ตอนที่แล้วChapter 196 ต้าฉิน.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 198 เซิ่งซ่างคืนชีพ.

Chapter 197 บัญชาสวรรค์


สิ่งที่จงซานไล่ตามนี้คือสิ่งใด? แม้ว่าจงซานจะไม่เคยเห็น ทว่าด้วยภูมิปัญญาของจงซานแล้ว เขาสามารถคาดเดาได้ในทันทีว่าเป็นของมีค่าอย่างแน่นอน สิ่งของดังกล่าวที่ออกมาจากปราสาท พร้อมกับเวลาเดียวกันกับปราสาทต้าฉินแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ มันได้พุ่งลอยออกมาตามแสงจันทร์ หรือก็คือยันต์หยกสีดำ.

ปราสาทต้าฉินที่แหลกเป็นชิ้น ๆ  เศษชิ้นส่วนต่าง ๆ มากมายกระจายไปทั่ว สิ่งของชิ้นนี้ไม่ใช่สิ่งของชิ้นใหญ่นัก มันคือยันต์หยกทมิฬ กับพื้นที่รอบ ๆ ที่เต็มไปด้วยปราณสีดำคละคลุ้งทำให้กลมกลืนกับบรรยากาศ จงซานเองก็ไม่สามารถมองเห็นรูปร่างของมันได้ ทว่าเขาได้ยินเสียงและแยกแยะได้อย่างแม่นยำ จงซานที่ไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว เขาที่จ้องมองไปยังยันต์หยกทมิฬมีแสงสีเงินอ่อน ๆ แผ่ออกมา พุ่งออกมาจากด้านใน.

จงซานที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ที่ด้านหน้าปราสาทหยกนั้น เขาไม่มีความสามารถที่จะจัดการได้อย่างแน่นอน สิ่งเดียวที่ลอยออกมา ยันต์หยกทมิฬ น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่เขาพอจะสามารถคว้าได้.

เร็วมาก จงซานที่ยืนอยู่บนกระบี่เหินพุ่งไล่ตามด้วยความเร็วเต็มกำลัง ผ่านอากาศม่านปราณสีดำ ท้ายที่สุดก็สามารถมองเห็นได้ลิบ ๆ  แสงสีเงินตอนนี้ค่อย ๆ จางลงเรื่อย ๆ  ปรากฏเป็นหยกอักขระสีดำ ยันต์หยกทมิฬ พุ่งตรงไปยังขอบฟ้าไกล.

วิชากายาเทพอสูร! ระดับสี่!

พลังที่เพิ่มขึ้นอีกห้าเท่า จงซานที่เพิ่มความเร็วในการไล่ตามอีกครั้ง เพราะว่าหยกอักขระทมิฬนั้นพุ่งผ่านอากาศที่หนาวเย็นทำให้ความเร็วของมันลดลงเรื่อย ๆ  เวลานี้มันได้ลอยผ่านยอดเขาไปแปดลูกแล้ว ท้ายที่สุดจงซานก็สามารถไล่กวดเข้าไปใกล้ยันต์หยกทมิฬได้ในที่สุด.

อย่างไรก็ตามจงซานยังไม่มั่นใจนัก ไม่สามารถบอกได้ว่ายังมีอันตรายใดซ่อนเอาไว้อยู่หรือไม่ ด้วยโชคลาภมักจะซ่อนอันตรายเอาไว้เสมอ แม้ว่าเขาไม่รู้ว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร ทว่านับตั้งแต่เข้าก้าวมาสู่เส้นทางผู้ฝึกตน จงซานกลับเชื่อเรื่องนี้สนิทใจ ทุกครั้งที่เขาสามารถก้าวผ่านอันตรายไปได้ จะมีสิ่งที่ทำให้เขาพึงพอใจเสมอ.

ขณะที่จงซานไล่ตามยันต์หยกทมิฬ จงซานก็ตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ไปด้วย.

ทันที่ที่เขาหันหลังกลับไปมองด้านหลัง หัวใจของจงซานถึงกับบีบรัด เป็นเรื่องจริงเหมือนที่เคยเกิดขึ้นทุกครั้ง ก่อนหน้านี้มีกองกำลังมากมายที่ล้อมกรอบทำลายตำหนักหยกอยู่ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีขุนพลคนหนึ่งที่ไล่ตามมา.

ระดับก่อตั้งวิญญาณ ก้าวตามสายลม หากแต่จงซานที่ต้องยืนอยู่บนดาบยักษ์ของเขา.

ขุนพลระดับก่อตั้งวิญญาณที่ไล่ตามยันต์หยกทมิฬเช่นกัน เขาที่เห็นจงซานที่ยืนอยู่บนดาบยักษ์ กระบี่เหิน?ระดับแกนทองเหรอ? ขุนพลระดับก่อตั้งวิญญาณที่เผยยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยสัมผัสเทวะไปจับเป้าหมายเอาไว้ได้ กับความเร็วเช่นนี้ ความเร็วระดับแกนทองรึ?

จงซานที่หัวใจเต้นไปมา เร่งรีบเพิ่มความเร็วขึ้นอีก เขาจะต้องการคว้ายันต์หยกทมิฬเอาไว้ก่อน ผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณคนนี้ให้ได้.

จงซานที่ไล่ยันต์หยกทมิฬ ทันที่ที่เขาคว้ามันเอาไว้ได้ ก็ล่วงหล่นลงแม่น้ำใหญ่แห่งหนึ่ง ขุนพลก่อตั้งวิญญาณที่รู้สึกโกรธเกรี้ยว ดาบยักษ์ของเขาที่ตวัดออกมา.

เสียงดังสนั่น ปราณดาบขนาดร้อยจั้ง พุ่งตรงไปยังตำแหน่งของจงซานอย่างรุนแรง.

"ตูมมมมม!"

จงซานที่ปล่อยปราณออกมาคุ้มกาย ชนเขากับปราณดาบเสียงดังสนั่น จมลึกลงไปในทะเลสาบ เกิดคลื่นใหญ่ยักษ์พุ่งทะยานสูง.

"พรึด ๆ  ๆ "

โลหิตที่แผ่ออกไปรอบ ๆ ผิวน้ำ จงซานที่จมลึกลงไปในทะเลสาบ ทว่าจงซานนั้นทำสำเร็จ เขาที่คว้ายันต์หยกทมิฬเอาไว้ได้.

อย่างไรก็ตาม ยันต์หยกทมิฬนี้ไม่สามารถเก็บเข้าไปในกำไลเก็บของได้อย่างไม่คาดคิด.

ยันต์หยกทมิฬที่เขาถือเอาไว้ ใบหน้าของจงซานที่แสดงท่าทางประหลาดใจ พร้อมกับแสดงความเป็นกังวลพร้อม ๆ กัน เพราะว่ามันไม่สามารถเก็บเข้าไปในกำไลเก็บของเขาได้ ที่จริงแล้วเขาต้องการที่จะเก็บซ่อนมันเอาไว้ พร้อมกับออกมาเจรจากับขุนพลระดับก่อตั้งวิญญาณ ด้วยมันสมองของเขาแล้ว เขาจะต้องหลบเลี่ยงหลีกหนีไปได้แน่ ทว่าในเมื่อมันไม่สามารถซ่อนเอาไว้ได้? ทันทีที่ฝ่ายตรงข้ามเห็นต้องสังหารเขาแน่.

ทำอย่างไรดี?

ในเวลาเดียวกันจงซานที่ดำดิ่งลงไปใต้ทะเลสาบ พร้อมกับคิดหาวิธี.

"เป็นสมบัติชั้นยอด!"ขุนพลบนผิวน้ำที่แสดงท่าทางประหลาดใจดีใจไปพร้อมกัน.

เพราะว่าขุนพลคนดังกล่าวเห็นการเคลื่อนไหวของจงซานได้ ไม่สามารถเก็บหยกทมิฬนั่นเข้าไปในกำไลเก็บของได้? ไม่จำเป็นต้องเอ่ยเลยว่ามันเป็นสมบัติชั้นยอดขนาดใหน! และเขายังไม่จำเป็นต้องกังวลอีกด้วย ฝ่ายตรงข้ามมีระดับแกนทองเท่านั้น นอกจากนี้เขายังใช้สัมผัสเทวะจับร่างของคนผู้นี้เอาไว้แล้ว หนีรึ?ไม่มีทางที่จะหนีไปใหนได้.

ในทะเลสาบขนาดใหญ่ ขณะที่จงซานดำลึกลงมาได้ครึ่งหนึ่งนั้น เขาที่ทำการตรวจสอบร่างกายในทันที ดูเหมือนว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น ในเวลาเดียวกัน จงซานก็ปล่อยหมอกหงหลวนผสมเข้ากับสายน้ำเป็นจำนวนมาก.

ในเวลาเดียวกันสิ่งมีชีวิตใต้น้ำตอนนี้กำลังร้อนรุ่มไปหมด.

ขุนพลคนดังกล่าวดูไม่เร่งรีบ เขายังคงรอคอยจงซานอยู่อย่างใจเย็น เฝ้ามองอยู่บนผิวน้ำ จงซานที่อยู่ลึกลงไปใต้น้ำไม่มีทางที่จะหลบหนีเขาไปได้.

ขุนพลคนดังกล่าวที่เผยยิ้ม เฝ้ามองเขาอย่างใจเย็น จะหนีไปใหน?

จงซานเองก็ไม่ได้กระวนกระวายใจแต่อย่างใด แม้ว่าจะต้องเชิญกับอันตรายเขาก็ยังคงสุขุม ตั้งแต่อยู่ในระดับเซียนเทียนแล้ว เขาเองยังสามารถสังหารแม่ทัพเหล่ยติงที่อยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณได้ ตอนนี้เขาอยู่ในระดับแกนทองขั้นที่สี่ จะไม่สามารถสังหารผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณได้อีกครั้งอย่างงั้นรึ?

ลึกลงไปในทะเลสาบนั้น จงซานที่เคลื่อนที่ลึกลงมาช้า ๆ .

ความลึกของทะเลสาบน่าจะอยู่ราว ๆ สองร้อยเมตร นับว่าเป็นทะเลสาบที่ค่อนข้างลึก จงซานที่พบเข้ากับศิลายักษ์ก้อนหนึ่ง เขาที่ซ่อนตัวอยู่หลังศิลายักษ์ พร้อมกับกุมดาบเอาไว้แน่น เขาที่จ้องมองขึ้นไปด้านบน พร้อมกับปล่อยหมอกหงหลวนออกมาช้า ๆ  ปกคลุมไปทั่วทั้งทะเลสาบ เพราะว่าดวงตะวันยังไม่ส่องแสง ดังนั้นจึงยากที่จะมองเห็นหมอกหงหลวนของเขา.

ขุนพลระดับก่อตั้งวิญญาณที่ยืนอยู่บนผิวน้ำ สัมผัสเทวะของเขาที่ผูกร่างของจงซานเอาไว้ ที่ริมฝีปากยกขึ้นแสดงท่าทางเหยียดหยัน.

"เจ้าไม่มีทางหนีแล้ว ส่งยันต์นั่นมา ข้าอาจพอไว้ชีวิตเจ้าได้."ขุนพลคนดังกล่าวเอ่ย.

คิดว่าจงซานจะเชื่อเขาอย่างงั้นรึ? ที่แห่งนี้มีเขาแค่คนเดียว หากฆ่าเขาไปแล้ว ก็จะไม่มีใครรู้ว่ายันต์นี้อยู่กับเขา มีเหรอที่เขาจะปล่อยจงซานไป?

จงซานที่ไม่กล่าวอะไรอีกต่อไป เขายังคงเฝ้ามองอย่างใจเย็นอยู่ใต้แม่น้ำ สายตาที่จ้องมองขึ้นไปด้านบน กุมดาบไม่เคลื่อนไหว.

จงซานที่เฝ้ามองขึ้นไปด้านบน เขาไม่รู้ว่าขุนพลที่ยืนอยู่ด้านบนนั้น อาจจะไม่ได้รับคำสั่งจากกองทัพมา ไม่ใช่ว่าเขากำลังหนีออกมาอย่างงั้นรึ? ทว่าก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องรู้ เพราะว่าจงซานเวลานี้ต้องการที่จะสังหารเขาให้ได้.

จกซานที่ยืนนิ่ง ทันใดนั้นดาบยักษ์ของเขาก็ฟันออกไปอย่างหนักหน่วงและรุนแรง.

"ตูมมมมมม!"

การโจมตีของจงซานนั้นรวมเร็วเป็นอย่างมาก เกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แรงกระแทกจากการเหวี่ยงที่พุ่งขึ้นไปบนผิวน้ำในทันที.

อย่างไรก็ตามการโจมตี ขุนพลคนดังกล่าวไม่มีเวลาที่จะถอยหลัง เพราะว่าแม้จะอยู่ลึกลงมา 200 เมตร แต่ก็ไม่มีผลอะไรกับเขา จงซานที่อยู่ในระดับสี่แกนทอง และยังเพิ่มพลังขึ้นอีกห้าเท่าเป็นเวลาสองชั่วโมง.

ปราณดาบที่เขาพุ่งเข้าหาขุนพล สายตาของเขาที่แสดงท่าทางเหยียดหยันไม่คิดหลบการโจมตีไปด้านหลัง.

"ชิ!"ขุนพลคนดังกล่าวแค่นเสียง ร่างกายของเขาปล่อยปราณคุ้มกันให้หนาแน่นขึ้น ก่อนที่จะค่อยพุ่งลงในแม่น้ำในทันที.

ทันทีที่เขาจมร่างลงมาในน้ำ ที่มุมปากของจงซานก็เผยยิ้มเหยียดหยันในทันที.

จงซานที่กำลังยั้งเท้าที่ศิลายักษ์ ขณะที่ขุนพลคนดังกล่าวจมลึกลงมาราว ๆ ร้อยเมตร ดวงตาของจงซานที่หดเกร็ง มือสองข้างที่สร้างปราณเกราะดาบขนาด 30 จั้งยืดยาวออกมาเตรียมที่จะเข้าปะทะกับขุนพลคนดังกล่าว.

ปราณดาบ เกราะปราณดาบตั้งท่าเตรียมพร้อม  ขุนพลคนดังกล่าวที่แสดงท่าทางเหยียดหยัน  เขาที่อยู่ห่างออกมาร้อยเมตร ไม่ น่าจะ 80 เมตร คิดว่าดาบนั่นจะทำอะไรข้าได้ คนผู้นี้ไม่หนีอย่างงั้นรึ? โง่ขนาดนี้เลยรึ?

เส้นเลือดที่หน้าผากของจงซานที่โป่งพองเตรียมเหวี่ยงดาบ ขุนพลคนดังกล่าวเต็มไปด้วยความเหยียดหยันพุ่งลงมาเรื่อย ๆ .

ที่หน้าผากของจงซานเส้นเลือดปูดออกมา การโจมตีครั้งนี้คือการโจมตีสุดกำลัง เขาเป็นเพียงคนโง่อย่างงั้นรึ? หากใครที่รู้จักจงซาน แน่นอนย่อมไม่มีใครกล้าพูดว่าจงซานโง่ เพราะว่าคนที่เอ่ยว่าจงซานโง่ คนนั้นคือคนที่โง่อย่างแท้จริง.

จงซานที่ตวัดดาบออกไปอย่างรุนแรง ทว่าการเหวี่ยงดาบออกไปนั้นไม่ได้เพื่อตัดร่างขุนพลที่กำลังพุ่งเข้ามาอย่างเดียว ทว่าเขาต้องการแยกทะเลสาบนี้ออกด้วย ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้จ้องเขม็งไปยังขุนพลคนดังกล่าวอย่างเดียว แต่เขากำลังมองหาจุดอ่อนการไหลของสายน้ำเพื่อที่จะแยกมันออกเป็นสองส่วนต่างหาก.

เพลงดาบที่สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง ไม่สามารถบอกได้ว่ามันมีระดับสูงเท่าใด ทว่าทุกครั้งที่จงซานใช้ออกมา ก็ไม่มีใครเคยดูแคลนเขาเลย การจะรับรู้พลังของมันก็ต้องจ่ายไปด้วยราคาที่แพงอย่างแน่นอน.

ขณะที่ขุนพลคนดังกล่าวกำลังเหยียดหยันจงซานอยู่นั้น ทันใดนั้นภายในใจของเขาก็รู้สึกสูญเสียความสงบไป เกิดความเหี้ยนกระหายในตัวของหญิงสาวที่งดงาม เขาที่สูญเสียสมาธิไป ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นี่คือวิชาลวงตาอย่างงั้นรึ?

"ตูมมมมมม!"

ที่ด้านบนของแม่ทัพนั้นเกิดเป็นเสาสายฟ้าขนาดใหญ่ขึ้น หลังจากที่เขากำลังสูญเสียสมาธิไปแล้ว ดาบยักษ์ก็สับลงมา.

"ครืนนนนนน"

คมดาบที่ฟาดฟันไปด้านหน้าพร้อมกับเสาสายฟ้าที่ฟาดลงมาพร้อม ๆ กัน ในเวลานี้แม่ทัพที่นิ่งงัน เขาที่เห็นได้แค่เพียงบางส่วน อะไรกัน? นี่เขาอยู่ในระดับแกนทองอย่างงั้นรึ?

เสาสายฟ้าที่ฟาดลงมาพร้อมกับการเหวี่ยงดาบของจงซาน กระแทกไปยังร่างของเขาอย่างสมบูรณ์.

การฟันของเขาที่แยกทะเลสาบออกเป็นสองส่วน ฉีกกระฉากเปิดสายน้ำออกมาด้วยพลังมหาศาล.

สายน้ำที่แยกออก ด้วยพลังที่มองไม่เห็น ตามคมดาบของจงซาน คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะแยกออกเป็นสองซีกได้.

สายน้ำที่แยกออกตามคมดาบ เสาสายฟ้าที่พุ่งตรงลงมาพร้อม ๆ กัน.

เป็นเรื่องที่แปลก สายน้ำที่แยกออกจากนั้นไม่ได้เกิดจากปราณดาบ แต่มันกับแยกออกจากกันด้วยพลังที่มองไม่เห็นเหมือนกับพลังของสายน้ำเอง เปิดทางให้กับเสาสายฟ้าพุ่งตรงลงมายังร่างของขุนพลดังกล่าว.

ดวงตาของขุนพลที่หดเกร็ง แม้ว่าเขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทว่าเขาก็รู้ว่ากำลังอยู่ในสถานการณ์ไม่ดีแล้ว อันตราย อันตรายอย่างที่สุด!

คมเกราะดาบที่พุ่งตามมาตามด้วยเสาสายฟ้า ตอนนี้เขาไม่มีเวลาหลบหนีได้ ทำได้แค่เพียงปล่อยปราณออกมาคุ้มกันร่างกายอย่างรวดเร็วเท่านั้น.

ปราณสีแดงโลหิตที่สร้างขึ้นมาปกคลุมตัวเองเหมือนกับเปลือกไข่ที่ซ่อนร่างของเขาอยู่ด้านใน.

เพลงดาบระดับแกนทอง ส่วนตัวเขาที่อยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณ เขาที่คิดเขาข้างตัวเอง ทว่ากลับสัมผัสได้ถึงอันตรายไม่จางหายไป ขนทั่วร่างที่ลุกตั้งชันโดยไม่ได้นัดหมาย.

ทันทีที่ปราณเกราะดาบเขาปะทะปราณคุ้มร่างของเขาก็แตกเป็นรอยร้าวออกมาอย่างรวดเร็ว ขุนพลที่หวาดผวา.

ทรงพลังมาก เป็นพลังที่เกินกว่าที่เขาจะคาดการได้ ปราณดาบที่ฟันลงมาอย่างรุนแรง พลังที่หนักหน่วงทรงพลังสร้างรอยร้าวไปทั่วปราณคุ้มร่างของเขาอย่างบ้าคลั่ง.

นี่คือกลิ่นอายของระดับก่อตั้งวิญญาณที่ปล่อยออกมาคุ้มกันร่างกายตัวเอง ทว่ามันกับต้านทานได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนที่จะถูกฉีกกระชากไปในทันที พลังที่มากมายสร้างความเสียหายไปทั่วตัดผ่านปราณคุ้มร่างของเขา.

ดวงตาทั้งสองข้างขุนพลคนดังกล่าวเบิกกว้าง ก่อนที่แขนขวาและขาขวาของเขาถูกดึงกะชาก ขาดออกไปจากร่างกายของเขาทันที.

กับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ขุนพลผู้นี้ไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย ระดับแกนทอง นี่เขามีระดับแกนทองอย่างงั้นรึ? เป็นไปได้อย่างไร ที่เพลงดาบของเขาจะทรงพลังขนาดนี้?ทำไม?

"นี่มันเพลงดาบอะไร?"เป็นเหมือนกับคำถามสุดท้ายก่อนตายกับท่าทางไม่อยากยอมรับเรื่องที่เกิดขึ้น.

จงซานที่จ้องมองอย่างเย็นชากล่าวออกมาช้า ๆ  "เพลงดาบที่ข้าคิดค้นขึ้นเอง แม้แต่ชื่อก็ยังไม่มี ในเมื่อตอนนี้ วันนี้มันได้แสดงให้เห็นว่าทรงพลัง ข้าก็ควรจะคิดชื่อมันสักหน่อย จำเอาไว้ให้ดี เพลงดาบนี้มีชื่อว่า"บัญชาสวรรค์" "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด