Chapter 318 หาผลประโยชน์จากสถานการณ์
ชายคนดังกล่าวที่อยู่ในหลุม อาต้าและจื่อเห่าที่หยุดเขาไม่ให้ถอนพิษ.
หมอกหงหลวนที่สามารถทำให้แม้แต่เทพธิดาจื่อซวินไร้ทางต้าน เช่นเดียวกันชายคนดังกล่าวนี้ก็ยากจะต้านทานได้เช่นกัน หนำซ้ำเวลานี้ชายคนดังกล่าวพยายามโจมตีจงซานหลายต่อหลายครั้ง ด้วยการโจมตีของจงซานในระยะปะชิด ทำให้ผลของมันเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า.
ทุกครั้งที่จีวรไหมม่วงโต้กลับ จงซานก็ปล่อยหมอกหงหลวนใส่ชายคนดังกล่าวในทุกครั้ง.
หมอกหงหลวนในเวลานี้ ไร้สี ไร้กลิ่น แม้ว่าก่อนหน้านี้มันจะมีสีชมพู แต่เวลานี้มันไร้ซึ่งสีและรูปร่างไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตา แม้แต่ชายคนดังกล่าวก็ยังไม่สามารถตรวจสอบได้.
เมื่อรับรู้ ชายคนดังกล่าวก็ติดพิษที่ลึกล้ำไปแล้ว.
ยิ่งเขาติดพิษมากเท่าไหร่ อาต้าและจื่อเห่าก็กลายเป็นงานง่ายในทันที.
ท้ายที่สุด ก็ไม่จำเป็นต้องออกแรงมากมาย ชายคนดังกล่าวก็ถูกอาต้าและจื่อเห่ากำราบ.
ร่างของเขาไร้ซึ่งพลังต่อต้านใด ๆ ไม่ต่างจากลูกไก่ในกำมือ ไร้เรี่ยวแรงอยู่ต่อหน้าจงซาน.
"จอมพล จะเอาเขามาใช้งานอย่างงั้นรึ?"เจ้าฉวนที่สอบถามพลางถอนหายใจ.
"เขาเป็นเพียงแค่วัตถุดิบ ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าเองก็ควรจะเห็นว่าชายคนนี้เป็นคนดุร้ายเพียงใหน เขาควรที่จะถูกลงทัณฑ์แล้ว ใช้งานอย่างงั้นรึ? แม้แต่ความตายยังไม่เพียงพอต่อการกระทำของเขาเลย."จงซานที่หรี่ตาจ้องมอง.
"ครับ!"เจ้าฉวนที่ถอนห่างออกมา.
จงซานนำกระโจมออกมาจากกำไลเก็บของ.
ก่อนที่จะนำชายคนดังกล่าวเข้าไปด้านใน ทุกคนที่คอยคุ้มกันด้านนอก.
จื่อเห่าที่เข้าไปกับจงซาน เขาที่สังหารชายดังกล่าว นำดวงวิญญาณเทวะออกมาส่งมันเข้าไปในร่างของจงซาน.
จื่อเห่านั้นกระทำการรวดเร็วเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะเห็นดวงวิญญาณเทวะของชายคนดังกล่าวเข้าไปในร่างของจงซาน เป็นเรื่องที่น่าหวั่นเกรงเป็นอย่างมาก ทว่าจงซานกลับแปลกยิ่งกว่า สามารถกำราบวิญญาณเทวะดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วเลยรึ?
จื่อเห่าไม่รู้ว่าจงซานมีแปดหางแห่งจุดจบ หรือถึงรู้ ก็ยังทำให้จื่อเห่าต้องตื่นตะลึงอยู่ดี.
ไร้ผล ดูเหมือนว่าพลังฝึกตนของเขาจะเพิ่มขึ้น ทว่าก็ยังไม่เพียงพอให้เขาทะลวงผ่านระดับ.
อย่างไรก็ตาม จงซานก็ยังไม่หมดกำลังใจ ยังมีเวลาอีก.
หลังจากทำลายศพชายคนดังกล่าว จงซานก็นำจื่อเห่าออกมาจากกระโจมใหญ่.
"จอมพล!"เจ้าฉวนที่ขมวดคิ้วก้าวเข้ามาหา.
"พักสองวัน ก่อนค้นหาเป้าหมายต่อไป!"จงซานที่สั่งการ.
"ครับ!"เจ้าฉวนที่พยักหน้ารับด้วยความประหลาดใจ.
พักสองวัน เพราะว่าการรบค่อนข้างหนัก ฝ่ายตรงข้ามที่เป็นผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ถึงสามคนแล้ว แม้ว่าจะทำให้เหล่ามือธนูได้รับบาดเจ็บอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน ทว่าด้วยมีอาต้าและจื่อเห่าที่คอยสนับสนุน จึงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว.
จงซานยังคงนำกองกำลังของเขา ลงทัณฑ์สังหารผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ไปรอบ ๆ .
กับการบัญชาการของจงซาน เจ้าฉวนรู้สึกว่าตัวเองเป็นมือสมัครเล่นไปเลย จอมพลนั้นร้ายกาจมาก.
ผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ ตอนนี้ถูกสังหารไปคนที่ห้าแล้ว? ทำไมจอมพลถึงได้สังหารพวกเขากัน?
ด้วยเจ้าฉวนเห็นเพียงแค่ หลังจากผู้ฝึกตนถูกจัดการแล้ว ก็ถูกนำเข้าไปในกระโจมส่วนตัว ไม่สามารถมองเห็นด้านในแล้ว หลังจากที่จอมพลเก็บกระโจมส่วนตัวแล้ว คนเหล่านั้นก็ตายไปแล้ว ที่ทำนั้นเพื่อหลอมวิญญาณเทวะอย่างงั้นรึ? จอมพลมีของวิเศษที่สุดยอดใช้กลั่นดวงวิญญาณของคนเหล่านั้นอย่างงั้นรึ?ทว่าร้ายกาจเกินไปแล้ว สามารถกลั่นดวงวิญญาณเทวะของผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้รึ?
คนที่ห้า.
ท้ายที่สุดหลังจากที่กลืนดวงวิญญาณเทวะของสุดยอดจอมยุทธ์คนที่ห้า พลังฝึกตนของจงซานก็สามารถทะลวงผ่านระดับได้.
"ครืนนนนนนน!"
ทั่วร่างของจงซานตอนนี้สายฟ้ามากมายที่ปะทุระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ด้วยพลังวิญญาณที่ได้จากดวงวิญญาณเทวะ จากการกลืนกินด้วยแปดหางสวรรค์แห่งจุดจบ พลังวิญญาณที่จงซานได้รับ ถูกดูดกลืนเข้ามาในร่างจงซาน.
ทะลวงระดับ นี่คือเป้าหมายของจงซาน ท้ายที่สุดก็ยกระดับพลังฝึกตนได้แล้ว.
"เปรี้ยง!!!"
สายฟ้าที่หนักหน่วงรุนแรงระเบิดกระโจมของจงซานไปในทันที ทันใดนั้น ทั่วทั้งหุบเขาในเวลานี้อากาศรอบ ๆ เปลี่ยนเป็นเพลิงสายฟ้าที่ลุกโชนทั่วร่างของจงซาน เผาไหม้ตนไม้ที่อยู่ใกล้ ๆ ให้กลายเป็นจุน.
อาต้าและจื่อเห่าที่นำคนอื่น ๆ ถอยออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เหล่าทหารบางคนไม่ได้ระวัง ได้รับบาดแผลจากการทะลวงผ่านระดับของจงซานด้วยเช่นกัน.
"ตูมมมมมมมม"
สายฟ้าที่กระเซ็นไปรอบ ๆ โดยมีจงซานที่เป็นจุดศูนย์กลาง พลังอำนาจมหาศาลที่บดขยี้เศษหินรอบ ๆ กลายเป็นฝุ่นฟุ้งไปทีเดียว.
จงซานที่ทำการบำเพ็ญควบคุมลมหายใจอยู่ราว ๆ หนึ่งชั่วโมง.
แกนทองระดับแปด! ท้ายที่สุดก็เลื่อนระดับแล้ว สัมผัสเทวะของเขาที่มีรัศมีหนึ่งพันเมตรแล้ว.
อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์ทางร่างกายของเขา ทำให้จงซานรู้สึกเป็นกังวล.
ห้า ไม่สิ หกรวมอู๋อานด้วย หกดวงวิญญาณเทวะของผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ ถึงจะสามารถทะลวงผ่านระดับแปดได้ หลังจากนี้ต้องทำอย่างไรดี? นอกจากนี้หลังจากผ่านมายังขั้นที่แปดแล้ว เขาไม่ก้าวไปใกล้ระดับแปดขั้นปลายเลยแม้แต่น้อย.
หากต้องการทะลวงระดับอีกครั้งล่ะก็ จำเป็นต้องใช้ผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้อีกเท่าไหร่? 20? 100 ? ทั่วสารทิศเวลานี้ มีผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้กี่คนให้ไล่ล่ากัน?
เวลานี้ตายไปห้าคนแล้ว ผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้คนอื่น ๆ เองก็คงจะกลายเป็นระมัดระวัง? คงยากที่จะจับตัวได้อีกแล้ว?
จงซานที่สูดหายใจเข้ามาเบา ๆ .
"จอมพล!"เจ้าฉวนที่จ้องมองไปยังจงซาน รับรู้ว่าพลังฝึกตนของจงซานตอนนี้ยกระดับขึ้น ทว่า เกิดสิ่งใดขึ้น?
"เอาล่ะ การลงทัณฑ์ผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ จบลงชั่วคราว เจ้านำทัพกลับไปรอข้าที่เมืองไป๋หวงก่อน รอข้าอยู่ที่นั่น."จงซานกล่าว.
"ครับ!"เจ้าฉวนที่ทำได้แค่พยักหน้ารับแม้จะยังสงสัย.
กองทัพจากไปแล้ว เหลือเพียงแค่จงซาน อาต้าและจื่อเห่า.
"ยินดีกับเซียนเซิง ที่ทะลวงระดับอีกครั้งแล้ว!"อาต้าที่กล่าวด้วยรอยยิ้ม.
"ครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าและจื่อเห่า!"จงซานส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้ม.
"เซียนเซิงอย่าได้ถ่อมตัวเลย ตราบเท่าแค่เซียนเซิงต้องการ ถึงแม้ไม่มีพวกเรา เซียนเซิงก็สามารถทะลวงผ่านระดับได้!"อาต้ากล่าว.
"เจ้าให้กองกำลังกลับไปก่อน เหลือเพียงพวกเราต้องการทำสิ่งใดรึ?"จื่อเห่าสอบถาม.
"การล่อจับอสุรกายปิศาจ? นี่คืองานใหญ่เลย พวกเราจะพลาดได้อย่างไร ไปเถอะ ไปยังที่นั่น."จงซานกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"อืม!"คนทั้งสองพยักหน้า.
เมืองเยว่หมิงและเมืองเยว่ซี ภายในเขตแดนราชวงศ์ราชันย์ต้ากวง ถูกเรียกว่าเมืองแฝด.
เพราะว่าทั้งสองเมืองนั้นอยู่ใกล้กันมาก เมื่อเกิดสงคราม ทั้งสองเมืองต่างเกื้อหนุน ช่วยเหลือกันและกัน นับว่าเป็นชัยภูมิที่ยอดเยี่ยม ประชากรทั้งสองเมืองสามารถไปมาหาสู่ ทำกิจกรรมร่วมกัน รวมประชากรทั้งสองเมืองแล้ว มีจำนวนใกล้เคียงกับเมืองหลวงทีเดียว.
ที่ใจกลางของเมืองทั้งสองนั้น เป็นพื้นที่โล่ง เป็นเหมือนลานลูกระนาด! มีเนินเขาที่ไม่สูงนักกล่าวได้ว่ามีเชิงเนินมากมายดูน่าสนใจเป็นอย่างมาก.
ใช้ล่ออสุรกายปิศาจ ที่นี่แน่.
อสุรกายปิศาจจะถูกล่อด้วยโลหิตของผู้คน มันจะค้นหาสถานที่ทำเลที่ดี บินไปทั่วท้องฟ้า แม้เป้าหมายจะมีขนาดใหญ่ แต่ก็ทำได้แค่ล่อมันมา ปรกติยากที่จะหามันเจอได้.
การปรากฏตัวของอสุรกายหายไปในครั้งสุดท้าย พื้นที่ใกล้ที่สุดก็คือเมืองแฝดแห่งนี้ ห้าเดือนที่แล้ว หลังจากที่มันย่อยโลหิตทั้งหมดแล้ว จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งแน่.
เมืองแฝด มีโลหิตมากมาย ทว่า ต้องการล่ออสุรกายปิศาจ จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม.
พื้นที่ราบระหว่างเมืองทั้งสอง พื้นที่ใจกลางแห่งหนึ่ง จื่อจุ้นมังกรสวรรค์ตอนนี้กลับมาอยู่ในร่างมนุษย์แล้ว ยืนอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง.
จ้องมองไปยังค่ายกลซึ่งมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญช่วยกันสร้างขึ้นมา.
ค่ายกลขนาดใหญ่รูปร่างแปดเหลี่ยมที่ดูแปลกประหลาด มีบ่อมากมายที่ใส่โลหิตเอาไว้ โลหิตที่ขังเอาไว้ด้านใน ค่ายกลแห่งนี้มีรัศมีห้าร้อยเมตร บนค่ายกล มีร่องรอยของหมอกโลหิตกระจายไปทั่ว.
โลหิตมากมาย ที่นำมาใช้ล่อ เหล่าผู้ฝึกตนได้นำมา ล้วนแล้วแต่เป็นโลหิตที่ยอดเยี่ยม.
โลหิตมังกร! โลหิตหงสา! โลหิตพยัคฆ์! และยังมีโลหิตของผู้ฝึกตนมากมาย แม้แต่โลหิตของจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ รวมทั้งผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้อีกหลายคน.
แม้ว่าโลหิตเหล่านี้จะไม่ได้มากมายนัก ทว่าก็นับว่าโดดเด่นทรงพลัง! มีคุณภาพสูงมาก!
ความสามารถของค่ายกลเอง สามารถที่จะกระจายกลิ่นคาวโลหิตกระจายไปทุกทิศ ทั่วผืนดินแห่งนี้ สามารถสัมผัสได้ คาดว่าแม้แต่อสุกายปิศาจจะต้องรับรู้.
เพราะว่าเหล่าผู้ฝึกตนเหล่านี้เชื่อว่ายิ่งโลหิตมีคุณภาพเท่าไหร่ก็ยิ่งสร้างความสนใจต่ออสุรกายปิศาจ นอกจากนี้เมืองแฝดแห่งนี้ยังมีคนอีกมากมาย แน่นอนว่าไม่มีทางที่มันจะอดใจไหว จะต้องเร่งรีบพุ่งมาด้วยความเร็ว.
บนเนินเขาแห่งหนึ่ง จื่อจุ้นมังกรสวรรค์ที่กวาดตามองไปรอบ ๆ แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ ว่าจะล่ออสุรกายปิศาจได้!
"อาวุโส อสุรกายปิศาจจะมาอย่างงั้นรึ?"ผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ผู้หนึ่งกล่าวออกมา.
"มาอย่างแน่นอน!"อาวุโสกล่าวออกมาอย่างจริงจัง.
"อสุรกายปิศาจเวลานี้ มีความแข็งแกร่งเท่าใดแล้วรึ?"ผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ที่กล่าวสอบถาม.
"ด้วยการสูบโลหิตของคนไปกว่าร้อยล้านแล้ว ตอนนี้ความแข็งแกร่งของมัน ไม่ได้ด้อยกว่าข้าแน่ หากว่าเมื่อถึงเวลา ข้าไม่สามารถต้านมันได้ หากว่าเจ้าอยู่ในสภาวะเสี่ยง จะต้องรีบหนีอย่างรวดเร็ว!"จื่อจุ้นมังกรสวรรค์อย่างเคร่งขรึม.
"จากไปอย่างงั้นรึ?จะเป็นไปได้อย่างไร? พวกเราต่างก็มาเพื่อกำจัดอสุรกายปิศาจ จะทิ้งอาวุโสได้อย่างไร พวกเขาตอนนี้มีกันกว่า 70 คนแล้ว เป็นกลุ่มที่มีพลังไม่ธรรมดา การจะจัดการอสุรกายปิศาจ ยังจะเป็นเรื่องยากอยู่รึ? โลหิตร้อยล้านคน อสุรกายปิศาจตนนี้ชั่วร้ายยิ่งนัก! หากว่าสามารถกำจัดมันได้ย่อมได้กรรมวาสนามากมาย ใครจะยินดียอมแพ้ล่ะ? นอกจากนี้พวกเรายังได้สร้างกรรมแล้ว จำเป็นต้องได้วาสนานี้มาเท่านั้น!"ผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.
จื่อจุ้นมังกรสวรรค์ที่หรี่ตาจ้องมองชายคนดังกล่าวพร้อมกับกล่าวออกไปว่า"ด้วยระดับของข้าเจ้าก็ควรรู้ ในเวลานี้เจ้ายังไม่เข้าใจในความแข็งแกร่งของอสุรกายปิศาจนั้นมันไม่ได้ด้อยกว่าข้าแม้แต่น้อย เจ้าต้องการแบ่งปันวาสนาข้าไม่มีความเห็นใด ทว่าเจ้าควรที่จะคำนึงถึงชีวิตเป็นอันดับแรก หากมีชีวิตแล้ว ก็ย่อมสามารถสะสมวาสนาแบบอื่น ๆ ได้ หากเจ้ายังประมาท หาไม่แล้ว จะมีเพียงความตายเท่านั้นที่รอเจ้าอยู่!"
ได้ยินคำพูดของจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ ชายคนดังกล่าวที่ขมวดคิ้วไปมา และพยักหน้ารับ "ขอบคุณอาวุโสที่ตักเตือน!"
ชายคนดังกล่าวและคนอื่น ๆ ในระดับจักรพรรดิแท้ส่วนจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ที่ถือไม้เท้านักบวชฝังลงไปบนพื้น นั่งสมาธิบำเพ็ญ หลังตารอคอยอสุรกายปิศาจโจมตี.
ห้าเดือน ผ่านไปอย่างรวดเร็ว.
เมืองเล็ก ๆ ห่างออกมาจากเมืองแฝดไม่ไกลนัก จงซานนั่งอยู่ร้านน้ำชาดื่มชาอย่างสบายใจ จ้องมองไปยังอาต้าและจื่อเห่าที่อยู่ด้วยกัน.
"เซียนเซิง พวกเรารอคอยมาหนึ่งเดือนแล้ว ไม่ออกไปสืบข่าวอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่ขมวดคิ้วสอบถาม.
"มีสิ่งใดต้องสอบถาม?ทุกกลุ่มอิทธิพลล้วนแล้วแต่มากันทั้งนั้น เฮ้เฮ้ พวกเขาต่างก็มา มาอย่างแน่นอน."จงซานที่ยกชาขึ้นจิบ.
"มาอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่ไม่เข้าใจในคำพูดของจงซาน.
"ก่อนหน้านี้ น่าหลานเพียวเสวี๋ยและจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ประลองกัน สร้างความสนใจให้กับคนมากมาย กับการต่อสู้ที่เอาชีวิตเข้าแลกที่จะเกิดขึ้นนี้ มีระดับเดียวกัน นับว่าเป็นงานที่ใหญ่โต และยังเกี่ยวข้องกับวาสนาฟ้าดิน ลานลูกระนาดเวลานี้ยังคงเงียบสงบ ทว่าภายในนั้นกับดูโกลาหลวุ่นวาย ข้ามั่นใจว่า เสี่ยวหวัง สุ่ยจิงและเซี่ยงปู่ คนเหล่านี้เองก็กำลังจับตามองลานลูกระนาดอยู่แน่นอน."จงซานกล่าวรับรอง.
"หืม?ทำไมเซียนเซิงมั่นใจนัก?"อาต้าที่ขมวดคิ้วไปมา.
"เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ มันไม่ใช่แค่เพียงการจัดการกับอสุรกายปิศาจที่ไม่ธรรมดานี้ มันยังเกี่ยวข้องกับสงครามของต้ากวงและต้าโหลว พวกเขาไม่สามารถพลาดโอกาสนี้ได้ มันเป็นเรื่องจำเป็นในการตัดสินใจสถานการณ์ทางการรบ."จงซานที่สูดหายใจยาว.
"เรื่องที่ใช้ในการตัดสินใจในการรบรึ?เซียนเซิง มันเกี่ยวข้องกับสงครามของสองอาณาจักรอย่างงั้นรึ?"อาต้าที่จ้องมองไปยังจงซานไม่เข้าใจนัก.
เรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องของจื่อจุ้นมังกรสวรรค์และอสุรกายปิศาจ โดยพื้นฐานไม่ได้เกี่ยวกับสองราชวงศ์แต่อย่างใด.
จงซานจ้องมองไปยังอาต้าเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ส่ายหน้าไปมา "ไม่ได้เกี่ยวกัน ทว่าเรื่องที่ผนึกเขตแดนสงคราม ในเขตเมืองเยว่หมิงและเยว่ซีนั้นกับเกี่ยวกับสองราชวงศ์ สายน้ำที่เงียบสงบกลับพัดก้อนกวาด จนเป็นเหตุให้เกิดคลื่น ทำให้สนามรบนี้ซับซ้อนขึ้นเป็นอย่างมาก? เจ้าไม่สังเกตรึว่าข้าไม่ให้สุ่ยอู๋เหินเดนทางมาด้วย?"
"หืม?"อาต้าที่ชำเลืองมอง.
"เพราะว่า ก่อนหน้านี้ ข้าได้จัดเตรียมทัพเอาไว้ก่อนแล้ว ให้สุ่ยอู๋เหินเตรียมการต่อสู้หลังจากเรื่องของอสุรกายปิศาจนี้จบลง ห้าเดือน แม้ว่าพวกเราจะดูเหมือนว่าปล่อยว่างไร้กังวล ทว่าสุ่ยอู๋เหินนั้นไม่ได้พักเลย ยังคงจัดการเตรียมกองทัพ ทัพของเซี่ยงปู่ ทัพของเสี่ยวหวัง เองก็คงเตรียมการอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน มีเพียงแต่ใช้โอกาสนี้เตรียมพลังรบของแต่ละฝ่าย."จงซานที่กล่าวอย่างจริงจัง.