Chapter 550 ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรเทพบรรพชน.
หนานกงเซิ่งที่ใช้ค่ายกลสนับสนุน ดึงพลังจากทั่วทุกสารทิศ พลังงานสวรรค์และปฐพี พร้อมกับเปลี่ยนมันเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่เข้ารับการโจมตีฝ่ามือจากบนท้องฟ้า.
บางทีสวรรค์และปฐพีเองก็คงเกลียดคนที่มาจากนอกโลกเช่นกัน ฝ่ามือของหนานกงเซิ่งในเวลานี้ จึงปรากฏสายฟ้ามากมายหมุนวนอยู่รอบ ๆ ช่วยเพิ่มพลังให้กับฝ่ามือของหนานกงเซิ่งเข้าต้านทานฝ่ามือสีเขียวที่แหวกม่านพลังเข้ามาอย่างดุร้าย.
พลังที่น่าเกรงขาม พลังที่เหนือล้ำ สองสายที่เข้าปะทะกัน ฝ่ามือขนาดใหญ่โตสองฝ่ามือ กระแทกกันจนเกิดหลุมดำขนาดใหญ่ที่ดูดทุกอย่างเข้าไป.
การปะทะของพลังที่น่าเกรงขามทั้งสอง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ บิดเบี้ยวไปหมด เป็นพลังปะทะที่รุนแรงมาก.
"ตูมมมมมมมมมมมมมมมมม"
“.........”
เกิดระเบิดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นทุกคนราวกับว่าหูดับไปในทันที ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกต่อไป เสียงที่รุนแรง เสียงที่ทรงพลังอย่างที่สุด เสียงระเบิดที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี ไม่มีใครในภพหยินที่จะไม่ได้ยินเสียงระเบิดดังกล่าวนี้.
เขตแดนภูตโคลน อากาศที่บิดตัวบิดเบี้ยว หลุมดำที่ดูดเศษดินเศษหินทุกอย่างเข้าไป.
ภายในเขตแดนภูตโคลนแห่งนี้ ภูเขาที่มีทั้งหมดพังทลาย เหล่าภูตที่อ่อนแอมากมายนับไม่ถ้วนตกตายไปทั้งหมด.
ทรงพลังมาก การปะทะกันของฝ่ามือที่มีอำนาจเหนือขีดจำกัด ได้ทำลายล้างชีวิตนับล้านให้ตกตายไปในทันที.
หนานกงเซิ่งที่ปกป้องสวรรค์และปฐพี เข้าปะทะกับฝ่ามือที่ล่วงหล่นมา ท้ายที่สุดก็สามารถกระแทกมันกลับออกไปได้.
"พรึด ๆ "
ร่างของหนานกงเซิ่งที่สั่นไหวไปมาคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน พ่นโลหิตออกมาคำโต.
ส่วนบนท้องฟ้าเวลานี้ หลังจากที่ฝ่ามือสีเขียวถูกกระแทกกลับไป รอยแยกของท้องฟ้าเวลานี้ก็ค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับเป็นเช่นดังเดิม.
ทรงพลังมาก! สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยแววตาที่ตื่นตะลึงอย่างหนัก.
นี่คือพลังของโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ? ทุกคนที่เหลือรอดในเวลานี้ราวกับว่ากำลังฝัน จ้องมองเหล่าผู้ฝึกตนที่มีพลังฝึกตนระดับต่ำตกตายไปด้วยแรงกดดันวิญญาณ เป็นเรื่องที่จะจะรับได้ ว่านี้คือความจริง ตัวตนที่น่าเกรงขามนี้ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา พวกเขาในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากมดปลวก.
เซียนเหรินหนานกงเซิ่ง คาดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างงั้นรึ?
ที่มุมปากเองก็มีโลหิตที่ไหลซึมออกมา หนานกงเซิ่งจ้องมองไปยังทิศที่ฝ่ามือถอยออกไป ผ่านไปนานเช่นกัน.
ในเวลาเดียวกันนั้น ทุกคนก็พบเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจด้วยเช่นกัน กิเลนเพลิงหนีไปแล้วรึ?
ขณะที่หนานกงเซิ่งและคนจากโลกใบใหญ่ต่อสู้กัน คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะหนีไป? เหลือแค่เพียงพื้นที่รอบ ๆ เวลานี้ยังคงมีเปลวเพลิงที่ยังคงลุกไหม้อยู่.
กิเลนเพลิงหนีไปแล้วรึ?
ทันใดนั้นดวงตาของทุกคนที่ลุกวาว แต่หลังจากนั้นก็กลายเป็นมืดมนเช่นเดิม ทุกคนเองต่างก็ต้องการกิเลนมาเป็นสัตว์ขี่เช่นกัน อีกทั้งในปากของมันนั้นยังมีตำราโลหะอีก แต่แล้วมันอย่างไรเล่า? กิเลนเพลิงนั้นทรงพลังคุกคามชีวิตของพวกเขา ทำให้พวกเขาได้แต่มองอย่างอิจฉาเท่านั้น.
หนานกงเซิ่งรับรู้ว่ากิเลนเพลิงได้หนีไปแล้ว ทว่าดูเหมือนว่าเขาจะไม่เป็นกังวลแม้แต่น้อย ดวงตาที่จับจ้องมองออกไปบนท้องฟ้าด้วยความเย็นชา ก่อนที่จะเช็ดโลหิตบนมุมปาก ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปในทันที ไล่ตามกิเลนไป.
ไปแล้ว ยอดยุทธ์ไปแล้ว! ทุกคนในเวลานี้ส่วนมากไม่มีใครต้องการไล่ตามไป พวกเขาไม่ต้องการเอาชีวิตไปเสี่ยง.
พื้นที่รอบ ๆ บริเวณนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เหลือเค้าเดิมแม้แต่น้อย เรื่องนี้ประทับลงในใจของทุกคนเป็นอย่างมาก.
หนานกงเซิ่งได้ไล่ตามไปแล้ว มีเพียงผู้ฝึกตนไม่กี่คนเท่านั้นที่ไล่ตามไป คนเหล่านั้นแน่นอนว่าต้องมีระดับราชันย์แท้ขึ้นไป ส่วนคนอื่นใครกันที่จะกล้าไปเสียงโชค แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าแน่.
"น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!"ใบหน้าของเซียนเซียนที่แสดงท่าทางหวาดหวั่นออกมา
เซียนเซิงซือที่ทอดถอนหายใจเช่นกัน.
คาดไม่ถึงเลยว่าในโลกใบเล็ก จะได้เห็นสัตว์อสูรเทพบรรพชนหลายครั้งเช่นนี้ ในโลกใบใหญ่กิเลนนั้นมีระดับ 96 และก่อนหน้านี้ยังมีตัวที่จงซานมอบให้กับเนี่ยนโหยวโหยวอีก.
"ในเมื่อมีหนานกงเซิ่งที่ไล่ตามกิเลนเพลิงไปแล้ว พวกเราไม่สามารถที่จะคาดหวังอะไรได้อีกแล้ว! เช่นนั้นขอลาก็แล้วกัน!"จงซานที่กล่าวต่อเหยี่ยนฉงจื่อนั่นเอง.
พวกเขาเดินทางมาพบกันโดยบังเอิญ ไม่รู้ว่าการมาในครั้งนี้จะได้พบกับภัยพิบัติ ดังนั้นการพบกับเขาก็ถือว่ามีโชคเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ไช่สหายที่แท้จริงของกันและกันก็ตาม.
"อืม!"เหยี่ยนฉงจื่อพยักหน้ารับ.
ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น อาวุโสจิวที่ราวกับว่ากำลังบ้าคลั่งตัวสั่นขึ้นมาทันที สีหน้าหวาดผวาสั่นไม่หยุด ตื่นตกใจ แสดงความหวาดกลัวออกมาให้เห็น.
"แย่แล้ว มันแย่แล้ว............."อาวุโสจิวที่ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง.
อาวุโสจิวโถวที่ราวกับบ้าคลั่งขึ้นมาทันที ทำให้คนอื่นต่างจ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน.
"อะไร?อาวุโส?"เหยี่ยนฉงจื่อที่สอบถามออกมาทันที.
"วิกฤติ เกิดเหตุวิกฤติแล้ว!"อาวุโสจิวที่หลับตา คิดใคร่ครวญไปมา.
"?หืม ท่าทางจะบ้า."เซียนเซียนที่เอ่ยต่ออาวุโสจิว
"มีอันตราย มีอันตรายไปหมด อันตรายยิ่งกว่ากิเลนเพลิงสะอีก ไม่ได้การ ไม่ได้การ พวกเราบินขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนเลย!"อาวุโสจิวที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางตื่นตระหนกตกใจ.
ทุกคนที่ไม่เข้าใจ ทว่าก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าตามอาวุโสจิว.
พื้นที่รอบ ๆ มีผู้ฝึกตนคนแล้วคนเล่าที่ค่อย ๆ ทะยานขึ้นจากพื้น พวกเขาเตรียมที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้แล้วนั่นเอง.
"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เหยี่ยนฉงจื่อกล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ไม่มีที่ใหนให้หนี คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีที่ใหนให้หนีอย่างงั้นรึ?"อาวุโสจิวที่เอ่ยออกมาตกใจราวกับคนบ้า.
ทุกคนที่จ้องมองอาวุโสจิวด้วยท่าทางแปลก ๆ .
ส่วนจงซานและเหยี่ยนฉงจื่อจ้องมองอาวุโสจิวโถว เพราะว่าทั้งสองเชื่ออาวุโสจิวนั่นเอง.
"ที่ด้านล่าง!"อาวุโสจิวที่ชี้ไปยังบึงเลนด้านล่าง.
"ที่ด้านล่างนั่นยังมีตัวตนที่น่าหวาดกลัวอยู่อีก!"อาวุโสจิวที่เอ่ยออกมาเสียงแหบแห้งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"ครืนนนนนนน"
ทันใดนั้นเสียงร้องดังสนั่นก็เกิดขึ้นในทันที.
"วูซซซ!"คนผู้หนึ่งที่กระแทกเข้ากับกำแพงที่ลอยอยู่บนฟ้า ก่อนที่จะล่วงหล่นลงมาด้านล่าง.
"ค่ายกลของหนานกงเซิ่งอย่างงั้นรึ?"เซียนเซียนที่อุทานออกมา.
ค่ายกลของหนานกงเซิ่งเขาไม่มีเวลาปลดออก ดังนั้นบนอากาศนั่นจึงยังมีม่านพลังป้องกัน ขวางทางคนจำนวนมากเอาไว้.
ในเมื่อสูงขึ้นไปบนฟ้าไม่สามารถบินออกไปได้ ทุกคนจึงบินต่ำ ๆ กระจายออกไปทุกทิศทุกทาง.
จงซานและเซียนเซียนและเซียนเซิงซือที่บินไปยังทิศทางหนึ่ง ส่วนเหยี่ยนฉงจื่อและอาวุโสจิวที่บินไปอีกทิศทางหนึ่ง ต้องการจากพื้นที่แห่งนี้ออกไปเร็วที่สุด.
ขณะบินไป อาวุโสจิวที่หยุดลงในทันที.
"อาวุโสมีอะไรอย่างงั้นรึ?"เหยี่ยนฉงจื่อที่ตื่นตกใจเล็กน้อย.
อาวุโสจิวที่จ้องมองไปยังทิศทางอีกทิศหนึ่ง จ้องมองไปยังทิศทางที่จงซานกำลังจากไป.
"มีโอกาสรอดเล็ก ๆ มีโอกาสรอดอย่างงั้นรึ?"อาวุโสจิวที่เผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจขึ้นมา จากนั้นก็เผยสีหน้าสงสัย.
"โอกาสที่จะรอดชีวิตอย่างงั้นรึ?"เหยี่ยนฉงจื่อที่กล่าวถามออกมาทันที.
"คนที่จะช่วยได้ คาดไม่ถึงจะเป็นจงซาน ตามจงซานไปเร็วเข้า!"อาวุโสจิวที่เอ่ยออกมาในทันที.
จากนั้นแม้ว่าเหยี่ยนฉงจื่อจะสงสัยทว่าก็พุ่งตรงไปยังทิศทางที่จงซานกำลังจากไปอย่างรวดเร็ว.
"จงซาน มีอันตรายจริง ๆ รึ?"เซียนเซียนที่เผยท่าทางสงสัย.
"ในเมื่ออาวุโสจิวกล่าวเช่นนั้น จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่ท่าทางของเขาไม่แสดงท่าทางหลอกลวง! รีบไปเร็วเข้า!"จงซานที่กล่าวพลางครุ่นคิด.
ขณะที่คนทั้งสามกำลังบินออกไปนั้น ก็ได้ยินเสียงต่อสู้เกิดขึ้น. คนอื่น ๆ ที่พบกับเรื่องที่แปลกประหลาด เหล่าผู้ฝึกตนก่อนหน้านี้ก็กำลังวิ่งหนีออกมาเช่นกัน เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมากคาดไม่ถึงเลยว่ากำลังสู้กันอยู่
ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะสวมชุดสีเดียวกัน ทว่าพวกเขากับกำลังสู้กันอยู่.
"ศิษย์พี่ ท่านตื่นได้แล้ว ท่านเป็นอะไร?"ชายคนหนึ่งที่ร้องออกมาเสียงหลง.
"ศิษย์ชั่ว เจ้าต้องการหลอกอาจารย์และสังหารบรรพชนอย่างงั้นรึ?"ที่ไกลออกไปนั้นเสียงของคนกลุ่มหนึ่งที่ดังผ่านออกมา.
"อาจารย์อา ท่านสังหารข้าไม่ได้ ท่านจะสังหารข้าไม่ได้!"
สงครามขนาดย่อม ๆ ที่เกิดขึ้น คนหลายคนที่กำลังหนีตาย การต่อสู้ที่พัวพันเป็นอะไรที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ไกลออกไปนั้นมีโครงกระดูกที่ถือดาบใหญ่ขวางทางจงซานเอาไว้.
"ตูมมมมมมมม"
โครงกระดูกที่ลอยออกไปด้วยฝีมือของเจียงซือเซียนเซิงซือในทันที.
พื้นที่รอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน เสียงโหยหวน เสียงของผู้คนที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย งงงวย ไม่เข้าใจว่าทำไมคนจากตระกูลเดียวกันถึงได้เข้าโจมตีกันอย่างดุร้าย เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
ภายใต้เหตุการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ดูน่ากลัวที่สุดเลยก็ว่าได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้กิเลนเพลิงจะแข็งแกร่ง ทว่าก็ยังสามารถมองเห็นตัวตนของมัน ทว่าตอนนี้คู่ต่อสู้ไม่รู้ว่าเป็นใคร มีใครที่กำลังควบคุมผู้คนอยู่ พร้อมกับไล่ล่าสังหารคนอื่น ๆ รอบ ๆ มันเป็นใคร? สิ่งนั้นคืออะไร?
เสียงบ้าคลั่ง เสียงโหยหวน! ทำไมถึงเป็นเช่นนี้.
จงซานที่กล่าวให้เซียนเซิงซือและเซียนเซียนเฝ้าระมัดระวังในทันที ใต้บึงเลนนั้น มีเงาอะไรบางอย่างอยู่ด้านล่าง ทันใดนั้นมันได้พุ่งตรงมายังเซียนเซียน จงซานที่ดึงนางหลบทันที ทำให้ร่างเงานั้นไม่สามารถทำร้ายเซียนเซียน ก่อนที่มันจะจมลงไปใต้บึงเลนอีกครั้ง.
"สิ่งนี้คืออะไรกัน?"เซียนเซียนที่ขมวดคิ้วไปมา.
เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังรอบ ๆ ภายในใจที่หดเกร็ง เต็มไปด้วยความระมัดระวัง ทว่าไม่สามารถตระหนักได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น.
ในเวลาเดียวกันนั้น อาวุโสจิวและเหยี่ยนฉงจื่อที่บินตรงเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง.
"อาวุโสจิวโถว พวกเจ้ากลับมาทำไม?"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาทันที.
"สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีนัก พวกเราไปด้วยกันเถอะ อย่างน้อยมีหลายคน จะได้ช่วยกันระวัง!"อาวุโสจิวที่กล่าวออกมาเสียงแหบ จ้องมองไปยังจงซาน.
จงซานพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธ ต้องไม่ลืมว่ากิเลนเพลิงที่ปรากฏก่อนหน้านี้ เป็นอาวุโสจิวเทียนรับรู้ก่อนใคร.
ในเวลานี้ ที่ด้านล่างนั้น บึงเลนที่มีอะไรบางอย่างสั่นไหว บางแห่งที่เกิดขึ้นม้วนขึ้นมาหลายพันเมตร บางแห่งที่จมลึกลงไป.
ดูเหมือนว่าที่ด้านล่างนั้นมีอสุรกายบางอย่างอยู่.
ในเวลาเดียวกันพื้นที่รอบ ๆ นั้นมีมีดินโคลนที่พุ่งกระฉอกขึ้นมาจากด้านล่างพุ่งใส่เหล่าผู้ฝึกตน.
"ระวังด้วย! หลีกเลี่ยงพวกมัน!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความตกใจ.
ทุกคนที่ต้องการจะป้องกัน ทว่าเมื่อได้ยินเซียนเซิงซือกล่าวก็หลบไปในทันที เซียนนเซิงซือในเวลานี้ได้เก็บเจียงซือของเขาเองไปด้วยเช่นกัน.
"ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะน่าสังเวชนัก!"เซียนเซิงซือที่รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาทันที.
"เจ้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกไป.
เห็นความผิดปรกติของดินเลน บึงโคลนรอบ ๆ นี้ เซียนเซิงซือก็กล่าวออกมาว่า."ฝ่าบาท ยังจำได้ใหม่ก่อนหน้านี้เหล่าศพที่พวกเราเห็นที่เขตแดนทางเข้าดินแดนภูตโคลน.
"ที่หัวของศพเหล่านั้น ถูกดึงสมองออกมา."เซียนเซียนที่กล่าวออกมาในทันที.
"ใช่ ข้าคิดไว้ตอนแรกอาจเป็นผู้ฝึกตนบางคน ที่ใช้วิชาลับ ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะผิดไป นี่คือเทพอสูร เป็นอสูรจากโลกใบใหญ่ มันคงล่วงหล่นมาพร้อมกับเหตุการณ์ดวงตะวันสีทอง ที่ด้านล่างนี้มีเทพอสูรสองตัว หนึ่งคือกิเลนเพลิง อีกหนึ่งก็คืออสูรซือเนา (อสูรกินสมอง)"เซียนเซิงแสดงสีหน้าเป็นกังวล.
"เทพอสูร? อสูรซือเนา?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ในโลกใบใหญ่นั้นอสูรซือเนานั้นมีระดับที่ 94 !"เซียนเซือกล่าวด้วยความหวาดหวั่น.
"เทพอสูรลำดับที่ 94 รึ? ไม่ใช่ว่ามันร้ายกาจกว่ากิเลนเพลิงหรอกรึ?"เซียนเซียนที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
"รีบไปกันเถอะ!"จงซานไร้ซึ่งความลังเล เร่งรีบสั่งการให้ถอยหนีทันที.