ตอนที่แล้วChapter 551 ไม่มีที่ให้หนี.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 553 ความร้ายกาจของเนตรสังสารวัฏ.

Chapter 552 หลุมสังสารวัฏ.


ร่างของอสูรซือเนาในเวลานี้กำลังขยายแทรกออกมาจากยันต์หยกทมิฬ ราวกับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ราวกับว่าไม่อะไรสามารถหยุดมันได้.

การไล่ล่าไปยังเหล่าผู้ฝึกตนคนอื่น ๆ ดูเหมือนจะหยุดแล้ว ในเวลานี้อสูรซือเนาได้จดจ้องมองไปยังจงซานเพียงคนเดียว สายตาของมันที่โกรธเกรี้ยว ต้องการจะสังหารจงซานในทันที.

ร่างของทุกคนที่หลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา ทุกคนที่คิดราวกับว่าจงซานได้ช่วยพวกเขาไว้แล้ว มันได้หยุดไล่ล่าพวกเขาแล้ว ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่จดจ้องมองไปยังจงซาน.

"ฮืมมมมมมม"

เสียงคำรามของอสูรซือเหนาที่ดังลั่น ในเวลานี้มันเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

"ฟิ้ว ๆ  ๆ  ๆ  ๆ  ๆ  ๆ "

เหล่าเม็ดโคลนมากมายที่พุ่งตรงมาจงร่างของจงซานอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนที่เห็นภาพต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดผวา.

ในเวลาเดียวกันนี้ อสูรซือเหนาก็ปล่อยลำแสงออกมาจากตาด้วยเช่นกัน.

"ตูมมมมมมมมมมมม"

อสูรซือเนาที่ขยายร่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ราวจะปิดท้องฟ้า ขยายยืดออกไปยังทิศทางของจงซานในทันที ร่างของมันที่ขยายออกมาอย่างบ้าคลั่ง.

แรงกดดันวิญญาณที่ยิ่งใหญ่โถมกระหน่ำออกไป ทุกคนที่เห็นถึงกับหัวใจรัดแน่น.

แรงกดดันที่โถมกระหน่ำลงมา พลังของซือเนานั้นดูเหมือนว่าจะไม่ได้ด้อยกว่ากิเลนเลย แม้ว่าเปลวเพลิงของกิเลนจะสามารถเผาทุกอย่างให้เหือดหายไปได้ก็ตาม แต่อสูรซือเนากลับเป็นการกลืนทุกอย่างให้หายไป.

"ตูมมมมม"

อสูรซือเนาที่บดบังกลืนกินบึงเลนไปด้วย ร่างของมันที่ขยายได้ไม่มีสิ้นสุด.

ทั่วทั้งท้องฟ้าและผืนปฐพีแทบจะถูกร่างของมันปิดเอาไว้ ปิดสิ้นทางทุกอย่าง หากมันขยายออกไปหมดทุกคนทั้งหนึ่งร้อยจะต้องตาย ตายแน่นอน ตายจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก.

ทว่าก็เป็นโอกาสเช่นกันสำหรับคนอื่นในเมื่ออสูรซือเนาตอนนี้กำลังขยายร่างพุ่งตรงไปยังทิศทางของจงซาน ทำให้พวกเขาหลบหนีไปยังเส้นทางอื่นได้.

ส่วนจงซานเวลานี้ กำลังจดจ้องมองไปยังอสูรซือเนาที่กำลังขยายร่างเคลื่อนตรงมาหาเขา.

เหยี่ยนฉงจื่อและคนอื่น ๆ นั้นไม่สามารถลงมือได้ เพราะว่าอสูรซือเนานั้นร้ายกาจจนเกินไป ตราบเท่าที่พวกเขาถูกเม็ดโคลนถูกร่างมันจะชอนไชเข้ามาในร่างกายในทันที.

จงซานที่กลับมาโจมตีอสูรซือเนาอีกครั้งด้วยยันต์หยกทมิฬเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของมัน.

ในเวลานี้ยันต์หยกทมิฬของจงซานที่เปล่งแสงสีดำทมิฬออกมา ปิดกั้นร่างของอสูรซือเนา ยันต์หยกทมิฬไม่เพียงแต่เป็นเหว่ยฉี ทว่ายังเป็นเหว่ยฉีที่แข็งแกร่งกว่าปรกติอีกด้วย.

ในเวลาเดียวกันนี้ จงซาน เซียนเซิงซือ อาวุโสจิวและเหยี่ยนฉงจื่อ ปรากฏแสงสีดำทมิฬ ปกคลุมร่างกายของทุกคนเอาไว้ด้วยพลังของยันต์หยกทมิฬ.

อาวุโสจิวที่จ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ จ้องมองยันต์หยกทมิฬของจงซาน.

"ฝ่าบาท ขอให้ฝ่าบาทช่วยขวางมันเอาไว้ก่อน เฉินจะทำการทะลวงค่ายกลของหนานกงเซิ่ง."เซียนเซิงซือที่กัดฟันแน่น.

จากนั้นทุกคนที่เห็นเซียนเซิงซือนำหัวใจสีแดงชาดออกมา หัวใจที่เต้นไปมา ราวกับว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิต แน่นอนว่าสิ่งดังกล่าวนี้เป็นของล้ำค่าที่สุดของเซียนเซิงซือนั่นเอง.

เหยี่ยนฉงจื่อและอาวุโสจิวทั้งสองที่คราวแรกจ้องมองเหว่ยฉีของจงซานด้วยความตื่นตะลึง ในเวลานี้ก็หันมามองหัวใจสีแดงชาดในมือเซียนเซิงซือด้วยความตะลึงงันอีก หัวใจที่เซียนเซิงซือนำออกมานั้น ปล่อยกลิ่นอายปิศาจที่รุนแรงเป็นอย่างมาก แม้แต่ทำให้พวกเขาสัมผัสได้ถึงความตาย ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

ก่อนหน้านี้เซียนเซียนก็ครั้งหนึ่งแล้ว ที่นำของวิเศษระดับเก้าออกมาใช้งานแม้แต่ลดระดับพลังมันอย่างไม่สนใจ จงซานที่นำเหว่ยฉีที่ร้ายกาจออกมา เซียนเซิงซือเองก็นำของวิเศษที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ายันต์หยกทมิฬออกมาใช้ กลุ่มคนเหล่านี้ มีของวิเศษมากมายขนาดนี้เลยรึ? ผิดปรกติเกินไปแล้ว ทั้งสองต่างจดจ้องมองไปยังจงซาน ไม่สามารถเข้าใจจงซานได้ จงซานที่เป็นจักรพรรดิของราชวงศ์จักรพรรดิเท่านั้น แต่กับสร้างความแปลกประหลาดสำหรับพวกเขามากมาย.

จงซานที่จ้องมองไปยังท่าทางของเซียนเซิงซือ ภายในใจที่สั่นไหว พร้อมกับก้าวมาจับแขนของเซียนเซิงซือไว้.

"เซียนเซิงซือ เจ้าจะทำลายของวิเศษนี้เพื่อเปิดค่ายกลอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"ครับ!"แววตาของเซียนเซิงซือที่เผยท่าทางไม่ยินดีนัก ทว่า การจะออกไปนั้น มันก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน.

"สิ่งนี้คือของสำคัญของเจ้าไม่ใช่รึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"ของสำคัญ หาได้สำคัญ หากว่าไม่มีชีวิตให้ชื่นชม!"เซียนเซิงซือฝืนยิ้มออกมา.

"เก็บมันซะ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"หืม?"เซียนเซิงซือจ้องมองไปยังจงซาน ฝ่าบาทยังมีวิธีอยู่อย่างงั้นรึ?

"ครับ!"เซียนเซิงซือพยักหน้าในทันที.

เหยี่ยนฉงจื่อและอาวุโสจิวที่เผยแววตาประหลาดใจ.

จงซานที่หันหน้าไปยังอาวุโสจิวและเหยี่ยนฉงจื่อ.

"ทั้งสองต้องการยืมตัวข้าเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างงั้นรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังคนทั้งสอง.

จงซานรับรู้ความสามารถของอาวุโสจิว แน่นอนย่อมคาดเดาเป้าหมายได้.

อาวุโสจิวที่เผยยิ้มอย่างอักอ่วน เหยี่ยนฉงจื่อที่พยักหน้ารับ."อืม นี่เป็นเรื่องที่น่าอายนัก ทว่าต้องขออภัยด้วย!"

"อืม!"จงซานพยักหน้า.

อาวุโสจิวที่จ้องมองจงซานที่ไม่ได้ตำหนิอะไร ดวงตาก็เปล่งประกาย.

"ข้าสามารถช่วยได้ ทว่าข้าไม่ต้องการให้พวกท่านเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็น!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"หืม?"อาวุโสจิวที่ตกใจเล็กน้อย.

"ขอบคุณ!"เหยี่ยนฉงจื่อพยักหน้า พร้อมกับโค้งคำนับให้กับจงซาน.

อาวุโสจิวไม่เข้าใจกับสิ่งที่เหยี่ยนฉงจื่อกล่าวเลยแม้แต่น้อย จงซานต้องการให้พวกเขาช่วยอะไรอย่างงั้นรึ?

"พวกเราคงจะต้องเสียมารยาทแล้ว"จงซานที่จ้องมองไปยังเหยี่ยนฉงจื่อ.

อาวุโสจิวหาได้เข้าใจ ใบหน้าที่เหรอหรางงงวย.

"เชิญลงมือ ขอบคุณต้องรบกวนแล้ว!"เหยี่ยนฉงจื่อที่กล่าวต่อจงซาน.

"อืม เซียนเซิงซือ ทำให้พวกเขาหมดสติ!"จงซานกล่าว.

ได้ยินคำพูดของจงซาน อาวุโสจิวท้ายที่สุดก็เข้าใจ ทำให้พวกเขาหมดสติอย่างงั้นรึ? ใบหน้าของอาวุโสจิวที่กระตุก ค่อนข้างแปลกใจ ทว่าก็ไม่ปฏิเสธ.

เหยี่ยนฉงจื่อที่เข้าใจตั้งแต่จงซานเอ่ยมาครั้งแรกแล้ว เขาจะลงมือ เมื่อเขาวางใจเท่านั้น.

อสูรซือเหนานั้นร้ายกาจมาก มีเพียงแค่จงซานเท่านั้นที่เป็นความหวัง หากไม่แล้วพวกเขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้คงทำได้แค่เพียงยอมรับในข้อเสนอของจงซาน.

เหยี่ยนฉงจื่อและอาวุโสเทียนไม่ขัดขืน เซียนเซิงซื่อที่ใช้ควันสีดำ สร้างเป็นม่านพลังปกคลุมพวกเขาเอาไว้ให้พวกเขาถูกกักขังเอาไว้ด้านใน.

สำหรับใจซานนั้น เซียนเซิงซือรู้สึกซาบซึ้งและคาดหวังกับฝ่าบาทผู้นี้จริง ๆ .

เห็นเซียนเซิงซือพยักหน้า จงซานที่จ้องมองไปยังพื้นที่รอบ ๆ  ซึ่งเวลานี้อสูรซือเนาถูกกักเอาไว้ด้วยแสงสีดำของยันต์หยกทมิฬ ยันต์หยกทมิฬดูเหมือนว่าพลังของมันจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ .

ดูเหมือนว่าจะกักมันเอาไว้ได้อีกไม่นานแล้ว.

จงซานที่ยืนนิ่งกวาดตามองไปยังอสูรซือเนา ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.

ลูกตาของจงซานที่หดเกร็ง จากนั้นก็เบิกกว้าง ลูกตาสีดำ ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีเขียวที่แปลกประหลาดขึ้นมาทันที.

เนตรสังสารวัฏ!

เปิดวัฏสงสาร หยิน-หยางผันแปร!

พริบตาเดียวที่เนตรสังสารวัฏเปิดใช้งาน ร่างของอสูรซือเหนาที่หยุดลงในทันที ร่างของมันที่ล่วงจมลงไปในบึงเลน.

อสูรซือเนาที่เผยแววตาประหลาดใจอย่างที่สุด จดจ้องมองไปยังตำแหน่งจงซาน ดวงตาของมันที่รู้สึกโกรธแค้น.

"ตายยยยยยยยย!"

เสียงคำรามของจงซาน ร่างของอสูรซือเนา(อสูรกินสมอง) ก็สั่นสะท้าน ส่งเสียงร้องด้วยความหวาดหวั่นและโกรธเคือง.

"ฮึมมมมมมมม"

"ตูมมมมมมมมมมม ตุมมมมมมมมมมม"

ด้วยพลังที่น่าเกรงขามของเนตรสังสารวัฏ ร่างของอสูรซือเนาขนาดใหญ่ชั้นแล้วชั้นเล่าที่ระเบิดออกไป กลายเป็นหมอก ก่อนที่จะสลายหายออกไปทุกทิศทุกทาง.

หัวใจของเซียนเซิงซือที่หดเกร็ง ทักษะของฝ่าบาทช่างร้ายกาจนัก.

นี่คือความสามารถอะไร? ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากเมื่อครั้งกำราบหวังคู นี่คือทักษะอะไร? คาดไม่ถึงเลยว่าเทพอสูรซือเนาไม่สามารถขัดขืนได้เลยรึ?

เพียงแค่การจ้องมองของจงซาน ใช้เวลาครึ่งชั่วโมง ในการระเบิดร่างของอสูรซือเนาให้กลายเป็นหมอก.

ไม่ธรรมดา พลังของเนตรสังสารวัฏ น่าหวาดกลัวถึงขนาดนี้เลยรึ?

ร่างที่ใหญ่โตของอสูรซือเนาได้หายไปเป็นจำนวนมาก ทว่า ก็ยังมีบางส่วนที่มันยังไม่ระเบิดเช่นกัน.

อสูรซือเนา ที่จริงมันมีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร อย่างไร้ก็ตามส่วนร่างเหล่านั้น เป็นเพียงพลังงานด้านนอกเหมือนเปลือกที่ร่างหลักสร้างขึ้นมา ตอนนี้มันถูกทำลายสลายหายไป ทำให้ร่างของมันลดลงเรื่อย ๆ .

ร่างของมันที่ใหญ่โตมโหฬารนั้น เพียงแค่ครึ่งชั่วโมง ตอนนี้เหลือเพียงแค่หนึ่งร้อยจั้งแล้ว สายตาของมันที่โกรธเกรี้ยว จ้องมองเขม็งมายังจงซาน รู้สึกหวั่นเกรง และเกลียดอย่างที่สุดไปด้วย.

"นี่คือร่างหลักของอสูรซือเนา ที่มันไม่ตาย เพราะว่าเป็นเพียงแค่สร้างร่างขยายของมันปกคลุมเอาไว้ได้เท่านั้น ตราบเท่าที่ร่างหลักของมันไม่มีเหลือ ท้ายที่สุดก็จะถูกกำจัด ทำลายร่างหลักได้ทั้งหมดอสูรซือเนาจะถูกสังหารไปจนสิ้น."เซียนเซิงซือกล่าวออกมาในทันที.

ทว่าในเวลาเดียวกัน เนตรสังสารวัฏของจงซานเหมือนว่ามันจะมาถึงขีดจำกัดแล้ว ดูเหมือนว่าจะเพิ่มพลังขึ้นไม่ได้อีกแล้ว.

เสียงของอสูรซือเนาที่ร้องตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว.

"ฮึมมมมมมมมม"

อสูรซือเนา ในโลกใบใหญ่มันมีอันดับที่ 94 เป็นเทพอสูรที่ทรงพลังมาก ถึงแม้ว่าเนตรสังสารวัฏจะทรงพลัง หากแต่ก็ไม่สามารถทำลายดวงวิญญาณของมันได้.

แต่แล้วทันใดนั้นดวงตาของจงซานก็แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวออกมาเช่นกัน ดวงตาของเขา กำลังโคจรพลังอีกครั้งหนึ่ง.

"ตูมมมมมมมมมมมมมม"

บนพื้นดิน เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นขึ้นมาในทันที สายตาของเซียนเซิงซือสั่นไหว ร่างกายเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง อ้าปากค้างหากแต่ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดออกมา.

รอบ ๆ พื้นที่ร้อยลี้บึงโคลนหายไปในทันที มันกลายเป็นหลุมดำขนาดใหญ่ หลุมดำที่ฉีกกระชากบรรยากาศ เปิดออกมา หลุมดำนี้ มีเพียงผู้ฝึกตนสวรรค์แท้เท่านั้นสามารถสร้างได้ ทว่าในตอนนี้พลังหลุมดำนั้นกลับมีขนาดใหญ่ยิ่งกว่าระดับสวรรค์แท้สะอีก.

หลุมดำที่ยังไม่หยุดเท่านั้น ที่ใจกลางของหลุมดำนั้นในเวลานี้ได้มีแสงสีเขียวเกิดขึ้น มันรวมตัวกันมากขึ้นและก็มากขึ้น พริบตาเดียวเท่านั้นก็กระจายไปทั่วหลุมดำ.

หลุมดำที่เปลี่ยนสี และยังเต็มไปด้วยความแปลกประหลาด มันเป็นหลุมสีเขียวที่น่าเกรงขาม.

เส้นทางสีเขียว เส้นทางที่ไม่มีใครสามารถหลบเลี่ยงได้ มันมีพลังที่ไร้ขีดจำกัด.

ทันทีที่เส้นทางดังกล่าวเปิดออก แสงสีเขียวมากมายเกิดเป็นสนามพลังพัดผ่านขึ้นมาด้านบน กลิ่นอายของปิศาจที่มากมายนับไม่ถ้วนลุกโชนขึ้นมา.

เส้นทางที่ลึกสุดหยั่ง พลังมากมายหลากหลายสีที่ปรากฏขึ้นหมุนวน ไม่มีใครเข้าใจว่าด้านในนั้นจะไปสิ้นสุดที่ตรงใหน.

เซียนเซียนและเซียนเซิงซือนั้นทำได้แค่มอง แววตาที่เต็มไปด้วยความงงงวย พลังมากมายนั้นกำลังดูดทุกอย่างเข้าไปในหลุมสีเขียว.

ใบหน้าของจงซานที่ขาวซีดขึ้นมาเป็นอย่างมาก ดวงตาที่มีเส้นโลหิตสีแดงขึ้นรอบ ๆ  เห็นได้ชัดเจนว่า ทักษะดังกล่าวนี้ กินพลังมากมายมหาศาล.

อสูรซือเนาที่ต้องการบินขึ้นไปบนอากาศ ทันใดนั้นมันก็ถูกลากลงมาด้านล่าง.

แววตาของมันในเวลานี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุดเกิดขึ้นแล้วในเวลานี้.

"วัฏจักรหยินหยาง วิถีดับสลาย!"เสียงของจงซานที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.

เสียงของจงซานที่ดังขึ้น ภายในหลุมสีเขียวเกิดเป็นสนามพลังวายุที่รุนแรงหมุนวนขึ้นมาในทันที มันสูบทุกอย่าง ดึงดูดพื้นที่รอบ ๆ  เป็นพลังสูบที่รุนแรงเป็นอย่างมาก ทุกอย่างที่ปลิวละล่องถูกดึงเข้ามาภายในหลุมดังกล่าว.

พริบตาเดียวเท่านั้น บรรยากาศ พื้นดิน วัตถุสิ่งของต่างก็ถูกดูดไปทั้งหมด พื้นดินของดินแดนภูตโคลน แตกระแหง ท้องฟ้าบิดเบี้ยว แม้แต่ค่ายกลที่ทรงพลังของหนานกงเซิ่ง ในเวลานี้ก็ยังสั่นไหวไปมาอย่างรุนแรง ราวกับว่ากำลังล่มสลาย.

พลังดูดที่น่าสะพรึงกลัว พลังสูบที่ไร้ขีดจำกัด บางทีคงมีเพียงเซียนเท่านั้นถึงจะมีพลังที่โยกสวรรค์ สั่นคลอนปฐพีเช่นนี้ได้.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด