Chapter 538 ควบคุมผู้มีอำนาจ จักควบคุมข้าราชบริพารของเขาด้วย!
กับราชาโครงกระดูก ที่ลดตัวลงมารับใช้ผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ หากกล่าวให้คนอื่นฟังแน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อเรื่องที่เกิดขึ้นนี้แน่.
ก่อนหน้านี้เขาคือราชาโครงกระดูกผู้ยิ่งใหญ่ หวังคู วันนี้ต่อหน้าจงซาน กับต้องโค้งหัวเป็นเพียงข้าราชบริพารเท่านั้น.
อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะได้กลายเป็นเซียน จำต้องจำนนต่อจงซาน.
"การสาบานด้วยดวงวิญญาณ? เป็นจุดอ่อนที่สุดของเผ่าโครงกระดูกอย่างงั้นรึ?"จงซานที่นั่งอยู่ที่ตำหนักหยินหยางจ้องมองไปยังหวังคู.
หวังคูในเวลานี้ สวมชุดคลุมโลหิต ปิดปังร่างกายทั้งหมดเอาไว้ จึงไม่สามารถมองเห็นร่างกายด้านในได้.
"ไม่ใช่จุดอ่อน มีเพียงแค่ต่อหน้าฝ่าบาทเท่านั้น ที่เป็นจุดอ่อน."หวังคูที่ตอบกลับมา.
"หืม?"จงซานที่ไม่เข้าใจใจในคำพูดของหวังคู.
"ไม่ว่าจะเป็นความเป็นหรือความตาย เผ่าโครงกระดูกนั้นมีกฎของการจุติอยู่ ยิ่งมีพลังฝึกตนสูง ก็จะยิ่งมีโอกาสจุติมากขึ้นเท่านั้น ในเวลานี้ข้ามีโอกาสจุติ 50 เปอร์เซ็นต์หากตายไป สามารถที่จะเกิดเป็นโครงกระดูกร่างใหม่ได้ ทว่านับตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้มันเลยโอกาสนั้นไปแล้ว ดังนั้น ข้าจึงไม่มีทางเลือกต้องสาบานผูกวิญญาณ มีเพียงความสามารถที่แปลกประหลาดของฝ่าบาทเท่านั้น ที่ผู้น้อยสัมผัสได้ ตราบเท่าที่ข้าขัดขืนล่ะก็ จะพบว่าทั้งร่างกายและวิญญาณจะดับสูญไปในทันที."หวังคูที่กล่าวด้วยท่าทางตื่นตระหนก.
ภายในใจของเซียนเซิงซือรู้สึกรัดแน่นเช่นกัน ส่วนเซียนเซียนแสดงท่าทางสนใจ หลินเซียวยังคงจ้องมองด้วยความสงบ.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
เป็นความจริง ในโลกนี้ไม่ได้มีอะไรที่แน่นอนเช่นนั้น เป็นเหมือนกับสิ่งที่จงซานคิด เกี่ยวกับการสาบานด้วยวิญญาณ เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันไม่ได้สมบูรณ์แบบ มันยังมีจุดอ่อนอยู่ด้วยเช่นกัน.
"เจ้ารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ภายนอกบ้างหรือไม่?"จงซานกล่าว.
หวังคูที่ส่ายหน้าไปมา “ผู้น้อยรู้เพียงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ 5พันปี ทว่าหลังจากนั้นก็ไม่รู้แล้วว่าภายนอกนั้นมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น.”
"ก่อนห้าพันปีอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังหวังคู.
ภายในห้าพันปีนี้ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างอย่างงั้นรึ?
"ก่อนหน้านี้ห้าพันปีที่แล้วผู้น้อยได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก จึงได้มารักษาตัวที่นี้ ผู้น้อยที่บาดเจ็บไปจนถึงดวงวิญาณ ร้อยปีที่แล้วดวงวิญญาณค่อย ๆ ฟื้นคืน."หวังคูกล่าว.
"เช่นนั้นเจ้าก็รักษาบาดแผลต่อไปก็แล้วกัน!"จงซานกล่าว.
"หืม?"หวังคูที่แสดงท่าทางไม่เข้าใจนัก.
"ปกป้องที่นี่ปกป้องตำหนักหยินหยางให้ข้า!"จงซานกล่าว.
หวังคูที่จ้องมองไปยังตำหนักหยินหยาง ราวกับนึกอะไรบางอย่างได้.
"สถานที่แห่งนี้คือประตูเชื่อมต่อภพหยิน อย่างอย่างงั้นรึ?"หวังคูที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
ได้ยินคำพูดของหวังคูแล้ว ดวงตาของจงซานที่ส่องประกายแสงออกมา สถานที่แห่งนี้คือเส้นทางหยินหยาง ภายในภพหยางนั้นมีผู้ฝึกตนสวรรค์แท้ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง ทว่าที่แห่งนี้หวังคูกับสามารถบอกและมองเห็นง่าย ๆ ได้อย่างไร?
เห็นจงซานที่แสดงท่าทางสงสัย หวังคูที่กล่าวออกมาในทันที "ฝ่าบาท บนร่างของท่านนั้นมีปราณหยางแสงสีทองติดอยู่ ดวงอาทิตย์ของภพหยินนั้นจะมีสีม่วง ผู้น้อยแม้ว่าจะสงสัยก่อนหน้านี้ ทว่าก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าฝ่าบาทนั้นมาจากภพหยาง ตอนนี้เห็นว่าฝ่าบาทให้ความสำคัญกับสถานที่แห่งนี้ได้ ดังนั้นจึงได้คาดเดาได้อย่างถูกต้อง."
"ปราณหยางทองอย่างงั้นรึ?
"ฝ่าบาท ภพหยินนั้นจะมีปราณหยินที่รุนแรงมาก แทบจะทั้งวัน อีกไม่นานปราณหยางทองที่ติดตัวมาจะกระจายหายไป."เซียนเซิงซือกล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
จงซานที่หันหน้าไปมองหวังคูอีกครั้ง.
"หวังคู ไม่ว่าต่อหน้าเจ้าจะเป็นใครก็ตาม หลังจากนี้เจ้าจงจำไว้ให้ดีตราบเท่าที่การสาบานวิญญาณยังไม่จางหาย สถานที่แห่งนี้เจ้าจะต้องปกปักรักษาให้ดี ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะทำลายทั้งร่างกายและวิญญาณของเจ้า!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่จริงจัง.
"รับทราบ!"หวังคูที่รับคำภายในใจที่รู้สึกรัดแน่น.
ในเวลาเดียวกันนี้ ภายในใจของหวังคูที่รู้สึกแปลกประหลาด ก่อนหน้านี้เขาเคยประสบอะไรมาบ้าง เขาเป็นใครมาจากใหน ดูเหมือนว่าจะไม่ถูกถาม ทำให้ภายในใจของหวังคูรู้สึกซาบซึ้งเช่นกัน.
ทันใดนั้น ร่างของหวังคูขยับ ราวกับว่าพบเข้ากับอะไรบางอย่าง.
จงซานเองก็จ้องมองออกไป ที่ไกลออกไปเห็นเป็นเพียงแค่จุดเล็ก ๆ มีคนปรากฏขึ้นมา.
ซาโพว เป็นซาโพวที่กลับมาจากสำรวจนั่นเอง.
พริบตาเดียวมีคนเข้ามา ก็สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าเกรงขาม นี่จะต้องเป็นผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งแน่นอนทำให้เขาแสดงท่าทางระมัดระวังขึ้นมาในทันที.
"ซาโพว! เป็นอย่างไรบ้าง?"จงซานสอบถาม.
ได้ยินคำพูดของจงซานแล้ว หวังคูที่คลายความกังวลลง ขณะที่เขาตกใจเล็กน้อยเช่นกัน เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนที่มานี้ อย่างน้อยก็ต้องมีพลังระดับราชันย์แท้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนที่รับคำสั่งจากจงซานอย่างงั้นรึ?
"เรียนฝ่าบาท ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ออกไปสำรวจพื้นที่รอบ ๆ แล้ว สถานที่แห่งนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเขตแดนต้องห้าม คนธรรมดาและสัตว์อสูรไม่เข้าใกล้ ทางทิศเหนือนั้นมีราชวงศ์จักรพรรดิแห่งหนึ่ง!"ซาโพวที่กล่าวรายงาน พร้อมกับจ้องมองไปยังผู้ฝึกตนที่สวมชุดสีโลหิต.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
"หวังคูรับคำสั่ง!"จงซานที่ออกคำสั่งในทันที.
"อยู่นี่แล้ว!"
"เจ้ารับผิดชอบรักษาดินแดนแห่งนี้เอาไว้ ห้ามใครเข้าใกล้ตำหนักหยินหยางได้ ใครเข้ามาให้สังหารในทันที!"จงซานออกคำสั่ง.
"รับทราบ!"หวังคูที่รับคำสั่งในทันที.
"พวกเราไป! เดินทางไปยังราชวงศ์จักรพรรดิดังกล่าว."จงซานที่กล่าวกับคำอื่น ๆ .
จากนั้น ซาโพวที่นำ คนกลุ่มหนึ่งบินไป.
หวังคูที่จ้องมองจงซานที่บินจากไป ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น?
ด้วยการสาบานด้วยวิญญาณ แน่นอนว่าจงซานย่อมมั่นใจในตัวของหวังคู นับว่านี่เป็นแผนการที่ฉลาด ตำหนักหยินหยางจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน ตอนนี้เขาจะต้องสร้างรากฐานในภพหยินแห่งนี้.
ขณะที่บินไปนั้นเซียนเซียนที่เล่าเกี่ยวกับราชาโครงกระดูก ทำให้เขาแสดงท่าทางแปลกประหลาด จงซานน่าเกรงขามขนาดนี้เลยรึ?
ขณะที่บินอยู่นั้นจงซานได้สอบถามซาโพว "ครึ่งวันมานี้ เจ้าได้สอบถามอะไรมาบ้าง?"
"ผู้ใต้บังคับบัญชาได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของภพหยิน สถานการณ์ของดินแดนต้องห้ามและดินแดนทางเหนือ."ซาโพวกล่าว.
"หืม?"
"ภายในภพหยินนี้ มีสองราชวงศ์สวรรค์ สองแดนเทวะ และทางเหนือของเขตแดนต้องห้ามนั้นมีราชวงศ์จักรพรรดิ เป็นราชวงศ์วาสนาที่มีนามว่าต้าเซียน ซึ่งอยู่ถัดไปจากดินแดนต้องห้ามเป็นเมืองซ่าง เป็นหนึ่งเมืองในอาณัติของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียน!"ซาโพวกล่าว.
"เมืองซ่าง ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ครับ!"ซาโพวพยักหน้า.
"เอาล่ะ พวกเราจะยึดเมืองซ่างเป็นเมืองแรก!"จงซานเอ่ย.
"รับทราบ!"ทุกคนที่รับคำในทันที.
..........
หนึ่งปีหลังจากนั้น ภพหยาง! รัฐชิง! อี้เหยี่ยนนั่งอยู่ตำหนักของเขา.
อี้เหยี่ยนนั่งอ่านจดหมายจำนวนมากอยู่บนโต๊ะบัญชาการ เผยยิ้มที่มุมปากด้วยรอยยิ้มที่เหยียดหยัน.
"จอมพล นี่เป็นคำเชิญฉบับที่ 16 จากราชวงศ์จักรพรรดิแล้ว!"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"อืม! เจ้าเห็นอะไรบ้าง?"
"พวกเขารุมแย่งจอมพลกันอยู่."เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"เจ้าคิดว่าข้าคิดอย่างไร?"อี้เหยี่ยนกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง แม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นราชวงศ์จักรพรรดิ ทว่าที่จริงแล้วไม่ต่างจากราชวงศ์ราชันย์ ความสำเร็จอีกไม่นานนั้นหลังจากนี้ จะไม่เห็นเห็นราชวงศ์ราชันย์ทั้ง 16 อยู่ในสายตาอีกเลย."เถี่ยเสวี๋ยนที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
เถี่ยเสวี่ยที่รู้ดีว่าอี้เหยี่ยนต้องการฝึกฝนเขาด้วยเช่นกัน.
"แล้วนี่ล่ะ?"อี้เหยี่ยนที่นำจดหมายฉบับหนึ่งออกมา.
เถี่ยเสวี๋ยที่จับจ้องมองอย่างระมัดระวัง หลังจากอ่านเสร็จถึงกับดวงตาเบิกกว้าง.
"ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ยรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"นี่มันราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย! ข้าคิดว่าไม่เพียงแค่ข้าเท่านั้น สุ่ยจิง สุ่ยอู๋เหินเองก็ได้รับจดหมายเชิญเช่นนี้ด้วยเช่นกัน."อี้เหยี่ยนหรี่ตามอง.
"หืม เรื่องนี้...."เถี่ยเสวี๋ยที่สูดหายใจลึก.
"เจ้าคิดว่าอย่างไร?"อี้เหยี่ยนสอบถามออกไป.
เถี่ยเสวี๋ยที่สูดหายใจลึก คิดใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างหนักแน่น "ปฏิเสธ ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง ไม่ช้าก็เร็วก็จะต้องเป็นราชวงศ์สวรรค์ ข้าเชื่อเช่นนั้น!"
"ฮ่าฮ่าฮ่าอ่าอ่า!"อี้เหยี่ยนพยักหน้าหัวเราะด้วยความพึงพอใจ.
"ทว่า สุ่ยจิงและสุ่ยอู๋เหินจะทนความยั่วยวนนี้ได้หรือไม่? กับตำแหน่งที่ใหญ่โตของราชวงศ์สวรรค์!"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ฝ่าบาท ในเมื่อส่งข้าและคนอื่น ๆ มาดูแลรัฐชิงแห่งนี้ แน่นอนว่าได้คำนวณเกี่ยวกับนิสัยใจคอของพวกเราเอาไว้แล้ว โปรดวางใจ!"อี้เหยี่ยนกล่าว.
"ครับ!"เถี่ยเสวี๋ยที่พยักหน้ารับ.
"สิ่งนี้ มอบให้กับเจ้าหนึ่งหยด!"อี้เหยี่ยนที่นำขวดหยกขนาดเล็กยื่นออกไป.
"สิ่งนี้คืออะไร?"
"ยารวมวิญญาณ!"
หลังจากรู้สรรพคุณยารวมวิญยาณ เถี่ยเสวี๋ยก็รับรู้ได้ในทันที นี่อาจจะนับว่าเป็นของล้ำค่าที่สุดก็ว่าได้ สิ่งนี้ยอดเยี่ยมมาก ตราบเท่าที่มีสิ่งนี้ ถึงแม้ว่าจะตาย ก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุด.
เถี่ยเสวี๋ยนั้นไม่รู้ว่าจงซานนั้นได้เดินทางไปยังภพหยิน ไม่เช่นนั้นจะยิ่งตื่นตะลึงกับราชวงศ์ต้าเจิ้งยิ่งกว่านี้.
หนึ่งปี สถานการณ์ในภพหยางยังคงปรกติ ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งเวลานี้ซ่อนแสงสว่างรักษาตัวอยู่ในที่มืด.
[*** 韬光养晦 Tāoguāngyǎnghuìซ่อนแสงสว่างของคุณ รักษาตัวในที่มืด]
.......
ภพหยิน หนึ่งปี ด้วยเชาว์ปัญญาของจงซานแล้ว และยังมีคนที่มีความสามารถมากมาย จงซานก็ได้เป็นเจ้าเมือง ของเมืองซ่างได้อย่างราบรื่น.
เพียงแค่ปีเดียว!
ตามความคิดเห็นของคนอื่นย่อมเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ทว่าในมุมมองของจงซานและคนของเขา เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปมาก.
เมืองซ่าง คฤหาสน์เจ้าเมือง.
จงซานที่จัดงานเลี้ยงขอบคุณ ซึ่งได้เชิญแขกเหรื่อมากมาย มีคนห้าคนที่มาจากภพหยางรวมอยู่ในนี้ด้วย.
"ฝ่าบาท พวกเราได้ยึดครองเมืองซ่างแล้ว นี่นับว่าเป็นหนึ่งก้าวที่ยอดเยี่ยม."หลินเซียวที่เผยยิ้มออกมา.
"ไม่ นี่ยังไม่เพียงพอ ข้าต้องการทั้งราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียน!"จงซานที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียนอย่างงั้นรึ? ฝ่าบาทจะเคลื่อนทัพไปอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เคลื่อนทัพอย่างงั้นรึ?"จงซานที่หันหน้าไปมาเซียนเซิงซือ.
"หากไม่เคลื่อนทัพ แล้วจะสามารถยึดครองเมืองทั้งสามสิบสองได้อย่างงั้นรึ? เมืองของพวกเรานั้น เป็นเพียงแค่เมืองหนึ่งในราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียนเท่านั้น และยังนับว่าอ่อนแอเป็นอย่างมาก นอกจากนี้พวกเรายังเพิ่งเดินทางมาได้แค่หนึ่งปี รากฐานยังไม่ลึกนัก แน่นอนว่าการจะเคลื่อนทัพออกสู่สงครามนั้นนับว่าเป็นเรื่องยาก!"เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.
"ให้ข้าเดินทางไปยังเมืองหลวง จากนั้นก็สังหารเหล่าราชวงศ์ให้หมด ไม่ดีกว่ารึ?"ซาโพวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางร้อนใจ.
ได้ยินคำพูดของซาโพว ทุกคนที่ต้องมองบนทีเดียว.
"สังหารตระกูลราชวงศ์ ก็ไม่ช่วยอะไร เมืองทุก ๆ เมืองนั้นปกครองกันอย่างเป็นอิสระ สามารถที่จะย้ายไปยังราชวงศ์จักรพรรดิอื่นได้ ทำเช่นนี้มีแต่จะสร้างปัญหา."หลินเซียวที่กล่าวตอบซาโพว.
"ยกทัพยึดเมืองคนอื่น คนอื่นมายึดเมืองเรา คงไม่ดีแน่."เซียนเซียนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ดูเหมือนว่าจะยากทีเดียว เกี่ยวกับวิชาของข้านั้น ถึงแม้ว่ามันจะลึกล้ำเป็นอย่างมากในภพหยาง ทำให้คนมากมายหวาดกลัว หากแต่ที่นี่ภพหยิน มันไม่ใช่วิชาลึกลับอะไร ที่จริงในเวลานี้สิ่งสำคัญนั้น รากฐานของพวกเรายังไม่แน่นพอ หนึ่งปี การจะสร้างชื่อเสียงนั้น นับว่ายังเป็นเรื่องยากไม่น้อย!"เซียนเซิงซือขมวดคิ้วไปมา.
"หลินเซียว เจ้าคิดว่าอย่างไร?"จงซานจ้องมองไปยังหลินเซียว.
"เฉินยินดีที่จะยกทัพ เข้ายึดราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซี่ยว ค่อย ๆ เคลื่อนทัพยึดครองพื้นที่รอบ ๆ ของต้าเซียนไป."หลินเซียวที่กล่าวออกมาในทันที.
จ้องมองไปยังหลินเซียว จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"ด้วยความสามารถในการบัญชาการรบของเจ้า ข้าเชื่อว่าจะสามารถยึดครองราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียนได้ เพียงแต่ว่ามันต้องใช้จ่ายไปด้วยราคาที่สูง ทั้งจำนวนคนและทรัพยากร คนจะต้องตกตายเป็นทะเลโลหิต และยังใช้เวลานานจนเกินไป อีกทั้งยังดึงดูดมือสังหารเข้ามาอีกด้วย."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"เฉินไม่ได้หวาดกลัว!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างหนักแน่น.
"ข้ารู้ว่าเจ้าไม่กลัว ด้วยเชาว์ปัญญาของเจ้าแล้วนับว่าไม่ธรรมดา ยากที่จะมีคนมาจัดการง่าย ๆ ใต้สวรรค์แห่งนี้ เจ้าไม่ได้ด้อยไปกว่าอี้เหยียนหรือสุ่ยจิงเลย."จงซานกล่าว.
หลินเซียวที่ขมวดคิ้วไปมา "แล้วฝ่าบาทเตรียมที่จะทำสิ่งใด."
จงซานที่นำชื่ออี้เหยี่ยนและสุ่ยจิงมากล่าว เพราะเตรียมที่จะสอนอะไรบางอย่างหลินเซียวอีกครั้ง.
"ต้องการควบคุมคนที่มากความสามารถ นอกเหนือจากต้องสามารถคำนวณและคาดเดาได้อย่างแม่นยำ มีกลยุทธ์ที่สูงส่งแล้ว สิ่งหนึ่งที่เจ้าต้องมีคือเข้าใจการเมือง."จงซานกล่าว.
"หืม?"
"นี่คือกลยุทธ์ เจ้าคิดใคร่ครวญให้ระเอียด ข้าได้ส่งเจ้าไปจับตาสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เกี่ยวกับการใช้จ่ายและการลงทุนเล็ก ๆ น้อย การจะยึดครองราชวงศ์จักรพรรดิต้าเซียวนั้น จำเป็นต้องใช้อุบาย."จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.
"อุบายอะไรอย่างงั้นรึ?"หลินเซียวสอบถาม.
"ควบคุมผู้มีอำนาจ จักควบคุมข้าราชบริพารของเขาด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.