Chapter 372 เสือผู้หญิง.
เกาะหมาป่าสวรรค์ ราชวงศ์กษัตริย์ต้าเจิ้ง เมืองเสวียน ตำหนักหลวง ห้องอักษรของจงซาน.
อี้เหยี่ยนที่ก้าวเข้ามาด้านใน.
ที่ด้านในนั้น มีจงซานที่กำลังเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ โดยมีเป่าเอ๋อที่คอยอยู่เคียงข้าง.
"คารวะฝ่าบาท คาราวะหวงโห่ว."อี้เหยี่ยนกล่าว.
"เฮ้เฮ้ อี้เหยี่ยน เจ้าไม่จำเป็นต้องมากพิธี ถึงภายในเจ้าจะเป็นข้าราชบริพาร ทว่าภายนอกเจ้าคือสหายของข้า."จงซานที่วางพู่กันลงและกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม เรื่องนี้เกี่ยวกับราชวงศ์จักรพรรดิหยินเหว่ เป็นรายละเอียดที่ฝ่าบาทต้องพิจารณา."อี้เหยี่ยนที่กล่าวพร้อมกับจ้องมองไปยังเป่าเอ๋อ.
เห็นท่าทางของอี้เหยี่ยนแล้ว จงซานที่เผยยิ้มออกมาทันที "เป่าเอ๋อเป็นภรรยาข้า นางเห็นด้วยกันการตัดสินใจทุกอย่างของข้า."
ได้ยินคำพูดของจงซานอี้เหยี่ยนที่เพ่งพิศชำเลืองมอง จ้องมองด้วยท่าทางประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้าและกล่าวออกมาว่า "หวงโห่วได้เสียมารยาทแล้ว เรื่องที่ข้าต้องการกล่าวนั้นเป็นความลับ ดังนั้นจึงได้ทำเช่นนี้........"
"ไม่มีปัญหา เจ้าเองก็ทำเพื่อเหล่าเยว่!"เป่าเอ๋อที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมเผยยิ้มออกมา.
"เจ้าพบอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าว.
"ราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่นั้นนับว่าเป็นหนึ่งในขุมกำลังที่แข็งแกร่ง พวกเราได้ทำการวิเคราะห์แล้ว วางแผนที่จะเข้าประจันหน้าแล้ว แต่คาดไม่ถึงเลยว่าราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่นั้น จะมีความแข็งแกร่งอย่างคาดไม่ถึง."อี้เหยี่ยนคิดพลางทอดถอนใจ.
"หืม?"จงซานที่รอคอยฟัง.
"ความแข็งแกร่งของราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่นั้น แน่นอนว่าเทียบได้กับราชวงศ์ในทวีปศักดิ์สิทธิ์ กับการบริหารจัดการของพวกเขา เห็นได้ชัดเจนว่าจักรพรรดิหลิวเต๋านั้นทรงพลังไม่น้อยเลย ในเวลาเดียวกัน ข้าได้ทำการวิเคราะห์อย่างดีแล้ว ราชวงศ์จักรรพรรดิหยินเยว่นั้นมีความแข็งแกร่งที่ลึกลับสามอย่าง."อี้เหยี่ยนคิดและกล่าวออกมา.
"สามอย่าง? อะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
"เรื่องลึกลับที่สุด ก็คือ เซียนเซิงซือ คนผู้นี้เป็นคนที่แปลกประหลาดมาก ไม่รู้ที่มาที่ไป ถึงแม้ว่าข้าจะอยู่ในทวีปศักดิสิทธิ์มานาน ทว่าไม่เคยได้ยินสายโลหิตของคนผู้นี้เลย ทว่าเขาไม่ได้มีความลึกซึ้งอะไรกับราชวงศ์หยินเยว่มากนัก หลิวเต๋านั้นพยายามที่จะชนะใจเขา เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขามีพลัง ข้าคิดว่าเซียนเซิงซือผู้นี้หากว่ามาอยู่ฝั่งเราจะช่วยพวกเราได้อย่างมากมายมหาศาล!"อี้เหยี่ยนที่ส่ายหน้าไปมาฝืนยิ้มออกมา.
"เซียนเซิงซือ?เฮ้เอ้ ข้าและเขานั้นได้ติดต่อกันมาบ้างแล้ว โปรดวางใจ คนผู้นี้ข้าจะเป็นคนจัดการเอง อีกไม่นานไม่ช้าก็เร็ว เขาจะต้องมาเป็นหนึ่งในข้าราชบริพารของต้าเจิ้งแน่."จงซานที่คิดใคร่ครวญและกล่าวออกมา.
"หืม?"ดวงตาของอี้เหยี่ยนที่เผยสีหน้าประหลาดใจ.
"แล้วที่คนที่สองล่ะ?"เป่าเอ๋อที่กล่าวตามด้วยท่าทางสนใจ.
"คนที่สอง เป็นต้าหวงโห่วของราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่ ก่อนหน้านี้ หญิงสาวผู้นี้เป็นภรรยาที่หลิวเต๋ารักที่สุด ทว่าข้าได้ยินข่าวลือบางอย่างมาเมื่อ 300 ปีที่แล้ว หลิวเต๋าได้วิชาที่สาบสูญกลับมา แม้ว่าจะเป็นวิชาที่ไม่สมบูรณ์ แต่กับทรงพลัง ดังนั้นเขาจึงไม่คิดที่จะทิ้งมันไป ก่อนที่จะหาคนที่เหมาะสมฝึกฝน ท้ายที่สุดก็ให้ต้าหวงโห่วฝึกฝน."อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"หลังจากนั้นล่ะ?"เป่าเอ๋อสอบถาม.
"หลังจากนั้น? หลังจากที่ต้าหวงโห่วฝึกฝนแล้วนางก็สวมชุดดำตลอดเวลา หลิวเต๋าไม่กล้าสัมผัสนางอีกเลย."อี้เหยี่ยนกล่าว.
"ไม่กล้าสัมผัสนางอย่างงั้นรึ?"เป่าเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา.
ไม่กล้าสัมผัสนาง อย่างไรก็ตาม สถานะต้าหวงโห่วของนางนั้น ไม่มีใครสามารถขึ้นมาแทนที่ได้ ครั้งหนึ่งเคยมีสนมคนโปรดต้องการที่จะมาแทนในตำแหน่งต้าหวงโห่ว พร้อมทั้งใส่ร้ายนางต่อหน้าหลิวเต๋า ทว่าท้ายที่สุดกับกลายเป็นว่าทำให้หลิวเต๋าโกรธเกรี้ยวไม่พอใจเป็นอย่างมาก และแล้วก็ไม่มีใครกล้าอีกต่อไป."อี้เหยี่ยนที่กล่าวพลางถอนหายใจ.
"เจ้ากำลังจะบอกว่าต้าหวงโห่วนั้น มีพลังบางอย่างที่สั่นสะเทือนสวรรค์ได้อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อาจเป็นไปได้."อี้เหยี่ยนที่พยักหน้ารับ.
"อืม แล้วพลังสุดท้ายล่ะ!"จงซานที่สอบถามออกมา.
"อืม อย่างสุดท้ายนั้น เป็นวิหารต้าจิวของราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่."อี้เหยี่ยนกล่าว.
"เหล่าพุทธะจินกวงของวิหารต้าจิวอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมา.
"ใช่แล้ว วิหารต้าจิวนั้นมีอะไรที่แปลกประหลาดมาก ดูเหมือนว่ามันจะถูกสร้างขึ้นมานับตั้งแต่สร้างเมืองจิงหลิงแล้ว อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นหนึ่งในสำนักที่เกิดมาคู่กับราชวงศ์นี้เลย?และดูเหมือนว่าวิหารต้าจิวนั้นจะฝังแน่นลงในเมืองจิงหลิงแห่งนี้ราวกับเป็นส่วนเดียวกัน!"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อืม ข้าเองได้ส่งสายลับไปสืบ เกี่ยวกับวิหารต้าจิวแล้ว รับรู้มาว่าวิหารแห่งนั้น มีเหล่าพุทธะจินกวง ทว่าดูเหมือนว่าจะมีมาก่อนนั้นหลายร้อยปีเลยทีเดียว."จงซานที่พยักหน้ารับ.
"ดูเหมือนว่าจะมีหลาย ๆ อย่างที่พวกเรายังไม่รู้ สถานการณ์เวลานี้จึงจำเป็นต้องระมัดระวัง."อี้เหยี่ยนกล่าว.
"อืม."จงซานพยักหน้า.
ในเวลาเดียวกัน เหว่ยไท่จงที่ก้าวเข้ามา.
"ฝ่าบาท แม่ทัพหยิงหลาน ได้ส่งคนนำสารมา ตอนนี้คอยอยู่ด้านนอกแล้ว."เหว่ยไท่จงรายงาน.
"ให้เขาเข้ามา!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
อี้เหยี่ยนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ แววตาแสดงท่าทางสงสัย.
จากนั้นไม่นาน ขุนพลผู้หนึ่งก็เข้ามา.
"คารวะเหนือหัว! คารวะหวงโห่ว! คาวะท่านแม่ทัพอี้!"ขุนพลคนดังกล่าวเอ่ย.
"หยิงหลานส่งเจ้ามา มีอะไรเกิดขึ้นอย่างงั้นรึ? ถึงได้ให้เจ้าเร่งรีบเดินทางกลับมาเช่นนี้?"จงซานสอบถาม.
"เรียนฝ่าบาท ภารกิจในการกำจัดสำนักต่าง ๆ นั้น พวกเขาได้จับคนผู้หนึ่งได้ เขาเป็นพุทธะจินกวง ของวิหารต้าจิว คนผู้นี้เป็นคนของแดนเทพพิสุทธิ์ จอมพลได้ทำการสืบสวนเรื่องทั้งหมดแล้ว เพราะว่าเหตุการณ์ดังกล่าวค่อนข้างตึงเครียด ดังนั้นจึงได้ส่งข้าเดินทางมาแจ้งข่าวให้เร็วที่สุด."ขุนพลคนดังกล่าวเอ่ย.
"หืม?พุทธะจินกวงอย่างงั้นรึ?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ครับ จากเรื่องต่าง ๆ ที่ได้สืบสวน หลิวเต๋าจักรพรรดิหยินเยว่นั้น เป็นคนของแดนเทพพิสุทธิ์ หลังจากที่ล้มเลิกบำเพ็ญกรรม จากนั้นจึงเปลี่ยนมาบำเพ็ญชื่อเสียงแทน และก่อตั้งราชวงศ์จักรพรรดิหยินเยว่ เพราะว่าหลิวเต๋านั้นเป็นคนของแดนเทพพิสุทธิ์ ดังนั้นแดนเทพพิสุทธิ์จึงได้ส่งเหล่าพุทธะจินกวงมาช่วยหลิวเต๋า และวิหารต้าจิวนั้น พุทธะจินกวงล้วนแล้วแต่เป็นผู้ฝึกตนระดับแกนทองขั้นปลายถึง 108 นอกจากนี้พวกเขายังมีค่ายกลพุทธะ ซึ่งกล่าวได้ว่ามีพลังที่ไร้ขีดจำกัดอีกด้วย."ขุนพลคนดังกล่าวรายงานด้วยความจริงจัง.
[金光罗汉Jīnguāng luóhàn พุทธะจินกวง(นักบวชแสงทอง)]
"หมดรึยัง?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่มีแล้วขอรับ."ขุนพลเอ่ย.
"อืม เจ้ากลับไปหาหยิงหลาน บอกนาง ข้ารับรู้แล้ว ข่าวนี้เป็นประโยชน์ต่อข้าเป็นอย่างมาก."จงซานเอ่ย.
"รับทราบ!"ขุนพลทำความเคารพและจากไปในทันที.
"แดนเทพพิสุทธิ์?คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแดนเทพพิสุทธิ์."อี้เหยี่ยนขมวดคิ้วไปมา.
"หืม?? สงสัยอะไรอย่างงั้นรึ?"จงซานสอบถาม.
"พันปีที่แล้ว แดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ แดนเทพพิสุทธิ์นับว่าอหังการที่สุด เป็นสำนักที่มีการขยายอิทธิพลออกไปรอบ ๆ อย่างต่อเนื่อง แม้แต่ใช้เงินซื้อราชวงศ์วาสนา แม้ว่าจะไม่ใช่รูปแบบการฝึกฝนของตน ทว่าการมีราชวงศ์วาสนาก็นับว่าช่วยพวกเขาในการบำเพ็ญกรรมได้ไม่น้อย ทำให้พวกเขาสามารถสะสมกรรมวานาได้ง่ายขึ้น บนทวีปศักดิ์สิทธิ์นั้น มีหลากหลายราชวงศ์จักรพรรดิเช่นกัน ที่มีแดนเทพพิสุทธิ์เป็นเงาควบคุมอยู่ ส่วนราชวงศ์ราชันย์นั้น พวกเขายากที่จะสามารถซื้อได้ เพราะว่า แต่ละราชวงศ์ราชันย์ล้วนแล้วแต่มีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่ง ไม่มีทางที่จะยอมให้ระบบสำนักเข้ามายุ่งเกี่ยว เรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับราชวงศ์สวรรค์แน่นอน ดังนั้นจึงไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว ทว่าก่อนหน้านี้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีเองก็เคยถูกแดนเทพพิสุทธิ์ติดต่อด้วยเช่นกัน ถึงกับขนาดส่งคนมาวางยาพิษข้าเมื่อครั้งข้าปิดตนฝึกฝน."อี้เหยี่ยนที่คิดใคร่ครวญเรื่องที่เคยเกิดขึ้น.
"ทว่าหลิวเต๋ายอมให้พุทธะจินกวงซื้อจริง ๆ รึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ไม่แน่ใจนัก ทว่าไม่ว่าอย่างไร รายระเอียดเกี่ยวกับพุทธะจินกวง ข้าเองเคยได้ยินมาก่อนว่าพวกเขาสามารถสร้างค่ายกลพุทธะขึ้นมาได้ นี่คือค่ายกลสงคราม ที่ต้องใช้พุทธะแท้จริงจำนวน 108 คน เพื่อปกป้องปู่ซา."อี้เหยี่ยนกล่าว.
"ทว่าคนเหล่านี้ไม่ใช่พุทธะแท้จริง เป็นเพียงแค่ผู้ฝึกตนแกนทองขั้นสุดท้าย."จงซานกล่าวด้วยท่าทางเหยียดหยัน.
"ใช่!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
สี่เดือนกับแผนการสร้างราชวงศ์จักรพรรดิ ที่ด้านนอกเมืองเสวียน.
ร่างหลักของจงซานที่นำเฉียนโหยวบินมาช้า เห่าเม่ยลีที่บินตามมาโดยมีมังกรทองอยู่ด้านหน้า จ้องมองไปยังเหล่าปุถุชนมากมายที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่.ด้วยท่าทางประหลาดใจ.
"จงซาน นี่คือครอบครัวของเจ้ารึ? หวงตี้ของโลกมนุษย์."เห่าเม่ยลีที่จ้องมองไปยังตำหนักหลวงด้วยท่าทางอยากรู้.
มังกรทองที่หมุนวนไปมา มีมังกรทองเดินทางมาด้วยรึ? ทว่า การมีมังกรทองเช่นนี้ถือเป็นฤกษ์ดีหรือไม่?
ไม่นานหลังจากนั้น ในเมืองเสวียน เหล่าคนที่คุกเข่า ที่จ้องมองขึ้นไป มังกรทอง ที่ร่อนลงมายังตำหนักจักรพรรดิอย่างคาดไม่ถึง.
"ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!"
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอ่ยออกมาก่อน จากนั้นทุกคนทั่วทั้งเมืองเสวียนที่กล่าวทำความเคารพออกมาพร้อม ๆ กัน.
"ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!"
"ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน!"
ทั่วทั้งเมืองเสวียนที่เปล่งเสียงดังไม่หยุดหย่อน จงซานที่เหินลงมายังด้านหน้าตำหนังซ่างเฉิง.
วันนี้ก็เหมือนทุกวัน ตำหนักหลวงนั้นมีกองกำลังขนาดใหญ่คุ้มกัน ไม่มีใครสามารถเข้าออกได้.
ที่ด้านหน้าของตำหนักซ่างเฉิง เป่าเอ๋อ หยิงหลาน หลินเซียว เหว่ยไท่จงและอี้เหยี่ยนที่รอคอยอย่างอดทน.
เห็นเห่าเม่ยลีที่ขี่มังกรมา หลาย ๆ คนที่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ทว่าเมื่อเห็นจงซานที่นำกงจูเฉียนโหยวร่อนลงมา ยกเว้นเป่าเอ๋อ ทุกคนที่ชำเลืองมองตาโต เผยสีหน้าประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทุกคนที่ตื่นตะลึง เกิดอะไรขึ้น ฝ่าบาทไม่ได้นั่งอยู่ในตำหนักซ่างเฉิงหรอกรึ? นี่เพิ่งมาจากด้านนอกอย่างงั้นรึ?
ทุกคนที่หันหน้าจ้องมองไปยังด้านในตำหนักซ่างเฉิง ร่างเงาจงซานได้หายไปไม่มีใครเห็นแล้ว.
"กู่ไหนไน กู่เหยี่ยเยี่ย."หยิงหลานที่อุทานออกมาด้วยท่าทางงงวย.
จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "มีอะไรอย่างงั้นรึ? ก่อนหน้านี้เจ้านำทัพไปที่ภาคเหนือ ตอนนี้จำข้าไม่ได้แล้วอย่างงั้นรึ?"
"เป็นกู่เหยี่ยเยี่ยแน่นอน ก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่ในห้องโถงหรอกรึ?"หยิงหลานที่แสดงท่าทางสับสน.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล.
เห็นกงจูเฉียนโหยว แววตาของอี้เหยี่ยนที่เต็มไปด้วยความสงสัย เป็นกงจูเฉียนโหยว? นางมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร? ฝ่าบาทเป็นคนนำนางมาอย่างงั้นรึ?
เฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังคนผู้หนึ่งเช่นกัน เป็นอี้เหยี่ยนที่ดูหนุ่มแน่นยิ่งกว่าเดิม ทำให้นางประหลาดใจเล็กน้อย นางมองค้อนไปยังจงซานคราวหนึ่ง คาดไม่ถึงเลยว่าจงซานจะสามารถนำอี้เหยี่ยนมาอยู่ในปกครองได้ คาดไม่ถึงแม้แต่น้อยและยังไม่บอกนางก่อนอีกด้วย.
อย่างไรก็ตาม เฉียนโหยวที่ไม่ได้กล่าวอะไรต่ออี้เหยี่ยน ทว่าจดจ้องมองไปยังหญิงสาวผู้งดงามในชุดที่หรูอลังการที่อยู่ด้านหน้าแทน.
นางที่ก้าวเข้าไปใกล้ ก่อนที่จะกล่าวทำความเคารพอย่างนุ่มนวล."เฉียนโหยวคารวะเจี่ยเจี๋ย!"
อี้เหยี่ยนที่อยู่ข้าง ๆ เต็มไปด้วยความประหลาดใจอ้าปากหวอราวจะยัดไข่ลงได้ หยิงหลานที่จ้องมองไปยังเฉียนโหยว แววตาที่เต็มไปด้วยความอิจฉา กัดริมฝึกปากแน่น แสดงท่าทางไม่ไม่ความสุขนัก.
"เฉียนโหยว? เหม่ยเม่ยไม่ต้องมากพิธีนัก กับคำพูดของบุรุษนั้น ข้ายินดีที่จะที่จะยอมรับเจ้าเข้ามาสู่ฮาเร็มของเขา!"เป่าเอ๋อที่มองค้อนจงซานหนึ่งทีเช่นกัน ทว่าก็คว้ามือของเฉียนโหยวด้วยท่าทางเป็นมิตรพร้อมกับพยุงนางให้ลุกขึ้น.
เฉียนโหยวที่ค่อนข้างเขินอายอย่างหนัก ทว่าก็ลุกขึ้นก้าวตามเป่าเอ๋อไป.
"จงซาน เจ้าอย่าบอกนะ ว่าหญิงสาวผู้นั้นก็เป็นภรรยาของเจ้าอีกรึ?"เห่าเม่ยลีที่จ้องมองไปยังเป่าเอ๋อที่พากงจูเฉียนโหยวจากไป.
"ถูกแล้ว!"จงซานกล่าวรับ.
"ผู้ชายนี้ไม่มีอะไรดี เสือผู้หญิง!"เห่าเม่ยหลีแค่นเสียงเหยียดหยันในทันที.