Chapter 320 ความร้ายกาจของดาบปิศาจขั้นที่ 9
30 คน ตอนนี้ถูกกักเอาไว้ในม่านสีแดง ทว่ายังบางคนก็สามารถเคลื่อนที่ได้ ทว่าเป็นไปด้วยความยากลำบาก.
ตรงตำแหน่งทิศตะวันตกตอนนี้มังกรทองขนาดใหญ่ ที่เลื้อยไปมาด้านนอก ร่างกายที่ปะทุพลังสีทองออกมา ปราณสีทองมีพลังที่น่าเกรงขามไม่น้อย.
ทว่าปราณสีทองกับไม่สามารถผ่าร่างสีโลหิตลงมาได้.
มังกรทองยักษ์ก็คือจื้อจุ้นมังกรสวรรค์นั่นเอง ตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว กระแทกไปยังทะเลโลหิต เวลานี้ทะเลโลหิตกำลังควบแน่นตัวเองกลายเป็นรูปร่างขึ้นมา ร่าง ๆ หนึ่งมีมีขนาดรัศมีร้อยเมตร ท้ายที่สุดก็กลายเป็นศีรษะขนาดใหญ่ขึ้น เป็นศีรษะที่เชื่อมกับทะเลโลหิต พร้อมกับค่อย ๆ ปรากฏเป็นเส้นโลหิตกระจายตัวไปรอบ ๆ ดูน่าเกียจน่ากลัวเป็นอย่างมาก.
"โฮกกกกก!"
ร่างโลหิตที่คำรามเลียนแบบตามจื่อจุ้นมังกรสวรรค์.
"โฮกกกกก!"
ร่างโลหิตกำลังศึกษาการคำรามอยู่.
เหมือนกันเป็นอย่างมาก กับการคำรามของจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ ร่างโลหิตที่ทำการเลียนแบบเขาในทุก ๆ ท่วงท่า.
จื่อจุ้นมังกรสวรรค์นั้นคือมังกรผู้สูงศักดิ์ ส่วนอสุรกายปิศาจที่มีแต่ศีรษะ ดังนั้นการโจมตีของร่างอสุรกายโลหิตจึงไม่ได้ผล ทว่ามันได้สร้างคลื่นพลังจากการคำรามกับพุ่งโจมตีไปยังกลุ่มของผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้คนอื่น ๆ แทน.
ด้วยการเลียนแบบการคำรามของมังกร สร้างการโจมตีด้วยเคลื่อนเสียงยิงออกไปยังกลุ่มผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ เดิมทีก็ยากที่จะป้องกันอยู่แล้ว ทว่ามันได้เพิ่มพลังโจมตีอีกหลายเท่า เพียงแค่คลื่นเสียงของมันที่ปล่อยออกไปก็เกิดเรื่องสยองขวัญขึ้นมาในทันที ร่างของผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่บิดเบี้ยวระเบิดออกมาในทันที.
การโจมตีของร่างโลหิตนั้น รุนแรงเป็นอย่างมาก.
ผู้ฝึกตนคนดังกล่าวถูกสูบโลหิตออกมาอย่างรวดเร็ว จากนั้นวิญญาณเทวะของพวกเขาที่พยายามหนี ทว่าหลังจากที่ร่างโลหิตปล่อยเคลื่อนโลหิตออกไปอีกรอบ ดวงวิญญาณเทวะก็ถูกร่างโลหิตทำลายไปในทันทีเช่นกัน.
ทุกคนที่หวาดผวา กำจัดอสุรกายปิศาจอย่างงั้นรึ? ในเวลานี้นอกเหนือจากจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ ใครที่จะกล้าคิดสังหารอสุรกายปิศาจล่ะ?
น่าหวาดกลัวนัก อสุรกายปิศาจ เติบโตเร็วเกินไปแล้ว พลังของมันเพิ่มขึ้นเร็วจนเกินระดับ เหนือกว่าระดับจักรพรรดิแท้ มันไม่ได้หวาดกลัวระดับจักรพรรดิแท้แล้ว ทั้งที่ผ่านมาแค่ครึ่งปีเท่านั้น ใต้หล้าแห่งนี้ใครจะเป็นคู่มือมันได้กัน? เวลานี้มันมีพลังที่ต่อต้านสวรรค์แล้วไม่ใช่รึ?
ผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ถูกมันสังหารได้อย่างง่ายดาย เวลานี้ภายในใจของทุกคนที่หนักอึ้ง มีเพียงแค่จงซาน ที่รู้สึกเสียดาย.
ช่างน่าเสียดายนัก เจ้าอสุรกายปิศาจเจ้าไม่ต้องการดูดซับดวงวิญญาณเทวะ ทำไมเจ้าไม่มอบให้ข้า เสียของชะมัด!
อย่างไรก็ตาม การอยู่ที่ตรงนี้ก็ไม่ใช่แผนที่ดีนัก แม้ว่าคำกล่าวที่จินฉานกล่าว่าจีวรไหมม่วงนั้นจะใช้การได้ดี ทว่าจงซานเองก็ไม่ได้เชื่อใจจินฉานมากมายนัก! อสุรกายตนนี้อาจจะมีวิธีโจมตีเขาก็ได้ หรือบางทีเขาจะปลอดภัย ทว่าอาต้าและจื่อเห่าล่ะ?
เขาจะต้องหาทางออกในเรื่องนี้.
ทำอย่างไรดี?
จงซานที่ชำเลืองมองออกไป พลังจิตที่หน้าผากที่แผ่พุ่งไปยังดวงตาในทันที.
พร้อมกับนำดาบยักษ์ออกมา.
อาต้าและจื่อเห่า แม้ว่าจะกระวนกระวานใจ ทว่าเห็นจงซานที่นำดาบวิเศษระดับสามออกมา ก็ทำให้ประหลาดใจเช่นกัน.
ดวงตาของจงซาน ที่มองกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพี ฉีกกระชากโชคชะตาจ้องมองหาร่องรอย กฎเกณฑ์ที่ปรากฏขึ้นและหายไปเป็นระยะ ๆ .
ที่ทิศทางหนึ่งปราณดาบขนาด 30 เมตรก็พุ่งออกไป อย่างหนักหน่วงรุนแรง.
ยกเว้นจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ คนอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในม่านพลัง ดังนั้นจึงสามารถมองเห็นประกายแสงปราณดาบของจงซานได้.
ทุกคนที่มองเห็นจงซาน ปล่อยปราณดาบขนาดสามสิบเมตรออกมา ทุกคนต่างเบ้ปากให้ กำลังคิดอะไรอยู่.... ต้องการจะแสดงอะไร?
ไม่มีใครให้ค่าจงซานแม้แต่น้อย.
บัญญัติสวรรค์! วายุเฉือน!
ภายใต้คมดาบ กระแสลมที่ปิดกั้นต่างเปิดออก ม่านโลหิตที่แตกสลายกลายเป็นผงไปตามสายลม.
อาต้าและจื่อเห่าที่เผยสีหน้าตื่นตะลึง ด้วยการที่จงซานเปิดช่องขึ้น.
พวกเขาสามารถเคลื่อนที่ไปตามช่องที่เปิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว.
เกิดเป็นช่องว่างขึ้น! ทุกคนก็ตะลึงงันสั่นไปถึงจิตวิญญาณเช่นกัน.
หลาย ๆ คนที่เห็นสถานการณ์ดังกล่าว พวกเขาที่ตกใจที่จงซานสามารถเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้อีก.
ทะเลโลหิตที่กักขังพวกเขา แม้แต่เหล่าผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ยังเคลื่อนที่ไปด้านหน้าอย่างยากลำบาก ทว่าหลังจากที่จงซานปล่อยปราณดาบออกมา ทำให้อาต้าและจื่อเห่าสามารถเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้อย่างรวดเร็ว.
หลังจากที่อสุรกายปิศาจและจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ที่ต่างก็คำรามเข้าปะทะกัน ตอนนี้ต่างก็หยุดนิ่ง ที่ด้านหน้าของอาต้า มีการโจมตีทางพลังวิญญาณอยู่!
"โฮกกกกก!"
ในเวลาต่อมา คนทั้งคู่ที่คำรามออกมาพร้อม ๆ กัน.
จื่อจุ้นมังกรสวรรค์ที่ระเบิดประกายสีทอง หางมังกรที่สะบัดอย่างรุนแรง ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างโคลนของมังกรสวรรค์ปรากฏขึ้นมาสิบร่าง กงเล็บมังกรเริ่มพุ่งฉีกร่างโลหิตของอสุรกายปิศาจ.
ทว่าร่างโลหิตนั้นไม่มีรูปร่างที่แท้จริง แม้ว่าจะถูกฉีกกระชากก็กลับคืนร่างดั้งเดิมอยู่ดี แต่แล้วร่างโคลนทั้งสิบก็ระเบิดตัวเอง ม้วนกวาดไปยังร่างโลหิต ฉีกกระชากร่างระเหิดสลายร่างของอสุรกายโลหิตไปเล็กน้อย..
"ซี่ ๆ ๆ ๆ ๆ "
พลังที่แข็งแกร่งของร่างโลหิตจำลองที่แยกออกมา พริบตาเดียวนั้นระเบิดออกเป็นเสี่ยง ๆ .
ร่างแยกโลหิตที่แตกสลายระเหิดไป อสุรกายปิศาจกลายเป็นโกรธเกรี้ยว มันได้กระจายโลหิตออกไปทุกทิศทุกทาง เหล่าผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ที่ซุ่มอยู่ถูกโจมตีไปในทันที.
ที่มุมหนึ่งนั้นเองก็ปรากฏร่างโลหิตเกิดขึ้น ซึ่งม่านพลังของอาต้าและจื่อเห่าตอนนี้กำลังสั่นไหวไปมา คนทั้งคู่รู้สึกเมื่อยล้า อย่างไรก็ตาม อสุรกายปิศาจตนนี้แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นเพียงพลังบางส่วนของมันก็ยังคงแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.
สองผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ ทำไมไม่รู้ พวกเขาคาดไม่ถึงเลยว่าจงซาน ที่ระดับแกนทอง กลับสามารถทนอยู่ได้ เป็นเรื่องที่ไม่สามารถเข้าใจได้เลยแม้แต่น้อย.
จงซานที่จ้องมองไปด้านหน้า ร่างโลหิตที่ดูลึกล้ำซับซ้อน.
หลังจากที่ทะเลโลหิตเข้าโจมตีเขา จงซานก็พบโอกาส.
ดาบของเขาที่ยกขึ้น เตรียมที่จะฟันออกไป.
กายาเทพอสูร! ระดับสี่!
บัญญัติสวรรค์! คลื่นตัด!
จงซานที่ใช้พลังเต็มที่ ใช้พลังสายฟ้าทั้งหมดที่มีปลดปล่อยออกไป.
"แฮก ๆ ๆ ."
ราวกับผืนผ้าที่ถูกฉีก เกิดร่องรอยบนทะเลโลหิตที่ถูกกรีดยาวออกไปในทันที พุ่งตรงไปด้านหน้าไกลออกไปอย่างบ้าคลั่ง.
ก่อนที่จะไปหยุดที่ร่างโลหิตของอสุรกายปิศาจที่กำลังต่อสู้กับจื่อจุ้นมังกรสวรรค์อยู่.
ร่างโลหิตขนาดใหญ่ที่หยุดนิ่งไปในทันที.
"โฮกกกกก"
อสุรกายปิศาจตัวเล็กที่ระเบิดเสียงเจ็บปวดทรมาน.
ร่างของจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ก็กำลังคำรามลั่นโจมตีออกมาด้วยเช่นกัน ทุกคนต่างก็จ้องมองออกไปยังรอยแยกซึ่งเห็นแสงตะวันที่ส่องลงมา.
อาต้าและจื่อเห่านำจงซานพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว.
เหล่าผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ที่อยู่ด้านใน ขณะที่เห็นแสงตะวันส่องลงมา พวกเขาที่ตื่นเต้น เร่งรีบโจมตีสร้างช่องว่าง ก่อนที่จะพุ่งทะลวงออกมาอย่างรวดเร็วเช่นกัน.
จงซานออกมาด้านนอกแล้ว ผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้หลายคนเองด้วยเช่นกัน ส่วนร่างหลักของอสุรกายปิศาจ เป็นของเหลว! บาดเจ็บเช่นนี้ไม่มีอะไรเลย ด้วยขนาดที่ใหญ่โตของมัน แทบจะไม่มีผลอะไรนัก.
ยังมีผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้อีกหลายคนเช่นกันที่ยังออกมาไม่ทัน ด้วยร่างของอสุรกายปิศาจแยกออกมาพริบตาเดียวเท่านั้น แต่แล้วก็ฟื้นฟูกลับเช่นเดิม ตอนนี้ยากที่จะมีความหวังแล้ว ไม่มีความหวังเหลืออยู่แล้ว?
จื่อจุ้นมังกรสวรรค์ยังคงเข้าโจมตีร่างของอสุรกายปิศาจไม่หยุดเช่นเดิม.
จงซานออกมาแล้ว ที่ด้านหลังมีผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ 4 คนที่ออกมาได้ด้วย.
สายตาทุกคู่ในเวลานี้รอบ ๆ พื้นที่ที่เห็นมีคนออกมาจากร่างของอสุรกายปิศาจได้ รู้สึกสงสัยอยู่เล็กน้อยเช่นกัน.
"โชคดีจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าจะโชคดีได้ขนาดนี้!"ที่ไกลออกไปยังหุบเขาแห่งหนึ่ง เสี่ยวหวังถึงกับต้องอุทานออกมา.
ไป๋เย่ในโรงเตี้ยมร้าง ตอนนี้ยังคงนั่งดื่มสุราคนเดียว ไม่มีทีท่าว่าจะออกมา ยังคงรอคอยอยู่อย่างเงียบ ๆ .
หลังจากออกมาได้ อาต้าและจื่อเห่าที่นำจงซานบินตรงมายังยอดเขาแห่งหนึ่ง จงซานที่กวาดตามองไปยังดาบของเขา ค่อนข้างอันตรายทีเดียว เขาได้โจมตีออกไปเต็มที่ เกือบทำให้ดาบของเขาหักซะแล้ว คุณภาพของดาบตอนนี้ นับว่าอ่อนแอเกินไป.
จงซานที่เก็บดาบ ดึงพลังจิตที่ดวงตากลับคืนหน้าผาก จงซานที่สูดหายใจยาว กับสี่จักรพรรดิแท้ที่หนีออกมาได้พร้อมจงซาน พวกเขาที่บินหนีออกไปคนละทิศคนละทาง หนีไปไกล มันเป็นเรื่องที่หวาดกลัว ทว่าเตรียมที่จะจัดการอสุรหายปิศาจอย่างงั้นรึ? แท้จริงมาให้มันสังหารต่างหาก.
"เซียนเซิง เมื่อสักครู่นับว่าโชคดีจริง ๆ !"อาต้าที่รู้สึกขอบคุณ แววตาที่รู้สึกประหลาดใจไปด้วยเช่นกัน.
เพราะว่าดาบที่จงซานโจมตีออกไปนั้น มีระดับก่อตั้งวิญญาณเท่านั้น ทว่าทำไมกัน? ทั้งที่กระบี่ระดับจักรพรรดิแท้ไม่สามารถตัดขาดแท้ ๆ ทำไมจงซานสามารถตัดได้ล่ะ? ไม่ได้การ หรือว่าเพราะอสุรกายมีรูปร่างเป็นน้ำอย่างงั้นรึ?
"อืม."จงซานพยักหน้า ไม่ได้กล่าวอะไรต่อไปยังคงมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป.
เขาสามารถตัดผ่านได้อย่างไร แน่นอนว่าคมดาบของจงซานนั้นแตกต่างออกไป เพลงดาบบัญญัติสวรรค์นั้น จับสัมผัสค้นหาจุดอ่อน ฟาดฟันกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพี.
ร่างโลหิตของอสุรกายปิศาจเอง ก็มีขนาดใหญ่มาก อย่างต่ำร่างของมันน่าจะมีรัศมีถึง 100,000 เมตร.
ร่างที่กลิ้งไปกลิ้งมาราวกับเจลลี่ สั่นไปมาเล็กน้อย ไม่ขยับไปใหน.
ร่างที่ยังคงกลิ้งไปมาของอสุรกายปิศาจนั้น ใครกล้าที่จะต่อกับมัน?
ทุก ๆ คนต่างรู้ดี หากไม่มีจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ที่ยังคงต่อสู้อยู่เวลานี้ ไม่เช่นนั้นอสุรกายปิศาจคงจะมุ่งตรงไปยังเมืองเยว่หมิงหรือเมืองเยว่ซีแล้ว.
ทุก ๆ คนต่างก็ยังคงรอผล.
ผ่านไประยะเวลาหนึ่ง จวนเจียนจะมืด.
ไม่มีใครกล้าไปใหนด้วยเช่นกัน เพราะว่าหากชนะอสุรกายปิศาจตนนี้ ไม่ต้องบอกเลยว่าอสุรกายตนนี้มีกรรมวาสนาขนาดใหน แม้ไม่เทียบเท่ากับระดับราชวงศ์สวรรค์ ทว่าก็ใกล้เคียงกับราชวงศ์ราชันย์แน่ หากมีใครสามารถล้มอสุรกายปิศาจนี้ได้ อย่างน้อยกรรมวาสนา ถึงไม่ได้กินเนื้อก็ขอให้ได้กินน้ำซุปก็ยังดี!
ขณะที่ทุกคนรอคอยอย่างอดทน บนอากาศที่ไกลออกไป ปรากฏชายในชุดสีทอง ถือดาบสีดำทมิฬขนาดใหญ่ ค่อย ๆ บินตรงมายังอสุรกายปิศาจ.
"เซียนเซิง นั่นไป๋เย่!"อาต้าที่เอ่ยออกมาอย่างรวดเร็ว.
เป็นไป๋เย่ ไป๋เย่ที่ค่อย ๆ บินตรงมายังอสุรกายปิศาจ.
หลาย ๆ คนไม่มีใครรู้จักไป๋เย่ ไม่รู้ว่าเขาผู้นี้เป็นใคร ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ แส่หาความตายอย่างงั้นรึ?
ไป๋เย่ที่มาลอยตัวไม่ไกลออกไปบนอากาศ เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.
ทว่าอสุรกายปิศาจนั้นกับสัมผัสถึงความเป็นปฏิปักษ์ได้ ทันใดนั้นมันได้สร้างศีรษะโลหิตขึ้น ร่างโลหิตที่พุ่งออกไป คำรามลั่นใส่ไป๋เย่.
"โฮกกกกกก"
ร่างโลหิตที่คำรามลั่น ต้องการให้ไป๋เย่ถอยห่างออกไป!
ใบหน้าของไป๋เย่เต็มไปด้วยความเย็นชา มือขวาที่กุมดาบยัก ก่อนที่ที่จะสะบัด ฟันออกไปยังร่างของอสุรกายปิศาจเสียงดังสนั่น.
ไร้ซึ่งปราณดาบ ไม่เห็นแม้แต่กลิ่นอายดาบ ไม่มีปราณดาบที่แผ่ออกมา จากตำแหน่งจงซาน เห็นแค่เพียงใบดาบที่พุ่งออกไป.
การฟันออกไปหนึ่งดาบ ราวกับว่าสวรรค์และปฐพีถูกเฉือนออกจากกัน พลังของสวรรค์ที่ตัดผ่าน แยกร่างของอสุรกายปิศาจออกเป็นสองส่วน.
ทรงพลัง น่าหวั่นเกรงจนน่าประหลาดใจ นี่คือพลังของสวรรค์ ที่ตัดแบ่งผืนโลกได้.
หรือว่านี่คือความสามารถของดาบปิศาจระดับเก้ากัน? ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ต่างสูดหายใจลึก นี่คือพลังที่ไร้ผู้ต้านทาน เป็นความแข็งแกร่งยากจะมีใครเทียบได้.
สายตาของทุกคนที่รับรู้ได้ถึงความลึกลับ และพลังที่ยิ่งใหญ่ได้.
ก่อนหน้านี้ทุกคนที่แสดงท่าทางเหยียดหยันไป๋เย่ ทว่าตอนนี้ถึงกับต้องอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก.
นี่คือการโจมตีที่น่าเกรงขาม สร้างความตื่นตะลึงให้กับทุกคนที่เห็นในทันที.