Chapter 555 เคล็ดวิชาสวรรค์และตำราปฐพี.
เหยี่ยนฉงจื่อยอมจำนนต่อราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งดีกว่าจะให้ถูกกำจัดเช่นราชวงศ์ต้าซุน ต้าเจิ้งได้รวมดินแดนชายขอบทั้งหมดแล้ว ซึ่งทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาที่เพิ่มขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง.
ความสำเร็จของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งที่ใช้เวลาน้อยกว่าสิบปีด้วยซ้ำ ทุกคนที่เห็นความน่าเกรงขามได้ ทว่าพวกเขาเห็นพลังความสามารถของจักรพรรดิจงซานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่จริงภายในภพหยินเองก็มีความสามารถมากมายนับไม่ถ้วนจึงยากที่จะนับว่าเขาโดดเด่นได้.
ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งนั้นเป็นอาณาจักรที่มีหลากหลายเผ่าพันธุ์ ไม่ได้จำกัดแต่เพียงภูตมนุษย์ ยังมีกองทัพของภูตวิญญาณอีกด้วย.
ต้าเจิ้งในภพหยินในเวลานี้กำลังพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ .
หลังจากสงคราม แน่นอนว่าจะต้องเข้าสู่การพัก เพื่อฟื้นฟูกำลัง ฟื้นฟูความแข็งแกร่ง ด้วยทักษะของจงซาน แน่นอนว่าย่อมเข้าใจได้ดีกว่าคนอื่น.
การจะบุกเบิกดินแดนออกไปนั้น พวกเขาจะต้องมีกองกำลังที่แข็งแกร่ง มีกองกำลังที่พร้อม ไม่เช่นนั้นไม่มีทางที่จะยึดครองดินแดนอื่น ๆ ได้ พื้นที่รอบ ๆ เองก็มีเหล่าผู้มีความสามารถมากมาย ไม่สามารถที่จะประมาทได้เช่นกัน.
วันหนึ่งหลังจากที่ผ่านมาแล้วห้าปี.
ภพหยิน ภายในห้องหนังสือ ชายในชุดสีดำล้วนก็กลับมา หนี่ปู่ซานั่นเอง.
"ฝ่าบาทโปรดอภัย เฉินล่าช้าไปหลายปี เพราะว่ามีเรื่องสำคัญ ดังนั้นจึงไม่สามารถกลับมาได้!"หนี่ปู่ซากล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
เหยี่ยนฉงจื่อที่แสดงท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย คนผู้นี้เป็นใครกัน? ไม่เคยได้ยินแม้แต่น้อย นอกจากนี้ ดูเหมือนว่าในราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งจะมีสถานะที่ไม่ธรรมดาเลย หลายปีมานี้เขาได้สอบถามเรื่องราวหลายอย่าง หากแต่ไม่รู้จักคนผู้นี้เลย.
หลินเซียวและเซียนเซิงซือจ้องมองไปยังหนี่ปู่ซา ท่าทางไม่ได้แปลกใจไรนัก.
"โห่ว? เจ้าไปถึงใหนอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมา.
"การเดินทางครั้งนี้ เฉินได้เดินทางไปยังโลกใบใหญ่!"หนี่ปู่ซาตอบ.
"อะไรนะ? เป็นไปไม่ได้ จะออกไปแล้วเข้ามาอีกครั้งได้อย่างงั้นรึ?"เหยี่ยนฉงจื่อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
หนี่ปู่ซาที่จ้องมองด้วยท่าทางประหลาดใจไปยังเหยี่ยนฉงจื่อ.
"นี่คือแม่ทัพกองกำลังที่เจ็ด หยิงอู๋โห่ว เหยี่ยนฉงจื่อ!"จงซานที่กล่าวตอบ.
“ไม่มีใครสามารถออกไปแล้วกลับเข้ามาได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นเซียนก็ยังทำไม่ได้!”เหยี่ยนฉงจื่อที่ชำเลืองมองไปยังหนี่ปู่ซา.
"ข้าคือผู้ฝึกตนฮวงจุ้ย!"หนี่ปู่ซาที่กล่าวออกมาเล็กน้อย.
"ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ย?"ใบหน้าของเหยี่ยนฉงจื่อเปลี่ยนเป็นงงงวย แสดงสายตาที่แปลกประหลาด เป็นผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยรึ? นี่เขามาภัคดีกับราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งอย่างงั้นรึ? หัวใจของเหยี่ยนฉงจื่อที่เต้นไม่เป็นจังหวะด้วยความประหลาดใจ.
ขณะที่จ้องมองไปยังจงซาน เต็มไปด้วยความอยากรู้ ประหลาดใจกับคนมากมายที่มาภัคดีกับฝ่าบาท.
ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยนั้นทุกคนล้วนแล้วแต่ภัคดีต่อราชวงศ์สวรรค์เท่านั้น ผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยภายในภพหยินนั้นแทบจะไม่ปรากฏให้เห็นเลย คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนหนึ่งอยู่ภายในราชวงศ์จักรพรรดต้าเจิ้งรึ?
"โลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังหนี่ปู่ซา.
"เพราะว่าสายโลหิตของข้านั้นพิเศษ สามารถที่จะเข้าไปยังโลกใบใหญ่ ผ่านตำหนักสังสารวัฏผ่านไปยังดินแดนต่าง ๆ ที่คนอื่น ๆ ไม่สามารถไปได้ แม้แต่เทพสวรรค์ก็ไม่สามารถทำได้ ทว่าข้าสามารถทำได้."หนี่ปู่ซาตอบ.
"อืม!"จงซานที่พยักหน้ารับ.
"ฝ่าบาท ไม่กี่ปีก่อนนั้น ภพหยินมีกิเลนเพลิงลงมาอย่างงั้นรึ?"หนี่ปู่ซาสอบถาม.
"ฮืม? เจ้าเองก็รู้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
ต้องไม่ลืมว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น มีคนตายไปมากมาย.
"ใช่แล้ว เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่เหล่ายอดฝีมือมากมายทั่วโลกใบใหญ่ต้องการทะลวงม่านพลังป้องกันเข้ามาภายใน ท้ายที่สุดกับไม่สามารถทำได้สำเร็จ นอกจากนี้กิเลนเพลิงยังหนีไปได้อีก."หนี่ปู่ซากล่าว.
"กิเลนเพลิง? ทำไมถึงมียอดฝีมือมากมายต่างก็ไล่ตามกิเลนเพลิง?"จงซานที่ขมวดคิ้วแน่น.
"ไม่ใช่กิเลนเพลิงที่พวกเขาสนใจ แต่เป็นตำราที่มันนำมาต่างหาก!"หนี่ปู่ซากล่าว.
"ตำราอย่างงั้นรึ?"จงซานที่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในเวลานี้ที่ปากของมันได้คาบตำราโลหะเอาไว้ เป็นตำราเล่มนั้นอย่างงั้นรึ?
มียอดฝีมือมากมายในโลกใบใหญ่ ทว่าก็ไม่สามารถที่จะทะลวงม่านพลังนั่นได้ เห็นได้ชัดเจนว่าม่านพลังนั่นแข็งแกร่งมาก ทว่าในจำนวนนั้น ดูเหมือนว่าจะมีคนหนึ่งที่สามารถทะลวงม่านพลังแดนหยินเข้ามาได้ คนผู้นี้ต้องมีความแข็งแกร่งขนาดใหนกัน?
ในโลกใบใหญ่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เขาเองยังไม่รู้ในตอนนี้.
"ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันว่ามันคือตำราอะไร ทว่าได้ยินมาว่าตำรานี้ทันทีที่ปรากฏขึ้น ก็ได้สะสมวาสนามากมายอัดแน่นอยู่ในตำรา ทำให้ผู้คนมากมายทั่วทุกสารทิศไล่ตาม."หนี่ปู่ซากล่าว.
"หืม?เกิดขึ้นเองรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อืม ตามข่าวลือนั้นตำรานี้ไม่ได้สร้างขึ้นมา ทว่ามันเป็นสิ่งของที่ฟ้าดินสร้างขึ้น มันมีชื่อว่า"ตำราปฐพี."หนี่ปู่ซาที่ขมวดคิ้วและกล่าวออกมา.
"ตำราปฐพีรึ?"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"เจ้าก็ได้ยินมาอย่างงั้นรึ?"หนี่ปู่ซาที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยความประหลาดใจ.
"ตำราปฐพี? ไม่สงสัย ไม่น่าแปลกใจเลย ไม่แปลกใจที่เหล่ายอดฝีมือของโลกใบใหญ่ต้องการ."เซียนเซิงซือกล่าวพลางทอดถอนใจ.
"เจ้ารู้จักตำราปฐพีอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"ครับ ตำราปฐพี ในโลกใบใหญ่ ในทุกครั้งที่มันเกิด จะก่อให้เกิดการแย่งชิงอย่างน่าหวาดกลัว เพราะว่าตำราปฐพีนั้น จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่ง ได้รับพลังจากฟ้าดิน ตำราปฐพีสามารถสร้างสมบัติจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดขึ้นมาได้ และยังมีวิชาบำเพ็ญสุดยอดในตำราฟ้าดิน สามารถช่วยยกระดับผู้ฝึกไปยังอาณาจักรที่น่าพรั่นพรึง ตราบเท่าที่ได้ฝึกฝนวิชาในตำราปฐพี ย่อมกลายเป็นผู้ไร้เทียมทานได้ ไม่แปลกใจที่เหล่ายอดฝีมือในโลกใบใหญ่บ้าคลั่ง และต้องการคว้ามันมาให้ได้."เซียนเซิงซือที่กล่าวถอนหายใจอีกครั้ง.
"ตำราปฐพี? ทรงพลังขนาดนั้นเลยรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
เพื่อสิ่งดังกล่าว หลายปีก่อนหน้านี้จงซานที่เห็นฝ่ามือสีเขียวที่ทรงพลังแหวกม่านพลัง สิ่งของดังกล่าวเป็นสิ่งที่แม้แต่ยอดฝีมือต้องการ.
หากว่าได้ตำราปฐพีมาจะยิ่งทรงพลังขนาดใหน?
ตำราปฐพี! เป็นความจริง หากว่ารับรู้เรื่องนี้ก่อน บางที่แม้แต่เขายังอดไม่ได้ที่จะมีความคิดต้องการแย่งชิงตำราปฐพีมา.
"แน่นอนว่ามันทรงพลังมาก หากว่าได้ฝึกวิชาดังกล่าวล่ะก็ จะทำให้ทรงพลังไม่มีวันตาย!"เซียนเซิงซือกล่าวเพิ่ม.
ไม่ตายอย่างงั้นรึ? จากคำพูดของเซียนเซิงซือแล้ว ภายในโลกใบใหญ่นั้น นับว่ามีวิชาที่ทรงพลังน่าเกรงขามอยู่มากมาย ทว่าสำหรับตำราปฐพี กับทำให้คนเต็มไปด้วยความโลภขึ้นมาก บอกได้เลยว่าตำราปฐพีนั้น ภายในโลกใบใหญ่คงเป็นตำราชั้นยอด ทำให้ทุกคนไล่ตาม แม้ว่าจะต้องเสียสละอะไรไปก็ตาม.
"ตำราปฐพีคือวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ?"หนี่ปู่ซาสอบถามออกมา.
"ไม่ เป็นสิ่งล้ำค่า ที่สามารถสร้างเคล็ดวิชาที่น่าเกรงขามขึ้นมาได้ ทว่าตำราปฐพีนั้น ก็เป็นวิชาที่ได้รับมาจากสวรรค์ ดังนั้นก็หาได้สูงกว่าสวรรค์ไม่."เซียนเซิงซือกล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
"ยังมีอีกเรื่องที่เป็นเพียงตำนาน จะเป็นจริงหรือเท็จไม่อาจบอกได้ เมื่อเอ่ยถึงตำราปฐพี ข้าจึงนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้."เซียนเซิงซือที่ครุ่นคิด.
"หืม?"ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
"วิชาที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น ไม่ใช่ตำราปฐพี ทว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่เกิดจากการหลอมฟ้าดินเข้าด้วยกัน."เซียนเซิงซือกล่าว.
"อะไรอย่างงั้นรึ?
"เคล็ดวิชาสวรรค์!"
"เคล็ดวิชาสวรรค์อย่างงั้นรึ?"หนี่ปู่ซาดวงตาเป็นประกาย.
เพราะว่าหนี่ปู่ซากำลังนึกถึงเคล็ดวิชาสวรรค์ หมื่นเงาสวรรค์ ซึ่งเขาได้ทำลายมันไปแล้ว ใช่สิ่งนั้นหรือไม่?
ส่วนจงซาน ที่ได้ยินเคล็ดวิชาสวรรค์ก็แสดงท่าทางสนใจเช่นกัน แข็งแกร่งกว่าตำราปฐพีอย่างงั้นรึ? เคล็ดวิชาสวรรค์?
"เคล็ดวิชาสวรรค์นั้นแตกต่างจากตำราปฐพี เคล็ดวิชาสวรรค์ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถฝึกได้ มันยังขึ้นกับวาสนาและโชคชะตาด้วย ถึงแม้ว่าจะมีเคล็ดวิชาสวรรค์อยู่ด้านหน้า หากไร้ซึ่งวาสนาก็ไม่สามารถฝึกได้ นอกจากนี้เคล็ดวิชาสวรรค์ การจะฝึกนั้นจะต้องได้รับการช่วยเหลือจากสมบัติที่ลึกลับอีกด้วย."เซียนเซิงซือกล่าว.
"ยกตัวอย่างได้หรือไม่?"จงซานที่รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย.
"ยกตัวอย่าง ตำนานในโลกใบใหญ่ที่ได้ฝึกวิชาสวรรค์มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่ฝึกได้ ทว่าข้าได้ยินมาว่าเหล่าตัวตนเหล่านี้ ล้วนจำเป็นต้องใช้สมบัติลึกลับในการฝึก."เซียนเซิงซือกล่าว.
"หืม?"
"ที่มันเรียกว่าเคล็ดวิชาสวรรค์นั้น เป็นเคล็ดวิชาที่ต้องอาศัยวาสนาและโชคลาภด้วย ต้องการฝึกฝนเคล็ดวิชาสวรรค์ จะมีของวิเศษช่วย ถูกเรียกว่า"แผ่นจานหยก"ถึงจะฝึกได้ ทว่าท้ายที่สุดข้าก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร เพียงแค่ได้ยินมาเท่านั้น."เซียนเซิงซือกล่าว.
"เคล็ดวิชาสวรรค์ที่ต้องอาศัยวาสนารึ? แผ่นจานหยก?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ฝ่าบาท เรื่องนี้เฉินได้ยินเมื่อครั้งยังเด็กเป็นเหมือนกับนิทานมากกว่า ไม่รู้เลยว่ามันจริงหรือไม่ นอกจากนี้ในโลกใบใหญ่นั้นเกี่ยวกับเคล็ดวิชาสวรรค์นั้นแทบจะไม่มีคนเคยเห็นเลย ทว่าตำราปฐพีต่างหาก ที่มีอยู่จริง."เซียนเซิงซือตอบ.
เคล็ดวิชาสวรรค์เป็นเพียงตำนานอย่างงั้นรึ? ในโลกใบใหญ่เป็นเพียงเรื่องเล่า ทว่าจงซานนั้นกลับเชื่อเซียนเซิงซือ.
เคล็ดวิชาสวรรค์! ภายในใจของจงซานที่รู้สึกประหลาดใจ เคล็ดวิชาหงหลวนเทียน เช่นนั้นก็หมายความว่าเป็น เคล็ดวิชาสวรรค์ด้วยเช่นกัน แม้แต่หมื่นเงาสวรรค์ก็มีเคล็ดวิชาสวรรค์ด้วย นี่คือวิชาที่ต่อต้านสวรรค์ดั่งคำที่เซียนเซิงซือกล่าวหรือไม่?
หนี่ปู่ซาที่เงียบ จวบจนการประชุมเสร็จสิ้น ทุกคนที่จากไป คงเหลือแค่หนี่ปู่ซาคงอยู่.
"ฝ่าบาท เฉินได้กระทำการที่ไม่ยุติธรรมต่อฝ่าบาท!"หนี่ปู่ซาที่กล่าวอย่างเคร่งขรึมและโค้งคำนับให้.
"หืม?"จงซานที่จ้องมองไปยังหนี่ปู่ซา.
"ฝ่าบาท เฉินได้ทำลายของล้ำค่าที่สุดไปแล้ว เคล็ดวิชาหมื่นเงาสวรรค์นั้น เป็นของวิเศษที่ช่วยฝึกเคล็ดวิชาสวรรค์ การทำลายมันไป ทำให้ฝ่าบาทได้สูญเสียของวิเศษไป."หนี่ปู่ซากล่าวออกมาด้วยท่าทางเศร้าใจ.
"เจ้ากำลังกล่าวถึงกระจกที่บรรพชนของเจ้าได้ทำการสั่งเสียเอาไว้นั่นอย่างงั้นรึ?"จงซานเผยยิ้มจ้องมองไปยังหนี่ปู่ซา.
"ภายในตระกูลหนี่ปู่ซานั้น มีรุ่นหนึ่งที่ได้ฝึกฝนวิชาดังกล่าว จวบจนทำให้ธาตุไฟเข้าแทรก บ้าคลั่งได้ทำลายสร้างความเสียหายต่อโลกใบนี้เป็นอย่างมาก ทำให้บรรพชนได้สั่งเสียเอาไว้ว่าจะต้องทำลายสมบัติชิ้นนี้ ข้านั้นไม่มีทางเลือก."หนี่ปู่ซากล่าวออกมาด้วยท่าทางเสียใจ.
"เอาล่ะ เซียนเซิงซือก็กล่าวแล้วว่าเคล็ดวิชาสวรรค์นั้นจำเป็นต้องมีวาสนา ข้าอาจจะไม่มีวาสนาที่จะฝึกได้ ถึงได้รับมา ก็อาจจะไม่สามารถฝึกได้ นอกจากนี้ ข้ายังได้โชคลาภ ที่เสียมันไป ข้าพอใจแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด!"จงซานกล่าวพลางเผยยิ้มออกมา.
เห็นรอยยิ้มของฝ่าบาท หัวใจของหนี่ปู่ซาที่สั่นไปมา.
"ขอบพระทัยฝ่าบาท!"หนี่ปู่ซาที่กล่าวรับ.
"อืม ทว่าเรื่องนี้ในเมื่อมันจบไปแล้ว อย่าได้เอ่ยเรื่องเคล็ดวิชาหมื่นเงาสวรรค์ให้ใครรู้."จงซานที่จ้องมองไปยังหนี่ปู่ซาด้วยท่าทางเคร่งขรึม
"รับทราบ!"หนี่ปู่ซาที่กล่าวรับคำในทันที.
หนี่ปู่ซาที่คาดเดาว่าจงซานต้องการปกปิดมันเอาไว้ ถึงแม้ว่าจะได้ทำลายมันไปแล้ว หากว่ามีคนรับรู้เรื่องนี้ จะต้องมีคนสนใจแม้แต่ใช้วิธีดึงวิญาณสืบค้น เพื่อดึงความทรงจำออกมา เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ หากมีคนรู้อาจถูกไล่ตามจงซานอย่างบ้าคลั่งได้เช่นกัน.
หากทุกคนรับรู้ว่าจงซานได้ฝึกฝนเคล็ดวิชาหมื่นเงาสวรรค์ จนก้าวไปถึงขั้นที่เก้า แม้แต่สามารถเบิกเนตรสังสารวัฏได้จะรู้สึกอย่างไร? การฝึกฝนดังกล่าวนี้ จะบอกให้คนอื่น ๆ รับรู้ไม่ได้ แน่นอนว่าไม่มีทาง ไม่เช่นนั้นจะดึงดูดความสนใจของคนมากมายเข้ามาแน่.
มีวาสนาต่อเคล็ดวิชาสวรรค์รึ? มีวาสนาต่อแผ่นหยกรึ?
จงซานที่เผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดออกมา.