ตอนที่แล้วChapter 386 บวงสรวงฟ้าดิน! ยกระดับเป็นราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้ง!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 388 ลักพาตัวกงจู.

Chapter 387 สร้างนครอัญมณีหลิงเซียว.


"ฝ่าบาท ลองคิดดูซักนิด นี่จะเป็นเมืองที่ใหญ่โต ไม่ได้สร้างขึ้นบนพื้นโลก แต่สร้างขึ้นบนเหล่ามวลเมฆา ที่สามารถล่องลอยอยู่บนอากาศได้ สูงขึ้นไปเทียมสวรรค์ เป็นเมืองที่ยิ่งใหญ่ทรงพลัง ที่เรียกว่าเมืองอัญมณีหลิงเซียว!"ลู่เจี้ยนปิงที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

จะไม่ให้ลู่เจี้ยนปิงตื่นเต้นได้อย่างไร นี่คือเกาะลอยฟ้าขนาดใหญ่ เป็นเกาะลอยฟ้าที่ไม่ได้ลอยอยู่เหมือนกับเกาะลอยฟ้าทั่วไป ที่ปรกติแล้วจะลอยได้ไม่สูงนัก เมืองอัญมณีนี้จะลอยขึ้นบนท้องฟ้าราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์ นี่จะกลายเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบและยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาในโลกใบนี้?

"สวนสวรรค์หลิงเซียวอย่างงั้นรึ?"จงซานที่หรี่ตาจ้องมอง.

"หืม? ใช่แล้ว นี่จะเป็นตำหนักลอยฟ้าที่ทรงพลังเหมือนดั่งของวิเศษที่บินอยู่ราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์."ลู่เจี้ยนปิงที่กล่าวออกมาในทันที.

ภายในห้องอักษรทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังลู่เจี้ยนปิง แววตาของทุกคนที่แสดงท่าทางคาดหวัง.

"..."จงซานที่ตบไปยังโต๊ะเบา ๆ .

"สร้างสิ่งนี้!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"รับด้วยเกล้า!"ลู่เจี้ยนปิงที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"แต่ว่า ฝ่าบาท เกี่ยวกับอุปกรณ์......"หลิวเจี้ยนปิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ทุกอย่างในการก่อสร้าง ไม่ว่าจะราคาเท่าไหร่ ต้องใช้อุปกรณ์อะไร? ให้ไท่จื่อ นำมันเข้ามาจากทวีปศักดิ์สิทธิ์!"จงซานที่กล่าวรับรอง.

"ครับ! ในทวีปศักดิ์สิทธิ์ บางทีอาจจะหายากอยู่เช่นกัน หากว่าต้องการจะสร้าง จำเป็นต้องใช้เวลาสักเล็กน้อย."ลู่เจี้ยนปิงส่ายหน้าไปมา.

"หืม?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังลู่เจี้ยนปิง.

"เมืองอัญมณีหลิงเซียว เป็นเมืองที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าที่สูงมาก เป็นเหมือนกับส่วนหนึ่งของสวรรค์ หากว่าต้องการสร้างเมืองเช่นนั้นขึ้นมา จะต้องใช้เศษชิ้นส่วนของดวงดาว กล่าวอีกอย่างหนึ่งในโลกนี้ในแต่ละวันมีจำนวนน้อยมากที่จะพบอุกกาบาตล่วงหล่นลงมา!"ลู่เจี้ยนปิงที่คิดใคร่ครวญและกล่าวออกมา.

"อุกกาบาตรึ?"จงซานที่เผยยิ้มออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

เกี่ยวกับอุกกาบาตที่ล่วงหล่นมาก่อนหน้านี้ เมื่อครั้งที่เห่าเม่ยลีได้ทำการสาปอู๋อานราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีในครั้งนั้น มีอุกกาบาตมากมายที่ล่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า เพื่อสังหารอู๋อานให้ตายไป ในคราวนั้นจงซานได้เก็บรวบรวมเหล่าอุกกาบาตเหล่านั้นกลับมาด้วย.

"ไม่จำเป็นต้องรอ ข้ามีอุกกาบาตจำนวนหนึ่ง สามารถมอบให้กับเจ้าในทันที เจ้าวางแผนการในการสร้างได้เลย ส่วนจำนวนอุกกาบาตที่เหลือ จะถูกส่งกลับมา ตอนนี้ข้าจะให้ไท่จื่อเก็บรวบรวมมาให้กับเจ้าจากทวีปศักดิ์สิทธิ์."จงซานที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะส่งมันออกไปให้กับลู่เจี้ยนปิง.

"หืม? ครับ!"ลู่เจี้ยนปิงที่ก้าวออกไปรับ นำกำไลเก็บของเขาไปแตะกำไลเก็บของของจงซาน.

อุกกาบาตทั้งหมดที่จงซานรวบรวมเอาไว้ ก็ถูกส่งต่อไปให้กับลู่เจี้ยนปิงในทันที.

"ฝ่าบาท มากมายเพียงนี้เลยรึ?"ลู่เจี้ยนปิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตกใจหลังจากที่สำรวจมันภายในกำไลเก็บของ เขาก็กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"ดำเนินการได้!"จงซานกล่าว.

"รับด้วยเกล้า!"ลู่เจี้ยนปิงที่จากไปในทันที.

ขณะที่ลู่เจี้ยนปิงจากไปแล้ว อี้เหยี่ยนก็สอบถามขึ้นมาในทันที."ฝ่าบาท!"

"หืม?"จงซานที่จ้องมองอี้เหยี่ยนด้วยท่าทางสงสัย.

"ฝ่าบาท เฉินมีเรื่องผิดปรกติต้องการสอบถาม."อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"หืม?"จงซานที่จ้องมองไปยังอี้เหยี่ยน.

"ถ้าจะให้พูดล่ะก็ ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งที่เพิ่งแต่งตั้งนั้น พวกเราไม่ควรจะมีวาสนามากมายขนาดนี้ ข้ารู้สึกว่าภายในร่างนั้นอยู่ใกล้เคียงกับมรรคาระดับอ่อนนุ่ม กล่าวอีกอย่างหนึ่ง ความเร็วในการฝึกฝนเวลานี้ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าแล้ว กล่าวตรง ๆ ล่ะก็เทียบได้กับราชวงศ์ราชันย์ที่เฉินเคยรับใช้ ทั้งที่เวลานี้เป็นเพียงราชวงศ์จักรพรรดิ แต่กลับมีสถานะเทียบเท่ากัน พวกเรามีวาสนามากมายขนาดนี้เลยรึ? ทำไมล่ะ?"อี้เหยี่ยนที่สอบถามออกไปด้วยท่าทางงงงวย.

กงจูเฉียนโหยวและเซียนเซิงซือต่างก็จ้องมองไปยังจงซาน เพราะว่าทั้งคู่เองก็พบว่าราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งนั้นดูจะพิเศษเป็นอย่างมาก.

จงซานต้องรู้อย่างแน่นอน หลังจากที่ได้ทำการยกระดับ พลังฝึกตนของเขาก็เพิ่มขึ้นยิ่งกว่าคนอื่น ด้วยวาสนาจักรพรรดิที่อยู่ในร่าง โดยปรกติจักรพรรดิจะมีระดับมรรคาอ่อนนุ่ม ซึ่งมีความเร็วฝึกฝนสามเท่า ทว่าของจงซานกลับเพิ่มขึ้นถึงห้าเท่า รวมกับมรรคาที่ได้จากการเป็นขุนนางของราชวงศ์ต้าโหลว ทำให้เขามีความเร็วการฝึกฝนถึง 13 เท่า.

จงซานที่ทำการศึกษาเกี่ยวกับแปลนศาลสวรรค์หลายวันเช่นกัน ทว่าก็ไม่มีบันทึกเอาไว้ ท้ายที่สุดปัญหานี้น่าจะเกี่ยวข้องกับมุกสีชาดในตราลัญจกรครรลองสวรรค์ ที่เขานำมาด้วย ไม่รู้ว่าสิ่งนี้มันคือสิ่งใดกันแน่.

"มันไม่ดีอย่างงั้นรึ?"จงซานเผยยิ้มออกมา เลี่ยงที่จะตอบคำถาม.

"ครับ!"อี้เหยี่ยนพยักหน้าและไม่ตามอีกต่อไป.

"หลังจากนี้สิบวัน ข้าจะเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์."จงซานเอ่ย.

กลับคำพูดของจงซาน ทำให้ทุกคนรู้สึกแปลก ๆ  ต้อง ๆ ไม่ลืมว่าจงซานนั้นมีสองร่าง มันจึงเป็นคำพูดที่ยากจะต้องยอมรับ แต่ก็ต้องยอมรับ.

"กุ่เหยี่ยเยี่ย ข้าไปกับท่านได้หรือไม่!"หยิงหลานที่เอ่ยออกมาทันที.

"ไม่ ยังมีข้าอีกคนที่นี่ หลังจากนี้ หยิงหลานเจ้าต้องรับหน้าที่นี่การจัดการเมืองเล็ก ๆ ที่ยังเหลือ รวมเข้าด้วยกันให้สมบูรณ์ หากเดินทางไปยังทวีปศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่มีเวลาอยู่กับเจ้าทุกวัน หากอยู่เกาะหมาป่าสวรรค์ เจ้าก็ยังเห็นข้าทุกวัน."จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

ปากเล็ก ๆ ที่เบ้เล็กน้อย ทว่าก็กล่าวรับ."ได้!"

"หลินเซียว เซียนเซิงซือ พวกเจ้าทั้งสองเดินทางไปยังทวีปศักดิสิทธิ์กับข้า."จงซานกล่าว.

"ครับ!"คนทั้งสองที่กล่าวตอบรับในทันที.

"หยิงหลานเจ้าออกไป เรียกเห่าเม่ยลีให้กับข้าด้วย!"จงซานกล่าว.

"อืม!"หยิงหลานที่พยักหน้ารับ ส่วนคนอื่น ๆ เองก็ก้าวออกไปเช่นกัน.

"เจ้าต้องการให้พวกเราออกไปด้วยรึ?"เป่าเอ๋อและเฉียนโหยวที่จ้องมองมายังจงซาน.

"เห่าเม่ยลีนั้นเป็นคนอหังการและนิสัยแปลกประหลาด ด้วยได้รับการตามใจมาตั้งแต่ยังเด็ก เจ้าอยู่ที่นี่ ข้ากลัวว่าคำพูดของนางจะทำให้เจ้ารู้สึกไม่ดี ต้องไม่ลืมว่า คำพูดที่ออกมาจากปากของนางนั้นร้ายกาจมาก พวกเจ้าออกไปก่อน แล้วข้าจะบอกกับเจ้าถึงเรื่องทุกอย่างเอง."จงซานที่กล่าวปลอบ.

"อืม!"ทั้งสองสาวพยักหน้ารับ.

จากนั้นไม่นาน ภายในห้องอักษรมีเพียงแค่จงซาน เห่าเม่ยลีที่เปิดประตูก้าวเข้ามาพร้อมกับเสี่ยวจิน.

"จงซาน ท้ายที่สุดเจ้าก็จำข้าได้อย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยลีที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางขุ่นข้องใจ.

"ขออภัย ช่วงนี้ข้ามีธุระยุ่งมาก."จงซานเอ่ย.

"ใช่แล้ว การที่ยกระดับราชวงศ์กษัตริย์ ไม่ใช่ว่าโชคดีที่มีข้าอย่างงั้นรึ?"เห่าเม่ยหลีที่กล่าวออกมาอย่างไม่ขวยเขินว่าทุกอย่างเป็นเพราะตัวเอง.

จงซานเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย เป็นความจริง กล่าวจริง ๆ แล้วหากไม่มีเห่าเม่ยลี เขาก็ไม่มีโอกาสได้รับแปลนศาลสวรรค์ เดิมที่มันเป็นสิ่งของที่ต้องส่งมอบให้กับเห่าเม่ยลี แต่กลับกลายเป็นเขาได้รับมันมา ไม่ว่าอย่างไรความดีความชอบก็ต้องยกให้เห่าเม่ยลีเป็นธรรมดา จงซานไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด.

"ก่อนหน้านี้ เจ้ากับข้า มีพันธสัญญากันอยู่ไม่ใช่รึ? ว่าแต่เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าว.

"โอ้ว?เจ้ายินดีที่จะช่วยข้าแล้วรึ?"เห่าเม่ยลีดวงตาเปล่งประกาย.

"ยังไงข้าก็ต้องฟังเจ้าอยู่แล้ว ข้าคงจะไม่คิดสั้นฆ่าตัวตาย หากไม่ยอมฟังเจ้าหรอก!"จงซานที่ฝืนยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"อืม ดี ข้าจะไม่อ้อมค้อมล่ะนะ ข้าได้ให้ตาเฒ่าไปหาอนุสาวรีย์อมตะ ตาเฒ่ากับสามารถหาเจอได้แค่ไม่กี่อันเท่านั้น ของส่วนใหญ่แล้วได้มาจากเจ้าเป็นส่วนมาก และจากดินแดนเทพอเวจี ข้าพบว่าเจ้ามีความสามารถที่ร้ายกาจมากในการหาอนุสาวรีย์อมตะ หากว่าจะหาส่วนที่เหลืออีก!"เห่าเม่ยลีกล่าว.

"หืม อนุสาวรีย์อมตะที่มีอยู่ในราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว แน่นอนว่าข้าได้หาให้กับเจ้าหมดแล้ว."จงซานที่สายหน้าไปมา.

"ไม่ว่าอย่างไรอนุสาวรีย์อมตะนั้นสำคัญต่อข้ามาก เจ้าเคยหาอนุสาวรีย์อมตะมากมายได้ นั่นแสดงว่าเจ้ามีชะตากับมัน ราชามังกรได้บอกกับข้าครั้งหนึ่ง คนที่มีชะตาด้วยเท่านั้นถึงจะหาเจอ ดังนั้นข้าจึงคิดว่าเจ้าจะสามารถหาอนุสาวรีย์อมตะทั้งหมดมาให้กับข้าได้."เห่าเม่ยลีกล่าว.

จงซานที่ฝืนยิ้มและกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล."ข้าไม่รู้ว่า อนุสาวรีย์อมตะที่เหลือนั้นอยู่ที่ใหน?"

"ข้ารู้!"เห่าเม่ยลีกล่าว.

"หืม?"จงซานที่จ้องมองไปยังเห่าเม่ยลี.

"มันยังเหลืออยู่อีก 44 อัน อยู่ในดินแดนเทพพิสุทธิ์ แดนเทพอมตะ และราชวงศ์สวรรค์ต้าหลี ราชวงศ์สวรรค์ต้าสุ่ย อย่างล่ะ 11 อัน เจ้าช่วยนำมันมาให้ข้า!"เห่าเม่ยหลีกล่าว.

ทุกพื้นที่ที่เห่าเม่ยหลีกล่าวออกมานั้น นางที่รั้งรอจ้องมองไปยังจงซาน เพราะว่าสถานที่ทั้งสี่นั้นคือสองแดนศักดิ์สิทธิ์และสองราชวงศ์สวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ใครจะหาญกล้าพอที่จะนำพวกมันมาได้ล่ะ?

"ข้าจะทำให้ดีที่สุด!"จงซานที่กล่าวออกมาพร้อมกับพยักหน้า.

"หืม?"เห่าเม่ยลีที่ตะลึงงันไป ไม่เข้าใจว่าทำไมจงซานถึงรับคำง่าย ๆ  หากว่าเขาไม่ยอมก็ไม่ใช่เรื่องแปลก มันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้!

"ขอบคุณเจ้าที่ช่วยเหลือหยิงหลาน แม้ว่าสถานที่เจ้ากล่าวมันจะยาก ทว่าข้าจะทำมันให้ดีที่สุด ให้เป็นไปตามลิขิตสวรรค์ก็แล้วกัน."จงซานที่สูดหายใจลึก.

"เพื่อหญิงสาวคนนั้นอย่างงั้นรึ? เจ้าคงไม่หลอกข้า!"เห่าเม่ยลีที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางไม่อยากเชื่อ.

"ในทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น ใครกล้าหลอกเจ้ากัน? เจ้ามีร่างสถิตหมื่นปิศาจ โกหกสวรรค์ได้แต่ไม่สามารถโกหกเจ้าได้."จงซานที่เผยยิ้ม ส่วนหนึ่งจะเพื่อหยิงหลาน ทว่าอีกส่วนหนึ่งเป็นการตอบแทนเรื่องแปลนผังสวรรค์ด้วยเช่นกัน.

"อืม ข้าเชื่อเจ้า!"เห่าเม่ยลีที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย เป็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่ยากจะเคยเห็น.

"เจ้าออกมานานแล้ว จักรพรรดิพิษปัจจิมไม่เป็นห่วงเจ้าแล้วรึ?"จงซานกล่าวสอบถาม.

"มีใครกันที่จะเป็นห่วงข้า?จะมีใครกล้าว่ากล่าวข้ากัน? อย่างไรก็ตามตาเฒ่าก็กำลังออกไปหาสิ่งของบางอย่างให้ข้าคงจะยังไม่กลับมา ข้าคิดว่าข้าจะออกเดินทางพรุ่งนี้."เห่าเม่ยลีครุ่นคิดและกล่าวออกมา.

"อืม ข้าอยู่ที่นี่ตลอด หากว่าเจ้าต้องการมาหาข้า ให้เดินทางมายังราชวงศ์จักรพรรดิต้าเจิ้งได้โดยตรงเลย."จงซานกล่าว.

"อืม!"

จากนั้นสิบวัน จงซานที่จัดการเกี่ยวกับนโยบายต่าง ๆ  โดยมีเป่าเอ๋อคอยช่วยไม่ห่าง เฉียนโหยวแม้ว่าจะรู้สึกอิจฉาอยู่บ้าง ทว่าก็ไม่ได้รู้สึกสูญเสียแต่อย่างใด เพราะนางย่อมรับรู้ว่าร่างหลักของจงซานนั้นกำลังจะออกจากเกาะหมาป่าสวรรค์ในไม่ช้านี้แล้ว.

ร่างทั้งสองนั้นมีรูปร่างเหมือนกัน เป็นคน ๆ เดียวกัน  ร่างแยกเงาของจงซานเองก็มีการเชื่อมต่อทางความคิดกับทั้งสองร่างตลอดเวลา ร่างทั้งสองเปรียบเหมือนกับร่างเดียวกันทั้งคู่สามารถมอบความรักให้ได้ทั้งคู่.

หลังจากนั้นสี่เดือนครึ่ง ร่างหลักของจงซาน กงจูเฉียนโหยว หลินเซียวและเซียนเซิงซือก็เดินทางกลับทวีปศักดิ์สิทธิ์ กลับไปยังนครรบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว.

บรรยากาศในนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นั้นดูคึกคักยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก หลินเซียวที่เคยมาเป็นครั้งแรก ดวงตาลุกวาวเลยทีเดียว ส่วนเซียนเซิงซือแม้ว่านครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์จะดูคึกคัก ทว่าในความคิดของเขาก็เป็นเรื่องทั่ว ๆ ไปไม่ได้ทำอะไรให้เขาแปลกใจแต่อย่างใด.

หนึ่งปีครึ่ง จงซานที่นำเฉียนโหยวออกจากนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์และยังเหลืออีกหกเดือนสำหรับการลาพักร้อนของจงซานถึงจะสิ้นสุด.

คนทั้งสี่ที่เข้ามาในนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับเดินทางไปยังคฤหาสน์ตงฟาง!

"จอมพล!กงจู!" ที่ด้านหน้าคฤหาสน์ตงฟางนั้น จื่อเห่าหลางเจียงที่ก้าวออกมาคนแรก กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"กงจู เซียนเซิง!"อาต้าและอาเอ้อที่บินตรงมายังคฤหาสน์ตงฟาง.

"จอมพล!กงจู!"สุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่างที่ออกมาแสดงความเคารพด้วยเช่นกัน.

ทุกคนที่จ้องมองไปยังหลินเซียวและเซียนเซิงซือเป็นสายตาเดียวกัน หลินเซียวเองก็จ้องมองมายังทุกคนเช่นกัน.

"เข้าไปคุยกันด้านใน!"จงซานที่กล่าวและนำทุกคนบินเข้าไปในคฤหาสน์ตงฟาง.

ภายในห้องโถง จงซานที่จ้องมองไปยังสุ่ยอู๋เหินแล้วกล่าวออกมาว่า "นี่คือหลินเซียว ข้าได้นำเขามาด้วย หลังจากนี้อู๋เหินเจ้าต้องศึกษาทุกอย่างจากเขา!"

สุ่ยอู๋เหินที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย ยากที่จะยอมรับทว่าก็ต้องตอบรับไป."ครับ!"

"ส่วนนี่คือเซียนเซิงซือ! หลังจากนี้ หากว่าไม่มีอะไร ไม่จำเป็นต้องไปรบกวนเขา."

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด