ตอนที่แล้วChapter 301 ออกรบ.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 303 น้ำท่วมเมืองอัคคีสวรรค์.

Chapter 302 สงคราม.


กองกำลังเคลื่อนทัพมาสองเดือนแล้ว! ซึ่งอีกครึ่งปีก็จะถึงกำหนัดที่จงซานได้รับปากไว้หนึ่งปี.

เมืองต้าเสวียน ตำหนักเจ้าเมือง ต้าเสวียนอ๋องในห้องหนังสือ.

กุนซือที่อยู่รอบ ๆ  ต้าเสวียนอ๋องที่กำลังอ่านจดหมายที่จงซานส่งมาให้.

"สองเดือนที่แล้ว จงซานเคลื่อนทัพออกมาแล้ว."ต้าเสวียนอ๋องที่เอ่ยปากออกมา.

"ครับ จงซานรู้สึกขอบคุณท่านอ๋อง ที่ได้อนุญาตให้นำกองกำลังที่หนึ่งเข้าร่วมสงครามครั้งนี้ด้วย."กุนซือผู้หนึ่งกล่าว.

"ขอบคุณรึ? อาจไม่ใช่ หากว่านี้คือความจริงใจของจงซานล่ะ? ต้องไม่ลืมว่าจงซานผู้นี้ กระทำทุกอย่างโดยละเอียด น้ำไม่รั่วสักหยด อาจกำลังสร้างความสับสันกับพวกเรา?"กุนซืออีกคนเอ่ย.

"ไม่ว่าอย่างไรจงซานเองก็คงจะคิดยอมจำนวนต่อพวกเรา อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อที่จะรักษาทหารในเมืองอู๋ซวังเอาไว้ พร้อมทั้งยังรับทหารต้าเสวียนที่หนึ่งเข้าสู่สนามรบด้วย."กุนซืออีกคนที่กล่าว.

ในเวลาเดียวกันกุนซืออีกคนที่เอ่ยปากออกมาทันทีเช่นกัน "ที่สำคัญ กองกำลังห้าแสน ทั้งยังส่งจดหมายมาให้ท่านอ๋อง พร้อมกับแจ้งให้ท่านอ๋องส่งขุนนางเตรียมเข้ามาบริหารงานเมือง 12 หลิงไห่ด้วยความเร็วอีกด้วย."

ได้ยินคำพูดของกุ่นซือคนที่หนึ่งกุนซือหลายคนต่างก็ขมวดคิ้วแน่น.

"ท่านอ๋อง จงซานกล่าวเกินจริงไปมาก กองกำลังห้าแสนกับกองกำลัง10 ล้านของทหารทั้ง 12 เมืองอย่างงั้นรึ? หนำซ้ำยังเป็นป้อมปราการเมืองทั้ง 12  ครึ่งปีรึ? การที่เขารับปาก 12 เดือน เขาจะต้องหลอกลวงพวกเราแน่."กุนซืออีกคนที่กล่าวออกมา.

"หลอกลวง ท่านอ๋องคิดว่าอย่างไร? จะเตรียมการอย่างไรดี? จะส่งขุนนางตามที่ร้องขอมาหรือไม่?"กุนซือที่หนึ่งจ้องมองไปยังต้าเสวียนอ๋อง.

ต้าเสวียนอ๋องที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย "ไม่เห็นมีอะไรเสียหาย ทำไมจะไม่ส่งไปล่ะ?"

....

ฉีเทียนโหยวในเมืองแห่งหนึ่ง ตำหนักเจ้าเมือง.

"จอมพล กองกำลังทหารของพวกเราฟื้นฟูกลับมาเหมือนเดิมแล้ว ตอนนี้พร้อมจะโจมตีเมืองถัดไปแล้ว?"ขุนพลคนหนึ่งกล่าว.

"ดี พรุ่งนี้เตรียมออกเดินทาง."ฉีเทียนโห่วกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลรับคำ.

"จอมพล ที่เมืองอู๋ซวัง แม่ทัพจงซาน สองเดือนที่แล้วได้เคลื่อนทัพออกตีเมืองแล้ว."ขุนพลคนหนึ่งกล่าวออกมา.

"เป้าหมายของเขาคือ เมือง 12 หลิงไห่ ที่นั่นมีป้อมปราการเมือง 12 แห่ง เขานำทหารไปมากมายขนาดใหนกัน?"ฉีเทียนโห่วสอบถาม.

"500,000! "ขุนพลกล่าว.

"500,000? ห้าแสนเองรึ?"ฉีเทียนโห่วที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ครับ นอกจากนี้ที่เมืองอู๋ซวังข้ายังได้ยินข่าวลือมาด้วย."

"ข่าวลืออะไร?"ฉีเทียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา.

"จงซานยังกล่าวปฏิญาณเอาไว้ พูดจาใหญ่โตเป็นอย่างมาก ว่าเคลื่อนทัพคราวนี้จะสามารถยึด 12 เมืองหลิงไห่ได้."ขุนพลกล่าวตอบ.

"พูดจาใหญ่โตนัก!"ฉีเทียนโห่วที่ขมวดคิ้ว.

"ครับ จงซานนี้โง่ขนาดนี้เลยรึ?"ขุนพลอีกคนที่เผยยิ้มออกมา.

"ส่งคนออกไป ตรวจสอบ 12 เมืองหลิงไห่ด้วย!"ฉีเทียนโหยวกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลรับคำ.

....

สุ่ยจิงในเมืองแห่งหนึ่ง ตำหนักเจ้าเมือง.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมา ฟังรายงานจากขุนพลด้านหน้า.

"สองเดือนที่แล้ว แม่ทัพจงซานได้นำกองกำลังออกมาแล้ว นำกองกำลัง 500,000 นายเตรียมเข้ายึดครองเมือง 12 หลิงไห่."ขุนพลผู้หนึ่งกล่าว.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สูดหายใจยาว หลับตาเล็กน้อย พลางกล่าวออกมาว่า"ท้ายที่สุดเขาก็เริ่มสงครามแล้ว!"

"จอมพล จงซานนี้โง่หรือไม่? กองกำลังห้าแสน เขาคิดว่าจะเขายึดเมืองป้อมปราการ 12 ป้อม และยังมีทหารอย่างน้อยหนึ่งล้านคนคอยปกป้องในแต่ละเมือง และยังเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุด กองกำลังเพียงห้าแสนไม่ต่างจากเสนอตัวให้ถูกเชือดหรอกรึ?"ขุนพลอีกคนที่ขมวดคิ้วไปมา.

"เสนอตัวให้ถูกเชือดรึ? เฮ้เฮ้  ก่อนหน้านี้เจ้าเคยได้ยินเรื่องกองกำลังต้ายวี 8 ล้านคนที่เข้าล้อมกรอบหรือไม่ ตอนนี้เขานำกองกำลัง 5 แสน จะบอกว่าเขาเสนอตัวขึ้นเขียงได้อย่างไร?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมา.

"แต่ว่า...."ขุนพลคนหนึ่งที่กล่าวแย้ง.

"เอาล่ะ ดูไปก่อน ข้าบอกได้เลยไม่มีผิด ส่งคนไปดูด้วยว่า เขาใช้วิธีใหนเข้ายึดเมือง."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลคนดังกล่าวที่ตอบรับ.

เมือง 12 หลิงไห่นั้น เป็นเมืองชายทะเล 12  เมืองที่เรียงกันตามชายทะเลซึ่งแตกต่างจากเมืองอู๋ซวังโดยสิ้นเชิง.

จงซานได้นำกองกำลังห้าแสนข้ามผ่านป้อมปราการเมืองที่หนึ่ง และป้อมปราการเมืองที่สองไป เพราะว่าจงซานเชื่อว่าป้อมปราการเมืองที่สามนั้น น่าจะสามารถยึดครองได้ง่ายที่สุด.

ป้อมปราการเมืองที่สามถูกเรียกว่า "เมืองอัคคีสวรรค์" เป็นหนึ่งในเมือง 12 หลิงไห่ การป้องกันอยู่ในระดับกลาง ทว่าการจะเข้ายึดครองยังเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก.

จงซานที่ปรากฏขึ้นที่ประตูตะวันออก ยืนอยู่บนจุดที่สูงที่สุด จื่อเห่าที่แปลงร่างกายเป็นร่างมนุษย์อีกครั้งแล้ว ตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้างกายจงซาน.

"ให้ทุกคนปีนขึ้นไปบนภูเขา เตรียมลั่นกลองรบสายฟ้าด้วย!"จงซานกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลที่รับคำสั่ง พร้อมกับออกคำสั่งไปในทันที.

ปีนภูเขาอย่างงั้นรึ?"แม้ว่ากองกำลังทหารทั้งหมดจะเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเมื่อได้รับคำสั่งก็ต้องปีขึ้นไปบนยอดเขา เหล่านักรบหมาป่าด้วยเช่นกัน.

ที่ด้านหลังของจงซานนั้นมีเนี่ยนโหยวโหยว อาต้า จื่อเห่า เจ้าฉวน สุ่ยอู๋เหินและหลิวอู๋ซ่าง.

"จอมพล พวกเราไม่เข้าโจมตีเมืองอย่างงั้นรึ?"สุ่ยอู๋เหินที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"ข้ากำลังรอกำลังเสริม!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

กำลังเสริม? เหล่าขุนพลที่จ้องมองหน้ากันและกัน สายตาของทุกคนที่เต็มไปด้วยความสงสัย ไม่รู้ว่าจงซานกล่าวถึงกำลังเสริมอะไร แล้วกำลังเสริมอยู่ที่ใหนกัน?

ทว่าในเวลาเดียวกัน ที่ไกลออกไป มีจุด ๆ หนึ่งบนท้องฟ้าไกล ที่เคลื่อนที่มาด้วยความรวดเร็ว เป็นจักรพรรดิพิษปัจจิมนั่นเอง.

"อาวุโส!"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

อย่างไรก็ตามใบหน้าของจักรพรรดิพิษปัจจิมที่ดูขึงขังเป็นอย่างมาก จ้องมองไปรอบ ๆ  ก่อนที่จะไปหยุดที่จงซาน "เจ้าหนู เจ้านี้มันช่างโชคดีตลอดเลยจริง ๆ ."

"อาวุโสล้อเล่นแล้ว."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

"ข้าไม่ได้ล้อเล่น ตลอดมาไม่เคยมีใครกล้าต่อลองใด ๆ กับเห่าเม่ยลี เจ้าเป็นคนแรก ทว่ากลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย."จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ส่ายหน้าไปมา.

"เฮเฮ ทำไมอาวุโสรู้ได้ล่ะ?"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"ทำไมนะรึ?"จักรพรรดิพิษปัจจิมเองก็แสดงท่าทางสงสัยอยากรู้เช่นกัน.

"แม้ว่าข้าจะตั้งเงื่อนกับเห่าเม่ยลี ทว่าจงซานนั้นก็เต็มไปด้วยความเคารพรักต่อเห่าเม่ยลี."จงซานที่กล่าวต่อจักรพรรดิพิษปัจจิมด้วยเสียงเบา ๆ .

เคารพรักอย่างงั้นรึ? ดวงตาของจักรพรรดิพิษปัจจิมที่ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปยังจงซาน กับท่าทางในวันนั้น เจ้าแสดงท่าทางเคารพรักอย่างงั้นรึ?เพ่ย เคารพรักอย่างไรกัน?

"อาวุโสตอนนี้คงสมปรารถนาแล้วสินะ ท่านเองก็ควรที่จะมีความสุข."จงซานที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"อืม ท้ายที่สุดเห่าเม่ยลีก็กลายเป็นศิษย์ของข้า."จักรพรรดิพิษปัจจิมกล่าว.

"อีกนานแค่ใหน?"จงซานที่กล่าวสอบถามไปในทันที.

"ราว ๆ ครึ่งชั่วโมง เจ้าหนู ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้วางยาพิษกับข้าตั้งแต่แรกแล้วสินะ!"จักรพรรดิพิษที่กล่าวต่อจงซาน.

"ยาพิษ? ผู้เยาว์ไปวางยาพิษอะไรอาวุโสรึ!"จงซานที่ส่ายหน้าไปมาถ่อมเนื้อถ่อมตัว.

"ยาพิษที่ไม่ใช่พิษ!""จักรพรรดิพิษปัจจิมที่ส่ายหน้าไปมา.

"ลั่นกลองรบสายฟ้าสวรรค์ได้!"จงซานที่ออกคำสั่งในทันที.

"ครับ!"สุ่ยอู๋เหินที่รับคำในทันที.

สุ่ยอู๋เหินที่สะบัดยกธงสีแดงขนาดเล็กขึ้น.

บนยอดเขาสูง ทหารหนึ่งพันคนพร้อมกับกลองรบขนาดใหญ่เตรียมพร้อม.

ทันที่ที่สุ่ยอู๋เหินลดธงลง.

"ตรึม! ตรึม ตรึม! "

เสียงของลองรบสายฟ้าสวรรค์ที่ดังกระหึม ประสานเสียงที่พัดโบกเหล่าหมู่มวลเมฆารอบ ๆ

เสียงกระหึ่มดังก้องท้องฟ้า ปัดเป่าเหล่าหมู่มวลเมฆหมอกขนาดใหญ่ให้หายไป ด้วยคลื่นพลังที่รุนแรงที่โบกพัดออกไป.

กองกำลังห้าแสนที่ปรากฏขึ้นที่ทิศตะวันออกในทันที เหล่าทหารข้างในป้อมปราการก็สามารถมองเห็นได้ในทันที.

"บัดซบ สงครามครั้งแรกกับเลือกป้อมเมืองอัคคีสวรรค์ของพวกเรา."ขุนพลคนหนึ่งที่แสดงท่าทางไม่พอใจ.

"แล้วมันอย่างไร มีเพียงแค่ 500,000คน ต่อให้มีกองกำลังทหารเคลื่อนที่เร็ว?ป้อมแห่งนี้ก็ไม่มีทางถูกตีได้ง่าย ๆ ."ขุนพลอีกคนที่กล่าวตอบ.

"ไม่ได้การแล้ว!!ข้าต้องไปรายงานเจ้าเมือง เจ้าจงภาวนาด้วยอย่าให้พวกมันบุกเขาโจมตี ไม่เช่นนั้นข้าต้องฉี่รดกางเกงตายแน่ ฮ่าฮ่าฮ่า."ขุนพลคนหนึ่งกล่าว.

"ครับ!"ขุนพลดูแลป้อมปราการหัวเราะเสียงดังสนั่น.

ขุนพลคนดังกล่าวเร่งรีบเดินทางไปยังตำหนักเจ้าเมือง ซึ่งตอนนี้กำลังจัดงานเลี้ยงรื่นเริงกันอยู่ กำลังเคลิบเคลิ้มมีความสุข มีสาวงามที่กำลังร่ายรำ เจ้าเมืองที่นั่งอยู่บนโต๊ะบนสุด พร้อมกับเชิญแขกเหรื่อมากมายมาในงานนี้ด้วย.

"เรียนท่านเจ้าเมือง กองกำลังราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวได้บุกเข้าโจมตีแล้ว."ขุนพลคนหนึ่งที่เข้าไปในห้องโถงและกล่าวรายงานในทันที.

"พวกเจ้า ๆ หยุดเต้นได้แล้ว เจ้าว่าอีกทีสิ... อะไรนะ? กองกำลังราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวกำลังบุกเข้าโจมตีอย่างงั้นรึ?" เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ถึงกับตื่นตกใจ สุราในมือถึงกับหกไปในทันที.

ทุกคนในห้องโถงที่เกิดเสียงดังอื้ออึ้งไปในทันที เหล่าแขกในงานต่างพูดคุยกันไปมา ด้วยสีหน้าเป็นกังวล.

"เร็ว ออกไปก่อน ไม่ต้องเต้นแล้ว."เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่ตะโกนออกไปในทันที.

เหล่านางรำที่เร่งรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว.

"ท่านเจ้าเมืองไม่จำเป็นต้องกังวล ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลวนำทหารมาเพียงแค่ 5 แสนนาย ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงเลย."ขุนพลคนดังกล่าวเอ่ยออกมาทันที.

"อะไร?ห้า ห้าแสนอย่างงั้นรึ?"เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่ตื่นตะลึง กำลังครุ่นคิด.

"จริงแท้แน่นอน!"ขุนพลคนดังกล่าวเผยยิ้มออกมา.

กับคำพูดของขุนพลคนดังกล่าว ทำให้เจ้าเมืองรู้สึกเบาใจขึ้นมาในทันที.

"ใครเป็นผู้นำทัพในครั้งนี้อย่างงั้นรึ?"เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่คิดและถามออกมา.

"ดูจากธงตราแม่ทัพแล้ว มีอักษรเขียนว่า"จง" "ขุนพลคนดังกล่าวตอบ.

"จง?จงซานอย่างงั้นรึ?"เจ้าเมืองถึงกับอุทานออกมาเสียงดัง.

"ท่านเจ้าเมือง มีอะไรอย่างงั้นรึ?"ขุนพลคนดังกล่าวแสดงท่าทางสงสัย.

"เร็ว เร็วเข้า แจ้งการเตือนภัยสูงสุด เตรียมระดับสูงสุด!นำข้าไปดู!"เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ร้อนรนขึ้นมาทันที.

"เจ้าเมือง ไม่ว่าอย่างไร จงซานก็มีเพียงแค่คนเดียวไม่ใช่รึ?"ขุนพลที่แสดงท่าทางสงสัย.

"เจ้าไม่เข้าใจ ก่อนหน้านี้กองกำลังแปดล้านคนยังไม่สามารถจัดเขาได้ กองกำลังอู๋อานในป้อมปราการ 1.5 ล้าน สุดท้ายก็ยังถูกเขา ยึดเมืองไปในที่สุด อ๋องจวีลู่ได้สั่งการมาเป็นพิเศษให้ระวังจงซานเอาไว้ หากจงซานมา ให้เตือนภัยขั้นสูงสุด."เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์กล่าว.

ทันทีที่เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์กล่าวจบ.

"ตรึม!!"

เสียงของกลองรบสายฟ้าที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งเมือง ทะลวงผ่านเข้ามาในตำหนักเจ้าเมือง.

"ตรึม!!ตรึม!ตรึม!ตรึม!ตรึม!ตรึม!"

เสียงกลองที่ดังสนั่น ถึงกับทำให้เกิดเสียงในหูอื้ออึง หัวใจสั่นไหว ทั่วทั้งเมืองอัคคีสวรรค์เวลานี้เงียบไปในทันที ประตูเมืองปิดแน่น เฝ้าระวังไปทางทิศตะวันออก.

เสียงกลองรบที่สั่นไหว โยกคลอนหัวใจเหล่าทหารเป็นอย่างมาก.

"ตามข้ามา!"เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่ก้าวออกไปด้านนอกในทันที.

"ครับ!"ขุนพลที่รบคำในทันที.

จากนั้นไม่นาน เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ก็มาถึงป้อมหน้าทิศตะวันออก.

ไม่ไกลออกไปนั้น เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์ที่จ้องมองไปยังทัพของจงซานที่ตั้งอยู่บนยอดเขา.

"เจ้าเมือง ข้าได้ให้คนไปแจ้งท่านแล้วไม่เห็นต้องมาด้วยตัวเองเลย."ขุนพลคนหนึ่งที่กล่าวออกมาทันที.

"ไม่ได้การ เจ้าไม่รู้ ก่อนหน้านี้จงซานยึดเมืองอู๋ซวังอย่างไร ความร้ายกาจของเขา ทุกคนต่างก็รู้ดี พวกเราจะต้องเฝ้าระวังให้ดี จ้องมองมือที่มองไม่เห็นทุกทิศทาง เฝ้าระวังสูงสุด."เจ้าเมืองอัคคีสวรรค์กล่าว.

"ครับ!"ขุนพลที่ตอบรับในทันที.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด