฏิเสธ.
แววตาของกู่เฉียนโหยวที่มีประกายแสงความอิจฉาเล็ก ๆ เพราะว่ากู่เฉียนโหยวรู้ดี เหว่ยกุยเอ๋อนับตั้งแต่แรกจนจบ ก็อยู่ในหัวใจของจงซานตลอด มีสถานะกว่าสตรีใหน ๆ แม้ว่านางจะตายไปแล้ว นางก็ยังเป็นภรรยาคนแรกของเขา.
เหว่ยกุยเอ๋อนั้น ตายด้วยน้ำมือของไท่จื่อเหล่ยเทียนของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่ และราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยหนำซ้ำราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนที่กำลังเดินทางไปนั้นยังอยู่ใกล้กัน! การเดินทางไปยังราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน ย่อมทำให้เขานึกถึงเรื่องนี้อย่างช่วยไม่ได้ จงซานรับรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา ไม่ต้องบอกเลยว่าไท่จื่อเหล่ยเทียนนั้น จงซานเกลียดอย่างที่สุด เพียงแค่นึกขึ้นได้ก็ทำให้ความแค้นลุกโชนแล้ว.
"เจ้าต้องการทำอะไร?"กู่เฉียนโหยวที่เผยท่าทางกังวล.
จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา จ้องมองไปยังกู่เฉียนโหยว "โปรดวางใจตอนนี้ข้าไม่สามารถลงมือได้ นอกจากนี้ กุยเอ๋อคงไม่หวังที่จะให้ข้าแส่ไปหาความตาย!"
"อืม!"กู่เฉียนโหยวที่เดินข้ามาข้าง ๆ ยืนข้างหลังจงซาน พร้อมกับบีบนวดที่ไหล่ให้กับเขา.
ด้วยการนวดในเวลานี้ กู่เฉียนโหยวค่อยข้างถนัดทีเดียว เพราะว่านางได้ทำการนวดให้กับชายคนรักเป็นประจำ กับชายที่แข็งแกร่ง ก็ทำให้อ่อนไหวได้.
กู่เฉียนโหยวที่รู้ว่าจงซานกำลังว้าวุ่นกังวลใจ นางจึงต้องการทำให้เขาผ่อนคลาย.
จงซานที่หลับตาพริ้ม เพลิดเพลินกับการนวดของกู่เฉียนโหยว.
"ตูมมมมมมมมมม"
ที่ข้างหุบเขาแห่งหนึ่งก็เกิดระเบิดขึ้น.
"กี่ กี่ กี่"
เสียงร้องที่ดังติด ๆ กันขึ้นมา.
"ไปให้พ้น!"
ที่ด้านนอกหุบเขาได้ยินจื่อเห่าที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวดังออกมา.
จื่อเห่าหลางเจียงที่กำลังไล่เหล่าวานรมากมายออกไป.
"พาคนของพวกเจ้าไปซะ อย่ามายังที่นี่ ไปให้พ้น!"จื่อเห่าที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.
ดวงตาของจงซานที่ลืมขึ้นมา กู่เฉียนโหยวที่เผยท่าทางประหลาดใจเช่นกัน.
เพราะว่า คนทั้งสองที่ใช้สัมผัสเทวะกวาดออกไป พบฝูงวานรไม่ได้มีเพียงแค่นิดหน่อย ทว่ามีกว่าหมื่นตน วานรเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอ ผู้นำของพวกมันมีระดับหลอมกายธาตุ และมีความสูงกว่า 40 เมตร.
ส่วนจื่อเห่าที่เป็นหลางเจียง แน่นอนว่าไม่ได้สนใจระดับหลอมกายธาตุอยู่แล้ว.
งานของจื่อเห่าเวลานี้คือดูแลพื้นที่รอบ ๆ ไม่ให้คนนอกเข้ามารบกวนฝ่าบาท.
และเวลานี้มันยังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของจื่อเห่า จ้องมองไปยังจื่อเห่าด้วยความโกรธ.
วานรหลอมกายธาตุระดับหกตนพร้อมผู้นำฝูงซึ่งได้สั่งการ พร้อมกับยกไม้เท้ายักษ์ขึ้น ห้ามเหล่าวานรมากมายไม่ให้เข้าใกล้จื่อเห่า.
"ใครกล้าเข้ามา ตาย!"จื่อเห่าที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเกรี้ยวกราด.
ระดับหลอมกายธาตุห้าตนที่ต้องการจะลองดี ทว่าที่วานรที่อยู่ตรงกลางที่ดูเหมือนมีสถานะสูงที่สุดโบกมือห้าม.
เหล่าวานรมากมายที่สงบลงทันที.
วานรกลุ่มดังกล่าวที่จ้องมองจื่อเห่าเขม็ง ทว่าในเวลานี้ พวกมันได้พาพรรคพวกมันจากไปยังหุบเขาแห่งอื่น.
แววตาของพวกมันไม่ยินดีที่วานรสูงที่สุดสั่งการเช่นนั้น ก่อนที่จะร้องออกมาหลายครั้ง พร้อมกับย้ายไปยังหุบเขาแห่งอื่น มุ่งตรงไปยังทิศตะวันตก.
จงซานที่ตื่นตระหนก แน่นอนว่าเขาจะต้องออกมาดู.
จ้องมองไปยังกองทัพวานรหมื่นตน จงซานที่ขมวดคิ้ว กองทัพวานรอย่างงั้นรึ?
"เป่าเอ๋อพวกเราจะออกไปดูข้างนอกสักหน่อย แล้วจะกลับมา!"จงซานที่กล่าวกับเป่าเอ๋อ.
"จะเสร็จแล้ว กินก่อนแล้วค่อยไป!"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความคาดหวัง.
"ใช่ ๆ ข้าและเจี่ยเจี่ยทำสุดฝีมือเลย!"หลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยแววตาเศร้า ๆ .
เห็นใบหน้าของสองสาวที่แสดงท่าทางอยุติธรรม จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา "ตกลง นำเข้ามาในปราสาทเลย พวกเราจะกินอาหารอยู่ข้างใน จื่อเห่าเจ้านำปราสาท ตามกลุ่มฝูงวานรไป!"
"รับทราบ!"จื่อเห่ารับคำในทันที.
ระดับจักรพรรดิแท้ การจะนำปราสาทลอยฟ้าไปนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอะไร.
จื่อเห่าที่สร้างเมฆสีขาวโดยนำปราสาทมาวางไว้ด้านบน จากนั้นก็บินตามไปยังกลุ่มฝูงวานร.
ส่วนจงซานที่เข้าไปในตำหนักเพื่อลิ้มลองอาหารของสองสาว.
กลุ่มวานรนั้นได้มุ่งตรงไปยังทิศตะวันตก เข้าไปในเขตแดนของราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน.
หลังจากนั้นสองวันกองกำลังวานรกลุ่มดังกล่าวก็ได้มาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยศพของวานร นอนอาบโลหิต ทำให้เหล่าวานรฝูงนี้เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พร้อมกับกุมไม้เท้าจ้องมองไปยังรอบ ๆ .
"เจ้าพวกสัตว์ร้าย มาจากใหนมากมายขนาดนี้!"เสียงหนึ่งที่ดังออกมาจากหุบเขาแห่งหนึ่ง.
ภายในหุบเขาดังกล่าวนั้น ที่นำหน้าออกมานั้นเป็นชายในชุดสีขาว เป็นชายผมยาวที่รวบทิ้งไปด้านหลัง มือขวาถือหอกยาวสีเงิน ในเวลานี้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้.
มีชายที่อยู่ด้านหลังอีกสิบคน แต่ละคนถือหอกยาว จ้องมองไปยังฝูงวานรหลายหมื่นตัวที่กำลังโกรธเกรี้ยว ชายในชุดสีขาวทั้งสิบคนด้านหลังไม่มีบาดแผล แม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าพวกเขาได้แต่มองดู โดยที่ไม่ได้ทำอะไร ปล่อยให้ชายในชุดสีขาวที่ถือหอกเงินต่อสู้คนเดียว.
"ฝ่าบาทมีคำสั่ง ให้พวกเรากำจัดอสูรวานรให้หมดไปจากแผ่นดินราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน ตอนนี้มันมากันมากมาย วันนี้พวกเราจะต้องตายอย่างแน่นอน."
"โฮกกกกกกกก"
เสียงคำรามของผู้นำฝูงวานรที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว มันรับรู้ว่าศพวานรมากมายที่นอนกลาดเกลื่อนยังพื้นที่รอบ ๆ นี้เป็นฝีมือของคนกลุ่มนี้ ไม้เท้ายาวของพวกมันที่กวัดแกว่งพุ่งเข้าหาชายในชุดสีขาว.
วานรนับหมื่นตัวที่ได้รับคำสั่ง ส่งเสียงคำรามลั่นพุ่งตรงไปยังกลุ่มคนด้านหน้า.
"พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องลงมือ ข้าจะจัดการเอง!"ชายในชุดสีขาวที่เต็มไปด้วยความอหังการ.
หอกยาวของเขาที่กวัดแกว่งไปมา พร้อมกับชี้ไปยังกองทัพวานรนับหมื่นตน.
จงซานที่ลอยอยู่บนอาการ พริบตาเดียวกันที่มองเห็นชายในชุดสีขาวพุ่งออกมา ทำให้เขาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ.
จ้าวโส่วเซี่ยง!