ตอนที่แล้วChapter 500 แดนเทพอเวจี
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 502 เจ้าตายไปแล้ว

Chapter 501 กร่อนสรรพชีวิต.


สามวันผ่านไป อย่างรวดเร็ว.

วันแข่งขันหาผู้สืบทอดก็มาถึง.

อย่างไรก็ตาม คนทั้ง 21 กลุ่มนั้นไม่ได้ปรากฏขึ้นพร้อม ๆ กัน.

เมื่อวานนี้ ทั้ง 21 กลุ่มนั้นได้หยกที่แปลกประหลาดเพื่อแสดงการเข้าแข่งขัน.

หยกสัญญาณที่จะปล่อยแสงสีแดงออกมา เป็นสัญญาณของผู้เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ ของสิ่งนี้ไม่สามารถเก็บเข้ามาในกำไลเก็บของได้.

ในเวลานี้ ทุกคนได้ยินเสียงเบา ๆ ออกมาจากหยกสัญญาณ เป็นเสียงของพญามารแดนเทพอเวจีนั่นเอง.

หลังจากที่เจี้ยนอ้าวและจงซานได้ทำการยืนยันคำสั่ง ทันใดนั้นก็มีพลังเคลื่อนย้ายที่เคลื่อนที่ควบคุมร่างกายของพวกเขาในทันที.

คนทั้งสองไม่ได้ต่อต้าน พวกเขาได้ยินเสียงเบา ๆ ก่อนหน้านี้ย่อมรับรู้ว่าพญามารต้องการทำอะไร.

ทั้งคู่ถูกส่งไปยังส่วนหนึ่งของเทือกเขาคู่หยินหยาง.

การทดสอบผู้สืบทอดนั้นมีด้วยกันสองบททดสอบ.

เวลานี้เป็นการทดสอบแรก การทดสอบแรกนั้นง่ายมาก แต่ละกลุ่มจะต้องได้รับหยกสัญลักษณ์สามชิ้นจากลุ่มอื่น ๆ  ซึ่งเมื่อได้ครบแล้วก็สามารถข้ามผ่านไปยังบททดสอบที่สองได้.

ทั่วทั้งฟ้าของภูเขาคู่หยินหยางนั้น ไม่สามารถบอกทิศทางตำแหน่งได้เลย มีเมฆหนามาก ๆ  ไม่มีใครสามารถบินขึ้นไปด้านบนได้ หากลอยขึ้นไปบนท้องฟ้านั้นแสดงว่ายอมแพ้การแข่งขัน ตอนนี้พวกเขาจะต้องค้นหาหยกสัญญาณมาให้ได้สามชิ้น.

ในป่าแห่งหนึ่ง จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แดนเทพอเวจีนั้นแตกต่างจากแดนเทวะอื่น ๆ  สถานที่แห่งนี้ถือกฎป่า แม้แต่คนของแดนเทพอเวจีเองก็ไร้ซึ่งหลักการและคุณธรรม เมื่อถึงเวลาฆ่าก็ต้องฆ่า!"ดวงตาของเจี้ยนอ้าวเปล่งประกาย.

ถึงเวลาฆ่าก็ต้องฆ่า เรื่องนี้จงซานต้องจำเอาไว้ นี่เป็นการเดิมพันด้วยความเป็นความตาย ไม่จำเป็นต้องใส่ใจพิธีหรือสถานะใด ๆ  มีเพียงสิ่งเดียวต้องสังหารฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น ถึงจะแย่งชิงหยกสัญญาณได้.

จงซาน"........"

เมื่อถึงเวลาสังหารก็ต้องสังหารรึ? เหล่าคู่หูที่ทุกคนนำมาทั้งหมด ล้วนแล้วแต่มีระดับจักรพรรดิแท้ขึ้นไป เหล่าเมล็ดมาทั้งหลายเป็นไปไม่ได้ที่จะเหนือกว่าพวกเขามาก ทว่าในการเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ก็มีมารแท้อยู่ด้วยเช่นกัน.

ผู้ช่วยมารแท้ ระดับราชันย์แท้ คนที่นำมาเองก็ไม่มีทางที่จะอ่อนแออย่างแน่นอน.

เกี่ยวกับระดับราชันย์แท้ เมื่อสังหารก็ต้องสังหารรึ?

จงซานถึงกับหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา ไม่ได้กลายเป็นว่าเป็นพวกเขาจะถูกสังหารหรอกรึ?

แน่นอน สำหรับจงซานแล้ว แม้ว่าจะประหลาดใจอยู่บ้าง ทว่าก็ไม่ได้หวาดกลัวแต่อย่างใด ระดับราชันย์แท้ ทว่าก็ไม่สามารถที่จะประมาทได้เช่นกัน.

หยกสัญญาณนั้นเป็นเจี้ยนอ้าวเป็นคนเก็บดูแล แน่นอนว่าจงซานไม่มีความเห็นแย้งแต่อย่างใด เดิมที นี่ก็เป็นการช่วยเหลือเจี้ยนอ้าวอยู่แล้ว.

ขุนเขาคู่หยินหยางนั้น มีความสูงชันแม้แต่ความกว้างนั่นยังน่าเกรงขามมาก และยิ่งไม่สามารถบินได้สูง บินได้อย่างจำกัดด้วยแล้ว ดังนั้นไม่สามารถใช้สายตาได้อย่างเต็มที่แน่ แม้นจะใช้สัมผัสเทวะก็ดูเหมือนว่าพื้นที่แห่งนี้จะกว้างใหญ่เป็นอย่างมาก.

คนทั้ง 21 กลุ่มนั้นถูกแยกออกไปยังสถานที่ต่าง ๆ กัน ทว่าการจะพบกันนั้น ไม่ยากและก็ไม่ง่ายเช่นกัน.

"ไป!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากำลังจะไปหาคู่ต่อสู้นั่นเอง.

"ไม่ คนอื่นกำลังค้นหาพวกเราอยู่ พวกเราควรจะไปหาสถานที่รอคอยให้กระต่ายวิ่งมาหาดีกว่า."จงซานส่ายหน้าไปมา.

"หืม?"เจี้ยนอ้าวประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็จ้องมองไปยังจงซาน.

หาสถานที่เหมาะสม รอคอยกระต่ายวิ่งมาหา ตัวเจี้ยนอ้าวดูแคลนวิธีนี้เช่นกัน ทว่าจงซานนั้นแตกต่าง ในเมื่อต้องทำ ก็ต้องทำให้สำเร็จ เขาจะต้องค้นหาสถานที่เหมาะสม ให้ได้เปรียบเหมาะกับตัวเองที่สุด ต้องไม่ลืมว่าพวกเขาจะต้องเชิญหน้ากับผู้ฝึกตนระดับราชันย์แท้.

จากนั้นจงซานได้พบสถานที่แห่งนี้ ค่อนข้างเป็นพื้นที่เปิด แน่นอนว่าไม่ไกลออกไปนั้นมีบึงขนาดใหญ่อยู่ พวกเขารอคอยที่นี่อย่างอดทน.

จงซานที่ก่อไฟขึ้น เพื่อที่จะล่อกระต่ายเข้ามาหา.

เพียงแค่ไฟเล็กน้อยที่พุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า ก็เหมือนกับว่าเป็นการเผยตำแหน่งให้กลุ่มอื่นได้เห็นได้ในทันที.

เป็นจงซานจงใจเปิดเผยตัวเองออกมา ต้องไม่ลืมว่าพื้นที่เทือกเขาคู่หยินหยางนั้นมีขนาดใหญ่มาก แม้ว่าจะใช้สัมผัสเทวะได้ การจะหาคู่ต่อสู้ ยังต้องใช้เวลาเป็นวันแน่.

ควันที่พวกเขาก่อขึ้นได้ลอยขึ้นฟ้า เป็นความจริงท้ายที่สุดมันก็ถูกพบโดยคนกลุ่มหนึ่ง.

"เอ้ เหล่าจิว มันจะดูสบายเกินไปไหม?"คนผู้หนึ่งที่เอ่ยออกมาจากบนภูเขาลูกหนึ่ง.

เจี้ยนอ้าวที่ยืนขึ้นในทันที จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังอีกฝั่งของยอดเขา.

ที่ยอดเขานั้นปรากฏคนสองคน หนึ่งชุดสีทอง หนึ่งสวมชุดสีแดง.

คนที่กล่าวออกมานั้นเป็นชายชุดสีทอง เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาคือผู้เยาว์เมล็ดมาร.

"เหล่าซาน?"เจี้ยนอ้าวเผยยิ้มออกเล็กน้อย.

"ฟิ้ว!!"

คนทั้งสองที่เคลื่อนที่บินลงมาจากยอดเขา ตรงลงมาบนพื้นไม่ไกลออกไป.

เหล่าจิว เหล่าซานรึ?

จงซานรับรู้ข้อมูลต่าง ๆ จากเจี้ยนอ้าวมาก่อนหน้านี้สองวัน เกี่ยวกับผู้เยาว์เมล็ดมารมา ทุกคนล้วนแล้วแต่ลึกลับ ทุกคนที่ได้กลับชาติมาเกิดนั้น ต่างก็เป็นกลุ่มที่มีพรสวรรค์ที่หลากหลาย มีร่างกายที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิมมาก.

แน่นอนว่าทุกคนก็ไม่ได้แตกต่างจากเจี้ยนอ้าวที่ไม่ธรรมดา อย่างน้อยจงซานก็สามารถมองเห็นความผิดปรกตินี้ได้ ดูเหมือนว่าในกลุ่มของเมล็ดมารนั้นจะมีอยู่ด้วยกันเก้าตำแหน่ง.

เหล่าซานที่จ้องมองมายังเจี้ยนอ้าว ส่วนชายในชุดสีแดงนั้นจ้องมองไปยังจงซานด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายเป็นอย่างมาก.

คนผู้นี้เป็นเหล่าซานนำมาเป็นคู่หู ทว่าดูเหมือนว่าถึงตัวเขาจะเป็นคนนอกกับดูสนอกสนใจจงซานเป็นอย่างมาก แววตาที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยันที่อัดแน่น.

แน่นอนว่าคนผู้นี้คือซือโป๋วของเซอคงนั่นเอง เขามั่นใจว่าสามารถที่จะจัดการจงซานได้สบาย ๆ .

"เหล่าจิว ได้ยินมาว่าเจ้าสร้างเพลงกระบี่ของตัวเองขึ้นมาอย่างงั้นรึ? ต้องการให้ข้าชี้แนะหรือไม่?"เหล่าซานที่กล่าวหยันออกมา.

เจี้ยนอ้าวที่เผยยิ้มบาง ๆ  แววตาที่คมกริบจับจ้องมองออกไป.

"แน่นอนว่าข้าคงต้องชดใช้ด้วยความตายและหยกสัญญาณของเจ้ามา!"เหล่าซานที่กล่าวออกมาตรง ๆ .

"ใครจะเป็นจะตายไม่มีใครรู้ เจ้าต้องการหยกสัญญาณของข้าอย่างงันรึ? แล้วหยกสัญญาณของเจ้าล่ะ?"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวออกมา.

เหล่าซานและเจี้ยนอ้าวที่นำหยกสัญญาณออกมา แน่นอนว่านี้เป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่ง ทั้งคู่ต่างรู้ดีว่านี้จะเป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วง ย่อมไม่มีใครออมมือเอาไว้แน่.

ตามกฎของแดนเทพอเวจี คือการต่อสู้ ผู้ชนะเป็นจ้าว พ่ายแพ้เป็นโจร!

"วูซซซซ"

ขณะที่พูดเหล่าซาน ที่ชักดาบยาวสีทองออกมา เป็นดาบยาวที่ดูร้ายกาจมา มีปราณแห่งความตาย ภาพเงาของภูตผีที่แผ่ออกมารอบทิศทาง.

เจี้ยนอ้าวที่ชักกระบี่ด้านหลังออกมา กระบี่ที่ถูกชักออกมาจากด้ามนั้น จงซานไม่สามารถมองเห็นคมได้เลย กระบี่ของเขาที่กุมเอาไว้ด้านหน้า.

กระบี่? ด้ามกระบี่ไร้คมรึ? นี้เรียกว่าดาบกระบี่รึ? เห็นได้ชัดเจนว่านี่เป็นกระบี่ทำมือ ยังไม่ได้ทำด้ามด้วยซ้ำ ส่วนด้ามนั่นเป็นส่วนของกระบี่ที่ยื่นออกมา เป็นเพียงแค่โลหะหนาของด้ามกระบี่เท่านั้น แม้ว่าจะดูเหมือนกระบี่ ทว่าให้พูดตรง ๆ ล่ะก็กลับดูเหมือนกระบองยาวซะมากกว่า.

"ฮ่าฮ่าฮ่า เหล่าจิว ไม่ใช่ว่าเจ้าจะนำท่อนเหล็กนั่นมาต่อสู้กับดาบตะวันผลาญของข้าอย่างงั้นรึ?"เหล่าซานที่เผยยิ้มและกล่าวล้อออกมาทันที.

"กระบี่หนักไม่จำเป็นต้องมีคม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้การไม่ได้!"เจี้ยนอ้าวกล่าว.

ขณะที่เจี้ยนอ้าวกล่าว กระบี่หนักก็พุ่งตรงไปยังเหล่าซาน.

กระบี่หนักที่ดูเหมือนเต็มไปด้วยพลัง ความเร็วของเจี้ยวอ้าวที่ฟาดออกไปนั้น คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ได้รวดเร็วอะไร ดูเฉื่อยชาด้วยซ้ำ จวบจนเหล่าซานเผยยิ้มอย่างเหยียดหยัน.

ดาบตะวันผลาญที่เตรียมรับกระบี่ของเขาที่พุ่งมานั้น.

ฟันกระบี่ได้ช้าขนาดนี้เลยรึ? เหล่าซานที่ฟันดาบออกไป เขาที่เผยท่าทางหยันคู่ต่อสู้เป็นอย่างมาก.

กระบี่ช้า? ทั้งเล็กและช้า ทว่ากระบี่นั้นกับแฝงไปด้วยจิตกระบี่ที่พุ่งออกไปยังเหล่าซานอย่างคาดไม่ถึง.

กระบี่หนักของเจี้ยนอ้าวนั้น มีน้ำหนักเป็นอย่างมาก ราวกับว่ามันเป็นขุนเขาขนาดใหญ่ก็ไม่ปาน และยังมีพลังของกฎฟ้าดิน พุ่งตรงกลืนเหล่าซาน.

"ตูมมมมมมม"

สนามพลังของกระบี่ที่พุ่งออกไป เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น เหล่าซานที่ตอบสนองในทันที เร่งรีบหลบการโจมตีของกระบี่หนักอย่างรวดเร็ว.

"ดี ได้ ให้มันได้อย่างนี้ เหล่าจิว ข้าประมาทเจ้าไปหน่อย ชิ!"เหล่าซานที่คำรามเสียงดังและยังแฝงน้ำเสียงที่เย้ยหยันเช่นเดิม.

กระบี่ของเจี้ยนอ้าวนั้น ได้ปล่อยคลื่นพลังฟ้าดิน และยังมีเจตจำนงกระบี่ไร้ที่สิ้นสุด พุ่งทะยานขึ้นมาจากบนพื้นดิน.

การปะทะของทั้งคู่ที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ  เจตจำนงกระบี่มากมายที่กระจายอยู่รอบ ๆ  นับล้านคมกระบี่ ราวกับศรปราณทะลวงที่พุ่งตรงไปยังเหล่าซานในทุก ๆ การโจมตี.

เหล่าซานที่ดวงตาหดเกร็ง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว ถัดจากนั้นเหล่าซานก็เงื้อดาบยักษ์สร้างภาพมายาดาบขึ้นมา ก่อนที่จะฟันออกไปอย่างรีบเร่ง ดาบสีทองที่แข็งแกร่งทรงพลัง ฟันออกไป ราวกับจะแยกสวรรค์และปฐพี คลื่นอากาศถูกตัดผ่านออกเป็นสองฟันพุ่งไปด้วยความรุนแรงหนักหน่วง.

ปราณดาบของเหล่าซานที่เต็มไปด้วยพลังพุ่งตรงไปยังเจี้ยนอ้าวเช่นกัน.

นี่คือสองผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ ที่กำลังเข้าต่อสู้ห้ำหั่นกัน.

ระหว่างสองคนที่เผชิญหน้ากันอยู่นั้น จงซานและชายในชุดสีแดงได้เข้าประจันหน้ากันแล้ว.

เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่คือการต่อสู้ตัวต่อตัว เจี้ยนอ้าวพบเหล่าซาน จงซานปะทะชายชุดแดง นับว่าเป็นการต่อสู้ที่ยุติธรรม.

จงซานที่สะบัดมือ บึงแห่งหนึ่งที่สั่นไหวไปในทันที จากนั้นจงซานก็เคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งของบึง.

"วูซซซซ"

โคลนในบึงขนาดใหญ่ที่กว้างกว่าพันเมตรเกิดคลื่นม้วนกวาดขึ้นมา ราวกับคลื่นสึนามิ พร้อมกับพุ่งตรงมาหาจงซาน เคลื่อนที่ตามการเคลื่อนไหวของจงซาน.

ร่างหลักจงซานนั้นฝึกฝนวิชา"สายฟ้าสวรรค์ผันแปร" ทว่าร่างแยกเงานั้นก็ได้วิชาหยินบริสุทธิ์จากราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวเช่นกัน เป็นวิชา"กร่อนสรรพชีวิต"

สายฟ้าสวรรค์ผันแปรเป็นการดึงพลังจากสวรรค์ สร้างเมฆสายฟ้ามากมายไร้ที่สิ้นสุด เพื่อใช้โจมตีลงมาด้านล่าง.

กร่อนสรรพชีวิตที่จริงแล้วเป็นการดึงพลังจากผืนปฐพี สามารถสร้างโคลนที่มากมายไร้ที่สิ้นสุด พร้อมกับดูดกลืนกัดกร่อนทุกสรรพชีวิต.

แน่นอนว่า บึงมีพื้นที่ใหญ่ พลังของมันจะยิ่งมากมายและมากขึ้นเท่านั้น.

คลื่นโคลนที่ใหญ่โตราวกับสึนามิที่พัดผ่านพุ่งตรงไปยังชายในชุดสีแดง ซึ่งตอนนี้ได้ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า กวาดพื้นที่รอบ ๆ ปกคลุมพื้นดินด้วยพลังมหาศาล.

เจี้ยนอ้าวและเหล่าซานที่ปะทะกันอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ย่อมสัมผัสได้ถึงพลังของจงซานที่ไม่ได้อ่อนแอเลย ในเวลานี้โคลนที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า คลื่นโคลนที่ใหญ่ยักษ์บ้าคลั่ง.

นับว่าเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเป็นอย่างมาก ขณะที่พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่นั้น มีคนอีกลุ่มหนึ่งที่ได้มองเห็นพวกเขาจากที่ไกลออกไปอยู่.

เทือกเขาคู่หยินหยางนั้นมีขนาดใหญ่โตมาก การจะพบคนสักกลุ่มนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่กำลังสู้กันอย่างรุนแรงหนักหน่วง ก็ยังยากที่จะพบ บางทีจงซานอาจจะเป็นคนดวงดี ที่มีกลุ่มอื่น ๆ หาเขาพบ.

อย่างไรก็ตามกลุ่มที่มาใหม่นี้ ไม่ใช่มารแท้ เป็นเพียงผู้เยาว์เมล็ดมาร และมีผู้ช่วยคนหนึ่งที่เขานำมา ซึ่งจงซานรู้จักดี เฉินฉีเทียนนั่นเอง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด