Chapter 198 เซิ่งซ่างคืนชีพ.
***
ระดับเซียนเทียน1-5(สร้างปราณแท้)
ระดับเซียนเทียน 6-10(กลั่นปราณแท้ให้กลายเป็นของเหลว ซึ่งเรียกแกนแท้)
ระดับแกนทอง ทะลวงชีพจร 360 จุด สร้างเรือนหยางหรือปราสาทอยาง โดยการรวมแกนแท้สร้างแกนขนาดใหญ่หรือปราสาทขึ้นมา.
***
บัญชาสวรรค์? ขุนพลที่อาบไปด้วยโลหิต ชำเลืองมองตาโตจับจ้องไปยังจงซาน เป็นระดับแกนทองที่ขี้โม้โอ้อวดหน้าไม่อาย เจ้าสร้างขึ้นเองรึ? เพียงแค่ระดับแกนทองอันกระจ่อยร่อย กล้าอวดอ้างน่าขายหน้า ซ้ำยังตั้งชื่อว่า บัญชาสวรรค์?
แน่นอน ขุนพลผู้นี้ไม่สามารถกล่าวอะไรออกมาได้อีกแล้ว อวัยวะภายในของเขาเวลานี้แตกสลาย ร่างกายถูกแยกออกเป็นสองส่วน เขายังจะมีชีวิตอยู่อีกรึ? เวลานี้ทำได้แค่เพียงจ้องมองด้วยความเกลียดชังและหดหู่ใจเท่านั้นเอง.
บัญชาสวรรค์ ชื่อของเพลงดาบเช่นนี้นับว่าอหังการมาก ทว่าจงซานคิดว่ามันจะเป็นหนึ่งในเพลงดาบที่จะต้องทรงพลังมีชื่อเสียง ในวันข้างหน้า แม้เวลานี้ก็จะยังไม่สมบูรณ์แบบ ทว่าในวันข้างหน้าจะต้องมีชื่อเสียงที่คู่ควรอย่างแน่นอน.
เพลงดาบของเขาเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น ที่ขุนพลคนดังกล่าวเสียสมาธิ เขาก็สามารถทำสำเร็จ ซึ่งแน่นอนว่าจงซานไม่มีทางปล่อยชั่วเวลาที่ฝ่ายตรงขามเผยจุดอ่อนให้หลุดไปได้ ด้วยการปล่อยหมอกหงหลวนออกมาจำนวนมากเพื่อทำการรบกวนสมาธิของขุนพลคนนั้นก่อน เพื่อทำให้เขาสูญเสียสมาธิ จิตใจถูกรบกวนไปแล้ว จนทำให้เขาได้เผยจุดอ่อนออกมาชั่วขณะ ก่อนที่จะเหวี่ยงดาบและเสาสายฟ้าฟาดฟันลงไปยังจุด่อน ทำให้เขาไม่สามารถที่จะป้องกันได้เลย.
แม้ว่าเป็นแค่เพียงการเหวี่ยงดาบธรรมดาก็ตาม แต่พลังของบัญชาสวรรค์ นั้นถูกกลั่นออกมาด้วยภูมิปัญญาของจงซานที่ฝึกฝนมาอย่างช่ำชอง.
ระดับก่อตั้งวิญญาณอีกคนหนึ่งได้ตายไปด้วยฝีมือของจงซานแล้ว.
จงซานค่อย ๆ เคลื่อนที่ขึ้นบนผิวน้ำช้า ๆ เขาที่ต้องหลบจากสถานที่แห่งนี้เร็วที่สุด เขาที่จ้องมองไปยังหุบเขาด้านหน้าหลังจากขึ้นฝั่ง ซึ่งมีถ้ำแห่งหนึ่งที่อยู่ตรงกลาง จงซานเร่งรีบเข้าไปด้านในและนำศิลายักษ์ออกมาปิดปากถ้ำเอาไว้ พร้อมกับเริ่มทำการตรวจสอบยันต์หยกทมิฬที่ได้รับมา.
ยันต์หยกทมิฬ ในเวลานี้มันได้กลายเป็นหยกทมิฬที่ส่องประกายแสงสีเงินจาง ๆ ออกมา มีอักขระที่ลอยขึ้นมาด้านบนยันต์ที่ดูแปลกประหลาด แต่ดูลึกล้ำเป็นอย่างมาก จงซานที่จ้องมองดูอักขระดังกล่าว ก่อนที่ภายในใจจะรู้สึกสับสนฟุ้งซ่านจมจ่อมไปกับมัน.
จงซานที่ส่ายหน้าไปมา หลับตาเพื่อเรียกสติกลับคืนมา ที่หน้าผากหลั่งเหงื่อที่เย็นยะเยืยบออกมา สูดหายใจลึกก่อนที่จะลืมตาอีกครั้ง พร้อมกับจ้องมองไปยังยันต์หยกทมิฬใหม่.
ยันต์หยกนี่ ซ่อนอะไรเอาไว้?
จงซานที่แผ่แกนแท้ลงไปช้า ๆ .
"พรึด ๆ "
นี่ไม่ใช่ยันต์หรอกรึ? จงซานชำเลืองมองตาโต จากนั้นจิตสำนึกของเขาที่เข้าไปในร่างกายทันที เพราะว่ามันรวดเร็วเป็นอย่างมาก จงซานที่รู้สึกว่าเรือนหยางของเขาส่ายไปมานั่นเอง เขาที่ส่งจิตสำนึกเข้าไปตรวจสอบข้างใน.
เรือนหยางขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ตรงกลาง มียันต์หยกทมิฬประทับอยู่ด้านใน.
"หืม?"จงซานที่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย.
เคลื่อนจิตสำนึก ปราณหยางบริสุทธิ์ถ่ายเทลงไป ยันต์หยกทมิฬก็กลับมาอยู่ในมือของเขาในทันที.
จงซานที่จ้องมองไปยังยันต์หยกทมิฬที่อยู่ในมือของเขา พร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอ เขารู้แล้วว่าได้รับสมบัติวิเศษแล้ว.
เขาที่ถ่ายปราณแท้และซ่อนมันเอาไว้ในเรือนหยางอีกครั้ง จิตสำนึกของเขาที่เขาไปสำรวจด้านใน ยันต์หยกทมิฬนี้มีความสามารถในการป้องกันร่างกายที่อาบไปทั่วร่างของเขาซึ่งเป็นของวิเศษที่แปลกประหลาดมาก.
จงซานที่ทำการตรวจสอบอย่างระมัดระวัง ยันต์หยกทมิฬที่อยู่ในเรือนหยางของเขา มันไม่ได้ดูดซับปราณหยางของเขาแต่อย่างไร มันเพียงแค่มาซ่อนตัวอยู่ในเรือนอย่างเท่านั้น.
จงซานไม่ได้กังวลอีกต่อไป ในเมื่อมันไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้กับเขา เช่นนั้นไว้ค่อยตรวจสอบภายหลังอีกครั้ง.
จงซานที่ออกมาจากที่ซ่อนตัวภายในถ้ำแห่งนี้ เขาไม่มีแผนกลับเข้าไปข้างในอีกแล้ว ตอนนี้เขาเตรียมที่จะกลับไปยังตำแหน่งของสำนักยวีเหิง.
ขณะที่จงซานไล่ตามยันต์หยกทมิฬออกไปนั้น ที่เหนือน้ำพุทมิฬนั้น ปราสาทต้าฉิน ถูกเหล่าขุนพลทำลายโจมตีอย่างหนักหน่วง แม้ว่าพื้นที่รอบ ๆ สิ่งของต่าง ๆ จะพังทลายกระจายไปทั่ว คาดไม่ถึงเลยว่าแท้จริงแล้วปราสาทต้าฉินนั้นไม่ได้เสียหายเลยแม้แต่น้อย.
ไป่เย่ เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลย เขาเพียงคนเดียว ดาบโลหิตของเขาสามารถขวางผู้ฝึกตนทุกคนเอาไว้ได้.
พุทธะฮุ่ยกวง มารฉู่ป้าและเซียนเซิงสุ่ยจิง คนทั้งสามที่มีระดับจักรพรรดิแท้เข้าโจมตีพร้อมกัน ไม่มีใครคาดคิดเลยว่าไป่เย่คนเดียวจะสามารถขวางกั้นเขาเอาไว้ได้.
"ตูมมมมม!"
ประกายแสงสีแดงที่สาดกระจาย ดาบยักษ์ของไป่เย่ร้ายกายเป็นอย่างมากตวัดใส่ผู้เยี่ยมยุทธ์ทั้งสามในครั้งเดียวกัน.
เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย มารฉู่เป้าและพุทธะฮุ่ยกวงที่สั่นสะท้าน ไป่เย่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.
เหล่าผู้ฝึกตนตอนนี้ยังคงพยายามที่จะทำลายปราสาทหยินกันอยู่.
"พรุ๊ด ๆ ."
ภายในปราสาทต้าหยิน มีเสียงที่ดังออกมาเล็กน้อย เป็นเสียงที่ดูอ่อนแรง เหล่าขุนพลที่อยู่ด้านนอกยังไม่สามารถตระหนักได้เลยด้วยซ้ำ.
ขณะที่เหล่าขุนพลเตรียมที่จะทำลายผลึกนั่นอีกครั้ง ทันใดนั้นโลงศพหยกม่วงที่อยู่ตรงกลาง ใบหน้าของเซิ่งซ่างที่เป็นสีขาว ดวงตาทั้งสองข้างก็ลืมขึ้นมา.
เซิ่งซ่างลืมตา? ดวงตาสีแดงฉาน สีแดงเหมือนกับมังกรตาบอดที่พวกเขาเห็นก่อนหน้านี้ สีแดงที่ไร้ประกาย นี่ยังเป็นดวงตาอยู่อีกรึ?
ผู้ฝึกตนทุกคนที่หยุดนิ่ง ทุกคนที่เห็นปราสาทต้าฉินผิดปรกติ หลังจากนั้นร่างของเซิ่งซ่างก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นช้า ๆ .
ร่างกายของเขาที่ยืนขึ้นอย่างแปลกประหลาด.
ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ปราสาทต้าฉินเวลานี้ต่างก็นิ่งงัน ร่างกายราวกับถูกตรึง ชำเลืองมองไปยังโลงศพม่วง รู้สึกขนลุกตั้งชัน ไม่ใช่ว่าเซิ่งซ่างตายไปแล้วรึ?
เหล่าขุนพลที่โจมตีปราสาทตอนนี้ต่างก็หยุดนิ่ง ไป่เย่และคนอื่น ๆ ที่สู้กันอยู่ต่างก็หยุดนิ่งเช่นกัน ทุกต่างก็จ้องมองเป็นสายตาเดียวกัน เมื่อเห็นเซิ่งซ่างยืนขึ้นมา ทุก ๆ คนเปลี่ยนเป็นโง่งม หนังหัวชาหนึบไปตาม ๆ กัน.
ทันใดนั้นเซิ่งซ่างก็อ้าปากออกมา เผยให้เห็นเขี้ยวแหลมสองซีกสีแดงชาด เขาคำรามดังสนั่นปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า.
"โฮกกกก!"
ปราสาทต้าฉินเวลานี้กำลังสั่นสะเทือน ผนังของปราสาทที่สั่นไปมาอย่างรุนแรง น้ำพุอเวจีที่อยู่ด้านล่าง ตอนนี้กำลังพ่นปราณหยินออกมาอีกครั้ง ทว่าเวลานี้มันไม่พ่นผ่านปราสาทต้าฉินอีกต่อไป.
"ตูมมมมมม!"
ผืนปฐพีที่สั่นไหวอย่างรุนแรง เสียงระเบิดเสียงดังสนั่น แม้แต่ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณยังต้องกุมหูแสดงท่าทางเจ็บปวดทรมาน.
เหล่าขุนพลหลายร้อยคนที่มีระดับก่อตั้งวิญญาณที่อยู่รอบ ๆ ปราสาทต้าฉินตอนนี้ถึงกับกุมหูล่วงหล่นลงบนพื้น.
ใบหน้าของกู่หลินในเวลานี้เปลี่ยนเป็นขาวซีด หากไม่เพราะว่ามีเซียนเซิงสุ่ยจิงที่คุ้มกันกู่หลินเอาไว้ เวลานี้กู่หลินคงไม่ต่างจากเหล่าขุนพลคนอื่น ๆ เสียงระเบิดดังลั่นสั่นสะเทือนผืนปฐพี.
ครืน เสียงดังรุนแรงมาก ไม่เพียงแต่เป็นคลื่นเสียงที่ทรงพลัง แต่ดูเหมือนว่าเซิ่งซ่างจะแสดงท่าทางโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก อากาศรอบ ๆ สั่นไหวบิดเบี้ยว จนทำให้เหล่าขุนพลได้รับผลอย่างรุนแรง แม้แต่กงจูเฉียนโหยวใบหน้าของนางยังเปลี่ยนเป็นขาวซีด.
เสียงคำรามที่ดังลั่นฉีกอากาศบนท้องฟ้า การคำรามของเซิ่งซ่างนั้นทรงพลังมาก หลังจากนั้นที่ด้านหลังร่างของเขา ทันใดนั้นก็มีปีกสีดำทมิฬโผล่ออกมา.
เหมือนกับปีกค้างคาวขนาดใหญ่สีดำ ทว่าปีกคู่นี้เต็มไปด้วยกระดูก ดูเหมือนกับปีกของมังกรกระดูกเช่นกัน.
ทันทีที่ปีกของเขาโผล่ออกมา ยันต์แปดแผ่นบนองค์รักษ์เจียงซือแปดตนก็สั่นไหวปลิวออกมาทันที.
ตราลัญจกรมังกรสวรรค์และกระบี่เทวะสีดำลอยออกมาจากโลงศพ ปีกมังกรขนาดใหญ่สีดำที่สะบัด ไม่สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวได้ ไม่เห็นแม้แต่ภาพติดตา พริบตาเดียวก็มาปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของไป่เย่แล้ว.
จักรพรรดิต้าเย่ไม่มีพลังที่จะตอบโต้เลยด้วยซ้ำ เขาที่ถูกเซิงซ่างจับตัวเอาไว้ ปีกมังกรที่สะบัดราวกับจะปิดท้องฟ้า เขี้ยวสีโลหิตที่กัดฝังลงบนคอของไป่เย่จมเขี้ยว ดูดโลหิตของไป่เย่ไปทั้งหมดอย่างรวดเร็ว.
"ไป."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ไร้ซึ่งลังเล จับกู่หลินพร้อมกับถอยหนีในทันที.
อย่างไรก็ตาม องค์รักษ์เจียงซือจากตำหนักต้าฉิน ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของเซียนเซิงสุ่ยจิงแทบจะทันที เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดมือโจมตีออกไปในทันที.
"ตูมมมมมมม!"
"พรึด!!!"
ตูมมม เซียนเซิงสุ่ยจิงถึงกับพ่นโลหิตคำโต พื้นที่รอบ ๆ ปราณทมิฬระเบิดตลบอบอวลไปหมด ทว่าเซียนเซิงสุ่ยจิงก็สามารถลากกู่หลินหนีออกมาได้ พวกเขาพุ่งหนีออกมาตามแรงกระแทก ใช้โอกาสดังกล่าวหลบหนี.
จากภายในปราสาทต้าฉินนั้น เหล่าองค์รักษ์เจียงซือมากมาย ทว่าก็เคลื่อนไหวออกมาเพียงแปดตน เป็นเหมือนกับองค์รักษ์ส่วนตัว มันได้พุ่งออกไปทุกทิศทุกทาง.
"ตูมมมมม"
"พรึด ๆ ๆ ๆ "
มารฉู่ป้าที่ปล่อยฝ่ามือใส่องค์รักษ์เจียงซือเสียงดังสนั่น พ่นโลหิตคำโตก่อนที่จะเร่งรีบนำเซี่ยเหยี่ยนหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว.
"ตูมมมมมม!"
พุทธะฮุ่ยกวงเองปล่อยฝ่ามือใส่องค์รักษ์เจียงซือเช่นกัน เขาที่เต็มไปด้วยท่าทางหวาดผวา เร่งรีบหนีไปเช่นกัน.
อาณาจักรจักรพรรดิแท้ สุ่ยจิง ฉู่ป้าและพุทธะฮุ่ยกวง ยังไม่กล้าเข้าประจันหน้ากับองค์รักษ์เจียงซือ แล้วกงจูเฉียนโหยวที่มีระดับหลอมกายธาตุล่ะ จะเป็นอย่างไร?
ที่ด้านหน้ากงจูเฉียนโหยวที่มีองค์รักษ์เจียงซือตนหนึ่งโผล่ออกมา.
ฝ่ามือของมันที่ฟาดออกมา ดวงตาของอาเอ้อเบิกกว้าง พลังกดดันวิญญาณที่ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดุร้ายต่อยออกไปเข้าปะทะการโจมตีขององค์รักษ์เจียงซือทันที.
ส่วนอาต้า พากงจูเฉียนโหยวถอยออกไปอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็พุ่งไปไกลแล้ว.
"ตูมมมมมมมม!"
"พรึด!"
อาเอ้อที่พ่นโลหิตคำโต กับการปะทะ ที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก เขาที่เร่งรีบถอนตัวหนีหายไปในทันทีเช่นกัน.
หนีหาย เหล่าตัวตนระดับจักรพรรดิแท้ต่างก็หนีหายไปทีละคน ๆ ทุกคนสามารถหนีรอด ทว่าเหล่าขุนพลคนอื่น ๆ ของจักรพรรดิต้าเย่ล่ะ? พวกเขาที่มีกองกำลังระดับก่อตั้งวิญญาณ จะสามารถหนีได้อย่างงั้นรึ?
เกิดเสียงดังสนั่นติดต่อกัน เหล่าองค์รักษ์เจียงซือที่บดขยี้พวกเขา แม้แต่แม่ทัพพิทักษ์ดินแดนระดับหลอมกายธาตุ ยังถูกสังหารไปทั้งหมด.
หลังจากสังหารทุกคนหมดแล้ว องค์รักษ์เจียงซือก็ได้กลับมาล้อมรอบเซิ่งซ่าง.
เซิ่งซ่างที่ทำการดูดโลหิตของไป่เย่จนหมด ไป่เย่ไม่มีพลังที่จะต่อต้านแม้แต่น้อย ทั้งที่เขามีพลังฝึกตนระดับจักรพรรดิแท้ก็ตามที คาดไม่ถึงเลยว่าจะไร้ซึ่งพลังต้านทาน ตอนนี้โลหิตเขาแห้งเหือด ร่างกายทั่วร่างของไป่เย่ที่ถูกคลุมไปด้วยประกายแสงสีแดง.
จากนั้น เซิ่งซ่างก็ค่อย ๆ ปล่อยร่างของไป่เย่ ดวงตาสีแดงของเขาเวลานี้ค่อย ๆ ฟื้นฟูกลับมา ประกายแสงในแววตาของเซิ่งซ่างค่อย ๆ กลับมาเล็กน้อย ปีกมังกรที่ค่อย ๆ หุบเข้ามา แววตาของเขาที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น.
เขาที่เงยหน้าจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อนที่จะค่อย ๆ หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"
เสียงหัวเราะของเขานั้นสั่นสะเทือนจนทำให้เกิดแผ่นดินไหว เขาที่ได้รับชีวิตใหม่เขาฟื้นขึ้นมาแล้ว เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ อากาศรอบ ๆ ตอนนี้ถึงกับบิดเบี้ยว หลังจากที่ผ่านไป 20 ลมหายใจเขาก็หยุด ทว่าตอนนี้ไป่เย่อยู่ที่ด้านหน้า ดวงตาของเขาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงช้า ๆ เขาที่เงยหน้าพร้อมกับนั่งลงแสดงความเคารพต่อ เซิ่งซ่าง คุกเข่าด้วยความเคารพอย่างที่สุด.
"คารวะเซิ่งซ่าง."ไปเย่ที่แสดงความเคารพ.
เซิ่งซ่างที่จ้องมองไปยังไป่เย่ ก่อนที่จะจ้องมองไปยังปราสาทต้าฉิน ปราสาทต้าฉินลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับลอยเข้ามาในแขนเสื้อของเซิ่งซ่างอย่างรวดเร็ว ปราสาทต้าฉินถูกเก็บเข้ามาในแขนเสื้อเซิ่งซ่างเรียบร้อย.
เขาที่เงยหน้าขึ้น เห็นดวงจันทร์ที่ลับตาไปเรียบร้อยแล้ว.
"ไป."เซิ่งซ่างที่ก้าวลอยไปด้านหน้า.
ไป่เย่และองค์รักษ์เจียงซือทั้งแปดก็ตามเซิ่งซ่างไปอย่างใกล้ชิด พริบตาเดียวก็หายเข้าไปในป่าทึบ.