Chapter 392 พัฒนาไปเป็นความดุร้าย.
กลุ่มของโจรร้ายอาชาปิศาจมายาที่พุ่งเข้ามาพร้อมกัน จงซานไม่ได้ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว ที่มุมปากที่เผยยิ้มออกมาด้วยความดุร้าย สายตาจ้องเขม็ง แววตาเต็มไปด้วยความเย็นชา พร้อมกับกระชับดาบแน่น.
"ตูมมมมมม!"
ภายใต้ดาบของจงซานที่รุนแรงทรงพลัง ไม่ต่างจากเต้าหู้ อาชาปิศาจมายาระดับแกนทอง ถูกสับตายไปเป็นสองท่อนพร้อม ๆ กันหมด.
เป็นการตัดตามขวาง ด้วยการสะบัดอย่างรวดเร็ว เหล่าโจรร้ายไม่สามารถหลบได้ พริบตาเดียวก็ขาดเป็นสองท่อนลอยออกไป ความเร็วที่เห็นเป็นริ้วแสง ทะยานเป็นเส้นติด ๆ กัน โลหิตที่พุ่งกระฉูด ร่างของเหล่าปิศาจร้ายที่กระเด็นแยกไปคนละทิศ.
จงซานที่โจมตีอย่างไร้ปราณี นอกจากนี้เหล่าโจรร้ายที่พยายามจะตอบโต้หากแต่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วพอที่จะโจมตีจงซาน ก่อนที่จะถูกจงซานแยกเป็นสองส่วนด้วยความเร็ว ฟาดฟันสังหารโจรร้ายที่เคลื่อนที่เข้าใกล้ที่สุด ถูกแยกชิ้นส่วนติดต่อกันไปเรื่อย ๆ .
ตัด สับและตัด!
ทุกครั้งที่จงซานตัดออกไป โลหิตที่พุ่งกระฉูดตาม ทุกคมดาบที่กวาดผ่านจะกลายเป็นศพไปในทันที.
เหล่าโจรร้าย ที่ไร้ซึ่งความกลัว ยังคงเคลื่อนที่เข้าหาจงซานไม่หยุดหย่อน กระชับอาชาปิศาจมายาบุกเข้ามาเรื่อย ๆ ..
ด้วยวิชาวงจรสายฟ้าต้นกำเนิด ไม่เพียงแต่คมดาบเท่านั้น ยังอาบไปด้วยสายฟ้า ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว ตัดเหล่าศัตรูด้านหน้าอย่างต่อเนื่อง.
โลหิตที่ฟุ้งกระจาย เศษชิ้นส่วนร่างกายที่ลอยฟุ้ง ดวงตาของจงซานที่เปลี่ยนเป็นสีแดง สังหารไม่หยุด.
จงซานที่เปลี่ยนเป็นเหมือนกับเครื่องบดเนื้อ ทุกพื้นที่ที่เคลื่อนที่ผ่านปรากฏเศษชิ้นส่วนเต็มไปหมด สายโลหิตที่พุ่งกระฉูดสาดกระเซ็นไม่หยุด.
ส่วนอีกฝั่ง เจี้ยนอ้าว ที่เคลื่อนที่ด้วยความงดงาม ประณีต กระบี่ที่เหวี่ยงออกไปปรากฏเป็นปราณกระบี่รูปดอกบัว ค่อย ๆ คลี่ออกไปช้า ๆ พร้อมกับสังหารเหล่าโจรร้ายพร้อม ๆ กัน สังหารด้วยความเร็ว แม่นยำ เข้าจุดตายทุกคมกระบี่ แตกต่างจากจงซานที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง.
ที่ไกลออกไป บนยอดเขาสูง.
เซียนเซิงซือและฉู่จิวที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย.
"จงซาน? ภายในใจข้าถึงกับต้องหวั่นเกรงอีกครั้งแล้ว."ฉู่จิวที่สูดหายใจลึก.
"หืม?"เซียนเซิงซือที่หันหน้าไปมาฉู่จิว.
"เป็นเพลงดาบที่ดุร้ายยิ่งนัก เต็มไปด้วยความดุดันและเสี่ยงภัย ยี่สิบปีที่แล้ว จากเพลงกระบี่เติบโตกลายเป็นเพลงดาบที่ดุร้าย ไม่พบกันมาหลายปี ดูน่าเกรงขามยิ่งนัก."ฉู่จิวที่สูดหายใจยาว.
"ยี่สิบปีที่แล้ว อย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ใช่ ในเวลานั้นข้าเองเป็นคนที่คอยเฝ้ามอง เขาใช้เพลงกระบี่ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงภัย รุนแรงไร้ซึ่งความหวาดกลัว ทำให้ภายในใจของข้าสั่นไหวทีเดียว มันทำให้ข้ารู้สึกชิงชังนัก ทุก ๆ ครั้งล้วนแล้วแต่มีเรื่องที่คาดไม่ถึง เป็นความสามารถที่คนธรรมดาไม่สามารถก้าวไปถึง การต่อสู้ของเขาในแต่ละครั้งนั้น ได้โยนตัวเองเข้าสู่อันตราย เต็มไปด้วยความดุดัน จิตใจเต็มไปด้วยจิตสังหาร ราวกับว่าเต็มไปด้วยความคั่งแค้น จนทำให้ภายในใจข้ารู้สึกหวั่นไหว."ฉู่จิวที่กล่าวออกมากับความสามารถของจงซาน
"เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ข้าเคยเห็นมาก่อน ทว่า ไม่คิดเลยว่าเขาจะเด็ดเดี่ยวถึงเพียงนี้ เขาที่ราวกับว่าเต็มไปด้วยความแค้นเช่นนี้ ถูกกดดันอย่างหนักเพื่อที่จะผลักดันให้ตัวเองก้าวขึ้นไปให้สูง แม้บางครั้งเขาจะดูบ้าคลั่ง แต่เต็มไปด้วยความเยือกเย็น ทำให้เขามีความแข็งแกร่ง เจ้าไม่รับรู้รึว่ายิ่งนานวันเขาก็ยิ่งร้ายกาจ? บางที เส้าเหยี่ยของข้าคงได้พบกับคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมเรียบร้อยแล้ว."ฉู่จิวที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ด้วยประสบการณ์ ไม่แปลกใจที่เจ้าจะมองเห็น."เซียนเซิงซือถอนหายใจเบา ๆ .
"ข้าเคยเห็นคนเช่นนี้มาก่อน ข้าเคยเห็นปราณความดุร้ายที่ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง."ฉู่จิวที่กล่าวออกมาพลางถอนหายใจ.
"เคยมีคนที่เหมือนเขาอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาเล็กน้อย.
"เคยมีคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยความแค้น ทำให้ทวีปศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยฝนโลหิต สังหารผู้คนไปมากมายหลายล้านล้านชีวิต ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ควรจะเป็นศัตรูกับคนเช่นนี้!"ฉู่จิวกล่าวออกมา.
"ทำลายล้างมนุษย์ชาติอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงซือกล่าวออกมาเบา ๆ .
"หากไม่เชื่อเจ้าสามารถสืบข้อมูลได้ เขามีนามว่า เสวียนหยวน."ฉู่จิวที่เผยยิ้มและไม่กล่าวออกมา.
"ไม่จำเป็น ข้าเองก็เคยเห็นคนเช่นนี้เช่นกัน."เซียนเซิงซือที่ส่ายหน้าไปมา.
"หืม?เจ้าเองก็เคยเห็นอย่างงั้นรึ?"ฉู่จิวที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือ.
เซียนเซิงซือที่ไม่ได้กล่าวอะไรออกไปอีก คนทั้งสองที่มองหน้ากันและกัน.
ตำแหน่งของจงซาน ที่เป็นเครื่องบดเนื้อ เข้าสังหารเหล่าโจรร้ายด้วยความดุร้าย หากแต่ฝ่ายตรงข้ามเองก็พุ่งเข้าหาจงซานโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัวเช่นกัน.
บนหน้าผากของเหล่าโจรร้ายที่มีอักษรเหยา ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่อักษรธรรมดา กับสายตาและความดุร้ายของเหล่าโจรร้ายที่พุ่งเข้ามาอย่างไม่หวาดกลัว.
อาชาปิศาจมายาที่มีระดับแกนทอง ไม่ได้อยู่ในความใส่ใจของจงซานแม้แต่น้อย และเหล่าโจรร้ายเองก็มีเพียงแค่ระดับก่อตั้งวิญญาณเท่านั้น.
"โฮกกกก"
ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณที่กระชับอาชาปิศาจมายา พุ่งเข้าหาจงซาน กองกำลังมากมาย ที่ปลดปล่อยพลังสร้างปราณกระบี่และปราณดาบโจมตีมายังจงซานพร้อม ๆ กัน.
ระดับก่อตั้งวิญญาณ? มีหรือที่จงซานจะหวาดกลัว กับการต่อสู้ระดับนี้? ดวงตาของจงซานที่ชำเลืองมอง ก่อนที่จะตวัดดาบออกไป สร้างปราณดาบยักษ์ออกไป เป็นปราณดาบที่มีขนาดใหญ่โตเป็นอย่างมาก พุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง กวาดผ่านทั่วทั้งสนามรบ.
"ตูมมมมมมม!"
เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น เมืองเล็กที่พังทลาย กลายเป็นซากปรักหักพังไปในทันที หมอกควันที่ฟุ้งกระจาย โจรร้ายระดับก่อตั้งวิญญาณสี่คนถูกสังหารไปในทันที เพียงแค่ดาบเดียว.
เป็นปราณดาบที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก ยังไม่จบแค่นั้น ดาบของจงซานที่กวาดออกไปเห็นเป็นเพียงริ้วแสง เกิดระเบิดออกไปยังพื้นที่รอบ ๆ .
ทุกคมดาบที่พุ่งออกไปเกิดเป็นพายุทอร์นาโดขนาดใหญ่ คมวายุที่แข็งแกร่ง ตัดผ่านทุกสิ่งที่อย่างที่อยู่รอบ ๆ .
เพลงดาบของจงซานแม้คมดาบบางริ้วแสงจะไม่ตัดออกเป็นสองซีก ทว่าก็เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นด้วยคมวายุ.
เพียงแค่ระดับก่อตั้งวิญญาณรึ? หลิวเต๋าที่มีระดับหลอมกายธาตุที่ทรงพลังยังตายด้วยฝีมือของจงซานมาแล้ว จงซานนั้นยังต้องสนใจคนที่มีระดับต่ำกว่าระดับหลอมกายธาตุอีกรึ?
เป้าหมายของจงซานนั้น ก็คือหัวหน้าของเหล่าโจรร้าย เขาที่พุ่งตรงเป็นเส้นทางตรงไปยังหัวหน้าของพวกมันเพื่อแย่งชิงหยกประหลาดนั่นมา.
เหล่าโจรร้ายที่ไม่รู้จักความหวาดกลัว ราวกับว่าไม่มีสมองมีเพียงกล้ามเนื้อเท่านั้น ร่างกายของพวกมันที่ระเบิดออกมาติด ๆ กัน แต่กระนั้นก็ยังพุ่งเข้ามาไม่หยุด จ้องมองมายังจงซานด้วยความโลภ หยิ่งยโสรึ? เหี้ยมหาญถึงเพียงนี้เลยรึ?
การโจมตีของจงซาน นั้นเต็มไปด้วยความรุนแรง สังหารไปพร้อม ๆ กัน ส่วนเจี้ยนอ้าวนั้น สังหารศัตรูด้วยความประณีตที่ละศพ ๆ !
ที่ด้านเหนือนั้นพื้นที่รอบ ๆ ยังอยู่ในสภาพไม่ได้เสียหายนัก เจี้ยนอ้าวที่ลอบมองจงซานเป็นระยะ จงซานร้ายกาจและดุร้ายทรงพลังมาก เขาไม่ได้ใช้เพลงกระบี่สุดยอดออกมา ทว่าเป็นเพลงดาบที่ดุดัน บดขยี้ศัตรูได้อย่างน่าหวั่นเกรงนัก.
ส่วนจงซานที่ลอบมองเจี้ยนอ้าวเป็นระยะเช่นกัน เพลงกระบี่ของเจี้ยนอ้าวที่ราวกับบัวบาน ที่ทะลวงออกไปรอบ ๆ เพียงแค่กระบี่เดียวสร้างหลุมเพียงเล็กน้อย ทว่ากับเกิดผลอานุภาพที่ร้ายกาจเกินกว่าจะจินตนาการถึงได้.
คนทั้งสองที่ไล่ล่าสังหารเหล่าโจรร้ายบนอาชาปิศาจมายาเคลื่อนที่ใกล้เข้าหากันเรื่อย ๆ .
ส่วนเหล่าโจรร้ายนั้นเป็นอะไรที่แปลกประหลาดอย่างที่สุด พวกมันไม่กลัวตาย! ไม่กลัวเจ็บ ราวกับเต็มไปด้วยความยินดี เต็มไปด้วยความห้าวหาญ.
เซียนเซิงซือและฉู่จิวที่บินช้าเคลื่อนที่เข้าสู่สนามรบเพื่อจะจ้องมองได้สะดวก.
ขณะที่อยู่ในสนารบนั้น ฉู่จิวลอบมองเซียนเซิงซือด้วยความสงสัย เพราะเซียนเซิงซือเริ่มเก็บศพที่ตายเกลื่อนนั้นไปด้วย!
เก็บศพคนตายอย่างงั้นรึ?
เซียนเซิงซือที่เก็บศพมากมาย พร้อมกับออกสำรวจรอบ ๆ เก็บศพทั้งหมดกลับไป ฉู่จิวรู้สึกสงสัยมาก เซียนเซิงซือผู้นี้เป็นพรตเจียงซืออย่างงั้นรึ?
เหล่าคนทั่วไปที่อยู่ตรงกลางภายในค่ายกล ที่สังเกตเห็นว่ามีคนเริ่มสังหารเหล่าโจรอาชาปิศาจมายา รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่มีคนมาช่วย คนมากมายที่เฝ้ามองไปยังจงซานที่ไล่ล่าสังหารศัตรู ทว่ากับรู้สึกร่างสั่นสะท้านแบบไม่รู้ตัว น่าหวาดกลัว หลาย ๆ คนถึงกับต้องอาเจียนออกมาทีเดียว ดาบของจงซาน ที่ฟาดฟันออกไปเหล่าโจรร้ายที่ระเบิดออกมาติด ๆ ต่อกัน ร่างกายของพวกมันที่บิดเบี้ยวก่อนระเบิดออกมาราวกับลูกแตงโมถูกทุบ!
สายตาทุกคนที่เฝ้ามองพลางเงียบเสียงไป.
ในเวลาเดียวกัน ไม่ไกลออกไปจากสนามรบ บนทิศตะวันออกของเมืองเล็ก มีหนึ่งชายหนึ่งหญิง ซึ่งหนึ่งในนั้นจ้องมองไปยังจงซานด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก.
คนทั้งสองที่ยืนอยู่บนภูเขาครึ่งซีก บนเนินเขา! พลางขมวดคิ้วจ้องมองไปยังสนามรบด้านหน้า.
ชายในชุดสีน้ำเงิน ทั้งชุดแม้แต่เส้นผมยังเป็นสีน้ำเงิน ผิวละเอียด ใบหน้าหล่อเหล่า โดดเด่นเป็นอย่างมาก จนดูคล้ายกับหญิงสาวด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเป็นที่ดึงดูดต่อหญิงสาวมากมายเป็นแน่ ตราบเท่าที่ขยิบตาให้ เหล่าสาวงามคงร่างอ่อนระทวยดวงตากลมโตอย่างแน่นอน.
"เนี่ยนโหยวโหยว ทำไมจะต้องมาซ่อนในป่าแห่งนี้ด้วย?"ชายคนดังกล่าวเอ่ย.
หญิงสาวคนดังกล่าวที่ตะลึงงันคาดไม่ถึงเลยว่าจะมาพบกับจงซานที่นี่.
"ข้าเห็นบางอย่างที่น่าสนใจ."เนี่ยนโหยวโหยวที่จับจ้องมองไปยังตำแหน่งของจงซานด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?"ชายคนดังกล่าวจ้องมองไปยังสนามรบ.
"น่าสนใจ."ชายคนดังกล่าวที่เผยยิ้มหยัน ๆ ออกมา.
"หืม ศิษย์พี่ไม่เห็นรึ?ชายสองคนในสนามรบด้านหน้า?"เนี่ยนโหยวโหยวที่จ้องมองพลางสอบถาม.
"ชายในดาบยักษ์นั่นไร้ซึ่งศิลปะเต็มไปด้วยความดุร้าย ข้าว่ามีเพียงคนเดียวที่น่าสนใจ เพลงดาบที่งดงามประณีต น่าสนใจจริง ๆ !"ชายคนดังกล่าวเผยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย.
"หืม?ข้ารู้สึกสนใจคนถือดาบยักษ์นั่น."เนี่ยนโหยวโหยวที่ชำเลืองมองจงซานด้วยรอยยิ้ม.
"เจ้า?"ชายในชุดสีนำเงินที่แสดงท่าทางประหลาดเล็กน้อย.
"ใช่ หลังจากนี้ พวกเราแยกกันก็แล้วกัน ท่านตามมือกระบี่ไป ส่วนข้าจะตามคนถือดาบไปเป็นอย่างไร?"เนี่ยนโหยวโหยวที่ถือแส้หนังเอาไว้.
"เจ้าต้องการแยกกับข้าอย่างงั้นรึ?"ชายคนดังกล่าวเอ่ยออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"มีปัญหาอะไรกัน? ไม่ใช่ว่าท่านกำลังไล่ตามเป่ยชิงซือมาหรอกรึ? แล้วจะมาตามข้าเพื่ออะไร?"เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวล้อ.
ชายในชุดสีน้ำเงินเอ่ยออกมาในทันที "เจ้าไม่รู้รึอย่างไรว่าพวกเราออกมาทำอะไร? ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็ต้องการ โลหิตแมงมุมแม่ม่าย หรือว่าเจ้าไม่ต้องการแล้ว!"
"ศิษย์พี่อย่าได้โกรธเกรี้ยว!"เนี่ยนโหยวโหยวกล่าวปลอบ.
ชายในชุดน้ำเงินที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย "หากไม่เพราะเป่ยชิงซือ บางทีดอกกุหลาบที่เจ้าชื่นชอบ ข้าคงต้องหามาให้เจ้า ช่างน่าเสียดายที่ข้าได้พบนางก่อนแล้ว แต่เป้าหมายของข้าราวกับภูเขาน้ำแข็งของแดนเทพอมตะไม่รู้ว่าจะสามารถหลอมละลายได้หรือไม่?."
"เป่ยชิงซืออย่างงั้นรึ? เฮ้เฮ้ ศิษย์พี่ต้องทำสำเร็จแน่ ทว่า ท่านก็ไม่ควรที่จะประเมินนักดาบคนนั้นต่ำเกินไป."เนี่ยนโหยวโหยวที่กล่าวล้อและจ้องมองไปยังชายในชุดสีน้ำเงิน.
ความเป็นจริง ชายในชุดสีน้ำเงินคงจะไม่รู้ว่าภายในใจเป่ยชิงซือนั้นมีจงซานอยู่ ทำให้เขามองข้ามมือดาบนั่นไป.
ได้ยินคำพูดของเนี่ยนโหยวโหยว ชายในชุดสีน้ำเงิน ที่ราวกับคาดเดาอะไรได้บางอย่าง? เนี่ยนโหยวโหยวหมายความว่าอย่างไร ก่อนที่จะมองไปยังจงซานที่อยู่ไกลออกไป.
เพลงดาบที่ดุร้าย โลหิตที่สาดกระจายอาบร่าง เป็นอะไรที่ไม่น่าอภิรมย์นัก คนที่จิตใจบริสุทธิ์คงยากจะสามารถทำได้ เขาที่จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังจงซาน ก่อนที่จะหันหน้ากลับไปมองเจี้ยนอ้าวอีกครั้ง.