Chapter 505 จิตใจที่หนักแน่นเด็ดขาด
ตอนนี้มีหยกสัญญาณสองอันแล้ว ทว่ายังขาดอีกหนึ่ง.
เวลานี้พวกเขากำลังตามเหล่าเหล่าฉี ทั้งคู่บินไปอย่างรวดเร็ว.
แน่นอนว่าเหล่าฉีนั้นนับว่าโชคดีเป็นอย่างมาก ตอนนี้ไม่รู้ว่าได้หนีไปที่ใหนแล้ว.
เจี้ยนอ้าวที่พุ่งตรงออกไปราวกับกระบี่ที่คบกริบ พุ่งออกไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ ด้วยต้องการที่จะทดสอบความเร็วของจงซานด้วย.
ความเร็วของจงซานนะรึ? ร่างแยกเงาของจงซานรึ? ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับราชันย์แท้ยังไม่สามารถสู้ได้.
"ฟิ้วว!"
บนเทือกเขาภพหยินหยางที่มีลมพายุสองลูก เจี้ยนอ้าวที่ใช้ความเร็ว 80 เปอร์เซ็นต์ ทว่าจงซานกลับไม่ได้ช้ากว่าเขาแม้แต่น้อยเลย.
ผู้บำเพ็ญกระบี่นั้น นับว่าฝึกฝนยากที่สุด แน่นอนด้วยความเร็วแล้วจึงเป็นวิชาบำเพ็ญที่มีความเร็วที่สุดในโลกใบนี้แล้ว หนำซ้ำวิชาบำเพ็ญของเจี้ยนอ้าวยังน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก เจี้ยนอ้าวเชื่อว่าแม้แต่ระดับราชันย์แท้ยังแค่ระดับทั่วไปเท่านั้น.
ดูเหมือนว่าจงซานจะไม่ได้เสียเปรียบเขาแต่อย่างใด.
เจี้ยนอ้าวส่ายหน้าไปมา ก่อนที่จะลดระดับความเร็วลง เขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังเต็มที่ จงซานเองก็เช่นกัน ทั้งคู่ต่างก็มีความลับส่วนตัว การแข่งขันความเร็วครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย.
พวกเขาที่บินมาไม่นาน ผ่านภูเขาหลายลูกหากแต่ยังไม่เจอใคร.
เจี้ยนอ้านถอนหายใจเบา ๆ ขณะที่เขาเตรียมที่จะยอมแพ้นั้น.
ที่ไกลออกไปนั้นเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ปราณกระบี่ที่กระจายไปทั่วสวรรค์และปฐพี ดูเหมือนว่านี่จะเป็นปราณกระบี่ที่ไม่ธรรมดาเลย.
ยังมียอดยุทธ์ที่บำเพ็ญวิชากระบี่อีกคนอย่างงั้นรึ?
ทั่วท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยปราณกระบี่ที่มากมายนับไม่ถ้วนหมุนวนเป็นริ้วแสงสาดกระจายไปทั่ว เป็นปราณกระบี่ที่ทรงพลังยิ่งใหญ่ไม่น้อย.
ภายใต้ทะเลของปราณกระบี่ ในเวลานี้สายตาของทุกคนที่จับจ้องมองไป พื้นที่รอบ ๆ ที่กลายเป็นรูเหมือนกับหนามแหลมทิ่มแทง นี่คือโลกแห่งกระบี่ที่ถูกสร้างขึ้น.
จงซานและเจี้ยนอ้าวที่หยุดลง.
จ้องมองออกไปยังโลกกระบี่ ซึ่งมีจุดสามจุด.
หนึ่งในนั้นเป็นเหล่าฉีที่หนีมานั่นเอง เหล่าฉีที่พยายามที่จะต่อต้าน ทว่าด้วยเจตจำนงกระบี่ที่กระจายปกคลุมทั่วฟ้าทำให้เขาไม่สามารถต้านทานได้ และยังได้รับบาดเจ็บหนัก พร้อมกับยอมแพ้มอบหยกสัญลักษณ์ออกไป.
ส่วนคนทั้งสอง คนหนึ่ง จงซานรับรู้และจำได้.
หานจื่อกวง เขาคือราชันย์ของราชวงศ์ราชันย์จื่อกวง ที่ถูกเขากำจัดไป ทว่าหานจื่อกวงนั้นยังไม่ตาย.
คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอที่นี่.
หานจื่อกวงในชุดคลุมสีม่วง แม้ว่าจะยืนนิ่ง ไม่ได้ลงมือ ทว่าปราณกระบี่ที่ถูกปล่อยออกมานั้นไม่สามารถเข้าใกล้หานจื่อกวงในรัศมีร้อยจั้งได้เลย มันได้สลายหายไปทั้งหมด.
ส่วนอีกคนหนึ่ง เป็นชายในชุดสีขาว ชุดสีขาวบริสุทธิ์ทั่วร่าง ใบหน้าที่ดูขมวดแน่นจริงจังเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก.
กระบี่ในมือของเขานั้น เป็นกระบี่ยาวที่ดูแปลกประหลาด มันดูโปร่งใส เป็นริ้วแสงลากยาวหากแต่ดูธรรมดาเป็นอย่างมาก เมื่ออยู่ในมือยอดยุทธิ์ เป็นไปไม่ได้ที่มันจะธรรมดาขนาดนี้.
"กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์?"เจี้ยนอ้าวที่ขมวดคิ้วไปมา.
คนทั้งสองในเวลานี้ได้พบแล้วว่ามีคนสองคนได้เดินทางมา จงซานที่จ้องมองออกไป.
ชายในชุดขาวนั้นได้ทำการเก็บหยกสัญญาณมาจากเหล่าฉี หานจื่อกวงที่ลงมือในทันที.
หานจื่อกวงสะบัดมือ ปรากฏแสงสีน้ำเงินพุ่งตรงมายังจงซานและเจี้ยนอ้าว.
แสงสีน้ำเงินที่พุ่งมาด้วยความเร็วสูง ในคราวแรกจงซานที่คิดว่าเป็นเพียงแค่ของวิเศษ ทว่าดูเหมือนว่าแสงสีน้ำเงินนั้นกลับมีความเร็วที่น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก พริบตาเดียวมันก็มาถึงพวกเขาแล้ว.
เร็วมาก ไม่มีเวลาให้ขยับตัวแม้แต่น้อย เจี้ยนอ้าวและจงซานที่ใช้ม่านพลังปกป้องร่างกายตัวเองในทันที.
"ฟิ้ว!!!"
ราวกับกระแสลมที่แข็งแกร่งพัดผ่าน จงซานและเจี้ยนอ้าวถูกแช่แข็งด้วยผลึกน้ำแข็งในทันที.
ไม่ จงซานที่อยู่ไกลออกมานี้ กลายเป็นน้ำแข็งลูกบาศก์ขนาดหนึ่งร้อยจ้างแช่แข็งคนทั้งสองเอาไว้.
น้ำแข็ง? เหมือนน้ำแข็ง หากเป็นผลึกที่แข็งเหมือนเพชร.
ทรงพลังมั่นคงมาก.
กำแพงผลึกจี้กวง.
จงซานที่คิดอะไรบางอย่างได้ เกี่ยวกับวัสดุที่เขาเคยเห็นก่อนหน้านี้ นี่คือพลังของหานจื่อกวง กำแพงเมืองผลึกจื้อกวง ซึ่งปกคลุมป้อมปราการเมือง นี่คือโล่ที่แข็งแกร่งทรงพลังเป็นอย่างมาก ครั้งหนึ่งหานจื่อกวงใช้มันปกป้องเมืองของตัวเองเอาไว้.
แข็งแกร่ง นี่ไม่ใช่แค่เป็นโล่ป้องกันได้ หากแต่มันยังสามารถที่จะผนึกได้ด้วย ตามข่าวลือ ต่ำกว่าระดับราชันย์แท้ ไม่มีใครสามารถผ่านได้ หากไม่มีคนช่วยเหลือไม่มีทางหนีออกมาได้ พลังของมันนั้น สามารถผนึกได้แม้แต่วิญญาณ ให้ถูกแช่อยู่ด้านใน.
กำแพงผนึกจื้อกวง.
จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา ร่างกายที่ขยับออกมาอย่างรวดเร็ว มาปรากฏอยู่ด้านนอกผนังผลึก.
ร่างแยกเงานั้นมีร่างกายเช่นใด ไม่ต้องกล่าวเลยว่าร่างแยกเงานั้นไร้ซึ่งรูปร่าง เป็นริ้วแสงที่สามารถเคลื่อนย้ายไปมา เปลี่ยนเป็นไร้รูปร่างได้ ไม่มีทางที่กำแพงจื่อกวงจะสามารถกักขังเขาได้.
หานจื่อหวงที่เห็นมีคนออกมาได้ ดวงตาที่หดเล็กลง ไม่อยากเชื่อ กำแพงผลึกจื้อกวงของเขา มีคนสามารถออกมาง่าย ๆ ได้อย่างไร?
เรื่องนี้มัน คิ้วของหานจื่อกวงที่ขดไปมา.
ขณะที่หานจื่อกวงกำลังขมวดคิ้วแน่นอยู่นั้น
"ตูมมมมมมมม"
เกิดเสียงดังระเบิดดังสนั่น กำแพงผลึกจื้อหวงของเขาที่เปิดออกมา ปราณกระบี่ที่รุนแรงได้สาดไปทั่วพื้นที่รอบ ๆ ปราณกระบี่ที่โชติช่วง
เจี้ยนอ้าวที่ชี้กระบี่ขึ้นไปบนท้องฟ้า พร้อมกับปล่อยปราณกระบี่ออกมานั่นเอง
หานจื่อกวงที่ต้องขมวดคิ้วแน่น กำแพงผลึกจื้อกวงแข็งแกร่งขนาดใหน เขารับรู้ดี สามารถทลายเป็นชิ้น ๆ เลยรึ? เพียงแค่ปราณกระบี่ก็สามารถทำลายกำแพงได้แล้วรึ? ต้องไม่ลืมด้วยว่าแม้แต่ระดับราชันย์แท้ระดับต้นยังไม่สามารถทำลายมันได้โดยง่าย.
อย่างไรก็ตาม การที่เขาทำลายมันได้ นับว่าแปลกแล้วหากแต่ก่อนหน้านี้แปลกกว่าสะอีก.
แปลกมาก กำแพงผนึกจื้อกวงนั้นแข็งแกร่งหนาแน่นมาก มีเพียงแค่แสงเท่านั้นที่ส่องผ่านได้ แล้วเขาออกมาได้อย่างไร เขาออกมาได้รึ? ออกมาด้วยเจตจำนงตัวเองรึ?
จงซาน? นี่เป็นเขารึ?
หานจื่อกวงจำจงซานได้ในทันที ดวงตาของเขาที่ส่องประกายแสงที่แปลกประหลาด.
จงซานเป็นใครอย่างงั้นรึ?หานจื่อกวงที่เข้าใจได้ดีกว่าคนอื่น ราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี ทั้งหมดถูกทำลายย่อยยับด้วยฝีมือเขา.
จงซานในเวลานั้น ยังมีระดับแค่แกนทอง แค่ระดับแกนทอง กับทำให้ราชวงศ์ราชันย์สองแห่งล่มสลายได้.
แผนการสวรรค์ล่ม ห้าขั้น เพียงแค่สี่ขั้นก็ทำให้อาณาจักรล่มสลายแล้ว ต้องบอกเลยว่าเขาเป็นคนที่ควบคุมทัพราวกับเทพสวรรค์ ในทวีปศักดิ์สิทธิ์ไม่มีใครไม่รู้จัก นี่คือตัวตนที่ร้ายกาจ ราชวงศ์ราชันย์จี้กวงที่ต้องล่มสลายไป ก็เพราะเขา แม้ว่าเขาจะเป็นคนตั้งใจยอมแพ้เอง หากไม่มีอีกฝ่าย แล้วเขาจะต้องใช้แผนการเช่นนั้นอย่างงั้นรึ?
ตอนนี้ไม่สามารถมองเห็นพลังฝึกตนของเขา คาดไม่ถึงเขาก้าวมาถึงระดับเดียวกับเขาแล้วรึ?
ไม่ อย่างมากน่าจะระดับจักรพรรดิแท้ ทว่าทำไมถึงได้เร็วขนาดนี้กัน? เร็วมาก นี่อสุรกายอย่างงั้นรึ? หรือว่าเป็นคนที่กลับชาติมาเกิดกัน? แน่นอนต้องใช่แน่ ไม่เช่นนั้นพลังฝึกตนคงจะไม่เร็วขนาดนี้.
คิดถึงตรงนี้ ดวงตาของหานจื่อกวงที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง เขาควรจะรอบคอบกว่านี้.
ที่ไกลออกไปนั้น หลังจากที่เหล่าฉีได้สูญเสียหยกสัญญาณแล้ว เขาก็พุ่งทลายลอยขึ้นไปบนเมฆสีดำเป็นการบอกว่าเขาได้สูญเสียคุณสมบัติในการสืบทอดแล้ว.
ที่ไกลออกไปนั้น จงซานที่ปรากฏออกมาไม่ไกลออกไปนัก.
"กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์?"เจี้ยนอ้าวที่จ้องมองไปยังกระบี่ใส สายตาที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"พยามารเจี้ยนอ้าว เจ้ายังจำกระบี่เล่มนี้ได้อีกรึ?"ชายคนดังกล่าวที่ถือกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์พร้อมกับดวงตาทอแสงเป็นประกาย.
"เจ้าคงจะเป็นมารแท้ซังเหลี่ยน? ถึงได้รู้จักกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์?"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"ใช่แล้ว ในเมื่อพญามารเจี้ยนอ้าวใหนก็มาแล้ว เช่นนั้นจะช่วยชี้แนะซังหลียนหน่อยจะได้หรือไม่?."ซังเหลียนที่เอ่ยปากออกมาในทันที.
"หืม?"เจี้ยนอ้าวที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย.
"พญามารเจี้ยนอ้าว เมื่อสามหมื่นปีที่แล้วเป็นเจ้าที่ใช้กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์สินะ!"มารแท้ซังเหลียนที่สอบถามออกไป.
"ถูกแล้ว! แม้ว่าความทรงจำของข้ายังไม่ได้ฟื้นคืนมา ทว่าเกี่ยวกับเรื่องของชาติที่แล้วย่อมมีบันทึกเอาไว้ กระบี่วิญญาณเทวะเหมันต์นั้นเป็นกระบี่ในชาติที่แล้วของข้า ในอดีตนั้น มันเคยเป็นกระบี่เทวะอันดับหนึ่งของแดนเทพอเวจี."เจี้ยนอ้าวพยักหน้า.
"เป็นกระบี่เทวะอันดับหนึ่งของแดนเทพอเวจี เป็นความจริง ในเวลานั้นพญามารเจี้ยนอ้าวนอกจากเป็นประมุขแดนเทพอเวจีแล้ว ยังมีชื่อเสียงไปทั่วทวีปศักดิ์สิทธิ์ แล้วยังเป็นคนแรกที่ฝึกฝนบำเพ็ญวิถีกระบี่ ไม่รู้ว่ากระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์นี้ช่วยท่าน หรือว่าท่านช่วยกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ ชื่อของท่านและกระบี่เป็นที่รู้จักไปทั่วทวีปศักดิ์สิทธิ์ ตามข่าวลือนั้น ความแข็งแกร่งของท่าน ถึงแม้ว่าจะกลายเป็นเซียนก็ไม่ใช่เรื่องยาก อย่างน้อยก็มีโอกาส 50 เปอร์เซ็นต์ ทว่าท้ายที่สุดทำไมถึงได้ตัดใจทิ้งกระบี่ แม้แต่ไม่ลังเลเลยที่จะฆ่าตัวตาย?"มารแท้ซังเหลียนที่กล่าวสอบถาม.
ฆ่าตัวตายอย่างงั้นรึ?
จงซานและหานจือกวงที่จ้องมองเจี้ยนอ้าวด้วยท่าทางประหลาดใจ วิถีกระบี่อันดับหนึ่งของทวีปศักดิ์สิทธิ์ ฆ่าตัวตาย? ทำไมถึงทำเช่นนั้น? ไม่ใช่ว่าเป็นอะไรที่ไร้สาระหรอกรึ?
เจี้ยนอ้าวที่ยื่นมือขวาออกไปเบา ๆ มารแท้ซังเหลียนที่ยื่นกระบี่เทวะเหมันต์ให้เขา.
เจี้ยนอ้าวที่รับกระบี่มา พร้อมกับจับกระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์ พร้อมกับกวัดแกว่ง ประกายแสงสิบริ้วแสงก็แผ่ออกมา ส่องประกายแสงวับวาวแสบตา ราวกับว่ามันกำลังดีใจที่ได้พบกับเจ้านายเดิมของมัน.
มารแท้ซังเหลียนที่ดวงตาหดเกร็ง เพราะว่าเขาได้กระตุ้นด้วยพลังของเขาสุดกำลังแล้ว ก็ทำได้แค่เพียงแปดเฉดสีเท่านั้น เจี้ยนอ้าวที่มากกว่าเขาสองสีอย่างคาดไม่ถึง ไม่ต้องบอกเลยว่าฝีมือกระบี่ของเขาเหนือกว่าอย่างงั้นรึ?
เจี้ยนอ้าวส่ายหน้าไปมา ก่อนที่จะยื่นมันคืนให้กับซังเหลียน.
"กระบี่เทวะวิญญาณเหมันต์นี้ ยกเว้นแดนเทพอมตะ หนึ่งในกระบี่ทั้งสี่ "เห่าเฟิงซุย"ไม่มีกระบี่ใหนสามารถเทียบมันได้ อย่างไรก็ตามถึงมันจะเทียบได้กับกระบี่เห่าเฟิงซุย แต่ว่ามันไม่เหมาะกับวิถีกระบี่ของข้า."เจี้ยนอ้าวที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่เหมาะกับวิถีกระบี่ของเจ้ารึ?"ซังเหลียนที่ขมวดคิ้วไปมา ราวกับว่าเข้าใจอะไรบางอย่าง.
"นี่คือกระบี่ยาว กับความสามารถของมัน ข้าย่อมเข้าใจมันดี แต่ตัวข้านั้นมีเป้าหมายของตัวเอง สิ่งนี้ในเวลานี้ ถึงแม้ว่ามันจะเป็นอาวุธที่ทรงพลัง ทว่าด้วยการใช้สิ่งนี้ มันจะไม่ทำให้ข้าแข็งแกร่ง ข้าไม่เคยน่าเกรงขาม ในอดีตที่ข้าบำเพ็ญวิถีกระบี่ มันเป็นกระบี่ที่ช่วยข้ามากมาย จนทำให้เพลงกระบี่ของข้าเองไม่ก้าวหน้า ไม่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง จวบจนข้าเป็นทาสของกระบี่เล่มนี้ ข้าไม่ต้องการฝึกฝนวิชาของกระบี่เล่มนี้แล้ว ทว่าข้าต้องการฝึกฝนวิชาของข้า ค้นหาความแข็งแกร่งที่มาจากตัวข้าเอง ไม่ใช่จากตัวกระบี่ ในชาติที่แล้วข้าไม่สามารถทำมันได้สำเร็จ เนื่องด้วยการใช้มันตระเวนไปทั่วหล้า เมื่อตัวกระบี่ได้ก้าวไปถึงจุดสูงสุดของมันแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะก้าวขึ้นไปได้อีก กำแพงที่ขวางกั้นนั้นไม่สามารถที่จะผ่านไปได้อีกตลอดกาล."เจี้ยนอ้าวกล่าว.
"เพลงกระบี่ที่เป็นของท่านเองรึ?"มารแท้ซังเหลียนที่แสดงท่าทางไม่เข้าใจ.
"เพลงกระบี่ที่มาจากตัวข้าเอง ไม่ได้มาจากสิ่งของ ทว่าในชาติที่แล้วข้าได้กลายเป็นหนึ่งกับมันแล้ว จึงไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นข้าจึงทำได้แค่จุติใหม่ ทำลายความทรงจำทั้งหมด ทำลายรูปแบบและวิชาดั้งเดิม เริ่มต้นใหม่ ฝึกฝนวิถีกระบี่ เป็นวิถีกระบี่ของข้าเอง เกิดจากตัวของข้า ไม่ใช่ทรงพลังจากตัวของกระบี่."เจี้ยนอ้าวกล่าวชี้แนะ.
เพราะว่าเขาพบว่าวิถีกระบี่ของเขานั้นบกพร่อง ดังนั้นจึงได้ฆ่าตัวตายเพื่อเกิดใหม่แก้ไขสิ่งเหล่านี้อย่างงั้นรึ? หากว่าการเกิดใหม่ วิญญาณแตกสลายแล้วจะทำอย่างไรล่ะ? คนทั้งสามคนที่จ้องมองไปยังเจี้ยนอ้าว เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก จิตใจที่หนักแน่นเด็ดขาดจริง ๆ