Chapter 526 อันหวงลงมือ
อี้เหยี่ยนที่ออกคำสั่ง ลอบโจมตีจากใต้พื้นดิน เปิดน้ำพุหยางออกมาอย่างรวดเร็ว.
น้ำพุหยาง ปราณความร้อนที่หนักหน่วงรุนแรงที่ระเบิดออกมา ไม่ใช่เปลวเพลิงทั่วไป แต่มันคือปราณความร้อนที่หนักหน่วงรุนแรง.
ที่นี่น้ำพุหยาง ซึ่งเคยเป็นภูเขาไฟมาก่อน อี้เหยี่ยนที่ใช้สภาพภูมิประเทศช่วยเหลือ หลังจากวิเคราะห์เรื่องราวต่าง ๆ แล้ว จึงได้เตรียมการวางเส้นทางเช่นนี้ขึ้นมา.
ในเวลานี้เหล่าแมลงได้เข้ามาในกับดักแล้ว.
เมื่อมันเข้ามาในระยะที่ได้คาดการณ์เอาไว้อย่างพอดี อี้เหยี่ยนก็ทำการเปิดประตูนรกขึ้นมาในทันที.
ปราณพลังที่รุนแรงมากมายมหาศาลระเบิดออกมา พวยพุ่งขึ้นไป ความร้อนที่พุ่งผ่านอากาศเกิดเปลวเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง.
เพลิงนี้เกิดขึ้นเร็วมาก พริบตาเดียวที่ความร้อนพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน เปลวเพลิงก็กลืนแมลงทั้งหมดไปในทันที.
แมลงทมิฬทุกตัวอ่อนแอลงในทันที ผีเสื้อทองหกปีกที่มีสายโลหิตเซียน แน่นอนว่าสามารถต้านเปลวเพลิงได้ทุกชนิด ทว่าต่อหน้าปราณความร้อนที่รุนแรงก็ไม่ง่ายดายนัก.
ปราณความร้อนที่มากมายนับไม่ถ้วน ทั่วทั้งท้องฟ้าถูกย้อมไปด้วยแสงสีแดง ท้องฟ้าแดงฉานปกคลุมไปทั่วทุกสารทิศ.
พื้นที่รอบ ๆ เวลานี้ อี้เหยี่ยนได้เตรียมการเอาไว้แล้ว ด้วยการให้เหล่าผู้ฝึกตนมากมายกระจายไปรอบ ๆ พร้อมกับสร้างสายลมขึ้นมา พร้อมกับโบกสะบัดให้เปลวเพลิงโหมกระหน่ำ และแมลงไม่สามารถหนีออกมาจากพื้นที่กำหนดได้.
ร้อน เป็นเปลวเพลิงที่บ้าคลั่งมาก.
นี่คือแผนการของอี้เหยี่ยนในการใช้เพลิงโจมตี ทำลายล้างแมลงที่มากมายมหาศาลไป และจะต้องเป็นทัพที่โง่งมด้วย ถึงได้ถูกเปลวเพลิงโจมตีเช่นนี้ได้.
แมลงมากมายที่หมุนวนล้อมรอบตรงกลางเอาไว้ แมลงสีทองตนหนึ่งที่หวาดผวาตื่นกลัว แมลงหลายหมื่นตัวที่หมุนวนขวางกั้นมันเอาไว้ตรงกลางในทันที ซึ่งในเวลานั้นก็ค่อย ๆ เผยให้เห็นเซียนเซิงฉงปรากฏออกมา.
เซียนเซิงฉงในเวลานี้ไม่คิดเลยว่าอี้เหยี่ยนจะใช้เปลวเพลิงโจมตี ในเวลานี้ท้องฟ้าที่ถูกย้อมไปด้วยเปลวเพลิง แม้แต่ร่างกายของเขายังได้รับความเสียหายอย่างหนัก ยังคงมีแมลงไม่มากนักที่ยังเหลือรอด ทว่าพลังของเขาที่ตกลงไปเกือบทั้งหมด.
หนี! ทำได้แค่หนีเท่านั้น.
เซียนเซิงฉงที่ได้วาดฝันก่อนหน้านี้ ชื่อของเขาที่จะสั่นสะเทือนไปทั่วหล้า ด้วยการจัดการราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง ทว่าตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเสียเปรียบอย่างหนัก และบาดเจ็บเจียนตาย และคงทำได้แค่เพียงสังหารกองกำลังเซียนเซิงซือเท่านั้น.
ไม่ เซียนเซิงซือ และทัพของเขาในเวลานี้ ไม่ใช่ฝีมือเขา แต่กลับเป็นเจ้าเมืองหลิวเหอ ตัวเขาแทบจะยังไม่ได้สังหารใครตายเลยสักคน!
คิดที่จะสังหารศัตรู กลับกลายเป็นว่าตัวเองถูกกำราบไปซะเอง.
เซียนเซิงฉงในเวลานี้แทบร้องไห้ออกมา โชคร้ายเกินไปแล้ว! การสร้างชื่อที่สั่นสะเทือนสวรรค์รึ? กลายเป็นเพียงแค่เรื่องตลกที่ขำไม่ออกเท่านั้น!
หนีเหรอ?
ด้วยสภาพในเวลานี้ของเซียนเซิงฉิง ต้องการจะหนี? ดูเหมือนว่านี้คือแผนการของอี้เหยี่ยน ถึงเขาจะหนี ทว่าจะต้องมีคนคอยปิดทางหนีของเขาเอาไว้แล้วอย่างแน่นอน กองทัพ 2 ล้านคน ในเวลานี้ได้ซุ่มรออยู่แล้ว.
เปลวเพลิงที่ลุกไหม้ไปทั่วท้องฟ้า ทำร้ายแมลงของเซียนเซิงฉง กำจัดเหล่าแมลงร้ายจนหมดสิ้น แม้แต่ตัวเขาก็ถูกเผาไหม้ไปด้วย.
นี่ไม่ใช่เพราะว่าเซียนเซิงฉงไร้สามารถ ทว่าเมื่อเขามาเจออี้เหยี่ยน แม้ว่าจะทำลายล้างกองกำลังเจียงซือไปได้ ท้ายที่สุดก็ต้องจบลงเมื่อต้องพบกับอี้เหยี่ยน.
ไม่มีใครรับรู้ว่าอี้เหยี่ยนนั้นยอมรับใช้คนอื่นอย่างงั้นรึ?
ความแข็งแกร่งของอี้เหยี่ยนนั้นไม่มีใครไม่รู้จัก ในทวีปศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้นับว่าเป็นตัวตนในระดับต้น ๆ การสงครามของเขา มีคนได้รับบาดเจ็บล้มตายน้อยที่สุด นี่คือความสามารถที่น่าตื่นตะลึง.
ในเวลาเดียวกัน การที่อี้เหยี่ยนรับใช้ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง ยิ่งปลุกเร้าให้ทุกคนอยากรู้อยากเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จักรพรรดิจงซาน.
กับตัวตนของจงซานนั้นเป็นเช่นไร?
เหล่าผู้สังเกตการณ์มากมายจากหลากหลายกลุ่มอิทธิพล ได้ส่งข่าวกลับไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาที่ติดตามข่าวสารกันอย่างระเอียดไม่มีพลาดแม้แต่เหตุการณ์เดียว.
ในเวลาเดียวกัน เซียนเซิงซือ กองกำลังโครงกระดูกที่เสียหายและกลับกลายฟื้นฟูกลับมาเป็นกองกำลังเจียงซืออีกครั้งและเริ่มไล่ล่าสังหารคนของเมืองหลิวเหออย่างสมบูรณ์.
ตลอดเส้นทางที่ทัพของพวกเขาเคลื่อนที่ผ่าน.
ทุก ๆ เมืองจะต้องถูกสังหารไปทั้งหมด.
ทัพของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งแข็งแกร่งน่าเกรงขามมาก.
กับทัพที่น่าหวากกลัวเช่นนี้ ยังมีใครเป็นคู่ต่อสู้.
สงครามที่รุกคืบเข้ามาเรื่อย ๆ เสียงบอกเล่าจากปากสู่ปาก ความน่ากลัวของจงซาน ได้ทำให้ประชาชนทั่วไปของต้ากวงตอนนี้ขวัญหนีดีฝ่อ แม้แต่เหล่าทหารยังรู้สึกหวาดกลัว.
ในเวลานี้ภายในเมืองที่ดูอ้างว้างเงียบงัน ยิ่งทำให้เหล่าทหารหัวใจหวั่นไหวปรากฏขึ้นมาในใจ.
กองกำลังของต้าเจิ้ง ไม่เพียงแต่ทรงพลัง ทว่ายังโหดเหี้ยมดุร้าย ทำให้เขย่าขวัญสั่นคลอนจิตใจคนเป็นจำนวนมาก.
..............
ราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวง เมืองเทียนกวง.
ภายในท้องพระโรง หัวใจของเหล่าข้าราชบริพารที่รัดแน่น หัวใจที่สั่นไหวหวั่นเกรง แม้ว่าจักรพรรดิของพวกเขาหานจื่อกวง ตอนนี้จะยังสุขุมอยู่ก็ตาม.
เซียนเซิงฉงได้ตายไปแล้ว ทว่าหานจื่อกวงก็ยังมีไพ่ลับในมืออีก!
มารเฒ่าส่วยจิง! นี่คือผู้ฝึกตนคำสาปที่แข็งแกร่งน่าเกรงขาม!
เมืองเทียนกวง ลานที่พักด้านหลังพระราชวัง สถานที่แห่งนี้คือเขตหวงห้าม.
ยกเว้นจักรพรรดิหานจื่อกวงและอ๋องหานฉวงแล้ว ไม่อนุญาตให้คนอื่นเข้าใกล้ ๆ แม้แต่องค์รักษ์ยังต้องคุ้มกันอยู่ด้านนอก ที่ด้านในนั้นมีประกายแสงที่ส่องประกายอยู่เจ็ดวันเจ็ดคืน.
ที่ด้านในนั้น มีแท่นพิธีขนาดใหญ่ บนแท่นพิธีนั้น มีชายที่แปลกประหลาดนั่งอยู่ สวมชุดสีขาว รูปร่างเหมือนกับคนทั่วไป ทว่าใบหน้านั้นเต็มไปด้วยประกายแสง ผิวหนังของเขาเรืองแสงออกมา มันขลับ ดูน่าเกียจน่ากลัวอย่างที่สุด.
มารเฒ่าส่วยจิงนี่คือคนที่หานจื่อกวงบอกกล่าวนั่นเอง.
มารเฒ่าส่วยจิงที่นั่งสมาธิหลับตาแน่น ปากของเขาที่ทำการบริกรรมคาถาไม่หยุด ที่ด้านหน้าของมารเฒ่าส่วยจิงนั้น มีหุ่นฟางหกร่าง บนร่างของคนทั้งหกนั้น มีอักขระที่แปลกประหลาดติดอยู่.
บนตุ๊กตาฟางนั้นมีชื่อติดอยู่ มีชื่อจงซาน หลินเซียว อี้เหยี่ยน เซียนเซิงซือ สุ่ยอู๋เหินและสุ่ยจิง.
บนตำแหน่งตุ๊กตาฟางของหลินเซี่ยวและสุ่ยอู๋เหินนั้น มีเวลาตกฟากของพวกเขาติดอยู่ด้วย.
บนหัวของตุ๊กตาฟางนั้นมีตะเกียงน้ำมัน ใต้ตะเกียงน้ำมันนั้น มีสัญลักษณ์บางอย่างที่แปลกประหลาด.
มารเฒ่าส่วยจิงที่บริกรรมคาถา ทันใดนั้น ดวงตาก็ลืมขึ้นในทันที ดวงตาที่ลึกเข้าไปข้างใน ดวงตาโบ๋หลุบเข้าไปด้านใน มองไม่เห็นได้อย่างชัดเจน ดูน่าเกลียดน่ากลัวเป็นอย่างมาก.
มารเฒ่าส่วยจิงนั้นได้สะบัดมือหนึ่งครั้ง บนมือของเขามียันต์หกแผ่น ก่อนที่จะประทับลงไปบนหุ่นฟางทั้งหก อักขระที่แปลกประหลาดบนยันต์ที่ส่องสว่างเหมือนกับเปลวเพลิง หากแต่ไม่ลุกไหม้ ส่องประกายแสงสว่างวับวาว.
ขณะที่แสงหายไป มารเฒ่าส่วยจิงก็นั่งสมาธิ หลับตา พร้อมกับบริกรรมคาถาที่แปลกประหลาดต่ออีก.
ทว่าในเวลาเดียวกัน ในสนามรบ.
หลินเซียวที่สั่งการให้สังหารคนทั้งเมือง.
"พรึด!!"
หลินเซียวที่พ่นโลหิตออกมาคำโต ร่างกายที่อ่อนแอลง พร้อมกับใช้กระบี่ค้ำร่างตัวเองไว้ ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นซีดเซียว.
"จอมพล!"ขุนพลที่อยู่ข้าง ๆ อุทานออกมา.
"สังหารต่อไป หลังจากสังหารเสร็จแล้ว ให้นำข้าไปหาฝ่าบาท!"หลินเซียวที่กล่าวออกมาอย่างยากลำบาก.
"รับทราบ!"ใบหน้าของขุนพลต่างก็แสดงท่าทางเป็นกังวล ทว่าก็รับคำสั่งในทันที.
เหมือน ๆ กัน ตำแหน่งของสุ่ยอู๋เหิน
"จอมพล!"ขุนพลที่อุทานออกมา.
"สังหารต่อไป กองกำลังจงจะต้องทำหน้าที่ให้เสร็จ เมืองสุดท้ายแล้ว กองกำลังที่ห้าจะล่าช้ากว่าคนอื่นไม่ได้ สังหารเสร็จสิ้นแล้ว ให้พาข้าไปหาฝ่าบาท!"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาเช่นกัน.
จากนั้นนั้นสุ่ยอู่เหินที่ทรุดลงช้า ๆ .
"รับทราบ!"เหล่าขุนพลที่รับคำด้วยน้ำตานองหน้า.
กองกำลังทั้งสี่ที่สังหารคนทั้งเมือง.
หลังจากนั้นเมืองในปกครองของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งก็ถูกสังหารไปทั้งหมด เหลือเพียงแค่เมืองหลวง เมืองเทียนกวง.
กองกำลังของจงซาน ได้เคลื่อนที่เข้าประชิดเมืองเทียนกวงแล้ว ตอนนี้ตั้งทัพอยู่ด้านนอก ทัพทั้งหมดที่ตั้งค่ายใหญ่อยู่รวมกัน.
ภายในห้องโถงใหญ่ ห้องบัญชาการ.
จงซานที่จ้องมองหลินเซียวและสุ่ยอู๋เหินที่นอนอยู่บนแคร่หาม.
"นี่คือวิชาคำสาป!"เซียนเซิงซือกล่าวอย่างมั่นใจ.
"สามารถรักษาได้หรือไม่?"จงซานสอบถาม.
"ในตำราคำสาปแช่งทั้ง 77 นั้น! นี่นับว่าเป็นคำสาปที่ร้ายแรงมาก ไม่จำเป็นต้องต้องอยู่ใกล้คนผู้นั้น เพียงแค่รับรู้เวลาตกฟากและชื่อ ก็สามารถสาปคนผู้นั้นได้ ทุก ๆ เจ็ดวันจะต้องประทับยันต์เปลวเพลิง หลังจากผ่านไปเจ็ดครั้ง 49 วัน ก็จะสามารถสังหารคนผู้นั้นได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีเวลา มีเวลาอีกไม่น้อย ตราบเท่าที่สามารถสังหารผู้ฝึกตนคำสาปนี้ได้ คำสาบก็จะสลายไปเอง!"เซียนเซิงซือกล่าว.
"สังหารผู้ฝึกตนคำสาปอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของจงซานที่เบิกกว้าง ในเวลาเดียวกันนี้ยิ่งทำให้เขาเกลียดชังหานจื่อกวงเข้าไปอีก.
ภายในเมืองเทียนกวง.
"พี่ใหญ่ มารเฒ่าส่วยจิงร้ายกาจจริง ๆ วิชาคำสาปแช่งนี้ ทำให้ทัพของจงซานหยุดลง."หานฉวงที่กล่าวออกมา.
"หยุดแล้วอย่างไร? ราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวงนั้นจบแล้ว ทัพของจงซานนั้นเร็วมาก เร็วเกินไปแล้ว!"หานจื่อกวงที่กล่าวออกมาพลางทอดถอนใจ.
"อย่างไร ไว้รอให้มารเฒ่าจื่อกวงสังหารจงซานและคนอื่นด้วยคำสาปเร็ว ๆ ไม่ใช่ว่าต้าเจิ้งก็จบสิ้นแล้วรึ? ในเวลานั้น พวกเราก็ยึดผลประโยชน์ทั้งหมดของพวกมันมา."หานฉวงที่กล่าวเสียงดัง.
หานจื่อกวงที่จ้องมองหานฉวงด้วยสายตาที่เย็นชา หากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใด? คิดว่ามันง่ายที่จะทำสำเร็จอย่างงั้นรึ? ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีกลุ่มอิทธิพลใดบ้างที่จับจ้องอยู่ ไม่รู้ว่ามีสายตามากมายขนาดใหนที่จ้องมองมา คิดว่าจะเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อะไรได้ คราวแรกการก่อตั้งราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวงเป็นความลับเงียบ ๆ เท่านั้น.
"เอาล่ะ พวกเราไปดูมารเฒ่าส่วยจิงดีกว่า."หานจื่อกวงกล่าว.
คนทั้งสองที่พุ่งตรงไปยังพื้นที่หวงห้าม สถานที่แห่งนี้จะปลดปล่อยแสงออกมาทุกเจ็ดวัน สถานที่แห่งนี้ห้ามให้ผู้คนเข้ามา และยังมีค่ายกลปกป้องสัมผัสเทวะเพื่อการตรวจสอบอีกด้วย.
ขณะที่ทุกคนมาถึงด้านใน.
"ทำไมเป็นเช่นนี้? เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?"หานฉวงที่เอ่ยออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับพุ่งตรงไปยังแท่นพิธีขนาดใหญ่.
หานจื่อกวงนั้นรู้สึกไม่ดีนัก ร่างกายของเขาที่เคลื่อนที่ไปบนแท่นพิธีดังกล่าวในทันที.
บนแท่นพิธีนั้น เต็มไปด้วยหลุมบ่อ หุ่นฟางในเวลานี้ได้หายไปแล้ว ส่วนมารเฒ่าส่วยจิงนั้น ร่างกายของเขาที่มีรูขนาดใหญ่ 70-80 รู.
โลหิตที่ไหลกระจายไปรอบ ๆ เรือนหยาง ตานเถียน หน้าผากและเรือนหยาง ทุกแห่งถูกทะลวง.
นี่เป็นการสังหารที่ดุร้ายทารุณเป็นอย่างมาก ฝ่ายตรงข้ามที่ตกตายอย่างสมบูรณ์ ตายอย่างแน่นอน มารเฒ่าส่วยจิงตายไปได้อย่างไร?
เป็นไปได้อย่างไร? ใครที่ลอบสังหารมารเฒ่าส่วยจิงกัน.
ไพ่ลับของหานจื่อกวง ตกตายไปแล้วอย่างงันรึ?
"มารเฒ่าส่วยจิง มารเฒ่าส่วยจิง!"หานฉวงที่เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย สายตาของเขาที่จ้องมองไปรอบ ๆ หากแต่ไม่สามารถมองเห็นร่องรอยอะไรได้เลย มารเฒ่าส่วยจิงถูกสังหารอย่างโหดร้าย ถูกแทงมากมายหลายสิบแผล ใครกัน? ใครกันที่สามารถเข้ามาในค่ายกลได้? น่ากลัว? มีใครซ่อนอยู่รอบ ๆ นี้หรือไม่?
หานจื่อกวงที่เดินเข้ามาใกล้ ๆ จดจ้องมองศพของมารเฒ่าส่วยจิง พร้อมกับสูดหายใจลึก ยื่นมือขวาออกไป นิ้วของเขาที่หยดโลหิตลงไป พร้อมกับเขียนอักขระแปลก ๆ ขึ้นบนอากาศ จากนั้นก็ชี้ไปยังร่างของมารเฒ่าส่วยจิง.
"ฟรึบ ๆ !"มารเฒ่าส่วยจิงที่ลืมตาขึ้นมา.
"ยังมีชีวิตอยู่อีกรึ?"หานฉวงที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"จิตสำนึกสุดท้ายก่อนตาย ไม่สามารถช่วยได้แล้ว."หานจื่อกวงที่ส่ายหน้าไปมา.
มารเฒ่าส่วยจิงที่จ้องมองไปยังหานจื่อกวง ทันใดนั้นก็เอ่ยปากออกมาว่า"อันหวง เขามีนามว่าอันหวง มันชิง’อาคมมารสวรรค์’ของข้าไป ล้างแค้นให้กับข้าด้วย!"
คำพูดสุดท้าย ประกายแสงบนดวงตาของมารเฒ่าส่วยจิงค่อย ๆ หายไป ดวงวิญญาณที่แตกสลาย หายไปอย่างสมบูรณ์.