ตอนที่แล้วChapter 195 พังทลาย.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 197 บัญชาสวรรค์

Chapter 196 ต้าฉิน.


ปราณทมิฬที่ระเบิดพุ่งออกมายังพื้นที่รอบทุกอย่างถูกแช่แข็งไปทันที พื้นที่ทั้งหมดอาบไปด้วยปราณหยิน เทือกเขาต้าหยินนั้นได้หายไปแล้ว พื้นที่ทุกอย่างรอบ ๆ มีปราณทมิฬปะทุขึ้นไม่หยุด ม้วนกวาดไปยังพื้นที่บริเวณใกล้เคียง.

เกิดอะไรขึ้นกัน ภายในใจของจงซานสั่นไปมาคาดเดาเรื่องที่เกิดขึ้น.

ดูเหมือนว่าตั้งแต่แรกแล้วเทือกเขาต้าหยินไม่ได้มีอยู่จริง มันไม่มีสิ่งใดอยู่ที่นี่ มันเป็นเพียงแค่รูปร่างลวงหลอกเป็นภาพลวงตาที่ค่ายกลฮวงจุ้ยสร้างขึ้น มีเพียงแค่แค่ค่ายกลฮวงจุ้ยที่ลึกล้ำเท่านั้น ที่สร้างเทือกเขาขนาดใหญ่นี้ขึ้นมา.

ค่ายกลฮวงจุ้ยเป็นค่ายกลที่ลึกลับเป็นอย่างมาก สามารถสร้างสิ่งที่ไม่มีอยู่ให้เกิดเป็นจริงขึ้นมาจากอากาศที่ว่างเปล่าได้.

ดูเหมือนว่าเมืองผีเฟิงตู คือแกนกลางของค่ายกล เมื่อทำลายเมืองผีเฟิงตู ทำให้ค่ายกลฮวงจุ้ยบุฟผาเปิดโลกพลังทลายไปด้วย.

นี่เป็นปราณทมิฬที่มาจากสุสานเซิ่งซ่างอย่างงั้นรึ? ไม่ มันถูกฉีดออกมาจากโพรงขนาดใหญ่.

โพรงขนาดใหญ่นี้ จงซานรู้จัก.

น้ำพุอเวจี!

ครั้งแรกที่เขาได้ยินเรื่องน้ำพุอเวจี ก็เมื่อครั้งอยู่เกาะหมาป่าสวรรค์ ตอนนั้นเขายังไม่ได้เข้าสำนักไคหยางด้วยซ้ำ มันเป็นสถานที่เดียวกับที่เขาได้รับเคล็ดวิชาเทพอสูร ในเวลานั้นเขาได้ยินเซี่ยงเฉินพูดคุยเรื่องน้ำพุอเวจีในถ้ำแห่งหนึ่ง จากนั้นเมื่อเขาได้เข้าร่วมสำนักไคหยางจึงได้สอบถามเรื่องดังกล่าวนี้กับเทียนซวินจื่อเป็นพิเศษ.

แม้ว่าครั้งนั้นเทียนซวินจื่อจะเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าก็ยังอธิบายเรื่องดังกล่าวให้กับจงซานฟัง.

สิ่งที่เรียกว่าน้ำพุอเวจี?

พลังฟ้าดินที่แยกเป็นหยินและหยาง บนผืนปฐพีแห่งนี้ได้แยกแหล่งกำเนิดของปราณเป็นสองแห่งออกจากกัน หนึ่งเรียกว่าน้ำพุหยาง ทว่าน้ำพุหยางนั้นจะมีแหล่งกำเนิดใต้ดินที่อยู่ใกล้กับภูเขาไฟ ทว่าอีกแหล่งหนึ่งที่ปะทุขึ้นมาจากใต้พื้นโลกก็คือปราณหยิน ซึ่งก็คือน้ำพุอเวจี กล่าวอีกอย่างหนึ่งแหล่งน้ำพุอเวจีนั้นมีความแข็งแกร่งและความหนาแน่นแตกต่างกันในแต่ละที่ พื้นที่ส่วนมากที่น้ำพุหยินมักจะอยู่ใกล้ ๆ กับภูเขาน้ำแข็ง.

สำนักไคหยางที่มีเทือกเขาเหยี่ยนซานและเทือกเขาเสวี๋ยจู๋ ที่จริงทั้งสองยังเป็นแหล่งกำเนิดขนาดเล็ก เป็นน้ำพุหยางและน้ำพุหยิน(น้ำพุอเวจี)ระดับต่ำเท่านั้น.

ก่อนหน้านี้ค่ายกงฮวงจุ้ย ได้ผนึกน้ำพุอเวจีแห่งนี้เอาไว้.

เพื่อกักปราณฟ้าดินพลังหยิน สุสานของเซิ่งซ่างสร้างขึ้นบนน้ำพุอเวจีอย่างงั้นรึ?ไม่น่าจะใช่เช่นนั้น.

เมื่อครั้งที่อยู่เกาะหมาป่าสวรรค์ เซี่งเฉินที่ถูกปราณหยินเล่นงาน ถูกทำให้กลายเป็นผุยผงในพริบตาเดียว ปราณหยินที่เข้มข้นนั่นจึงเป็นอันตรายอย่างที่สุด หากไม่ปล่อยปราณคุ้มกายเอาไว้ตลอดเวลาล่ะก็ไม่มีทางที่จะทนได้แน่ แล้วนี้ยังสร้างสุสานไว้บนสถานที่แห่งนี้อย่างงั้นรึ?

จงซานที่บินตรงไปยังพื้นที่แห่งหนึ่งที่ส่องประกายแสง ไม่ไกลออกไปนั้น มีแสงสว่างที่พุ่งสูงขึ้นมา ท้ายที่สุดจงซานก็สามารถมองเห็นภาพด้านในได้อีกครั้ง.

กงจูเฉียนโหยว อาต้า อาเอ้อและคนอื่น ๆ  ทุกคนยังอยู่ด้านใน ตอนนี้กำลังลอยอยู่บนอากาศ ร่างกายของพวกปล่อยปราณที่หนาแน่นออกมาคุ้มกันร่างกาย และยังมีเส้นแสงส่องขึ้นมาจากด้านล่างด้วย.

ดูเหมือนว่าแสงที่แผ่ออกมานั้น จะถูกส่งออกมาจากปราสาทหยก ปราสาทหยกที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก เป็นเหมือนกับปราสาทในโลกปุถุชน นอกจากนี้มันยังโปล่งใสจนสามารถมองลึกเข้าไปด้านในได้.

ปราสาทหยกนั้นมีอักษรสองตัวที่ลอยอยู่ด้านบน "ต้าฉิน"

ปราสาทต้าฉิน?

ปราสาทต้าฉินนั้น มองไปจนเห็นพื้นดิน มันเป็นปราสาทที่โปรงใส่เป็นอย่างมาก มีปราณหยินมากมาย ที่แทรกซึมเข้ามาในปราสาทหยิน จากนั้นก็แทรกซึมไปทั่วทั้งปราสาท.

ภายในปราสาท มีนักรบหลายแสนคนที่ถืออาวุธครบมือ เหล่านายทหารทั้งหมดไม่มีใครเคลื่อนไหว มีปราณพลังที่กำลังหมุนวนทั่วร่างของพวกเขา เป็นพลังหยินที่อาบไปทั่วร่าง ราวกับว่ากำลังกลั่นร่างกายของพวกเขาด้วยพลังหยินที่ทรงพลัง.

กลั่นร่างกายด้วยพลังหยินรึ? เรื่องนี้ เป็นไปได้ด้วยเหรอที่ร่างกายจะสามารถทนได้.

ขุนพลแต่ละคนนั้น ที่บนศีรษะที่มียันต์อักขระสีทองแปะอยู่.

เจียงซือ?

เห็นภาพดังกล่าว ภายใจของจงซานที่คิดถึงเจียงซือที่เกาะหมาป่าสวรรค์ซึ่งเซียนเซิงซือเป็นคนใช้ยันต์เหล่านี้ในการผนึกเจียงซือ.

กองกำลังเจียงซือหนึ่งแสนตนอย่างงั้นรึ?

จงซานที่กลืนน้ำลายคำโตลงคอ ปราสาทต้าเฉินไม่ใหญ่นัก ทว่ากลับดูแปลกประหลาดอย่างถึงที่สุด.

และที่ใจกลางของเจียงซือนับแสนนั้น มีโลงศพหยกม่วงขนาดใหญ่อยู่.

ในโลงศพหยกม่วงนั้น มีศพ ๆ หนึ่งนอนอยู่ เป็นศพผู้ชาย ที่สวมชุดมังกรสีดำทมิฬ มีมงกุฎอยู่บนศีรษะ ที่มือซ้ายของเขากุมตราลัญจกรเก้ามังกร นี่คือตราประทับของราชวงศ์สวรรค์? ที่มือขวาของเขานั้นกุมกระบี่ยาวสีดำ.

เซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์ นี่คือศพของเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์รึ? อย่างไรก็ตามจงซานไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเขาได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าบนใบหน้าของเขานั้นจะมียันต์อักขระสีดำประทับอยู่เช่นกัน.

พบแล้ว สายตาของทุกคนต่างก็จับจ้องมองไปยังโลงศพหยกสีม่วง นี่คือศพของเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์? ที่มือซ้ายของเขานั้นมีตราลัญจกรหยกอยู่?ที่มือขวานั้นจะต้องเป็นศาสตราวุธเทวะชั้นสูงแน่นอน.

ปราสาทต้าฉิน?

ด้านในนั้นถูกอัดแน่นด้วยปราณหยินที่มากมาย เวลานี้มันกำลังปะทุพุ่งทลายออกมาด้านนอกอย่างรุนแรง พลังกดดันที่หนักหน่วงกำลังแผ่ออกมา ปราณหยินที่หนาแน่นภายในปราสาทเวลานี้ถูกพ่นออกมาด้านนอก สามารถมองเห็นได้ว่าภายในปราสาทต้าฉินนั้นเปียกโชกไปด้วยพลังหยิน.

บนท้องฟ้านั้น แสงจันทร์เวลานี้กำลังค่อยหายไป ดวงจันทราที่กำลังเคลื่อนที่ไปถึงขอบฟ้าทิศตะวันตกแล้ว อีกไม่นานหลังจากนี้ดวงตะวันจะโผล่ขึ้นมาแทน.

ทุก ๆ คนตอนนี้จ้องมองไปยังปราสาทต้าฉิน สายตาจับจ้องมองไปยังโลงศพม่วงเป็นสายตาเดียวกัน ทุกคนต่างก็จ้องไปยังตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์และกระบี่เทวะ ตลอดจนศพของเซิ่งซ่างนั้น ดูเหมือนกับหุ่นที่ดูทรงพลังน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.

"ฟิ้ว!"

ขณะที่ทุกคนเตรียมพุ่งตรงไปยังปราสาทต้าฉินนั้น จักรพรรดิต้าเย่ ก็ตวัดดาบกวาดไปยังด้านหน้าอย่างรวดเร็ว.

ประกายแสงของดาบยักษ์ที่สะกดข่มกลุ่มคนอื่น ๆ เอาไว้.

"ทุกท่าน ทำตามใจตัวเองไปแล้ว ค่ายกลฮวงจุ้ยถูกทำลายด้วยฝีมือของข้า ตอนนี้โปรดกลับเถอะ ข้าไป่เย่จะไม่ติดใจเอาความ"จักรพรรดิต้าเย่ที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

ไป่เย่ จักรพรรดิไป่เย่.

"ไป่เย่ เจ้าต้องการที่จะยึดสุสานเอาไว้คนเดียวอย่างงั้นรึ?"พุทธะฮุ่ยกวงที่ถลึงตามอง.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดไปมา ยังคงเงียบอยู่ กู่หลินที่รู้สึกขุ่นเคือง กงจูเฉียนโหยวและคนอื่น ๆ ยังคงเงียบไม่กล่าวสิ่งใด.

มารฉู่ป้ายืนอยู่ด้านหลังเซี่ยเหยี่ยน รอคอยปกป้องเขา เซี่ยเหยี่ยนที่หรี่ตาจ้องมองไปยังไป่เย่.

พุทธะฮุ่ยกวงในเวลานี้แสดงท่าทางขุ่นเคือง ก่อนหน้านี้ที่ด้านนอกเมืองเฟิงตูนั้น บัวหิมะพิสุทธิ์ถูกราชาภูตกินไป ไม่รู้เลยว่าเมืองเฟิงตูก่อนหน้านี้มันคืออะไร ภาพจริง ภาพลวง ทว่าเขามั่นใจได้ว่าบัวหิมะพิสุทธิ์เวลานี้ได้หายไปแล้ว แล้วเขาจะกลับไปบอกกับจื่อจุ้นได้อย่างไร? หากว่าได้อะไรจากเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์ เขายังสามารถพอจะชดเชยความผิดได้ ดังนั้นพุทธะฮุ่ยกวงไม่ยอมจากไปแน่.

ขณะที่ไป่เย่กล่าวอยู่นั้น ที่ด้านหลังมีเหล่าผู้ฝึกตนระดับก่อตั้งวิญญาณมากมายพุ่งตรงไปยังปราสาทต้าฉิน.

"โอหัง!"

ดวงตาของพุทธะฮุ่ยกวงเบิกกว้าง พุ่งตรงไปออกไปอย่างรวดเร็ว หมัดขวาของเขาที่ต่อยออกไป ทว่าไป่เย่ก็เขามาขวางในทันที.

หมัดสีทองปรากฏขึ้นกลางอากาศขนาดหนึ่งร้อยจั้ง เกิดเป็นสนามพลังที่รุนแรง แม้แต่จงซานที่อยู่ไกลออกมายังสัมผัสได้ หมัดสีทองขนาดใหญ่พุ่งออกไป ตรงไปด้านหน้า.

"เครง!"

จักรพรรดิต้าเย่ที่สะบัดดาบยักษ์ ก่อนที่จะปรากฏเป็นภาพของดาบยักษ์ที่ขยายขึ้นหลายพันเท่า เป็นดาบโลหิตที่มีสีแดงส่องประกายแสงวับวาว ราวกับว่าทั่วทั้งทองฟ้าถูกย้อมไปด้วยโลหิต เป็นเหมือนกับภาพลวงตาที่ปรากฏขึ้นบนอากาศเข้าปะทะการโจมตีหมัดของพุทธะฮุ่ยกวง.

"ตูมมมมมมม!"

จงซานที่รู้สึกว่าบรรยากาศรอบ ๆ สั่นไปหมดปราณสีดำถึงกับฟุ้งกระเจิงไปทั่ว เป็นเวลากว้าง แผ่นดินสั่นสะเทือนเป็นระยะ.

พลังที่แข็งแกร่งสองฝั่งเข้าปะทะกัน ดาบยักษ์โลหิตของจักรพรรดิต้าเย่ ส่องแสงสีแดงจ้าปกคลุมไปทั่ว จงซานถึงกับต้องหรี่ตาลง.

ก่อนจะได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น อยู่พักหนึ่ง แสงสีแดงจึงค่อย ๆ จางลง จงซานที่กวาดตามองไปยังพื้นที่ดังกล่าวอีกครั้ง.

จักรพรรดิต้าเย่ ยืนนิ่งยกดาบยักษ์สีแดงขึ้น ทว่าพุทธะฮุ่ยกวงที่ลอยห่างออกไป มือของเขาที่กุมไว้ที่หน้าอก เสื้อผ้าของเขาที่ฉีกขาด ที่มุมปากมีโลหิตไหลออกมา สายตาที่ดูประหลาดใจจ้องมองไปยังจักรพรรดิต้าเย่.

แข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าจะมีระดับจักรพรรดิแท้ ทว่าพุทธะฮุ่ยกวงไม่สามารถเทียบได้กับพลังดาบของไป่เย่ ทำให้เขาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย.

จักรพรรดิไป๋เย่นั้น ราวกับว่าเป็นการเตือนทุกคน หากใครกล้าเข้ามาเขาจะไม่ยั้งมือให้แม้แต่น้อย.

ทว่า ผลประโยชน์นั้นกับดูน่าสนใจเป็นอย่างมาก แล้วพวกเขาจะยอมแพ้เพียงแค่การเตือนของไป่เย่อย่างงั้นรึ?

พุทธะฮุ่ยกวงที่นำไม้เท้าขนาดใหญ่ออกมา มารฉู่ป้าเองก็ชักกระบี่ดำด้านหลังออกมาเช่นกัน ส่วนเซี่ยนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมา กงจูเฉียนโหยวที่ชักกระบี่อ่อนออกมาด้วยเช่นกัน.

พวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะว่าเท่าที่เห็น เหล่าผู้ฝึกตนก่อตั้งวิญญาณนั้น ไม่ได้เข้าไปในปราสาทต้าหยิน พวกเขาที่รั้งรออยู่ด้านนอกปราสาทต้าหยิน เหมือนกับคอยคุ้มกันปราสาทโปร่งแสงนี้ เพื่อที่จะรอให้ปราณหยินมากมายในปราสาทถูกขับออกมาให้หมด.

จงซานที่จ้องมองไปยังปราสาทต้าหยิน สายตาที่เลื่อนไปมองโลงศพสีม่วง.

ตั้งแต่แรกที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไร โลงศพม่วงนั้นที่ยังคงนอนนิ่ง บนหน้าผากของเซิ่งซ่าง มียันต์อักขระหยกทมิฬแปะอยู่ มันที่ขยับไปมาเล็กน้อย.

ด้วยพื้นที่รอบ ๆ ที่ดูมืดครึ้มภายในปราสาท บางทีคนอื่น ๆ คงจะไม่ใส่ใจนัก ยันต์หยกทมิฬ มีอักขระที่แปลกประหลาดสลักอยู่ แสงสีเงินของดวงจันทราที่กำลังลับแสงจากนั้นดวงจันทร์ที่ค่อย ๆ เลื่อนไปลับตา พื้นที่รอบ ๆ ดูเหมือนว่าจะมืดลงไปในทันที ด้วยประกายแสงสีเงินของแสงจันทราที่ล่อลวงยันต์แผ่นดังกล่าวทันทีที่แสงมันหายไป แผ่นยันต์ดังกล่าวก็เริ่มขยับ.

สายตาของทุกคนที่กำลังล้อมรอบปราสาทต้าหยินนั้นต่างก็จ้องมองไปยังด้านบน ยันต์แผ่นดังกล่าวที่ค่อย ๆ ลอยออกมาช้า ๆ  ตอนนี้มันได้เคลื่อนออกไปจากหน้าผากของเซิ่งซ่างแล้ว.

ยันต์แผ่นดังกล่าวที่ลอยออกไป ดูเหมือนว่ามันจะพยายามลอยตามแสงจันทร์ ยันต์แผ่นนั้นที่พุ่งตรงไปยังทิศทางของดวงจันทร์หายไปลับตา พุ่งผ่านออกจากเหล่าผู้คุ้มกันตำหนักต้าหยิน ยันต์หยกทมิฬ ไม่มีใครรู้ว่ามันคือสิ่งใด ทว่าเมื่อมันเป็นสิ่งที่ติดอยู่บนหน้าผากของเซิ่งซ่าง จะต้องไม่ใช่สมบัติทั่วไปอย่างแน่นอน.

"ทุกคน รีบทำลายเมือง นำตราลัญจกรหยกและกระบี่มา."ไป่เย่ที่ราวกับตระหนักถึงบางสิ่งได้ ตะโกนออกมาเสียงดัง.

"ครับ."เหล่าขุนพลระดับก่อตั้งวิญญาณ แม่ทัพพิทักษ์ดินแดนทั้งห้า รับคำเสียงดัง ก่อนที่จะยกดาบพร้อมกับเข้าทำลายปราสาทต้าฉินทันที.

"ตูมมมมมม"

เหล่าผู้ฝึกตนหลายร้อยคนที่เข้าโจมตี พลังทำลายของพวกเขาทั้งหมดไม่ได้น้อยกว่าพลังดาบของไป่เย่เลย จงซานรู้สึกพื้นที่รอบ ๆ กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง ประกายแสงสีทองที่ส่องประกายไปทั่ว จนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย จากนั้น พื้นที่ไกลออกไปจงซานที่ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างที่เคลื่อนที่ผ่านอากาศไปด้วยความเร็ว เสียงฉีกอากาศของสิ่งของบางอย่างที่ล่องลอยออกไป.

แม้ว่าจะไม่รู้ว่าคืออะไร ทว่าจงซานที่มีการรับรู้ที่ไม่ธรรมดา สายตาที่จับจ้องมองไปยังสิ่งดังกล่าว เขาที่ไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยพุ่งตรงไล่สิ่งของดังกล่าวไปในทันที ในเวลาเดียวกัน ดอกบัวหงหลวนของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมาเช่นกัน

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด