Chapter 316 ผนึกเขตแดนสงคราม.
จงซานกุมจีวร จ้องมองทุกคนที่ยืนอยู่รอบ ๆ "เอาล่ะ ไปทำงานกันได้แล้ว!"
"ครับ!"เหล่าขุนพลที่ค่อยฟื้นฟูสติกับมาจากความตื่นตะลึง.
ทุกอย่าง เป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก.
"เซียนเซิง!"อาต้าที่ก้าวตามจงซานและสอบถามออกมาในทันที.
จงซานที่ยกมือหยุดอาต้าเอาไว้ก่อน ไว้ให้ค่อยสอบถามทีหลัง.
อาต้าที่พยักหน้า เข้าใจความหมาย.
จงซานที่สะบัดมือเก็บจีวรทว่ากลับไม่สามารถเก็บเข้าไว้ในกำไลเก็บของได้อย่างคาดไม่ถึง! นี่คือของวิเศษชั้นยอดอย่างงั้นรึ? ของวิเศษระดับเก้ารึ?
จ้องมองไปยังจีวร จงซานที่สูดหายใจยาว นับว่าจินฉานผู้นี้ใจกว้างเป็นอย่างมาก.
......
หลังจากนั้นก็ผ่านมาครึ่งปี เมืองไป๋หวง ตำหนักเจ้าเมือง ที่ใจกลางห้องโถง.
จงซานที่กำลังจ้องมองไปยังแผนที่ หลังจากครุ่นคิด กำลังวางแผนการรบ ดังนั้นจึงได้สั่งไม่ให้ใครเข้ามารบกวน โดยมีอาต้าและจื่อเห่า ทำงานเป็นผู้คุ้มกันอยู่ด้านนอก.
"พวกเจ้าเป็นใคร?"เสียงที่ดังขึ้นที่ด้านนอกห้องโถง.
"หยุดอยู่ตรงนั้น!"เป็นเสียงของอาต้าที่ดังขึ้น.
จงซานที่เสียสมาธิ ขมวดคิ้วจ้องมองออกไปด้านนอก.
ที่ด้านนอกห้องโถงนั้นมีคนเข้ามาสิบคน.
ชุดแต่งกายของคนทั้งสิบคนนั้นจงซานไม่เคยเห็นมาก่อน ขมวดคิ้วเล็กน้อย นั่นเป็นเหตุที่อาต้าห้ามไม่ให้พวกเขาเข้ามา?
"เจ้าเป็นใคร?"อาต้าที่เอ่ยต่อคนทั้งสิบคน.
"เจ้าคือแม่ทัพอย่างงั้นึ?"หนึ่งในสิบคนที่กล่าวออกมา.
จงซานที่ก้าวออกไปยังประตูห้องโถง.
"ข้าจงซาน ไม่รู้ว่าทุกท่านเป็นใคร?"จงซานที่จ้องมองคนทั้งสิบพลางขมวดคิ้ว.
".."ชายคนหนึ่งที่ชูจดหมายออกมา.
อาต้าที่ตรวจสอบ จากนั้นก็รับมาส่งให้กับจงซาน.
"จื่อจุ้นมังกรสวรรค์ ออกคำสั่งหยุดสงครามภายใต้นามของผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ห้าสิบคน ในห้าเดือนห้ามล่วงล้ำเข้าเมืองเยว่หมิงและเมืองเยว่ซีในรัศมี 100,000 ลี้."ชายผู้หนึ่งที่กล่าวออกมาในทันที.
จากนั้น คนทั้งสิบก็ลอยออกไปหลายไปจากตำหนักเจ้าเมืองในทันที.
"หมายความว่าอย่างไร?"จงซานที่จ้องมองไปยังอาต้า.
"เซียนเซิง คนทั้งสิบ ใช้กลิ่นอายยับยั้งข้า ข้าสัมผัสได้ว่า พวกเขาทั้งสิบคนเป็นผู้ฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ ดังนั้นข้าจึงได้สั่งทหารทุกคนห้ามขยับ."อาต้ากล่าว.
"อืม."จงซานพยักหน้า จ้องมองไปยังคำสั่งผนึกสงคราม ในมือ.
"โอหังนัก ผนึกสงครามอย่างงั้นรึ?"ดวงตาของจงซานที่เต็มไปด้วยความเย็นชา.
จงซานที่จ้องมองคิดใคร่ครวญกับคำสั่ง พลางขมวดคิ้ว.
นี่คือคำสั่งปิดผนึกสงคราม กลุ่มของจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ได้เตรียมการสังหารอสุรกายปิศาจแล้ว พวกเขาได้เตรียมใช้เมืองเยว่หมิงและเมืองเยว่ซีเป็นเหยื่อล่อ ระหว่างนั้นทั้งทหารต้ากวงและต้าโหลว ไม่สามารถก้าวล้ำเข้าไปในรัศมี 100,000 ลี้ได้ และทหารของทั้งสองเมืองเองก็ถูกถอนกำลังออกมา หาไม่แล้ว จื่อจุ้นมังกรสวรรค์และกลุ่มผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ 50 คนจะไล่ล่าโดยไร้ปราณี โดยที่พวกเขาได้แจ้งคำสั่งผนึกสงครามไปก่อนแล้วนั่นเอง.
ห้าสิบผู้ฝึกตนจักรพรรดิแท้ จื่อจุ้นมังกรสวรรค์นับว่ามีอิทธิพลสูงทีเดียว แม้ว่านี้จะเพียงเพื่อกำจัดอสุรกายปิศาจเพื่อรับวาสนาฟ้าดินร่วมกันก็ตามที ทว่าตอนนี้ จงซานคงไม่ต้องการที่จะปะทะกับพวกเขาตรง ๆ แน่.
ทว่าเหล่ากลุ่มอิทธิพลอื่น ๆ จะคิดอย่างไรกันบ้าง.
ผนึกพื้นที่สงครามอย่างงั้นรึ? เป็นการกระทำที่อหังการ! ไร้ซึ่งเหตุผลทำตามใจตัวเอง!
อย่างไรก็ตาม ความอหังการนี้ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น ห้าเดือนถัดมา ก็กลับมาเป็นเช่นเดิม.
"เจ้าฉวน!"จงซานที่สั่งการเจ้าฉวนเนื่องจากเขาเห็นผู้ฝึกตนทั้งสิบเข้ามา.
"อยู่นี่แล้ว!"เจ้าฉวนที่กล่าวรับในทันที.
"รวบรวมข้อมูลของเมืองเยว่หมิงและเยว่ซี ให้ได้เร็วที่สุด."จงซานสั่งการ.
"ครับ!"เจ้าฉวนที่ตอบรับในทันที.
จงซานที่สะบัดแขนเสื้อก้าวเดินเข้าไปในห้องโถงอีกครั้ง และสุ่ยอู๋เหินก็บินมาเช่นกัน.
"จอมพล มีข่าวใหญ่!"สุ่ยอู๋เหินที่เผยยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้ม.
"โอ้ว?"จงซานที่หยุดก้าวจ้องมองไปยังสุ่ยอู๋เหิน.
"ทหารสังเกตการณ์ได้รายงานกลับมาว่า เขตแดนต้ายวี ฉีเทียนโห่วได้ประสบความสำเร็จอย่างใหญ่หลวง ซุ่มโจมตีอ๋องจวีลู่ที่เมืองป้าหวง สังหารอุปราชของต้ายวีได้แล้ว นี่นับว่าประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ อุปราชจวีลู่ตอนนี้ได้ตายไปแล้ว ขุนเขาที่คอยยืนขวางของต้ายวีตอนนี้ถูกกำจัดออกไปแล้ว ตอนนี้การบุกเบิกต้ายวีย่อมเป็นไปได้อย่างง่ายดาย."สุ่ยอู๋เหินกล่าว.
"ไม่!"จงซานที่ขมวดคิ้วแน่น.
"หืม? ไม่ใช่รึ?"สุ่ยอู๋เหินที่แสดงท่าทางสงสัย.
"ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี ยังมีตัวตนที่ร้ายกาจอยู่!"จงซานที่กล่าวออกมา.
"อี้เหยี่ยน?"สุ่ยอู๋เหินที่ชำเลืองมองตาโต.
"จอมพล ท่านจะกล่าวว่าอี้เหยี่ยนจะกลับมาอีกครั้งอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่สูดหายใจที่เย็นเยือบเข้ามา.
"มันเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว!"จงซานกล่าวยืนยัน.
...........
ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวี เมืองเทียนกง พระราชวัง.
รายงานความพ่ายแพ้มาถึงแล้ว เกิดความโกลาหลสั่นสะเทือนไปทั่วเมือง กับการสูญเสียเมืองเพิ่มอีกหนึ่ง หลายเดือนมานี้พวกเขาสูญเสียเมืองไปกว่าสิบเมือง เมืองที่ยึดครองได้ก่อนหน้าสูญเสียไปหมดแล้ว ราชวงศ์ราชันย์ต้ายวีนับว่าได้รับภัยพิบัติที่หนักหนามาก.
อย่างไรก็ตาม ยังมีเรื่องของอุปราชผู้นำของพวกเขาถูกสังหารไปอีกด้วย.
เป็นเรื่องที่น่าอับอาย พ่ายแพ้สร้างความเสื่อมเสียไปทั่วอาณาจักร ทัพสองในสามถูกทำลาย อุปราชถูกสังหาร กองกำลังของต้ายวีตอนนี้เต็มไปด้วยความโกลาหล.
อ๋องจวีลู่ตายแล้ว!
อุปราชตายแล้ว ราชวงศ์ต้ายวีตอนนี้จะเป็นเช่นไร? อาณาจักรกำลังล่มสลาย ตอนนี้ทำได้แค่ป้องกันแล้ว? เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องดีนัก เรื่องที่สำคัญที่สุดคือประชาชนสูญเสียความเชื่อมั่น พวกเขาที่หวั่นเกรงว่าจะพ่ายแพ้ หลังจากนี้จะเกิดจลาจลขึ้นทุกหนแห่ง การพ่ายแพ้ครั้งนี้ นับว่าเปลี่ยนวิถีสงครามไปในทันที.
ต้ายวีจบแล้วรึ?
ในห้องโถง ที่เปลี่ยนเป็นเงียบงัน! ทุกคนที่แสดงท่าทางละเหี่ยใจแตกต่างจากเมื่อก่อน ทุกคนตอนนี้ได้แต่คิด เหนือหัวจะรับมือกับศัตรูอย่างไร?
น่าหลานเพียวเสวี๋ยในเวลานี้นั่งอยู่บนบัลลังก์ จ้องมองเหล่าขุนนางทุกคน.
"เสนาธิการ ทุกท่าน พวกเจ้ามีอะไรจะกล่าวอย่างงั้นรึ?"น่าหลายเพียวเสวี๋ยที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม.
ในเวลานั้น ชายผู้หนึ่งที่ร่างกายสั่นเทิ้มดูมีอายุก้าวออกมากล่าวว่า"เหนือหัว เฉินชราก่อนหน้านี้ได้ออกความคิดเห็นแล้วว่าไม่ควรที่จะร่วมมือกับต้ากวง โจมตีต้าโหลว ไม่เช่นนั้นแล้วผลสุดท้ายพวกเราจะถูกต้าโหลวทำลายจนสิ้น ทว่าในเมื่ออ๋องจวีลู่ไม่คิดจะฟัง หากตอนนี้ผู้น้อยกล่าวสิ่งใดไป มันจะมีความหมายใด!"
"ใช่! ใช่!"
"ใช่แล้ว!"
......
หลากหลายเสียงที่กล่าวออกมา ทำให้น่าหลานเพียวเสวี๋ยเต็มไปด้วยท่าทางรังเกียจ ก่อนที่เขาจะหันหน้าไปมองอีกด้าน.
"เสนาธิการจู ก่อนหน้านี้เจ้าเห็นด้วยกับแผนการของอ๋องจวีลู่ตอนนี้เจ้ามีความเห็นใด!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่กล่าวกับข้าราชบริพารคนหนึ่ง.
เหล่าขุนนางคนอื่น ๆ ที่เงียบไปในทันที.
"เหนือหัว ข้าเองก็คาดไม่ถึง ที่จริงนี่ นับว่าเป็นแผนการที่ถูกต้องแล้ว เป็นการตัดสินใจที่ดี ผิดที่อ๋องจวีลู่นั้นไร้ซึ่งความสามารถ ที่จริงแล้วพวกเรามีทหารที่แข็งแกร่งทรงพลัง ทว่ากับตกหลุมพลางของศัตรู ไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าจะได้รับความพ่ายแพ้จนตัวเองถึงแก่ความตาย เหนือหัว เฉินเอง แม้ว่าจะเห็นด้วยกับอ๋องจวีลู่ ทว่ากลับไม่คาดคิดว่าเขาจะดื้อรั้นไร้ซึ่งกลยุทธิ์เล่ห์เหลี่ยมใด ๆ !"เสนาธิการนามจู่ที่กล่าวออกมาด้านข้าง.
"ใช่แล้ว อ๋องจวีลู่หัวแข็ง นำภัยมาให้กับตัวเอง ทำให้อาณาจักรได้รับอันตราย!"เสนาธิการอีกคนที่เอ่ยออกมาทันที.
"ใช่! ใช่!"
"ใช่แล้ว!"
......
เหล่าขุนนางหลากหลาย ต่างปัดความรับผิดชอบ โยนความผิดทุกอย่างให้กับอ๋องจวีลู่ไปในทันที.
"พอแล้ว!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่ตะโกนออกไปด้วยความโกรธ.
กับความโกรธเกรี้ยวที่รุนแรงนี้ เหล่าขุนนางที่เงียบไปในทันที.
"มีแต่พวกไร้ความสามารถทั้งนั้น!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยแค่นเสียงอย่างเย็นชา.
เหล่าขุนนางที่ต่างก็เงียบลง.
"เถี่ยเสวี๋ย เจ้าเป็นถึงอุปราช เจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร?"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่กล่าวต่อเถี่ยเสวี๋ย.
เถี่ยเสวี่ยที่ก้าวออกมาในทันที "เรียนเหนือหัว อุปราชพิชิตดินแดนตอนนี้ได้ตายไปแล้ว ทำให้อาณาจักรของเราเกิดความโกลาหล เหล่าทหารมากมายสูญเสียความมั่นใจ ตอนนี้ไร้ซึ่งจิตใจที่แน่วแน่ เวลานี้จำเป็นต้องทำให้ขวัญกำลังใจทหารกลับมามั่นคง ก่อนที่จะโจมตีโต้กลับไป ซึ่งมีสองวิธี!"
"โอ้ว?"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.
เหล่าขุนนางที่จ้องมองหน้ากันและกัน สองวิธี?สองอย่างงั้นรึ?
"วิธีที่หนึ่ง เดิมทีอุปราชผู้นำทัพของต้ายวีนั้นก็คืออี้เหยี่ยนซึ่งมีอำนาจในกองกำลังต้ายวี เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชานั้นต่างพร้อมพลีชีพเพื่อเขา ตราบเท่าที่ข่าวของเขาได้รับตำแหน่งกลับคืน จะทำให้ป้อมปราการทั้งหมดของต้ายวี เต็มเปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่น กลับมารวมใจกันได้อีก นี่นับเป็นหนทางหนึ่ง."เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวเสนอ.
"ถูกแล้ว!อุปราชอี้เหยี่ยน ตราบเท่าที่มอบตำแหน่งคืนให้เขา ต้ายวีของพวกเราก็จะปลอดภัย สามารถที่จะกำจัดเหล่าทหารต้าโหลวออกไปจากอาณาจักรของพวกเราได้ในไม่ช้า."เหล่าขุนนางต่างก็เห็นดีเห็นงาม.
"ใช่! ใช่!"
"ใช่แล้ว!"
......
อย่างไรก็ตาม น่าหลานเพียวเสวี๋ยนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมากที่จะยอมเชิญอี้เหยี่ยนกลับมาอย่างงั้นรึ?
"แล้วอีกวิธีหนึ่งล่ะ?"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่กล่าวสอบถาม.
"อีกวิธีนั้นก็คือให้ฝ่าบาทนำทัพด้วยตัวเองเข้าสู่สงคราม ไม่ว่าฝ่าบาทจะไปที่ใหน กองกำลังทุกทัพย่อมเต็มไปด้วยความมั่นใจ! กองกำลังต้ายวีของพวกเราก็จะไร้ซึ่งคนต้าน แน่นอนว่าจะสามารถยึดเมืองต่าง ๆ กลับมาได้อย่างแน่นอน."เถี่ยเสวี๋ยที่กล่าวออกมาตรง ๆ .
ให้ราชันย์นำทัพด้วยตัวเอง?
เหล่าขุนนางที่กำลังกระซิบกระซาบ ทว่าหลังจากที่ได้ยินเรื่องดังกล่าว ตอนนี้ถึงกับเงียบไปในทันที.
เชิญราชันย์ออกไปนำทัพด้วยตัวเองอย่างงั้นรึ? เมื่อเหนือหัวออกรบเอง ต้าเสวียนอ๋องก็ย่อมออกมาเช่นกัน กล่าวได้ว่าหากชนะก็ถือว่าโชคดี หากว่าพ่ายแพ้ต้ายวีก็ถือว่าพังทลายด้วยเช่นกัน.
ส่วนการเชิญอี้เหยี่ยนกลับมา ถึงแม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ เหนือหัวก็ยังสามารถหาทางได้อีก แต่หากเหนือหัวพ่ายแพ้แล้วล่ะก็ ไม่มีวิธีที่จะแก้ไขได้แล้ว ต้ายวีล่มสลาย ไม่มีอยู่อีกต่อไป.
น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่ชำเลืองมองไปยังเถี่ยเสวี๋ย จ้องมองไปไม่กระพริบ แววตาที่มีร่องรอยความโกรธอยู่.
ในเวลาเย็น พื้นที่ตระกูลของอี้เหยี่ยน.
ปรากฏเกี้ยวที่หรูหรา ขนาด 32 คนหาม เหินลงมาหยุดที่หน้าประตูตำหนักของอี้เหยี่ยน.
ที่ด้านหน้าเกี้ยวนั้น เป็นองค์รักษ์ของราชันย์ต้ายวี และมีแม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่ยืนอยู่ด้วยความตื่นเต้นด้านหน้า.
พ่อบ้านของตระกูลอี้เหยี่ยนที่ออกมาทันที ก่อนที่จะตื่นตะลึงตาค้าง ขบวนมังกร! ราชันย์น่าหลานอย่างงั้นรึ?
เขาที่สั่งบ่าวไพร่เข้าไปรายงานในทันที ส่วนพ่อบ้านที่ก้าวออกมาต้อนรับ โค้งคำนับออกมาด้วยความเคารพ.
ขบวนมังกร น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่ก้าวออกมาจากเกี้ยว ขมวดคิ้ว แววตาแสดงท่าทางกังวลอยู่เหมือนกัน.
"ประชาชนธรรมดาอี้เหยี่ยน คารวะฝ่าบาท!"อี้เหยี่ยนที่ออกมาจากตำหนัก ก่อนที่จะเข้ามาคำนับ.
"อี้เหยี่ยน ไม่จำเป็นต้องสุภาพถึงเพียงนั้น."น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่จ้องมองไปยังอี้เหยี่ยน.
"เหนือหัว มีเรื่องอันใด ถึงได้มาด้วยตัวเอง!"อี้เหยี่ยนที่กล่าวต่อน่าหลานเพียวเสวี๋ย.
"ไปเถอะ! อย่าได้พูดอะไรเลย!"น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่เข้าไปพยุงอี้เหยี่ยน แสดงท่าทางเหมือนกับสหายเก่าแก่ เข้าไปในตำหนักด้านใน.
เรือนรับรองของตระกูลอี้ ซึ่งมีงานเลี้ยงเกิดขึ้น.
น่าหลานเพียวเสวี่ยที่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะก็กล่าวออกมาในทันที "อี้เหยี่ยน ข้าต้องการให้เจ้ากลับมารับตำแหน่งอุปราชต้ายวีตอนนี้ พร้อมนำทัพของต้ายวีอีกครั้ง เพื่อต่อต้านเหล่าศัตรูที่เข้ามารุกรานอาณาจักรของพวกเรา!"
น่าหลานเพียวเสวี๋ยกล่าวออกมาตรง ๆ ทุกคนที่อยู่ในตำหนักที่นิ่งงัน จ้องมองไปยังอี้เหยี่ยน แม่ทัพเถี่ยเสวี๋ยที่เงยหน้าจ้องมองด้วยความหวัง.
"แค๊ก ๆ แค๊ก ๆ ๆ แค๊ก ๆ แค๊ก ๆ ๆ แค๊ก ๆ แค๊ก ๆ ๆ "
เสียงไอของเขา ที่ดูเหมือนว่าจะอ่อนแอลงเป็นอย่างมาก น่าหลานเพียวเสวี๋ยที่ขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าของเถียเสวี๋ยเองก็แสดงความกังวลเช่นเดียวกัน.
ท้ายที่สุดหลังจากที่ไอเสร็จ อี้เหยี่ยนก็สงบลง ก่อนที่จะเดินออกมาด้านหน้า พร้อมกับแสดงความเคารพต่อน่าหลานเพียวเสวี๋ย.
"เฉินน้อมรับคำสั่ง!"อี้เหยี่ยนโค้งคำนับรับคำ.