ตอนที่แล้วChapter 357 จงซานที่จำต้องสังหารอย่างช่วยไม่ได้.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 359 สืบสวน.

Chapter 358 ใช้คุณความดีรับประกัน มอบกระบี่อาญาสิทธิ์.


ใช้คุณความดีรับประกัน มอบกระบี่อาญาสิทธิ์.

"เจ้า เจ้า โอหังเกินไปแล้ว!"ใบหน้าของหม่าจูหรีที่เปลี่ยนสีแดง จ้องมองเขม็งออกมา.

เหล่าขุนนางที่จ้องมองการโต้เถียงของคนทั้งสอง ตอนนี้ดูเหมือนว่าจงซานนับว่าเป็นคนที่ไม่กลัวกฎหมายและกล่าวอย่างไม่อายฟ้าดินอีกด้วย กล้าพูดจาเหิมเกริมในท้องพระโรง ถึงกับกล้าทำผิดกฎหมายของราชวงศ์สวรรค์เลยรึ? ไม่ต้องการมีชีวิตอยู่แล้วรึ?

อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีขุนนางอีกฝั่งหนึ่งที่แสดงท่าทางสนใจ ดูเหมือนว่าคุณงามความดีของจงซานก่อนหน้านี้ ไม่เพียงแต่หายไปหมด หนำซ้ำยังต้องได้รับโทษด้วยอย่างงั้นรึ?

"ข้าสามหาวอย่างไร?รอให้ข้าทูลฝ่าบาทจบก่อนเจ้าค่อยพูดอีกครั้ง!"จงซานที่จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังหม่าจูหรี.

จงซานที่หันหน้ากับมาจ้องมองไปยังกู่เฉินตงด้วยความสุขุมใจเย็น "เรียนฝ่าบาท ด้วยแผนการสวรรค์ล่มนั้น เฉินได้รับศิลาวิญญาณระดับสูง 500 ล้านมาใช้ในการดำเนินงานแผนการสวรรค์ล่มเพื่อให้ประสบผลสำเร็จ ด้วยความเอื้อเฟื้อของฝ่าบาทได้ให้ยืมศิลาวิญญาณระดับสูงถึง 6 ร้อยล้าน และร้องขอให้ส่งคืนในจำนวนเงิน 1500 ล้านศิลาวิญญาณระดับสูง หลังจากการสู้รบกับราชวงศ์ราชันย์ต้าวีนั้นได้เงินกลับมาหลายหลายหมื่นล้าน ทว่าด้วยการใช้จ่ายในแผนการสวรรค์ล่ม ดังนั้นจึงเหลือแค่เพียง 1600 ล้านศิลาวิญญาณระดับสูง เฉินได้นำเงินจำนวน 100 ล้านเพื่อนำมาใช้ในค่ายใช้จ่ายทางการทหาร ยังคงเหลือ 1500 ล้าน ที่คุ้มกันกลับมาส่งยังทางการซึ่งได้บรรจุอยู่ในกำไลเก็บของหลายวงและยังมีองค์รักษ์คุ้มกันอย่างแน่นหนา เพื่อนำเงินเหล่านี้กลับมายังเมืองหลวง จงซานไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย และยังเต็มไปด้วยความระมัดระวัง หวั่นเกรงว่าจะมาไม่ถึงเมืองหลวง ในวันนั้นใต้เท้าหม่านำคนจำนวนมากบุกเข้ามา พุ่งตรงมายังกองทัพของพวกเรา ในเวลานั้นไม่เพียงแต่ไม่แสดงสถานะของตนเอง กลุ่มคนดังกล่าวยังมุ่งตรงไปยังกลุ่มองค์รักษ์ที่ขนย้ายศิลาวิญญาณระดับสูง เฉินด้วยหวั่นเกรงว่าสมบัติของทางการจะได้รับความเสียหาย เพื่อป้องกันรักษาศิลาวิญญาณให้ปลอดภัย จึงได้สั่งการ ใครกล้ารุกล้ำเข้ามาในกองทัพจะต้องสังหารโดยไร้ปราณี."

500 ล้านรึ? 600 ล้านอย่างงั้นรึ?หมื่นล้าน? 1600 ล้านอย่างงั้นรึ? เหล่าขุนนางที่ได้ฟัง ถึงกับสูดหายใจลึก แม้นทำงานอีกพันปียังไม่รู้ว่าจะได้เห็นเงินจำนวนนี้หรือไม่ ทว่ากับคำพูดของจงซาน คาดไม่ถึงเลยว่าเขาได้ใช้เงินจำนวนมากมายถึงขนาดนั้น ไม่สงสัยเลยว่าเขาเต็มไปด้วยความร้อนใจ ไม่แปลกใจจะคิดว่าหม่าจูหรีต้องการเข้าปล้นชิง.

"เจ้าใส่ร้ายข้า ข้าจะไปปล้นศิลาวิญญาณตั้งแต่เมื่อไหร่?"ใบหน้าของหม่าจูหรีที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

"ทิศทางที่พวกท่านพุ่งมานั้น เป็นตำแหน่งของศิลาวิญญาณ จงซานต้องการปกป้องผลประโยชน์ของอาณาจักร แน่นอนว่าจะต้องสังหารทุกคนที่รุกล้ำเข้ามา นี่เป็นเพียงแค่การสั่งสอนเล็กน้อยเท่านั้น ใต้เท้าหม่านอกจากไม่สำนึกบุญคุณ! คาดไม่ถึงเลยว่าจะหาว่าข้าเป็นอาชญากรเลยรึ?"จงซานที่ชำเลืองมองออกไป.

"ข้าเป็นขุนนางที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง จะไปทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไร?"หม่าจูหรีที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

หม่าจูหรีที่ยังคงหาเรื่องจงซาน เขาพยายามที่จะเปลี่ยนหัวข้อ ไม่ยกเรื่องของศิลาวิญญาณมาพูด กล่าวถึงเรื่องที่อาต้าขัดขืนการจับกุม ส่วนหม่าจูหรีที่ลงมือจัดการ! พุ่งเข้าไปเพื่อจับกุม แต่ไม่พูดถึงเรื่องศิลาวิญญาณ.

"เพราะว่าเป็นเจ้าหน้าที่ทางการ หากว่ากระทำการอะไรที่เกี่ยวข้องกับศิลาวิญญาณ เรื่องจะน่าหวั่นเกรงยิ่งกว่านี้ เรื่องจะยิ่งหนักหนายิ่งกว่านี้มาก กับคนที่บุกรุกเข้ามาในเขตแดนหวงห้าม แน่นอนว่าจงซานย่อมต้องสังหารอย่างช่วยไม่ได้ เรื่องนี้ไม่สามารถโทษข้าได้!"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังหม่าจูหรีด้วยความเย็นชา.

หม่าจูหรีรู้สึกอับจนหนทาง! ไม่มีคำใดมาโต้เถียงได้เลย.

กับเรื่องที่กล่าวหาว่าจงซานเป็นอาชญากร ต้องการสังหารเจ้าหน้าที่ทางการนั้นไม่สามารถที่จะหยิบเอามาใช้ได้เลย.

"หม่าจูหรีกลับไปยังที่ของเจ้า!"เซิ่งซ่างที่เอ่ยออกมา.

"รับด้วยเกล้า!"หม่าจูหรีที่กลับไป ยังที่ของตัวเองทันที.

"1500 ล้านศิลาวิญญาณระดับสูงอย่างงั้นรึ? ดี!"กู่เฉิงตงพยักหน้า.

"เรียนฝ่าบาท!เฉินมีเรื่องที่จะกล่าว!"จงซานที่กล่าวออกไปด้านหน้า.

"กล่าวมา!"กู่เฉิงตงเอ่ย.

"เฉินต้องการใช้คุณงามความดี เป็นหลักประกันกับฝ่าบาท เพื่อขอโอกาสที่จะพูดแทนคนตายและแก้ไขเรื่องราวของคนเป็น?"

"หืม?"กู่เฉิงตงที่จ้องมองไปยังจงซาน.

เหล่าขุนนางข้าราชบริพาร ต่างก็จ้องมองหน้ากันและกันและจ้องมองไปยังจงซาน เป็นหลักประกันกับฝ่าบาท? เพื่อพูดแทนคนตาย และแก้ไขคนเป็นอย่างงั้นรึ?

"เรียนฝ่าบาท เฉินเพิ่งกลับมา เพิ่งได้ยินข่าว ว่าจวินจูหยิงหนิงโชคร้ายถูกฆาตกรรม เฉินรู้สึกเป็นทุกข์เป็นอย่างยิ่ง ที่คมหอกทั้งหมดถูกชี้มายังกงจูเฉียนโหยว หลักฐานและพยานเองก็เพียบพร้อมจนสมบูรณ์ จนไม่อาจโต้แย้งได้ ทว่าเฉินนั้นตระหนักได้ถึงนิสัยใจคอของกงจูได้เป็นอย่างดี ฝ่าบาทเองก็ตระหนักได้ด้วยเช่นกัน กงจูไม่มีทางกระทำเรื่องเช่นนี้แน่นอน ทว่าข้อเท็จจริงนั้นมันได้เกิดขึ้นแล้ว อีกทั้งยังกลายเป็นว่าทุกคนเชื่อเรื่องนี้กันทั้งหมด กงจูไม่มีสิทธิ์โต้แย้งเลยแม้แต่น้อย กงจูถูกคุมขัง รอการลงโทษในเร็ว ๆ นี้ ทว่า ความจริงเป็นเช่นนั้นรึ? บางครั้ง ข้าเองยังคิดว่ามันบังเอิญจนเกินไป สำหรับจงซานนั้น ปรารถนาที่จะใช้คุณงามความดีที่ได้รับ รับประกันกงจู ขอให้ฝ่าบาทให้อนุญาตให้เฉินได้มีโอกาสสืบสวนความจริง เพื่อหาโอกาสพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของกงจูเฉียนโหยว และหาตัวฆาตกรที่แท้จริงต่อไป."จงซานกล่าว.

กับคำพูดของจงซานเหล่าขุนนางส่งเสียงดังอื้ออึงขึ้นมาในทันที เรื่องของกงจูเฉียนโหยวนั้น ถูกทำให้กลายเป็นความลับ ไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมา ด้วยเกรงว่าจะกระตุ้นความโกรธเกรี้ยวของฝ่าบาท ยิ่งการสังหารคนในตระกูลราชวงศ์เดียวกันนั้น ยิ่งไม่มีใครกล้าเอ่ย.

จงซานที่ต้องการใช้คุณงามความดีของตัวเองเป็นหลักประกัน เพื่อขอโอกาสในการสืบสวนเรื่องนี้เพียงเท่านั้นอย่างงั้นรึ?

ฉีเทียนโห่วที่อยู่ข้าง ๆ ตาลุกวาว ต้าเสวียนอ๋องที่ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย ส่วนอ๋องเจิ้งอี้ที่ยังคงนิ่งเหมือนเดิม.

"มันคุ้มค่าอย่างงั้นรึ?"กู่เฉิงตงที่กล่าวออกมาเบา ๆ .

"บุญคุณของกงจูนั้น เฉินไม่เคยลืม ก่อนหน้านี้อ๋องจวีลู่พร้อมกองกำลังต้ายวีที่ไล่ตาม เพื่อช่วยจงซานแล้ว กงจูไม่รีรอที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ หากไม่มีกงจูในวันนั้น เป็นไปไม่ได้ที่จะมีจงซานในวันนี้เช่นกัน."จงซานที่กล่าวตอบออกมา.

แม้ว่าจะกล่าวตอบด้วยเหตุผลที่ราบเรียบ ทว่าก็สามารถมองเห็นความตั้งใจของจงซานได้.

เหล่าขุนนางที่จ้องมองไปยังฝ่าบาทพร้อม ๆ กัน เพราะว่าก่อนหน้านี้ มีคนหนึ่งที่เอ่ยออกมา ทำให้เซิ่งซ่างโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก จากนั้น ก็ไม่มีใครกล้ากล่าวเรื่องนี้อีกครั้ง.

ทุกคนต่างก็รอดูท่าที่ของฝ่าบาท.

จงซานจ้องมองไปยังฝ่าบาท ฉีเทียนโห่วจ้องมองไปยังฝ่าบาท หวนถูหลงที่จ้องมองไปยังฝ่าบาท ไท่จื่อทั้งสองก็มองไปที่ฝ่าบาทเช่นกัน.

"ได้! ข้าจะให้โอกาสเจ้า โดยใช้คุณงามความดีของเจ้าเป็นหลักประกัน หนึ่งเดือน ข้าจะมอบกระบี่อาญาศิษย์แก่เจ้า ให้เป็นทูตพิเศษแทนตัวข้า ร่วมมือกับกระทรวงยุติธรรม สืบสวนเรื่องนี้ หนึ่งเดือนหลังจากนี้ ในตำหนักไท่กู่ เจ้าต้องมอบคำตอบให้กับข้า ให้คำตอบต่อสวรรค์!"เหนือหัวที่ยังคงมีท่าที่ปกติ.

"ขอบพระทัยฝ่าบาท!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

"ทรงเจริญหมื่นปีนับหมื่นปี!"เหล่าข้าราชบริพารที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพในทันที.

แม้ว่ากู่เฉิงตงเพียงแค่ออกคำสั่งเท่านั้น ก็สามารถที่ล้มล้างคำสั่งทุกอย่างก่อนหน้านี้ได้ ดังนั้นกับเหตุการณ์ที่ดูตึงเครียดนี้ สร้างความตื่นตะลึงไม่น้อย ทว่าทุกคนก็จำเป็นต้องรับฟังด้วยความเคารพ.

ในเวลาเดียวกัน ขันทีคนหนึ่งที่นำกล่องหยกออกมา ที่ด้านในนั้นมีกระบี่สีม่วงวางอยู่ ก่อนที่จะยื่นให้กับจงซาน กระบี่ยาวที่ดูประณีต ดูหรูหราเป็นอย่างมาก ด้ามกระบี่ที่มีลวดลายที่ดูอลังการเป็นอย่างมาก.

กระบี่อาญาสิทธิ์ กระบี่ของเซิ่งซ่าง! ของวิเศษระดับเก้า!

จงซานที่รับมาด้วยความเคารพ! ทว่าจงซานสามารถรับรู้ได้ถึงอำนาจ รับรู้ว่านี่คือสัญลักษณ์แทนพระองค์ ทูตพิเศษของฝ่าบาท! ในนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์นี้ ยกเว้นตำหนักของฝ่าบาท ทุกหนแห่ง เขาสามารถผ่านไปได้ทั้งหมด!

"เลิกประชุม!"เซิ่งซ่างกล่าว.

"เลิกประชุมมมมมมมม" เสียงแหลมยาวของขันทีที่ดังขึ้น.

"ทรงเจริญหมื่นปีนับหมื่น ๆ ปี!"เหล่าข้าราชบริพารที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.

เซิ่งซ่างลุกขึ้น ก่อนที่จะหายตัวไปในทันที.

ในเวลานี้เหล่าขุนนางต่างก็จากกันไปแล้ว เดินทางออกจากตำหนักไท่กู่ ไม่มีใครสักคนต้องการที่จะพูดคุยกับจงซาน ไท่จื่อทั้งคู่เองก็จากไปแล้ว หวนถูหลงเองก็ด้วย ทุกคนต่างจากไปหมดแล้ว ท้ายที่สุดฉีเทียนโห่วที่รอคอยถึงที่สุดก็ก้าวเข้ามา.

"จงซาน!"ฉีเทียนโห่วที่ชำเลืองมองจงซานตาขวาง.

"ฉีเทียนโห่ว? มีอะไรจะชี้แนะอย่างงั้นรึ?”

"ข้ารู้นะว่าเจ้าต้องการที่จะล้างความผิดให้เฉียนโหยว แต่เฉียนโหยวสังหารน้องสาวของข้า เป็นเรื่องที่หนักหนาไม่สามารถยอมความกันได้! ทางที่ดีน้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือมาขวางดีกว่า ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าไม่เตือน!"ฉีเทียนโหยวที่ชำเลืองมองไปยังจงซาน.

จงซานที่ยกกระบี่อาญาสิทธิ์ขึ้นก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า "ฉีเทียนโห่ว เจ้ากล้าข่มขู่ข้าเหรอ ไม่คิดว่าจะมีคนออกมาข่มขู่ข้าแล้ว ทว่า เจ้าควรจะจำเอาไว้ ข้าได้รับการมอบหมายจากเซิ่งซ่าง เป็นทูตพิเศษองฝ่าบาท เจ้าควรจะเงียบปากไปดีกว่า ทุกคำพูดของเจ้านั้น จะถูกบันทึกเอาไว้ทั้งหมด ในวันข้างหน้าอาจจะกลายเป็นหลักฐานที่ใช้ในคดีก็ได้!"

"เจ้า...."ฉีเทียนโห่วที่ชำเลืองมองตาโต.

"ชิ!"จงซานไม่สนใจฉีเทียนโห่ว ก่อนที่จะหันหน้าเดินทางออกนอกตำหนักไท่กู่.

ฉีเทียนโห่วที่โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากเช่นกัน ทว่า เห็นจงซานที่ก้าวออกจากห้องโถงไท่กู่ไป ที่มุมปากเผยยิ้มที่เหยียดหยันออกมา.

หลังจากที่ลงมาจากภูเขาไท่กู่ ที่กำแพงด้านนอก จื่อเห่าหลางเจียงที่รอคอยอย่างอดทน.

"จอมพล!"จื่อเห่าหลางเจียงออกมา.

"รับนี้ไป นับจากนี้ เจ้าอยู่ข้างกายข้า ใครกล้าบุกเข้ามา หรือลอบสังหารข้า ใช้กระบี่อาญาสิทธิ์ นี้สังหารโดยไม่ปราณี."จงซานที่ยื่นกระบี่อาญาศิษย์ให้กับจื่อเห่า.

"ครับ!"จื่อเห่าที่รับมา ใบหน้าที่เต็มไปด้วยท่าทางอย่างรู้อยากเห็นในตัวกระบี่อาญาสิทธิ์เป็นอย่างมาก.

กระบี่อาญาสิทธิ์ ของวิเศษระดับเก้า! จื่อเห่าที่รับของวิเศษระดับสูงนี้มา ย่อมเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเป็นธรรมดา.

"เอาล่ะ ไปยังตำหนักของกงจู!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"จื่อเห่ารับคำ.

จากนี้ คนทั้งสองก็บินตรงไปยังตำหนักของกงจูเฉียนโหยว.

ในเวลาเดียวกัน บนร้านอาหาร ทุกแห่งต่างก็พูดคุยเรื่องเดียวกัน.

ตงฟางโห่วจงซาน แน่นอนนามนี้ถูกแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ถูกสลักลงในใจของทุกคนอีกครั้งแล้ว.

จวอหงวนของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวรึ? พวกเขารับรู้เรื่องนี้ไม่ได้มากมายนัก รับรู้เพียงแค่ว่ามีทัพ ๆ หนึ่งที่เดินทางกลับจากแนวหน้าเพื่อมาจับโจร ไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ ส่วนมากมีแต่หัวเราะเยาะ.

ทว่าในเวลานี้จงซาน ที่ถูกจดจำเอาไว้ไม่ลืม กลายเป็นบุคคลในตำนาน ไม่เพียงแต่เป็นแม่ทัพที่เก่งกาจ ยังกลายเป็นตำนานที่ยิ่งใหญ่อีกด้วย.

ด้วยเชาว์ปัญญา สามารถทำลายล้าง ราชวงศ์ราชันย์ขนาดใหญ่สองแห่ง? เรื่องนี้ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยไม่ใช่รึ?

อีกเรื่องหนึ่ง ยังมีบทความ ที่ก่อให้เกิดทัณฑ์สวรรค์ บทความที่แม้แต่สวรรค์ยังไม่ต้องการให้มีอยู่? เป็นไปไม่ได้.

ผู้ส่งเงินกลับวังหลวง 1500 ล้านศิลาวิญญาณระดับสูง? ผู้ที่สามารถหาเงินได้นับหมื่นล้าน เขามีศิลาวิญญาณมากมายขนาดใหนกัน? หากว่ามีเงินขนาดนั้น หลังจากนี้แทบจะไม่ต้องทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นการบำเพ็ญเพียร หรือว่าหาคู่บำเพ็ญได้อีกมากมายนับไม่ถ้วน.

ตำหนักมังกร ผู้ที่สามารถชักชวนเผ่ามังกรให้มาช่วยเหลือในสงครามได้? เป็นไปไม่ได้!

ยับมีข่าวลืออีกมากมาย แผนการสวรรค์ล่ม? สวรรค์ล่มชั้นที่หนึ่ง?สวรรค์ล่มขั้นที่สอง? สวรรค์ล่มขั้นที่สาม? สวรรค์ล่มชั้นที่สี่? สิ่งนี้คืออะไรกัน?

ค่ายกลฮวงจุ้ย? ตำหนักสังสารวัฏ? มันคือสิ่งใดกัน?

ไม่รับการแต่งตั้งเป็นกงจิวโห่ว หรือแม้แต่รองเสนาธิการกลาโหม คาดไม่ถึงเลยว่าจะปฏิเสธ? แถมยังใช้ความดีความชอบเพียงเพื่อสืบคดีเป็นเวลาหนึ่งเดือน? ซึ่งหลังจากนั้นอาจจะกลายเป็นตัวตลก? นี่มันเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จกัน?

เรื่องราวของจงซาน ได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์อย่างช้า ๆ .

แน่นอน ด้วยเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ข่าวลือมากมายที่ประชาชนทั่วไปได้พบ ทำให้ผู้คนต่างก็ต้องการค้นหาเรื่องราวหลักฐานยืนยันเกี่ยวกับตำนานจงซาน เขาที่กลายเป็นที่สนใจของคนจำนวนมากไปแล้ว!

หอการค้าต้าหรง โรงเตี้ยมหยุนไหล ซึ่งเป็นอีกสถานที่หนึ่งในการประโคมข่าวของจงซาน ด้วยการโหนข่าวสนับสนุน ทำให้จงซานกลายเป็นคนที่ทรงอิทธิพลและกลายเป็นตำนานไปแล้ว!

กับข่าวต่าง ๆ ที่แพร่สะพัดออกไป ส่วนจงซานเวลานี้ได้นำจื่อเห่าเดินทางมาถึงที่ด้านนอกตำหนักกงจูเฉียนโหยวแล้ว!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด