ตอนที่แล้วChapter 538 ควบคุมผู้มีอำนาจ จักควบคุมข้าราชบริพารของเขาด้วย!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 540 ความกังวลใจของเนี่ยนโหยวโหยว.

Chapter 539 สงครามการเมือง.


"ควบคุมผู้มีอำนาจ จักควบคุมข้าราชบริพารของเขาด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"อย่างแรกเจ้าเห็นอะไรเกี่ยวกับระบบปกครองของราชวงศ์ต้าเซียน แตกต่างจากภพหยางอย่างไร?"จงซานไม่ได้ตอบออกไปตรง ๆ .

"เจ้าเมืองมีอำนาจมาก! จากนั้นก็จะเป็นตระกูลทหารซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก."หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมาทันที.

"ใช่ เจ้าเมืองมีอำนาจมาก นี่ก็เรื่องหนึ่ง แล้วตระกูลราชวงศ์เป็นอย่างไร?"จงซานยังคงสอบถามหลินเซียวต่อ.

"จักรพรรดิอายุมากแล้ว อายุขัยใกล้จะสิ้นแล้ว! ข่าวลือที่แพร่ออกมา เขาอยู่ได้ไม่ถึงห้าปี."หลินเซียวที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"ห้าปีรึ? ไม่ ปีนี้ จักรพรรดิจะต้องตายอย่างแน่นอน."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"หืม? จะเป็นไปได้อย่างไร?"หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ทั่วหล้าต่างก็ลือไปว่าอยู่ได้ไม่ถึงห้าปี เรื่องนี้ เป็นเรื่องเมื่อสองปีที่แล้ว จักรพรรดิได้ทำการประลองกับผู้ฝึกตนผู้หนึ่ง และทำให้สามารถทะลวงผ่านพลังฝึกตนเพิ่มอายุขัยได้ สงครามในครั้งนั้น จักรพรรดิเป็นผู้ชนะ คู่ต่อสู้ของเขาได้รับบาดแผลรุนแรง ทว่าสามารถที่จะใช้เป็นหินรองเท้าให้กับจักรพรรดิได้ เขาอ่อนแอจริง ๆ รึ? จักรพรรดิไม่ได้ทะลวงผ่านพลังฝึกตน แล้วเขาพ่ายแพ้จริง ๆ รึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"จักรพรรดิได้รับบาดเจ็บหนักด้วยอย่างงั้นรึ!"หลินเซียวที่ราวกับว่าเดาทางมาถูกแล้ว.

"ใช่ ได้รับบาดเจ็บหนักมาก นอกจากชีวิตใกล้จะสิ้นอายุขัยแล้ว เขาจะต้องตายก่อนกำหนดแน่นอน ทำไมข้าถึงได้บอกได้ นั่นเป็นเพราะว่าข้าเป็นเจ้าเมืองซ่างยังไงล่ะ."จงซานที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ก่อนหน้านี้เมืองซ่างนั้น มีกฎระเบียบที่เข้มงวดมาก จักรพรรดิรู้ว่าตัวเองจะตาย จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง เขาไม่มีทางเลือกอื่นที่ต้องทำเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นเหล่าเจ้าเมืองจะต้องตีตัวออกหาก นี่ก็เพื่อที่จะปูเส้นทางไปให้กับทายาทของเขา แม้แต่ให้คนอื่นที่ไม่ใช่เชื้อสายขุนนางมาเป็นเจ้าเมืองคนใหม่ การสร้างรากฐานให้ตื้นเขิน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมอ่อนแอ เพื่อเหนือหัวองค์ใหม่ หากเจ้าเมืองที่ไม่มีเครือข่ายที่กว้างขวาง สุดท้ายก็ต้องยอมจำนนต่อราชวงศ์."หลินเซียวที่กล่าวออกมาในทันที.

"ใช่ คงไม่ถึงหนึ่งปี ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียนจะต้องเกิดความโกลาหลอย่างแน่นอน."จงซานที่กล่าวสรุป.

"ทำไมล่ะ?"เซียนเซียนที่เอ่ยออกมาในทันที.

ใช่ ทำไม? ในทวีปศักดิ์สิทธิ์ บิดาตายไป บุตรชายก็สืบราชบัลลังก์ต่อ มีตัวอย่างให้เห็นมากมาย ทำไมจงซานจึงได้สรุปเช่นนั้น?

หลินเซียวที่ราวกับว่าจะเข้าใจความคิดของจงซาน.

"เพราะว่าไท่จื่อไร้ความสามารถ."หลินเซียวที่กล่าวออกมาในทันที.

"ถูก ไท่จื่อไร้ความสามารถ เกี่ยวกับข้อมูลที่ได้มานั้น ไท่จื่อมีอายุเพียง 13 ปี มีสติปัญญาระดับทั่วไป ลูกเสือในฝูงหมาป่าจะอยู่รอดได้อย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดี?"หลินเซียวสอบถาม.

"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียนจะต้องเกิดความวุ่นวาย เจ้าเตรียมตัวพัฒนาความสามารถของกองทัพให้แข็งแกร่งมากเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะเข้าสู่สงครามที่จะมาถึงหลังจากนี้."จงซานกล่าว.

"รับทราบ!"หลินเซียวที่รับคำในทันที.

.....

หกเดือนหลังจากนั้น.

กองกำลังเมืองซ่างเวลานี้พัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก ภายใต้ศิลาวิญญาณมากมายที่จงซานนำมาจากภพหยาง กองกำลังเพิ่มความแข็งแกร่งเป็นสองเท่าและยังเพิ่มขึ้นอีกเรื่อย ๆ  ในเวลาเพียงไม่นาน ความแข็งแกร่งของเมืองแห่งนี้ ก็ยกระดับเทียบเท่าหรือสูงกว่าระดับจักรพรรดิเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว.

"ฝ่าบาท เหมือนที่ท่านได้กล่าวเอาไว้ จักรพรรดิได้ตกตายลงแล้ว ตอนนี้พวกเขาได้สร้างสุสานและพิธีไว้ทุกข์ขึ้นแล้ว!"หลินเซียวที่กล่าวต่อจงซานในห้องโถงด้วยความตื่นเต้น.

"จำไว้ ในเวลานี้ให้เรียกข้าว่าเจ้าเมือง!"จงซานที่กล่าวย้ำออกมาในทันที.

"ครับ เจ้าเมือง จักรพรรดิชราได้ตายแล้ว และได้ส่งบัลลังก์แก่ไท่จื่อ อันเจี้ยนหยวน."หลินเซียวกล่าว.

"อันเจี้ยนหยวน? ได้บัลลังก์ตั้งแต่ยังเด็ก ชีวิตต่อจากนี้จะต้องลำบากแน่!"จงซานกล่าวพลางทอดถอนใจ.

"เจ้าเมือง ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไร?"หลินเซียวที่สอบถาม.

"เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงเงียบ ๆ !"

"เฝ้ามองความเปลี่ยนแปลงเงียบ ๆ รึ?"หลินเซียวที่ขมวดคิ้ว.

"ใช่ ตอนนี้นอกจากพวกเรา ภายใต้สวรรค์แห่งนี้ราชวงศ์จักรพรรดิอื่นกำลังยื่นข้อเสนอให้กับเมืองในอาณัติอยู่ เหล่าบรรดาเจ้าเมืองต่าง ๆ  จับจ้องมองไปยังอันเจี้ยนหยวน ทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังเมืองต้าเซียนเป็นสายตาเดียวกัน ดังนั้นจึงยังไม่มีใครลงมืออะไร."จงซานกล่าวออกมาด้วยความเคร่งขรึม.

"ตอนนี้พวกเขาต้องการตราราชวงศ์ในมือของอันเจี้ยนหยวนอย่างงั้นรึ?"หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่ จักรพรรดิชราได้ตายไปแล้ว และได้ส่งบัลลังก์ให้กับอันเจี้ยนหยวน แน่นอนรวมทั้งวาสนาแผ่นดินด้วย สองสิ่งที่ยังทำให้ทุกคนอยู่ในความสงบ หนึ่งคือตัวอันเจี้ยนหยวน อีกหนึ่งก็คือตราประทับราชวงศ์ ก่อนหน้านี้อันเจี้ยนหยวนที่รับตราราชวงศ์มา เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะควบคุมวาสนาแผ่นดินเอาไว้ได้ ทว่าหากเขาต้องการส่งมันให้กับคนอื่นล่ะ แน่นอนว่าเหล่าเจ้าเมืองต่าง ๆ ย่อมจับจ้องกันอยู่แน่นอน."จงซานที่กล่าวอธิบาย.

"จะมีบางคนมาขโมยตราราชวงศ์ไปอย่างงั้นรึ?"หลินเซียวที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"ใช่ ทว่าต้องรอดูก่อนว่าจะเป็นใครที่เป็นคนเริ่มก่อน."จงซานที่เผยยิ้มออกมา.

เป็นความจริงในเวลานี้ สายตาของทุกคนที่จ้องมองไปยังเมืองต้าเซียน.

ท้ายที่สุด ก็มีเจ้าเมืองผู้หนึ่งที่เป็นคนเริ่มก่อน.

เจ้าเมือง เหล่าเย่ เมืองไป่จี ได้นำทัพขนาดใหญ่บุกชิงตราราชวงศ์ เพื่อยึดครองตราประทับแผ่นดิน พร้อมกับไล่ล่าสังหารขุนนางและเหล่าเสนาธิการที่ยังคงชื่อสัตย์.

เมืองหลวงจักรพรรดิ ได้ส่งสารขอความช่วยเหลือจากเจ้าเมืองในอาณัติทั้งหมด.

แน่นอนว่าจงซานต้องยกทัพไป.

กว่าครึ่งปีมานี้ หลินเซียวที่ฝึกฝนทหารที่แข็งแกร่งกว่า 8 แสนนาย.

"จงซาน เจ้าบอกว่าเจ้าเมืองจำนวนมากจะมาอย่างงั้นรึ?"เซียนเซียนที่สอบถามออกมาขณะเดินทาง.

"มารึ? เป็นทั้งหมดจะต้องมา!"จงซานกล่าวยืนยัน.

"เจ้าเมืองทั้งหมดยกทัพมาอย่างงั้นรึ? เช่นนั้นไม่ใช่เหล่าเย่ที่ทรยศต้องตายหรอกรึ?"เซียนเซียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"พวกเขาทั้งหมดรึ? เฮ้เอ้ ไม่ สิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือตราราชวงศ์ที่อยู่ในมือของเหล่าเย่ที่นำมันออกมาต่างหาก."จงซานกล่าวยืนยัน.

ทัพของเจ้าเมือง 30 ทัพ ในเวลานี้ต่างก็ตั่งอยู่ในค่ายต่าง ๆ รอบ ๆ เมือง และเริ่มเจรจาสัญญาระหว่างทัพของเจ้าเมืองอื่น ๆ .

"หลินเซียว เจ้าจับตาดูเหล่าเจ้าเมือง จดจำไว้ว่าเจ้าเมืองคนใหนที่มีความสามารถ คนใหนที่ไร้ความสามารถ เอาไว้ในใจ."จงซานกล่าว.

"รับทราบ!"หลินเซียวที่รับคำในทันที.

ตอนนี้จึงมีจงซานและเซียนเซียน ซึ่งเขาได้ส่งหลินเซียวไปจับตาเหล่าพันธมิตร.

หลังจากที่เหล่าเจ้าเมืองเจรจาพันธสัญญาเสร็จแล้ว จากนั้นจึงจะเริ่มโจมตีเมือง.

เหล่าเย่นั้นแข็งแกร่งมาก ต้องบอกว่าด้วยความที่เขาแข็งแกร่ง ทำให้กองกำลังทหารของเขามีความสามารถจำกัด กับทัพสามสิบทัพสามสิบเจ้าเมือง แม้ว่าการรบจะเป็นไปด้วยเวลาที่เชื่องช้า แต่ก็สามารถที่จะรุกเข้าไปได้อย่างช้า ๆ .

เหล่าเย่นั้นไม่ได้สังหารจักรพรรดิน้อย เพราะว่าหากจักรพรรดิน้อยตายไป วาสนาแผ่นดินที่เขาได้มาอยู่ในร่าง แม้นว่าได้รับตราจักรพรรดิไปก็ไร้ประโยชน์.

จากนั้น สงครามที่ยังคงเกิดขึ้นไปอีกครึ่งปี.

หลังจากที่เหล่าเย่ถ่วงเวลาไว้เป็นเวลานาน ทว่าท้ายที่สุดก็ทนไม่ไหวเขาได้ทำลายพระราชวัง และนำจักรพรรดิน้อยและกองกำลังของเขาหนีออกไป กลับไปยังเมืองไป๋ซีซึ่งเป็นฐานของเขา.

เหล่าเย่ได้หนีไปแล้ว ทัพทั้ง 29 ทัพของเจ้าเมือง ต่างก็ไล่ตามอย่างบ้าคลั่ง.

"เจ้าเมือง พวกเราจะตามไปหรือไม่?"หลินเซียวที่สอบถามออกมาในทันที.

"ไม่ พวกเราจะเข้าไปในวังหลวง!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ครับ!"หลินเซียวที่ออกคำสั่งออกมาในทันที.

"ซาโพว!"จงซานที่เอ่ยออกมาในทันที.

"อยู่นี่แล้ว!"ซาโพวที่เอ่ยออกมาในทันที.

"เจ้าคนเดียวตามไปช่วยจักรพรรดิน้อยอันเจี้ยนหยวน และส่งเขาไปยังเมืองซ่างของพวกเรา! ส่วนคนอื่น ๆ  ห้ามสังหารพวกเขา!"

"หืม?ไม่ให้สังหารเหล่าเย่อย่างงั้นรึ?"ซาโพวที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ห้ามสังหารเขา ทางที่ดีควรจะช่วยมาแค่จักรพรรดิน้อย."จงซานกล่าว.

"รับทราบ!"ซาโพวที่รับคำสั่ง.

จงซานที่เข้าไปในเมืองหลวงต้าเซียน ซึ่งทัพ 30 ทัพของเจ้าเมือง มีเพียงแค่จงซานที่เข้าไปยังเมืองต้าเซียน.

ภายในเมืองจักรพรรดิ ทุก ๆ คนที่รู้สึกราวกับว่าได้รับการช่วยเหลือ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเหล่าเย่นั้นดุร้ายเป็นอย่างมาก สังหารคนไปมากมาย.

จงซานที่บินตรงไปยังวังหลวงที่พังทลายลง.

หลินเซียวที่จ้องมองไปยังเหล่าทหารที่ยังเหลืออยู่พร้อมกับจ้องมองไปบนท้องฟ้า.

วาสนาบนท้องฟ้าเวลานี้ กำลังสลายหายไปเป็นจำนวนมาก.

จากนั้นเหล่าขุนนางที่ยังไม่ได้ตายถูกนำตัวมา.

"เจ้าเมืองจง โปรดอภัยด้วย ข้าและคนอื่น ๆ ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดเหลือแล้ว!"เหล่าข้าราชบริพารชราต่างกล่าวออกมาด้วยความหวาดกลัว.

เหล่าข้าราชบริพารที่กำลังเต็มไปด้วยวความหวาดกลัว.

"ทุกท่านอย่าได้ตื่นตกใจ ข้าจงซานก็เหมือนกับทุกท่าน ที่เป็นห่วงทุกคนในเมืองเซียน เมืองเซียนมีบุญคุณกับพวกเราไม่น้อย แน่นอนว่าพวกเราจะต้องตอบแทน ตอนนี้ เหล่าเย่ได้นำจักรพรรดิหนีไปแล้ว เข้าเกรงว่าเขาจะถูกสังหารไปแล้ว."

"สังหาร? พวกเขาจะสังหารอย่างงั้นรึ?"เสนาธิการที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.

"ทุก ๆ ท่าน เดินทางไปยังที่พื้นที่ปลอดภัยกับข้าเถิด เมื่อฝ่าบาทถูกช่วยแล้ว ค่อยกลับมาต้าเซียนอีกครั้งก็ได้!"จงซานกล่าวออกมาในทันที.

"เรื่องนี้ เจ้าเมืองจง....."ขุนนางคนหนึ่งที่ต้องการกล่าวออกมา.

"พวกเราทุกคน ต้องรวมตัวกันเอาไว้ นับว่าเป็นเรื่องดีที่จะเดินทางไปยังเมืองซ่างเพื่อหลบภัยกับพวกเรา."จงซานที่ไม่รอให้เหล่าขุนนางกล่าวจบและได้กล่าวตัดบทออกมาในทันที.

จากนั้น ทุกคนที่ไม่ได้ถูกเหล่าเย่สังหาร ก็ถูกนำกลับไปยังเมืองซ่างพร้อมกับทัพของจงซาน.

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งทัพของเจ้าเมืองที่ไล่ล่าเหล่าเย่ไปยังเมืองไป๋จี ก็พบว่าจักรพรรดิได้หายไปแล้ว.

จักรพรรดิหายไปอย่างงั้นรึ?

มีเจ้าเมืองไม่กี่คนที่ไม่ไล่ตามเหล่าเย่ไป พวกเขาที่ออกตามหาจักรพรรดิไปทุกทิศทุกทาง ส่วนเจ้าเมืองส่วนที่เหลือ ได้เข้าล้อมเมืองไป๋จี ต้องการกำจัดคนทรยศ แน่นอนว่าเกี่ยวข้องกับตราประทับราชวงศ์ที่พวกเขาต้องการนั่นเอง.

ในสายตาของพวกเขา ตราประทับราชวงศ์นั้นสำคัญมากกว่าจักรพรรดิสะอีก ตราราชวงศ์ ที่สามารถรวบรวมวาสนาแผ่นดิน นี่คือสิ่งที่จะใช้ก่อตั้งชาติ.

พวกเขาจะตามหาจักรพรรดิเพื่ออะไร? จักรพรรดิเด็ก คิดว่าพวกเขาจะภัคดีอย่างงั้นรึ?

ขณะที่คนมากมายที่กำลังล้อมรอบเมืองไป๋จี.

จักรพรรดิน้อยและเหล่าข้าราชบริพารทั้งหมดจงซานได้ถูกนำมายังเมืองซ่าง อาณาเขตของเขาแล้ว.

ตอนนี้พวกเขาได้สร้างพระราชวังใหม่ขึ้นที่เมืองซ่างอย่างเร่งรีบ เพื่อที่จะแจ้งเจตจำนงต่อสวรรค์.

"กบฏเหล่าเย่ แย่งชิงตราราชวงศ์จักรพรรดิต้องการชิงอาณาจักร ทำลายเมืองต้าเซียน เป็นอาชญากรรมที่ยากจะอภัย ภายใต้การชี้นำของสวรรค์ จะต้องลงโทษเจ้าสถานหนัก ตอนนี้เมืองหลวงได้ย้ายมายังเมืองซ่าง ให้เจ้าเมืองทุกคนสังหารคนทรยศ และยึดครองตราราชวงศ์กลับมา หากใครประสบความสำเร็จจะได้รับประทานรางวัลเป็นแม่ทัพคุมสามเหล่าทัพ."

ประกาศที่ลงนามของราชวงศ์ ทว่าที่จริงแล้วเป็นจงซานที่เป็นคนเขียนขึ้นมา.

ประกาศได้กระจายไปทั่วหล้า ถูกส่งต่อไปยังเจ้าเมืองต่าง ๆ  เหล่าเจ้าเมืองท้ายที่สุดก็พบทันทีว่าตราสวรรค์ได้เปลี่ยนไป.

นี่ไม่ใช่ตราราชวงศ์จักรพรรดิ เป็นตราราชวงศ์ราชันย์รึ? หากแต่ตราราชวงศ์นั้นไม่สามารถสลักขึ้นได้อีกครั้ง หากว่าไม่ใช่ตราราชวงศ์ที่แท้จริง บนตราประทับจะไม่มีวาสนาหมุนวนอยู่ นี่เป็นอาวุธอย่างหนึ่งของเจ้าเมืองซ่างของ จงซาน ที่มีราคาถูกที่สุด.

เหล่าขุนนางได้มาจัดตั้งขึ้นที่เมืองซ่างแล้ว หลังจากนี้ไม่ใช่ว่าทุกอย่างเป็นจงซานตัดสินใจหรอกรึ?

แม้ว่าเหล่าเจ้าเมืองคนอื่น ๆ ต้องการตราราชวงศ์ ทว่ากลับเป็นจงซานที่ทำให้ทุกคนต้องหน้าเสียราวกับว่าได้กินแมลงเข้าไป.

"ฝ่าบาทนี่คือควบคุมผู้มีอำนาจ จักควบคุมข้าราชบริพารของเขาด้วย ยอดเยี่ยมยิ่งนัก ชัยชนะที่ได้ซึ่งการฆ่าฟัน และยังสามารถที่จะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ก้อนใหญ่ได้อีกด้วย."หลินเซียวที่กล่าวพลางถอนหายใจ.

"จักรพรรดิน้อยที่ถูกเจ้าควบคุมตัว เจ้าต้องการที่จะแสดงความเคารพต่อเขาทุกวันเลยอย่างงั้นรึ?"เซียนเซียนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เพราะว่านี่คือมารยาท เพื่อที่จะอุดปากคนทั่วหล้า ผู้ที่มีอำนาจที่แท้จริง ไม่จำเป็นต้องเป็นจักรพรรดิก็ได้!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

ใช่แล้ว เพื่ออุดปากคนทั่วหล้า กับความคิดเห็นนี้ แม้ว่าเจ้าเมืองมากมายจะต้องการโต้แย้งก็ทำไม่ได้.

"ทว่าเจ้าเมืองส่วนใหญ่นั้นรู้ว่าพวกเขาไม่ได้รับชัยชนะ แล้วพวกเขาจะยอมรับอย่างงั้นรึหากว่าคำสั่งที่ออกไปนั้นไม่ใช่คำสั่งของจักรพรรดิ?"เซียนเซียนกล่าว.

"พวกเขาย่อมไม่กล้า แม้ว่าราชวงศ์จักรพรรดิจะยังอยู่ ทว่าความจริงพวกเขาก็ไม่คิดที่จะรับคำสั่งของราชวงศ์เช่นเดิม หากว่าราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียนหายไปโดยสมบูรณ์ในเวลานี้ ราชวงศ์จักรพรรดิอื่น ๆ ย่อมยกกองกำลังมาแน่."จงซานกล่าวยืนยัน.

"ไม่ใช่ทุกคน หากแต่ว่ามีบางคนที่ไม่รับคำสั่งจักรพรรดิล่ะ?"เซียนเซียนกล่า.

"เช่นนั้นก็จะยิ่งดี!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หืม?"

"นี่ก็จะเป็นโอกาสตัดรากถอนโคน ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเราถือว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ในเวลานั้น เราจะนำทัพไปจัดการพวกกบฏเอง เหล่าเจ้าเมืองคนอื่น ๆ เองก็ไม่กล้าขวางข้า และยังอาสามาช่วยพวกเราอีกด้วย ความแข็งแกร่งของพวกเราก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ."หลินเซียวที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

นี่คือการหาเหตุผลทางการเมือง เพื่อก่อสงคราม แน่นอนว่าจะมีเมืองใหนกันที่จะกล้าไม่ไว้หน้าจักรพรรดิ.

ภายในสายตาของหลินเซียวที่ส่องประกาย เริ่มเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการเมืองภายในแล้ว.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด