ตอนที่แล้วChapter 520 ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 522 ทะเลโลหิต.

Chapter 521 ซือต่านยามา


เกาะหมาป่าสวรรค์ ทิศตะวันออก ตำหนักของตี้เสวียนชา.

ภายในห้องโถง อ๋องหมาป่าซาโพวที่กล่าวด้วยความเคารพต่อตี้เสวียนชา.

"ซาโพว เจ้าพูดจริง ๆ รึ?"ตี้เสวียนชากล่าวออกมาด้วยความจริงจังจดจ้องมองไปยังซาโพว.

"ครับ ข้าเห็นได้อย่างชัดเจน ขณะที่จงซานมองมา ดูเหมือนว่าจะน่าสะพรึงยิ่งกว่าจื่อจุ้นสะอีก."ซาโพวกล่าว.

ตี้เสวียนชาที่เงียบไปชั่วครู่.

"วิชาเนตรอย่างงั้นรึ? จงซานเป็นผู้มีสายโลหิตตกทอดรึ? เป็นไปไม่ได้ที่จะสืบทอดวิชาเนตรได้ หรือว่าเป็นวิชาที่คิดค้นเองกัน?"ตี้เสวียนชาที่ขมวดคิ้วพูดกับตัวเอง.

คิดค้นวิชาเนตรเองอย่างงั้นรึ? หากแต่ซาโพวเต็มไปด้วยความสงสัยชัดเจน ไม่เข้าใจคำว่าวิชาเนตรแต่อย่างใด.

"จื่อจุ้น อะไรคือวิชาเนตร?"ซาโพวที่สอบถามออกมา.

ตี้เสวียนชาที่จดจ้องมองไปยังซาโพว.

"ซาโพว เก็บความอหังการของเจ้าเอาไว้ หลังจากนี้จงติดตามจงซานอย่างเต็มใจ!"ตี้เสวียนชาที่กล่าวออกมาด้วยความจริงจัง.

"หืม?จื่อจุ้น!"ซาโพวที่ชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย.

"จงจำไว้ เผ่าหมาป่าของพวกเราจะทรงพลังรุ่งเรืองในวันข้างหน้า จงซานจะเป็นตัวแปรสำคัญ!"ตี้เสวียนชากล่าว.

"ครับ จื่อจุ้น!"ซาโพวที่ตอบรับในทันที.

เผ่าหม่าป่าจะรุ่งเรืองกว่าก่อน ยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าซาโพวนั้นเชื่อใจตี้เสวียนชา ในเมื่อตี้เสวียนชากล่าวเช่นนั้น แน่นอนว่าจะต้องเป็นเช่นนั้นจริง.

ทวีปศักดิ์สิทธิ์ ในเมืองกวงหลิง.

ร่างแยกเงาจงซานที่นั่งอยู่ในห้องโถง หลายวันมานี้ ข้อมูลทุกอย่างเป็นเฉียนโหยวเป็นคนจัดการ.

จงซานยังคงควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เมื่อทุกอย่างกลับมาเสถียรดวงตาของจงซานก็ค่อย ๆ กลับมาเป็นปรกติเหมือนเดิม ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลา ในการควบคุมเนตรสังสารวัฏ.

เหล่าศัตรู มากมายในเวลานี้ถูกจัดการไป โดยเฉพาะกองกำลังเจียงซือของเซียนเซิงซือ ที่สามารถกำจัดราชวงศ์จักรพรรดิไปสองแห่งแล้ว และยังมีอีกหลายทัพที่ถอนกำลังหนี.

ระหว่างนี้เกี่ยวกับการบริหารงาน ทุกอย่างเป็นเฉียนโหยวจัดการ.

อย่างไรก็ตาม การโจมตีของเซียนเซิงซือนั้นน่าหวาดกลัวมาก เมืองต่าง ๆ ถูกทำลายลงย่อยยับ กลายเป็นดินแดนแห่งความตาย เต็มไปด้วยปราณความตายที่หนาแน่น ไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต ทุกอย่างตายลง ตกตายอย่างสมบูรณ์ ตอนนี้เซียนเซิงซือได้กลับมายังเมืองหลวงก่อนแล้ว.

..........

"ขั้นตอนที่ฝ่าบาท ได้กล่าว สิ่งนั้นคืออะไร? ฝ่าบาทได้มอบสิ่งใดให้กับภูตหยิงหลานอย่างงั้นรึ? เป็นแผ่นสีเหลี่ยมสีดำอย่างงั้นรึ!"เซียนเซิงซือที่ดวงตาเบิกกว้าง ใบหน้าไม่อยากเชื่อจดจ้องมองไปยังจงซาน.

"ซือต่าน!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

"ซือ ซือตาน? ซือตานบัญชายมบาลอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.

เซียนเซิงซือจ้องมองจงซานด้วยความอัศจรรย์ใจ ใบหน้าไม่อยากเชื่อ ซือต่าน? ซือตานอย่างงั้นรึ?

"ฝ่าบาท ท่านได้ซือตานมาจากภพหยินอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่กล่าวสอบถามต่อ แววตาที่เต็มไปด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.

"ใช่แล้ว มันน่าจะปรากฏขึ้นมาในโลกใบนี้พันปีก่อนแล้ว."จงซานพยักหน้ารับ.

ได้ยินจงซานกล่าวยืนยัน เซียนเซิงซือที่น้ำตาแทบไหล ด้วยความรู้สึกเสียดาย.

"เป็นซือต่าน มันคือซือต่านจริง ๆ !"เซียนเซิงซือที่ฝืนยิ้มออกมา.

หากก่อนหน้านี้รู้ว่าฝ่าบาทมีซือตานแล้วล่ะก็ เขาคงทูลขอไปแล้ว สายไปแล้ว ตอนนี้สายไปแล้ว! ซือตานได้กลับคืนสู่ภพหยินแล้ว.

"อะไรคือซือตานอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"ฝ่าบาท เฉินเคยบอกแล้วว่าเฉินนั้นมาจากโลกใบใหญ่."เซียนเซิงซือกล่าว.

จงซานจับจ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ จากนั้นรอคอยเขาพูดต่อไป.

"โลกใบใหญ่นั้นก็แยกออกเป็นสองภพหยินหยาง หนึ่งคือภพหยินและอีกหนึ่งคือภพหยาง ข้ามาจากภพหยินของโลกใบใหญ่ ทว่าโลกใบเล็กนี้ ผิดปรกติ ที่จริง โลกแห่งนี้ก็ก็แยกออกเป็นภพหยินหยางเช่นกัน ภพหยางก็คือสถานที่พวกเราอยู่ในเวลานี้ ทว่าภพทั้งสองของโลกใบใหญ่นั้นแข็งแกร่งมาก มีเพียงแค่บางคนที่มีเซียนฟางเท่านั้นถึงจะออกมาได้ ทว่ามีคนน้อยมากที่มีมัน ม่านพลังป้องกันนั้นไม่มีทางที่จะทำการแยกสวรรค์สะบั้นปฐพี เปิดออกมาได้ ทว่าโลกใบเล็ก ภพหยินนั้นแตกต่าง แม้ว่ามันจะแยกออกจากโลกใบใหญ่อย่างสิ้นเชิง ทว่าม่านพลังป้องกันมันนั้นค่อนข้างอ่อนแอ เหล่าภูตที่ทรงพลังไม่จำเป็นต้องก้าวไปถึงกุยเซียนก็สามารถออกไปได้ ทว่าเหล่าภูตที่ออกไปนั้น การจะเข้าไปภพหยางนั้นแทบเป็นไม่ได้เลย มันมีข้อจำกัดอีกหลายอย่าง."เซียนเซิงซือกล่าว.

"หืม?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"ถ้าเปรียบโลกใบเล็กเป็นไข่ ครึ่งหนึ่งของไข่ก็คือภพหยาง ส่วนอีกครึ่งหนึ่งก็คือภพหยิน เปลือกหุ้มด้านภพหยินนั้นจะอ่อนนุ่มมากกว่านั่นเอง."เซียนเซิงซืออธิบาย.

"อืม!"

"ฝ่าบาท ท่านรู้จักซือตานยามาหรือไม่?"เซียนเซิงซือกล่าว.

[***十殿閻羅王 ซือตานยามา (10 ยมราชแห่งนรกภูมิ)]

"ข้าเคยเห็นหนี่ปู่ซาทำการเรียกตำหนักสังสารวัฏคฤหาสน์อเวจี!"จงซานกล่าว.

"ใช่แล้วตำหนักสังสารวัฏนั้น มีสิบตำหนักด้วยกัน ตำหนักชินกวง ตำหนักชอกัง ตำหนักส่งตี้ ตำหนักโห่วกัว ตำหนักเงี่ยมล้อ ตำหนักเปี่ยงเซ้ง ตำไถ่ซัว ตำหนักเพ่งเจ๋ง ตำหนักโตวซี ตำหนักจวงลุ้ง จะอยู่ที่ขอบเขตของโลกใบเล็ก ตำหนักสังสารวัฏก็จะมีผู้ปกครองของตำหนักต่าง ๆ !"เซียนเซิงซือกล่าว.

"สิบตำหนัก สิบยมบาล?"จงซานกล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ใช่แล้ว สิบตำหนักสิบยมบาล แม้ว่าจะไม่ใช่ภพหยินของโลกใบใหญ่ ทว่าภพหยินของโลกใบเล็ก ความแข็งแกร่งของแต่ละตำหนักนั้นไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าราชวงศ์สวรรค์เลย."เซียนเซิงซือกล่าว.

"ข้าคิดว่าบางที ในอดีตหนี่ปู่ซาได้สร้างโลกที่เชื่อมต่อขึ้นมา กลิ่นอายของตำหนักสังสารวัฏนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ และยังมีแรงกดดันวิญญาณเหนือกว่าเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย."จงซานพยักหน้า.

"ใช่แล้ว ความแข็งแกร่งของตำหนักสังสารวัฏนั้น ไม่ได้ด้อยไปกว่าราชวงศ์สวรรค์ ทว่าฝ่าบาทจะต้องรู้อีกด้วยว่า สิ่งที่มอบให้หยิงหลาน ซือตาน นั่นคือคำบัญชาของสิบยมบาล ทรงอำนาจมาก."เซียนเซิงซือกล่าว.

"ทรงอำนาจรึ??"จงซานสอบถาม.

"เกี่ยวกับซือตานยามานั้น เป็นคำบัญชาของยามาทั้งสิบตำหนัก ซือตานยามานั้น เป็นถ้อยคำของยามาทั้งสิบ ในอดีตที่โลกใบใหญ่นั้นทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้ว่ามีผู้เยี่ยมยุทธมากมายเท่าไหร่ที่ต้องการ ท้ายที่สุดซือตานยามานั้นก็ได้หายไป ไม่มีใครรู้ หลาย ๆ คนคาดเดาว่าอาจจะอยู่ในมือผู้เยี่ยมยุทธ์คนหนึ่ง บางคนก็บอกว่าซือตานยามานั้นถูกทำลายไปแล้ว คาดไม่ถึงเลย สุดท้ายก็มาอยู่ในมือของฝ่าบาท เรื่องนี้....."เซียนเซิงซือที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

เมื่อมันเป็นของวิเศษจากโลกใบใหญ่ แน่นอนว่าจะต้องเป็นสิ่งของที่สั่นสะเทือนสวรรค์ ซือตานยามา กลับกลายเป็นสิ่งของสำคัญที่คนทั่วโลกใบใหญ่หวั่นเกรงเลยรึ?

คาดไม่ถึง คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะตกมาอยู่ในมือของจงซานอย่างคาดไม่ถึง แม้แต่ถูกจงซานใช้ไป.

แม้แต่เซียนเซิงซือที่มาจากโลกใบใหญ่เห็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากมาย ในเวลานี้ยังต้องยอมรับความน่าอัศจรรย์ใจของจงซาน ซือตาน ผู้เยี่ยมยุทธ์มากมายต่างแย่งชิงกัน ท้ายที่สุด คาดไม่ถึงกลับมาอยู่กับฝ่าบาท?

หากว่าเขาได้มันมาก็ดี! ภายในใจของเซียนเซิงซือรู้สึกเศร้าใจมาก หากรู้ก่อนหน้านี้คงขอฝ่าบาทไปแล้ว ไม่มีทางที่จะปล่อยไปเช่นนี้แน่ ด้วยซือตานยามานั้นใช้ประโยชน์ได้มากมาย.

ความน่าเกรงขามของซือตานยามานั้น เทียบเท่ากับพลังของสิบราชวงศ์สวรรค์รวมกันเลยทีเดียว.

เซียนเซิงซือจดจ้องจงซานด้วยท่าทางปรกติ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรไปดี เหนือหัวผู้นี้ มีอะไรที่แปลกประหลาดมากมายขนาดใหนกัน? นี่คือตัวตนที่ต่อต้านสวรรค์โดยแท้จริง หากว่าเขาได้สิ่งของนั่นมาใช้งาน จะเป็นยิ่งกว่าสิ่งของที่ต่อต้านสวรรค์สะอีก น่าเสียดายนัก.

ในเวลาเดียวกันเกี่ยวกับจงซาน เซียนเซิงซือเวลานี้ยิ่งรู้สึกนับถือ และเคารพจงซานยิ่งขึ้นไปอีก.

ส่วนจงซานในเวลานี้รู้สึกโล่งเบาใจ.

ซือตานยามารึ? ในเมื่อเป็นสิ่งของที่น่าเกรงขาม เช่นนั้นก็ดีแล้ว หนี่ปู่ซาบอกว่าหลังจากที่ตายไป หากว่าได้กลายเป็นภูต ร่างกายในช่วงแรกนั้นจะอ่อนแออย่างที่สุด ตอนนี้มีซือตาน หยิงหลานจะต้องเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว.

ได้ยินว่าภพหยินนั้นเป็นดินแดนที่ป่าเถื่อนดุร้าย หวังว่าหยิงหลานจะสามารถผ่านมันไปได้ด้วยดี.

"เซียนเซิงซือ เจ้าจงออกไปยึดครองอาณาเขตอื่นอีก เร่งรีบยึดครองดินแดนแห่งความวุ่นวายให้ได้ทั้งหมด."จงซานที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"รับด้วยเกล้า!"เซียนเซิงซือที่รับคำและออกไปในทันที.

หากว่าเขาได้ยินเรื่องซือตานก่อนหน้านี้ เซียนเซิงซือคงทูลขอเพื่อนำมาใช้เสริมกำลังแน่ ทว่าในเวลานี้ไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว อย่างไรก็ตามจงซานนับว่าควรค่าที่เขาจะทำงานให้อย่างเต็มที่.

ขณะที่เซียนเซิงซือจากไปแล้ว.

"เจ้าเป็นไรหรือไม่?"เฉียนโหยวที่กล่าวปลอบอย่างนุ่มนวล.

หยิงหลานตายไป ภายในใจเฉียนโหยวรู้ได้ชัดแจ้ง รับรู้ว่าจงซานนั้นเศร้าขนาดใหน ในเวลานั้น นางจึงไม่กล้าที่จะว่ากล่าวอะไรกับจงซาน หลายวันมานี้อารมณ์ของจงซานดีขึ้น นางจึงได้กล่าวปลอบ.

จงซานที่กุมมือของเฉียนโหยวเอาไว้ ภายในใจที่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา!

"ขอโทษ!"จงซานทีกล่าวขอโทษ.

ทว่าเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมา ไม่ได้เผยยิ้มที่จงซานกล่าวขอโทษ ทว่าสัมผัสได้ถึงความมั่นใจของจงซานกลับมาแล้ว.

"พวกเราจะส่งทหารไปยังเขตแดนของต้ากวงเมื่อไหร่อย่างงั้นรึ?"เฉียนโหยวล่าว.

ได้ยินคำพูดว่าเขตแดนต้ากวง สายตาของจงซานที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา หานจื่อกวง!

"ราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวงรึ? ข้าได้ส่งออกไปแล้ว ตอนนี้ข้าได้สั่ง กองทัพห้าแห่ง ยึดครองดินแดนแห่งความวุ่นวายอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เตรียมเข้าสู่สงครามใหญ่ พวกเราจะบุกไปยังทิศเหนือสังหารทุกเมืองให้สิ้น!"จงซานกล่าว.

"อืม!"เฉียนโหยวที่พยักหน้ารับ.

แม้ว่าไม่รู้ว่าจงซานได้ส่งอะไรออกไป ทว่าเฉียนโหยวก็ไม่ต้องการถามรายระเอียด ขอเพียงแค่จงซานหายดี ทุกอย่างหาได้มีอะไรสำคัญ.

ผ่านมาอีกหลายเดือน.

ดินแดนแห่งความวุ่นวาย ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งก็สามารถรวมแผ่นดินได้ทั้งหมด.

เร็วเป็นอย่างมาก น้อยกว่าสามปีด้วยซ้ำ ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งสามารถรวมดินแดนแห่งความวุ่นวายได้อย่างงั้นรึ?

ข่าวที่น่าเกรงขามนี้ ได้กระจายออกไปทั่วทุกสารทิศ.

วาสนาของราชวงศ์ มากมายที่รวมอยู่ในดินแดนแห่งความวุ่นวาย ตอนนี้ได้เป็นของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งแล้ว.

ราชวงศ์จักรพรรดิแข็งแกร่งขนาดนี้เลยรึ? น่าเกรงขามขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

แปดราชวงศ์จักรพรรดิ หนึ่งร้อยกว่าราชวงศ์กษัตริย์ ไม่ถึงสามปีถูกทำลายจนสิ้น และยังมีอีกหลายราชวงศ์เมืองขึ้นของต้ากวงที่ถูกทำลายจนย่อยยับ.

ราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวง? อดีตคือราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง ด้วยไท่จื่อราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวงถูกสังหาร หานจื่อกวงจึงได้ส่งไพ่ลับ กองกำลังน้ำแข็งเหมันต์ออกมา และสุดท้ายก็ย่อยยับไปด้วยทัพของจงซานอย่างงั้นรึ?

ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งน่าเกรงขามจริง ๆ .

ในเวลานี้ทัพต่าง ๆ ของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งได้ปรากฏต่อคนทั่วหล้าแล้ว.

เหว่ยหยิงหลาน หลินเซียว อี้เหยี่ยน เซียนเซิงซือ สุ่ยอู่เหินและสุ่ยจิง ซี่งมีหนึ่งคนได้เสียชีวิตไปแล้ว.

กองกำลังทั้งหกนั้นทรงพลังมาก น่าเกรงขามโดยเฉพาะอี้เหยี่ยน? อี่เหยี่ยนชื่อนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่มีใครกล้าดูแคลนอี้เหยี่ยน ทว่าเหล่าทัพต่าง ๆ ของต้าเจิ้งเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าทัพของอี้เหยี่ยนเลย ทำให้ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง เต็มไปด้วยไปด้วยคนที่มีความสามารถ.

กองกำลังเจียงซือ ในเวลานี้ หยกบันทึกของกองกำลังเจียงซือได้กระจายไปทั่วทิศ มีการบันทึกความน่าเกรงขามของกองกำลังเจียงซือเอาไว้ เหล่าราชวงศ์วาสนาต่าง ๆ  ทุกกองกำลังไม่มีใครต้องการเข้าปะทะกับกองกำลังเจียงซือ.

นอกจากสงครามบุกเบิกดินแดน ยังมีสงครามความเกลียดชังอีกด้วย.

ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งปะทะราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวง? ราชวงศ์จักรพรรดิที่มีพลังเทียบเท่าราชวงศ์ราชันย์ ผลจะเป็นเช่นไร?

ภายในทวีปศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้เหล่าราชวงศ์วาสนามากมายต่างก็จับจ้องมองมา ต้องการรับรู้ความแข็งแกร่งของราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง!

*****************

十殿閻羅王 (10 ยมราชแห่งนรกภูมิ)

นรกขุมที่1 พญายมราชทรงพระนามว่า "ชิ้นกวงอ๊วง" ซึ่งเป็นปางหนึ่งของพระพุทธเจ้าผู้ทรงพระนามว่า "พระรุ่งโรจน์พุทธเจ้า" คนจีนเรียกว่า "ไต้ยิกฮุก"

นรกขุมนี้ จะเป็นที่ตรวจสอบบัญชีวิญญาน และบันทึกบาปบุญคุณโทษของแต่ละดวงวิญญาณเพื่อพิจารณาโทษทัณฑ์ หากวิญญาณใด ได้สร้างกุศลผลบุญโดยไม่ได้ทำบาปไว้ นิรยบาล(ผู้คุม) ผู้ถือบัญชีก็จะปล่อยดวงวิญญาณนั้น ให้ไปเกิดใหม่ในชาติต่อไป หรือไปสู่สวรรค์ หากมีบุญกุศลสูงพอ แต่ถ้าวิญญาณบาปที่ก่อกรรมทำชั่วก็จะสฃถูกส่งไปยังนรกขุมที่2 เพื่อรับการพิจารณาโทษทัณฑ์ต่อไป

นรกขุมที่2 พระญายมราชทรงพระนามว่า "ชอกังอ๊วง" พระศากยมุนีพุทธเจ้า คนจีนเรียกว่า "สิกแกเหม่านี้ฮุด" ทรงแบ่งภาคเพื่อให้ความยุติธรรมแก่วิญญาณบาป

นรกขุมนี้ มีสถานที่เรียกว่า " หอกระจกวิญญาณ" เมื่อวิญญาณเดินผ่านเข้าไปในหอแห่งนี้ ทุกเรื่องราวที่ได้กระทำไว้ในขณะมีชีวิต ก้จะถูกแจกแจงออกมา ทำบุญและบาปใดไว้หนักหนาและมากน้อยเพียงใดก้จะได้รู้กัน

จากนั้น พญายมราชชอกังอ๊วง จะทำการไต่สวนวิญญาณด้วยวาจา แต่จะไม่ใช่ผู้สั่งลงโทษ จะให้นิรยบาลพาดวงวิญญาณไปรับการกล่าวโทษที่นรกขุมที่ 3

นรกขุมที่3 พญายมราชทรงพระนามว่า "ส่งตี่อ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระมหาโพธิสัตว์ผู้ทรงพระนามว่า พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์" คนจีนเรียกท่านว่า "บุ่นซู้ผ่อสัก"

ว่ากันว่าเมื่อวิญญาณบาปต้องมารับการพิจารณากล่าวโทษที่นรกขุมนี้ จะเกิดอาการหวาดหวั่นสั่นกลัวขึ้นมาเอง ตัวสั่นจนกระดูกลั่นกระทบกัน เพราะที่นี้ดวงวิญญาณจะได้เห็นบรรดาเครื่องลงทัณฑ์ เช่น กระทะทองแดง ฯลฯ

เมื่อส่งตี่อ๊วง ได้รับดวงวิญญาณบาปพร้อมใบกล่าวโทษ จะทรงส่งต่อให้ยมบาล(ผู้ทำการทรมารสัตว์นรก) ประจำนรกขุมที่3 ซึ่งมีตัวเป็นคนแต่หัวเป็นม้าหน้าเป็นวัว ในมือถือสามง่าม จะกวดต้อนดวงวิญญาณเข้าสู่ลานลงโทษทัณฑ์

วิญญาณบาปจะถูกทอดในกระทะทองแดง เป็นที่ทรมานยิ่งจนตาย แต่เมื่อตาย นายนิรยบาลก็จะพ่นลมใส่ให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ แล้วถูกจัดทอดทรมาณซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตามเวลาแห่งโทษทัณฑ์ซึ่งยาวนานชั่วกัปชั่วกัลป์

โทษของดวงวิญญาณในนรกขุมนี้คือ พ่อแม่ที่ขายลูกเพื่อค้าประเวณี ตลอดจนบรรดาพ่อเล้าแม่เล้า แมงดา ผู้เกี่ยวข้องกับธุรกิจกาม และเหล่าผู้คบชู้ทั้งหลาย

นรกขุมที่ 4 พญายมราชทรงพระนามว่า "โห่วงกัวอ๊วง" เป็นปางหน่งของพระสมันตภัทรมหาโพธิสัตว์ คนจีนเรียกว่า "โผวเฮี้ยงผ่อสัก" เมื่อวิญญาณบาปถูกส่งมายังนรกขุมนี้ ก็ล้วนมีอาการหวดกลัวเช่นกัน เพราะการลงโทษในนรกขุมนี้ คือการถูกเชื่อดเนื้อเถือหนัง และผ่าอกเพื่อควักเอาหัวใจให้ยักษ์กิน พร้อมไปกับการถูกฟาดโบยด้วยแส้เหล็ก เป็นการทรมานที่เสียวสยองยิ่งนัก

ผู้ที่ต้องตกนรกขุมนี้ คือคนผู้มีใจโหดเหี้ยมได้แก่ นักฆ่ามืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นมือปืนรับจ้างฆ่า คนรับจ้างทำแท้ง คนรัรบจ้างฆ่าสัตว์

นรกขุมที่ 5 พญายมราชทรงพระนามว่า "เงี่ยมล้ออ๊วง" ทรงเป็นปางหนึ่งของพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ หรือตี่จั่งอ๊วงผ่อสัก คนที่ผิดศีลห้า ลูกทรพีฆ่าพ่อแม่ ฆ่าพระหรือยุแหย่ให้พระสงฆ์แตกกัน ผู้ทำลายพระพุทธรูปหรือพระพุทธศาสนา ต้องตกนรกขุมนี้ ซึ่งเป็นนรกที่เรียกว่า "อเวจี"

อเวจี หรือ อวิจี แปลว่าไม่เว้นว่าง และมีอีกความหมายว่า "ไฟนรก" เพราะนรกขุมนี้ จะมีแต่ไฟลุกโชติช่วงทั่วทุกตารางนิ้วแบบไม่มีที่ว่างเลย และสัตว์นรกหรือผู้ที่ตกนรกขุมนี้ ก็มีมากมายประหนึ่งยัดทะนาน

เหล่าผู้ตกนรกอเวจี ล้วนแต่ถูกไฟไหม้ตัวอยู่ในที่ของตน ไม่ว่าจะยืนเบียดเสียดตรงไหน และเป็นความทุกข์ทรมารที่เกิดต่อเนื่องตลอดไป ไม่มีเว้นว่าง สมคำว่า ..อเวจี

นรกขุมที่ 6 พญายมราชทรงพระนามว่า "เปี่ยงเซ้งอ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระศรีอารยเมตไตรมหาโพธิสัตว์ ที่คนจีนเรียกว่า หมีเล็กผ่อสัก ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ ผู้จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป

นรกขุมนี้มีไว้ทำโทษคนชั่วช้าค้ายาเสพติด และสิ่งมอมเมาทีทำให้คนดีต้องเสียอนาคตไป คนอกตัญญู ผู้เบียดเบียนคนโกง

การลงโทษในนรกขุมนี้ เป็นการใช้เหล็กร้อนหนีบมือหนีบเท้า หากวิญญาณบาปหิวหรือกระหายน้ำ นายนิรยบาล จะให้กินน้ำอาหารที่เป้นอาจมเหม็น เก่า และร้อนแรงลุกเป็นไฟ ให้สาสมกับที่ทำคนดีให้เสียเพราะติดยาเสพติด มีคำเรียกขุมนรกนี้ว่า "ปุราณมิฬหนรก" หรือนรกอาจม

นรกขุมที่ 7 พญายมราชทรงพระนามว่า "ไถ่ซัวอวง" เป็นปางหนึ่งของพระไภษัชยคุรุไวฑูรย์ประภาสพุทธเจ้า คนจีนเรียก ยกซือฮุดโจ๊ว แปลว่า พระพุทธเจ้าผู้ทรงคุณในทางยา แต่ยานี้คือยารักษาโรคกิเลสตัณหา

นรกขุมนี้มีความพิเศษอย่างหนึ่งว่า อนุญาตให้วิญญาณร้องทุกข์ได้ เช่น การถูกฆ่าตายโดยไม่เป็นธรรม เนื่องด้วยสมัยอยู่บนโลก ไม่อาจกล่าวโทษร้องทุกข์ได้ เช่น ทารกที่ถูกทำแท้ง สัตว์เดรัจฉานถูกฆ่า ก็มาร้องเรียนให้ผู้ฆ่าตนได้รับโทษทัณฑ์ที่สาสม

ผู้ที่อยู่ในข่ายรับโทษเพิ่มนี้ คือ พ่อแม่ที่ทำแท้งลูก หมอพยาลาลที่รับทำแท้งนั้นเอง นายนิรยบาลจะนำดวงวิญญาณต้องโทษไปรับทณฑ์ ด้วยการให้สัตว์พิษนานาชนิกัดกินเนื้อย่างทรมาน

นรกขุมที่ 8 พญายมราชทรงพระนามว่า "เพ่งเจ๋งอ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ หรือ กวนซีอิมผู่สัก

นกรกขุมนี้ มีไว้ลงโทษพวกทุจริตคดโกง เช่น โกงกินบ้านเมือง พ่อค้าโกงตาชั่ง จะต้องถูกลงทัณฑ์ ให้ยักษ์นรกจับเตะ ต่อย โยน กระทืบ ทำทารุณกรรม ซึ่งก็ยังไม่หนำใจเพราะจะมีภูเขาเหล็ก 2ลูกเลื่อนมากระทบกัน บดร่างวิญญาณให้แหลกละเอียดลงไปอีกที มีคำเรียกนรกนี้ว่า "สังฆาฏะ" แปลว่า กระทบกัน

นรกขุมที่ 9 พญายมราชทรงพระนามว่า "โตวซีอ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระมหาสถามปราปต์มหาโพธิสัตว์ คนจีนขานพระนามท่านว่า ไต่ซีจี๊ผ่อสัก

การลงโทษของนรกขุมที่9 สำหรับคนชั่วไม่มีศาสนา คนที่ไม่นับถือศาสนาใดเลย และได้ประกอบกรรมชั่วโดยไม่คิดถึงบาปบุญคุณโทษใด ๆ  นายนิรยบาลจะเอาน้ำทองแดงร้อน ๆ  ไฟลุกโชนกรอกใส่ปากวิญญาณที่ต้องโทษ เป็นความทารุณที่สาหัสสากรรจ์ นรกขุมนี้จึงมีแต่เสียงร้องครวญครางตลอดเวลา ให้ชื่อว่า "โรรุวะ" แปลว่า ร้องครวญคราง

นรกขุมที่ 10 พญายมราชทรงพระนามว่า "จวงลุ้งอ๊วง" เป็นปางหนึ่งของพระอมิตาภะพุทธเจ้า

นรกขุมนี้ไม่มีการลงโทษทัณฑ์ เพราะเป็นสถานที่ปล่อยดวงวิญญาณให้ไปเกิดใหม่ตามสภาพกรรมของแต่ละดวงวิญญาณ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด