Chapter 347 หยิงหนิง
"รอมานานแล้วอย่างงั้นรึ?"อาวุโสเทียนที่เดินค้ำไม้เท้า กล่าวออกมาด้วยเสียงที่แหบเครือเล็กน้อย หยาบกระด้างเป็นอย่างมาก.
จากนั้น อาวุโสเทียนก็เดินไปด้านหน้า ออกไปนอกประตูช้า ๆ จ้องมองไปยังหมอกขาวโพลนที่ปกคลุมพื้นที่รอบ ๆ .
กับท่าทางของอาวุโสเทียนแล้ว ต้าเสวียนอ๋องและคนอื่น ๆ ไม่ได้ใส่ใจอะไร.
ต้าเสวียนอ๋องและฟ่านอี้พินที่ก้าวตามไป ส่วนหญิงสาวน่ารักน่าชังที่วิ่งเข้าไปหาอาวุโสเทียน.
"เทียนเหล่า ข้าช่วยพยุงท่าน!"สาวน้อยที่ยิ้มด้วยความสดใส.
"หยิงหนิง อย่าได้เสียมารยาท!"ต้าเสวียนอ๋องที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เฮ้เฮ้! ไม่มีปัญหา!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่แหบเครือ.
ส่วนหยิงหนิงที่แลบลิ้นเล็ก ๆ ให้ต้าเสวียนอ๋อง ดวงตาที่เปล่งประกาย เต็มไปด้วยความมั่นใจ.
ต้าเสวียนอ๋องที่จ้องมองหยิงหนิงด้วยความพึงพอใจ ไม่ได้โกรธ ซ้ำยังเผยยิ้มให้ที่ลดความตึงเครียดลงได้.
"ท่านอ๋อง จวินจูเหมือนว่าจะดูแลเอาใจใส่อาวุโสเทียน!"ฟ่านอี้พินที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"ใช่แล้ว ฟู่หวัง อาวุโสเทียนยังไม่ตำหนิข้าเลย? อาวุโสเทียนได้สอนวิชาฮวงจุ้ยให้ข้ามากมาย หลังจากนี้จะรับข้าเป็นศิษย์ด้วย! "หยิงหนิงที่เผยยิ้มซุกซนออกมา.
อาวุโสเทียนที่เอ่ยออกมาหลังจากที่หยิงหนิงกล่าวในทันที "ข้ายังไม่บอกเลยว่าจะรับเจ้าเป็นศิษย์!"
"วันนั้นท่านไม่ได้บอกข้าแล้วรึ?"หยิงหนิงที่บ่นอู้อี้เหมือนเด็กเอาแต่ใจ.
"ข้าหมายความว่าร่างกายของเจ้าเหมาะที่จะฝึกฝนวิชาฮวงจุ้ย ทว่าไม่เคยบอกเลยว่าจะรับเจ้าเป็นศิษย์."อาวุโสเทียนส่ายหน้าไปมา.
"อาวุโสเทียน ท่านจะบอกว่าหยิงหนิงนั้นเหมือนกับเฉียนโหยว ที่สามารถฝึกวิชาฮวงจุ้ยได้อย่างงั้นรึ?"ต้าเสวียนอ๋องที่ดวงตาส่องประกาย.
"อืม!"อาวุโสเทียนที่กล่าวรับเบา ๆ .
ได้ยินคำพูดของอาวุโสเทียน ต้าเสวียนอ๋องรู้สึกดีใจขึ้นมาในทันที ทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดทำได้แค่เพียงพยักหน้าเท่านั้น.
"ค่ายกลนี้คืออะไร?มันมีขนาดใหญ่มากขนาดนี้เลยรึ?"หยิงหนิงที่จ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป ด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ.
ฟ่านอี้พินเริ่มอธิบายออกมาในทันที "เป็นค่ายกลฮวงจุ้ยที่แปลกประหลาด ไม่เพียงแค่มีหมอกมากมายปกคลุม ทว่าเมื่อเข้าไปข้างในแม้แต่ระดับจักรพรรดิแท้ยังหลงทิศไม่สามารถแยกทิศได้เลย."
"ค่ายกลฮวงจุ้ยนี้ มีขนาดใหญ่เท่าไหร่ กินพื้นที่ขนาดใหน."อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาเบา ๆ .
"หมอกดังกล่าวนี้กินพื้นที่ 64 เมือง!"ฟ่านอี้พินที่กล่าวตอบ.
"64 เมือง? บอกข้าว่าจากพื้นที่ใหนไปใหนบ้าง.
ฟ่านอี้พินที่สร้างแผนที่สามมิติขึ้นมาด้วยวิชาของตัวเอง ก่อนที่จะชี้ตำแหน่งต่าง ๆ ของ 64 เมืองบนแผนที่.
" 64 สัญลักษณ์? เป็นผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยที่ร้ายกาจมาก ดูเหมือนว่ามันจะไม่ง่ายแล้ว!"อาวุโสเทียนที่กล่าวพลางทอดถอนใจเบา ๆ .
"ค่ายกลฮวงจุ้ยนี้ เรียกว่าอะไร?"หยิงหนิงที่พยุงอาวุโสเทียนสอบถามออกมา.
"ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจ ต้องเข้าไปดูอาจจะรู้!"อาวุโสเทียนส่ายหน้าไปมา.
"ค่ายกลที่แท้จริงยังไม่เผยออกมาให้เห็นอย่างงั้นรึ?"หยิงหนิงที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"กับสิ่งที่พวกเราเห็น หมอกสีขาวนี้ไม่ใช่ค่ายกลฮวงจุ้ย แต่เป็นผลที่เกิดจากค่ายกลฮวงจุ้ยต่างหาก."อาวุโสเทียนกล่าว.
"อาวุโสเทียนจะบอกว่าภายในหมอกขาวนี้ มีสถานที่บางแห่ง เป็นค่ายกลที่แท้จริงอย่างงั้นรึ?"ฟ่านอี้พินที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ถูกแล้ว มีค่ายกลฮวงจุ้ยที่แท้จริงอยู่ หมอกสีขาวนี้ เป็นเพียงผลพวงจาการสร้างค่ายกล ทว่าเพียงแค่หมอกขาวนี้ ก็เพียงพอไม่ให้คนหาทางออกมาได้จากค่ายกลนี้แล้ว!"อาวุโสเทียนที่ส่ายหน้าไปมา.
"ไม่สามารถหาทางออกมาได้จริง ๆ รึ?"หยิงหนิงที่ขมวดคิ้วไปมาด้วยความสงสัย.
"ใช่แล้วจวินจู คนที่พวกเราส่งไปสังเกตการณ์จวบจนถึงตอนนี้ ไม่มีใครออกมาได้เลย!"ฟ่านอี้พินที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มต่อหยิงหนิง.
“~~~”
ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แค่เรื่องล้อเล่น ไม่ว่าจะเป็นคำพูดของอาวุโสเทียน หรือ หลังจากที่ฟ่านอี้พินกล่าวออกมาก็ดี ทว่าที่ชายขอบของหมอกขาวโพลนนั้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของหมาป่าที่ดังขึ้นในทันที.
"โบ๋"
"โบ๋!!"
......
หลังจากนั้นก็มีกลุ่มของหมาป่าที่หอนตามกันอย่างบ้าคลั่ง.
จากภายใน หมาป่ากลุ่มหนึ่งที่วิ่งออกมา ในเวลาเดียวกันนั้นก็ปรากฏคนผู้หนึ่งที่โผล่ออกมาเช่นกัน.
จงซาน เป็นจงซานที่เผยสีหน้าตื่นเต้นเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.
ออกมาได้แล้ว! แสงตะวันช่างงามนัก! พื้นที่หลายหมื่นลี้ไม่มีเมฆบดบัง! เป็นบรรยากาศที่ชวนคิดถึงจริง ๆ .
ใบหน้าของฟ่านอี้พินที่เปลี่ยนเป็นแดงระเรื่อ อาวุโสเทียนที่ชะงักไปเล็กน้อย ต้าเสวียนอ๋องที่เผยยิ้มออกมา ส่วนหยิงหนิงที่ชำเลืองมองไปยังฟ่านอี้พิน.
ไม่มีใครออกมาได้อย่างงั้นรึ? จงซานที่ก้าวออกมาจากเมฆหมอก ราวกับว่าตบหน้าหลาย ๆ คนอย่างจัง เช่นนั้นจะไม่ให้พวกเขาชะงักงันได้อย่างไร.
หลังจากที่จงซานก้าวออกมา พร้อมกับจ้องมองไปยังกองทัพด้านหน้าซึ่งมีสัญลักษณ์"เสวียน"บนชายธง เป็นกองกำลังของต้าเสวียนอ๋องนั่นเอง.
ทุกคนเวลานี้! ต่างก็จ้องมองมายังเขาเป็นสายตาเดียวกัน.
จงซานที่โบกสะบัดมือ กงจูเฉียนโหยว อาต้า จื่อเห่า อาเอ้อและคนอื่น ๆ ก้าวตามจงซานออกมา ฟ่านอี้พินถึงกับหน้าเสีย ต้องไม่ลืมว่า กับสิ่งที่เขากล่าวออกมาก่อนหน้านี้ไม่มีใครออกมาได้ ทว่าคนกลุ่มใหญ่กลับออกมา นี่ไม่ทำให้ฟ่านอี้พินสะอึก รู้สึกห่อเหี่ยวใจได้อย่างไร?
หลังจากพวกเขาแล้ว ยังไม่หมดเท่านั้น เจ้าฉวนที่กระตุกเชือก นำเหล่าทหารออกมาอีก.
ทุกคนที่มีหมาป่าเดินนำ.
กองกำลังขนาดใหญ่กว่าหนึ่งล้านคน.
พวกเขาไม่ได้รับผลอะไรเลยอย่างงั้นเหรอ ฟ่านอี้พินพูดไม่ออกถึงกับต้องถอยหลังเลยทีเดียว.
"ออกมาแล้ว!"กงจูเฉียนโหยวที่พ่นลมหายใจยาวพร้อมเผยยิ้มออกมา.
"ใช่แล้ว จอมพล ที่ด้านนอกนี้อากาศดีจริง ๆ กับบรรยากาศอึมครึมน่าหวาดกลัว ทำให้เหล่าทหารแทบเป็นบ้าทีเดียว!เหล่าพี่น้องของพวกเรานอนเวลากลางคืนถึงกับละเมอหาแม่เลยที"สุ่ยอู๋เหินที่เผยยิ้มออกมา.
"ฮ่าอ่าฮ่าฮ่า!!!"เหล่าทหารที่ได้ยินต่างก็หัวเราะชอบใจ.
กับคำพูดของสุ่ยอู๋เหินที่กล่าวล้อขุนพลหลายคน ไม่ได้ทำให้พวกเขาโกรธ กับทำให้พวกเขาหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขแทน.
จงซานที่จ้องมองไปยังสุ่ยอู๋เหินด้วยความพอใจ สุ่ยอู๋เหินสามารถเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้กับกองทัพได้อย่างดี.
"จื่อเห่า ต้องขอบคุณเจ้า ที่นำหมาป่ามานำทาง พวกเขานับว่าเป็นผู้กล้าที่ช่วยพวกเราไม่ให้ถูกสังหารไป."จงซานกล่าว.
"ครับ!"จื่อเห่าที่รับคำในทันที.
"โบ๋ว!!!"
จื่อเห่าที่ส่งเสียงออกไป หมาป่ากลุ่มหนึ่งที่แยกย้ายหายไป พริบตาเดียวก็หายไปไม่เห็นร่องรอย.
กองกำลังหนึ่งล้านที่เคลื่อนที่ออกมารวมกับกองกำลังต้าเสวียนอ๋อง.
"สุ่ยอู๋เหิน เจ้าไปจัดแจงกองทัพ หาพื้นที่ตั้งค่ายทหารแล้วรอคำสั่งต่อไป!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"สุ่ยอู๋เหินที่รับคำในทันที.
ส่วนจงซานที่จ้องมองไปยังกระโจมใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป.
จงซาน เฉียนโหยว อาต้า อาเอ้อและจื่อเห่า คนทั้งห้าที่บินออกไปยังพื้นที่ดังกล่าว ระหว่างทางไม่มีคนขวางพวกเขาแต่อย่างใด เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ก่อนหน้านี้ได้มีคำสั่งแล้วหากกลุ่มของจงซานมา ไม่ให้ขวาง.
"จงซาน คารวะท่านอ๋อง คารวะเซียนเซิงฟ่าน!"จงซานทิ่ร่อนลงที่ลานกว้างและกล่าวออกมาทันที.
ส่วนอีกสองคนนั้น จงซานไม่รู้จัก จึงไม่ได้ทักทาย.
"เอ้อซู!"กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อาวุโสเทียน ข้าคิดแล้วว่าท่านต้องมาแน่นอน!"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังชายชราที่ยืนตัวสั่นเล็กน้อย.
อาวุโสเทียน?จงซานที่หันหน้ากลับไปมอง.
"คารวะอาวุโส!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
"เจ้าหนู เจ้าไม่ธรรมดาเลย!"อาวุโสเทียนที่กล่าวออกมาด้วยเสียงที่แหบเครือ.
"ใช่แล้ว ตงฟางโห่ว คาดไม่ถึงเลยว่าจะออกมาได้ ฟ่านโหมวชื่นชมยิ่งนัก!"ฟ่านอี้พินที่กล่าวออกมาในทันที.
"อืม เป็นเพียงแค่โชค ด้วยสามารถจับศัตรูที่ลอบโจมตีพวกเราได้ จึงรู้ว่าพวกเขาใช้แมงเม่าผีนำทาง!"จงซานที่กล่าวอย่างถ่อมตน.
"ศัตรูบุกอย่างงั้นรึ?"ต้าเสวียนอ๋องที่ขมวดคิ้วไปมา.
"ครับ ท่านอ๋อง ที่ด้านในนั้น กองกำลังต้ากวงที่ยกพลออกมา ลอบโจมตีพวกเรา ที่ด้านในไม่สามารถจับทิศทางได้ เกรงว่าข้างในเวลานี้กองกำลังต้ากวงคงจะเริ่มยึดเมืองกลับคืนไปแล้ว!"จงซานที่กล่าวออกมาทันที.
ต้าเสวียนอ๋องสูดหายใจลึก ขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย จ้องมองไปยังอาวุโสเทียน.
"อาวุโสเทียน คงต้องให้ท่านเร่งมือแล้ว!"ต้าเสวียนอ๋องกล่าว.
"โปรดวางใจ ข้าจะเข้าไปในค่ายกลฮวงจุ้ยพรุ่งนี้!"อาวุโสเทียนกล่าว.
"ต้องรบกวนแล้ว!"ต้าเสวียนอ๋องกล่าว.
"ข้าก็จะไป!อาวุโสเทียน ท่านให้ข้าไปด้วยนะ!"หยิงหนิงที่ออดอ้อนในทันที พร้อมกับกุมแขนของอาวุโสเทียนแกว่งไปมา.
อาวุโสเทียนจ้องมองหยิงหนิงด้วยความเอ็นดู "ก็ได้! เมื่อถึงเวลานั้นอย่าอยู่ห่างจากข้า."
"ได้ได้! แน่นอน!"หยิงหนิงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ต้าเสวียนอ๋องเองก็เผยยิ้มด้วยความพึงพอใจ.
"เฉียนโหยว เจ้าเองก็ไปด้วย!"อาวุโสเทียนที่หันหน้าไปยังกงจูเฉียนโหยว.
"ค่ะ!"เฉียนโหยวที่ตอบรับในทันที.
อาวุโสเทียนที่กล่าวต่อเฉียนโหยว ทำให้หยิงหนิงเบ้ปากเล็กน้อย แสดงท่าทางไม่มีความสุขนัก ส่วนต้าเสวียนอ๋องเองยังคงสงบนิ่ง ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร.
"อาวุโส ผู้น้อยขอเข้าไปดูเป็นบุญตาได้หรือไม่?"จงซานที่จ้องมองไปยังอาวุโสเทียน.
อาวุโสเทียนที่หันหน้ามามองจงซาน ส่วนจงซานที่สามารถมองเห็นสายตาของอาวุโสเทียนที่ขุ่นมัวรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นหนึ่งในหมากในกระดาษ ที่มีโลกใบนี้เป็นแผ่นกระดานเล่นก็ไม่ปาน.
"เจ้าหนู ในเมื่อเจ้าออกมาได้ เช่นนั้นทำไมจะไม่ได้ล่ะ พรุ่งนี้ยามเฉินออกเดินทาง."อาวุโสเทียนกล่าว.
[มะโรง (มังกร) “ยามเฉิน” (辰时) คือเวลา 7 โมงถึง 9 โมงเช้า]
"ขอบคุณ อาวุโส!"จงซานที่ตอบรับในทันที.
วิชาฮวงจุ้ยรึ? ก่อนหน้านี้จงซานได้เห็นมาหลายครั้งแล้ว นับว่าเป็นศาสตร์ที่ลึกล้ำเป็นอย่างมาก อีกอย่างเหล่าผู้ฝึกตนที่ฝึกฝนวิชาฮวงจุ้ยเองก็มีน้อยมาก ๆ แทบจะไม่เคยเห็นเลย การต่อสู้ระหว่างผู้ฝึกตนฮวงจุ้ยหาชมได้ยากมาก นอกจากนี้บัวหงหลวนของเขายังไม่เปลี่ยนสี จึงไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย การประลองครั้งนี้ จะพลาดได้อย่างไร?
"ข้าจำเป็นต้องเตรียมตัว อย่าให้ใครมารบกวนข้า!"อาวุโสเทียนกล่าว.
จากนั้น ร่างของอาวุโสเทียนก็หายไปในทันที ต้าเสวียนอ๋องที่กล่าวปลอบขวัญจงซานเสร็จ จากนั้นก็นำฟ่านอี้พินกลับไปยังกระโจมใหญ่.
"ท่านพี่เฉียนโหยว หยิงหนิงคิดว่าท่านอยู่ในเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ซะอีก!"หยิงหนิงที่กุมแขนของกงจูเฉียนโหยวในทันที.
"หยิงหนิง เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"อาวุโสเทียนบอกว่าข้ามีพรสวรรค์เหมือนท่าน และเตรียมที่จะรับข้าเป็นศิษย์ด้วย แต่ว่าเรื่องนี้ช่างมันเถอะ พี่เฉียนโหยว ท่านเลิกกับท่านพี่ของข้าแล้วรึ?"หยิงหนิงที่กล่าวออกมาทันที.
ได้ยินคำพูดของหยิงหนิง จงซานที่มองเห็นความตึงเครียดเกิดขึ้นทันทีระหว่างหญิงสาวทั้งสอง!
"ฉีเทียนโห่วกลับไปยังนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์แล้วรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซาน ก่อนที่จะมองไปยังหยิงหนิง.
"ใช่แล้ว พี่ชายถูกผู้หญิงบ้าไล่สังหาร พี่ชายหนีไปยังเมืองบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์แต่กระนั้นนางก็ไล่ล่าไปด้วย แต่ก็ถูกหยุดเอาไว้ด้วยองค์รักษ์หลวง แต่ก็ไม่สามารถจับตัวนางได้ พี่เฉียนโหยว พี่ชายได้กระทำอะไรให้ท่านลำบากใจอย่างงั้นรึ? ถึงท่านพี่จะเป็นคนใจร้อน ทว่าในนครบรรพกาลศักดิ์สิทธิ์ทุกคนต่างก็รับรู้เรื่องนี้ดี ว่าพวกท่านนั้นเหมาะสมกันมาตั้งแต่เกิด เป็นคู่ที่สมกันที่สุดแล้ว"หยิงหนิงที่กล่าวออกมาในทันที.
"หยิงหนิง เจ้าฟังให้ดี ข้าและฉีเทียนโห่วนั้นไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน นับจากนี้ห้ามเจ้าเอ่ยเรื่องนี้อีก."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"อืม ข้ารู้นะ ตงฟางโห่วนั้นมีความสามารถที่เป็นเหมือนกับตำนาน ไม่สงสัยเลยว่าพี่เฉียนโหยวถึงได้เลิกสนใจพี่ชาย."หยิงหนิงที่ลอบมองไปยังจงซาน.
จงซานที่ไม่สนใจกับท่าทางจงใจเหน็บแนมของนาง ดูเหมือนว่านางจะไม่รู้ว่ากู่หลินและเขานั้นมีความขัดแย้งใดกัน ตอนนี้ก็รับรู้ได้เช่นกัน หยิงหนิงผู้นี้ นับว่าเป็นคนที่ยากจะจัดการเช่นกัน.