ตอนที่แล้วChapter 361 ฆาตกรที่รอบคอบ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 363 จงซานผู้ร้ายกาจ.

Chapter 362 แผนดี แผนกลาง แผนร้าย.


นครบรรพกาลสวรรค์ หลายวันมานี้ที่มีการโหมข่าวติดต่อกัน.

ภาพพจน์ของจงซาน ที่สร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ผู้คนเริ่มตั้งข้อสงสัย แม้ว่าจะสงสัยแต่พวกเขาก็ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดออกมา เรื่องของจงซานนั้นเป็นความจริงที่น่าอัศจรรย์ใจ ด้วยความสงสัยเรื่องต่าง ๆ  ทำให้จงซานเป็นที่จับตาและน่าสนใจเป็นอย่างมาก.

บางทีหลาย ๆ คนไม่ได้สนใจในเรื่องตำนานของเขา ทว่ามันกับเป็นเรื่องที่น่าสนุกสานในการพูดคุยหลังอาหาร หลายคนที่ฟังแล้วยิ้มได้ กับความกล้าของเขานั้น ทำให้คนจำนวนไม่น้อยชื่นชมในตัวจงซาน คนผู้นี้เป็นคนเช่นไร? นับว่าเป็นเทพสวรรค์เลยไม่ใช่รึ?

จงซานที่กลายเป็นดวงตะวันที่เฉิดฉายในหมู่ของประชาชน ทุกคนที่ยกเรื่องของเขามาพูดไม่หยุด ต่างก็เผยเรื่องราวออกไปด้วยความตื่นเต้น เรื่องราวของเขาจึงแพร่กระจายออกไปราวกับน้ำหลาก จะไม่ให้เขากลายเป็นตำนานได้อย่างไร.

และเช่นเดียวกัน เกี่ยวกับเรื่องของกงจูเฉียนโหยวที่สังหารน้องสาว คนมากมายที่เลิกโกรธเกรี้ยวสาปแช่งนางไปแล้ว ตอนนี้ทุกคนต่างก็รอคอยบทสรุป ว่าสุดท้ายแล้วผลจะเป็นเช่นใด.

จงซานที่ออกมาสืบสวนเรื่องนี้ จะสามารถค้นหาฆาตกรที่แท้จริงได้หรือไม่?

ภายในนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นั้น ถึงกับนำเรื่องนี้ออกมาเดิมพันในโรงพนันทีเดียว ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร?

ไม่ว่าเรื่องราวจะจบลงเช่นไร สายตาของทุกคนเวลานี้ก็ได้จับจ้องมายังจงซานและกงจูเฉียนโหยวแล้ว.

ตำหนักกงจูเฉียนโหยว! ภายในห้องโถง.

จงซานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกงจูเฉียนโหยว พลางมองข้อมูลต่าง ๆ ในเมือง กงจูเฉียนโหยวเองก็คอยเสิร์ฟน้ำชา ราวกับว่าเป็นศรีภรรยาที่ดูแลสามี.

เห็นท่าทางจงซานที่ขมวดคิ้วไปมา กงจูเฉียนโหยวที่เผลอยิ้มด้วยความหลงใหล

"อืม เอิ่ม.....!"จงซานที่ถอนหายใจออกมาอีกหลายครั้ง.

"อย่างไรรึ?"กงจูเฉียนโหยวสอบถาม.

"สิบวันมานี้ ข้าได้สอบถามทุกคนที่ต้องสงสัยและทดสอบหมดแล้ว พร้อมกับตรวจสอบร่องรอยที่เหลือ ตรวจสอบดีแล้ว ไม่ใช่พวกเขา."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"เป็นฆาตกรจากภายนอกอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวสอบถาม.

"ภายนอกรึ? ก็อาจเป็นไปได้ ทว่ามีคนหนึ่งคน ที่ข้าสงสัยที่สุด."จงซานเอ่ย.

"ใครรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ชำเลืองมองไปยังจงซาน.

"ฉีเทียนโห่ว!"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ฉีเทียนโห่ว? เขา? มีหลักฐานอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวชำเลืองมองไปยังจงซาน.

"ไม่ ยังมีมีหลักฐานเลย."จงซานถอนหายใจ.

"ทำไมถึงคิดว่าเป็นเขาอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ตามความรู้สึก ก่อนหน้านี้ ฉีเทียนโห่วได้มาข่มขู่ข้าสองครั้ง ครั้งหนึ่งที่ตำหนักไท่กู่ อีกครั้ง ที่ห้องไว้ทุกข์หยิงหนิง เขาข่มขู่พร้อมกับขัดขวางหลายอย่าง"จงซานกล่าว.

"ฉีเทียนโห่วและหยิงหนิงที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก บางทีอาจดูหวงแหนมากด้วยซ้ำ นอกจากนี้ยังแสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก ในท้องพระโรง เขายังประกาศว่าจะล้างแค้นให้กับหยิงหนิงด้วยซ้ำ ทั้งหมดนี้เป็นการเสแสร้งอย่างงั้นรึ?."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวชิงชัง ทุกอย่างที่เขาทำนี้ หรือว่าเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แต่งขึ้นรึ?"ดวงตาของกงจูเฉียนโหยวที่ชำเลืองมอง.

"อืม ในวันนั้นที่ห้องไว้ทุกข์ ฉีเทียนโห่วที่เผากระดาษเงินกระดาษทองให้กับหยิงหนิง ข้าที่เข้าไป ไม่คิดเลยว่าจะพบเขา? ดูเหมือนว่าเขาจะแสดงความเสียใจไม่น้อย ก่อนหน้านี้ข้าได้สอบถาม ได้ยินมาว่าฉีเทียนโห่วนั้นมาเผากระดาษเงินกระดาษทองทุกวัน หลังจากที่หยิงหนิงตาย ไม่ตกหล่นเลยแม้แต่น้อย ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ?เขากำลังคิดถึงหยิงหนิงอย่างงั้นรึ ทว่าคนอย่างฉีเทียนโห่ว หลายปีมานี้ที่ข้าเห็น แม้ว่าจะไม่ใช่คนที่เย็นชา ทว่าก็ไม่เคยสนใจเกี่ยวดองกับเครือญาติแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขารู้ว่าตัวเองคือเฉินฉีเทียนกลับชาติมาเกิด นับว่าเป็นคนที่ใจดำไม่เห็นหัวใครคนอื่นด้วยซ้ำ เป็นไปได้ด้วยหรือว่าเขาจะเผากระดาษเงินให้กับคนที่ตายไปแล้วทุก ๆ วัน?"จงซานที่ถูนวดขมับสีมือไปมาบนผมไปมาขณะพูด.

เห็นจงซานที่ถูขมับลูบผมไปมา กงจูเฉียนโหยวที่ลุกขึ้นในทันที ก่อนที่จะเดินไปด้านหลังจงซาน เอาท้องของตัวเองเข้าไปให้จงซานสีศีรษะไปมาพร้อมกับนวดไปที่ไหล่.

กงจูที่สามารถเห็นได้ว่า เพราะคดีของนาง จงซานถึงกับต้องอดตาหลับขับตานอน ไม่ยอมพักผ่อนเลย ดังนั้นแม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย แม้ว่าจะช่วยอะไรไม่ได้มาก นางก็ต้องการที่จะทำเพื่อเขาบ้าง.

จงซานที่ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด รู้สึกพึงพอใจกับร่างที่นุ่มนวลของกงจูเฉียนโหยว หลับตาพริ้ม ยอมให้นางนวดไปมาที่ไหล่ของเขา.

"เจ้าสงสัยว่าด้วยความผิดที่มีต่อหยิงหนิง ภายในใจของเขาจึงได้กระทำ พร้อมกับมาเผากระดาษเงินกระดาษทองทุกวันอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ราวกับเข้าใจเรื่องที่จงซานคิดได้.

"ถูกแล้ว ทว่ามันเป็นแค่การคาดเดา ไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อย ไม่มีอะไรบ่งชี้ตัวฆาตกรแม้แต่น้อย ไม่มีหลักฐานที่จะนำมาพิสูจน์ ทุกอย่างถูกทำลายไปหมด จึงไม่มีอะไรให้ค้นหาต่อได้เลย."จงซานที่ถอนหายใจ.

"ทำไมถึงได้สงสัยเขาล่ะ? หรือเพราะว่ามีความแค้นส่วนตัวหรือไม่?"กงจูเฉียนโหยว.

"ความแค้นส่วนตัวรึ? มีแน่นอน ทว่าไม่ใช่เรื่องที่ข้าจะนำมาคิด เรื่องที่ข้าต้องคาดเดาว่าเป็นเขา ก่อนหน้านี้สีหน้าแววตาของหยิงหนิงก่อนตาย เจ้าเองก็บอกว่านางหันหน้าไปมองยังทิศของลูกศร ใบหน้าไม่อยากเชื่อ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ปกติ นางคงไม่คาดคิดว่ามันจะเป็นไปได้ สีหน้าที่หวาดกลัว ไม่อยากเชื่อว่านางจะถูกสังหาร เป็นไปได้ว่าฆาตกรนั้นจะเป็นคนที่นางไว้ใจ คนที่ไว้ใจที่สุดได้สังหารนาง เหมือนกับทุกคนเองก็ไม่อยากเชื่อเช่นกันว่าจวินจูจะถูกสังหาร หยิงหนิงเชื่อใจใครมากที่สุดล่ะ? ฉีเทียนโห่ว! ทว่าฉีเทียนโห่วที่อุ้มศพของนางในครั้งนั้น เขาก็ได้ทำการปกปิดสีหน้าท่าทางของนางไป! นี่ไม่ใช่ว่าเขาได้ทำลายหลักฐานไปหรอกรึ?"จงซานที่สูดหายใจลึก.

"หากเป็นผู้ฝึกตนคนอื่นที่ไม่ใช่ฉีเทียนโห่วลอบเข้าไปตำหนักของจวินจู ก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ เช่นกัน."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อืม ไม่ว่าอย่างไรหลักฐานที่ควรจะนำมาสืบเองก็ถูกทำลายไปหมดแล้ว ไม่เหลืออะไรให้พวกเราสืบต่อได้เลย!"จงซานที่ถอนหายใจ.

"เซียนเซิง กงจู เซียนเซิงสุ่ยจิงขอเข้าพบ!"อาต้าที่นอกตำหนักที่เอยออกมาทันที.

สุ่ยจิง?จงซานที่เบิกตากว้าง กงจูเฉียนโหยวที่หยุดนวด.

"เชิญเข้ามา!"จงซานเอ่ย.

"ครับ!"ที่ด้านนอกอาต้าที่เอ่ยออกมาในทันที.

จงซานและเฉียนโหยวจ้องมองหน้ากันและกัน ก่อนที่จะออกไปต้อนรับ.

จากนั้นไม่นานสุ่ยจิงในชุดบัณฑิต ถือพัดเดินเข้ามา.

"สุ่ยจิงคารวะกงจูเฉียนโหยว คารวะตงฟางโห่ว!"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เซียนเซิงสุ่ยจิง กลับมาเมื่อไหร่อย่างงั้นรึ? ข้าเองก็ต้องการพบท่านอยู่เหมือนกัน!"จงซานเอ่ย.

กงจูเฉียนโหยวทำได้แค่ยิ้ม ไม่ได้กล่าวสิ่งใด นางที่ปล่อยให้จงซานเป็นคนนำกล่าวต้อนรับนั่นเอง.

สุ่ยจิงที่จ้องมองคนทั้งสอง ดูด้วยสายตาแล้วเข้าใจได้ทุกอย่าง ทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา กงจูเฉียนโหยวที่ยิ้มบาง ๆ ให้.

"ตงฟางโห่วซ่อนความจริงจากข้าทำให้ข้าเจ็บปวดใจยิ่งนัก!"สุ่ยจิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"หืม?"จงซานที่แสดงท่าทางสงสัย.

"แผนการสวรรค์ล่มนั้น ข้าเพิ่งรับรู้เมื่อวานนี้เอง แท้จริงแล้วแผนการสวรรค์ล่มที่ทำลายราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีจะเป็นแผนของตงฟางโห่ว ข้ารับรู้ได้แค่เพียงว่าทำไมต้าเสวียนอ๋องอ๋องถึงได้มอบหมายให้ท่านเป็นผู้นำทัพใหญ่ ไม่คิดเลยว่าแท้จริงเป็นเพราะเรื่องนี้นั่นเอง."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เฮ้เอ้ เซียนเซิงสุ่ยจิงยกย่องเกินไปแล้ว มันเป็นเพียงแค่วิธีการเล็กน้อย เพียงแต่ผลออกมาดีเท่านั้น ทว่าในเวลานั้น ในสนามรบต้ากวง ไม่ใช่ว่าแผนการของเซียนเซิงสุ่ยจิงที่ต่อสู้ได้อย่างโดดเด่นหรอกรึ? สามเดือนยึดครองได้ 20 เมือง อีกทั้งการยึดเมืองจีกวงนั้น ก็เป็นเพราะเซียนเซิงสุ่ยจิงด้วยซ้ำ."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เฮ้เฮ้ ยังเทียบกับตงฟางโห่วได้เหรอ กับสิ่งที่ข้าทำนั้น มันยังไม่เพียงพอให้นับว่าสำเร็จด้วยซ้ำ."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ไม่รู้ว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงเดินทางมาเยี่ยมในทันทีทันใดเช่นนี้ มีเรื่องอะไรสำคัญอย่างงั้นรึ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม ต้องไม่ลืมว่าทั้งคู่ต่างก็เป็นคนที่มีเชาว์ปัญญาที่ล้ำเลิศ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพียงแค่คำพูดและการกระทำไม่กี่คำราวกับว่าจะรับรู้ความตั้งใจของอีกคนได้.

ได้ยินคำพูดของจงซาน ใบหน้าของเซียนเซิงสุ่ยจิงที่เปลี่ยนเป็นสุขุม "เมื่อวานที่ข้ากลับมา ข้าได้ยินเรื่องของหยิงหนิงแล้ว สุ่ยจิงที่ได้แต่ทอดถอนใจ และยังเชื่อว่ากงจูนั้นไม่มีทางฆาตกรรมน้องสาวตัวเองอย่างแน่นอน."

"อืม ขอบคุณมาก!"กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้าด้วยความซาบซึ้งใจ.

"เฮ้เฮ้ ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะกงจูหรอกเหรอที่ช่วยสุ่ยจริงครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อให้ได้พบกับนางอีกครั้ง."สุ่ยจิงที่กล่าวออกมาทันที กำกวมยากที่จะเข้าใจ.

นาง? ใคร จงซานและกงจูเฉียนโหยวที่คิดขึ้นมาได้ในทันที หวังเฟย สนมเก้าของต้าเสวียนอ๋อง เซียนเซิงสุ่ยจิงที่แอบรักหญิงสาวผู้นี้ ดูเหมือนว่าที่เขากล่าว ดูเหมือนจะเป็นเหตุการณ์โคมไฟคงหมิง กงจูเฉียนโหยวที่เชิญเซียนเซิงสุ่ยจิงและนางมา นับว่าทำให้คนทั้งสองได้พบกันและได้ปล่อยโคมไฟคงหมิงด้วยกัน.

"สุ่ยจิงขอบคุณกงจู ส่วนเกี่ยวกับคดีของหยิงหนิงนั้น แม้ว่าสุ่ยจิงจะไม่รู้อะไรมากนัก ทว่าสุ่ยจิงก็พอจะมีข้อมูลอะไรบางอย่าง บางทีอาจเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของตงฟางโห่ว ดังนั้นจึงได้เร่งรีบมาหา หวังว่าคงจะไม่ได้มารบกวนพวกท่าน."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? เซียนเซิงสุ่ยจิงที่คิดถึงพวกเรา พวกเราก็รู้สึกขอบคุณแล้ว ไม่คิดว่ารบกวนเลย ทว่าไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรอย่างงั้นรึ?ถึงได้ทำให้เซียนเซิงสุ่ยจิงจริงจังเช่นนี้?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาสอบถาม.

"ยังจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนเมื่อครั้งสอบเคอจี ขณะที่ท่านเดินทางกลับมา ฉีเทียนโห่วที่ทำการเสกสะพานบุปผาเต็มท้องฟ้าเพื่อต้อนรับกงจูได้หรือไม่?"เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"อืม."ทั้งสองคนที่พยักหน้ารับ.

"ก่อนหน้านี้ฉีเทียนโห่วเคยบอกกับข้าครั้งหนึ่ง เขามีแผนการที่จะพิชิตใจกงจู และมีการเตรียมแผนการ ดี กลาง ร้าย สามแผนด้วยกัน!"เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"ดี กลาง ร้าย สามแผนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แผนการดีคือโจมตีที่หัวใจ กลางคือการโจมตีที่ร่างกายและแผนการร้าย คือโจมตีด้วยอาชญากรรม!"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่กล่าว.

"แผนการดีโจมตีที่หัวใจอย่างงั้นรึ? แผนการกลางโจมตีที่ร่างกาย? แผนการร้ายโจมตีด้วยอาชญากรรม? แฮก ๆ  ๆ "จงซานที่สูดหายใจลึก.

แผนการดีคือจู่โจมที่หัวใจอย่างงั้นรึ?

ด้วยการสร้างความประทับใจโดยเสกดอกไม้มากมายเต็มท้องฟ้าอย่างงั้นรึ? บางที่หากว่าเป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่กงจูเฉียนโหยวคงจะสำเร็จเรียบร้อยแล้ว ในเมื่อแผนการดังกล่าวนั่นไม่ได้ผล เขาจึงได้ใช้แผนการกลาง.

แผนการกลางจู่โจมที่ร่างกาย?

ที่หุบเขาหมื่นวานร เขาได้บังคับกงจูเฉียนโหยวด้วยความตายของจงซาน นอกจากนี้ยังวางยากงจูเฉียนโหยวก่อนด้วย นั่นเพราะหมายร่างกายของเฉียนโหยว ยึดร่างกายก่อนยึดหัวใจ? ทว่ากลับล้มเหลว! ด้วยเจ้าตำหนักเทพกระบี่ เจี้ยนหงที่ปรากฏตัวขึ้น?

แผนการร้ายโจมตีด้วยอาชญากรรม?

ตอนนี้เฉียนโหยวที่ถูกป้ายความผิดให้แล้ว ทว่าเกี่ยวกับโทษที่นางจะได้รับนั้น ด้วยสถานะของนางไม่ถึงตายแน่นอน ทว่านางจะต้องถูกยึดคืนตำแหน่งกงจู และถูกเนรเทศ ในเวลานั้น ฉีเทียนโห่วก็จะก้าวเข้ามา นำกงจูเฉียนโหยวกลับมายังสถานการณ์ก่อนหน้า เพราะว่าในอดีตนั้น กู่หลินและกู่เฉียนโหยวเป็นคู่หมั้นหมายกันอยู่แล้ว เพียงเพราะว่านางได้รับสถานะเป็นกงจูจึงสามารถที่จะทำลายพันธะหมั้นหมายนั่นไป หากว่านางไม่มีตำแหน่งกงจูแล้ว เช่นนั้นฉีเทียนโห่วก็สามารถทำให้นางกลับมาเป็นคู่หมั้นเหมือนเช่นเดิมได้?

"เป็นความคิดที่โหดเหี้ยม ใจร้ายใจดำที่สุด!"กงจูเฉียนโหยวที่สูดหายใจลึก.

"ทว่านี่เป็นเพียงแค่เพียงสิ่งที่พวกเรารับรู้เท่านั้น หากไม่มีหลักฐานใดก็ยากที่จะเอาผิดฉีเทียนโห่วได้."จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด