ตอนที่แล้วChapter 555 เคล็ดวิชาสวรรค์และตำราปฐพี.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 557 แม่ทัพทะลวงฟัน.

Chapter 556 งานชุมนุมหมื่นเม็ดยา.


ในวันหนึ่งภพหยาง ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง เมืองเสวียน ภายในฮาเร็ม.

เชวียนเป่าเอ๋อที่ถือเทียบหลงหู่ ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

เชวียนเป๋าเอ๋อที่ส่งเทียบเชิญในมือของนางให้กับจงซาน.

จงซานที่จ้องมองพลางแสดงท่าทางสงสัย.

"งานชุมนุมหมื่นเม็ดยารึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อืม นี่เป็นสถานที่รวบรวมเหล่านักปรุงยาทั่วหล้า ในทุก ๆ พันปีจะมีงานชุมนุมการปรุงยาขึ้น งานชุมนุมในครั้งนี้ ต่างก็รวบรวมสำนักต่าง ๆ ทั่วหล้า เพื่อเข้าร่วมงานหลอมยา ซึ่งคนที่ได้รับชัยชนะจะได้รับฉายา "ต่านเซิ่ง."เป๋าเอ๋อกล่าว.

"ต่านเซิ่งรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย.

"นี่คือเทียบเชิญหลงหู่(พยัคฆ์มังกร)ของต่านเซิ่งหลงหู่ ได้เชิญข้าในนามประมุขสำนักไท่ต่านไปยังราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน เป็นการแข่งขันวิถีแห่งเม็ดยาเพื่อที่จะเป็นจ้าวแห่งเม็ดยา!"เป่าเอ๋อกล่าว.

"ราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนอย่างงั้นรึ? แล้วต่านเซิงหลงหู่ ผู้นี้มีอะไรเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ดังกล่าวนี้รึ?"จงซานขมวดคิ้ว.

"ต่านเซิ่งหลงหู่นั้นครั้งหนึ่งเคยเป็นราชันย์ของราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน เขาที่ครองตำแหน่งต่านเซิ่งสามสมัย และยังเป็นผู้ถือครองแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล."เป่าเอ๋อกล่าว.

"แท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลรึ?"

"อืม นี่คือตำราการหลอมยาที่ล้ำค่าที่สุด ไม่สามารถที่จะมอบให้ใครได้ง่าย ๆ  วิถีการปรุงยาในโลกใบนี้มีประเพณีมาก่อน ใครที่เป็นต่านเซิ่งเท่านั้นถึงจะสามารถเป็นผู้ถือ แท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล ถึงแม้ว่าจะเป็นราชวงศ์สวรรค์และแดนอมตะก็ไม่สามารถทำลายประเพณีนี้ได้ หากต้องการแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล จะต้องแสดงฝีมือการปรุงยาให้เป็นที่ประจักษ์ หากต้องการใช้กำลังเพื่อฝืนยึดครองแล้วล่ะก็ จะถูกราชวงศ์สวรรค์และแดนเทวะร่วมมือกันทำลาย!"เป่าเอ๋อตอบ.

"แท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?"จงซานสอบถาม.

"สามารถที่จะรวบรวมปราณบริสุทธิ์ของปราณฟ้าดินได้ ด้วยแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาล และทำให้สามารถหลอมยามีโอกาสสำเร็จมากขึ้น อีกทั้งมีคุณภาพสูง แม้แต่มีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ระดับของการปรุงยาก็จะเพิ่มขึ้น แม้แต่พลังฝึกตนอีกด้วย นับว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ทว่าข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดนัก รู้เพียงว่าแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลนี้เป็นเครื่องหมายของต่านเซิ่ง."เป่าเอ๋อกล่าว.

เม็ดยา?จงซานรับรู้ดีว่าราชวงศ์วาสนานั้นต้องการเม็ดยาขนาดใหน กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งเลยว่าสำหรับราชวงศ์วาสนาจำเป็นต้องมีกระทรวงเม็ดยาด้วยซ้ำ ไม่เพียงแต่จำเป็นต่อเหล่าผู้ฝึกตนทะลวงระดับได้ ทว่ากองทัพก็ยังต้องการเม็ดยาในการรักษาอีกด้วย.

ไม่เช่นนั้นแล้ว กองทัพของเขาเองก็จะบาดเจ็บล้มตายไปในสงครามเป็นจำนวนมาก.

สำหรับผู้ฝึกตนบำเพ็ญชื่อเสียงของราชวงศ์วาสนานั้น ไม่จำเป็นต้องหลอมของวิเศษได้ ไม่จำเป็นต้องต้องหลอมเม็ดยาเป็น แค่มีความแข็งแกร่งก็พอ รับคำสั่งตามกฎทหาร ขอให้มีความสามารถในการต่อสู้ก็เป็นพอ ทั้งนี้ยังมีเงินเดือน มีวาสนามรรคา ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นเซียน ทว่าก็ทำให้พลังฝึกตนเพิ่มขึ้น และอายุขัยเพิ่มขึ้นอีกด้วย.

ส่วนเม็ดยารวมถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ราชวงศ์วาสนาเป็นผู้สนับสนุน การเดินบนสายของการบำเพ็ญวาสนานั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดายกว่าการบำเพ็ญสายอื่น จงซานที่ได้ยินเป่าเอ๋อกล่าว ก็รู้สึกสนใจแท่นปรุงยาหมื่นเม็ดยาบรรพกาลเช่นกัน.

"เหล่าเย่ ข้าไปได้หรือไม่?"เป่าเอ๋อกล่าวต่อจงซาน.

"เจ้าต้องการไปอย่างงั้นรึ?"

"อืม ข้าต้องการจะไป!"เป่าเอ๋อที่กล่าวอยากหนักแน่น.

"ไป พวกเราจะไปด้วยกัน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เหล่าเย่ ท่านก็จะไปอย่างงั้นรึ?"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

ต้องไม่ลืมว่าเมืองเสวียนยังต้องการจงซานบัญชาการอยู่ จงซานจากไปแล้ว เมืองเสวียนจะทำเช่นไร?

"ไม่มีปัญหา เมืองเสวียนอยู่ในเกาะหมาป่าสวรรค์?ยังมีใครกล้าหาเรื่องอย่างงั้นรึ?ไม่เพียงแค่ข้า หลิงเอ๋อและเฉียนโหยวก็จะไปด้วย นานแล้วไม่มีอะไรเช่นนี้ พวกเราควรจะออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม!"เป่าเอ๋อพยักหน้า.

ในเมือเรื่องนี้จงซานตัดสินใจแล้ว เป่าเอ๋อก็ไม่ได้เอ่ยห้ามแต่อย่างใด.

หลังจากที่หลิงเอ๋อรู้เรื่องนี้ ก็ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะออกไปเตรียมสัมภาระในทันที.

การเดินทางในครั้งนี้มีด้วยกันสิบคน จงซาน เป่าเอ๋อ หลิงเอ๋อ เฉียนโหยว อาต้า อาเอ้อ จื่อเห่า ชิงหงและหลางเจียงอีกสองคน.

ยกเว้นเป่าเอ๋อและหลิงเอ๋อ คนอื่นล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับจักรพรรดิแท้ แม้ว่าจะมีจำนวนน้อย ทว่าก็เป็นกองกำลังที่ทรงพลังน่าเกรงขามไม่น้อย.

ในกลุ่มของราชวงศ์จักรพรรดิ บางทีคงมีเพียงแค่ต้าเจิ้งที่ทรงพลังเพียงนี้.

สิบคนที่จะเดินทาง พวกเขาได้เริ่มเริ่มออกเดินทางแล้ว.

ราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนนั้น อยู่ทางทิศตะวันตกของทวีปศักดิ์สิทธิ์อยู่ติดกับราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย อยู่ห่างจากเกาะหมาป่าสวรรค์เป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงจำเป็นต้องเดินทางแต่เนิ่น ๆ  ซึ่งงานชุมนุมหมื่นเม็ดยานั้นจะเริ่มหลังจากนี้สามปี.

การเดินทางของคนทั้งสิบที่เป็นไปโดยที่ ไม่ได้เร่งรีบมากนัก.

ขณะเดินทาง จงซานได้ปล่อยให้เหล่าสาว ๆ ได้ท่องเที่ยวชื่นชมนกชมไม้ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้แสดงท่าทางออกมาแต่อย่างใด ทว่ากู่เฉียนโหยวรับรู้ว่าจริง ๆ แล้วจงซานกำลังมีความกังวลเช่นกัน.

หลังจากที่ผ่านไปสองปีครึ่ง ไม่ไกลออกไปจากราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน ในวันนี้พวกเขาได้แวะพักยังหุบเขาแห่งหนึ่ง นำตำหนัก โต๊ะเก้าอี้ออกมา เพื่อเตรียมหยุดพัก.

ระหว่างทางที่พวกเขาจับวิหคหายากและสัตว์อสูรมา จงซานที่ได้มอบให้เป่าเอ๋อทำอาหาร ส่วนหลิงเอ๋อนั้นค่อนข้างอยากรู้อยากเห็นทีเดียว กับฝีมือทำอาหารของเป่าเอ๋อ นางที่กำลังศึกษาการทำอาหาร.

ส่วนคนอื่น ๆ นั้น ได้คอยเฝ้าพื้นที่รอบ ๆ ไม่ให้ใครเข้ามารบกวน.

จงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะศิลา จ้องมองสองสาวที่กำลังยุ่งอยู่ บนใบหน้าที่เผยยิ้มออกมา.

เฉียนโหยวที่รินน้ำชาให้กับจงซาน พร้อมกับยื่นให้เขา.

"คิดอะไรอยู่รึ?"เฉียนโหยวที่ส่งกล่าวออกมาด้วยเสียงที่อ่อนโยน.

จงซานที่ส่ายหน้าเผยยิ้มออกมา รับน้ำชา หากแต่ไม่ได้กล่าวอะไร.

"คิดถึงเจี่ยเจี่ยกุยเอ๋อรึ?"กู่เฉียนโหยวที่กล่าวสอบถาม.

ได้ยินคำพูดของกู่เฉียนโหยวมือของจงซานสั่นไหวเล็กน้อย แม้ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวที่เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น ทว่าก็ไม่สามารถหลุดรอดสายตาของเฉียนโหยวได้ นอกจากนี้ถ้วยน้ำชา มีคลื่นขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน.

"อืม!"จงซานไม่ได้ปฏิเสธ.

แววตาของกู่เฉียนโหยวที่มีประกายแสงความอิจฉาเล็ก ๆ  เพราะว่ากู่เฉียนโหยวรู้ดี เหว่ยกุยเอ๋อนับตั้งแต่แรกจนจบ ก็อยู่ในหัวใจของจงซานตลอด มีสถานะกว่าสตรีใหน ๆ  แม้ว่านางจะตายไปแล้ว นางก็ยังเป็นภรรยาคนแรกของเขา.

เหว่ยกุยเอ๋อนั้น ตายด้วยน้ำมือของไท่จื่อเหล่ยเทียนของราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี่ และราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยหนำซ้ำราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยนที่กำลังเดินทางไปนั้นยังอยู่ใกล้กัน! การเดินทางไปยังราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน ย่อมทำให้เขานึกถึงเรื่องนี้อย่างช่วยไม่ได้ จงซานรับรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา ไม่ต้องบอกเลยว่าไท่จื่อเหล่ยเทียนนั้น จงซานเกลียดอย่างที่สุด เพียงแค่นึกขึ้นได้ก็ทำให้ความแค้นลุกโชนแล้ว.

"เจ้าต้องการทำอะไร?"กู่เฉียนโหยวที่เผยท่าทางกังวล.

จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา จ้องมองไปยังกู่เฉียนโหยว "โปรดวางใจตอนนี้ข้าไม่สามารถลงมือได้ นอกจากนี้ กุยเอ๋อคงไม่หวังที่จะให้ข้าแส่ไปหาความตาย!"

"อืม!"กู่เฉียนโหยวที่เดินข้ามาข้าง ๆ  ยืนข้างหลังจงซาน พร้อมกับบีบนวดที่ไหล่ให้กับเขา.

ด้วยการนวดในเวลานี้ กู่เฉียนโหยวค่อยข้างถนัดทีเดียว เพราะว่านางได้ทำการนวดให้กับชายคนรักเป็นประจำ กับชายที่แข็งแกร่ง ก็ทำให้อ่อนไหวได้.

กู่เฉียนโหยวที่รู้ว่าจงซานกำลังว้าวุ่นกังวลใจ นางจึงต้องการทำให้เขาผ่อนคลาย.

จงซานที่หลับตาพริ้ม เพลิดเพลินกับการนวดของกู่เฉียนโหยว.

"ตูมมมมมมมมมม"

ที่ข้างหุบเขาแห่งหนึ่งก็เกิดระเบิดขึ้น.

"กี่ กี่ กี่"

เสียงร้องที่ดังติด ๆ กันขึ้นมา.

"ไปให้พ้น!"

ที่ด้านนอกหุบเขาได้ยินจื่อเห่าที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวดังออกมา.

จื่อเห่าหลางเจียงที่กำลังไล่เหล่าวานรมากมายออกไป.

"พาคนของพวกเจ้าไปซะ อย่ามายังที่นี่ ไปให้พ้น!"จื่อเห่าที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว.

ดวงตาของจงซานที่ลืมขึ้นมา กู่เฉียนโหยวที่เผยท่าทางประหลาดใจเช่นกัน.

เพราะว่า คนทั้งสองที่ใช้สัมผัสเทวะกวาดออกไป พบฝูงวานรไม่ได้มีเพียงแค่นิดหน่อย ทว่ามีกว่าหมื่นตน วานรเหล่านี้ไม่ได้อ่อนแอ ผู้นำของพวกมันมีระดับหลอมกายธาตุ และมีความสูงกว่า 40 เมตร.

ส่วนจื่อเห่าที่เป็นหลางเจียง แน่นอนว่าไม่ได้สนใจระดับหลอมกายธาตุอยู่แล้ว.

งานของจื่อเห่าเวลานี้คือดูแลพื้นที่รอบ ๆ  ไม่ให้คนนอกเข้ามารบกวนฝ่าบาท.

และเวลานี้มันยังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของจื่อเห่า จ้องมองไปยังจื่อเห่าด้วยความโกรธ.

วานรหลอมกายธาตุระดับหกตนพร้อมผู้นำฝูงซึ่งได้สั่งการ พร้อมกับยกไม้เท้ายักษ์ขึ้น ห้ามเหล่าวานรมากมายไม่ให้เข้าใกล้จื่อเห่า.

"ใครกล้าเข้ามา ตาย!"จื่อเห่าที่กล่าวออกมาด้วยเสียงเกรี้ยวกราด.

ระดับหลอมกายธาตุห้าตนที่ต้องการจะลองดี ทว่าที่วานรที่อยู่ตรงกลางที่ดูเหมือนมีสถานะสูงที่สุดโบกมือห้าม.

เหล่าวานรมากมายที่สงบลงทันที.

วานรกลุ่มดังกล่าวที่จ้องมองจื่อเห่าเขม็ง ทว่าในเวลานี้ พวกมันได้พาพรรคพวกมันจากไปยังหุบเขาแห่งอื่น.

แววตาของพวกมันไม่ยินดีที่วานรสูงที่สุดสั่งการเช่นนั้น ก่อนที่จะร้องออกมาหลายครั้ง พร้อมกับย้ายไปยังหุบเขาแห่งอื่น มุ่งตรงไปยังทิศตะวันตก.

จงซานที่ตื่นตระหนก แน่นอนว่าเขาจะต้องออกมาดู.

จ้องมองไปยังกองทัพวานรหมื่นตน จงซานที่ขมวดคิ้ว กองทัพวานรอย่างงั้นรึ?

"เป่าเอ๋อพวกเราจะออกไปดูข้างนอกสักหน่อย แล้วจะกลับมา!"จงซานที่กล่าวกับเป่าเอ๋อ.

"จะเสร็จแล้ว กินก่อนแล้วค่อยไป!"เป่าเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความคาดหวัง.

"ใช่ ๆ  ข้าและเจี่ยเจี่ยทำสุดฝีมือเลย!"หลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยแววตาเศร้า ๆ .

เห็นใบหน้าของสองสาวที่แสดงท่าทางอยุติธรรม จงซานที่ฝืนยิ้มออกมา "ตกลง นำเข้ามาในปราสาทเลย พวกเราจะกินอาหารอยู่ข้างใน จื่อเห่าเจ้านำปราสาท ตามกลุ่มฝูงวานรไป!"

"รับทราบ!"จื่อเห่ารับคำในทันที.

ระดับจักรพรรดิแท้ การจะนำปราสาทลอยฟ้าไปนั้น ไม่ใช่เรื่องยากอะไร.

จื่อเห่าที่สร้างเมฆสีขาวโดยนำปราสาทมาวางไว้ด้านบน จากนั้นก็บินตามไปยังกลุ่มฝูงวานร.

ส่วนจงซานที่เข้าไปในตำหนักเพื่อลิ้มลองอาหารของสองสาว.

กลุ่มวานรนั้นได้มุ่งตรงไปยังทิศตะวันตก เข้าไปในเขตแดนของราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน.

หลังจากนั้นสองวันกองกำลังวานรกลุ่มดังกล่าวก็ได้มาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยศพของวานร นอนอาบโลหิต ทำให้เหล่าวานรฝูงนี้เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว พร้อมกับกุมไม้เท้าจ้องมองไปยังรอบ ๆ .

"เจ้าพวกสัตว์ร้าย มาจากใหนมากมายขนาดนี้!"เสียงหนึ่งที่ดังออกมาจากหุบเขาแห่งหนึ่ง.

ภายในหุบเขาดังกล่าวนั้น ที่นำหน้าออกมานั้นเป็นชายในชุดสีขาว เป็นชายผมยาวที่รวบทิ้งไปด้านหลัง มือขวาถือหอกยาวสีเงิน ในเวลานี้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้.

มีชายที่อยู่ด้านหลังอีกสิบคน แต่ละคนถือหอกยาว จ้องมองไปยังฝูงวานรหลายหมื่นตัวที่กำลังโกรธเกรี้ยว ชายในชุดสีขาวทั้งสิบคนด้านหลังไม่มีบาดแผล แม้แต่น้อย ดูเหมือนว่าพวกเขาได้แต่มองดู โดยที่ไม่ได้ทำอะไร ปล่อยให้ชายในชุดสีขาวที่ถือหอกเงินต่อสู้คนเดียว.

"ฝ่าบาทมีคำสั่ง ให้พวกเรากำจัดอสูรวานรให้หมดไปจากแผ่นดินราชวงศ์ราชันย์หลานเหยี่ยน ตอนนี้มันมากันมากมาย วันนี้พวกเราจะต้องตายอย่างแน่นอน."

"โฮกกกกกกกก"

เสียงคำรามของผู้นำฝูงวานรที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว มันรับรู้ว่าศพวานรมากมายที่นอนกลาดเกลื่อนยังพื้นที่รอบ ๆ นี้เป็นฝีมือของคนกลุ่มนี้ ไม้เท้ายาวของพวกมันที่กวัดแกว่งพุ่งเข้าหาชายในชุดสีขาว.

วานรนับหมื่นตัวที่ได้รับคำสั่ง ส่งเสียงคำรามลั่นพุ่งตรงไปยังกลุ่มคนด้านหน้า.

"พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องลงมือ ข้าจะจัดการเอง!"ชายในชุดสีขาวที่เต็มไปด้วยความอหังการ.

หอกยาวของเขาที่กวัดแกว่งไปมา พร้อมกับชี้ไปยังกองทัพวานรนับหมื่นตน.

จงซานที่ลอยอยู่บนอาการ พริบตาเดียวกันที่มองเห็นชายในชุดสีขาวพุ่งออกมา ทำให้เขาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ.

จ้าวโส่วเซี่ยง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด