Chapter 547 เขตแดนภูตโคลน.
"จงซาน พวกเราจะเดินทางต่อไป อย่าไปฟังชายชราเสียสติคนนี้เลยเขาอาจจะหลอกล่อพวกเราเพื่อสุราเท่านั้น!"เซียนเซียนที่เบ้ปากให้.
อาวุโสจิวที่ดื่มสุรา แทบสะอึก กับคำพูดที่บาดใจเขาเช่นนี้.
"ข้าเชื่อเขา!"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
อาวุโสจิวที่บอกว่าที่ด้านหน้ามีอันตราย โดยที่เขาไม่มีเหตุผลอะไรรองรับ ราวกับว่าเป็นแค่คำโกหก อย่างไรก็ตามร่างหลักจงซานนั้นมีความสามารถเช่นนี้เช่นกัน ดังนั้นจงซานเลือกที่จะเชื่อ.
ได้ยินคำพูดของจงซาน เหยี่ยนฉงจื่อที่อยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย เผยสีหน้าประหลาดใจ.
อาวุโสจิวที่ถือไหสุราแน่น กับคำพูดของเขาที่เอ่ยออกมาก่อนหน้านั้น ไร้ซึ่งเหตุผลรองรับ จงซานกลับเชื่อเขาอย่างงั้นรึ?
เซียนเซียนที่แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยว เซียนเซิงซือที่สุขุม จ้องมองไปยังอาวุโสจิว ราวกับว่าพบอะไรบางอย่าง.
"เจ้าเชื่อข้าอย่างงั้นรึ?"อาวุโสจิวที่จ้องมองมายังจงซานด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"แน่นอน!"จงซานกล่าวรับรอง.
เห็นจงซานพยักหน้ารับ อาวุโสจิวรู้สึกประหลาดใจ จ้องมองจงซานอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า "งั้นขอสุราอีกไหตอบแทนข้า!"
ทุกคน"............."
"ข้าบอกแล้วว่าเขาหลอกลวงเพื่อเอาสุรา!"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาในทันที.
หลังจากที่อาวุโสจิวขอสุราไหที่สอง กับคำพูดของเซียนเซียน ทำให้เขาขายหน้าไม่น้อย ทว่าใครบอกให้เขานั้นรักในสุราอย่างงั้นรึ?
ภพหยิน ราชวงศ์จักรพรรดิต้าซุน ภายในท้องพระโรง.
"เรียนฝ่าบาท เป็นไปตามที่ฝ่าบาทคาดการณ์ ที่เขตแดนภูตโคลน หลังจากที่มีตะวันสีทองล่วงหล่นลงมา จักรพรรดิต้าเจิ้งได้เดินทางไปยังดินแดนดวงตะวันสีทอง!"เสนาธิการคนหนึ่งที่เอ่ยออกมาด้วยความเคารพ.
"เรียนฝ่าบาท จักรพรรดิต้าหยิง เหยี่ยนฉงจื่อเองก็เดินทางออกจากเมืองหลวง คาดว่าเดินทางไปยังเขตแดนภูตโคลน!"เสนาธิการอีกคนกล่าวรายงาน.
"ดี ดีมาก ยอดเยี่ยม! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"จักรพรรดิกัวเฟิงที่หัวเราะเสียงดัง.
"นี่คือโอกาสทองแล้ว ฝ่าบาท สองราชวงศ์จักรพรรดิไม่อยู่ ขวัญกำลังใจย่อมขาดหาย ข้าคิดว่านี้เป็นโอกาสดีแล้วที่จะยึดครองราชวงศ์ทั้งสอง สวรรค์เป็นใจมอบโอกาสให้กับฝ่าบาทแล้ว!"เสนาธิการอีกคนที่ก้าวยกยอออกมาทันที.
"ดี สวรรค์ได้มอบโอกาสให้กับข้า!"กัวเฟิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ฝ่าบาท ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งนั้นทรงพลังและมีขนาดใหญ่ และยังมีหมาป่าโลหิตคอยช่วย ถึงแม้ว่าจะไม่มีจงซาน การจะรบกับพวกเขา จำเป็นต้องใช้ความพยายามไม่น้อย พวกเรายึดครองต้าหยิงก่อน จากนั้นค่อยวางแผนยึดต้าเจิ้งอีกที!"เสนาธิการอีกคนที่เอ่ยปากออกมา.
"ฝ่าบาท ควรจะโจมตีต้าเจิ้งก่อน จงซานไม่อยู่ นี่เป็นคือโอกาสที่สวรรค์ส่งมาก หากยึดต้าเจิ้งได้แล้ว ต้าหยิงก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นกังวล!"เสนาธิการอีกคนกล่าว.
ขณะที่จักรพรรดิต้าซุนวางแผนที่จะเคลื่อนทัพอยู่นั้น จงซาน เหยี่ยนฉงจื่อและอาวุโสเทียนได้เดินทางร่วมกันเรียบร้อยแล้ว.
ขณะที่บินอยู่นั้น อยู่ ๆ เหยี่ยนฉงจื่อที่เอ่ยออกมาในทันที "จงซาน เจ้ารู้จักกู่เฉิงตงหรือไม่?"
ได้ยินคำพูดของเหยี่ยนฉงจื่อเอ่ยถามจงซานที่ดวงตาหดเกร็ง เซียนเซียนและเซียนเซิงซือขมวดคิ้วไปมา.
"หืม? เจ้ารู้จักกู่เฉิงตงด้วยรึ?"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"สหายเหยี่ยนช่างมีสายตาที่แหลมคม!"จงซานที่กล่าวออกมาพลางทอดถอนใจ.
จงซานรับรู้ได้ในทันทีว่าเหยี่ยนฉงจื่อนั้นต้องการยืนยันว่าตัวเขานั้นเดินทางมาจากภพหยาง เหยี่ยนฉงจื่อผู้นี้นับว่าเป็นตัวตนที่ร้ายกาจ.
"ชื่นชมเกินไปแล้ว ใยจะเทียบได้กับสหายจงล่ะ?"เหยี่ยนฉงจื่อกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
เหยี่ยนฉงจื่อที่กล่าวถ่อมตัว หากจะให้กล่าวแล้วล่ะก็ หลายปีมานี้ จู่ ๆ ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ปรากฏขึ้นมา จงซาน แน่นอนว่าจะต้องไม่ใช่คนของที่นี่.
ทว่าคนอื่น ๆ ในเวลานี้ต่างก็เต็มไปด้วยท่าทางงงงวยตื่นตะลึงจ้องมองไปยังคนทั้งสองที่กล่าวออกมาราวกับทายปริศนา.
"จงซานนั้นครั้งหนึ่งเคยเป็น อี้เติงกงตงฟางราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว."จงซานที่กล่าวออกมาตามตรง.
"อืม ไม่สงสัยเลยว่าสหายจงถึงได้มีความสามารถมากมายเพียงนี้ ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว กู่เฉิงตง ไม่ใช่คนธรรมดาจริง ๆ !"เหยี่ยนฉงจื่อที่กล่าวออกมาพลางทอดถอนใจ.
"ว่าแต่สหายเหยี่ยนรู้จักกู่เฉิงตงได้อย่างไร?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"แยกสวรรค์ สะบั้นปฐพี เรื่องที่ใหญ่โตเช่นนี้ พวกเราจะไม่รู้ได้อย่างไร แม้แต่เรื่องที่กู่เฉิงตงใช้แผ่นดินแม่ผนึกภพหยิน! ไม่มีทางที่ภพหยินจะไม่เกิดความวุ่นวาย กับเรื่องใหญ่โตถึงเพียงนั้นคงไม่มีใครไม่รู้? แม้ว่าจะไม่สำเร็จ ทว่าก็ทำให้ฟ้าดินแยกออกมา ผู้คนมากมายจากภพหยางที่ได้เข้ามาในภพหยิน ข้าเองก็พอจะคาดเดาได้ว่าสหายจงเองอาจจะเดินทางมายังภพหยินเมื่อหลายสิบปีเมื่อครั้งแยกสวรรค์สะบั้นปฐพีก็เป็นได้."เหยี่ยนฉงจื่อ
หลายสิบปีที่แล้วมีคนมากมายเดินทางมายังภพหยินอย่างงั้นรึ? จงซานที่เดินทางมายังภพหยินนั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่แน่ ทว่าดูเหมือนท่าทางแปลก ๆ ของเหยี่ยนฉงจื่อนี้ ต้องการที่จะตรวจสอบจงซานสินะ.
จงซานที่จ้องมองไปยังเหยี่ยนฉงจื่อต้องการหยั่งเชิงเขา หากแต่เขาต้องตอบอย่างงั้นรึ? ให้เขาเข้าใจเช่นนี้ โดยไม่ตอบไม่ดีกว่ารึ? อย่างน้อยก็ไม่ต้องอธิบายอะไรออกมา.
"เฮ้เฮ้ สหายเหยี่ยนดูเหมือนว่าท่านจะรู้ทุกเรื่องอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวพลางหัวเราะออกมา
"อ่าฮ่า"เหยี่ยนฉงจื่อที่หัวเราะ และไม่เอ่ยถึงเรื่องก่อนหน้า ดูเหมือนว่าจงซานยากที่จะจัดการเช่นกัน น้ำไม่รั่วสักหยด.
"อาวุโสจิว ไม่ใช่ท่านบอกว่าด้านหน้ามีอันตรายหรอกรึ?"เซียนเซียนที่จ้องมองสอบถามอาวุโสจิว.
"เจ้าไม่เชื่อข้าอย่างงั้นรึ?"อาวุโสเทียนที่กล่าวอย่างไม่สนใจนัก.
"ข้าไม่เชื่อท่าน ทว่าข้าเชื่อจงซาน เขาบอกว่ามีอันตราย ข้าย่อมเชื่อเขา!"เซียนเซียนที่กล่าวออกมาเสียงดังด้วยความมั่นใจ.
อาวุโสจิว"......"
"ในเวลานี้ไม่มีแล้ว หากแต่สองวันที่แล้วมี ข้าเพียงแค่บอกว่าพวกเราไม่ควรเร่งรีบเข้ามาในเขตแดนภูตโคลน!"อาวุโสจิวกล่าว.
จากนั้นทุกคนก็บินตรงไปยังดินแดนที่เรียกว่าภูตโคลน.
ไม่นานหลังจากนั้น ทุกคนก็เห็นศพมากมายกระจายอยู่รอบ ๆ สภาพของศพนั้นดูน่าสยดสยองเป็นอย่างมา ศีรษะที่เปิดออกเห็นกระดูก สมองถูกดูดออกมาหมดเกลี้ยง ส่วนเสื้อผ้าของพวกเขาที่ยังคงเป็นปกติ เห็นชัดเจนว่าไม่มีร่องรอยอะไรเลย.
พวกเขาไม่สามารถเห็นได้ทั้งหมด เท่าที่มองเห็นในเวลานี้มีศพอยู่ 70-80 คนเห็นจะได้.
"จงซาน เจ้ากล่าวถูกต้องจริง ๆ ด้วย พวกเราโชคดีจริง ๆ ที่ไม่ได้รีบเข้ามา!"เห็นฉากสยดสยองแล้วแล้ว ใบหน้าของนางที่แสดงท่าทางยินดีขึ้นมา.
อาวุโสจิวถึงกับพูดไม่ออก เห็นได้ชัดเจนว่าเขาเป็นคนพูด แต่กับยกความดีความชอบให้กับจงซานอย่างงั้นรึ?
เซียนเซิงซือที่บินตรงเข้าไปตรวจสอบศพอย่างระมัดระวังพลางขมวดคิ้วไปมา.
"ฝ่าบาท ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ คนเหล่านี้ถูกสังหารภายในพริบตา!"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
ทุกคนที่แสดงท่าทางจริงจังบินเข้าไปยังดินแดนภูตโคลน ไม่นานหลังจากนั้นก็มาถึงขอบของดินแดนภูตโคลน.
ดินแดนภูตโคลนนั้นทุกพื้นที่แม้แต่บนท้องฟ้า เต็มไปด้วยหมอกสีดำ บดบังทัศนวิสัย ดูมืดครึ้มเป็นอย่างมาก.
ทว่าพื้นดินของดินแดนภูตโคลนนั้นเต็มไปด้วยดินเลน มีเนินบางเป็นระยะ ส่วนมากแล้วเป็นพื้นที่โลกที่ร้างเปล่า
ภายในดินเลนนั้น มีเงาร่างจำนวนมาก ดูเหมือนกับเงาร่างมนุษย์ ที่กำลังตะเกียกตะกายอยู่บนดินเลน เห็นเพียงแค่หัวและมือมากมายนับไม่ถ้วน หลาย ๆร่างที่กำลังคลาน หากแต่ไม่สามารถคลานได้.
บนอากาศของดินแดนภูตโคลน ราวกับว่าบนอากาศนั้นมีดวงวิญญาณมากมาย ร่างกายที่โปร่งแสง ดูมืดครึ้ม กระจายอยู่ทุกที่ บางร่างที่เดินไปมาอย่างไร้จุดหมาย.
"นี่ นี่มัน..........."ใบหน้าของเซียนเซียนที่แสดงท่าทางรังเกียจ.
"นี่เป็นภูตอย่างหนึ่ง สีดำที่มีรอยอยู่บนอากาศคือดวงวิญญาณ เป็นดวงวิญญาณจากคนที่ตายแล้วจากภพหยางจะมาเปลี่ยนร่างในบ่อโคลนนี้ มีวิญญาณมากมายที่ถูกดูดมาจากพื้นที่รอบ ๆ แห่งนี้ มีภูตภูเขา ภูตตนไม้ที่ถูกเพราะเลี้ยงที่นี่ ภูตสายน้ำ ภูตหมอก แม้แต่เผ่ามนุษย์ เผ่าวิญญาณ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงภูตขั้นต้น ไร้ซี่งจิตสำนึก ดังนั้นแล้วจึงถูกบ่อโคลนนี้ดูดไป และหลายตนกำลังตะเกียกตะกายอย่างทรมาน "เซียนเซิงซือตอบเซียนเซียน.
"!"เซียนเซียนพยักหน้า.
เหยี่ยนฉงจื่อที่จ้องมองเซียนเซิงซือด้วยความประหลาดใจ.
"ภพหยินมีภูตมากมายกี่ชนิดกัน?"เซียนเซียนกล่าวถาม.
"ในภพหยางชีวิตเกิดจากการตั้งครรภ์ ส่วนภพหยินนั้นเกิดจากวิญญาณแห่งความมืด แน่นอนเหล่าภูตเองก็เหมือนกันมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีเผ่าโครงกระดูกที่ดูดซับพลังมืดเข้ามาในร่างแตกต่างจากเผ่าวิญญาณอื่น ๆ ."เซียนเซิงซือตอบ.
"อืม!"เซียนเซียนพยักหน้า.
ในเวลาเดียวกันนี้ จงซานที่สามารถมองเห็นผู้ฝึกตนมากมายที่กำลังสำรวจเขตแดนภูตโคลน มีแม้แต่เผ่ามนุษย์ เผ่าอสูร หรือแม้แต่เผ่าภูตวิญญาณที่ทรงพลัง หรือกระทั่งเผ่าโครงกระดูก.
"ไปกันเถอะ!"เหยี่ยนฉงจื่อกล่าว.
จากนั้น เป็นเหยี่ยนฉงจื่อที่บินนำหน้าทุกคนไป.
ทว่าขณะที่บินอยู่นั้น ที่ไกลออกไปมีดวงวิญญาณหนาแน่น เหยี่ยนฉงจื่อที่หยุดนิ่งจ้องมองไปยังวิญญาณมากมายมหาศาลที่มาอยู่รวมกัน นับว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก.
"เอ๊ะ!"เซียนเซียนที่เผยสีหน้าประหลาดใจไม่เข้าใจที่เห็นเหล่าวิญญาณหลีกทางให้กับเหยี่ยนฉงจื่อ.
"จักรพรรดิต้าหยิง น่าจะเป็นจักรพรรดิภูต เหล่าวิญญาณมากมายที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเขาจึงได้หลีกทาง!"เซียนเซิงซือที่กล่าวอธิบายเซียนเซียน.
จงซานที่อยู่ด้านหลังจ้องมองเหยียนฉงจื่อ ดวงตาที่เผยสีหน้าประหลาดใจ ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมา.
พวกเขาที่บินตรงข้ามมาภายในเขตแดนภูตโคลนลึกขึ้น ก็ยิ่งเห็นเหล่าผู้ฝึกตนมากขึ้นด้วยเช่นกัน.
ที่ใจกลางของเขตแดนภูตโคลนนั้น บนภูเขาแห่งหนึ่ง ตอนนี้มีผู้ฝึกตนมากมายกำลังยืนอยู่ ดูเหมือนว่าตะวันสีทองจะล่งหล่นลงมาในพื้นดินเลนแห่งนี้แล้วหายไป.
จงซานและคนอื่น ๆ ที่บินมายืนบนภูเขาลูกหนึ่ง.
ไม่ไกลออกไปนั้น ทันใดนั้นก็มีคนสองคนที่เริ่มต่อสู้กัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเป็นศัตรูกันมาก่อน.
กระบี่ที่เข้าปะทะกันและกัน เหล่าภูตมากมาย ที่แยกออกมา การต่อสู้ที่เกิดขึ้นเร็วมาก ก่อนที่จะมีฝ่ายหนึ่งล่วงหล่นลงไปในดินเลน.
พริบตาเดียวที่ล่วงหล่นลงไปในดินเลน ราวกับว่ามีมือสีดำมากมายยืนออกมาพร้อมกับดึงเขาลงไปด้านล่าง จนหายไปอย่างรวดเร็ว.
"ร้ายกาจมาก!"เซียนเซียนที่จ้องมองด้วยความตื่นตกใจ จับแขนของจงซานแน่น ไม่ยินดีที่จะปล่อย.
โดยปรกติแล้ว เหล่ายอดฝีมือไม่ได้หวาดกลัวที่จะล่วงหล่นลงไปในบ่อโคลน ทว่าคนรอบ ๆ จ้องมองไปด้วยท่าทางประหลาดใจ ยอดฝีมือก่อนหน้านี้ล่วงหล่นลงไป แต่กลับไม่สามารถหนีออกมาได้.
"ไม่ได้การ เขตแดนบ่อโคลนนี้ ไม่สามารถที่จะกักคนระดับหลอมกายธาตุเอาไว้ได้! ทำไมคนเมื่อครู่นี้ไม่สามารถขึ้นมาได้?"อาวุโสจิวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เจ้าเคยหล่นลงไปด้านล่างอย่างงั้นรึ?"เซียนเซียนสอบถาม.
"เคย!"อาวุโสจิวที่ขมวดคิ้วไปมาขณะตอบ.
การที่ไม่หล่นลงไปถือว่าโชคดี ทว่าหลาย ๆ คนที่เห็นคนล่วงลงไป ทว่าพวกเขากลับไม่โผล่ขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง.
ทุก ๆ คนที่แสดงท่าทางจริงจัง ใต้ดินเลนนี้ มีสิ่งใดหรือไม่?
ในเวลาเดียวกันนี้ ทันใดนั้นที่ไกลออกไปมีชายสามคนที่สวมชุดสีขาวล้วน ดูโอ่อ่าสง่างามเป็นอย่างมาก ร่างของพวกเขาส่องประกายแสงสีขาวออกมา เสื้อผ้าของพวกเขาที่มีการปักษ์ลายเอาไว้ด้วยตัวอักษรว่า "เทียน" ทุก ๆ คนที่เห็นได้แต่เงียบ ไม่กล้าส่งเสียงดัง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนกลุ่มนี้มีสถานะและพลังฝึกตนสูงมาก.
"เร็วเข้า บังข้าหน่อย อย่าให้คนกลุ่มนั้นพบข้า!"อาวุโสจิวที่ราวกับว่ากระวนกระวายใจขึ้นมาในทันที.