ตอนที่แล้วChapter 533 เสียมารยาท.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 535 สนามรบโบราณแดนอเวจี.

Chapter 534 เก้าคนสู่ภพหยิน.


"ใช่ เป็นเส้นทางหยินหยาง!"จงซานที่ไม่ได้ปิดบังอีกต่อไป.

"เส้นทางหยินหยาง? ประตูเชื่อมต่อภพทั้งสอง นับว่าเป็นเรื่องที่อาจหาญมากที่สร้างเส้นทางหยินหยางขึ้นมาได้ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ภายในใต้สวรรค์แห่งนี้ ผู้ฝึกตนสวรรค์แท้จะต้องแห่มาที่นี่แน่"ตี้เสวียนชาที่สูดหายใจลึก.

"นี่ก็เพื่อต้าเจิ้ง!"จงซานที่กล่าวออกมาสั้น ๆ .

"เต้าเจิ้ง ดีเพื่อเต้าเจิ้ง!"ตี้เสวียนชาพยักหน้า.

"เจ้าไม่สนใจเกี่ยวกับเส้นทางหยินหยางอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

"ไม่ หากแต่ข้ามีเรื่องที่จะขอให้เจ้าช่วย!"ตี้เสวียนชาเอ่ย.

"หืม?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.

"นำเซียนเซียนไปด้วย!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาอย่างลึกล้ำ.

"หา?"จงซานที่ตื่นตกใจเล็กน้อย.

"การผ่านประสบการณ์ร้อนหนาวมา เท่านั้นถึงจะคู่ควรกับตำแหน่งจื่อจุ้น ข้าที่ไล่ล่าสังหารสู้รบมานับครั้งไม่ถ้วนกว่าจะได้เป็นจือจุ้น ทว่าเซียนเซียนยังไม่มี!"ตี้เสวียนชาที่เอ่ยปากออกมา.

"จะไม่ให้ดีกว่ารึถ้าให้นางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์?"จงซานที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

จริงอยู่เพื่อให้นางเติบโต ทว่าที่ภพหยินมันไม่อันตรายไปหน่อยรึ?

"เฮ้เฮ้ เจ้ารู้จักต้นกำเนิดสายโลหิตของเผ่าอสูรหรือไม่?"ตี้เสวียนเสวียนชาที่เอ่ยปากสอบถาม.

"เจ้าเป็นต้นกำเนิดเผ่าหมาป่า มีเพียงผู้มีต้นกำเนิดสายโลหิต ถึงจะสามารถสร้างพันธสัญญากับเผ่าหมาป่าได้!"จงซานครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"ฮึ ฮึ! "ตี้เสวียนชาที่ส่ายหน้าไปมา.

"เจ้าได้ยินเรื่องเผ่าพันธ์ผีดิบหรือไม่?"ตี้เสวียนชาที่เอ่ยออกมา.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ผีดินรุ่นแรก รุ่นที่สองก็ยังเป็นผีดิบ และรุ่นอื่น ๆ ก็เช่นกัน ทว่าที่จริงแล้วมันมีระดับสายโลหิตที่แตกต่างกันอยู่ สายโลหิตยิ่งเข้มข้นเท่าไหร่ก็จะยิ่งมีระดับสูงเท่านั้น และจะมีความแข็งแกร่งน่าเกรงขามมากขึ้นเท่านั้นด้วย และจะมีความสามารถที่หลากหลาย แม้แต่ควบคุมผีดิบรุ่นหลัง ๆ ได้ สถานะนั้นจะขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของระดับสายโลหิต ยิ่งสูงก็จะยิ่งมีเกียรติ และควบคุมสายโลหิตระดับต้นได้.

จงซานพยักหน้า.

"ที่จริงแล้ว เผ่าอสูรส่วนใหญ่แล้วเป็นเช่นนี้ ขึ้นอยู่ระดับสายโลหิตอย่างงั้นรึ?ไม่ ควรจะบอกได้ว่าสายโลหิตเผ่าหมาป่าดีที่สุด ยิ่งมีสายโลหิตระดับสูง เทียบเคียงต้นกำเนิดก็จะยิ่งมีสถานะสูง สายโลหิตของทุกคนในเผ่าหมาป่าด้อยกว่าข้าทั้งนั้น ดังนั้นข้าจึงเป็นสายโลหิตต้นกำเนิด."ตี้เสวียนชากล่าวอย่างเคร่งขรึม

"หืม?"

"การบำเพ็ญเพียรของเผ่าอสูรนั้น ยิ่งมีสายโลหิตบริสุทธิ์เท่านั้น ก็จะยิ่งได้รับความแข็งแกร่งจากสายโลหิตต้นกำเนิดเท่านั้น ทว่าข้าสามารถบอกเจ้าได้ ในโลกใบใหญ่นั้น มีคนที่มีสายโลหิตสูงกว่าข้าและทรงพลังน่าเกรงขามกว่าข้า ทว่าเซียนเซียนนั้น นับตั้งแต่นางเกิดมา นางก็ทรงเกียรติแล้ว ดูเหมือนว่าจะมีสายโลหิตสูงกว่าข้าด้วยซ้ำ!"ตี้เสวียนชากล่าวพลางทอดถอนใจ.

"หืม?"จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"เส้าเหยียเผ่าหมาป่า? ทำไมนางถึงได้เป็นเส้าเหยียเผ่าหมาป่าล่ะ? นางที่ไม่ได้สืบสายโลหิตจากข้า นางที่เกิดขึ้นมาก็ถูกตัดสินให้เป็นเส้าเหยี่ย เพราะว่าสายโลหิตของนางนั่นเอง."ตี้เสวียนชากล่าว.

ซาโพวที่อยู่ข้าง ๆ พยักหน้ารับเช่นกัน.

"แล้วเผ่ามังกรล่ะ?"จงซานที่ราวกับรับรู้ถึงเรื่องอะไรบางอย่าง.

"เผ่ามังกรอย่างงั้นรึ?เฮ้เอ้ เด็กหญิงก่อนหน้า เห่าเม่ยลี่อย่างงั้นรึ? นางที่มีมังกรทองน้อย ที่เป็นเส้าเหยียเผ่ามังกร ดูเหมือนว่าจะมีสายโลหิตระดับสูงตั้งแต่เด็ก ดังนั้นในเผ่ามังกร ถึงแม้ว่าจะมีพลังฝึกตนไม่สูง แต่กลับเป็นที่เคารพต่อเหล่ามังกรมากมาย."ตี้เสวียนชาตอบ.

"มีสายโลหิตที่สูงเท่าใด ก็จะยิ่งประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น? เซียนเซียนที่มีสายโลหิตต้นกำเนิดสูงกว่าเจ้า เช่นนั้นเซียนเซียน เมื่อเติบโต ขึ้นไปในอนาคตก็จะเหนือยิ่งกว่าเจ้าอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังตี้เสวียนชา.

"ถูก!"ตี้เสวียนชาพยักหน้า.

จงซานที่ถอนหายใจเบา ๆ  ตั้งแต่แรกแล้วดูเหมือนว่าเผ่าอสูรนั้น จะขึ้นอยู่กับระดับของสายโลหิต คาดไม่ถึงเลยว่าสายโลหิตที่สูงกว่าจะกำราบสายโลหิตที่ต่ำกว่าอย่างงั้นรึ?

"ทันใดนั้น จงซานราวกับว่าคิดอะไรบางอย่างได้.

"ชีวิต? สายโลหิตก็คือชีวิต? มันคือชะตาวิถีอย่างงั้นรึ?"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

ตี้เสวียนชาที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"ใช่ ชะตาวิถีของพวกเรานั้น ขึ้นอยู่กับสายโลหิต เป็นเรื่องบางอย่างที่ซับซ้อน ไม่ใช่เรื่องแปลกนัก เกี่ยวกับความเข้มข้นของสายโลหิต เผ่าอสูรมากมายต่างก็เป็นเช่นนี้ ส่วนใหญ่แล้วเผ่าอสูรทุกเผ่า แม้แต่ผีดิบ หลังจากที่พวกเขาเข้าสู่ภพหยิน หากว่าเจ้าพบเห็น สายโลหิตเหล่าอสูร ยกตัวอย่างอาชูร่า หรือจะเป็นคนทรง คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีชะตาวิถีขึ้นกับสายโลหิต สายโลหิตที่ตัดสินทุกอย่าง ยิ่งมีสายโลหิตที่สูงก็จะมีชะตาวิถีสูงส่ง และมีโอกาสที่จะได้ชะตาเซียน."ตี้เสวียนชากล่าว.

จงซานที่ชำเลืองมองตี้เสวียนชา จดจำทุกคำพูดของเขาเอาไว้ ก่อนที่จะพยักหน้ารับ.

"แล้วมีวิธีอื่นที่จะมีชะตาวิถีแบบอื่นหรือไม่?"จงซานสอบถาม.

"มี การสลายวิญญาณ เหมือนกับเหล่าภูตที่วิญญาณออกจากร่างแล้ว มีหลายอย่างที่ยากจะเห็นในทวีปศักดิ์สิทธิ์ ทว่าเมื่อเจ้าเข้าไปในภพหยิน บางทีอาจจะเห็น ทุกสิ่งในโลกใบใหญ่นั้น ทุกอย่างล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยความแปลกประหลาด จนไม่สามารถที่จะอธิบายออกมาได้."ตี้เสวียนชากล่าว.

"โลกใบใหญ่ ทุกสิ่งเต็มไปด้วยความแปลกประหลาดอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สูดหายใจลึก ดูเหมือนว่าโลกใบใหญ่นั้นตัวเองเข้าใจน้อยมาก.

"อายุขัย อย่างแรกคือชะตา อย่างที่สองคือโชควาสนา อย่างที่สามฮวงจุ้ย อย่างที่สี่ กรรม อย่างที่ห้าชื่อเสียง! ชีวิตอายุขัยนั้นอยู่นำหน้า ภายในโลกนี้ยังต้องศึกษาไปอีกไม่หยุดหย่อน!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวพลางทอดถอนใจ.

"อายุขัย? ใช่ อายุขัย!"

"เซียนเซียนนั้นมีสายโลหิตที่สูงกว่าข้า แน่นอนว่าชะตาวิถีย่อมทรงเกียรติกว่าข้า หลังจากที่กลายเป็นเซียน พลังฝึกตนของนางจะเพิ่มขึ้น และจะประสบความสำคัญได้มากกว่า ในโลกใบใหญ่นั้น นับว่าเป็นโลกที่โหดร้าย เซียนเซียนหากว่ายังเป็นดอกไม้ในเรือนแก้ว ในอนาคตจะยากที่จะเติบโต พานางไปยังภพหยิน ให้นางได้เพิ่มพูนประสบการณ์วิกฤติด้วย."ตี้เสวียนชากล่าว.

"ภายในภพหยินนั้นมีเผ่าหมาป่าด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"มี ทว่าเผ่าหมาป่าในภพหยินนั้นย่อมไม่รับฟังคำสั่งของข้า จำเป็นต้องให้เซียนเซียนเป็นคนจัดการ ข้าส่งนางไปเป้าหมายก็เพื่อฝึกฝนนาง ให้นางสามารถกำราบเผ่าหมาป่าในภพหยิน และต้องการให้นางเป็นจื่อจุ้นเผ่าหมาป่าในภพหยินให้ได้!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวตัดสินใจแน่วแน่.

"ได้ยินคำพูดของเจ้าแล้ว บางทีภพหยินคงจะวุ่นวายไม่น้อย?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"วุ่นวายอย่างงั้นรึ? ไม่ ภพหยินนั้นกฎเกณฑ์ต่าง ๆ แตกต่างออกไปจากภพหยาง เผ่าหมาป่าภพหยินนั้นมีการควบคุมดูแลต่างกัน ในภพหยินเองเผ่าหมาป่าจำต้องรับฟังคำสั่งจากจื่อจุ้น ไม่เช่นนั้นแล้วหากไม่มีจือจุ้น เผ่าหมาป่าคงจะถูกทำลายไปทั้งตระกูลนานแล้ว."ตี้เสวียนชาตอบ.

"อืม!"จงซานพยักหน้า.

"ตกลง ข้าจะนำเซียนเซียนไปยังภพหยินด้วย!"จงซานพยักหน้า.

เห็นจงซานที่รับคำเป็นมั่นเหมาะ ตี้เสวียนชารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

ก่อนที่จะหันหน้าไปยังด้านข้าง จ้องมองไปยังซาโพว.

ซาโพวที่คุกเข่าลงข้างหนึ่งในทันที แสดงท่าทางเคารพเป็นอย่างมาก.

"ซาโพว อ๋องหมาป่า ระดับราชันย์แท้ นับจากนี้ไป ข้าจะให้เขาเป็นองค์รักษ์ให้เจ้า เชื่อฟังคำสั่งของเจ้า!"ตี้เสวียนชากล่าว.

ระดับราชันย์แท้ นี่คือผู้ฝึกตนระดับราชันย์แท้ ถูกส่งออกมาราวกับเป็นสินค้าเช่นนี้เลยรึ?

ทั่วทั้งทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น บางทีคนเหล่านี้นับว่าเป็นคนที่มีเกียรติที่สูงส่ง.

ผู้ฝึกตนระดับราชันย์แท้ถูกส่งมารับใช้คนอื่นรึ? จงซานที่จ้องมองไปยังตี้เสวียนชา ด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อเช่นกัน.

ตี้เสวียนชารู้สึกพอใจกับท่าทางประหลาดใจของจงซาน.

จงซานที่สูดหายใจลึก พร้อมกับพยักหน้ารับ"ตกลง ขอบคุณ!"

ซาโพวที่ถูกส่งมารับคำสั่งของเขาอย่างงั้นรึ? แน่นอนว่ามันแตกต่างจากการอัญเชิญ ระดับราชันย์แท้จากการอัญเชิญในเวลาวิกฤติ สามารถที่จะทิ้งผู้อัญเชิญหนีไปได้ นอกจากนี้ยกเว้นแต่ในเวลาฉุกเฉินเท่านั้น ไม่เช่นนั้นย่อมไม่มีทางสนใจจงซาน.

ทว่าซาโพวในเวลานี้ แตกต่างออกไป จงซานที่กล่าวขอบคุณ แน่นอนว่าแสดงออกมาด้วยใจ.

"อืม!"ตี้เสวียนชาพยักหน้า.

.....

หกเดือนหลังจากนั้น.

จงซานที่นั่งอยู่ในห้องอักษร โดยมีหนี่ปู่ซาก้าวเข้ามาด้านใน.

"ฝ่าบาท ตำหนักหยินหยางเสร็จสมบูรณ์แล้ว ค่ายกลเส้นทางหยินหยางเอง สามารถเปิดเวลาใดก็ได้!"หนี่ปู่ซาเอ่ยปากออกมาในทันที.

"เยี่ยม! ต้องรบกวนเจ้าแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมามีความดีใจแฝงอยู่ด้วย.

"เป็นงานของข้าอยู่แล้ว!"หนี่ปู่ซาที่โค้งรับด้วยความเคารพ.

"อืม! หลังจากนี้สิบวัน จะเปิดเส้นทางหยินหยางอย่างเป็นทางการ!"จงซานกล่าว.

"รับทราบ!"หนี่ปู่ซาพยักหน้ารับ.

หลังจากที่หนี่ปู่ซาจากไป จงซานที่แจ้งข่าวไปยังคนที่เกี่ยวข้อง จากนั้นก็ปิดตัว.

ปิดตัวในครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่าใดนัก ทว่าเป็นการเตรียมการ ร่างกายทั้งสองของตัวเอง.

การเดินทางไปยังภพหยินนั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นร่างแยกเงา เพราะว่าที่ภพหยินนั้น ร่างแยกเงาย่อมทรงพลังมากกว่า ในภพหยางที่มีร่างหลักไว้คอยบัญชาการ ต้องไม่ลืมว่าราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งนั้น เขาไม่สามารถที่จะจากไปได้โดยง่าย.

ภายในห้องลับ ร่างหลักจงซานที่สะบัดมือนำสิ่งของบางอย่างออกมา.

ยันต์หยกทมิฬ! เหว่ยฉี! สร้างขึ้นมาจากกุยเซียน!เป็นของวิเศษระดับเก้า.

ร่างแยกเงาที่รับไป ก่อนที่จะนำมันผสานเข้าไปในร่างกาย ทันใดนั้นมันได้ไปซ่อนอยู่ในเรือนม่วงในทันที เดิมที่มันก็ใช้ได้สำหรับหนึ่งคน ยันต์หยกทมิฬนี้แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะหลอมขึ้นมาได้ง่าย ๆ .

ส่วนของวิเศษอื่น ๆ นั้นก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม.

ร่างหลังจงซานจะมี  ตราลัญจกรครรลองสวรรค์ โองการฟ้า ดาบฝันร้าย แปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ บัวหงหลวนเทียน.

ส่วนร่างแยกเงาของจงซานก็จะมี ยันต์หยกทมิฬกระเป่าค้างคาว กระบี่อมตะ ร่างโคลน เนตรสังสารวัฏ.

หลังจากนั้นสิบวัน ที่ด้านหน้าตำหนักหยินหยางนั้น เหล่าองค์รักษ์ทั้งหมดถูกห้ามเข้ามา ที่ด้านหน้าตำหนักนั้น มีแค่คนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น.

ผู้คนที่จะเดินทางไปยังภพหยิน ซึ่งเป็นจงซานได้เลือกแล้ว.

นอกเหนือจากหนี่ปู่ซาแล้วมีอีกแปดคน.

ร่างแยกเงาจงซาน เหว่ยไท่จง เซียนเซิงซือ หลินเซียว เซียนเซียน ซาโพว เห่าเม่ยลี่และจักรพรรดิพิษ.

คนในกลุ่มนี้เป็นจงซานที่เป็นคนกำหนดนั่นเอง.

เหว่ยไท่จงและเซียนเซียนนั้นได้ถูกตัดสินตั้งแต่ก่อนแล้ว ส่วนเพื่อจัดการความวุ่นวายที่มีในภพหยิน นอกจากซาโพวแล้ว จงซานยังเลือกเซียนเซิงซือ เพื่อเดินทางไปยังภพหยิน.

หลินเซียว คือคนที่จงซานไว้วางใจเพื่อที่จะนำไปสร้างอิทธิพลในภพหยิน.

ส่วนเห่าเม่ยลี่และจักรพรรดิพิษนั้น ที่จริงจงซานไม่มีทางเลือก เนื่องจากอ้าวซือไห่นั้นจับจ้องพวกเขาในเวลานี้ หากว่าออกจากเกาะหมาป่าสวรรค์ จะต้องถูกจับตัวอย่างแน่นอน จงซานที่รู้สึกเป็นหนี้บุญคุณคนทั้งสอง แน่นอนว่าต้องหาทางออกให้ให้พวกเขาได้หลบหนีอันตรายในครั้งนี้.

ทุกคนที่กำลังจะไปภพหยิน ในเวลานี้ มีจงซานสองร่าง ทำหลายคนรู้สึกประหลาดใจอยู่เช่นกัน.

แม้ว่าจะรับรู้ว่าจงซานนั้นมีร่างโคลน ทว่าหากไม่เห็นกับตาก็จะไม่รู้ว่าร่างทั้งสองนั้นเหมือนกันเป็นอย่างมาก เมื่อยืนอยู่ข้าง ๆ กัน จึงทำให้รู้สึกแปลกประหลาด.

แม้แต่เทียนหลิงเอ๋อและหญิงสาวคนอื่น ๆ  ยังไม่กล้าแตะต้องจงซานเวลานี้ ด้วยกลัวว่าจะพบเข้ากับตัวปลอม.

"เอาล่ะ เข้าไปยังตำหนักหยินหยางได้!"ร่างแยกเงาจงซานเอ่ย.

"รอก่อน!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาในทันที.

ทุกคนที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

ด้วยการสะบัดมือหนึ่งครั้ง เซียนเซิงซือนำเหยือกขนาดเล็กออกมา ก่อนที่จะเดินไปยังร่างหลักของจงซาน.

"ฝ่าบาท นี่คือน้ำยารวมวิญญาณที่ฝ่าบาทเคยใช้ก่อนหน้านี้ หากว่ามีใครที่ต้องใช้ ให้หยดใส่ร่างของเขา เพื่อสร้างร่างให้กลายเป็นภูต ในนี้มีทั้งหมด 60 หยด ไว้ให้ฝ่าบาทในภพหยางใช้งาน!"เซียนเซิงซือกล่าว.

สิ่งนี้นับว่าเป็นของดีทีเดียว ก่อนหน้านี้เขาได้ใช้ยารวมวิญญาณใส่ร่างของหานจื่อกวงให้กลายเป็นภูต ก่อนที่จะใช้แสงแดดแผดเผา จนไม่สามารถจุติใหม่ได้.

สิ่งนี้ สามารถสร้างภูตได้ถึง 60 ตน แน่นอนแม้ว่าเป้าหมายสำคัญนั้นเพราะจงซานสามารถสร้างทางเชื่อมต่อภพหยินขึ้นมาได้ กล่าวอีกอย่างหนึ่ง เหล่าคนผู้มากความสามารถ ทำงานให้กับราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง หากว่าพวกเขาตายไปก็ต้องเป็นภูตทำงานให้กับต้าเจิ้งเช่นเดียวกัน.

"อืม!"ร่างหลักจงซานที่พยักหน้า และรับขวดหยกนั้นมา.

จากนั้น คนทั้งเก้าก็เดินเข้าตำหนักหยินหยาง.

ประตูตำหนักหยินหยางที่ปิดเสียงดัง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด