ตอนที่แล้วChapter 190 ชื่อหลุมศพ ทัณฑ์สวรรค์.
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 192 เจียงซือมากมาย.

Chapter 191 แดนเทวะ.


"มารฉู่ป้า!"

บนทิศที่สูงขึ้นไป ทุกคนที่จ้องมองไปพร้อม ๆ กัน บนยอดเขายอดแห่งหนึ่ง ในเวลานี้มีนักบวชหัวโล้น สวมชุดเฉวียงบ่า เผยให้เห็นไหล่ซ้าย ใบหน้าที่ดูมีความหมาย แววตาที่แสดงการแจ้งเตือน.

ทันใดนั้นเหล่าทหารมากมายเข้ามาล้อมรอบอย่างรวดเร็ว ทว่านักบวชคนดังกล่าวคาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่ใส่ใจเหล่าทหารแม้แต่น้อย ใบหน้าของเขายังส่งสัญญาณเตือนไปยังชายในชุดดำที่อยู่ในหุบเขา.

"วูซซ วูซซ วูซซซ..."

ทันทีที่เหล่าทหารเคลื่อนไหว ชายหนุ่มในชุดดำและนักบวชอีกฝั่งก็ถูกล้อมกรอบด้วยทหาร ทว่าพวกเขายังไม่สนใจเหล่าทหารแม้แต่น้อย ทั้งสองฝ่ายยังจ้องมองหน้าหน้ากันและกัน.

นักบวชเห็นอย่างชัดเจนว่ามารฉู่ป้านั้น เป็นเพียงแค่ข้ารับใช้ของชายหนุ่มด้านหน้า.

"พวกเจ้าเป็นใคร? โอหังนัก!"

ลึกเข้าไปในหุบเขา เสียงที่น่าเกรงขามของขุนพลทหารที่ดังลั่น เหล่านักรบหลายร้อยคนที่ถือหอกยาว พุ่งออกมาทุกทิศทุกทาง พวกเขาทุกคนเวลานี้ได้เข้าล้อมรอบยอดเขาทั้งสองแห่งเอาไว้.

"วูซซซ."

ที่ไกลออกไปนั้นก็มีร่าง ๆ หนึ่งที่บินออกมา เห็นได้อย่าชัดเจนว่ามีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก.

หลังจากที่พุ่งออกมายืนที่อีกยอดเขาอีกแห่งหนึ่ง เป็นชายผู้หนึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำทหาร เมื่อไม่นานมานี้ เขาเป็นหนึ่งในแม่ทัพพิทักษ์ดินแดนที่นำกองกำลังไปล้อมสำนักยวีเหิง.

"แม่ทัพเจียน."เหล่าหทารที่แสดงท่าทางเคารพ.

แม่ทัพพิทักษ์ดินแดนที่โบกมือไปมา เหล่าทหารมากมายที่ถอนกลับไปในทันที แม่ทัพพิทักษ์ดินแดนจ้องมองไปยังคนสองกลุ่มบนยอดเขา หรี่ตามอง พร้อมกับโค้งออกไป."ทุก ๆ ท่านขอได้โปรด อย่าได้เข้ามาทำลายแผนการเหนือหัวของพวกเรา."

คนทั้งสองยอดเขาที่จ้องมองไปยังแม่ทัพพิทักษ์ดินแดนเล็กน้อย เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล ไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้ใส่ใจเลยด้วยซ้ำ.

แม่ทัพพิทักษ์ดินแดนที่จ้องมองไปยังคนทั้งสามที่ไม่ได้สนใจเขา ขมวดคิ้วไปมา ดวงตาที่ดูมืดครึ้ม ทว่าเขาก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อไปอีก หลังจากนั้นเขาก็บินลอยหายไปในทันที.

ที่ไกลออกไปนั้น จงซานและกงจูเฉียนโหยวตลอดจนคนอื่น ๆ ตอนนี้สามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวที่ไกลออกไป สายตาของจงซานที่หรี่เล็กลง คนสองคนที่อยู่บนยอดเขาสูง ใครกัน? เป็นไปได้อย่างไรที่จะรอดพ้นจากการใช้เสียงรับฟังตรวจจับของเขาได้ ใครกัน ปกติแม้จะอยู่ไกลไปก็ไม่เคยรอดพ้นการฟังเสียงของเขา อย่างไรก็ตามเขากับไม่ได้ยินเสียงการมาของคนเหล่านี้เลย จวบจนพวกเขาเคลื่อนไหวในตอนนี้.

ที่ไกลออกไปนั้น ฉู่ป้ายืนอยู่ด้านหลังชายหนุ่ม จ้องมองไปยังนักบวชที่อยู่ตรงข้าม.

"พุทธะฮุ่ยกวง."ฉู่ป้ากล่าวออกมาเบา ๆ  อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงแค่รายงานต่อนายน้อยเขาเท่านั้น.

นักบวชหัวล้าน พุทธะฮุ่ยกวง จ้องมองไปยังชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าฉู่ป้า.

"มารน้อยรึ? มารฉู่ป้า คาดไม่ถึงเลยว่าจะกลายเป็น ข้ารับใช้ของมารน้อยไปแล้ว."พุทธะฮุ่ยกวงที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ท่าทางไม่เป็นมิตร.

"ปกป้องกงจื่อ เป็นเกียรติต่อข้าฉู่ป้า เจ้าควรจะจำได้ว่าเจ้ามีหน้าที่ ปกป้องดวงวิญญาณเจ้าเด็กเกิดใหม่นั่นเหมือนกัน เจ้าเองก็เป็นข้ารับใช้ไม่ใช่รึ?"ฉู่ป่าแค่นเสียง.

"พุทธะฮุ่ยกวงเขาไม่จำเป็นต้องปกป้องวิญญาณเด็กเกิดใหม่นั่น เขาติดตามเทพจื่อจุ้นมังกรสวรรค์ ทว่าไม่รู้ว่าทำไมพุทธะฮุ่ยกวงถึงมาปรากฏตัวขึ้นที่นี้รึ?"ชายหนุ่มที่สอบถามออกมาทันที.

"เจ้าเป็นใคร?"พุทธะฮุ่ยกวงชำเลืองมองไปยังชายหนุ่มคนดังกล่าว.

ชายหนุ่มที่ยิ้มอย่างชั่วร้าย."เจ้าไม่รู้จักข้า แต่กับเรียกข้าว่ามารน้อยอย่างงั้นรึ? งั้นจำเอาไว้ ข้ามีนามว่า เซี่ยเหยี่ยน."

จงซานที่จ้องมองไปยังคนทั้งสามที่กำลังพูดคุยกัน พร้อมกับขมวดคิ้วไปมาเล็กน้อย..

"สุ่ยจิง พวกเขาเป็นใคร?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมา.

ได้ยินคำพูดของกู่หลินแล้ว จงซานที่เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ.

"นักบวชนั่นมาจากแดนเทพพิสุทธิ์ พุทธะฮุ่ยกวง เขาเป็นผู้ติดตามของจื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์ ทำไมไม่รู้มาปรากฏตัวที่นี่."สุ่ยจิงที่ขมวดคิ้วไปมา.

"แดนเทวะ เทพพิสุทธิ์อย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ส่วนอีกฝั่ง ชายหนุ่มคนนั้น ข้าเองก็ไม่เคยเห็นเช่นกัน ส่วนชายวัยกลางคน เขามีนามว่า"มารฉู่ป้า."คนของดินแดนเทพอเวจี."เซียนเซิงกล่าว.

"แดนเทวะ เทพอเวจีอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมาอัศจรรย์ใจยิ่งกว่าเดิม.

"อืม."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่พยักหน้า.

"อะไรคือแดนเทวะ?"จงซานทีเอ่ยถามออกไปในทันที.

ได้ยินคำพูดของจงซาน คนอื่น ๆ ก็นิ่งงันไปชั่วครู่ กู่หลินที่จ้องมองไปยังจงซานที่ราวกับเห็นคนโง่เง่า ไม่รู้จักแดนเทวะอย่างงั้นรึ?

แน่นอนว่าจงซานนั้นถ้าไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ เข้าไม่จำเป็นต้องแสร้งว่าเข้าใจ กับสายตาท่าทางของกู่หลินนั้น จงซานไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย.

กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซานได้กล่าว่า"ด้วยการบำเพ็ญเกียรติยศนั้น มีสามราชวงศ์วาสนายืนอยู่บนจุดสูงสุดคือสามราชวงศ์สวรรค์ ทว่าการบำเพ็ญกรรมเองก็มีสำนักที่ก้าวไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดเช่นกัน ไม่ พวกเขาไม่ใช่สำนักธรรมดา แต่พวกเขาเรียกตัวเองว่าแดนเทวะ ซึ่งแดนเทวะมีอยู่ด้วยกันสี่แห่ง เทพพิสุทธิ์และเทพอเวจี เป็นสองดินแดนเทวะที่มีผู้เชี่ยวชาญมากมาย แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้มีจำนวนคนเทียบเท่ากับราชวงศ์สวรรค์ก็ตาม ทว่าเหล่ายอดฝีมือที่พวกเขามีก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าราชวงศ์สวรรค์ เป็นความสำเร็จที่แตกต่างกันของการบำเพ็ญเพียรนั่นเอง."

"พวกเขาไม่ต้องยึดครองดินแดนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วสอบถาม.

"นั่นก็เพราะว่ารูปแบบของการบำเพ็ญนั้นต่างกัน การบำเพ็ญของพวกเขาภายใต้โลกใบนี้ ไม่จำเป็นต้องยึดครองดินแดน ไม่จำเป็นต้องยึดครองอำนาจ."กงจูเฉียนโหยวกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"อืม."จงซานพยักหน้า.

ศาสตร์บำเพ็ญชื่อเสียง มีสามราชวงศ์สวรรค์ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด!

ศาสตร์บำเพ็ญกรรม มีสี่แดนเทวะที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด!

การบำเพ็ญฮวงจุ้ยล่ะ? ศาสตร์บำเพ็ญฮวงจุ้ย มีเพียนคนไม่กี่คน บนทวีปศักดิ์สิทธิ์นี้ มีจำนวนเท่าไหร่กัน.

"เซียนเซิงสุ่ยจิง ท่านคิดว่าทำไมพวกเขามาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ล่ะ?"กงจูเฉียนโหยวขมวดคิ้วสอบถาม.

"พุทธะฮุ่ยกวงนั้นเป็นผู้ติดตามจื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์ ในเวลานี้ จื่อจุ้นเทพมังกรสวรรค์ไม่ได้มา มีเพียงเขา นอกจากนี้ยังมีฉู่ป้าอยู่ที่นี้ด้วย คงเป็นเรื่องบังเอิญ เห็นได้ชัดเจนว่า การมาที่นี่นั้นไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไรนัก ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ พวกเขาผ่านมาพบกันที่นี่โดยบังเอิญ."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่วิเคราะห์.

"อืม น่าดูชม เพียงแค่ผ่านมา ดูเหมือนว่าแดนเทพพิสุทธิ์จะมีความสัมพันธ์กับบางสำนัก จึงทำให้ดึงพุทธะฮุ่ยกวงเข้ามา."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"เช่นนั้น มารฉู่ป้าและพุทธะฮุ่ยกวง สำหรับคนอของจักรพรรดิต้าเย่ บางทีคงจะอดปวดหัวไม่ได้."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่เผยยิ้มออกมา.

"ไม่ดีอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้ม.

“ยิ่งคนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น.”เซียนเซิงสุ่ยจิงพยักหน้า เห็นได้อย่างชัดเจนยิ่งคนมากก็ยิ่งวุ่นวาย เหมาะที่จะกวนน้ำจับปลา ต้องรู้ด้วยว่าราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่นั้นมีกำลังที่เหนือกว่า กลุ่มของกงจูเฉียนโหยวมาก ซึ่งโดยรวมแล้วทำให้กลุ่มพวกนางนั้นค่อยข้างอันตรายทีเดียว การเข้ามาสำรวจที่นี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย.

ที่ไกลออกไป ทันใดนั้นกงจูเฉียนโหยวและเซียนเซิงสุ่ยจิงถึงกับต้องเพ่งพิศ.

"พบแล้วอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

ในเวลาเดียวกันนั้น จงซานที่สามารถมองเห็นได้ ว่าบนอากาศที่สูงขึ้นไปนั้น มีจุดเล็ก ๆ นับร้อยจุด.

จุดหลายร้อยจุดที่พุ่งตรงลงมาราวกับสายฝน กระจายไปทั่วบริเวณเทือกเขาต้าหยินหลายร้อยพื้นที่ และตำแหน่งหนึ่งที่พุ่งตรงลงมายังตำแหน่งกลุ่มของจงซาน มีความเร็วเป็นอย่างมาก พริบตาเดียวก็มาถึงพวกเขาแล้ว.

ภูเขาลูกหนึ่ง ยอดเขาขนาดใหญ่ ที่ล่วงหล่นลงมายังตำแหน่งของจงซานด้วยความเร็วสูง เป็นยอดเขาที่ส่องประกายแสงวับวาว เคลื่อนที่ล่วงหล่นลงมา.

"ย๊ากก ๆ "

อาต้า อาเอ้อคำรามเสียงดัง ทั้งคู่กำหมัดแน่นพร้อมกับกระโดดออกไปอย่างรดเร็ว กล้ามเนื้อขยายใหญ่เล็กน้อย หมัดของพวกเขาที่ต่อยออกไปยังยอดเขาที่พุ่งลงมาในทันที.

"ตูมมมมม"

หมัดของพวกเขากระแทกไปยังยอดเขาบินด้านหน้าเสียงดัง เกิดเสียงทึบด้าน ยอดเขาขนาดใหญ่ที่ยังบดขยี้ ส่องแสงสว่างจ้า พลังของยอดเขาบินนั้นทรงพลังแข็งแกร่งมาก หนำซ้ำยังมีน้ำหนักมหาศาล ดูเหมือนว่ามันจะถูกปล่อยออกมาโจมตีใส่เหล่ายอดฝีมือที่เข้ามาในเทือกเขาแห่งนี้.

ภายใต้พลังของยอดเขาบินที่ล่วงลงมานั้น จงซานยังรับรู้ได้ถึงแรงกดดันวิญญาณ แรงกดดันที่มองไม่เห็น กำลังกดลงมาทุกทิศทุกทาง แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ราวกับเป็นพลังสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่ ถึงกับทำให้จงซานย่อเข่าลงทีเดียว.

ทว่าจงซานที่รับกับแรงกดดันมหาศาลนี้ เขาที่กัดฟันแน่น เส้นโลหิตที่บวมปูดขึ้นมาบนหน้าผากเลยทีเดียว.

แข็งแกร่งมาก อาต้าและอาเอ้อสองคนที่อยู่ในระดับก่อตั้งวิญญาณขั้นปลาย ยังไม่สามารถต้านทานได้จากพลังมหาศาลที่กดทับลงมาจากบนฟ้า ยอดเขาบินที่กำลังบีบอัดลงมาด้านล่าง.

ในเวลาเดียวกัน เขาที่เห็นเซียนเซิงสุ่ยจิงขมวดคิ้วเล็กน้อย พัดของเขาที่สะบัดออกไปเบา ๆ .

นี่เป็นศาสตร์การใช้พัดที่จงซานเพิ่งเคยเห็น ทันใดนั้นก็ปรากฏประกายแสงสีน้ำเงินที่พุ่งออกไป บินตรงไปกระแทกไปยังยอดเขาบิน ทำให้มันหยุดนิ่งไม่กดลงมาอีก.

ทว่าหลังจากนั้นไม่นาน ประกายแสงสีทองที่อาบไปทั่วยอดเขาบินก็สลายหายไป หลังจากนั้นดูเหมือนว่าพลังของอาต้าและอ้าเอ้อก็เพิ่มขึ้นมาทันที ก่อนที่จะสามารถกระแทกยอดเขาให้ลอยออกไป.

"วูซซซ"

ยอดเขาบินที่กลายเป็นฝุ่น เป็นกองเศษหินที่ถูกบดขยี้ ไม่ จากที่จงซานเห็น ยอดเขาบินนั่นไม่ได้ถูกอาต้าและอาเอ้อบดขยี้ ทว่าเป็นเซียนเซิงสุ่ยจิงต่างหาก ด้วยลำแสงสีน้ำเงินที่พุ่งออกไปเป็นเหมือนกับแส้ที่คมกริบ สามารถที่จะบดขยี้ยอดเขาบินจนแหลกออกเป็นเสี่ยง ๆ  เพียงแค่สะบัดพัดออกไปเบา ๆ ก็สามารถทะลายทุกอย่างได้อย่างงั้นรึ?

อาต้าและอาเอ้อที่มีพลังระดับก่อตั้งวิญญาณขั้นปลาย คนทั้งสองยังไม่สามารถต้านยอดเขาบินได้ หากแต่เพียงพัดที่สะบัดออกไปเบา ๆ  ของเซียนเซิงสุ่ยจิงที่เหมือนกับบัณฑิตผู้นี้ กับทรงพลังขนาดนี้เลยรึ? ยอดเขาถูกบดขยี้ออกเป็นผุยผง?

ในเวลาเดียวกัน ที่ไกลออกไปจงซานที่จ้องมองไปยังตำแหน่งของพุทธะฮุ่ยกวงและตำแหน่งของมารฉู่ป้า ยอดเขาสองแห่งก็ถูกบดขยี้โดยฝีมือของพวกเขาเช่นกัน คนทั้งสองที่เหวี่ยงหมัดออกไป.

"ตูมม"  "ตูมมม"

ยอดเขาที่ลอยออกไป ด้วยหมัดของพวกเขา.

พุทธะ? มาร? นี่คือความแข็งแกร่งของพุทธะ? และความแข็งแกร่งของมารอย่างงั้นรึ?

คนสองคนที่สกัดกั้นยอดเขาบิน ด้วยตัวคนเดียว นอกเหนือจากตำแหน่งของพุทธะฮุ่ยกวงแล้ว ยังมีอีกหลายร้อยตำแหน่งที่ยอดเขาพุ่งลงมา หล่นลงมากระจายไปทั่ว หากว่านี้ถูกเล็งไปยังเหล่าผู้ฝึกตนต่าง ๆ ทั่วทั้งเทือกเขาต้าหยินล่ะก็ คาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนอื่น ๆ ที่แอบเข้ามามากมายขนาดนี้.

"นานแล้วไม่เคยเห็นเซียนเซิงลงมือ นับว่าเซียนเซิงยังทรงพลังไม่เปลี่ยนแปลง."กงจูเฉียนโหยวที่ถอนหายใจเบา ๆ .

"กงจู ยกย่องเกินไปแล้ว."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ส่ายหน้าไปมาแสดงท่าทางถ่อมตัว.

"เฮ้ ทรงพลังมาก ยอดเขาเหล่านั้นมันมาจากใหนกัน?"กู่หลินที่ตะโกนออกไปเสียงดัง ใบหน้าที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

"น่าจะเป็นฝีมือของจักรพรรดิต้าเย่ ที่ลงมือ."สายตาของกงจูเฉียนโหยวที่หรี่เล็กแสดงท่าทางจริงจัง.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด