Chapter 515 หวังเฉิน.
ภายในเมืองกวงหลิง.
จงซานที่จ้องมองไปยังรายงานที่อยู่บนโต๊ะ.
"หืม สายไปอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ถอนหายใจออกมาในทันที.
"อย่างไร?"เฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังข้อมูลในมือของจงซาน.
"เจ้าดูซิ!"จงซานยื่นบันทึกข้อมูลให้กับเฉียนโหยว จงซานก็คิดใคร่ครวญไปมาในทันที.
เฉียนโหยวที่จ้องมอง พลางขมวดคิ้ว.
"ไม่ใช่ว่าหยิงหลานไม่ได้อ่านจดหมายของเจ้ารึ?"เฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ดูเหมือนว่า จดหมายยังไปไม่ถึงมือของนาง ไม่ คงถึงแล้วแต่ไม่มีเวลาให้อ่าน ช้าไปแล้ว ยังไงหานเหว่ยก็ตายไปแล้ว!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"คนก็ตายไปแล้ว คงช่วยอะไรไม่ได้ มีแต่ต้องเดินหน้าต่อไป!"เฉียนโหยวที่กล่าวปลอบ.
"อืม หานจื่อกวงคนนี้ นับเป็นคนที่ดุร้ายและเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน เป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่ร้ายกาจ กับสถานการณ์ในเวลานี้ เขานับว่าเป็นศัตรูที่ทรงพลังมาก นอกจากนี้ยังมีความแค้นที่ลึกล้ำกับข้า ข้าไม่ต้องการให้หยิงหลานไปข้องเกี่ยวกับเขา!"จงซานที่ครุ่นคิดและกล่าวออกมา.
"ในเมื่อมอบหน้าที่สำคัญให้กับหยิงหลาน คงหนีไม่พ้นต้องเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามอยู่ดี ทุกอย่างควรจะทำอย่างสมดุล ด้วยเชาว์ปัญญาของนางไม่มีทางที่จะมีคนทำอะไรนางได้ ทว่าเมื่อไหร่ที่ข่าวนี้แพร่ออกไป คนทั่วหล้าก็จะจับจ้องมาที่นางเช่นกัน!"เฉียนโหยวกล่าว.
"ไม่ได้การ หยิงหลานจะต้องไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตราบเท่าที่ข้ามีชีวิตอยู่ จะไม่มีใครทำร้ายนางได้แม้แต่เส้นผม!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม ดูเหมือนว่าจะเอ็นดูหยิงหลานจริง ๆ เลยนะ ข้าเองก็ทำงานหนักเช่นกัน! ข้าอยากให้เจี่ยเจี๋ยมาเห็นจริงเชียว ว่าเจ้าจะห่วงพวกนางบ้างใหม."ปากเล็ก ๆ ของนางที่บิดเล็กน้อย แสดงอาการหึงหวง.
เห็นท่าทางของเฉียนโหยวแล้ว จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างขม ๆ "จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ทว่าข้าไม่ต้องการให้หยิงหลานต้องมีความเสี่ยงใด ๆ ."
"แล้วท่านจะทำอย่างไรล่ะ?"เฉียนโหยวสอบถาม.
"ในเมื่อจดหมายก่อนหน้านี้ยังไม่ไปถึงมือนาง ข้าจะเขียนใหม่อีกฉบับ ตราบเท่าที่นางไม่ออกจากดินแดนแห่งความวุ่นวาย ย่อมไม่มีอันตรายใด ๆ เพียงแค่จัดการราชวงศ์จักรพรรดิต้าซุนก็พอแล้ว!"จงซานกล่าว.
..........
ราชวงศ์จักรพรรดิต้ากวง! ห้องอักษรตำหนักหลวง.
"โครม!"
หานจื่อกวงที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ทำลายข้าวของ โยนถ้วยน้ำชาลงพื้น.
เหล่าข้าราชบริพารที่อยู่รอบ ๆ ไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรออกมา ทำได้แค่มองเงียบลง.
ต้าไท่จื่อที่ยืนอยู่ จดจ้องมองไปยังทหารที่คุกเข่ารายงานที่ด้านหน้าหานจื่อกวง.
หานเหว่ยตายแล้วรึ?
ไม่สงสัยเลยว่าหานจื่อกวงจะโกรธเกรี้ยวขนาดนั้น.
เพียงแค่สงครามแรก กองกำลังสามล้านคนถูกทำลายย่อยยับอย่างงั้นรึ? แม้แต่ผู้บัญชาการหานเหว่ยยังตายไปด้วย หานจื่อกวงจะไม่โกรธได้อย่างไร ในเวลานี้คนที่เขาเอ็นดีที่สุดตายไปแล้ว บุตรชายของเขาหานเหว่ยตายไปอย่างคาดไม่ถึง.
"ฟู่หวง บุตรขอเป็นคนนำทัพไปแก้แค้ให้น้องรองเอง!"ต้าไท่จื่อที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวก้าวออกมาด้านหน้า.
หานจื่อกวงที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นราชันย์ ราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง หลังจากที่โกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรงเมื่อสักครู่นี้ จากนั้นก็ค่อย ๆ ระงับความโกรธกลับมา พร้อมกับจดจ้องข้อมูลต่าง ๆ อย่างระเอียด.
"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง จงซาน?"ดวงตาของหานจื่อกวงที่หรี่ตาจ้องมอง.
"ฝ่าบาท ราชวงศ์ของพวกเรามีหลายร้อยสิ่งที่ต้องทำตอนนี้ ไม่สามารถเคลื่อนทัพได้ นอกจากนี้ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งยังยากจะเผชิญหน้า ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะเข้าห้ำหั่นพวกเขา."เสนาธิการคนหนึ่งที่กล่าวออกมา.
"ฝ่าบาท เฉินและคนอื่น ๆ ยินดีที่จะไปพร้อมกับต้าไท่จื่อเพื่อแก้แค้นให้ไท่จื่อรอง."เสนาธิการคนหนี่งกล่าวออกมาเช่นกัน.
"ฝ่าบาท ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งนั้นมีผู้บัญชาการทัพทั้งหกที่แข็งแกร่ง ทัพที่ไท่จื่อหานเหว่ยพ่ายแพ้นั้นมีคนเพียงแค่ สามล้าน ราชวงศ์ของพวกเราตอนนี้ยังไม่มั่นคงนัก คงยากที่จะต่อต้านพวกเขาได้!"เสนาธิการอีกคนกล่าว.
"ไม่ เวลานี้ล่ะ พวกเราจะรอให้ต้าเจิ้งกำราบดินแดนแห่งความวุ่นวายไปหมดก่อนรึ? ยิ่งปล่อยไปพวกเราก็จะยิ่งไล่ตามพวกเขาไม่ทัน เวลานี้ควรที่จะเคลื่อนทัพ ต้าเจิ้งอย่างน้อยควรจะมีต้ากวงคอยรั้งพวกเขาเอาไว้."เสนาธิการคนหนึ่งกล่าวแย้ง.
"พอแล้ว.!"หนานจื่อกวงออกคำสั่งในทันที.
เหล่าข้าราชบริพารที่หยุดในทันที.
"ฟู่หวง!"สายตาของต้าไท่จื่อที่เต็มไปด้วยความมุ่งหวัง.
หานจื่อกวงที่หลับตา สูดหายใจลึก ราวกับว่ากำลังตัดสินใจบางอย่าง.
"หานฉงเจ้าอยู่ก่อน คนอื่น ๆ ออกไปได้!"หานจื่อกวงที่หลับตา
"รับด้วยเกล้า!"เหล่าข้าราชบริพารที่ถอยออกไปในทันที.
"ฟู่หวง!"ต้าไท่จื่อหานฉงจ้องมองไปยังหานจื่อกวง.
"หานเหว่ยพ่ายแพ้ เป็นดั่งที่ข้าได้คาดการณ์เอาไว้แล้ว ข้าต้องการให้โอกาสเขาฝึกฝน ต้องไม่ลืมว่าจะต้องพ่ายแพ้ในสนามรบเท่านั้นถึงจะทำให้เติบโตขึ้น คาดไม่ถึง การที่เขาพ่ายแพ้ถึงกับทำให้เขาต้องตายไป ต้าเจิ้ง จงซานรึ?"สายตาของหานจื่อกวงที่ปล่อยจิตสังหารออกมา.
"ฟู่หวง ท่านจะรวบรวมกองกำลังเหมันต์หรือไม่!"หานฉงที่เอ่ยออกมาในทันที.
หานจื่อกวงที่จ้องมองไปยังหานฉง สายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชา จนทำให้หานฉงต้องเงียบไปในทันที.
"กองกำลังนั่น มีความสำคัญต่ออาณาจักรของเรา จะเอามาใช้เพื่อระบายความรู้สึกส่วนตัวได้อย่างไร?"หานจื่อกวงที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"ทว่า!น้องรอง เขา...."ใบหน้าของหานฉงที่เต็มไปด้วยความเศร้า.
"หากว่าเป็นราชวงศ์จักรพรรดิอื่น การเคลื่อนทัพดังกล่าวแน่นอนย่อมไม่มีปัญหา มีเพียงแค่จงซาน ที่ต้องระวัง หลายปีมานี้ข้าเห็นเขามาก่อน คนผู้นี้มีความพิเศษ ลึกลับยังไม่เปิดออกมา และมันยังซ่อนเอาไว้ลึกเป็นอย่างมาก."หานจื่อกวงถอนหายใจ.
"ยังมีอะไรซ่อนเอาไว้อีก!"ใบหน้าของหานฉงไม่อยากเชื่อ.
"จงซานนั้นสามารถที่จะจัดการระดับราชันย์แท้ได้เลย."หานจื่อกวงกล่าว.
"มันจะเป็นไปได้อย่างไร?"หานฉงที่เอ่ยออกมาด้วยท่าทางตกใจ.
"สิบปีก่อนหน้านี้ เขาที่เพิ่งก้าวไปถึงระดับแกนทอง ในเวลานี้เขาก้าวไปถึงระดับราชันย์แท้แล้วรึ?"หานฉงที่กล่าวออกมาด้วยความตกใจ เรื่องนี้ หานฉงไม่อยากยอมรับแม้แต่น้อย.
"ข้าบอกเพียงว่าเขาสามารถจัดการระดับราชันย์แท้ได้ ไม่ได้บอกว่าเขาก้าวไปถึงระดับราชันย์แท้ได้."หานจื่อกวงขมวดคิ้ว ภายในใจรู้สึกไม่พอใจ ขุ่นเคืองกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่หาย.
"ฟู่หวงพูดจริง ๆ รึ?"หานฉงที่จ้องมองหานจื่อกวงด้วยท่าทางไม่มีความสุขนัก พร้อมกับตื่นตกใจขึ้นมาอีกครั้ง.
"ใช่แล้ว หลายปีก่อนหน้านี้ ที่แดนเทพอเวจี เขาและเจี้ยนอ้าวร่วมทีมกัน แม้ว่าพลังฝึกตนของเขาจะยังไม่สามารถเทียบเจี้ยนอ้าวได้ ทว่าเขาก็เป็นคนที่เจี้ยนอ้าวเลือก ความแข็งแกร่งย่อมไม่น้อยกว่ากันแน่ เจี้ยนอ้าวระดับจักรพรรดิแท้นั้น ที่จริงสามารถเอาชนะมารแท้ซังเหลียนได้ ข้าและจงซานไม่ได้ต่อสู้กัน ทว่าข้าก็สามารถมองออกว่า ความแข็งแกร่งของเขาน่าจะก้าวไปถึงระดับจักรพรรดิแท้ขั้นปลายแล้วและยังสามารถจัดการระดับราชันย์แท้ได้อีกด้วย."หานจื่อกวงกล่าว.
"เช่นนั้น จะทำอย่างไรดี?เรื่องของน้องรองไม่ต้องจบแค่นี้หรอกรึ?"หานฉงที่อัดอั้นโกรธเกรี้ยวหากแต่ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.
หานจื่อกวงที่ได้แต่เงียบ.
"ฟู่หวง หากเป็นเช่นนี้ พวกเรายิ่งควรจัดการจงซาน หากว่าปล่อยไปเขายิ่งเติบโตไปอีก ยิ่งนานไป แน่นอนว่าจะยิ่งเป็นปฏิปักษ์กับเรามากขึ้น ตอนนี้พวกเรารีบสังหารเขาซะ หากไม่ทำบางทีคงไม่มีโอกาสแล้ว!"หานฉงที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.
"มันยังไม่ถึงเวลา!"หานจื่อกวงที่ส่ายหน้าไปมา.
"แล้วเหว่ยหยิงหลานเล่า? นางเป็นคนสังหารน้องรอง พวกเราจะต้องสังหารนาง."หานฉงที่เอ่ยถึงหยิงหลานในทันที เห็นชัดเจนว่าเขาต้องการสังหารหยิงหลานในเวลานี้.
"ข้าต้องบอกเจ้าอีกสักกี่ครั้ง?"หานจื่อกวงที่จ้องมองอย่างเย็นชา.
เห็นท่าทางของหานจื่อกวงแล้ว หานฉงที่เงียบไปในทันที ในแววตานั้นเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง.
"มันยังไม่ถึงเวลา หากว่าเจ้าเริ่มตอนนี้ ก็เหมือนกับราดน้ำมันลงบนไฟ พวกเราไม่ควรที่จะหาเรื่องจงซาน การหาเรื่องจงซานก็เหมือนกับฆ่าตัวตายเท่านั้น."หานจื่อกวงที่กล่าวสอน.
"ครับ ลูกผิดไปแล้ว!"หานฉงที่กล่าวตอบแม้ว่าจะไม่อยากยอมรับ.
"ฝ่าบาท ท่านอ๋องขอเข้าพบ!"ที่ด้านนอกห้องอักษรขันทีได้กล่าวรายงานออกมาในทันที.
"อาสอง?"หานฉงที่นิ่ง จากนั้นก็เผยท่าทางประหลาดใจ.
หานฉงที่จ้องมองไปยังหานจื่อกวง หานจื่อกวงที่ขมวดคิ้วไปมา หรี่ตาจ้องมองออกมาเล็กน้อย.
"ให้เขาเข้ามา!"หานจื่อกวงที่กล่าวออกมา.
"พี่ใหญ่ นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้เจอกัน คงไม่คิดว่าน้องคนนี้ตายไปแล้วนะ." ที่ด้านนอกห้องอักษรได้ยินเสียงของคนผู้หนึ่งที่ดังลั่น ทว่ากับแฝงไปด้วยความรุ่มร้อน จนผู้ฟังรู้สึกประหลาดใจ.
คนกลุ่มหนึ่งที่เดินเข้ามาในตำหนักอย่างรวดเร็ว.
คนผู้หนึ่งที่หน้าตาคล้ายคลึงกับหานจื่อกวงเป็นอย่างมาก เขาสวมชุดสีแดง เป็นน้องชายของหานจื่อกวง หานฉวง เขาที่เข้ามาพร้อมกับชายในชุดสีม่วงอีกคนที่ปิดรัดไปทั่วร่าง จนไม่เห็นรูปร่างหน้าตาเลย.
"อาสอง!"หานฉงที่กล่าวออกมาด้วยความสุภาพ.
"นี่? หืมเจ้าใหญ่หรอกรึ? ฮ่าอ่าฮ่า!"
"มาทำอะไร?"แววตาของหานจื่อกวงที่เปลี่ยนเป็นเย็นชา.
"พี่ใหญ่ พูดเช่นนั้นได้อย่างไรพวกเราเป็นพี่น้องกัน ไม่คิดที่จะให้ข้ากลับมาช่วยท่านอย่างงั้นรึ?"หานฉวง
"เจ้ารึ? ช่วยข้า? เพียงแค่เจ้าไม่สร้างปัญหาให้ข้าเพิ่มก็ดีแล้ว."หานจื่อกวงที่กล่าวดูแคลน.
"พี่ใหญ่ ข้าเคยบอกท่านว่ารอให้ข้าฝึกฝนเพียงพอ ข้าจะกลับมาช่วยเหลือท่าน."หานฉวงกล่าวตอบ.
"หืม? นี่เจ้ารู้จักฝึกวิชาด้วยอย่างงั้นรึ?"แววตาของหานจื่อกวงที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยัน.
หานฉวงที่จ้องมองไปยังหานจื่อกวง ทันใดนั้นทั่วร่างก็ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังระเบิดออกมา.
"ระดับจักรพรรดิแท้?"ต้าไท่จื่อหานฉงที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นตกใจ.
หานจื่อกวงที่ปรบมือ ทว่าหานฉวงไม่พอใจเท่าใดนัก แม้นว่าพลังของเขาจะเพิ่มขึ้น ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ตำแหน่งหน้าผากของหานฉวง ก็ปรากฏอักษรสีม่วงขึ้นมาในทันที.
เหยา!
อักขระ"เหยา"หากจงซานมาเห็น ย่อมบอกได้ว่ามันคือผนึกเทวะ ของกองกำลังอาชาทมิฬปิศาจมายาซึ่งทุกคนต่างก็มีกัน หากแต่หานฉวงมีได้อย่างไร?
กลิ่นอายที่เพิ่มสูงขึ้น สูงขึ้นเรื่อย ๆ จนหานจื่อกวงต้องแสดงท่าทางจริงจัง จากนั้นก็จ้องมองไปยังอักขระบนหน้าผากของหานฉวง.
"นี่มัน นี่มัน นี่........"ต้าไท่จื่อที่ถูกกลิ่นอายผลักดันให้ถอยหลังออกไป.
"ราชันย์ ระดับราชันย์แท้อย่างงั้นรึ?"ต้าไท่จื่อที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"อาคมของกองกำลังอาชาทมิฬปิศาจมายารึ? เจ้ามีมันได้อย่างไร?"ดวงตาของหานจื่อกวงที่เต็มไปด้วยความเย็นชา เห็นได้ชัดเจนว่าเขาเองก็รับรู้เรื่องราวของกองกำลังอาชาทมิฬปิศาจมายามาด้วยเช่นกัน.
"กองกำลังอาชาทมิฬปิศาจมายาก็แค่ผนึกเทวะขั้นต้น จะเอามาเทียบกับข้าได้อย่างไร?"หานฉวงที่เก็บกลิ่นอาย พร้อมกับปลดผนึกเทวะลง.
"ผนึกเทวะ? เจ้ามีสิ่งนี้ได้อย่างไร?"หานจื่อกวงกล่าวด้วยเสียงเย็นชา.
"เรื่องนี้พี่ใหญ่อย่าสนใจเลย ที่ข้ากลับมานี้ เรื่องหลัก ๆ นั้นได้ยินว่าพี่ใหญ่และจงซานได้เข้าปะทะกัน ข้าจึงมาช่วยท่าน."หานฉวงกล่าว.
"ช่วยข้า?"หานจื่อกวงที่เผยสีหน้าไม่อยากเชื่อ.
"แน่นอน แล้วข้าจะเรียกท่านว่าพี่ใหญ่ทำไม? ลืมเลย ข้าจะแนะนำศิษย์น้องของข้าให้รู้จัก เขามีนามว่า ‘หวังเฉิน’เขาจะช่วยข้าจัดการกับราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง!"หานฉวงกล่าว.
ใบหน้าของหานจื่อกวงที่แสดงท่าทางไม่อยากเชื่อจ้องมองไปยังชายในชุดคลุมสีม่วง.
หวังเฉิน? ช่วยเจ้าล้มจงซานรึ? คิดว่าหานจื่อกวงจะเชื่ออย่างงั้นรึ?
"คารวะจักรพรรดิหาน!"เสียงของหวังเฉินที่แหบเครือ เป็นเสียงที่สั่นสะท้านแตกพล่า.
"เจ้าจะช่วยข้าล้มจงซานอย่างงั้นรึ?"หานจื่อกวงที่จ้องมองไปยังชายคนดังกล่าว.
"เป็นเช่นนั้น!"หวังเฉินกล่าว.
"ทำไมเจ้าไปเอาความมั่นใจมาจากใหน?"หานจื่อกวงพลางชำเลืองมอง.
"เพราะว่าข้าเข้าใจจงซาน!"หวังเฉินที่กล่าวออกมาไม่ช้าไม่เร็ว.
"เข้าใจจงซานรึ? ฮ่าฮ่าฮ่า!"หานจื่อกวงที่ราวกับพบเรื่องที่ตลกขบขันเข้า.
เข้าใจจงซานอย่างงั้นรึ?ตัวตนของจงซานนั้นน้ำไม่เคยรั่วสักหยด คิดว่าง่ายที่จะเข้าใจรึ? หากว่าหวังเฉินกล่าวจริง ไม่ใช่ว่าเขากลายเป็นสุดยอดฝีมือไปแล้วเหรอ.
"ถูกแล้ว ข้าเป็นคนที่เข้าใจจงซาน เป็นคนที่รู้จุดอ่อนของจงซาน เขามีจุดอ่อนที่ไม่มีใครในทวีปศักดิ์สิทธิ์ล่วงรู้."หวังเฉินกล่าวออกมาอีกครั้ง.
"จุดอ่อนรึ?"หานจื่อกวงชำเลืองมองไปยังหวังเฉิน แววตาที่แสดงท่างล้อเลียนและอยากรู้ไปพร้อมกัน ชายผู้นี้พูดจาใหญ่โตนัก ทั่วทั้งทวีปศักดิ์สิทธิ์ยังไม่มีใครกล้าบอกเลยว่าเข้าใจจงซาน จุดอ่อน สามารถหาจุดอ่อนของจงซานได้ง่าย ๆ รึอย่างไรกัน?
เขาบอกว่าจงซานมีจุดอ่อนอย่างงั้นรึ? เรื่องน่าขันอะไรกัน? แน่นอน ถึงอย่างงั้นกับคำว่าจุดอ่อน แม้นไม่รู้ว่าเป็นจริงใหม่ ก็ทำให้หานจื่อกวงอยากรู้อยากเห็นเช่นกัน.