ตอนที่แล้วChapter 395 องค์กรลึกลับ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 397 บุตรของข้า.

Chapter 396 แดนเทพพิสุทธิ์.


ชายคิ้วเหลืองที่ระเบิดพลังอย่างบ้าคลั่ง แรงกดดันวิญญาณมหาศาลที่กดโถมกระหน่ำไปยังจงซานและเซียนเซิงซือ.

แรงกดดันมหาศาลที่กดทับลงมานั้น ทำให้รู้สึกราวกับว่าร่างกายของทั้งสองถูกกดไว้ด้วยศิลานับหมื่นจิน เคลื่อนไหวยากลำบาก.

ถึงแม้ว่าจะใช้วิชากายาเทพอสูร จงซานยังรู้สึกว่ายากที่จะยกแขนขึ้นได้.

ชายคิ้วเหลืองที่กล่าวออกมาด้วยความดุร้าย "แปลกรึ? พวกเจ้ามีอะไรแปลกจะแสดงให้ข้าดู?"

"กับทักษะที่เหนือล้ำ ทำได้เพียงแค่ข่มขู่ละมั้ง."จงซานที่จ้องมองด้วยความโกรธเกรี้ยวไปยังชายคิ้วเหลือง.

จงซานที่จ้องมองไปยังชายคิ้วเหลือง พร้อมกับกระตุ้นยันต์หยกทมิฬ หากว่าเขาพลาดตายในอาณาจักรก่อตั้งวิญญาณ ยันต์หยกทมิฬย่อมสามารถป้องกันวิญญาณเทวะของเขาเอาไว้ได้.

"ชิ! "ชายคิ้วเหลืองที่แค่นเสียงเย็นชา เตรียมสังหารคนทั้งสอง ในเมื่อแส่หาความตาย ก็ตายไปซะ!

ชายคิ้วเหลือที่ฟาดฝ่ามือออกไป พลังมหาศาล ฝ่ามือที่รุนแรงพร้อมจะกระแทกไปยังจงซาน ที่ด้านหน้าบนอากาศที่ว่างเปล่า รวมตัวเป็นพลังฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ขึ้นมาในทันที.

ฝ่ามือทองคำ ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ไร้ขอบเขต ก่อนหน้านี้เขาเคยเห็นมาก่อน ไม่คิดเลยว่าจะได้มารับด้วยตัวเอง ฝ่ามือทองคำ ทำให้จงซานรู้สึกหวาดหวั่นเช่นกัน ทรงพลังขนาดนี้เลยรึ?

ใช่แล้ว พลังแห่งกฎ จงซานที่รับรู้ว่าฝ่ามือดังกล่าวนั้น มีกฎเกณฑ์ของฟ้าดินแฝงอยู่ เป็นกฎเกณฑ์ของสายฟ้า ไม่น่าแปลกใจเลยว่าจะทรงพลังขนาดนี้ สมแล้วที่เป็นการโจมตีของระดับจักรพรรดิแท้.

ฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่ ต่อหน้าระดับก่อตั้งวิญญาณหรือแม้แต่หลอมกายธาตุ ไม่มีทางทนฝ่ามือนี้ได้ ต้องรู้ด้วยว่านี่คือการโจมตีของระดับจักรพรรดิแท้ ย่อมมีพลังที่มากมายไร้ที่สิ้นสุด.

จงซานที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัว!เซียนเซิงซือที่จ้องเขม็งที่เห็นจงซานยืนขวางด้านหน้า ภายในใจสั่นไหวเล็กน้อย สูดหายใจลึก ดวงตาที่หรี่เล็กลง ก่อนที่จะสะบัดมือ เตรียมใช้วิชาลับออกไป ทว่าฝ่ามือสีทองที่เคลื่อนที่เข้ามาใกล้ห้าจั้ง ฝ่ามือสีทองนั้นก็สลายหายไปในทันที.

"พรึบ"

เสียงด้านทึบเกิดขึ้นทันที.

"ตูมมมมม"

พื้นที่รอบ ๆ ศิลามากมายถูกบดขยี้ ล่วงหล่นกองอยู่เต็มพื้น สลายหายเป็นหมอกกระจาย.

บนศีรษะของชายคิ้วเหลือง ถูกแส้หนังทะลวงผ่าน ศีรษะของเขาที่กลายเป็นกลวงโบ๋ โดยแส้หนังได้ทะลวงผ่าน จนมองเห็นภูเขาด้านหลังเลยทีเดียว.

ชายคิ้วเหลืองตายไปในทันที ฝ่ามือของเขายังมาไม่ถึงจงซานด้วยซ้ำ หัวที่กลายเป็นรูด้วยแส้ยาวสิบเมตร ด้วยฝีมือของหญิงสาวในชุดสีดำ.

"จงซาน ข้าช่วยเจ้าอีกแล้วนะ!"เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ซี่ ๆ  ๆ  ๆ "

แส้ยาวที่ถูกดึงลากกลับมาโดยเนี่ยนโหยวโหยว ก่อนที่จะเดินข้ามศพชายคิ้วเหลืองที่นอนกองอยู่บนพื้น.

ชายในชุดสีเหลืองตายไปแล้ว จงซานที่เตรียมใช้แปดหางสวรรค์กลืนกินดวงวิญญาณเทวะ.

"ฟิ้ว!"

ด้วยวิชาลับบางอย่าง ทันใดนั้นวิญญาณเทวะแสงสีเหลืองก็พุ่งตรงมายังฝ่ามือของเซียนเซิงซือทันที ก่อนที่เขาจะเก็บมันไป.

"ข้าจำเป็นต้องใช้!"เซียนเซิงซือกล่าวออกมา.

จงซานพยักหน้า ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป ต้องไม่ลืมว่าดวงวิญญาณเทวะตอนนี้ไม่ได้ช่วยประโยชน์อะไรเขามากมายนัก.

"ขอบคุณ!"จงซานที่กล่าวต่อเนี่ยนโหยวโหยว.

แม้ว่าไม่เป็นไร ถึงแม้ว่าจะใช้ยันต์หยกทมิฬผนึกชายคิ้วเหลือได้ ทว่าทุก ๆ อย่างล้วนแล้วแต่ผนึก จะผนึกได้หรือไม่ก็ยังไม่สามารถบอกได้? บางทีอาจจะทำให้เซียนเซิงซือตายไปก็ได้ ดังนั้นต้องขอบคุณเนี่ยนโหยวโหยวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย.

"ขอบคุณ? แค่นั้นรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์นั่ง เขาไม่แสดงความดีใจบ้างเลยรึ?

หลายวันก่อนหน้าที่นางเห็นจงซานถึงกับตื่นตะลึง ภายในใจรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ไม่ได้เห็นมาเป็นเวลานาน กับท่าทางเฉยชาเช่นนี้ทำให้นางขุ่นเคืองไม่น้อย.

จงซาน"..........."

"เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าอย่างงั้นรึ? เขาใช้วิชาอะไรในการเก็บวิญญาณเทวะ ดูลึกล้ำยิ่งนัก!"เนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.

"ใช่แล้ว นี่คือเซียนเซิงซือ."จงซานกล่าว.

"แดนเทพอมตะ เจิ้นเหรินเนี่ยนโหยวโหยว."นางที่หันหน้าไปหาเซียนเซิงซือ.

เซียนเซิงซือที่ยกมือขึ้นมาคารวะทักทายเล็กน้อย ?ทว่าไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา เนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองแปลก ๆ ไปยังเซียนเซิงซือ.

"เจ้ากำลังไปใหนอย่างงั้นรึ? ทำไมถึงได้เข้าไปในรังโจร?"เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว.

เห็นเนี่ยนโหยวโหยว จงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ ที่จริงเนี่ยนโหยวโหยวตามเขามา และเห็นด้วยว่าเขาเข้าไปในรังโจรอย่างงั้นรึ?

"เซอคงก่อนหน้านี้ เขาได้บอกจะนำทางพวกเราไปยังแดนเทพพิสุทธิ์ ใครจะรู้ว่าจะพบกับเหตุการณ์เช่นนี้!"จงซานที่เอ่ยตอบ.

"แดนเทพพิสุทธิ์รึ? เจ้าต้องการเข้าไปในแดนเทพพิสุทธิ์รึ? ในเวลานี้ การตรวจตราเข้มงวดยิ่งกว่าเดิมมาก!"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวออกมา.

"พวกเรามีสิ่งนี้!"จงซานที่สะบัดมือนำตราที่ได้รับมาจากจินฉาน ส่วนเซียนเซิงซือเองก็ได้มาจากเจี้ยนอ้าวก่อนหน้านี้.

"เจ้ามีตราแปดสิบเอ็ดด้วยรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว ออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"นี่เรียกว่าตราแปดสิบเอ็ดอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"ไปเถอะ ข้าจะนำทางเจ้าไปยังดินแดนเทพพิสุทธิ์เอง!"เนี่ยนโหยวโหยวที่ก้าวออกไปรั้งแขนของจงซาน.

คนทั้งสามที่บินออกไป เนี่ยนโหยวโหยวพาทุกคนตรงไปยังทิศเหนือ.

"ไม่ใช่ว่าต้องมีตราแปดสิบเอ็ด? หรือว่าเจ้าก็มี?"จงซานกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

นางที่ขยิบตามองค้อนไปยังจงซาน "เจ้ามี แล้วคิดว่าข้าไม่มีอย่างงั้นรึ?"

"หืม?"จงซานที่สีจมูกไปมาพลางเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"ทุก ๆ พันปีจะมีหนึ่งครั้ง เรียกว่าชุมนุมนิพพานมรรค แดนเทพพิสุทธิ์นั้นได้กระจายมอบให้กับเหล่าผู้เยี่ยมยุทธ์จำนวน 81 คน แต่ละคนต่างก็มอบมันให้กับศิษย์ของตน อาจารย์ของข้ามอบมันให้ข้า เจ้าล่ะ? เอ๊ะ เจ้าไม่ได้บำเพ็ญกรรมไม่ใช่รึ? แล้วเจ้าต้องการไปทำอะไร? หรือว่าเจ้าเดินทางมาเป็นเพื่อนผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าอย่างงั้นรึ?"ใบหน้าของเนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองจงซานด้วยความประหลาดใจ.

เรื่องนี้แปลกประหลาดนัก ข้อมูลของจงซานนั้น เนี่ยนโหยวโหยวได้สอบถามเป่ยชิงซือมานิดหน่อย อาจารย์ของจงซานนั้นมีระดับเพียงก่อตั้งวิญญาณ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะมีมัน? ทว่า จงซานกับได้รับมาถึงสองอันอย่างงั้นรึ?

"ชิ้นหนึ่งสหายมอบให้ข้า ส่วนอีกชิ้นหนึ่งจินฉานมอบให้."จงซานกล่าวออกมาตามจริง.

"อะไรนะ? อรหันต์ในอนาคต จินฉาน? เขามอบให้กับเจ้าเมื่อครั้งอยู่ในสนามรบอย่างงั้นรึ?"เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ใช่แล้ว มีปัญหาอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

ทว่าเนี่ยนโหยวโหยวที่ชำเลืองมองไปยังจงซาน เพ่งพิศด้วยความสนใจ อรหันต์จินฉานมอบตรานี้ให้จงซานยังงั้นรึ?

"อรหันต์ในอนาคต จินฉาน? หมายความว่าอย่างไร?"จงซานสอบถาม.

"อืม ในแดนเทพพิสุทธิ์นั้น เวลานี้มีอรหันต์สามคน แยกออกเป็น อรหันต์ในอดีต หมี่โถว อรหันต์ปัจจุบัน กุยหยวน และอรหันต์ในอนาคต จินฉาน.พวกเขาคือสุดยอดจอมยุทธ์ในแดนเทพพิสุทธิ์ และทั้งสามยังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในแดนเทวะ ทุกคนล้วนแล้วแต่มีวาสนาเซียนกันทั้งหมด."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว.

"อรหันต์? สามคนรึ? ความแข็งแกร่งของพวกเขา เป็นรองแค่เซียนอย่างงั้นรึ?"จงซานขมวดคิ้วไปมา.

"ถูกแล้ว แดนเทพพิสุทธิ์เดิมทีมีอรหันต์สองคน พวกเขาก็เพียงพอที่จะอหังการแล้ว ตอนนี้มีอรหันต์จินฉานเพิ่มอีกคน หลังจากนี้ บางทีคงเต็มไปด้วยความกดขี่."เนี่ยนโหยวโหยวที่สูดหายใจลึก.

"เจ้ามาด้วยเหตุผลนี้อย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.

"เจ้ามาก็ดีแล้ว ในเมื่อเจ้ามาข้าต้องการให้เจ้าช่วย."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว.

"หืม?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"เจ้าเป็นคนที่โชคดี จะต้องช่วยข้าจับสัตว์เลี้ยงตนหนึ่งได้."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว.

"สัตว์เลี้ยงอย่างงั้นรึ?"จงซานจ้องมองเนี่ยนโหยวโหยวด้วยท่าทางระมัดระวัง.

"แน่นอน เจ้าต้องช่วยข้าจับมันให้ได้."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าว.

"ที่ใหน?"จงซานแปลกใจแม้แต่นางยังไม่สามารถจับได้ แล้วเขาจะทำได้อย่างงั้นึ?

"มันอยู่ในแดนเทพพิสุทธิ์ ทำไมเจ้าต้องทำท่าทางเช่นนั้นด้วยเล่า! ข้าช่วยชีวิตเจ้าก่อนหน้านี้ ข้าแค่ขอให้เจ้าช่วยจับสัตว์อสูรตัวเล็ก ๆ เท่านั้น เจ้าจะช่วยหรือไม่?"เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่พอใจ.

"ได้ ข้าจะพยายาม!"จงซานที่พยักหน้ารับ.

"โปรดวางใจ ข้าเชื่อว่าเจ้าเป็นคนโชคดี! กับพรสวรรค์ทางร่างกายที่ย่ำแย่ แต่เจ้ากับสามารถทะลวงผ่านมาจนถึงระดับก่อตั้งวิญญาณได้ ไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าเจ้าพบเข้ากับโชคลาภที่ไม่ธรรมดา โชคของเจ้าที่ฝ่าฝืนสวรรค์ ในเมื่อมีเจ้าอยู่ เจ้าอสูรตัวน้อย จะวิ่งมาหาเจ้าเอง เจ้าไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่ก้าวเข้าไป มันก็ไม่วิ่งหนีแล้ว แล้วก็จับมันมาให้ข้าเลย."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวเป็นนัย

จงซาน "............"

แม้แต่เซียนเซิงซือทีได้ยินยังปาดเหงื่อที่เย็นเยือบทีเดียว!

ห้าวันหลังจากนั้น ภายใต้การนำทางของเนี่ยนโหยวโหยว ก็มาถึงทางเข้าแดนเทพพิสุทธิ์.

ที่ด้านหน้านั้นเป็นแดนเทพพิสุทธิ์ จงซานที่อ้าปากค้างทีเดียว นี่คือแดนเทพพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ?

เขามองเห็นภูเขาสีทองขนาดใหญ่ สถานที่แห่งนี้เป็นภูเขาลูกใหญ่มาก และยังมีป่าขึ้นอยู่รอบ ๆ  มีวิหารพุทธสร้างขึ้นมา เป็นวิหารขนาดใหญ่ การก่อสร้างนั้นดูไม่แตกต่างจากโลกปุถุชน ดูแล้วน่าจะมีขนาดสิบมู่.

[1 mu (亩) เท่ากับ 666.66666666667 ตารางเมตร.]

แดนเทวะปกติแล้วจะบำเพ็ญกรรม และนี่คือแดนเทพพิสุทธิ์.

นอกเหนือจากวิหารพุทธแล้ว ยังมีกลุ่มของนักพรตอยู่ด้วย ทว่าส่วนมากแล้วจะเป็นนักบวชมากกว่า ที่สามารถมองเห็นได้อยู่กระจายเต็มไปหมด ต่างก็นั่งบำเพ็ญอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ .

จงซานที่จ้องมองออกไปยังวิหารพุทธที่อยู่รอบ ๆ  มีอักษรขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่.

ดินแดนเทพพิสุทธิ์.

เขาที่จ้องมองไปยังเนี่ยนโหยวโหยว ราวกับว่ากำลังถูกเนี่ยนโหยวโหยวหลอก เป็นเพียงสถานที่แห่งหนึ่ง ไม่ใช่อาณาจักรหรอกรึ? กับคำพูดก่อนหน้านี้ เขารู้สึกราวกับว่าเป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาล.

เขาที่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ ก่อนที่จะชี้ไปยังกลุ่มนักพรตยี่สิบคนที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ด้านนอก "คนเหล่านั้นเป็นใครกัน?"

"ข้าเคยบอกก่อนหน้านี้แล้ว  81 ผู้ฝึกตนที่ร้ายกาจ ต่างก็มอบตราของพวกเขาให้กับผู้มีพระคุณและศิษย์ที่เชื่อใจ ในเวลานี้ จึงมีเหล่าผู้ฝึกตนจากที่อื่นมากมาย เหล่าศิษย์และผู้มีพระคุณของพวกเขา โดยทั่วไปนั้นไม่ได้มีพลังฝึกตนสูงนัก  ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านนอก เหล่านักบวชที่สวมชุดผ้าป่านนั้น พวกเขาเป็นนักบวชของวิหารต้าหมิง ที่นี่มีสาขาหลักของวิหารต้าหมิง เมื่อศิษย์จากสำนักสาขามีระดับแกนทองจะได้รับเหรียญตราเป็นของขวัญ ดูเหมือนคนทั้งห้านั้นจะไม่ได้รับเหรียญตรา จึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปด้านใน..."เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวออกมาด้วยท่าทางเคร่งขรึมและสงสาร.

"วิหารต้าหมิงรึ?"จงซานที่จ้องมองไปยังคนห้าคนที่อยู่ไม่ไกลออกไป.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด