Chapter 366 ฉีเทียนโห่วที่ร้อนรน.
"หยิงหนิง?"ฉีเทียนโห่วที่ดวงตาหดเกร็งกล่าวออกมาเสียงดัง.
"ไม่รู้ว่าจวินจู่หยิงหนิง สามารถเป็นผู้พิสูจน์ได้หรือไม่? การให้นางเป็นพยาน ยังจะกล่าวว่าเป็นพยานเท็จหรือไม่?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ.
จวินจูหยิงหนิงเป็นผู้พิสูจน์ หากว่าเป็นจวินจู่หยิงหนิงจริง ใครจะกล้าบอกกล่าวว่าเป็นหลักฐานเท็จล่ะ? แน่นอนว่าย่อมเชื่อถือได้อย่างแน่นอน.
"หยิงหนิงรึ? หยิงหนิงตายแล้ว อาวุโสเทียนกล่าวว่าดวงวิญญาณของนางไม่ได้เดินทางไปยังเมืองผีแดนยมโลก ไม่สามารถอัญเชิญได้!"ฉีเทียนโห่วกล่าวออกมาในทันที.
"ไม่สามารถเรียกได้ ไม่ยอมรับให้หยิงหนิงเป็นพยานรึ?อาวุโสเทียนได้คิดไว้แล้วว่ามีวิธีที่จะนำหยิงหนิงมายังวิหารไท่กู่แห่งนี้ ให้มาปรากฏต่อหน้าทุกคน ปรากฏต่อหน้ากงจูเฉียนโหยว ปรากฏต่อหน้าฉีเทียนโห่ว!"จงซานที่หรี่ตาเล็กลงขณะพูด.
เห็นสายตาที่ยืนยันหนักแน่นของจงซาน ดวงตาของฉีเทียนโห่วหดเกร็ง ท่าทางต้องการปฏิเสธ ตัวสั่นทว่าพยายามทำให้สงบลง "ฮ่าฮ่า งั้นให้หยิงหนิงมา ให้หยิงหนิงมาชี้ตัวฆาตกรด้วยตัวเอง เปิดเผยให้รู้ไปเลยว่ากู่เฉียนโหยวเป็นฆาตกร."
"แน่นอน ว่าสามารถชี้ตัวฆาตกรได้!"จงซานชำเลืองมองไปยังฉีเทียนโห่วด้วยรอยยิ้ม.
ในเวลานี้ฉีเทียนโห่วที่เห็นท่าทางสุขุม รอยยิ้มที่แน่นิ่งของจงซาน ใบหน้าที่เยือกเย็นนั่น ทำให้ภายในใจของเขารู้สึกขุ่นเคืองอยู่ไม่น้อย.
จงซานที่หันหน้าไปทางเซิ่งซ่าง"ฝ่าบาท ข้าได้ตกลงกับอาวุโสเทียนเอาไว้แล้ว ขอให้อาวุโสเทียนเข้ามายังตำหนัก."
"อืม!"กู่เฉิงตงที่พยักหน้า.
ในเวลาเดียวกันนี้ อาวุโสเทียนไม่จำเป็นต้องให้ใครไปแจ้ง เขาที่ก้าวเข้ามาด้านใน พยุงไม้เท้า ก้าวเข้ามาช้า ๆ .
อาวุโสเทียนในราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้นมีสถานะสูงเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งที่สำคัญอะไร ทว่าก็ไม่มีใครกล้าดูแคลนเขา.
"คารวะเซิ่งซ่าง!"อาวุโสเทียนที่ก้าวเข้ามาในตำหนัก.
"อืม!"กู่เฉิงตงพยักหน้า.
ทุกคนในท้องพระโรง ที่ยืนนิ่ง จ้องมองอย่างใจเย็น อาวุโสเทียน ทุกคนต่างก็รู้ดี นี่คือผู้ฝึกตนฮวงจุ้ย ผู้มีวิชาที่เหนือธรรมชาติแตกต่างจากผู้บำเพ็ญชื่อเสียง เขาที่สามารถสื่อสารกับเทพและภูตผี ติดต่อภพคู่หยินหยางได้.
สามารถที่จะเรียกคนตายกลับมาได้อย่างงั้นรึ?
อาวุโสเทียนที่มีวิชาแห่งความตาย ก่อนหน้านี้หนึ่งเดือนได้ลองทดสอบแล้วแต่ไม่สามารถเรียกวิญญาณหยิงหนิงมาได้ แล้วเวลานี้มีวิธีแล้วอย่างงั้นรึ?
จงซานที่แสดงความเคารพต่ออาวุโสเทียน "ขอบคุณอาวุโส ต้องรบกวนท่านแล้ว!"
"อืม!"อาวุโสเทียนที่ตอบรับเบา ๆ .
"เทียนเหล่า ท่านสามารถอัญเชิญดวงวิญญาณหยิงหนิงได้แล้วรึ?"ฉีเทียนโห่วที่จ้องมองไปยังอาวุโสเทียนด้วยความคาดหวัง.
"ไม่! อย่างไรก็ตาม ข้าสามารถที่จะให้เจ้าสามารถมองเห็นดวงวิญญาณของหยิงหนิงได้ และนางสามารถมองเห็นเจ้าได้ หากว่านางต้องการกล่าวอะไรนางก็จะกล่าว หากว่านางไม่ต้องการกล่าว จะไม่มีใครสามารถบังคับนางได้ ดวงวิญญาณของนางนั้นอยู่ในภพหยินแล้ว."อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
ได้ยินคำพูดของอาวุโสเทียนแล้ว ทั่วทั้งห้องโถงที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน ทุกคนที่รอคอยอย่างใจเย็น บางทีอาจจะเป็นการเชื่อมต่อภาพของทั้งสองภพเข้าด้วยกัน ให้ทั้งสองฝั่งต่างมองเห็นกันและกันได้.
ฉีเทียนโห่วที่ชำเลืองมองอาวุโสเทียน ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย กลืนน้ำลายเสียงดัง มือทั้งสองกำแน่น ทว่าก็ปรับเปลี่ยนเป็นปรกติในทันที "เช่นนั้นเชิญเทียนเหล่าดำเนินการ!"
จงซานที่จ้องมองไปยังฉีเทียนโห่ว เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ฉีเทียนโห่วถึงกับเชื้อเชิญให้กับอาวุโสเทียนดำเนินการเลยรึ? คนอื่น ๆ ย่อมไม่สามารถมองเห็นได้ ทว่าจงซานนั้นเห็นได้อย่างชัดแจ้ง ฉีเทียนโห่วเวลานี้รู้สึกอยู่ไม่สุขแล้ว ทว่าเขายังไม่เผยตัว ด้วยเชาว์ปัญญาของเขาแล้ว เขาย่อมไม่เผยหางออกมาง่าย ๆ แน่นอน.
จงใจที่จะทำให้ตัวเองใจเย็นอย่างงั้นรึ?
"อาวุโสเทียนเชิญ!"จงซานกล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
อาวุโสเทียนพยักหน้า จากนั้นเขาที่เก็บไม้เท้าสวรรค์ของเขา ก่อนที่จะนำม้วนอักขระภาพออกมา บนม้วนอักขระนั้นเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ที่แปลกประหลาดมากมาย จงซานรู้สึกเหมือนกับว่าสัญลักษณ์ดังกล่าวนั้นกระตุกเป็นระยะเหมือนกับการเต้นของหัวใจ จากนั้นดูเหมือนว่ามันจะเริ่มเต้นไปมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ เร็วขึ้นและก็เร็วขึ้น จากนั้นมันก็เริ่มปรากฏเป็นภาพ ก่อนที่มันจะกลายเป็นรูปดวงตาค่อย ๆ ลืมขึ้นช้า ๆ .
ม้วนอักขระของอาวุโสเทียนที่ยืดขยายออกไป ม้วนอักขระที่ส่ายไปมาไม่หยุด พร้อมกับปรากฏฟองสีม่วงที่ถูกพ่นออกมา มันกำลังพุ่งออกมาจากม้วนอักขระไม่หยุดหย่อน.
ฟองสีม่วงที่หยดลงพื้นไม่หยุด ดูเหมือนว่าม้วนอักขระเองก็กระตุกเร็วขึ้นและก็เร็วขึ้นเรื่อย ๆ จากนั้นฟองเหล่านั้นก็เริ่มลดลง ก่อนที่จะเลือนหายไปอย่างรวดเร็ว เวลานี้ไม่สามารถมองเห็นได้แล้ว ทว่าม้วนอักขระได้ปล่อยแสงสีเขียวแผ่ออกมาอย่างช้า ๆ .
อาวุโสเทียนที่บริกรรมคาถาอะไรบางอย่างเงียบ ๆ ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปเข้าใจได้ ทว่าทุกคนก็สามารถเข้าใจภาพที่กำลังเริ่มปรากฏขึ้นได้.
บนม้วนอักขระที่ปล่อยแสงสีเขียว แสงสีเขียวที่ส่องสว่างรวมตัวกันช้า ก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า จากนั้นบนแสงสีเขียวนั่น ได้ปรากฏเป็นเงาคนผู้หนึ่งขึ้นที่ม้วนอักขระ.
เงาร่างของคนผู้นั้นกำลังชัดเจนขึ้นช้า ๆ มากขึ้นและก็มากขึ้น ท้ายที่สุดก็กลายเป็นรูปเป็นร่าง ชุดสีขาวใบหน้าของหญิงสาวที่งดงาม เส้นผมทิ้งสลวยลงด้านหลัง ดวงตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า.
หยิงหนิง! เป็นหยิงหนิงนั่นเอง!
เห็นรูปร่างหน้าตาของหยิงหนิง เหล่าข้าราชบริพารทุกคนแทบจะเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ อย่างไรก็ตาม เหล่าญาติพี่น้องตระกูลกู่ในเวลานี้ต่างก็สูดหายใจลึกจ้องมองเขม็ง.
หยิงหนิงปรากฏ ปรากฏออกมาแล้ว ดูเหมือนจริงเป็นอย่างมาก.
เห็นรูปร่างของหยิงหนิงที่ปรากฏขึ้นมาทันทีนั้น ร่างของฉีเทียนโห่วที่ถอยออกไปด้านหลังโดยที่ไม่รู้ตัว แววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ทำให้ตัวเองสงบใจลงอย่างรวดเร็ว จ้องเขม็งไปยังหยิงหนิง ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโกหก.
ฉีเทียนโห่วที่ไม่อยากเชื่อ ทว่าภายในใจก็เต็มไปด้วยความกังวลใจเช่นกัน.
ภายในห้องโถงนั้น ราชครูและสี่ไท่จื่อที่ขมวดคิ้วไปมา ราวกับว่าสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง ทว่าคนทั้งห้ายังคงสุขุมไม่ได้เผยสิ่งใดออกมา.
ดวงตาของอ๋องเจิ้งอี้ที่ส่องประกายเล็กน้อย จากนั้นก็กลายเป็นขุ่นมัวเช่นเดิม.
ดวงตาของต้าเสวียนอ๋องที่จ้องมองไปยังฉีเทียนโห่ว.
สายตาของอ๋องไท่จงเช่นกัน จ้องมองไปยังจงซาน ใบหน้าที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
อ๋องจ้านเทียนยังคงชำเลืองมองไปยังหยิงหนิง.
หวนถูหลงจ้องมองไปยังฉีเทียนโห่ว จงซานและหยิงหนิง.
ส่วนเซิ่งซ่างกู่เฉิงตง ยังคงจ้องมองลงมายังด้านล่างเหมือนเช่นเดิม.
ท่าทางของหยิงหนิงเวลานี้ เริ่มตรวจสอบท้องพระโรง.
"จวินจู่หยิงหนิง ในวันนั้น ใครเป็นคนสังหารท่าน ภายในท้องพระโรงนี้มีคนมากมาย ท่านต้องการจะบอกกับใครหรือไม่?"เสียงของจงซานที่แผ่วเบากล่าวกับนาง.
สายตาของหยิงหนิงที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว ทุกคนที่จ้องมองอย่างเงียบ เป็นกงจูเฉียนโหยวอย่างงั้นรึ? เป็นไปได้ว่ากงจูเฉียนโหยวเป็นฆาตกรจริง ๆ อย่างงั้นรึ?
อย่างไรก็ตาม เพียงแค่สามลมหายใจเท่านั้น หยิงหนิงก็เปลี่ยนไปมองฝ่าบาท นางที่จ้องมองไปยังฝ่าบาท.
หยิงหนิงที่จ้องมองฝ่าบาทสามลมหายใจเช่นกัน จากนั้นก็จ้องมองไปยังต้าเสวียนอ๋อง ก่อนหลับตาลงเป็นเวลาสามลมหายใจเช่นกัน จากนั้นก็ลืมตาขึ้นหันหน้าไปมองเหล่าญาติพี่น้องตระกูลกู่ จ้องมองอย่างใจจดจ่อ แววตาของนางที่ดูเศร้าเล็กน้อย ทำให้ภายในใจของทุกคนสั่นไหวอยู่เหมือนกัน.
ระหว่างนั้น ฉีเทียนโห่วที่กำหมัดแน่น ด้วยแรงบีบอัด จนทำให้มือทั้งสองข้างแดงกล่ำมีโลหิตซึมเลยทีเดียว.
บนหน้าผากของฉีเทียนโห่วเวลานี้เต็มไปด้วยเหงื่อที่เย็นเยือบหลั่งออกมา พร้อมกับกลืนน้ำลายคำโต จ้องมองไปยังหยิงหนิงที่จ้องมองไปยังคนทุกคน.
สายตาของหยิงหยิงที่จ้องมองเหล่าญาติพี่น้องทุกคน? หากแต่เหลือเพียงแค่คนเดียว?
ท้ายที่สุด หยิงหนิงก็จ้องมองไปยังฉีเทียนโห่ว สายตาทั้งสองข้างที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ฉีเทียนโห่วที่ถอยออกไปเองโดยไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่จะยั้งเท้าเอาไว้ได้ทัน.
สายตาที่โศกเศร้าของหยิงหนิงนั้น ราวกับว่ามันได้ทะลวงไปยังวิญญาณของฉีเทียนโห่ว มันจมลงไปในความรู้สึกของฉีเทียนโห่วจนลึกล้ำ.
มือทั้งสองข้างของฉีเทียนโห่วกำแน่น หัวใจที่เต้นไปมาอย่างรุนแรง ด้วยความหวาดกลัวคำพูดของหยิงหนิง เวลานี้เต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจอย่างรุนแรง.
ในเวลานี้ ฉีเทียนโห่วไม่สามารถสุขุมได้อีกต่อไปแล้ว.
เป็นเวลานาน เวลานานกว่าคนอื่น หยิงหนิงที่จ้องมองคนอื่น ๆ เพียงแค่ไม่นาน ทำไมถึงได้มองไปยังเขาเป็นเวลานานเช่นนี้ นางไม่คิดที่จะหันหน้าไปทางอื่นเลยรึ?
ฉีเทียนโห่วเวลานี้เกิดความรู้สึกที่รุนแรงหนักหน่วงแทบร้องออกมา ภายในใจเต็มไปด้วยความกลัวอย่างที่สุด หยิงหนิงกำลังจะเปิดเผยข้าอย่างงั้นรึ? นางต้องการจะกล่าวความจริงอย่างงั้นรึ? นางต้องการจะบอกทุกคนอย่างงั้นรึ?
หัวใจของฉีเทียนโห่วที่เต้นไปมาอย่างรุนแรง เหงื่อบนหน้าผากที่มากขึ้นและก็มากขึ้น.
ท้ายที่สุดดูเหมือนว่าจะผ่านไปเป็นเวลานานเหมือนกัน หยิงหนิงที่หันหน้ากลับมา ท้ายที่สุดก็จ้องมองไปยังอาวุโสเทียน ก่อนที่ร่างของนางจะกลายเป็นผงและหายไป.
หยิงหนิงไม่กล่าวสิ่งใดเลยรึ? หยิงหนิงไม่กล่าวอะไรออกมาเลย.
"สูญเสียการเชื่อมต่อกับหยิงหนิงแล้ว."อาวุโสเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.
สูญเสียการเชื่อมต่ออย่างงั้นรึ? ทว่าหยิงหนิงยังไม่กล่าวอะไรเลย เหล่าญาติพี่น้องตระกูลกู่ที่แสดงท่าทางร้อนใจ กงจูเฉียนโหยวที่อยู่ข้าง ๆ ก็แสดงท่าทางร้อนใจเช่นกัน.
ต้องทำอย่างไร? ขาดการเชื่อมต่อย่างงั้นรึ?
ทว่าในเวลาเดียวกัน ทั่วทั้งห้องโถง ตอนนี้ต่างก็จ้องมองไปยังฉีเทียนโห่ว ฉีเทียนโห่วอย่างงั้นรึ? ทำไมร่างกายของฉีเทียนโห่วถึงเหงื่อโชกเช่นนั้น?
จงซานที่ชำเลืองมองไปยังฉีเทียนโห่ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะออกอาการขนาดนั้นเลยรึ?
ฉีเทียนโห่วเหงื่อที่ชโลมกาย ชุดของเขาที่เปียกโชกไปหมด ด้วยความหวาดกลัว ตกใจอย่างที่สุด จนท้ายที่สุดก็ออกอาการเด่นชัด แต่แล้ว ฮ่าฮ่า เขาที่กระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ หยิงหนิงไม่ได้เปิดเผยเขา นางไม่ได้กล่าวอะไรเลย ดี นางไม่ได้กล่าวสิ่งใด.
"ฉีเทียนโห่ว เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?"จงซานที่เอยปากถามในทันที.
แม้ว่าฉีเทียนโห่วจะเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทว่าเวลานี้เขาก็เปลี่ยนเป็นตื่นเต้นดีใจ ทว่าความคิดของเขาเวลานี้กำลังวุ่นวายอยู่ ถึงจะรู้สึกโล่งแล้วก็ตาม.
ขณะที่จงซานได้ถามฉีเทียนโห่ว เขาก็พบว่าตัวเองนั้นแสดงพิรุธออกมา.
"หยิงหนิง เจ้าไปแล้วรึ? เจ้ายังไม่บอกกับข้าได้อย่างไร ว่าใครสังหารเจ้าเป็นกู่เฉียนโหยวใช่ไหม!"ฉีเทียนโห่วที่ไม่ตอบจงซาน ทว่าจ้องมองไปยังพื้นที่ที่อาวุโสเทียนเรียกนางออกมานั่นเอง.
"ฉีเทียนโห่ว เจ้าไม่สบายอย่างงั้นรึ?"เซิ่งซ่างที่เอ่ยปากถาม.
"ไม่ ๆ ฝ่าบาท เมื่อสักครู่นี้เพราะว่าข้าเห็นดวงวิญญาณของหยิงหนิง เลยตื่นเต้นดีใจเกินไป ดังนั้นจึงได้มีเหงื่อไหลออกมา เฉินสบายดี ทว่าช่างหน้าเสียดายที่หยิงหนิงยังไม่เอ่ยชื่อฆาตกร ทำให้ข้าไม่สามารถที่จะช่วยนางชำระความแค้นได้!"ฉีเทียนโห่วที่กล่าวด้วยเสียงสั่น.
ดูเหมือนว่าเขาจะฉลาดที่จะแก้ตัว! ภายในใจของจงซานที่ถอนหายใจ.
"อาวุโสเทียน กับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ สามารถที่จะฉายภาพของหยิงหนิงได้อีกครั้งหรือไม่?"กู่เฉิงตงที่เอ่ยปากสอบถาม.
กู่เฉิงตงที่สอบถาม ฉีเทียนโห่วที่จ้องมองไปยังอาวุโสเทียนด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ ทุกคนเองต่างก็คิดว่าฉีเทียนโห่วนั้นเป็นห่วงเรื่องน้องสาว ทว่าฉีเทียนโห่วที่กระวนกระวายใจนั้น มีเพียงแค่เขาเท่านั้นที่รู้.
"ไม่สามารถทำได้ตอนนี้ อย่างน้อยที่สุดต้องใช้เวลาหนึ่งปีหลังจากนี้!"อาวุโสเทียนที่ส่ายหน้าไปมา ก่อนที่จะก้มลง เก็บม้วนอักขระช้า ๆ ก่อนที่จะเก็บมันไป.
ไม่สามารถเรียกได้อีกครั้ง? นั่นก็หมายความว่า หยิงหนิงไม่สามารถออกมาชี้ตัวผู้ต้องหาได้แล้วอย่างงั้นรึ?
กับคำพูดที่อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมานั้นทำให้ฉีเทียนโห่วถอนหายใจยาว พร้อมกับเผยยิ้มออกมาโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น.
ไม่ง่ายที่จะมีใครสังเกตเห็น ทว่ามีคนที่ลอบสังเกตเขาอยู่ แน่นอนว่าไม่สามารถปกปิดได้ทุกคนอย่างแน่นอน.
จงซานที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อยฉีเทียนโห่วช่างง่ายต่อการสังเกตอะไรเช่นนี้ ภายในใจที่รู้สึกมีความสุขขึ้นมา ประสบผลแล้ว เวลานี้เขาได้ทำให้อารมณ์ของฉีเทียนโห่วสับสนรวนเรได้แล้ว จากนี้ไปถึงเวลาจู่โจมแล้ว.
ฟ่านอี้พินที่อยู่ท่ามกลางเหล่าญาติตระกูลกู่ ส่ายหน้าไปมาเล็กน้อย ราวกับรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้.
ต้าเสวียนอ๋องที่จ้องเขม็งไปยังฉีเทียนโห่ว! เห็นท่าทางของฉีเทียนโห่วในเวลานี้ ถึงกับสูดหายใจลึก หลับตาลง ก่อนที่จะค่อย ๆ ลืมขึ้นมาช้า ๆ .