Chapter 506 ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเป็นกระบี่ได้.
ได้ยินคำพูดของเจี้ยนอ้าวที่ยอมฆ่าตัวตายเกิดใหม่เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องวิถีกระบี่ ทั้งสามถึงกับจ้องมองเจี้ยนอ้าวด้วยความตะลึงงัน ช่างมีใจที่เหี้ยมหาญนัก ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถพอที่จะก้าวไปเป็นเซียน แต่กลับเลือกที่จะฆ่าตัวตาย ไร้ซึ่งความลังเล แม้ว่าจะมีโอกาสที่จะเป็นเซียนได้ก็ตามรึ? แต่คาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าเขาเลือกฆ่าตัวตาย!
ทันใดนั้นกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ที่เปล่งแสงสิบสองสีออกมาทันที แสงความเป็นปฏิปักษ์ได้แผ่ออกมา กระบี่เทวะเหมันต์ที่มีเชาว์เป็นของตัวเอง ราวกับว่ามันตอบสนองต่อความโกรธเกรี้ยวของเจี้ยนอ้าว.
กระบี่ปิศาจ? ที่มอบพลังให้กับผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้มีพลังเพิ่มขึ้นอย่างงั้นรึ?
เจี้ยนอ้าวจ้องมองไปยังกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ที่แผ่จิตสังหารออกมา ฆ่าตัวตาย ตอนนั้นเขาจำอะไรไม่ได้มากนัก ทว่าเขาก็รับรู้เช่นกันว่าการกลับชาติมาเกิดนั้นนับว่าเป็นความเสี่ยงมหาศาลเช่นกัน.
การฆ่าตัวตายนั้น ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถกลายเป็นภูตได้ ไม่เช่นนั้นแล้วภายใต้สวรรค์แห่งนี้คงจะมีคนจุติใหม่มากมายไม่ใช่รึ? ยากมาก การที่จะทำให้วิญญาณกลายเป็นภูตนั้นมีโอกาสแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เท่านั้น และยังมีโอกาสที่วิญญาณจะแตกสลายกลายเป็นพลังของสวรรค์และปฐพีอีกด้วย นับเป็นความเสียงที่น่าหวาดหวั่นทีเดียว.
และเช่นเดียวกัน เมื่อกลายเป็นภูต การจะจุติกลับมาใหม่เป็นคน ก็ไม่สำเร็จโดยง่าย มีโอกาสเพียงแค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์เช่นกัน.
กล่าวอีกอย่างหนึ่ง การจุติใหม่เพื่อแก้ไขชีวิตของตัวเอง โอกาสสำเร็จนั้นแทบจะมองไม่เห็น.
กับทางเลือก หากว่าเขากลายเป็นเซียน กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ก็ถึงขีดจำกัดของมัน ไม่สามารถที่จะก้าวต่อไป ทว่าการเกิดใหม่เพื่อแก้ไขเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าจะยากยิ่งกว่าสะอีก.
เจี้ยนอ้าวกับเลือกเส้นทางที่ยากกว่าด้วยการจุติใหม่เพื่อกลายเป็นเซียน เขามีความกล้าและเชื่อมั่นมากมายขนาดนั้นเลยรึ?
กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์เกลียดเจี้ยนอ้าว เจี้ยนอ้าวก็เกลียดกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์อย่างงั้นรึ?
"ฟิ้ว!!!"
กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ที่สั่นไปมาเล็กน้อย ส่องประกายแสงสว่างจ้า ปล่อยปราณกระบี่ที่มากมายไร้ที่สิ้นสุดพร้อมกับกำลังกลั่นรวมตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา.
"กับความเห็นของพญามารเจี้ยนอ้าว มารแท้คงไม่กล้ากระทำตาม กระบี่วิญญาณเทวะเหมันต์เองก็ปฏิเสธที่จะยอมรับ ทว่าขอให้พญามารเจี้ยนอ้าวโปรดชี้แนะ พิสูจน์ว่าความคิดของท่านถูกต้อง หรือว่ากระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ถูกต้องกันแน่!"มารแท้ซังเหลียนที่ส่ายหน้าไปมา.
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เกี่ยวกับความคิดของเจี้ยนอ้าวนั้น เขาไม่ยินดีที่จะเชื่อเท่าใดนัก แม้แต่กระบี่เทวะเหมันต์เองก็เช่นกัน อีกทั้งพลังของเขาที่มีมากกว่าจะยินดีที่จะเชื่อเจี้ยนอ้าวในเวลานี้ได้อย่างไร?
หากว่าเชื่อคำพูดของเจี้ยนอ้าวเวลานี้เป็นจริง ไม่ใช่ว่าเขายอมรับต่อวิถีกระบี่ของตัวเองผิดพลาดด้วยหรอกรึ? ยอมรึ?มารแท้ซังเหลียนไม่ต้องการเช่นนั้นแน่.
"ต้องการอะไร?"เจี้ยนอ้าวจ้องมองไปยังกระบี่วิญญาณเทวะเหมันต์.
"ต่อสู้ ข้าต้องการจะเห็น ว่าวิชากระบี่อันดับหนึ่งของแดนเทพอเวจีในอดีตนั้น จะแข็งแกร่งทรงพลังขนาดใหน."มารแท้ซังเหลียนที่กล่าวออกมาตรง ๆ
กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์เวลานี้สั่นไหวไปมา ทันใดนั้นก็ส่องประกายแสงสิบสี เหมือนกับเจี้ยนอ้าวที่ได้จับก่อนหน้านี้ นั่นแสดงให้เห็นชัดเจนว่ามันยอมรับมารแท้ซังเหลียนแล้ว.
เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมารแท้ซังเหลียนที่แสดงท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก.
เจี้ยนอ้าวที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่ได้หวาดกลัวแม้แต่น้อย ราวกับว่ารับรู้ความคิดของกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ได้ เป็นอะไรที่ธรรมดาเป็นอย่างมาก.
กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์นั้น คือกระบี่เทวะลำดับที่หนึ่งของแดนเทพอเวจี.
เจี้ยนอ้าวที่ชักกระบี่หนักของเขาออกมาเบา ๆ .
เจี้ยนอ้าว(ระดับจักรพรรดิแท้) ปะทะ มารแท้ซังเหลียน(ระดับราชันย์แท้)!
จงซานและหานจื่อกวงหลบออกมาอย่างรวดเร็ว ถอยห่างออกมายังสถานที่ไกลออกไป.
หานจื่อกวงนั้นไม่ได้ลงมือกับจงซาน เพราะว่าหานจื่อกวงรับรู้ว่าจงซานนั้นฉลาดเป็นอย่างมาก เชาว์ปัญญาที่น่าเกรงขามนั่นทำให้เขาต้องระวัง และเขาเองก็ไม่มั่นใจในพลังฝึกตนของจงซานอีกด้วย แน่นอนว่าการแข่งขันในครั้งนี้เขาไม่มีความจำเป็นที่ต้องลงมืออย่างเต็มที่.
หานจื่อกวงที่เพ่งพิศจงซาน เขาที่คิดว่าคนผู้นี้มีกลิ่นอายของจักรพรรดิ หรือว่าเขาคำนวณผิดหรือไม่ ราชวงศ์วาสนา บำเพ็ญชื่อเสียง มีเพียงแค่จักรพรรดิเท่านั้น นอกเหนือจากวิชาในการบำเพ็ญ เขายังมีอะไรที่ลึกล้ำซ่อนอยู่รึ?
หานจื่อกวงไม่ต้องการหาเรื่องจงซาน แม้ว่าเขาจะมีพลังฝึกตนสูงกว่าจงซานมากก็ตาม ทว่าเขาเลือกที่จะเงียบ.
ส่วนจงซานในเมื่อหานจื่อกวงไม่ต้องการสู้ เขาเองก็ไม่ลงมือเช่นกัน ถึงแม้ว่าเขาจะมีวิธีในการต่อสู้ ทว่าก็ไม่จำเป็นเช่นกัน.
เจี้ยนอ้าวและมารแท้ซังเหลียน ทั้งสองตัดสินใจที่จะประลองกระบี่กัน.
อาวุธของมารแท้ซังเหลียนคือกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ ซึ่งเคยเป็นกระบี่ของเจี้ยนอ้าวในชาติที่แล้ว.
เหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็เหมือนกับเจี้ยนอ้าวต่อสู้กับตัวเองในชาติที่แล้ว.
ทั้งคู่ต่างก็ฝึกฝนวิถีกระบี่ ต่างคนต่างก็ยืนอยู่บนทะเลของปราณกระบี่.
กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์เวลานี้ราวกับว่ามันต้องการแสดงให้เห็นว่าเจี้ยนอ้าวนั้นได้เดินทางผิด บนตัวกระบี่เวลานี้ มันได้ส่องประกายแสงสีขาวสว่างจ้าออกมา เต็มไปด้วยกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพี พร้อมกับปราณกระบี่ที่มากมายนับไม่ถ้วน.
บนท้องฟ้า ทะเลปราณกระบี่ที่โคจรหมุนวนราวกับพายุ ที่คือกระแสของปราณกระบี่ที่เหนือล้ำเกินกว่าใครจะเทียบได้.
ทะเลปราณกระบี่ที่หมุนวนกระจายออกไปรอบ ๆ ราวกับคลื่นในทะเล กระแสปราณกระบี่ที่มากมายเวลานี้กำลังรวมตัวกันขึ้นเป็นรูปเป็นร่างของกระบี่ เป็นพลังที่ดุดันรุนแรงเป็นอย่างมาก.
นี่คือกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ กระบี่เทวะอันดับหนึ่งของแดนเทพอเวจี.
เห็นทะเลปราณกระบี่ของฝ่ายตรงข้ามแล้ว เจี้ยนอ้าวที่จดจ้องมองอย่างเย็นชา สายตาของเขา มองไปยังมารแท้ซังเหลียน และกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ เขาเองอาจจะไม่ใช่คู่มือของมารแท้ซังเหลียนในแง่ของพลังฝึกตน ทว่ากระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์นั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลย.
ความทรงจำของเจี้ยนอ้าวในชาติที่แล้วยังไม่ฟื้นคืนมา เขาจึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับวิญญาณเทวะเหมันต์อย่างลึกล้ำ ว่ามันมีความพิเศษใดอีก ทว่า เจี้ยนอ้าวมั่นใจในวิถีกระบี่ของตัวเองว่าถูกต้อง นี่คือเพลงกระบี่ของเขาเอง นี่คือวิถีกระบี่ที่ทรงพลังที่สุด.
สองคนที่จดจ้องกันอยู่ และทันใดนั้นพวกเขาก็ขยับในทันที.
กระบี่เล่มหนึ่งที่พุ่งเข้าหา กลายเป็นริ้วแสงที่ถูกยิงออกไป ปราณกระบี่ทะลุทะลวงที่เคลื่อนเข้าหาอีกฝังด้วยความเร็วสูง.
เร็วมาก!!!
ความเร็วระดับนี้ แม้แต่จงซานยังไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เป็นไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับราชันย์แท้ยังไม่ได้เร็วขนาดนี้ นี่คือกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์รึ? รวดเร็วราวกับแสง.
ฝั่งเจี้ยนอ้าว ราวกับว่าไม่ตอบสนองใด ๆ ยังยืนนิ่งไร้การเคลื่อนไหว.
ไม่ ไม่ไช่ว่าไม่เคลื่อนไหว หากแต่เจี้ยนอ้าวกำลังขยับอยู่ ทุกครั้งที่กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์จะทะลวงร่างของเขา เขาก็หลบออกมาได้ห่างออกมาถึงสองเมตร หากแต่เป็นการหลบที่รวดเร็วมาก.
กระบี่หนักของเขาที่กวัดแกว่ง ราวกับว่าปล่อยกลิ่นอายทั่วไปออกมา มีพลังเพียงครึ่งเดียวของทะเลกระบี่ ทว่ากลับสามารถต้านพลังอีกฝังเอาไว้ได้.
คลื่นทะเลกระบี่ที่สาดซักปะทะกันและกัน. นี่คือผู้เยี่ยมยุทธ์ชั้นยอดในวิถีกระหนึ่ง หนึ่งถือกระบี่เทวะที่ทรงพลังไร้ที่เปรียบของซังเหลียน เข้าปะทะกัน กับกระบี่หนักของเจี้ยนอ้าว ไม่มีใครเสียเปรียบใคร.
"ตูมมมมมมมมมม"
มารแท้ซังเหลียนที่ลงมือ ทะเลปราณกระบี่ของเขาที่พุ่งตรงระเบิดเสียงดังสนั่น พลังการทะลวงนับพันนับหมื่นที่พุ่งตรงออกไปไม่หยุดหย่อน.
ร่างของเจี้ยนอ้าวที่ขยับหลบการทะลวงด้วยความเร็วสูง.
บรรยากาศรอบ ๆ ที่เต็มไปด้วยทะเลปราณ จากการโจมตีของมารแท้ซังเหลียน.
"ตูมมมมมมมม"
พลังที่น่าเกรงขาม ทะเลปราณกระบี่ที่พุ่งทะยานกลายเป็นคลื่นสูง มารแท้ซังเหลียนที่ยืนอยู่บนคลื่นกระบี่ พร้อมกับโจมตีลงมาด้านล่างไม่หยุดหย่อน.
นี่คือยอดฝีมือ ยอดฝีมือไร้เทียนทาน ทะเลปราณกระบี่ ปะทะกับทะเลปราณกระบี่ เข้าห้ำหั่นกันและกัน.
แข็งแกร่งทรงพลังมาก.
กลิ่นอายที่บ้าคลั่งนี้ แม้แต่ผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ทั่วไปยังไม่กล้าเข้าไกล ระดับที่ต่ำกว่าหลอมกายทุกคนจะต้องระเบิดออกมาด้วยแรงกดดันขนาดนี้ ทะเลปราณที่ยิ่งใหญ่ ปราณกระบี่มากมายมหาศาลที่ทำลายทุกอย่างที่เคลื่อนที่ผ่าน.
จงซานที่ยืนอยู่ไกลออกมา พร้อมกับกลืนน้ำลายจดจ้องมองอย่างระวัง.
เจี้ยนอ้าว! ทรงพลังมาก.
ความแข็งแกร่งของเจี้ยนอ้าวนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเขาก็ยังไม่ใช่คู่มืออย่างงั้นรึ?
เสียงที่ดังสนั่นราวกับฟ้าผ่าดังขึ้นมาเป็นระยะ ที่ใจกลางของเสียง มีประกายแสงสว่างจ้าออกมาเป็นช่วง ๆ เช่นกัน.
จงซานและหานจื่อกวงได้ถอยห่างออกมาอีกครั้ง ไม่ได้กลัวจะส่งผลกระทบ ทว่ากลัวว่าจะเป็นการรบกวนคนทั้งสอง.
เจี้ยนอ้าวที่ใช้กระบี่หนัก ดูเหมือนว่าเขาจะมีพลังที่ไม่สิ้นสุด ปราณกระบี่ของเขาที่ผุดขึ้นมาจากผืนปฐพี และยังมีพลังอีกมากมายไร้ที่สิ้นสุดส่งเสริมจากใต้ผืนดิน ถูกดึงเข้าไปในร่างของเจี้ยนอ้าว.
เจี้ยนอ้าวนั้นไม่ได้เสียเปรียบแต่อย่างใด ทว่าเขากับต่อกรกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างสูสี ไม่ได้พ่ายแพ้.
การต่อสู้ของทั้งสอง ที่ผ่านไปหนึ่งวันเต็ม หานจื่อกวงที่อยู่ไกลออกมาถึงกับต้องขมวดคิ้ว.
หนึ่งวัน?ระดับจักรพรรดิแท้? นี่คือระดับจักรพรรดิแท้อย่างงั้นรึ? ต้องไม่ลืมด้วยว่าไม่เพียงแต่มารแท้ซังเหลียนมีระดับราชันย์แท้ เขายังบำเพ็ญวิชากระบี่ด้วย เทียบกับระดับราชันย์แท้ทั่วไปยังไม่สามารถต่อกรกับเขาได้ อีกทั้งตอนนี้ ในมือยังมีกระบี่เทวะที่แข็งแกร่งอยู่อีกด้วย.
หากแต่สถานการณ์ในเวลานี้ เจี้ยนอ้าวเสียเปรียบรึ?ไม่เลย ต้องไม่ลืมด้วยว่าเขาที่เป็นเพียงผู้เยาว์เมล็ดมาร การจะต่อสู้กับมารแท้ที่มีระดับราชันย์แท้ได้นานถึงเพียงนี้ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก หากไม่รู้มาก่อนว่าเขามีระดับจักรพรรดิแท้เท่านั้น หานจื่อกวงคงคิดว่าเจี้ยนอ้าวมีระดับราชันย์แท้อย่างแน่นอน เพราะว่ากระบวนท่าที่เจี้ยนอ้าวแสดงออกมานั้น เต็มไปด้วยพลังแห่งกฎฟ้าดิน.
"โฮกกกกกก"
เสียงของมารแท้ซังเหลียนที่คำรามออกมาเสียงดัง คนทั้งสองหลังจากต่อสู้กันมาหนึ่งวันท้ายที่สุดก็แยกออกมา.
ตัดสินกันแล้วรึ? เจี้ยนอ้าวแพ้รึ?
ในเวลานี้คนทั้งคู่ที่แยกถอยห่างออกมาจากกัน.
กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ที่อยู่ในมือของมารแท้ซังเหลียน ตอนนี้ชี้ไปยังเจี้ยนอ้าว.
กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ในเวลานี้ปลดปล่อยแสง 12 สีออกมาด้วยความตื่นเต้น ทว่ามารแท้ซังเหลี่ยนที่ถือกระบี่อยู่นั้นภายในใจสั่นไหวไปมา ระดับจักรพรรดิแท้อย่างงั้นรึ? นี่คือวิถีกระบี่ของเจี้ยนอ้าวอย่างงั้นรึ? พญามารเคยกล่าวว่าเจี้ยนอ้าวมีระดับจักรพรรดิแท้ ทว่าระดับจักรพรรดิแท้กับสามารถต้านทานเขาได้นานขนาดนี้เลยรึ?
แข็งแกร่งมาก! ความสามารถของเจี้ยนอ้าวร้ายกาจยิ่งนัก เพลงกระบี่ของเขาแข็งแกร่งหนักแน่น กระบี่หนักที่อยู่ด้านหน้าของเขา เป็นเพียงอุปกรณ์อย่างหนึ่ง หากแต่สามารถเพิ่มพลังขึ้นมานับสิบเท่า หากเขาไม่มีกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ เขาคงต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน.
โชคดีที่มีกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ ขณะที่เขากำลังคิดอยู่นั้น ที่ตำแหน่งแขนของเขามีโลหิตกำลังไหลออกมา นี่เป็นแผลที่ได้จากการต่อสู้.
อย่างไรก็ตาม เจี้ยนอ้าวที่อยู่ห่างออกมา กระบี่หนักของเขา ที่เป็นเหมือนกับท่อนเหล็กตอนนี้ได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก พร้อมที่จะแตกสลายไปได้ทุกเมื่อ.
สำหรับผู้ฝึกตนบำเพ็ญวิถีกระบี่ การที่กระบี่พังทลาย ยังจะสามารถชนะได้อีกรึ?
เจี้ยนอ้าวไม่สามารถยอมรับความจริงข้อนี้ได้ เขาที่หลับตาแน่นสงบนิ่ง.
พ่ายแพ้รึ? ไม่ เขายังไม่แพ้!
จงซานที่จับจ้องมองออกไป ตอนนี้เขาเห็นผมของเจี้ยนอ้าวกำลังโบกสะบัด ทันใดนั้นประกายแสงทั่วร่างก็แผ่ออกมา ในมือของเขากระบี่หนักในมือที่เหลือเพียงด้าม มันเสียหายหักลงเหลือแค่เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น.
ทั่วร่างของเจี้ยนอ้าวเวลานี้มีกลิ่นอายสีขาวลุกโชนขึ้นมาในทันที กลิ่นอายดังกล่าวนี้ราวกับเปลวเพลิงที่กำลังลุกไหม้มันกำลังขยายออกมา ดูแหลมคมและน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น ๆ และหลังจากนั้นปราณกระบี่ที่ร้ายกาจน่าเกรงขามก็หลอมเข้ากับร่างของเจี้ยนอ้าว.
ดวงตาของเจี้ยนอ้าวที่ลืมขึ้นในทันที ดวงตาของเขาส่องประกายแสง คาดไม่ถึงเลยว่าปราณกระบี่ที่มีขนาดห้าจั้งสองสายถูกปล่อยออกมา.
ตาของเขาสามารถปล่อยปราณกระบี่ออกมาได้อย่างงั้นรึ? ที่ไกลออกไปนั้นมารแท้ซังเหลียนที่ชำเลืองมองออกมา ภายในใจของเขารู้สึกไม่ดีนัก.
จากนั้นเจี้ยนอ้าวทิ้งเศษซากกระบี่ออกไปในทันที.
มือของเขาที่โบกสะบัดทันใดนั้นท่อมไม้ที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็ลอยเข้ามาหาเจี้ยนอ้าว.
ทุกคนไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย เจี้ยนอ้าวที่จับท่อนไม้เอาไว้ กวัดแกว่งมันไปมา.
เจี้ยนอ้าวที่สะบัดท่อนไม้ ฟันไปบนอากาศเพื่อทดสอบ จากนั้นก็ชี้มันตรงไปยังมารแท้ซังเหลียน.
คิดจะใช้ท่อนไม้ ต่อกรกับผู้เยี่ยมยุทธิ์ที่ถือกระบี่เทวะอย่างงั้นรึ? นี่เจี้ยนอ้าวมั่นใจขนาดนั้นเลยรึ?
นี่มัน เรื่องนี้? สายตาของทุกคนที่จ้องมองตาโตไปยังเจี้ยนอ้าว.
"ขอบคุณมารแท้ซังเหลียน ที่ต่อสู้กับข้าในวันนี้ ทำให้ข้าสามารถก้าวเข้าไปยังอีกอาณาจักร กระบี่หนักของข้านั้นไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดก็เป็นกระบี่ได้ กระบี่คือจิตใจ หากไร้ซึ่งลังเลกระบี่ก็จะคงอยู่ตลอดไป พวกเรามาเริ่มกันอีกรอบเถอะ."เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาเบา ๆ .
ไม่ต้องใช้กระบี่หนักแล้วรึ?ไม่ว่าสิ่งใดก็เป็นกระบี่ได้ กระบี่คือจิตใจ หากไร้ซึ่งลังเลกระบี่ก็จะคงอยู่ตลอดไปอย่างงั้นรึ?
หมายถึงอาณาจักรอะไรกัน?
"กระบี่ของเจ้าล่ะ? เจ้าคิดที่จะใช้ท่อนไม้ต่อกรกับกระบี่เทวะอย่างงั้นรึ?"มารแท้ซังเหลียนแค่นเสียงเย็นชา.
"ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็เป็นกระบี่ได้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งใดก็เป็นกระบี่เทวะได้."เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.