ตอนที่แล้วChapter 390 พบเจี้ยนอ้าวอีกครั้ง.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 392 พัฒนาไปเป็นความดุร้าย.

Chapter 391 กองกำลังอาชาปิศาจมายา.


สุ่ยอู๋เหินนำกองกำลังมุ่งตรงไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือในทันที ซึ่งมีสุ่ยอู๋เหิน หลินเซียวและหลิวอู๋ซ่างในการคุมทัพ สุ่ยอู๋เหินยังจดจำได้ดีเกี่ยวกับเรื่องที่จงซานกล่าว.

"สุ่ยอู๋เหิน กองกำลังจง แปดแสนนายให้เจ้าเป็นผู้บัญชาการ หลินเซียวเป็นกุนซือของเจ้า หากมีเรื่องใดยากที่จะแก้ไข ให้ขอคำแนะนำจากหลินเซียว."จงซานกล่าว.

"ครับ!"สุ่ยอู๋เหินรับคำ.

"ข้ารู้ว่าเจ้าอาจจะไม่มั่นใจในตัวหลินเซียว ไม่จำเป็นต้องสงสัยใด ๆ ทั้งนั้น หลังจากนี้อีกไม่นาน เจ้าจะได้รับรู้ความสามารถของหลินเซียว ในเวลาปรกติ หลินเซียวจะเป็นเพียงนายทหารทั่วไปของเจ้า จะไม่เข้าไปในการตัดสินใจของเจ้า ทว่าข้าต้องการให้หลินเซียวช่วยเหลือเจ้าในเวลาวิกฤติ บางเรื่องที่ยากจะตัดสินใจ นี่คือตราบัญชาการ เจ้ารับไป."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.

สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วไปมา และตอบรับ "ครับ."

"จื่อเห่า เจ้ารับหน้าที่ดูแลความปลอดภัย หลินเซียว สุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่างให้ปลอดภัย."จงซานกล่าวต่อจื่อเห่าหลางเจียง.

"ครับ!"จื่อเห่ารับคำในทันที.

"จอมพล แล้วพวกเราจะพบกันได้อย่างไร?"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางเป็นกังวล.

"บนเส้นทาง ข้าได้เตรียมการเอาไว้แล้ว เมื่อถึงเมืองแต่ละเมือง ให้เจ้าทิ้งเครื่องหมายตามที่ข้าได้บอกไว้ ข้าและเซียนเซิงซือจะเร่งความเร็ว แน่นอนว่าเร็วกว่าพวกเจ้า หากว่าพวกเจ้าเดินทางไม่ถึง ข้าเองก็จะเดินทางกลับมาพบกับพวกเจ้าเอง."จงซานที่กล่าวรับรอง.

"รับทราบ!"สุ่ยอู๋เหินที่ตอบรับ.

นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองเดือนที่แล้ว สุ่ยอู๋เหินยังคงจดจำได้ดี.

"เซียนเซิงหลิน ท่านคิดว่าจอมพลจะไปที่ใด? ตอนนี้ยังไม่กลับมาเลยไม่ใช่รึ?"สุ่ยอู๋เหินกล่าว.

"ไม่รู้ แต่ต้องกลับมาแน่น พวกเราเดินทางตามแผนก็พอ."หลินเซียวกล่าว.

"อืม."สุ่ยอู๋เหินพยักหน้า.

ส่วนเส้นทางอีกเส้นจงซานและเซียนเซิงซือกำลังมุ่งหน้าเดินทาง.

ซึ่งมีเจี้ยนอ้าวและฉู่จิว เดินทางไปด้วย.

"เจี้ยนอ้าว อีกนานเท่าไหร่รึ?"จงซานกล่าว.

"ด้วยความเร็วตอนนี้ อีกไม่กี่วัน ก็จะเข้าสู่ ค่ายกลอรหันต์แสนภูผาแล้ว."ในเวลานั้นข้าจะไม่เข้าไป เจ้าจะเห็นสำนักป้อมปราการอยู่ด้านใน ซึ่งจะไม่ใช่เรื่องยากแล้ว เจ้าสามารถเข้าไปสอบถามเส้นทางจากสำนักแต่ละแห่งได้และจะรับรู้เส้นทางว่าจะเดินทางอย่างไร."เจี้ยนอ้าวกล่าว.

"ขอบคุณที่นำทาง!"จงซานกล่าว.

"อืม."เจี้ยนอ้าวเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"ดูตรงนั้น."เซียนเซิงซือที่เอ่ยปากออกมาในทันที.

ทุกคนที่จ้องมองไปตามเซียนเซิงซือซึ่งก็พบว่าบนท้องฟ้า กลายเป็นสีแดงเข้ม อาบมวลเมฆาเป็นสีโลหิต.

"จิตสังหารที่รุนแรงนัก."ฉู่จิวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"จิตสังหารนี้ ผสมไปด้วยปราณทมิฬอยู่ด้วย."เซียนเซิงซือที่หรี่ตาจ้องมอง.

คนทั้งสี่ต่างจ้องมองหน้ากันและกัน พร้อมกับตรงไปยังพื้นที่ดังกล่าว.

ทุกคนที่ได้ไปหยุดที่ยอดเขาแห่งหนึ่ง ต่างก็จ้องมองออกไปเป็นสายตาเดียวกัน.

ด้านล่างนั้นน่าจะเป็นเมืองเล็กแห่งหนึ่ง ที่ต้องบอกว่าเป็นเมืองเล็ก เนื่องจากเป็นเมืองของปุถุชน มีกำแพงเมืองไม่สูงนัก สามารถป้องกันเพียงสัตว์ร้ายและสัตว์อสูรเท่านั้น อย่างอื่นแล้วไม่สามารถป้องกันเอาไว้ได้.

ภายในเมืองนั้นมีบ้านเรือนมากมาย ส่วนมากแล้วเป็นเพียงประชาชนธรรมดา และมีผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนเป็นส่วนใหญ่ ระดับแกนทองเป็นส่วนน้อย.

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นเมืองได้อีกแล้ว คนทั้งสี่ดูเหมือนว่าจะมาสายไปแล้ว.

แม้ว่าสิ่งก่อสร้างไม่ได้เสียหายมากมายนัก ทว่ากำแพงเมืองตอนนี้พลังทลายลงไปเรียบร้อยแล้ว ภายในเมืองเต็มไปด้วยศพมากมายตายเกลื่อนเต็มไปหมด.

ศพที่นอนเกลื่อนบนพื้นนั้น เต็มไปด้วยโลหิตที่สาดกระจาย สภาพศพแหลกเละ เครื่องในถูกคว้านออกมา หัวใจถูกล้วงหายไป ตายอย่างน่าอนาถ มีสภาพศพไม่สมบูรณ์ทุกร่าง.

ศพมากมายที่ถูกควักหัวใจออกมา ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ฝีมือของคน ๆ เดียวด้วย ทว่าเป็นกองทัพ มีคนกว่าหมื่นคน.

ทั้งหมื่นคนนี้ ต่างก็ขี่อาชาสีดำทมิฬ เป็นอาชาทมิฬที่แปลกประหลาด รูปร่างเหมือนกับสัตว์อสูร ทว่าดวงตาสีแดง สามารถที่จะเหินเดินอากาศได้ สามารถกระโดดข้ามกำแพง นับว่าเป็นพลังกระโดดที่แข็งแกร่งมาก.

"อาชาปิศาจมายา?"เซียนเซิงซือขมวดคิ้วไปมา.

"เจ้ากล่าวถึงอาชาทมิฬเหล่านั้นนะรึ?"จงซานสอบถาม.

"อืม!"เซียนเซิงพยักหน้ารับ.

อาชาปิศาจมายา อาชาแห่งความมืดที่มีเหล่าชายเปลือยด้านบนที่มีกล้ามเนื้อเป็นมัด ๆ  ดูไม่ต่างจากโจรป่า ร่างกายที่มีรอยสักสีดำมากมาย พร้อมกับมีดาบรูปแบบต่าง ๆ  ราวกับว่ากำลังมาปล้นชิง.

เหล่าโจรร้ายมากมายที่ถือดาบและกระบี่ ไล่ล่าสังหารทุกคน พวกเขามีเพลงดาบที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก หลังจากสังหารแล้วคนเหล่านั้นได้ก็ขุดหัวใจออกมา และทรัพย์สินอื่น ๆ ก็ถูกเก็บเข้าไปในกำไลเก็บของด้วย และระหว่างนั้นก็กินหัวใจราวกับเป็นของว่าง ปากของพวกเขาที่เปื้อนไปด้วยโลหิต นี่คือปิศาจร้ายที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก.

"ฮ่าอ่าฮ่าฮ่า.........."

เหล่าคนเถื่อนบนหลังอาชาปิศาจมายา เต็มไปด้วยโอหัง หัวเราะด้วยความชอบใจ กับการสังหารปุถุชนธรรมดาทั่วไป ไม่มีใครสามารถหนีได้ ทุกคนกำลังถูกไล่ล่าสังหารราวกับสัตว์เลี้ยง.

เหล่าอาชาปิศาจมายาที่กระโดดไปมารอบ ๆ  ด้วยการสั่งการของปิศาจร้าย ทว่าที่น่าประหลาดใจคือบนหน้าผากของคนเหล่านี้มีรอยสักที่ปรากฏขึ้นเหมือน ๆ กัน.

จงซานที่กวาดตามอง คนทั้งหมด ดูเหมือนว่า เป็นหน้าผากนั้นมีอักษรตัวเดียวกัน.

แม้ว่าทั่วร่างนั้นจะมีรอยสักที่แตกต่างกันไป ทว่าบนหน้าผากนั้นเหมือนกัน เป็นอักษรสีดำ "เหยา"(幺)

คำว่าเหยานั้นส่องปราณทมิฬออกมาบาง ๆ  ราวกับว่าเป็นพลังที่ทำให้เหล่าโจรร้ายเหล่านี้เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง.

"ฮ่าฮ่าฮ่าอ่า............"

“.........”

“......”

เหล่าโจรร้ายที่เต็มไปด้วยความยโส เสียงของประชาชนทั่วไปที่โหยหวน ถูกไล่ล่าสังหารอย่างดุร้าย เสียงของโลหิตที่พุ่งกระฉูด.

เสียงของการล้วงหัวใจออกมา เป็นภาพที่สยดสยองเป็นอย่างมาก.

"กองทัพอาชาปิศาจมายา?"ฉู่จิวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เจ้ารู้จักอย่างงั้นรึ?"เจี้ยนอ้าวที่กล่าวสอบถาม.

"ขอรับ เส้าเหยี่ย ข้าเคยได้ยินมา แดนเทวะทิศตะวันออกเฉียงเหนือนั้น มีกลุ่มอิทธิพลลึกลับอยู่ ไม่รู้ที่มาที่ไป รับรู้เพียงว่าเป็นปิศาจร้ายทำลายล้าง ที่ไล่ล่าสังหาร กินหัวใจผู้คน และยังมีสัตว์ขี่เป็นอาชาปิศาจมายา มีภูมิหลังที่ลึกลับ เป็นอาชาในตำนาน กองกำลังอาชาปิศาจมายานั้น มีความสามารถสูงมากสามารเดินทางได้วันล่ะแสนลี้ หนำซ้ำยังมีความเร็ว และแข็งแกร่ง เหล่าอสูรเหล่านั้นล้วนแล้วแต่มีพลังฝึกตนแกนทองระดับสูง และคนเหล่านั้นต่างก็มีระดับก่อตั้งวิญญาณเกือบทุกคน ไม่รู้ที่มาที่ไป ไม่มีใครรู้จัก รู้เพียงคนเหล่านี้ มีจำนวนทั้งหมด 500,000 คน คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาปรากฏที่นี่ด้วยหนึ่งกองกำลังด้วย."ฉู่จิวตอบ.

"รู้เพียงแค่เป็นหน่วยทำลายล้าง สังหารผู้คนและขุดเอาหัวใจไปอย่างงั้นรึ?"เจี้ยนอ้าวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ครับ นอกจากนี้พวกเขานั้นยังไม่รู้สึกหวาดกลัวต่อการบาดเจ็บ ถึงแม้ว่าแขนจะหัก ขาจะหัก แต่พวกเขาก็ไร้ซึ่งความกลัว ไล่ล่าสังหารทุกสิ่งมีชีวิตที่ขวางหน้า ไม่ต่างจากปิศาจร้าย."ฉู่จิวที่สูดหายใจลึก.

"พวกเขากำลังรวบรวมวิญญาณ."เซียนเซิงซือหรี่ตาจ้องมองและกล่าวออกมา.

"รวมรวมวิญญาณ?"

"ดูที่หัวหน้าของพวกเขาที่อยู่ตรงกลาง ที่มือของเขากำลังกุมอะไรบางอย่างอยู่?"เซียนเซิงซือที่ชี้ไปยังชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนอาชาปิศาจมายา ที่ไม่ขยับหรือเคลื่อนไหวอยู่ตรงกลาง.

เห็นแค่เพียงบนฝ่ามือของชายคนดังกล่าว ถือหยกมรกตอยู่ หยกมรกตนั้นส่องประกายแสงสีเขียวเรื่อ ๆ  ด้านในนั้นมีจุดเล็ก ๆ เหมือนกับดวงดารามากมาย ทว่ากลับมองแล้วดูมืดมัวหมองคล้ำเป็นอย่างมาก.

รอยยิ้มที่ดุร้ายใบหน้าที่น่าหวาดกลัว ชำเลืองมองไปยังหยกมรกตด้วยท่าทางพึงพอใจ ดูเหมือนว่าหยกมรกตนั้นจะคอยดูดซับดวงวิญญาณจากศพที่อยู่รอบ ๆ .

"เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าหยกนั้นใช้รวมดวงวิญญาณ?"ฉู่จิวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เพราะว่าข้าเคยเห็นมาก่อน."เซียนเซิงซือกล่าว.

ฉู่จิวที่จ้องมองไปยังเซียนเซิงซือด้วยสายตาประหลาดใจ.

ภายในเมืองเวลานี้กำลังถูกสังหารไปเกือบหมดแล้ว เหลือแค่เพียงตรงกลาง บนบ้านหลังใหญ่ที่มีธวัชค่ายกลปกป้องอยู่.

บ้านหลังดังกล่าวที่ถูกรื้อทำลายในทันที มีคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังยืนอยู่ด้วยท่าทางสั่นสะท้าน จ้องมองเหล่ากองกำลังอาชาปิศาจมายากำลังทำลายธวัช ล้อมกรอบเข้าไป ค่ายกลที่กำลังส่ายไปมา เริ่มพังทลายลงเรื่อย ๆ .

คนที่อยู่ภายในตอนนี้กำลังหมอบด้วยความหวาดกลัว แต่ละคนต่างก็กอดกันร้องให้โฮ เมื่อไหร่ก็ตามที่ค่ายกลพังทลาย ชีวิตของพวกเขาก็ต้องจบลงในทันที พวกเขาก็จะกลายเป็นเหมือนกับคนอื่น ๆ  ที่ถูกสังหารกัดกินหัวใจ.

"ฮือ ๆ  ๆ  แม่จ๋า หนูกลัว.........."

"อย่าเข้ามา................."

ค่ายกลธวัชที่สั่นไหว มีสัญญาณพังทะลายแล้ว.

"จงซาน!"เจี้ยนอ้าวกล่าวออกมาในทันที.

"อะไร?"จงซานที่จ้องมองเจี้ยนอ้าวด้วยความสงสัย.

"เจ้ากับข้า แม้ว่านี้จะไม่ใช่การประลองใหญ่ ทว่าก็สามารถหาผู้ชนะและแพ้ได้ เหล่าคนของดินแดนปิศาจมายา เจ้าและข้ามาแข่งกันว่าใครจะสังหารได้มากกว่ากัน."เจี้ยนอ้าวที่จ้องมองไปยังจงซาน.

"สังหารพวกเขารึ?"จงซานที่จ้องมองออกไป.

"ใช่."เจี้ยนอ้าวพยักหน้า.

"ตกลง!"จงซานเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายอกมา.

เหมือนดั่งที่ฉู่จิวกล่าว อาชาปิศาจมายานั้นมีระดับแกนทอง ส่วนคนขี่นั้นอยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณ.

กับกองกำลังขนาดใหญ่ เจี้ยนอ้าวและจงซานที่บ้าคลั่งพุ่งเข้าไป.

"เริ่ม!...."

จงซานที่คำรามเสียงดัง บินลอยไป พร้อมกับชักดาบยักษ์ฝันร้ายออกมา เจี้ยนอ้าวที่บินตามมา แววตาที่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่เป็นจงซานในคราวนี้ใช้ดาบยักษ์ ทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.

คนทั้งสองที่บินตรงไปยังเมืองเล็ก จากทางทิศเหนือและทางทิศใต้ พร้อมกับเข้าโจมตีศัตรูด้านหน้า.

จงซานที่ร่อนลงมา ซึ่งมีเหล่าอาชาปิศาจมายาจำนวนหนึ่งอยู่ใกล้ ๆ ..

เหล่าโจรร้ายที่มีกันหลายคน ที่เห็นจงซานไม่ได้รู้สึกสนใจด้วยซ้ำ พร้อมกับเผยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย พร้อมกับพุ่งเข้าหาจงซานทันที.

"ซี่ ๆ  ๆ "

ดาบของจงซานฟันไปยังอาชาปิศาจมายา พร้อมกับฝ่ามือที่ฟาดไปยังใบหน้า ที่จริง จงซานคิดว่าเขาจะตายแล้ว ทว่า ดูเหมือนว่าถึงคอจะบิดไปด้านหลัง ทว่ากลับสามารถใช้มือบิดกลับมาได้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะทนทานขนาดนี้ ไม่มีความเจ็บปวดเลยอย่างงั้นรึ?

"ฉับบบ!"

ดาบของจงซานฟันไปอีกครั้ง ที่ขาซ้ายของฝ่ายตรงข้าในทันที ทว่าใบหน้าของชายคนดังกล่าวยังไม่ได้แสดงความเจ็บปวดออกมา ทว่าไม่ว่าอย่างไร ก็มีโลหิตที่พุ่งออกมา แต่ถึงกระนั้นก็ยังไร้ซึ่งความรู้สึกเข้าจู่โจมจงซานต่อ.

จงซานถึงกับพูดไม่ออก ทว่าก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย.

"ฉับบบ!"

ดาบของจงซานที่ขยับอีกครั้ง หัวที่หลุดออกจากบ่า ดูเหมือนว่าเวลานี้จะตายอย่างแท้จริงแล้ว ทว่าในเวลาเดียวกัน เหล่าโจรร้ายอื่นอีกจำนวนไม่น้อยจ้องมองมายังจงซาน พร้อมกับเข้าล้อมกรอบในทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด