Chapter 348 ตำหนักสังสารวัฏ.
หลังจากนั้นสิบวัน ภายในหมอกขาว ทุกอย่างที่ขาวโพลน บนภูเขาลูกหนึ่ง.
อาวุโสเทียนที่ค้ำไม้เท้า ซึ่งเป็นไม้เท้าสีดำดูแปลกประหลาด จ้องมองไปยังด้านหน้า ที่ด้านหลังนั้นมีคนสามคน จงซาน เฉียนโหยวและหยิงหนิง.
"อาวุโสเทียน พวกเขาไม่เห็นกลับมาเลยไม่ใช่รึ? มันนานไปแล้วนะ"หยิงหนิงที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เดี๋ยวก็กลับมา!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่แหบเครือ.
"อาวุโสเทียน พวกเราถูกผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยจับไว้รึไม่?"กงจูเฉียนโหยวขมวดคิ้วไปมา.
"ข้าไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น กำลังกลับมาแล้ว!"อาวุโสเทียนกล่าว.
ทันทีที่อาวุโสเทียนพูดจบ ที่ด้านหน้าก็ปรากฏร่างสีขาวที่มาพร้อมสายลม ความหนาวเย็นที่แผ่ออกไปรอบ ๆ เป็นความหนาวเย็นที่ทำให้ขนลุกได้เลยทีเดียว.
หลังจากที่สายลมเย็นที่พัดเป่าเป็นระยะ ๆ เหล่าเด็กชายในชุดสีแดง ร่างกายที่ไม่มีผม คุกเข่าลง ทุกคนที่มาด้วยเท้าเปล่า เหล่าเด็กชายในชุดสีแดงนั้นร่างกายดูเลือนรางมองเห็นไม่ชัดเจนนัก.
"จูเหริน!"เด็กในชุดแดงที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
เหล่าเด็กชายคนอื่น ๆ เองที่ปรากฏออกมาเช่นกันจากทุกทิศทาง.เดินทางมาพร้อมกับลมที่เย็นยะเยือก.
"จูเหริน! "เหล่าเด็กชุดแดงที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"ห้ากุมาร พวกเจ้าออกไปสำรวจได้ความว่าอย่างไร?"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมา.
"พบแล้ว จู่เหริน มีเมืองผีที่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จู่เหรินควรจะไปดู "เด็กชายชุดสีแดงกล่าว.
"โอ้ว?เมืองผีมีขนาดใหญ่อย่างงั้นรึ?"อาวุโสเทียนสอบถาม.
"มันมีขนาดใหญ่มาก มีภูตและเจียงซือมากมายนับไม่ถ้วน ผีน้อยไม่กล้าเข้าไปใกล้! "เด็กชายในชุดแดงอีกคนกล่าว.
"อืม เจ้านำทางไป!"อาวุโสเทียนกล่าว.
อาวุโสเทียนที่โบกมือเบา ๆ เหลือภูตตนหนึ่ง ส่วนภูตสี่ตนถูกย่อขนาดลงมาอยู่ในฝ่ามือของเขา จากนั้นอาวุโสเทียนก็เก็บเข้าไปในแขนเสื้อ.
ภูตรับใช้? จงซานไม่กล้ารบกวน ตั้งแต่ต้นจนจบได้แต่เฝ้ามอง.
ด้วยการนำทางของภูตรับใช้ ได้นำทางพวกเขาไปยังทิศทางแห่งหนึ่ง
ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง ภูตรับใช้ที่หยุดลง ทุกคนเองก็หยุดลงด้วยเช่นกัน.
อาวุโสเทียนที่ยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง เพราะว่าเวลานี้พวกเขาทั้งสี่ ถูกขวางทางเอาไว้.
ปรากฏแมงเม่าทมิฬยักษ์ จะบอกว่าเป็นแมงเม่าทมิฬก็ไม่เชิงนัก ร่างของมันนั้นเป็นไท่จื่อหานจิว ที่ด้านหลังของเขามีปีกสีดำทมิฬ มีแมงเม่าผีมากมายที่โบกสะบัดไปมาอยู่ใกล้ ๆ ร่างของเขาที่เกิดจากแมงเม่าผีมากมายปรากฏรวมตัวกันขึ้นมาเป็นเขา ปีกของเขาที่สะบัดไปมา สร้างความมืดมิดแผ่ออกไปรอบ ๆ .
แมงเม่าทมิฬ ภูตรับใช้ ทันทีที่เห็นมันถึงกับสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว.
"กงจูเฉียนโหยว ตงฟางโห่ว ไม่เจอกันนานเลยทีเดียว!"ไท่จื่อหานจิวที่กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
"ไท่จื่อหานจิว ไม่ได้เจอกันนานเลย ทว่าไม่รู้ว่าไท่จื่อหานจิวรับรู้ได้อย่างไรว่าพวกเรามา ตอนนี้มาขวางพวกเราเอาไว้มีจุดประสงค์อะไรกัน?"จงซานที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"อาวุโส คงจะเป็นคนส่งภูตน้อยมารุกรานดินแดนของข้า แต่ข้าก็ต้องปกป้องดินแดนแห่งนี้ ทุกคน โปรดกลับไป!"ไท่จื่อหานจิวกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล.
"หัวใจจักรพรรดิอเวจีอย่างงั้นรึ? เจ้าหนู เจ้าเป็นใครถึงได้กล้าพูดเช่นนี้กับข้า?"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
เมื่อเห็นอาวุโสเทียนกล่าว ไท่จื่อหานจิวที่ขมวดคิ้วไปมา เพราะว่าไท่จื่อหานจิวที่สามารถมองเห็นได้ ภายในกลุ่มคนทั้งสี่นั้น ชายชราผู้นี้บางทีอาจจะมีสถานะสูงที่สุด เขามีสถานะสูงกว่ากงจูต้าโหลวอย่างงันรึ?
"ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ตอนนี้......."ไท่จื่อหานจิวกล่าว.
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ไท่จื่อหานจิวกล่าวได้ครึ่งประโยคเท่านั้น อาวุโสเทียนก็ลงมือ ไม้เท้าสีดำที่ยื่นออกไป ชี้ไปยังตำแหน่งของไท่จื่อหานจิว.
เห็นแค่เพียงอากาศสั่นไหวเป็นระลอกคลื่น แสงสีเขียวเข้มที่ถูกยิงออกไปจากไม้เท้า.
"พรึด ๆ ๆ ๆ "
ไท่จื่อหานจิวที่พ่นโลหิตออกมาคำโต กุมหน้าอกของตน จ้องมองไปยังอาวุโสเทียน ใบหน้าไม่อยากเชื่อแม้แต่น้อย ปีกของแมงเม่าผีที่หายไปในทันที เหล่าแมงเม่าตัวเล็กตัวน้อยเองก็ระเบิดหายไปด้วยเช่นกัน.
"เจ้าต้องการทำลายหัวใจจักรพรรดิอเวจีของข้าอย่างงั้นรึ?"ไท่จื่อหานจิวที่เผยสีหน้าแววตาหวาดกลัวขึ้นมา.
"นี่คือคำเตือนเล็กน้อย กลับไปบอกผู้ฝึกตนฮวงจุ้ย ข้ามาเพื่อทำลายค่ายกลแห่งนี้!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจเป็นอย่างมาก.
ไท่จื่อหานจิวที่กุมหน้าอกตัวเองไม่กล่าวสิ่งใดอีก ร่างกายของเขาที่วิ่งหนีออกไป เนื่องจากว่าปีกแมงเม่าผีของเขามันได้สลายหายไปแล้วนั่นเอง.
"เทียนเหล่า ทำไมถึงปล่อยให้เขาหนีไปล่ะ?"หยิงหนิงสอบถาม.
"เส้นทางมีหลายเส้นทาง เส้นทางของภูตย่อมแตกต่างจากเส้นทางคน ภูตน้อยนำพาพวกเรามาที่นี่ได้ แต่ไม่สามารถที่จะนำพาพวกเราไปยังเมืองผีได้!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเล็กน้อย สายตาของเขาที่เพ่งมองไปด้านหน้า ถึงแม้ว่าจะมีหมอกสีขาวปกคลุมไปทั่ว ทว่าอาวุโสเทียนกับสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน.
"ไปได้แล้ว!"อาวุโสเทียนกล่าว.
จากนั้นอาวุโสเทียนเก็บภูตรับใช้ตนสุดท้ายกลับไป คนทั้งสี่ก็บินออกไปพร้อมกัน.
พวกเขาที่บนลงไปยังลานกว้างแห่งหนึ่ง อาวุโสเทียนที่ก้าวนำหน้า.
อาวุโสเทียนที่กวาดตาจ้องมองไปยังลานกว้างที่ยืดยาวออกไปไม่มีขอบ ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย ทว่าสายตาของเขาที่คาดหมายเอาไว้ล่วงหน้าไว้แล้วเช่นกัน.
"อย่าออกห่างจากข้า!"อาวุโสเทียนเอ่ยบอกคนข้างหลัง.
จากนั้นอาวุโสเทียนก็ก้าวเดินนำพวกเขาไป สามคนด้านหลังที่ก้าวตามไปใกล้ ๆ .
ทุกคนที่ก้าวตามอาวุโสเทียน หลังจากที่ก้าวไปแล้ว 108 ก้าว จงซานที่รู้สึกว่าพื้นที่รอบ ๆ นั้นได้เปลี่ยนไปในทันที เดิมทีสภาพแวดล้อมมืดมน เต็มไปด้วยหมอกสีขาว ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นใสกระจ่าง หมอกหนาในตอนแรกได้หายไปแล้ว ตอนนี้ปรากฏเห็นพื้นที่ และยังมองเห็นพระจันทร์ที่ทอแสงลงมาอีกด้วย.
"ฮือ ฮือ ฮือ ฮือ."
บนพื้นเวลานี้ ทันใดนั้นก็ปรากฏเจียงซือและวิญญาณร้ายมากมาย ปรากฏขึ้นมา พวกมันที่เดินไปมาไร้ทิศทาง ดูน่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก.
กับเจียงซือและวิญญาณร้ายมากมายนั้น ทำให้จงซานคิดถึงเมื่อครั้ง เหตุการณ์เซิ่งซ่างเจียงซือ ภาพบรรยากาศเช่นนี้ เหมือนกันเป็นอย่างมาก เจียงซือมากมาย วิญญาณร้ายนับไม่ถ้วน.
ก่อนหน้านี้ไม่มีสิ่งก่อสร้างใดเลย พื้นที่ทุกอย่างเต็มไปด้วยภูเขาและต้นไม้ ทว่าในเวลานี้เมื่อหมอกครึ้มหายไป ก็พบพื้นที่โล่งและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาจากปราณมืด และปราณภูตผี!
จงซานที่รับรู้แล้ว่าพวกเขาเข้ามาในค่ายกลแล้ว.
สิ่งก่อสร้างมากมายที่ดำมือเลือนรางนี้เกิดขึ้นจากปราณภูตผี ไม่สามารถมองเห็นพื้นที่ด้านในได้ ทว่ากับสามารถมองเห็นเป็นรูปเป็นร่างหยาบ ๆ ได้.
"ตำหนักสังสารวัฏ? แดนวัฏสงสาร?"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตกใจขึ้นมาทันที.
อาวุโสเทียนที่รู้จักค่ายกลนี้อย่างงั้นรึ?
เหล่าเจียงซือและวิญญาณร้ายดูเหมือนว่าพวกมันจะสัมผัสได้ถึงสิ่งมีชีวิต พวกมันที่ได้เปลี่ยนทิศทางเคลื่อนมาหาพวกเขาช้า ๆ ด้วยท่าทางหิวโหย พวกมันที่คิดว่าพวกเขาคืออาหารของพวกมัน.
จงซานที่นำดาบยักษ์ออกมาทันที จ้องมองอย่างเย็นชาไปยังวิญญาณร้ายและเจียงซือ.
เจียงซือเข้ามาใกล้แล้ว.
ดาบยักษ์ของจงซานที่เหวี่ยงออกไป.
"ตูมมมมมมม!"
ด้วยพลังของดาบยักษ์ ทว่าทำให้เจียงซือถอยห่างออกไปเล็กน้อยเท่านั้น.
"เปรี้ยง!!!"
ดาบของจงซานที่เตรียมฟันออกไปยังเจียงซือสุดกำลังของเขาอีกครั้ง.
ทันใดนั้นวิญญาณร้ายที่พุ่งเข้ามาเช่นกัน ดาบของจงซานที่ตวัดออกไป สับไปยังภูตผีร้าย ทว่าดูเหมือนว่าจะไม่สามารถฟันมันได้เลย.
ดวงตาของจงซานที่ชำเลืองมอง ก่อนที่จะถอยออกมาอย่างรวดเร็ว อาวุโสเทียนที่ชี้ไม้เท้าออกไป วิญญาณร้ายที่สลายหายไปทันที.
"ชโลมดาบของเจ้าด้วยแก่นโลหิต."อาวุโสเทียนกล่าว.
"อืม!"จงซานที่พยักหน้ารับ ก่อนที่จะเฉือนโลหิต อาบไปที่คมดาบอย่างรวดเร็ว.
พร้อมกับเข้าโจมตีเจียงซืออีกครั้ง.
"ซี่ ๆ ๆ ๆ "
ดาบยักษ์ของเขาที่ฟันไปยังร่างของเจียงซือ เหมือนกับเหล็กร้อน ที่ตัดผ่านร่างของเจียงซือ พร้อมกับสังหารเจียงซือไปในทันที แม้แต่วิญญาณร้ายที่พุ่งเข้ามา ด้วยแก่นโลหิตที่เป็นเหมือนกับทั่งร้อนอาบคมดาบตัดผ่านภูตผีร้ายไปทันที.
อาวุโสเทียนไม่ได้สนใจเหล่าวิญญาณหรือเจียงซือแต่อย่างใด เขากำลังมองไปยังสิ่งก่อสร้างที่ซับซ้อนด้านหน้า ภายในใจที่ดูประหลาดใจไม่แน่ใจ เขตแดนด้านนอกนี้ได้ปล่อยให้จงซานจัดการ.
ทว่าที่ไกลออกไปนั้นได้ปรากฏร่าง ๆ หนึ่งเป็นร่างภูตขนาดใหญ่หนึ่งร้อยจั้งกำลังวิ่งมาอย่างคาดไม่ถึง ราชันย์ภูต.
ราชันย์ภูตตนนี้ดูเหมือนกับตนเดียวกันในสุสานของเซิ่งซ่างเจียงซือ ร่างของมันที่มีสีทอง นุ่งผ้าเตี่ยวสีแดงชาติด้านล่างที่ทำมาจากหนังสัตว์ มือของมันที่ถือไม้เท้าหัวหมาป่าขนาด 80 จั้ง ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวและเต็มไปด้วยความโมโหเดือดดาล.
ไม่ มันไม่ได้เหมือนขนาดนั้น เพียงแต่ดูคล้าย กับราชันย์ภูตที่จงซานเคยเห็นก่อนหน้านี้เท่านั้น.
ราชันย์ภูตที่วิ่งตรงมาด้วยความโกรธเกรี้ยว ทันใดนั้นก็ชำเลืองมองเห็นกงจูเฉียนโหยว.
"เป็นเจ้าเองรึ?"ราชันย์ภูตที่ตะลึงงันเล็กน้อย.
เป็นเจ้าเองรึ? ได้ยินเสียงของราชันย์ภูต จงซานที่ขุนลุกเกรียวขึ้นมาในทันที ดูเหมือนว่าจะเป็นตนเดียวกัน ด้วยคำพูดของราชันย์ภูต คล้ายว่ามันจะจำกงจูเฉียนโหยวได้รึ?
เหมือนกัน กงจูเฉียนโหยวที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง ถอยห่างออกมาด้านหลัง.
"เจ้ารู้จักมันอย่างงั้นรึ?"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"เหตุการณ์ที่สุสานเซิ่งซ่าง ดินแดนต้าเย่ เป็นเขา? ไม่มีทาง เวลานั้นไม่ใช่ว่าเป็นภาพลวงตาหรอกรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
"หืม? เป็นสุสานทัณฑ์สวรรค์อย่างงั้นรึ? แล้วมาโผล่ที่แห่งนี้ได้อย่างไร?"อาวุโสเทียนกล่าวถามอย่างเคร่งขรึม.
"ในครั้งนั้นมันเป็นเมืองผีเฟิงตู."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"เฟิงตู? เฮ้เอ้ ดูเหมือนว่าเขาจะอยู่ในตำหนักสังสารวัฏ."อาวุโสเทียนที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
"อาวุโสเทียน เป็นไปได้อย่างไร ที่เขาจะจดจำข้าได้?ไม่ใช่ว่ามันเป็นภาพลวงตาหรอกรึ? ในเวลานั้นค่ายกลฮวงจุ้ยได้ถูกทำลายไปแล้ว และเมืองผีเฟิงตูยังระเบิดออกมาอีกด้วย."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
หยิงหนิงที่ขมวดคิ้วจ้องมองไปยังอาวุโสเทียนด้วยเช่นกัน.
"ภาพลวงตารึ? ใครบอกเจ้ามันเป็นภาพลวงตา? นี่คือโลกที่เชื่อมต่อ มันคือภูตตนเดียวกันกับที่เจ้าเห็นไงล่ะ."อาวุโสเทียนกล่าว.
ราชันย์ภูตผู้ดูแลตำหนัก อาวุโสเทียนที่หันหน้าไปจ้องมองมัน.
ราชันย์ภูตเมื่อเห็นอาวุโสเทียน จิตใจที่สั่นสะท้าน ร่างกายที่หยุดนิ่ง ใบหน้าเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว หันหน้ากลับและวิ่งหนีในทันที.
"แต่ว่า นี่คือค่ายกลฮวงจุ้ยที่แตกต่างกันสองพื้นที่ไม่ใช่เหรอ?"กงจูเฉียนโหยวที่เต็มไปด้วยความงงงวย.
"ค่ายกลฮวงจุ้ยสองที่ ทว่าทั้งสองต่างก็เป็นโลกที่เชื่อมต่อ เป็นวิชาฮวงจุ้ยระดับสูง เห็นได้ชัดว่าพื้นที่รอบ ๆ นี้เหมือนกัน เพียงแค่ค่ายกลได้เชื่อมต่อกันไปยังดินแดนของพวกมันนั่นเอง."อาวุโสเทียนที่กล่าวอธิบาย.
"เทียนเหล่า ท่านจะบอกว่าตำหนักสังสารวัฏและเมืองผีเฟิงตูนั้น ต่างก็เป็นพื้นที่เดียวกัน ราชันย์ภูตที่อยู่ในตำหนักสังสารวัฏแห่งนี้ ก็คือดินแดนของพวกมัน พวกเราได้เดินทางมายังดินแดนของพวกมันด้วยการเชื่อมต่อพื้นที่อย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.
"ถูกแล้ว!"อาวุโสเทียนพยักหน้า กงจูเฉียนโหยวที่เข้าใจทุกอย่างได้รวดเร็ว ทำให้อาวุโสเทียนพอใจไม่น้อย.
"อาวุโส ท่านจะบอกว่าในโลกนี้มีเมืองผี หรือที่เรียกว่าตำหนักสังสารวัฏด้วยใช่ไหม?"จงซานที่ชำเลืองมองไปยังอาวุโสเทียนด้วยความประหลาดใจ.
"ในโลกนี้ไม่มี ทว่าภพหยินมี!"อาวุโสเทียนที่กล่าวรับรอง.