ตอนที่แล้วChapter 332 กองกำลังขนาดใหญ่.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 334 ถูกข้าศึกยึดได้(เสียดินแดน)

Chapter 333 สวรรค์ล่มขั้นที่ 4


เมืองต้ายวี ตำหนักเจ้าเมือง.

สระปลา ที่ตรงกลางมีศาลากลางน้ำ อี้เหยี่ยนที่ทำการให้อาหารปลา เฝ้ามองปลา เถี่ยเสวี๋ยที่ตื่นเต้นวิ่งตรงมาจากพื้นที่ไกลออกไป.

"อุปราช การบุกโจมตีของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวได้หยุดลงแล้ว!"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"อย่างไร?"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมาจ้องมองไปยังเถี่ยเสวี๋ย.

"พวกเขารุกเข้ามาไม่ได้ นี่เพราะว่าแผนการของอุปราช การตั้งรับที่หนาแน่นของพวกเขา ทัพทั้ง 15 ของต้าโหลวนั้น ไม่สามารถบุกเข้ามาได้เลย พวกเขาพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์ สามเดือนมานี้ พวกเขาไม่สามารถเคลื่อนไปข้างหน้าแม้แต่น้อย อีกหนึ่งเดือนหลังจากนี้ ทัพของเสี่ยวหวังเองก็จะเคลื่อนที่มาช่วยพวกเราอีกด้วย."เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

อี้เหยี่ยนที่เช็ดมือกับผ้า ขมวดคิ้วไปมาส่ายหน้าพลางขมวดคิ้ว.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่ขมวดคิ้วไปมาด้วยความสงสัย.

"ไม่ได้การ ไม่ได้การแล้ว!"อี้เหยี่ยนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"มีอะไรผิดปรกติอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่แสดงท่าทางสงสัย.

" 15 ทัพของพวกเขา เจ้าก็เห็นได้ว่าแม่ทัพที่นำทัพ ดูผิดปกติ จงซานหายไป กู่หลินหายไป สองแม่ทัพพิทักษ์ดินแดนหายไป คนที่นำทัพของพวกเขาเป็นแค่รองแม่ทัพเท่านั้น.

"หืม อาจจะใช่ ทว่า ด้วยการเตรียมการของอุปราช ถึงแม้ว่าจะเป็นพวกเขา เขตแดน 20 เมืองเวลานี้ พวกเราตั้งรับได้อย่างแข็งแกร่ง พวกเขาไม่มีทางโจมตีเข้ามาได้แน่."เถี่ยเสวี๋ยที่เอ่ยออกมา.

"ไม่ ไม่ถูกต้อง หากมีพวกเขา พวกเราจะต้องเสียหายมากยิ่งกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจงซาน ในสนามรบไม่เห็นเงาของเขา ข้ารู้สึกเป็นกังวลว่าพวกเขากำลังทำเรื่องอะไรลับหลังพวกเรา ข้ารู้สึกไม่ดีนัก ข้าจะเขียนจดหมายส่วนตัวส่งไปให้กับเหนือหัว ให้ฝ่าบาทระวังตัวเอาไว้ไม่ให้กระทำอะไรผลีผลาม."อี้เหยี่ยนกล่าว.

ค่ายใหญ่ของเสี่ยวหวัง.

เสี่ยวหวังที่นั่งอยู่โต๊ะบัญชาการ ทั้งสองข้างที่มีเหล่าขุนพลยืนประจำการอยู่.

เสี่ยวหวังที่อ่านจดหมาย จ้องมองไปยังเสี่ยวหยวนเฟิงและเหล่าขุนพลอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ .

"ฟู่ไสว่ อี้เหยี่ยนสามารถต้านทัพของต้าโหลวเอาไว้ได้."เสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ทว่าราคาที่พวกเขาต้องจ่ายนับว่าหนักหนาทีเดียว 60 เมือง แทบจะครึ่งหนึ่งของราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีเลย."เสี่ยวหวนเติ้งที่ส่ายหน้าไปมา.

"นี่ก็เพื่อคืนชีวิตให้กับคนใกล้ตาย!"เสี่ยวหยวนเฟิงที่กล่าว.

**起死回生 Qǐsǐhuíshēng ฟื้นคืนชีวิตให้กับคนใกล้ตาย.

"ฟื้นคืนชีวิตให้กับคนใกล้ตายอย่างงั้นรึ? เฮ้เฮ้ ยังต้องดูอีกหน่อย!"เสี่ยวหวังที่ส่ายหน้าไปมา.

"ฟู่ไสว่ พวกเราไม่เคลื่อนทัพไปตอนนี้อย่างงั้นรึ?"เสี่ยวหยวนเฟิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

父帅 Fù shuài แม่ทัพผู้เป็นบิดา.

"รออีกหนึ่งเดือน หากอี้เหยี่ยนสามารถต้าน 15 ทัพได้เหมือนก่อนหน้า พวกเราจะไปช่วย!"เสี่ยวหวังที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.

"ครับ!"เหล่าขุนพลที่ตอบรับในทันที.

.....

เมืองเทียนกง! ห้องบัลลังก์.

น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่จ้องมองไปยังรายงานเกี่ยวกับชัยชนะ ใบหน้าที่เผยยิ้มที่ค่อนข้างหายากออกมา.

"สวรรค์ได้อวยพรต้ายวีแล้ว เหนือหัว อุปราชสามารถหยุดทัพของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวไม่ให้รุกเข้ามาได้ในที่สุด!"เสนาธิการคนหนึ่งที่กล่าวแสดงความยินดี.

"เหนือหัว ศิลามิติที่ได้มาจากแผนที่ขุมทรัพย์ ทั้งกองทัพและประชาชนทั่วไป สามารถหาเจอ ตลาดของศิลามิติ ตอนนี้ฟื้นคืนมาเรื่อย ๆ แล้ว ประชาชนทั่วไปไม่เดินทางออกนอกเมืองเพื่อไล่ล่าสมบัติแล้ว ทุกอย่างตอนนี้กำลังฟื้นฟูเรื่อย ๆ  ต้ายวีของพวกเราฟื้นแล้ว ยินดีกับเหนือหัวด้วย!"เสนาธิการอีกคนที่กล่าวแสดงความยินดี.

"ยินดีกับเหนือหัวด้วย!"เหล่าขุนนางมากมายต่างก็ส่งเสียงยินดีดังอื้ออึง.

ใช่แล้ว ตอนนี้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี ยกเว้นหกสิบเมืองที่เสียไป สถานการณ์กลับมาดีขึ้นแล้ว อี้เหยี่ยนที่สามารถหยุดทัพของต้าโหลวได้ ตอนนี้ก็ยังเหลือเมืองกว่า 90 เมือง กำลังฟื้นฟู ประชาชนไม่ออกนอกเมืองอพยพหนีแล้ว ขวัญกำลังใจของทหารที่เต็มเปี่ยม กับรายงานที่พวกเขาได้รับ ทุกอย่างเวลานี้ กลับมาเป็นเหมือนเช่นเดิม ต้ายวีกลับมาทรงอำนาจอีกครั้งแล้ว!

"ดี เสนาธิการจูทำได้ดีมาก จงทำการประกาศ ให้ต้ายวีรับรู้ไปทั่วหล้า บอกกล่าวต่อประชาชน และเหล่าคนที่มีศัตรูคู่แค้นร่วมกัน ได้รู้สึกถึงความน่าเกรงขามของพวกเรา!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่กล่าวออกมาด้วยอารมณ์ที่ดีเป็นอย่างมาก.

สถานการณ์ของต้ายวีที่กลายมาเป็นยอดเยี่ยมจริง ๆ รึ? หรือว่านี้มีเพียงแค่น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่คิดเช่นนี้ แม้ว่าต้ายวีจะค้นพบศิลามิติ ทว่าศิลาวิญญาณล่ะ?ศิลาวิญญาณหายไปใหนรึ? ศิลาวิญญาณของพวกเขาสามารถกู้ยืมได้ แล้วของประชาชนล่ะ?พวกเขาเพียงแค่พบขุนทรัพย์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่ได้รับผลประโยชน์นี้ จิตใจของประชาชนฟื้นคืนจริง ๆ รึ? กับความวุ่นวายความว้าวุ่นของฝูงชนเมื่อเกิดขึ้นแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะฟื้นคืนกลับมาอย่างง่ายดาย.

ยกตัวอย่างเหล่าขุนพลป้องกันเมือง ก่อนหน้านี้พวกเขาคือผู้ภัคดีต่อราชวงศ์ ทว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์จิตใจของฝูงชนที่วุ่นวายโกลาหล พวกเขาถึงกับกล้าขัดคำสั่งทางทหาร กับการกระทำการโดยที่ไม่ได้รับคำสั่ง พวกเขาถึงกับนำกำลังไปค้นหาขุมทรัพย์ปล่อยให้เมืองหลายเมืองถูกโจมตี พวกเขาจะกลับมาอย่างงั้นรึ?แม้ว่าพวกเขาค้นพบสมบัติ การกลับมาอย่างเปิดเผยมีแต่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวเองเท่านั้น กับการขัดคำสั่งนี้เมื่อมีครั้งแรกย่อมมีครั้งที่สองและครั้งที่สาม การจะเชื่อฟังเหมือนดั่งเช่นอดีตคงเป็นไปไม่ได้แล้ว.

ประกาศที่ถูกคัดลอก ถูกแจ้งไปทั่วทั้งเมืองเทียนกงอย่างรวดเร็ว และกระจายไปยังเมืองอื่น ๆ ด้วย.

ภายในเมืองเทียนกงและเมืองอื่น ๆ ที่ทำการเฉลิมฉลองในครั้งนี้ สวรรค์ล่มขั้นที่ห้า เริ่มขึ้นแล้ว!

จู่เสิน เสนาธิการจู่ที่ทำการรับสั่งของน่าหลานเพียวเสวี๋ย เป็นผู้ทำการออกเอกสารประกาศส่งไปทั่วเมือง เทียนกง จู่เสินนั้นเป็นประมุขตระกูลจู่! แทบจะในทันทีผู้คนต่างก็นำมากล่าวถึงกันในทันที.

นี่ไม่ใช่ความคิดเห็นของน่าหลานเพียวเสวี๋ย ทว่าเป็นความคิดเห็นของประชาชนทั่วไป.

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ประชาชนทั่วไป ได้กล่าวถึงรายระเอียดดำลึกลงไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น.

เกี่ยวกับตระกูลจู่นั้น ขณะที่ตลาดมีการเปลี่ยนแปลง พ่อค้าหลายคนที่ได้วางแผนการ ปั่นราคา ผู้เยาว์ตระกูลจู่เองก็เป็นหนึ่งในนั้น พวกเขาได้รับศิลาวิญญาณเป็นจำนวนมหาศาล นั่นไม่ใช่เรื่องหลัก เรื่องหลักนั้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ศิลามิติ จวบจนตลาดล่มสลายนั้น ตระกูลจู่นั้นได้รับเงินจำนวนมหาศาล การปั่นราคาของศิลามิติขึ้นมา ทำให้พวกเขาได้กำไรมากมาย ได้รับศิลาวิญญาณมากมายนับไม่ถ้วน.

นอกจากนี้ยังมีอีก เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พวกเขาที่ปล่อยเงินกู้คิดผลกำไรทบต้นทบดอก ให้กับประชาชนทั่วไปมากมาย ทำให้ประชาชนจำนวนมหาศาลเป็นหนี้พวกเขาเป็นจำนวนศิลาวิญญาณมหาศาลเลยทีเดียว.

แอบซ่อนกัดกินอาณาจักรรึ? ไม่ ในเวลานี้ ทุกคนต่างก็ต้องเอาตัวรอด สิ่งที่ตระกูลจูทำเป็นเหมือนกับเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส? ไม่มีอะไรที่ประมุขตระกูลจู่ต้องว่ากล่าว เหล่าผู้เยาว์จึงได้กระทำการอย่างบ้าคลั่งกันเลยทีเดียว.

จู่เสินนั้นรับรู้ที่หลังในขั้นท้ายเมื่อพวกเขาเข้าร่วมเหตุการณ์จัดสรรศิลามิติแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมันได้ถลำลึกไปแล้ว ตระกูลจู่ที่เริ่มตั้งแต่ต้น ไม่สามารถถอยกลับได้ ศิลาวิญญาณที่ได้มา มากมายเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว.

กับรายระเอียดต่าง ๆ นั้นจะสามารถระมัดระวังได้เท่าไหร่ สิ่งที่พวกเขาทำแน่นอนว่ายากที่จะปกปิดเอาไว้ได้.

กับมูลค่าผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับ แม้ว่าจะระมัดระวังอย่างดี แบ่งแยกจัดสรรอย่างระเอียด ก็ไม่แคล้วต้องหลุดออกมาเผยเป็นขี้ปากของประชาชนทั่วไป.

ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีที่ต้องประสบภัยในครั้งนี้ แต่กับกลายเป็นว่าขุนนางชั้นสูง กับทำการขูดเลือดขูดเนื้อของอาณาจักรแทนรึ? หากก่อนหน้านี้จู่เสินแจ้งต่อเหนือหัว ตลาดของต้ายวีจะล่มสลายรึ? กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ประชาชนเป็นจำนวนมากที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน ล้มละลายไม่มีเงิน ประชาชนมากมายต้องอพยพหลบหนีเพราะไม่มีศิลาวิญญาณกำลังรู้สึกไม่พอใจ.

จู่เสิน!

ทันใดนั้น ประชาชนมากมายที่เต็มไปด้วยความอัดอั้น ถูกแทนที่ความรู้สึกไม่พอใจราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว ตอนนี้พวกเขาได้หันมาสนใจเรื่องของจู่เสินแทน.

หลังจากนั้นสองวัน ทันใดนั้น ก็ปรากฏใครบางคนที่ส่งฎีกาถึงราชันย์น่าหลานเพียวเสวี๋ยกับเรื่องของจู่เสิ่น กับความไม่ยุติธรรมของประชาชนที่ต้องแบกรับ เพื่อขอความเป็นธรรมกับฝ่าบาท เพื่อทวงความเป็นธรรมให้กับเมืองเทียนกง เกี่ยวกับการค้าขายในราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี.

ทันใดนั้น ตระกูลจูได้กลายเป็นศัตรูของเหล่าปวงชน สถานการณ์ย่ำแย่เป็นอย่างมาก.

ประชาชนจำนวนหนึ่งไม่รู้ว่ามาจากใหนที่ได้มาคุกเข่าที่หน้าตำหนักของพระราชวัง พวกเขาต้องการร้องเรียนให้น่าหลานเพียวเสวี๋ยลงโทษจู่เสิ่น เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับปวงชน.

เพียงแค่ไม่นาน คนได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  หลายต่อหลายคนที่ต้องการร้องเรียนเพิ่มมากขึ้น.

คนเหล่านี้ ทุกคนต่างก็เป็นลูกหนี้ของตระกูลจู พวกเขาที่ทำการยืมเงินจากตระกูลจูด้วยดอกเบี้ยมหาโหด ใช่แล้ว หากไม่เพราะตระกูลจู่ พวกเขาคงไม่ต้องยืมเงินอย่างงั้นรึ? นี่คือหายนะ.

เหล่าลูกหนี้ของตระกูลจูนั้นมีเป็นจำนวนมากพวกเขาที่รวมตัวกันประท้วง.

ประชาชนที่เพิ่มขึ้นมากขึ้นและก็มากขึ้น.

เพียงไม่นาน ฎีกาห้าฉบับที่ได้ถวายต่อน่าหลานเพียวเสวี๋ย.

นอกจากนี้ยังเกิดเหตุการณ์ผิดปรกติ มีประชาชนมากมายหลายสิบคนที่มาคุกเข่าที่หน้าพระราชวัง พวกเขาที่มาชุมนุมมากขึ้นเรื่อย ๆ นั้น ทว่าคนที่มาคุกเข่าแรก ๆ นั้น พวกเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย.

"โอหังนัก จูเสิ่น!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว.

ภายในห้องโถง เหล่าขุนนางที่พากันเงียบ!

"ฝ่าบาท เฉินรู้ว่าเรื่องนี้ได้กระทำผิดไปแล้ว ทว่าบุตรชายของกระหม่อมเป็นคนกระทำขึ้นมา เกี่ยวกับเงินกู้นั้น กระหม่อมไม่รู้เรื่องแม้แต่น้อย."จูเสินที่คุกเข่าร้องขอความเมตตา.

"ชิ จูเสิน เสนาธิการฝ่ายพิธีการ ร่วมมือกับนักเก็งกำไร สร้างหายนะให้กับตลาดต้ายวี ประชาชนมากมายบ้านแตกสาแหรกขาด ตอนนี้สร้างความขุ่นเคืองให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก ประชาชนมากมายต่างก็มาร้องเรียน คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องนี้ ต้องให้ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีถูกเจ้าทำลายลงด้วยน้ำมือเจ้าก่อนเหรอ!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่โกรธกริ้วเป็นอย่างมาก.

ในมุมมองของน่าหลานเพียวเสวี๋ย หากจู่เสินรายงานสถานการณ์ตลาดด้วยความจริง ไม่ต้องถึงมืออี้เหยี่ยนด้วยซ้ำ เพียงเท่านี้ก็มองเห็นความผิดปรกติ ก่อนที่ต้ายวีจะล่มสลาย  60 เมือง ก็ไม่จำเป็นต้องสูญเสียไป!

ก่อนหน้านี้ที่อี้เหยี่ยนจะจากไป ได้กล่าวว่าอย่าได้สร้างความไม่พอใจให้กับฝูงชน เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอน!

"ให้คนเข้ามา เอาตัวจู่เสินไป!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่ตะโกนออกไปด้วยความโกรธเสียงดังสนั่น.

"ครับ!"องค์รักษ์จำนวนหนึ่งที่เร่งรีบเข้ามาจับตัวจู่เสิ่น.

"เหนือหัว เฉินผิดไปแล้ว ขอให้ฝ่าบาทเมตตาด้วย!"จู่เสินที่ตะโกนเสียงดังขอความเมตตา.

อย่างไรก็ตาม น่าหลานเพียวเสวี๋ยในเวลานี้โกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมากไม่รับฟังใครทั้งนั้น.

"ชิ เมตตาอย่างงั้นรึ? ข้าไม่เพียงแค่กุดหัวเจ้าเท่านั้น ข้ายังจะสังหารตระกูลของเจ้าเก้าชั่วโคตร ให้เป็นตัวอย่างกับการกระทำในครั้งนี้ของเจ้า!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่ตะโกนเสียงดัง.

"ไม่!!!"จู่เสินที่ตะโกนะเสียงดัง.

ทว่าตอนนี้องค์รักษ์ได้ลากตัวของเขาออกไปแล้ว.

"ชิ!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่สะบัดแขนเสื้อ ก่อนที่จะจากไปจากห้องโถง.

ภายในห้องโถงนั้น เหล่าขุนนางคนอื่น ๆ ไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง! ทุกคนได้แต่ก้มหน้ารอคอยให้น่าหลานเพียวเสวี๋ยจากไป.

จู่เสิ่นถูกกุดหัว บนลานประหารกลางเมือง รวมทั้งตระกูลจู่เก้าชั่วโคตร รวมเป็นคน 400 คนที่ต้องถูกกุดหัวไปพร้อมกัน ในการกระทำในครั้งนี้.

คนที่มาชมการประหายในครั้งนี้! มีคนที่เป็นหนี้ของจู่เสิน ที่ตบมือเสียงดังสนั่นด้วยความยินดี!

เสียงปรบมือเสียงดังก้อง แน่นอนว่าคนเหล่านี้เป็นจงซานที่จัดเตรียมเอาไว้.

จูเสิ่นตายแล้ว! ถูกสังหารเก้าชั่วโคตร ใครจะเป็นรายต่อไป?

เหล่าขุนนางในเวลานี้ มีไม่น้อยเลย ที่เข้าร่วมเหตุการณ์ศิลามิติ ใครเล่าจะไม่กลัว? ถึงจะไม่มีคนรู้ หากแต่พวกเขารู้แก่ใจดี ประชาชนส่วนมากไม่มีใครจริง ๆ รึ? ทว่าตั้งแต่แผนการสวรรค์ล่ม จงซานก็เฝ้าเรื่องราวมาตลอด ส่งคนมาเก็บหลักฐานเอาไว้อย่างเหลือเฟือ.

เหตุการณ์ของจู่เสิน ย่อมทำให้ขุนนางอื่น ๆ อกสั่นขวัญหาย หวาดผวา ว่าเรื่องของตัวเองจะถูกเปิดเผยเช่นกัน.

จู่เสินเก้าชั่วโคตร ถูกกุดหัวจนหมด!

ถูกลงโทษ ด้วยการสร้างความไม่พอใจให้กับฝูงชน อย่างก็ตาม ความโกรธเกรี้ยวของฝูงชนนั้นมีมากมาย ด้วยการวางหมากของจงซานที่ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว.

ห้องโถงตระกูลขุนนางตระกูลหนึ่ง ที่กำลังปรึกษาหารือเกี่ยวกับธุรกิจอยู่.

"ประมุข ท่านประมุขไม่ได้การแล้ว ท่านโปรดดูข้อมูลเกี่ยวกับการค้าในนี้ด้วย!"บ่าวรับใช้ที่นำแผ่นริ้วหยกส่งให้กับประมุข ของตระกูลซ่าง.

ประมุขตระกูลซ่างดวงตาเบิกกว้างเมื่อตรวจสอบแผ่นริ้วหยก.

"บิดา มีอะไรอย่างงั้นรึ?"

"ใช่มี ข่าวดีอะไร?"

ภายในห้องโถงทุกคนต่างก็สงสัย ประมุขที่วางแผ่นริ้วหยกลงเบา ๆ  ถอนหายใจลึก ดวงตาหลับลงปิดแน่นนั่งลงบนเก้าอี้.

ทุกคนที่เข้ามาห้อมล้อม! ใบหน้าของแต่ละคนไม่ใคร่ดีนัก เต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจ.

"มันเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?"

"เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร? แน่นอนว่าจะต้องมีคน มีคนจงใจที่ต้องการเล่นงานพวกเรา หลักฐาน หลักฐานนี้ ไม่ได้ต่างจากตระกูลจูแน่ หากเป็นเช่นนี้ พวกเราจะต้องถูกกุดหัวเก้าชั่วโคตรแน่ ...."

ทุกคนที่รับรู้เรื่องตระกูลจูดี ตอนนี้เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ตัวสั่นไปตาม ๆ กัน.

หลังจากพูดคุยกันสักพัก ทุกคนที่จ้องมองไปยังประมุขตระกูล.

สูดหายใจลึก ประมุขที่ลืมตาขึ้นมาในทันที.

"บิดา ทำอย่างไรดี? "หนึ่งในนั้นที่กล่าวออกมาด้วยความร้อนรน.

ประมุขตระกูลจ้องมองไปยังทุกคน "เมืองเทียนกง ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถอยู่ได้แล้ว แจ้งไปยังทุกคนทั้งตระกูลให้เตรียมตัวอย่างระมัดระวัง ยามโหยว พวกเราจะหนีออกจากเมืองกัน!"

ยามโหย่ว (酉时) คือเวลา 17.00 น. – 19.00 น.

"ยามโหยว หนีออกจากเมืองอย่างงั้นรึ? บิดา..."ชายคนหนึ่งที่กล่าวออกมาอย่างร้อนรน.

"หรือจะให้ฝ่าบาทกุดหัวทั้งตระกูล ต้องหนีให้เร็วที่สุด ตอนนี้หากไม่หนี หลังจากนี้จะไม่มีโอกาสแล้ว ใต้หล้านี้ จะไม่มีที่ให้พวกเราซ่อนตัวเชียวรึ? ไปเตรียมตัว!"ประมุขที่ออกคำสั่งในทันที.

"ครับ!"ใบหน้าของทุกคนที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด.

เกี่ยวกับสถานการณ์ของตระกูลซ่าง นั้น เหล่าตระกูลขุนนางอื่น ๆ เองก็ได้รับหลักฐานมาด้วยเช่นกัน มีหลายตระกูลเหมือนกันที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้พวกเขาตระหนักได้ทันทีว่าพวกเขาจะต้องถูกลงโทษกุดหัวเก้าชั่วโคตร.

หนี! ประมุขหลายตระกูล ที่ตัดสินใจเหมือน ๆ กัน หนี พวกเขาที่เผ่นหนีในคืนนั้นเลย.

เช้าวันถัดมา ในห้องโถงพระราชวัง น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่เห็นขุนนางเพียงไม่กี่คน ก็สงสัยเล็กน้อย ทว่าเพียงไม่นานเขาก็พบปัญหาเข้าอย่างรวดเร็ว.

กลัวความผิดจนต้องหนีไปอย่างงั้นรึ?

"หนี หนีไปแล้วเหรอ! เจ้าพวกขยะ พวกแมลงกัดกินอาณาจักร!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่โกรธเกรี้ยวกล่าวออกมาเสียงดัง.

เหล่าขุนนางที่เหลืออยู่ไม่กล้ากล่าวสิ่งใด ด้วยเกรงว่าจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม.

น่าหลานเพียวเสวี๋ย นับว่าเป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง เหล่าขุนนางเวลานี้ ไม่กล้าที่จะเสนอความเห็นใด รอคอยให้ใจเย็นลงก่อน ไม่กล้าที่จะหาเรื่องให้กับตัวเอง เวลานี้ไม่สามารถทำอะไรได้ ทว่าเหล่าคนที่หลบหนีไปนั้น ย่อมต้องถูกลงโทษเป็นแน่.

น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่กำลังก้าวออกนอกห้องโถง ก่อนที่จะหยุดในทันที กล่าวต่อขันทีด้านหลัง "ไปเตรียมการให้ข้า เหล่าคนผู้ทรยศ ที่ร่วมมือกับฝ่ายศัตรูต้องได้รับการลงโทษ ออกประกาศจับคนเหล่านั้นไปทั่วต้ายวีทันที!"

"รับด้วยเกล้า!"ขันทีที่รับคำสั่งในทันที.

เหล่าข้าราชบริพารรึ? เจ้าหน้าที่ของทางการ ไปจนถึงสามัญชน กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ พวกเขาไม่สามารถปล่อยผ่านไปได้ นี่เป็นเรื่องราวที่พวกเขาต้องนำมาตัดสินใจ รวมถึงเหล่าตระกูลพ่อค้า กับการอาศัยอยู่ในอาณาจักรแห่งนี้.

อย่างไรก็ตาม น่าหลานเพียวเสวี๋ยนั้นคงไม่ได้นึกถึง กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ เหล่าขุนนางระดับสูง ที่ทุกคนต่างจับตามอง กับสิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาย่อมมองออกว่าเกิดเรื่องที่ไม่สู้ดีนักในราชสำนัก.

กลุ่มคนที่เป็นเสาหลักของอาณาจักร เป็นกระดูกสันหลังของต้ายวี ต่างก็ตัดสินใจอพยพหลบหนีเป็นการใหญ่ ไม่จำเป็นต้องให้คนของจงซานชี้นำ ประชาชนทั่วไปย่อมคาดเดากันได้.

อย่างไร?เมืองเทียนกง?ฝ่าบาท? ทำไมเหล่าขุนนางมากมายถึงได้อพยพหลบหนี? เหล่าตัวตนที่เป็นเสาหลักของอาณาจักร เป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ของการบริหารของราชวงศ์ต้ายวี.

พวกเขาเป็นกบฏจึงได้หลบหนีอย่างงั้นรึ? ไม่ได้มีเพียงแค่คนเดียว ทว่ามีเป็นจำนวนมาก เกือบทุก ๆ คน!

เกิดสิ่งใดขึ้น?เมืองเทียนกงเกิดสิ่งใดขึ้น? เหนือหัวกำลังจะพ่ายแพ้อย่างแน่นอน จึงได้เริ่มไล่ล่าสังหารขุนนางของตัวเองอย่างงั้นรึ?

แน่นอน เหล่าคนที่หลบหนีย่อมไม่ปริปากพูดความจริง ไม่มีใครกล่าวโทษตัวเองอย่างแน่นอน เสนาธิการฝ่ายพิธีการ จู่เสินถูกสังหารเก้าชั่วโคตร บ่งบอกว่าราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีจบแล้ว จบอย่างสมบูรณ์ น่าหลานเพียวเสวี๋ยยอมรับความพ่ายแพ้ เริ่มไล่ล่าสังหารเหล่าขุนนางของตัวเองแล้ว!

ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีกำลังจะแพ้อย่างงั้นรึ?

เหล่าผู้คนต่างก็ลือไปต่าง ๆ นา ๆ  ไม่ต้องบอกเลยว่ามีคนของจงซานที่ออกมาปั้นน้ำเป็นตัวอีกหลายเรื่องอีกด้วย.

หนึ่งเดือนถัดมาหลังจากนั้น!

เมืองต้ายวี ตำหนักเจ้าเมือง ห้องโถงกลาง.

เถี่ยเสวี๋ยที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นวิ่งเข้ามาในห้องโถง "อุปราช ข่าวดี พวกเราได้รับข่าวดี เสี่ยวหวัง ก่อนหน้านี้ เสี่ยวหวังส่งสารมา ตอนนี้ได้ยกทัพมาเสริมแล้ว!"

เถี่ยเสวี๋ยที่เต็มไปด้วยความดีใจ ท้ายที่สุดพวกเขาก็หายใจได้โล่งคอ ต้ายวีเวลานี้ปลอดภัยแล้ว ขณะที่เถี่ยเสวี๋ยได้รับข่าวนี้ เขาเร่งรีบเข้ามารายงานอุปราชอย่างเร่งด่วน.

แต่ทันทีที่เข้ามาในห้องโถง ก็เห็นอุปราชอี้เหยี่ยนถึงกับหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือออกมา หลังจากที่ได้รับข่าวรายงานเกี่ยวกับเรื่องราวภายในเมืองเทียนกง.

เกี่ยวกับความตื่นเต้นดีใจของเถี่ยเสวี๋ยนั้น อี้เหยี่ยนไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย.

"อุปราช?"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวหยั่งเชิง.

"จบแล้ว สวรรค์ล่มแล้ว!"อี้เหยี่ยนที่วางจดหมายลงด้วยท่าทางห่อเหี่ยวใจ.

"อุปราช เกิดอะไรขึ้นอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

เถี่ยเสวี๋ยที่รับจดหมายดังกล่าวมาอ่านในทันที.

"นับว่าเป็นข่าวดี ฝ่าบาทได้สังหาร พวกขยะ ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ใจ นี่เป็นเรื่องที่ดีแล้วไม่ใช่รึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่จ้องมองจดหมายด้วยความตื่นเต้น.

อี้เหยี่ยนจ้องมองไปยังเถี่ยเสวี๋ย ส่ายหน้าไปมา ฝืนยิ้มออกมา เขาไม่รู้อะไรเลยเหรอ!

"อุปราช มีอะไรอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวสอบถามด้วยความสงสัย.

"ขยะรึ? ก่อนหน้านี้ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ทว่าไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่เวลานี้แน่นอน!"อี้เหยี่ยนกล่าว.

"ทำไมล่ะ?"เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวด้วยความสงสัย.

"เพราะว่าคนเหล่านี้ เป็นขุนนางที่กลายเป็นหมากให้กับราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว พวกเขาไปที่ใหนก็จะบอกกล่าวต่อคนทั่วหล้า ว่าเมืองเทียนกงได้ตกอยู่ในมือของศัตรูแล้ว."อี้เหยี่ยนที่เอ่ยด้วยความไม่พอใจ.

"ไม่มีทาง พวกเขาจะพูดอย่างงั้นรึ?"เถี่ยเสวี่ยกล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"พวกเขาไม่ ทว่าจงซานทำแน่นอน!"อี้เหยี่ยนที่อัดอั้นต้องการกล่าวออกมาเสียงดัง.

"จงซานรึ?ไม่ ไม่มีทาง! ทว่า ที่นี่ก็ยังปกติดี!"เถี่ยเสวี๋ยกล่าว.

"ปรกติอย่างงั้นรึ?เฮ้เฮ้ ที่นี่ปรกติอย่างงั้นรึ? ทว่า เวลานี้มีข่าวลือกระจายออกไปแล้ว ว่าพวกเราเสียหายไป 60 เมือง กระจายไปทั่วทั้งเมืองอื่น ๆ ที่เหลือ เหล่าขุนนางมากมายนับไม่ถ้วนต่างก็พากันอพยพหลบหนี เจ้าคิดว่าอะไร? จงซานได้ปล่อยข่าวลือไปทั่วสารทิศแล้วว่าเมืองเทียนกงตกอยู่ในมือของศัตรูเรียบร้อยแล้ว ราชวงศ์ต้ายวีนั้นไม่มีอยู่แล้ว เหล่าเจ้าเมืองที่เหลืออยู่พวกเขาจะทำอย่างไร กับข่าวลือนี้ หลังจากที่ได้ยิน ภายในใจของพวกเขาก็เริ่มหวาดหวั่นเปราะบาง ยิ่งข่าวลือหนาหูขึ้นเรื่อย ๆ  เหล่าขุนนางของเมืองเทียนกงที่หลบหนีลี้ภัย ยิ่งแสดงให้เห็นว่าเมืองเทียนกงนั้นตกอยู่ในมือศัตรู พวกเขาจะไม่เชื่อได้อย่างงั้นรึ? แล้วหากว่าคนของราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว เสนอนิรโทษกรรมให้กับพวกเขาล่ะ....!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางหวาดหวั่น.

เถี่ยเสวี๋ยที่ส่ายหน้าไปมา จ้องมองไปยังอี้เหยี่ยนด้วยความงงงวย "ไม่มีทาง จะบังเอิญเพียงนั้นอย่างงั้นรึ?"

"มันเป็นแผนการ จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่ เพราะว่ามันถูกวางแผนไว้แล้ว หากจะโทษก็โทษที่ราชันย์องค์แรก ไม่รู้จักสั่งสอนเหนือหัวผู้นี้!"อี้เหยี่ยนแทบกลายเป็นบ้าคลั่ง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด