Chapter 346 อาวุโสเทียน
จงซานในเมือง บนเกาะลอยฟ้าตำหนักเจ้าเมือง
กงจูเฉียนโหยว อาต้า อาเอ้อ จื่อเห่า สุ่ยอู๋เหิน หลิวอู๋ซ่าง เจ้าฉวนและคนอื่น ๆ มารวมตัวกันที่นี่.
ที่ด้านหน้าจงซานนั้นมีโคมไฟคงหมิงขนาดใหน!
กับหมอกที่หนาสามารถที่จะทำให้ทิศทางของทุกคนสับสน และยังปกปิดแสงทุกอย่างเอาไว้.
"จอมพล กำลังทำอะไรอยู่รึ?"สุ่ยอู๋เหินที่แสดงท่าทางสงสัย.
"เขาต้องการดูว่าสิ่งนี้สามารถบินได้ สามารถที่จะผ่านชั้นเมฆ ออกจากค่ายกลนี้ได้หรือไม่!"กงจูเฉียนโหยวที่อยู่ข้าง ๆ กล่าวตอบแทน.
นี่เป็นเพียงการทดลอง สำหรับจงซาน ไม่ว่าวิธีใหนก็ตาม เขาต้องการที่จะค้นหาวิธีในการแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจัง.
โคมไฟคงหมิงที่ส่องสว่างที่ ค่อย ๆ ลอยตัวขึ้นไปช้า ๆ บินขึ้นไปเหนือเมือง บินเหนือขึ้นไปบนหมอก ลอยขึ้นไปเรื่อย ๆ .
ทุกคนที่รอคอยอย่างอดทน เพราะว่าสภาพหมอกที่เลวร้าย เฝ้ารอผลที่ออกมา.
หลังจากที่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง บนหมอกที่หนาจัด โคมไฟคงหลิงก็ล่วงหล่นลงมา น้ำมันตะเกียงนั้นได้แห้งโดยสมบูรณ์แล้วนั่นเอง.
โคมไฟคงหลิง ที่ล่วงหล่นลงมาไม่ไกลออกไป จงซานที่ก้าวออกไปในทันที พร้อมกับหยิบหยกบันทึกที่ติดกับโคมไฟคงหลิงออกมา.
พร้อมกับจ้องมองตรวจสอบอย่างระมัดระวัง.
"ไม่สามารถบินได้อย่างงั้นเหรอ!"กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.
"น้ำมันไม่พออย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่สอบถาม.
"ไม่ใช่ ก้อนเมฆนั้นมีพลังป้องกันหรือไม่ก็ชั้นบรรยากาศมีแรงกดอากาศที่เป็นปัญหา."จงซานที่สูดหายใจลึก.
"ไม่มีวิธีที่จะออกไปอย่างงั้นรึ?"เจ้าฉวนที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"โปรดวางใจ ต้องมีวิธีแน่."จงซานที่กล่าวปลอบทุกคน.
"แน่นอนว่าสถานการณ์ที่แย่เช่นนี้ ต้าเสวียนอ๋องจะต้องเรียกอาวุโสเทียนมาแน่!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"อาวุโสเทียน? แล้วอาวุโสเทียนจะมาอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าว.
"แน่นอนว่าต้องมา!"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.
"อืม!"จงซานพยักหน้า.
"อู๋เหิน! ให้หาเชือกมัดตัวทหารเอาไว้ ให้พวกเขาออกไปยืนอยู่นอกเมือง ในรัศมี 6 ลี้ เฝ้ามองว่ามีศัตรูภายนอกจะมาเข้าโจมตีหรือไม่ ป้องกันเอาไว้ก่อน."จงซานกล่าว.
"จอมพล สภาพอากาศเลวร้ายเพียงนี้ จะมีศัตรูอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.
"กองกำลังหนึ่งหมื่น ก็สามารถบุกเข้ามาได้. หมอกหนานี้ปกปิดการมองเห็น มองเห็นได้ในระยะ 300 เมตร สัมผัสเทวะ 500 เมตร ให้คนยืนประจำที่บนเหล่าป้อมปราการ ประตูเมือง ในจุดต่าง ๆ ที่มองไม่เห็น หากว่ามีศัตรูบุกเข้ามา ในเมือง พวกเราจะต้องแพ้ในทันที พวกเขาอาจะบุกเข้ามาจับข้าหรือเจ้าเป็นเชลยได้ นี่เป็นค่ายกลฮวงจุ้ยของต้ากวง พวกเราไม่รู้ว่ามันทำอะไรได้บ้าง!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"สุ่ยอู๋เหินที่ตอบรับในทันที.
หากว่าจงซานประมาทเพียงเพราะหมอกเลวร้าย กับค่ายกงฮวงจุ้ยที่มีหมอกทั่วทุกทิศทาง บางทีอาจจะไม่มีผลกับฝ่ายตรงข้ามก็ได้!
...
กองกำลังบุกเบิก เหล่าแมงเม่า!
ไท่จื่อหานจิว ที่ยืนอยู่บนยอดเขาสูง แขนทั้งสองข้างชูขึ้นมา สั่นไปมาเบา ๆ ภายในร่างกายของเขานั้นมีแมงเม่าผีสีดำที่บินผ่านเข้ามา.
ด้วยหัวใจจักรพรรดิอเวจีของเขานั้นสามารถที่ควบคุมแมงเม่าผีภายในดินแดนแห่งความตาย ตัดแบ่งวิญญาณ เก็บวิญญาณ รวมเข้ากับดวงวิญญาณของตัวเองได้ด้วย.
แมงเม่าผีนั้นยังไม่เปิดเชาว์ปัญญาจิตวิญญาณ แน่นอนว่าไม่สามารถที่จะทำอะไรได้มากนัก ทว่าไท่จื่อหานจิวตราบเท่าที่พื้นที่รอบ ๆ มีกลิ่นอายปิศาจ เขาสามารถที่จะออกคำสั่ง ควบคุมเหล่าแมงเม่าผีเหล่านี้ได้ทั้งหมด.
ไท่จื่อหานจิวที่โบกสะบัดมือ เหล่าแมงเม่าผีมากมายนับไม่ถ้วน ที่ซ่อนอยู่บนท้องฟ้าทั่วผืนปฐพี ก็ปรากฏขึ้น จากนั้นก็หมุนวนทั่วร่างของไท่จื่อหานจิว ร่ายรำไปมาบนอากาศ พร้อมกับเปลี่ยนเป็นรูปร่างที่แตกต่างกัน ปลดปล่อยพลังวิญญาณที่รุนแรงออกมา.
"กองทัพอยู่ที่ใหน?"ไท่จื่อหานจิวกล่าว.
แมงเม่าผีที่บินไปมาบนอากาศ รวมตัวกัน! พร้อมกับแจ้งรายระเอียดต่าง ๆ ให้กับไท่จื่อหานจิว.
ที่ด้านล่างหุบเขาแห่งหนึ่งนั้น มีกองกำลังของต้ากวง รอคอยไท่จื่อหานจิวออกคำสั่ง เหล่าทหารจำนวนมาก ซึ่งมีลักษณะพิเศษมีเชือกยาวพันเส้น ผูกที่เท้าของพวกเขา.
ไท่จื่อหานจิวที่โบกสะบัดมือ เหล่าแมงเม่าผีมากมายก็หายไป ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ไท่จื่อหานจิวจะเตรียมการเอาไว้แล้ว ให้ทหารมารวมตัวกัน.
ในเวลานี้ ไท่จื่อหานจิวที่บินลงมายังหุบเขา.
"ไท่จื่อพวกเราจะไม่หลงทางอย่างงั้นรึ?"ทหารคนหนึ่งที่ขมวดคิ้วไปมา.
"หมอกหนานี้ หากเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเชาว์ปัญญาย่อมทำให้เกิดการหลงทิศได้ ส่วนสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่เปิดเชาว์ปัญญานั้น ไม่มีผล พวกมันเคลื่อนที่ตามสัญชาติญาณ วางใจได้!"ไท่จื่อหานจิวกล่าวรับรอง.
"ครับ! "เหล่าขุนพลแม้ว่าจะกังวลใจแต่ก็กล่าวรับคำ.
"ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าพวกเราสามารถสังหารเหล่าทหารของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวได้หรอกรึ? ตอนนี้เป็นโอกาสของพวกเราที่จะจัดการพวกเขา กองกำลังต้าโหลที่อยู่ในหมอก ไม่ได้เปรียบพวกเราเลยแม้แต่น้อยและยังอยู่ในสภาวะประมาท ถึงเวลาที่จะสังหารเหล่าทหารต้าโหลว นำเมืองของพวกเรากลับคืนมาแล้ว!"ไท่จื่อหานจิวกล่าว.
"เฮ้!!"กองกำลังต้ากวงที่คำรามเสียงดัง.
........
สามเดือนหลังจากนั้น! จงซานที่อยู่ในเมือง.
จงซานที่ยืนอยู่บนป้อมปราการทิศใต้ จ้องมองไปยังหมอกหนาที่เลวร้ายไม่จางหายไป ขมวดคิ้วแน่น แม้ว่าเฉียนโหยวจะกล่าวว่าอาวุโสเทียนจะมา ทว่า หากว่าอาวุโสเทียนไม่สามารถแก้ปัญหาได้ล่ะ?
ความปลอดภัยของตัวเอง จงซานไม่กล้าประมาทแน่นอน คงรู้สึกไม่ดีแน่หากว่าไม่สามารถควบคมรักษาความปลอดภัยให้กับตัวเองได้.
"ศัตรูบุก!"
"ตรึม ตรึม ตรึม ตรึม"
เสียงกลองรบทางด้านทิศตะวันออกที่ดังขึ้นทันที!
ประตูตะวันออก เสียงเตือนดังขึ้น เป็นไปตามคาดที่จงซานได้คิดเอาไว้เลย ศัตรูมีวิธี!
จงซานที่ไม่รีบเร่ง เพราะว่าได้เตรียมการเอาไว้แล้ว ป้อมปราการทิศตะวันออก และป้อมปราการทิศใต้ทุกอย่างอยู่ในสภาวะเฝ้าระวังมาตั้งแต่แรกแล้ว.
"เอาล่ะ พวกเราไปดูกัน!"จงซานที่กล่าวกับเฉียนโหยวที่อยู่ใกล้ ๆ .
"อืม!"กงจูเฉียนโหยวที่พยักหน้ารับ.
ทิศตะวันออก! ภายในหมอกมืด.
"ไท่จื่อ เมืองนี้มีการป้องกันเอาไว้ก่อนแล้ว กล่าวอีกอย่างหนึ่ง แม้พวกเขาไม่เห็นพวกเขา แต่ในระยะ 300 เมตรที่พวกเราปรากฏ พวกเราอยู่ด้านล่าง ๆ ในระยะ 500 เมตร จะกลายเป็นเป้าให้พวกเขาเข้าโจมตี บางทีพวกเขาคงเตรียมการเอาไว้ก่อนแล้ว!"ขุนพลคนหนึ่งที่กล่าวออกมาด้วยความกังวล.
"ไท่จื่อ นี่เป็นเมืองที่สี่ที่พวกเราเข้ายึด พวกเราจะต้องทำการอย่างรวดเร็ว ครั้งนี้จะเป็นเหมือนเมื่อครั้งก่อนได้อย่างงั้นรึ? เหล่ามือธนูในเมืองนี้ พวกเขาได้เตรียมการเอาไว้ก่อนแน่ ๆ !"ขุนพลคนหนึ่งที่กล่าวออกมา.
"ไท่จื่อ พวกเราไม่สามารถก้าวไปด้านหน้าได้แล้ว เวลานี้ทหารของพวกเราได้รับความเสียหายอย่างหนัก ไม่สามารถยึดเมืองแห่งได้เหมือนเมืองอื่น ๆ หากว่าพวกเรายังคงบุกต่อละก็จะต้องติดกับพวกเขาเป็นแน่!"กุนซือที่อยู่ด้านข้างกล่าวต่อไท่จื่อหานจิว.
"ส่งสัญญาณถอย!"ไท่จื่อหานจิวที่สูดหายใจลึก.
"ครับ! "ขุนพลทุกคนที่ตอบรับคำ.
ขณะที่จงซานเดินทางมาถึงป้อมปราการทิศตะวันออก สงครามก็จบแล้ว สุ่ยอู๋เหินที่ทำการตรวจสอบความเสียหาย ทว่าบนป้อมปราการนั้นมีทหารหลายคนฝ่ายตรงข้ามที่ถูกจับมัดเอาไว้!อาต้า อาเอ้อและจื่อเห่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความตื่นเต้น.
"เซียนเซิง ตามที่ท่านได้ร้องขอ ตราบเท่าที่เกิดสงคราม พวกเราทั้งสามสามารถที่จะจับกุมขุนพลของศัตรูได้ ที่นี่มีขุนพลสี่คน ท่านสามารถนำพวกเขามาสอบสวนได้เลย!"อาต้าที่แสดงท่าทางตื่นเต้นเล็กน้อย.
"ทำได้ดีมาก!"จงซานที่เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม.
การได้คำชมจากจงซาน ทำให้พวกเขาทั้งสามคนเผยยิ้มออกมาด้วยเช่นกัน.
"นำพวกเขาไปยังตำหนักเจ้าเมือง ข้าจะทำการสอบสวนเอง!"จงซานกล่าว.
"ครับ!"ทหารคุ้มกันที่รับคำในทันที.
....
ตำหนักเจ้าเมือง! เหล่าแม่ทัพนายกองที่มารวมตัวกัน.
"จอมพล สงครามในครั้งนี้ พวกเราเสียหายไม่มาก เมื่อศัตรูเข้ามาในระยะ 500 เมตร ศรปราณทะลวงของพวกเราก็ถูกยิงออกไปทันที พวกเราเสียทหารไป 300 คน ทว่าฝ่ายตรงข้ามสูญเสียไป 40,000 คน."สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.
"ดูเหมือนว่าพวกเขาต้องการลอบโจมตีพวกเรา แต่กลับถูกพวกเราลอบโจมตีแทน!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.
"จอมพลมองการไกล เป็นเหมือนที่คาดการณ์เลย!"สุ่ยอู๋เหินที่กล่าวชื่นชมด้วยความเคารพ.
"ทว่า ครั้งหน้าล่ะ? หากไท่จื่อหานจิวนำกองกำลังจำนวนมากของต้ากวงมา เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราจะทำอย่างไร?"จงซานกล่าว.
"หืม?"สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วแน่น.
ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าไท่จื่อหานจิวจะสามารถเดินทางในหมอกที่เลวร้ายได้อย่างไม่มีปัญหาด้วย.
"พวกเราจะต้องทำอย่างไร?"สุ่ยอู๋เหินที่แสดงท่าทางครุ่นคิดเช่นกัน.
"เมืองแห่งนี้พวกเราไม่ต้องการแล้ว เตรียมการให้พร้อม พวกเราจะออกนอกเมืองในทันที."จงซานที่กล่าวด้วยความมั่นใจ.
"ออกนอกเมือง จอมพล สภาพแวดล้อมเลวร้ายไม่สามารถจับทิศทางได้ไม่ใช่รึ?"เจ้าฉวนที่กล่าวออกมาทันที.
"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องนี้ต้องขอบคุณไท่จื่อหานจิว ที่ได้บอกความลับนี้ และยังแจ้งต่อเหล่าขุนพลของพวกเขาอย่างคาดไม่ถึง."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"หืม?"เจ้าฉวนที่ไม่เข้าใจนัก.
"โปรดวางใจ ข้าบอกว่าสามารถออกไปได้ ย่อมสามารถออกไปได้! สุ่ยอู๋เหิน เจ้าฉวน หลิวอู๋ซ่าง เจ้าไปเตรียมการให้กองกำลังของพวกเราทั้งหมด หาเชือก พร้อมกับจับมันเอาไว้ พรุ่งนี้ตอนเช้า พวกเราจะออกนอกเมืองกัน!"จงซานกล่าว.
"รับทราบ!"ทุกคนที่ตอบรับในทันที ก่อนที่จะออกไปสั่งการเหล่ากองทัพทั้งหมดอย่างรวดเร็ว.
"จอมพล ท่านสามารถอัญเชิญแมงเม่าได้อย่างงั้นรึ?"จื่อเห่าที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยความสงสัย.
"ไม่ใช่ข้า แต่เป็นเจ้า!"จงซานที่จ้องมองไปยังจื่อเห่าด้วยรอยยิ้ม.
"ข้า?"จื่อเห่าที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ถูกแล้ว ตราบเท่าที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่เปิดเชาว์ปัญญาจิตวิญญาณ ก็สามารถนำทางได้ เจ้าอัญเชิญหมาป่าเหล่านั้นได้ และนำพวกเราออกไปข้างนอกได้!"จงซานที่กล่าวด้วยความมั่นใจ.
"ใช่แล้ว!"ดวงตาของจื่อเห่าที่เบิกกว้าง เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันที.
หนึ่งเดือนถัดมา สนามรบของต้ากวง.
หมอกหนาที่ปกคลุมพื้นที่ด้านหน้าทุกทิศทุกทาง ซึ่งมีคนสี่คนที่ยืนอยู่ด้านหน้า.
ฟ่านอี้พินที่ยืนอยู่ด้านหลังของต้าเสวียนอ๋อง และยังมีสาวน้อยที่น่ารักยืนอยู่ข้าง ๆ ต้าเสวียนอ๋องเช่นกัน ฝั่งตรงข้ามของต้าเสวียนอ๋องนั้น มีผู้ชราผมสีขาว ใบหน้าน่าเกลียดน่ากลัว มีจุดดำเต็มไปหมดบนใบหน้าและร่างกาย พร้อมกับยืนค้ำไม้เท้าอยู่.
"อาวุโสเทียน ท้ายที่สุดท่านก็มา!"ต้าเสวียนอ๋องที่สูดหายใจลึก กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.