ตอนที่แล้วChapter 549 ปิดท้องฟ้าด้วยฝ่ามือเดียว.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 551 ไม่มีที่ให้หนี.

Chapter 550 ความแข็งแกร่งของสัตว์อสูรเทพบรรพชน.


หนานกงเซิ่งที่ใช้ค่ายกลสนับสนุน ดึงพลังจากทั่วทุกสารทิศ พลังงานสวรรค์และปฐพี พร้อมกับเปลี่ยนมันเป็นฝ่ามือขนาดใหญ่เข้ารับการโจมตีฝ่ามือจากบนท้องฟ้า.

บางทีสวรรค์และปฐพีเองก็คงเกลียดคนที่มาจากนอกโลกเช่นกัน ฝ่ามือของหนานกงเซิ่งในเวลานี้ จึงปรากฏสายฟ้ามากมายหมุนวนอยู่รอบ ๆ ช่วยเพิ่มพลังให้กับฝ่ามือของหนานกงเซิ่งเข้าต้านทานฝ่ามือสีเขียวที่แหวกม่านพลังเข้ามาอย่างดุร้าย.

พลังที่น่าเกรงขาม พลังที่เหนือล้ำ สองสายที่เข้าปะทะกัน ฝ่ามือขนาดใหญ่โตสองฝ่ามือ กระแทกกันจนเกิดหลุมดำขนาดใหญ่ที่ดูดทุกอย่างเข้าไป.

การปะทะของพลังที่น่าเกรงขามทั้งสอง ทำให้บรรยากาศรอบ ๆ บิดเบี้ยวไปหมด เป็นพลังปะทะที่รุนแรงมาก.

"ตูมมมมมมมมมมมมมมมมม"

“.........”

เกิดระเบิดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นทุกคนราวกับว่าหูดับไปในทันที ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกต่อไป เสียงที่รุนแรง เสียงที่ทรงพลังอย่างที่สุด เสียงระเบิดที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งสวรรค์และปฐพี ไม่มีใครในภพหยินที่จะไม่ได้ยินเสียงระเบิดดังกล่าวนี้.

เขตแดนภูตโคลน อากาศที่บิดตัวบิดเบี้ยว หลุมดำที่ดูดเศษดินเศษหินทุกอย่างเข้าไป.

ภายในเขตแดนภูตโคลนแห่งนี้ ภูเขาที่มีทั้งหมดพังทลาย เหล่าภูตที่อ่อนแอมากมายนับไม่ถ้วนตกตายไปทั้งหมด.

ทรงพลังมาก การปะทะกันของฝ่ามือที่มีอำนาจเหนือขีดจำกัด ได้ทำลายล้างชีวิตนับล้านให้ตกตายไปในทันที.

หนานกงเซิ่งที่ปกป้องสวรรค์และปฐพี เข้าปะทะกับฝ่ามือที่ล่วงหล่นมา ท้ายที่สุดก็สามารถกระแทกมันกลับออกไปได้.

"พรึด ๆ "

ร่างของหนานกงเซิ่งที่สั่นไหวไปมาคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเช่นกัน พ่นโลหิตออกมาคำโต.

ส่วนบนท้องฟ้าเวลานี้ หลังจากที่ฝ่ามือสีเขียวถูกกระแทกกลับไป รอยแยกของท้องฟ้าเวลานี้ก็ค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับเป็นเช่นดังเดิม.

ทรงพลังมาก! สายตาของทุกคนเต็มไปด้วยแววตาที่ตื่นตะลึงอย่างหนัก.

นี่คือพลังของโลกใบใหญ่อย่างงั้นรึ? ทุกคนที่เหลือรอดในเวลานี้ราวกับว่ากำลังฝัน จ้องมองเหล่าผู้ฝึกตนที่มีพลังฝึกตนระดับต่ำตกตายไปด้วยแรงกดดันวิญญาณ เป็นเรื่องที่จะจะรับได้ ว่านี้คือความจริง ตัวตนที่น่าเกรงขามนี้ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา พวกเขาในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากมดปลวก.

เซียนเหรินหนานกงเซิ่ง คาดไม่ถึงว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างงั้นรึ?

ที่มุมปากเองก็มีโลหิตที่ไหลซึมออกมา หนานกงเซิ่งจ้องมองไปยังทิศที่ฝ่ามือถอยออกไป ผ่านไปนานเช่นกัน.

ในเวลาเดียวกันนั้น ทุกคนก็พบเรื่องที่น่าอัศจรรย์ใจด้วยเช่นกัน กิเลนเพลิงหนีไปแล้วรึ?

ขณะที่หนานกงเซิ่งและคนจากโลกใบใหญ่ต่อสู้กัน คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะหนีไป? เหลือแค่เพียงพื้นที่รอบ ๆ เวลานี้ยังคงมีเปลวเพลิงที่ยังคงลุกไหม้อยู่.

กิเลนเพลิงหนีไปแล้วรึ?

ทันใดนั้นดวงตาของทุกคนที่ลุกวาว แต่หลังจากนั้นก็กลายเป็นมืดมนเช่นเดิม ทุกคนเองต่างก็ต้องการกิเลนมาเป็นสัตว์ขี่เช่นกัน อีกทั้งในปากของมันนั้นยังมีตำราโลหะอีก แต่แล้วมันอย่างไรเล่า? กิเลนเพลิงนั้นทรงพลังคุกคามชีวิตของพวกเขา ทำให้พวกเขาได้แต่มองอย่างอิจฉาเท่านั้น.

หนานกงเซิ่งรับรู้ว่ากิเลนเพลิงได้หนีไปแล้ว ทว่าดูเหมือนว่าเขาจะไม่เป็นกังวลแม้แต่น้อย ดวงตาที่จับจ้องมองออกไปบนท้องฟ้าด้วยความเย็นชา ก่อนที่จะเช็ดโลหิตบนมุมปาก ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปในทันที ไล่ตามกิเลนไป.

ไปแล้ว ยอดยุทธ์ไปแล้ว! ทุกคนในเวลานี้ส่วนมากไม่มีใครต้องการไล่ตามไป พวกเขาไม่ต้องการเอาชีวิตไปเสี่ยง.

พื้นที่รอบ ๆ บริเวณนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เหลือเค้าเดิมแม้แต่น้อย เรื่องนี้ประทับลงในใจของทุกคนเป็นอย่างมาก.

หนานกงเซิ่งได้ไล่ตามไปแล้ว มีเพียงผู้ฝึกตนไม่กี่คนเท่านั้นที่ไล่ตามไป คนเหล่านั้นแน่นอนว่าต้องมีระดับราชันย์แท้ขึ้นไป ส่วนคนอื่นใครกันที่จะกล้าไปเสียงโชค แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าแน่.

"น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!"ใบหน้าของเซียนเซียนที่แสดงท่าทางหวาดหวั่นออกมา

เซียนเซิงซือที่ทอดถอนหายใจเช่นกัน.

คาดไม่ถึงเลยว่าในโลกใบเล็ก จะได้เห็นสัตว์อสูรเทพบรรพชนหลายครั้งเช่นนี้ ในโลกใบใหญ่กิเลนนั้นมีระดับ 96  และก่อนหน้านี้ยังมีตัวที่จงซานมอบให้กับเนี่ยนโหยวโหยวอีก.

"ในเมื่อมีหนานกงเซิ่งที่ไล่ตามกิเลนเพลิงไปแล้ว พวกเราไม่สามารถที่จะคาดหวังอะไรได้อีกแล้ว! เช่นนั้นขอลาก็แล้วกัน!"จงซานที่กล่าวต่อเหยี่ยนฉงจื่อนั่นเอง.

พวกเขาเดินทางมาพบกันโดยบังเอิญ ไม่รู้ว่าการมาในครั้งนี้จะได้พบกับภัยพิบัติ ดังนั้นการพบกับเขาก็ถือว่ามีโชคเช่นกัน แม้ว่าจะไม่ไช่สหายที่แท้จริงของกันและกันก็ตาม.

"อืม!"เหยี่ยนฉงจื่อพยักหน้ารับ.

ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น อาวุโสจิวที่ราวกับว่ากำลังบ้าคลั่งตัวสั่นขึ้นมาทันที สีหน้าหวาดผวาสั่นไม่หยุด ตื่นตกใจ แสดงความหวาดกลัวออกมาให้เห็น.

"แย่แล้ว มันแย่แล้ว............."อาวุโสจิวที่ร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง.

อาวุโสจิวโถวที่ราวกับบ้าคลั่งขึ้นมาทันที ทำให้คนอื่นต่างจ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน.

"อะไร?อาวุโส?"เหยี่ยนฉงจื่อที่สอบถามออกมาทันที.

"วิกฤติ เกิดเหตุวิกฤติแล้ว!"อาวุโสจิวที่หลับตา คิดใคร่ครวญไปมา.

"?หืม ท่าทางจะบ้า."เซียนเซียนที่เอ่ยต่ออาวุโสจิว

"มีอันตราย มีอันตรายไปหมด อันตรายยิ่งกว่ากิเลนเพลิงสะอีก ไม่ได้การ ไม่ได้การ พวกเราบินขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนเลย!"อาวุโสจิวที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางตื่นตระหนกตกใจ.

ทุกคนที่ไม่เข้าใจ ทว่าก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าตามอาวุโสจิว.

พื้นที่รอบ ๆ  มีผู้ฝึกตนคนแล้วคนเล่าที่ค่อย ๆ ทะยานขึ้นจากพื้น พวกเขาเตรียมที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้แล้วนั่นเอง.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เหยี่ยนฉงจื่อกล่าวออกมาด้วยความกังวล.

"ไม่มีที่ใหนให้หนี คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่มีที่ใหนให้หนีอย่างงั้นรึ?"อาวุโสจิวที่เอ่ยออกมาตกใจราวกับคนบ้า.

ทุกคนที่จ้องมองอาวุโสจิวด้วยท่าทางแปลก ๆ .

ส่วนจงซานและเหยี่ยนฉงจื่อจ้องมองอาวุโสจิวโถว เพราะว่าทั้งสองเชื่ออาวุโสจิวนั่นเอง.

"ที่ด้านล่าง!"อาวุโสจิวที่ชี้ไปยังบึงเลนด้านล่าง.

"ที่ด้านล่างนั่นยังมีตัวตนที่น่าหวาดกลัวอยู่อีก!"อาวุโสจิวที่เอ่ยออกมาเสียงแหบแห้งเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

"ครืนนนนนนน"

ทันใดนั้นเสียงร้องดังสนั่นก็เกิดขึ้นในทันที.

"วูซซซ!"คนผู้หนึ่งที่กระแทกเข้ากับกำแพงที่ลอยอยู่บนฟ้า ก่อนที่จะล่วงหล่นลงมาด้านล่าง.

"ค่ายกลของหนานกงเซิ่งอย่างงั้นรึ?"เซียนเซียนที่อุทานออกมา.

ค่ายกลของหนานกงเซิ่งเขาไม่มีเวลาปลดออก ดังนั้นบนอากาศนั่นจึงยังมีม่านพลังป้องกัน ขวางทางคนจำนวนมากเอาไว้.

ในเมื่อสูงขึ้นไปบนฟ้าไม่สามารถบินออกไปได้ ทุกคนจึงบินต่ำ ๆ กระจายออกไปทุกทิศทุกทาง.

จงซานและเซียนเซียนและเซียนเซิงซือที่บินไปยังทิศทางหนึ่ง ส่วนเหยี่ยนฉงจื่อและอาวุโสจิวที่บินไปอีกทิศทางหนึ่ง ต้องการจากพื้นที่แห่งนี้ออกไปเร็วที่สุด.

ขณะบินไป อาวุโสจิวที่หยุดลงในทันที.

"อาวุโสมีอะไรอย่างงั้นรึ?"เหยี่ยนฉงจื่อที่ตื่นตกใจเล็กน้อย.

อาวุโสจิวที่จ้องมองไปยังทิศทางอีกทิศหนึ่ง จ้องมองไปยังทิศทางที่จงซานกำลังจากไป.

"มีโอกาสรอดเล็ก ๆ  มีโอกาสรอดอย่างงั้นรึ?"อาวุโสจิวที่เผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจขึ้นมา จากนั้นก็เผยสีหน้าสงสัย.

"โอกาสที่จะรอดชีวิตอย่างงั้นรึ?"เหยี่ยนฉงจื่อที่กล่าวถามออกมาทันที.

"คนที่จะช่วยได้ คาดไม่ถึงจะเป็นจงซาน ตามจงซานไปเร็วเข้า!"อาวุโสจิวที่เอ่ยออกมาในทันที.

จากนั้นแม้ว่าเหยี่ยนฉงจื่อจะสงสัยทว่าก็พุ่งตรงไปยังทิศทางที่จงซานกำลังจากไปอย่างรวดเร็ว.

"จงซาน มีอันตรายจริง ๆ รึ?"เซียนเซียนที่เผยท่าทางสงสัย.

"ในเมื่ออาวุโสจิวกล่าวเช่นนั้น จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่ท่าทางของเขาไม่แสดงท่าทางหลอกลวง! รีบไปเร็วเข้า!"จงซานที่กล่าวพลางครุ่นคิด.

ขณะที่คนทั้งสามกำลังบินออกไปนั้น ก็ได้ยินเสียงต่อสู้เกิดขึ้น. คนอื่น ๆ ที่พบกับเรื่องที่แปลกประหลาด เหล่าผู้ฝึกตนก่อนหน้านี้ก็กำลังวิ่งหนีออกมาเช่นกัน เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมากคาดไม่ถึงเลยว่ากำลังสู้กันอยู่

ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะสวมชุดสีเดียวกัน ทว่าพวกเขากับกำลังสู้กันอยู่.

"ศิษย์พี่ ท่านตื่นได้แล้ว ท่านเป็นอะไร?"ชายคนหนึ่งที่ร้องออกมาเสียงหลง.

"ศิษย์ชั่ว เจ้าต้องการหลอกอาจารย์และสังหารบรรพชนอย่างงั้นรึ?"ที่ไกลออกไปนั้นเสียงของคนกลุ่มหนึ่งที่ดังผ่านออกมา.

"อาจารย์อา ท่านสังหารข้าไม่ได้ ท่านจะสังหารข้าไม่ได้!"

สงครามขนาดย่อม ๆ ที่เกิดขึ้น คนหลายคนที่กำลังหนีตาย การต่อสู้ที่พัวพันเป็นอะไรที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.

ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ไกลออกไปนั้นมีโครงกระดูกที่ถือดาบใหญ่ขวางทางจงซานเอาไว้.

"ตูมมมมมมมม"

โครงกระดูกที่ลอยออกไปด้วยฝีมือของเจียงซือเซียนเซิงซือในทันที.

พื้นที่รอบ ๆ นั้นเต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน เสียงโหยหวน เสียงของผู้คนที่เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย งงงวย ไม่เข้าใจว่าทำไมคนจากตระกูลเดียวกันถึงได้เข้าโจมตีกันอย่างดุร้าย เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.

ภายใต้เหตุการณ์ที่แปลกประหลาดนี้ดูน่ากลัวที่สุดเลยก็ว่าได้ แม้ว่าก่อนหน้านี้กิเลนเพลิงจะแข็งแกร่ง ทว่าก็ยังสามารถมองเห็นตัวตนของมัน ทว่าตอนนี้คู่ต่อสู้ไม่รู้ว่าเป็นใคร มีใครที่กำลังควบคุมผู้คนอยู่ พร้อมกับไล่ล่าสังหารคนอื่น ๆ รอบ ๆ  มันเป็นใคร? สิ่งนั้นคืออะไร?

เสียงบ้าคลั่ง เสียงโหยหวน! ทำไมถึงเป็นเช่นนี้.

จงซานที่กล่าวให้เซียนเซิงซือและเซียนเซียนเฝ้าระมัดระวังในทันที ใต้บึงเลนนั้น มีเงาอะไรบางอย่างอยู่ด้านล่าง ทันใดนั้นมันได้พุ่งตรงมายังเซียนเซียน จงซานที่ดึงนางหลบทันที ทำให้ร่างเงานั้นไม่สามารถทำร้ายเซียนเซียน ก่อนที่มันจะจมลงไปใต้บึงเลนอีกครั้ง.

"สิ่งนี้คืออะไรกัน?"เซียนเซียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังรอบ ๆ  ภายในใจที่หดเกร็ง เต็มไปด้วยความระมัดระวัง ทว่าไม่สามารถตระหนักได้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น.

ในเวลาเดียวกันนั้น อาวุโสจิวและเหยี่ยนฉงจื่อที่บินตรงเข้ามาหาพวกเขาอีกครั้ง.

"อาวุโสจิวโถว พวกเจ้ากลับมาทำไม?"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาทันที.

"สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีนัก พวกเราไปด้วยกันเถอะ อย่างน้อยมีหลายคน จะได้ช่วยกันระวัง!"อาวุโสจิวที่กล่าวออกมาเสียงแหบ จ้องมองไปยังจงซาน.

จงซานพยักหน้า ไม่ได้ปฏิเสธ ต้องไม่ลืมว่ากิเลนเพลิงที่ปรากฏก่อนหน้านี้ เป็นอาวุโสจิวเทียนรับรู้ก่อนใคร.

ในเวลานี้ ที่ด้านล่างนั้น บึงเลนที่มีอะไรบางอย่างสั่นไหว บางแห่งที่เกิดขึ้นม้วนขึ้นมาหลายพันเมตร บางแห่งที่จมลึกลงไป.

ดูเหมือนว่าที่ด้านล่างนั้นมีอสุรกายบางอย่างอยู่.

ในเวลาเดียวกันพื้นที่รอบ ๆ นั้นมีมีดินโคลนที่พุ่งกระฉอกขึ้นมาจากด้านล่างพุ่งใส่เหล่าผู้ฝึกตน.

"ระวังด้วย! หลีกเลี่ยงพวกมัน!"เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยความตกใจ.

ทุกคนที่ต้องการจะป้องกัน ทว่าเมื่อได้ยินเซียนเซิงซือกล่าวก็หลบไปในทันที เซียนนเซิงซือในเวลานี้ได้เก็บเจียงซือของเขาเองไปด้วยเช่นกัน.

"ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะน่าสังเวชนัก!"เซียนเซิงซือที่รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาทันที.

"เจ้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกไป.

เห็นความผิดปรกติของดินเลน บึงโคลนรอบ ๆ นี้ เซียนเซิงซือก็กล่าวออกมาว่า."ฝ่าบาท ยังจำได้ใหม่ก่อนหน้านี้เหล่าศพที่พวกเราเห็นที่เขตแดนทางเข้าดินแดนภูตโคลน.

"ที่หัวของศพเหล่านั้น ถูกดึงสมองออกมา."เซียนเซียนที่กล่าวออกมาในทันที.

"ใช่ ข้าคิดไว้ตอนแรกอาจเป็นผู้ฝึกตนบางคน ที่ใช้วิชาลับ ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะผิดไป นี่คือเทพอสูร เป็นอสูรจากโลกใบใหญ่ มันคงล่วงหล่นมาพร้อมกับเหตุการณ์ดวงตะวันสีทอง ที่ด้านล่างนี้มีเทพอสูรสองตัว หนึ่งคือกิเลนเพลิง อีกหนึ่งก็คืออสูรซือเนา (อสูรกินสมอง)"เซียนเซิงแสดงสีหน้าเป็นกังวล.

"เทพอสูร? อสูรซือเนา?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ในโลกใบใหญ่นั้นอสูรซือเนานั้นมีระดับที่ 94 !"เซียนเซือกล่าวด้วยความหวาดหวั่น.

"เทพอสูรลำดับที่ 94 รึ? ไม่ใช่ว่ามันร้ายกาจกว่ากิเลนเพลิงหรอกรึ?"เซียนเซียนที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.

"อืม!"เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.

"รีบไปกันเถอะ!"จงซานไร้ซึ่งความลังเล เร่งรีบสั่งการให้ถอยหนีทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด