ตอนที่แล้วChapter 363 จงซานผู้ร้ายกาจ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 365 การเชิญหน้าที่ท้องพระโรง.

Chapter 364 วันพิพากษา.


"ผู้เยาว์จงซาน ขอเข้าพบอาวุโสเทียน!"จงซานที่เอ่ยออกไปเสียงดังที่ด้านหน้าค่ายกล.

จงซานไม่มีทางเลือกที่ต้องเดินทางมาเช่นนี้ แม้ว่าพื้นที่หมอกนั้นจะกว้างใหญ่ ทว่าจงซานเชื่อว่าตราบเท่าที่เขายืนอยู่ด้านหน้านี้ อาวุโสเทียนย่อมรับรู้ได้.

อย่างไรก็ตามด้วยหมอกสีขาวที่สุดลูกหูลูกตานี้ อาวุโสเทียนกลับไม่ตอบออกมาเลยแม้แต่น้อย มันยังคงมืดมนเหมือนเช่นดังเดิม.

"ผู้เยาว์จงซาน ขอเข้าพบอาวุโสเทียน!"จงซานที่กล่าวออกมาเสียงดังอีกครั้ง.

ถึงจะเป็นค่ายกลขนาดใหญ่ก็เถอะ แต่ดูเหมือนว่าอาวุโสเทียนจะไม่ต้องการพบกับจงซาน หรือว่าอาวุโสเทียนดูแคลนที่จะพบกับจงซานกัน.

จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา จงซานพอจะคาดเดาท่าทางของอาวุโสเทียนได้ นอกจากนี้ด้วยสถานะของเขานั้นไม่อยู่ในสายตาอาวุโสเทียนอย่างแน่นอน เพราะว่าก่อนหน้านี้ แม้แต่อยู่ต่อหน้าต้าเสวียนอ๋อง เขายังไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย.

จงซานที่รอคอยอยู่สองชั่วโมง อาวุโสเทียนที่ไม่ยอมออกมา.

"จื่อเห่า ไปนำกองกำลังจงแปดแสนนายมา เตรียมเปิดพื้นที่แห่งนี้ เพื่อเปิดค่ายกล!"จงซานที่กล่าวออกไปเสียงดัง.

"ครับ!"จื่อเห่าที่ตอบรับในทันที.

"ใครกล้าเปิดค่ายกลของข้ากัน?"เสียงของอาวุโสเทียนที่โกรธเกรี้ยวท้ายที่สุดก็ดังขึ้น.

จากนั้นหมอกก็เปิดออกเป็นทาง พร้อมกับได้ยินเสียงอาวุโสเทียนที่โกรธเกรี้ยว จงซานที่รออยู่สองชั่วโมง คาดไม่ถึงไม่เพียงไม่กลับ แต่ยังจะใช้กำลังเปิดคาดกลอีกด้วย?

"อาวุโส ผู้เยาว์ล่วงเกินแล้ว ทว่าเนื่องจากอาวุโสไม่สนใจผู้เยาว์เลย เรื่องนี้แสนจะคับขัน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ให้ผู้เยาว์ต้องใช้แผนการร้าย!"จงซานที่กล่าวออกมาในทันที.

"แผนการร้ายรึ? เข้ามา!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาจากด้านใน.

เสียงของอาวุโสเทียนที่ถูกส่งผ่านมาตามเมฆสีเทาตามช่องที่แหวกออกมาจากหมู่มวลเมฆ.

จงซานที่นำจื่อเห่าบินเข้าไปด้านใน บินไปตามช่องทางที่เปิดออก.

ที่ด้านในนั้นเป็นเมฆสีเทา ที่มองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่น้อย เหมือนดั่งเช่นในสนามรบที่ผ่านมา ไม่สามารถใช้สัมผัสเทวะได้ด้วย.

คนทั้งสองที่บินผ่านช่องอุโมงค์ บินไปยังตรงกลางได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งที่ตรงกลางนั้นมีตำหนักสีดำทมิฬลอยอยู่บนอากาศ.

"ตำหนักชีพจรสวรรค์"  (天脉殿)

ป้ายศิลาที่แขวนอยู่ด้านบนมีอักษรสามตัว หากให้กล่าวล่ะก็อาวุโสเทียนที่ฝึกฝนวิชาฮวงจุ้ย ถูกแยกออกจากสวรรค์ เป็นมนุษย์ที่ถูกแบ่งออกจากการเป็นเทพและปิศาจ เป็นผู้สืบทอดชีพจรสวรรค์.

ประตูของตำหนักชีพจรสวรรค์ที่เปิดออก จงซานและจื่อเห่าก้าวเข้าไปด้านใน ที่ด้านในนั้นเป็นเข็มทิศขนาดมหึมาโผล่ขึ้นมาจากพื้นที่ดิน รอบ ๆ วิหารนั้นเต็มไปด้วยเทียนไขถูกจุดให้แสงสว่าง.

อาวุโสเทียนที่ยืนค้ำไม้เท้าก้าวออกมา จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังจงซาน.

"จงซาน คารวะอาวุโส!"จงซานกล่าวออกมาในทันที.

"จื่อเห่า คารวะอาวุโส!"จื่อเห่าที่กล่าวออกมาทันทีเช่นกัน.

"เจ้าหนู ไม่มีใครกล้าเปิดค่ายกลของข้า เจ้าจะเหิมเกริมไปแล้ว!"อาวุโสเทียนแค่นเสียงอย่างเย็นชา.

"ผู้เยาว์ไม่กล้า ทว่าฝ่าบาทนั้นได้ออกคำสั่งให้ข้าเป็นคนสืบสวนเรื่องราวคดีของกงจูเฉียนโหยว หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องล่วงเกินอาวุโส."จงซานที่กล่าวออกมา.

"เจ้าคงไม่คิดใช้กู่เฉิงตงมาบังคับข้า ในราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนั้น ไม่มีใครสามารถบังคับข้าได้!"อาวุโสเทียนกล่าว

"ผู้เยาว์ทราบ รับรู้ว่าอาวุโสนั้นเตรียมที่จะรับหยิงหนิงเป็นศิษย์ก่อนหน้า ทว่าหลังจากนั้นหยิงหนิงกับถูกสังหารอย่างน่าแปลกประหลาด อาวุโสเองคงไม่สบอารมณ์นัก จงซานมาที่นี่ ต้องการให้อาวุโสช่วยค้นหาความจริงเกี่ยวกับฆาตกร เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับเฉียนโหยว และหยิงหนิงจะได้พักอย่างสงบ แม้แต่อาวุโสก็จะบรรเทาความโกรธเกรี้ยวลงด้วย!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"บริสุทธิ์รึ? ไม่ใช่เฉียนโหยวเป็นฆาตกรหรอกรึ?"อาวุโสแค่นเสียงอย่างเย็นชา.

"ข้าคิดว่าอาวุโสเทียนคงจะรับรู้นิสัยของเฉียนโหยวดี เป็นไปไม่ได้ที่นางจะสังหารน้องสาวตัวเอง หรือให้กล่าวอีกอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะสังหารน้องสาวตัวเองแต่นางจะโง่งมถึงขนาดสังหารนางต่อหน้าฝูงชนอย่างงั้นรึ? อาวุโสเทียนที่ยังไม่ได้รับหยิงหนิงเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการด้วยซ้ำ แน่นอนว่าว่ามีโอกาสที่อาวุโสเทียนจะเลือกนาง แต่การกระทำเช่นนั้น มีแต่เป็นการลบหลู่อาวุโส หยิงหนิงได้ตายไปแล้ว ทว่าเฉียนโหยวยังอยู่ อาวุโสได้สูญเสียหยิงหนิงไปแล้ว ไม่คิดว่าอาวุโสต้องการจะสูญเสียเฉียนโหยวอีกคน?"จงซานที่กล่าวแนะทางออก.

"ข้าได้บอกไปแล้ว ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ข้าจะไม่รับเฉียนโหยวเป็นศิษย์อีก ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้สังหารหยิงหนิง แต่คำพูดของข้าที่กล่าวออกไปแล้วไม่มีวันเปลี่ยน."อาวุโสเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.

เห็นท่าทางดื้อรั้นของผู้ชราแล้ว จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อาวุโส ผู้เยาว์นั้นได้รับของวิเศษจากจินฉาน เป็นจีวรไหมม่วง ผู้เยาว์ยินดีใช้สิ่งนี้เป็นหลักประกัน เพื่อที่จะขอโอกาสแลกเปลี่ยนค้นหาความจริงเกี่ยวกับฆาตกรรมในครั้งนี้ หากว่าท้ายที่สุดเฉียนโหยวเป็นฆาตกร จีวรไหมม่วงนี้จะเป็นของอาวุโสในทันที."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

จงซานที่พอคาดเดาได้ว่า ไม่ใช่เพราะว่าจีวรไหมม่วงนี้มันล้ำค่าขนาดใหน ทว่าในเวลานั้นอาวุโสเทียนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมากที่มันสามารถทำให้หนี่ปู่ซาถอนตัวไปได้ อาวุโสเทียนที่จดจ้องมองไปยังจงซาน จงซานที่เผยจีวรไหมม่วงออกมา ในเวลานั้นอาวุโสเทียนที่สูดหายใจลึก จินฉาน? ของวิเศษระดับเก้า สนใจมัน?

เวลานี้เขาจะไม่สนใจมันจริง ๆ รึ?? กับคำพูดของเขาที่ทำให้ อาวุโสที่แสดงสีหน้าจริงจัง จงซานที่กล่าวอย่างหนักแน่น อาวุโสเทียนเองดูเหมือนว่าจะสนใจจีวรเป็นอย่างมาก แม้ว่าคนเช่นอาวุโสเทียนจะเคยเห็นของวิเศษระดับเก้ามากมาย จงซานเองยืนยันได้ด้วยว่าอาวุโสเทียนนั้นมีของวิเศษระดับเก้ามากกว่าหนึ่งชิ้นด้วยซ้ำ ทว่าเขานั้นอาจจะมีเหตุผลบางอย่างที่สนใจจีวรนี้ แน่นอนมันจะต้องมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่ดึงดูดอาวุโสเทียน อาวุโสเทียนจะต้องไม่ปฏิเสธแน่.

เป็นความจริง หลังจากที่จงซานกล่าวรับรอง อาวุโสเทียนที่หรี่ตาเล็กลง จ้องมองไปยังจงซาน จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"ความบริสุทธิ์ของเฉียนโหยว เกี่ยวข้องอะไรกับข้าอย่างงั้นรึ?"

เห็นท่าทางของอาวุโสเทียนแล้ว จงซานที่ทำได้แค่ถอนหายใจ อาวุโสเทียนผู้นี้ได้คืบเอาศอกจริง ๆ .

得寸进尺" décùnjìnchǐ แปลว่า ได้คืบเอาศอก

"ตกลง ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร เสร็จสิ้นวันพิพากษา จีวรไหมม่วงนี้จะเป็นของอาวุโส เป็นอย่างไร?"จงซานกล่าว.

"อืม!"อาวุโสเทียนที่ตอบรับเบา ๆ  ก่อนที่จะกล่าวต่อว่า "ข้าจะไม่โกหกเพื่อเจ้า!"

"ครับ ผู้เยาว์นั้นเชื่อว่าเฉียนโหยวบริสุทธิ์ แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องหลอกลวง ขอถามอาวุโสก่อน อาวุโสสามารถอัญเชิญหยิงหนิงได้หรือไม่?"จงซานกล่าวสอบถามออกมา.

"กู่เฉิงตงได้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้กับข้าแล้ว ไม่สามารถทำได้ ดวงวิญญาณของหยิงหนิงนั้นไม่ได้เข้าไปในเมืองผีโลกอเวจี จึงไม่สามารถอัญเชิญได้!"อาวุโสเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.

ไม่สามารถอย่างงั้นรึ?จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"วันนั้น ข้าเห็นอาวุโส สร้างโลกที่เชื่อมต่อขึ้นมา เป็นการอัญเชิญโลกคู่ขนานออกมาอย่างคาดไม่ถึง ข้าคิดว่า ถึงอาวุโสจะไม่สามารถอัญเชิญดวงวิญญาณออกมาได้ ก็ไม่น่ามีปัญหา."จงซานกล่าว.

"อืม ดวงวิญญาณที่ทำงานภายใต้ความคิดข้านั้น ไม่ใช่ความเป็นจริง."อาวุโสเทียนกล่าว.

"อืม ผู้เยาว์หวังว่าในวันพิพากษานั้น อาวุโสจะเชื่อมต่อภพหยินและเรียกหยิงหนิงให้ปรากฏ ไม่จำเป็นต้องให้นางพูดสิ่งใด ตราบเท่าที่ให้นางจ้องมองไปยังครอบครัวของนางก็พอ ให้ทุกคนได้เห็นวิญญาณของนางสามลมหายใจ จากนั้นอาวุโสก็ส่งนางกลับไปในภพหยินก็พอแล้ว."จงซานกล่าว.

"หืม?"อาวุโสเทียนที่แสดงท่าทางสงสัยเล็กน้อย.

"เหมือนดังที่ผู้เยาว์กล่าว หลังจากวันพิพากษา จีวรไหมม่วงจะเป็นของอาวุโส ข้าคิดว่าด้วยความแข็งแกร่งของผู้เยาว์นั้น ไม่มีทางกล้ากลับคำพูดอย่างแน่นอน."จงซานกล่าว.

"หึ."อาวุโสเทียนที่เผยหัวเราะเบา ๆ อย่างดูแคลน.

เป็นความจริง ด้วยความแข็งแกร่งของจงซานในเวลานี้ไม่ได้อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย.

ระหว่างทางเดินทางกลับ.

"จอมพล ท่านต้องการจะมอบจีวรไหมม่วงให้กับอาวุโสเทียนจริง ๆ รึ?"จื่อเห่าที่อดเสียดายไม่ได้จนได้ถามออกมา.

"เฮ้เอ้ เรื่องบางอย่าง เจ้าคงไม่เข้าใจ."จงซานที่ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.

แน่นอนว่า จีวรไหมม่วงนั้นได้ช่วยจงซานเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง ทว่าก่อนหน้านี้ จงซานเองก็รับรู้ได้ก่อนแล้ว อาวุโสเทียนหาได้ใช่คนดี เหมือนกับจินฉานเองก็ไม่ใช่คนดี เขามอบจีวรไหมม่วงมาให้เขาโดยที่ไม่มีจุดประสงค์อะไรจริง ๆ รึ?

กระบี่อาญาสิทธิ์ที่อยู่กับจื่อเห่านั้น จงซานสามารถที่จะยืนยันได้ว่าทุก ๆ วันทุก ๆ การกระทำและทุก ๆ การเคลื่อนไหว ฝ่าบาทย่อมรับรู้ได้ทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่จำเป็นต้องรอให้สอบถามด้วยซ้ำ กระบี่อาณาสิทธิ์ก็บอกฝ่าบาททั้งหมดแล้ว เหมือนกับจีวรไหมม่วงก็เช่นกัน กระบี่อาญาสิทธิ์ที่รายงานฝ่าบาท จีวรไหมม่วงเองก็เป็นของวิเศษของจินฉานในชาติที่แล้ว มีหรือที่มันจะไม่มีจิตสำนึกของจินฉานฝังอยู่?

กับพลังที่เหนือล้ำของพวกเขาจงซานไม่สามารถต้านทานได้ จงซานนั้นไม่โง่ ทว่าจำต้องแสดงท่าทางว่าไม่รู้ เพื่อรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้.

ขีดเส้นตายหนึ่งเดือนก็มาถึง.

หนึ่งเดือนที่โหมโฆษณาเรื่องตัวเอง จงซานภายในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นที่รู้จักของทุกคน คนส่วนมากไม่ใช่เพราะว่าเชิดชูเทิดทูนจงซาน ทว่าเป็นอิจฉามากกว่า พวกเขาไม่สามารถมองข้าม ต้องการรับรู้ผลสรุปของจงซาน.

เวลานี้ใครไม่รู้จักจงซาน คงเป็นพวกหลังเขาเป็นแน่.

มีคนไม่น้อยเลยที่ไม่ได้ชื่นชมจงซาน หลาย ๆ คนเองต่างก็รอคอยวันพิพากษา ว่าจงซานที่ปกป้องกงจูเฉียนโหยว สุดท้ายแล้วมันจะจบลงเช่นไร.

กับสิ่งที่มองไม่เห็น บางทีการต่อสู้ของคนทั้งสอง อาจมีมูลค่าเทียบเท่ากับคุณงามความดีที่นำไปรับประกัน กับเรื่องที่เขานำมันมาเดิมพัน จะได้รับชัยชนะหรือไม่?

เสียงของผู้คนที่ดังอื้ออึงคึกคักเป็นอย่างมาก ในบ่อนพนัน กับเรื่องของจงซานนี้ หลาย ๆ คนที่ได้ข้อมูลมาจากเหล่าเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ที่หลาย ๆ คนที่ยืนยันหนักหนักเกี่ยวกับฆาตกรคือกงจูเฉียนโหยว ทำให้คนไม่น้อยรู้สึกหวั่นไหวทีเดียว.

ในเวลานี้ในท้องพระโรง ที่ดูเหมือนเงียบงัน ไม่ต่างจากก่อนเก่า ทว่ากลับมีบรรยากาศที่หนักอึ้ง กำลังจะกดทับไปยังจงซานที่ออกมาปกป้องกงจูเฉียนโหยวเป็นอย่างมาก.

ในวันนี้ เหล่านักพนันต่างก็รอคอยอย่างใจจดจ่อ กับผลที่จะเกิดขึ้นในท้องพระโรง.

รวมทั้งเหล่าข้าราชบริพารที่หูผึ่งเฝ้ารออย่างใจจดจ่อเช่นกัน.

เหล่าข้าราชบริพารที่ตั้งแถวสองแถว แถวซ้าย ซึ่งมีราชครูหวนถูหลงอยู่หัวแถว ส่วนแถวขวา เหมือนก่อนหน้านี้มีอ๋องเจิ้งอี้และต้าเสวียนอ๋อง และถัดมาอีก 12 ตำแหน่งเป็นฉีเทียนโห่ว ถัดมาเป็นหม่าจูหรี.

และนอกจากเหล่าข้าราชบริพารทั้งสองแถว ในเวลานี้ ยังมีเหล่าเครือญาติตระกูลกู่ ที่รอคอยการพิพากษา ซึ่งแน่นอนว่ามีกุนซือฟ่านอี้พินเป็นหนึ่งที่แฝงอยู่ในนั้น.

ทุกคนต่างก็ยืนนิ่ง ไม่มีใครกล่าวสิ่งใดออกมา.

"ฝ่าบาทเสด็จ......."เสียงลากยาวแหลมเล็กของขันทีวังหลวง.

ที่ด้านหน้าของบัลลังก์เก้ามังกร ทันใดนั้นอากาศก็เกิดบิดเบี้ยว ชุดคลุมมังกรสีม่วง มงกุฎหยกสีขาว เซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวได้ปรากฏตัวขึ้นมาในทันที.

"ทรงเจริญหมื่นปี หมื่น ๆ ปี."

เหล่าข้าราชบริพารที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

เซิ่งซ่าง กู่เฉิงตงที่สะบัดแขนเสื้อ ปรากฏสายลมพัดเบา ๆ พัดผ่านออกไป ก่อนที่จะนั่งลงอย่างนุ่มนวล.

ที่ด้านนอกตำหนักไท่กู่นั้น ที่ด้านล่าง จงซานที่ถือกระบี่อาญาสิทธิ์ ยืนรอคอยอย่างใจเย็นให้เซิ่งซ่างเรียกตัว ทว่าด้านข้างของจงซานนั้น ยังมีคนอีกสองคน ทว่าสองคนนั้น จงซานไม่จำเป็นต้องไต่ถาม ก็พอจะรู้.

เสื้อคลุมของราชวงศ์ที่อลังการ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสูงศักดิ์ สายตาที่คมกริม กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่แผ่ออกไปรอบ ๆ  คนแรกที่แผ่กดดันที่ราวกับจะทำให้คนที่จิตใจอ่อนแอสิ้นสติได้ทุกเมื่อ พลังวิญญาณที่หนักหน่วงรุนแรง ไท่จื่อลำดับสามของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว กู่ไท่จง หรืออ๋องไท่จงนั่นเอง.

ส่วนอีกคน ที่สวมชุดเกราะนักรบ ใบหน้าที่มีเครื่องประดับเล็ก ๆ คล้ายกับของฉีเทียนโห่วประดับอยู่ มีปีกของหงสาเพลิงประดับอยู่ด้วย ใบหน้าที่อหังการ แววตาที่คมกล้าวที่พร้อมจะฉีกอากาศให้ขาดออกจากกัน แรงกดดันที่แผ่พลังวิญญาณแห่งความตายออกมา พลังอำนาจที่มากล้น ไท่จื่อลำดับสี่ของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว กู่จ้านเทียน หรืออ๋องจ้านเทียนนั่นเอง!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด