ตอนที่แล้วChapter 187 ผู้ที่ใช้ความจริงใจสร้างความประทับใจให้ผู้คน ผู้คนก็จะสนองตอบด้วยความจริงใจ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 189 รอฝนหยุดตก ค่อยหวนคืนรัง กลยุทธ์เมืองร้าง.

Chapter 188 ตราลัญจกรราชวงศ์สวรรค์.


ที่ตำแหน่งด้านหลัง กู่หลิงและเซียนเซิงสุ่ยจิงที่บินตามมาติด ๆ  จ้องมองไปยังจงซานและกงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสนิทสนม ทำให้ใบหน้าของกู่หลินเต็มไปด้วยความริษยา และขณะนั้นก็เห็นกงจูเฉียนโหยวยกมือคารวะจงซานเล็กน้อย ทำให้เขาเบิกตากว้างกลมโต เต็มไปด้วยท่าทางประหลาดใจอย่างที่สุด เป็นไปได้อย่างไร? จงซานมีสถานะอะไร? ไม่ ถึงแม้ว่าเขาจะมีสถานะสำคัญ ทว่ากับตัวตนของเฉียนโหยวเป็นใครกัน? นางกับแสดงความเคารพต่อเขาได้อย่างไร?

แน่นอน นอกจากนกู่หลินแล้ว คนอื่น ๆ ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจเช่นกัน ทว่าก็ไม่มีใครกล้ากล่าวสิ่งใดออกมา.

กู่หลินที่จ้องมองไปยังจงซาน คราวแรกเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา ตอนนี้เปลี่ยนเป็นดำมืดเย็นเยือบ กู่หลินไม่ปกปิดอารมณ์ความรู้สึกทางใบหน้าเลย เซียนเซิงสุ่ยจิงที่อยู่ข้าง ๆ เห็นแล้วได้แต่ส่ายหน้าไปมาไร้ซึ่งคำพูด.

ภายในตำหนักยวีเหิง คนมากมายได้มารวมตัวกันอีกครั้ง ทว่าตอนนี้ไม่ได้มีสีหน้าท่าทางกังวลมากมาย เมื่อหมาป่านับหมื่นจากไปแล้ว ทุกคนตอนนี้อยู่ในสีหน้าสงบ.

"เอาล่ะ หลิวสุ่ยเฟิง มีเรื่องอะไร ถึงได้ส่งผู้พิทักษ์นิกายไปยังศาลาเจ็ดดาว?"กงจูเฉียนโหยวสอบถาม.

หลิวสุ่ยเฟิงที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยวและกล่าวออกมาว่า"อาวุโส ท่านยังจำได้หรือไม่ ที่ทิศตะวันตกของสำนักยวีเหิงนั้น มีพื้นที่พลังหยิน?"

ได้ยินคำพูดของหลิวสุ่ยสุ่ยเฟิง กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมา "พื้นที่พลังหยิน? อยู่ในเทือกเขาแห่งหนึ่ง ที่มีหมอกมือปกคลุมตลอดทั้งปี มีพลังหยินที่มากมายมหาศาล สถานที่แห่งนี้มีปิศาจอยู่มากมายสร้างปัญหาขึ้นอย่างงั้นรึ?"

"อืม เทือกเขาดังกล่าวนั่น ถูกเรียกว่าเทือกเขาต้าหยิน เนื่องจากมีพลังหยินที่ปกคลุมมาหลายหมื่นปีแล้ว ไม่ อาจจะนานกว่านั้น พื้นที่แห่งนี้มีปราณหยินที่หนาแน่นมาก และรอบ ๆ ยังมีอสูรที่ดุร้ายอยู่มากมาย ทว่าเป็นอสูรที่มีไม่ได้แข็งแกร่งนัก ดังนั้นจึงไม่ได้เป็นที่สนใจ."หลิวสุ่ยเฟิงที่กล่าวตอบ.

"อืม."กงจูเฉียนโหยว ที่รอคอยหลิวสุ่ยเฟิงกล่าวต่อ.

"การที่ขอให้อาวุโสกลับมานั้น ที่จริงมีเหตุผลอีกอย่างหนึ่ง."หลิวสุ่ยเฟิงกล่าว.

"อย่างไรรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัยจ้องมองไปยังหลิวสุ่ยเฟิง.

"แปดเดือนที่แล้ว ในแต่ละเดือนทุก ๆ สิบห้าวัน เมื่อดวงจันทร์เต็มดวง พื้นที่เทือกเขาต้าหยินนั้นจะมีพลังหยินที่เอ่อล้นเข้มข้นเป็นอย่างมาก และยังมีเสียงโหยหวนคำรามดังลั่นเกิดขึ้นด้วย เป็นเสียงที่น่าพรั่นพรึงนัก ข้าจึงได้ส่งเหล่าศิษย์น้องหลายคนเข้าไปตรวจสอบยังพื้นที่ดังกล่าว และแล้วพวกเราก็ปรากฏเห็นภาพลวงตา เป็นภูตผีมากมายนับไม่ถ้วนออกมาเตร็ดเตร่รอบ ๆ  พวกเราได้ทำการตรวจสอบ พลังงานหยินนั่นหนาแน่นปกคลุมเต็มท้องฟ้าไปหมด และยังมีภาพของมังกรทมิฬเก้าตนที่กำลังแหวกว่ายอยู่บนท้องฟ้า และยังมีเสียงคำรามของมังกรอีกด้วย."หลิวสุ่ยเฟิงกล่าว.

"อย่างไรรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางประหลาดใจ.

ทุกคนเองก็เช่นกันต่างก็จ้องมองด้วยความประหลาดใจจ้องมองไปยังหลิวสุ่ยเฟิง.

"อาวุโสโปรดดูภาพที่เกิดขึ้นได้."หลิวสุ่ยเฟิงที่สะบัดมือ ก่อนที่จะนำหยกบันทึกภาพออกมา.

กงจูเฉียนโหยวที่รับมา ก่อนที่จะแผ่แก่นแท้ลงไปเล็กน้อย หยกบันทึกที่ฉายภาพออกมาในทันที.

คืนพระจันทร์เต็มดวง เทือกเขาดังกล่าวที่มืดและวังเวง ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกดำ ไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนนัก ทันใดนั้น.

“~~~”

พื้นที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเสียงหวีดหวิววังเวง เสียงหมาป่าที่โหยหวน เสียงที่ราวกับท้องฟ้ากำลังฉีกขาด เสียงของภูติผีปรากฏขึ้นในทันที ทั่วทั้งภูเขาพลังงานหยินปะทุทะลวงขึ้นสู่ท้องฟ้าปกคลุมไปทั่วหุบเขา เป็นเหมือนกับพลังงานหยินอัดแน่นปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงในทันที.

ปราณสีดำที่ทะยานขึ้นมาจากพื้นดิน คละคลุ้งไปทั่วอากาศ.

ปราณสีดำทมิฬที่อัดแน่น กระจายไปทั่วทั้งเทือกเขา ทะยานสูงขึ้นหลายพันจั้ง ก่อนที่จะหยุดลง.

ปราณหยินที่พุ่งทะยานขึ้นมาจากใต้พื้นดิน ทันทีที่พลังงานหยินเอ่อล้นกระจายไปทั่ว เสียงของภูตผีและหมาป่ายิ่งโหยหวนมากกว่าเดิม เหล่าเสียงของเจียงซือและปิศาจที่ซ่อนอยู่เริ่มคำราม.

เพียงพริบตาเดียวที่พลังงานหยินปกคลุมหนาแน่นไปทั่วทั้งหุบเขา ลมหนาวและความหนาวเย็น อุณภูมิที่เปลี่ยนเป็นเลวร้ายได้สร้างความน่าหวาดกลัว น่าเกรงขามอย่างที่สุดขึ้น.

"โฮกกก!"

"โฮกกก!"

......

เสียงมังกรคำรามเก้าครั้ง ก่อนที่จะแทรกผ่านอากาศออกมา เสียงที่สั่นสะเทือนไปทั่วพื้นที่รอบ ๆ  ภาพที่ปรากฏ เป็นมังกรดำที่มีขนาดเท่าแนวเขาขนาดใหญ่ ปกคลุมไปด้วยด้วยหมอกทมิฬ มังกรเก้าตนที่ทะยาน แหวกว่ายไปยังพื้นที่รอบ ๆ พื้นที่ปราณหยิน.

ปราณหยินที่คละคลุ้งไปทั่วอากาศ มังกรทมิฬเก้าตนที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว บินตรงมายังพื้นที่หยกบันทึก ความมืดที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า จนไม่สามารถมองเห็นแสงใด ๆ ได้ เห็นแค่เพียงดวงตามังกรที่มีสีแดงราวกับทับทิม หัวมังกรที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร.

หยกบันทึกที่หยุดการบันทึก ภาพทั้งหมดที่หายไปในทันที.

ทุกคนที่ยืนนิ่ง เป็นเวลานาน ก่อนที่จะค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ.

กงจูเฉียนเฉียนโหยวที่เห็นข้อมูลในหยกบันทึกแล้ว ก็หรี่ตา จากนั้นก็หันหน้าไปมองจงซานและเซียนเซิงสุ่ยจิงพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"เห็นอะไรบ้างหรือไม่?"

จงซานที่ส่ายหน้าไปมา ต้องไม่ลืมว่าพลังฝึกตนของเขานั้นยังมีน้อยจนเกินไป ยากที่จะสามารถเห็นความแตกต่างของภาพได้ชัด.

กงจูเฉียนโหยวที่มองไปยังจงซาน นางไม่ได้ใส่ใจนัก ต้องไม่ลืมว่าไม่มีใครที่จะรู้ไปเสียทุกอย่าง.

เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมา ขมวดคิ้วเล็กน้อย "เก้ามังกร พื้นที่ลึกลับ กงจู ท่านคิดหรือไม่? มังกรทมิฬทั้งเก้านั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับพื้นที่และบรรยากาศรอบ ๆ เทือกเขาดังกล่าวนั่น เหมือนกับ?"

"ตราประทับเซิ่งซ่าง ตราประทับของราชวงศ์สวรรค์ จี้หยกเก้ามังกรสวรรค์?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"อืม นี่คือจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ ดูคล้ายมากจริง ๆ "เซียนเซิงสุ่ยจิงที่สะบัดพัดไปมาแต่ไม่ได้กล่าวอะไร.

"พื้นที่แห่งนั้นไม่ใช่ว่า..."ทันใดนั้นกงจูเฉียนโหยวที่รู้สึกตื่นเต้น ใบหน้าที่แสดงท่าทางไม่อยากเชื่อ ปรากฏสีหน้าดีใจขึ้นมาทันที.

"ไม่ผิดแน่."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม.

"พูดอะไรกัน? อะไร ที่ใหนอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่สอบถามออกมาในทันที.

"พวกเราสงสัยว่าพื้นที่ดังกล่าวนั่นเป็นสุสานจักรพรรดิ ไม่สิ! ต้องเป็นสุสานเทวะ"เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าวออกมาในทันที.

"สุสานเทวะอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่ถามออกมาด้วยความสงสัย.

"เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่สุสานเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์ เพียงแต่มันเกิดขึ้นมานานมากแล้ว ไม่มีใครบอกได้ว่าผ่านมานานกี่ปี ลึกลงไปใต้เทือกเขาต้าหยิงนั้น อาจจะมีอะไรอยู่ มีความเป็นไปได้ว่าปราณหยินมากมายนั้นจะรั่วไหลออกมาจากภายในสุสานอย่างไม่คาดคิด ทุกครั้งในวันพระจันทร์เต็มดวง จึงทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่กล่าวอธิบาย.

"สุสานของเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์อย่างงั้นรึ? เจ้าแน่ใจอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่ขมวดคิ้วไปมา.

"จี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ ซึ่งจะทำให้เกิดภาพมังกรคำรามเช่นนี้ สามารถสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสวรรค์ จี้หยกเก้ามังกรสวรรค์นี้ สามารถนำมาใช้เป็นตราลัญจกรราชวงศ์สวรรค์ได้ และดูเหมือนว่าสภาพแวดล้อมรอบ ๆ พื้นที่ ที่พวกเราเห็นนั้น ดูเหมือนกับพื้นที่รอบ ๆ ตราลัญจกรของราชวงศ์สวรรค์ในเวลานี้ เมื่อถูกฝังอยู่ใต้พื้นที่ดินมาหลายพันปีจะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ นอกจากนี้ประมุขหลิวเองก็บอกก่อนหน้านี้ แม้แต่พวกเขาที่มีพลังก่อตั้งวิญญาณ ยังถูกบีบบังคับให้อยู่ได้แต่ด้านนอก ดังนั้นข้าและกงจูจึงสรุปว่านี่คือสุสานเทวะ นอกจากนี้ที่ด้านในนั้นยังมีตราลัญจกรของราชวงศ์สวรรค์อีกด้วย."เซียนเซิงสุ่ยจิงกล่าว.

"อืม ทว่าก็ยังมีเรื่องที่แปลกอยู่เล็กน้อย."กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"อย่างไรรึ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่จ้องมองไปยังกงจูเฉียนโหยว.

"ตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์นั้นจะถูกฝังไว้รวมกันภายในสุสานของเซิ่งซ่างราชวงศ์สวรรค์ เซิ่งซ่างน่าจะรู้ก่อนแล้ว ว่าไม่สามารถต้านทานพลังงานสวรรค์ได้ ก่อนหน้านี้จึงได้เลือกสุสานเช่นนี้ นอกจากนี้การฝังกลบจนสามารถปิดบังสุสานของคนผู้นี้เอาไว้ จนทำให้ไม่มีใครสามารถตระหนักได้ถึงตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์ ก็อธิบายได้ว่าพวกเขาให้ความเคารพคนผู้นี้มาก ด้วยความสามารถเช่นนี้ สุสานแห่งนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะเลือกพื้นที่ลึกลับเช่นนี้ หรืออาจจะกล่าวอีกอย่างหนึ่ง พื้นที่สุสานเทวะนี้ เป็นดินแดนฮวงจุ้ยศักดิ์สิทธิ์ มังกรที่แท้จริง การไหลของปฐพี การไหลของพื้นที่และการไหลของน้ำ สถานที่แห่งนี้ เป็นปราณที่แผ่ออกมาจากสุสาน เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์ รั่วไหลออกมา เก้ามังกรคำรามสีดำทมิฬ เป็นความมืดมิดที่น่าพรั่นพรึง เป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เหตุการณ์นี้ดูผิดปรกติ."กงจูเฉียนโหยวที่ขมวดคิ้วไปมาขณะพูด.

"นี่กงจูเข้าใจวิชาฮ้วยจุ้ยด้วยอย่างงั้นรึ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจจ้องมองไปยังกงจู

จงซานที่อยู่ข้าง ๆ หรี่ตาจ้องมองเลยทีเดียว วิชาฮวงจุ้ย นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาได้ยิน ครั้งแรกก็คือเมื่อคราวอยู่เกาะหมาป่าสวรรค์ เมื่อพบกับหนี่ปู่ซ่า(เทพดินเหนียว)

"ข้าเคยได้รับการสั่งสอนจาก "อาวุโสเทียน"ครั้งหนึ่ง ทุก ๆ วันเขาจะสั่งสอนข้า ด้วยข้าไม่ได้ชื่นชอบเรื่องนี้ จึงเข้าใจไม่มากนัก ไม่ได้ลึกซึ้งอะไร ได้รับความรู้เล็กน้อยมาบ้างเท่านั้น."กงจูเฉียนโหยวที่ส่ายหน้าไปมา.

"อาวุโสเทียน?ไม่น่าแปลกใจ."เซียนเซิงสุ่ยจิงพยักหน้า ดวงตาที่เปล่งประกาย.

อาวุโสเทียน?จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา ฟังจากคำพูดแล้ว ราชวงศ์สวรรค์ต้าโหลว คงจะได้รับการวางตำแหน่งจากผู้เชี่ยวชาญฮวงจุ้ย ซึ่งก็คือคนที่มีนามว่า"อาวุโสเทียน."

"นี่ก็เป็นเพียงการคาดเดา หากไม่ไปดูจริงจะรู้ได้อย่างไร?"กู่หลินที่กล่าวออกมา.

"อืม ในเมื่อนี่คือสุสานเทวะ ข้าเองก็ต้องการไปดูอย่างแน่นอน ตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์ สิ่งนี้คือสมบัติที่ยอดเยี่ยม."กงจูเฉียนโหยวที่แสดงท่าทางสนใจ.

"อาวุโส."หลิวสุ่ยเฟิงที่เอ่ยออกมาทันที.

"อะไรอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่หันหน้าไปหาหลิวสุ่ยเฟิง.

"ที่จริงแล้ว เนื่องจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับสำนักยวีเหิง ทำให้พวกเราไม่ได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นที่เทือกเข้าต้าหยิงทั้งหมด."หลิวสุ่ยเฟิงกล่าว.

"หืม? มีปัญหาอะไรอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาด้วยความสงสัย.

"กงจูคงจะจำได้ว่าที่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือนั้นมีราชวงศ์จักรพรรดิแห่งหนึ่งอยู่."หลิวสุ่ยเฟิงกล่าว.

"ราชวงศ์จักรพรรดิ? ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่อย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวกล่าว.

"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่ขุนเขาต้าหยินแล้ว ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่ก็เคลื่อนทัพไปทุกทิศทาง เข้าจำกัดสำนักที่อยู่ใกล้ ๆ ทั้งหมด รอบ ๆ เทือกเขาต้าหยิน ทางเหนือ ถูกกำจัดพื้นที่ไปหมดแล้ว ส่วนสำนักของพวกเรานั้นไม่รู้อีกนานเท่าไหร่ ที่พวกเขาจะยกทัพมายังสำนักยวีเหิง ดังนั้นผู้น้อยเป็นกังวลสำนักยวีเหิงจะพบกับเหตุการณ์ยากลำบาก ดังนั้นจึงได้ส่งผู้พิทักษ์สำนักออกไปเชิญอาวุโสออกมาปรึกษาเรื่องดังกล่าว."หลิวสุ่ยเฟิงกล่าว.

"ราชวงศ์จักรพรรดิ? เป็นแค่ราชวงศ์จักรพรรดิเล็ก ๆ  มีอะไรต้องกลัว?"กู่หลินที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมรอยยิ้ม.

"ด้วยพลังของท่านแน่นอนว่าต้องไม่กลัว ทว่าสำนักยวีเหิงของพวกเราไม่สามารถต่อกรพวกเขาได้."หลิวสุ่ยเฟิงที่ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจ.

"ราชวงศ์จักรพรรดิต้าเย่? เฮ้เอ้ พวกเขาที่เคลื่อนทัพออกไปจำกัดสำนักรอบ ๆ นี้เพื่ออะไรกัน? ไม่ใช่ว่าต้องการยึดครองตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์หรอกรึ? ต้าเย่ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคงอยู่มานับพันปีแล้ว นับว่าเป็นเรื่องที่ต้องกังวล ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์มายกระดับตัวเองให้กลายเป็นราชวงศ์จักรพรรดิหรอกรึ? ตอนนี้ด้วยการคงอยู่ของตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์ คงเป็นความหวังของพวกเขาที่จะยกระดับ แน่นอนว่าพวกเขาคงทุ่มทรัพยากรมากมายโดยไม่เสียดายเพื่อที่จะให้ได้ตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์นี้มา."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"กงจู การยกระดับราชวงศ์วาสนา จำเป็นต้องใช้ตราลัญจกรหยกราชวงศ์สวรรค์อย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามด้วยความสงสัยไปยังกงจูเฉียนโหยว.

กงจูเฉียนโหยวที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยความประหลาดใจ เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย ไม่คาดเลยว่าจงซานจะถามคำถามนี้ต่อนาง.

"อืม ทำไมภายใต้โลกใบนี้ถึงได้มีอยู่แค่สามราชวงศ์สวรรค์ล่ะ? ราชวงศ์สวรรค์นั้น ไม่ใช่อาณาจักรที่มีกองกำลังที่ทรงพลังเท่านั้น แต่ละที่จะมีเซิ่งซ่างที่แข็งแกร่งปกครอง พวกเขาที่รู้วิธีในการยกระดับราชวงศ์กษัตริย์ไปจนถึงราชวงศ์สวรรค์ ส่วนราชวงศ์วาสนาอื่น ๆ นั้นไม่รู้ จึงทำให้ไม่สามารถยกระดับได้ ราชวงศ์จักรพรรดิบางแห่งนั้นมีพลังความแข็งแกร่งมากกว่าราชวงศ์ราชันย์ซะอีก แต่ก็ก็ยังไม่สามารถก้าวไปเป็นราชวงศ์ราชันย์ได้ ดังนั้นราชวงศ์จักรพรรดิจึงต้องการตราลัญจกรหยกซึ่งเป็นอีกวิธีที่จะทำให้สามารถยกระดับไปเป็นราชวงศ์ราชันย์ได้ ทว่าในโลกใบนี้จะมีตราลัญจกรราชวงศ์สวรรค์สักกี่อันเชียว?ดังนั้นราชวงศ์จักรพรรดิจึงมีอยู่มากมาย ราชวงศ์ราชันย์เองก็มีอยู่แค่หยิบมือ ส่วนราชวงศ์สวรรค์ก็มีเท่าที่เห็นเพียงแค่สามแห่งเท่านั้น."กงจูเฉียนโหยวตอบ.

"อืม."จงซานพยักหน้า เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขาเข้าใจได้ ทว่าภายในใจเกิดความตื่นเต้นดีใจอย่างที่สุด วิธีที่จะยกระดับราชวงศ์สวรรค์อย่างงั้นรึ? เช่นนั้นในโลกใบนี้คนที่รู้ก็มีเพียงแค่เซิ่งซ่างสามคนเท่านั้นที่รู้?ไม่ ๆ  รวมข้า ที่ได้ "แปลนศาลสวรรค์"ตอนนี้ใต้สวรรค์แห่งนี้ มีแค่สี่คนแล้วที่รู้วิธี.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด